- Advertisement -
32.3 C
Bangkok
Home Blog Page 75

ฮอนด้า จับจริง แจกจริง ซื้อรถฮอนด้าวันนี้ แฮปปี้คูณสอง

ฮอนด้า จับจริง แจกจริง โค้งสุดท้าย ลุ้นรางวัลต่อเนื่องสองต่อจากแคมเปญ “Honda Double Happy, Double Lucky ซื้อรถฮอนด้าวันนี้ แฮปปี้คูณสอง” เมื่อซื้อและรับรถยนต์ฮอนด้า ภายใน 31 ม.ค. 2567

บรรยายภาพ : บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โดย คุณอารีย์ สุชนลิมะกุล ผู้จัดการทั่วไปส่วนงานขายและงานบริการ เป็นตัวแทนบริษัทฯ ในการจับรางวัลผู้โชคดีจากแคมเปญ “Honda Double Happy, Double Lucky ซื้อรถฮอนด้าวันนี้ แฮปปี้คูณสอง”

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทำการจับและมอบรางวัลให้แก่ผู้โชคดี จากแคมเปญ “Honda Double Happy, Double Lucky ซื้อรถฮอนด้าวันนี้ แฮปปี้คูณสอง” ให้ลูกค้าที่ซื้อและรับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 31 มกราคม 2567 โดยลูกค้าจะได้รับ 1 สิทธิ์ต่อการซื้อรถยนต์ 1 คัน เพื่อลุ้นรับรางวัล 2 ต่อ ยิ่งซื้อรถเร็ว ยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นต่อเนื่องมากกว่า โดยต่อที่ 1 ลุ้นรับบัตรน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท หรือ 10,000 บาท โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นในทุกเดือน รวม 3,000 รางวัล หากลูกค้ายังไม่ได้รับโชคในครั้งแรก ลูกค้าจะสามารถลุ้นได้ใหม่ทุกเดือนตลอดแคมเปญ และต่อที่ 2 ลูกค้าทุกคนมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลใหญ่

รวม 30 รางวัล ได้แก่ รถยนต์ฮอนด้าเอสยูวี 4 รุ่น จำนวน 10 คัน และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า จีออโน่ พลัส (GIORNO+) รุ่น ABS จำนวน 20 คัน รวมรางวัลทั้งสิ้น 3,030 รางวัล มูลค่ากว่า 52 ล้านบาท

ทางบริษัทฯ ได้จับรางวัลผู้โชคดีไปแล้ว โดยครั้งที่ 1 จับรางวัลไปเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 สำหรับลูกค้าที่ซื้อและรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – วันที่ 31 ตุลาคม 2566 และครั้งที่ 2 จับรางวัลเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 สำหรับลูกค้าที่ซื้อและรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566

ทั้งนี้ ลูกค้ายังมีโอกาสลุ้นรางวัลต่อที่ 1 ได้อีกสองครั้ง ในการจับรางวัลครั้งที่ 3 วันที่ 18 มกราคม 2567 และครั้งที่ 4 วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 สำหรับบัตรน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท หรือ 10,000 บาท และรางวัลใหญ่ต่อที่ 2 สำหรับรถยนต์ฮอนด้าเอสยูวี 4 รุ่น จำนวน 10 คัน และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า จีออโน่ พลัส (GIORNO+) รุ่น ABS จำนวน 20 คัน โดยจะจับรางวัลในวันที่ 14 มีนาคม 2567

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูล เพื่อรับทางเลือกแคมเปญพิเศษ* อาทิ ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% หรือดาวน์น้อย ผ่อนต่อเดือนน้อย หรือนัดหมายทดลองขับได้กับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและรายชื่อลูกค้าผู้โชคดี แคมเปญ “Honda Double Happy, Double Lucky ซื้อรถฮอนด้าวันนี้ แฮปปี้คูณสอง” ได้ผ่านทาง https://www.honda.co.th/promotions/detail/hondadoublehappydoublelucky

หมายเหตุ :

* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย โชว์ความสำเร็จโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ

“กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย” ร่วมมือ “มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์” ประกาศความสำเร็จ 7 ปี โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ส่งผลกว่า 2,200 ครัวเรือนมีน้ำอุปโภค บริโภค และทำการเกษตร ที่เพียงพออย่างยั่งยืน

แถวยืน : นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร (กลาง) กรรมการผู้จัดการ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ดร.รอยล จิตรดอน (ที่ 7 จากขวา) กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายกษิดิ์เดช ปันสม (ที่ 7 จากซ้าย) ปลัดอาวุโสอำเภอบ่อเกลือ ผู้แทนรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยตัวแทนผู้นำชุมชนบ้านดงผาปูน บ้านนาบง และบ้านวังปะ จิตอาสาทั้ง 3 ชุมชน ร้านผู้จำหน่ายและจิตอาสาจากกลุ่มลูกค้ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าจากจังหวัดน่านและใกล้เคียง นักศึกษาทวภาคี วิทยาลัยเทคนิคปัว จังหวัดน่าน

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ประกาศความสำเร็จจากการผสานความร่วมมือกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน เป็นปีที่ 7 สามารถเพิ่มปริมาณน้ำถึง 144,825 ลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้มีพื้นที่เพาะปลูกได้รับผลประโยชน์จากป่าต้นน้ำและการบริหารจัดการแหล่งน้ำยั่งยืนมากถึง 7,643 ไร่ ส่งผลให้ 2,198 ครัวเรือน (5,914 คน) ในลุ่มน้ำน่านทั้ง 5 พื้นที่ (จังหวัดน่านและจังหวัดพิษณุโลก) มีน้ำอุปโภค บริโภค และเพิ่มแหล่งน้ำสำรองสำหรับทำการเกษตรได้เพียงพอตลอดทั้งปี และเป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

เปรียบเทียบสภาพพื้นที่ป่าของชุมชนบ้านดงผาปูนก่อน (ซ้าย) และหลัง (ขวา) ภายใต้โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ของกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย และมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

นอกจากนี้ พื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูน ยังได้รับการคัดเลือกและประกาศให้เป็น 1 ใน 28 พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ (ลำดับที่ 27) ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา โดยเป็นชุมชนที่เป็นต้นแบบของการฟื้นฟูเขาหัวโล้น ที่เปลี่ยนจากการเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยวและทำไร่เลื่อนลอย มาปลูกไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และทำวนเกษตร จนเกิดความมั่นคงน้ำ มั่นคงอาหาร มั่นคงชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ มีผลผลิตจากป่าเป็นอาหาร สร้างอาชีพและรายได้ จนเป็นตัวอย่างความสำเร็จและขยายผลไปยังพื้นที่ข้างเคียงและในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย พร้อมที่จะให้การสนับสนุน และมอบความช่วยเหลือแก่สังคมไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป

พร้อมทั้งจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์สร้างฝายภูมิปัญญาและปลูกต้นไม้พันธุ์พื้นเมือง บริเวณพื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูน บ้านนาบง และบ้านวังปะ โดยได้รับความร่วมมือจากจิตอาสาทั้ง 3 ชุมชน ร้านผู้จำหน่ายและจิตอาสาจากกลุ่มลูกค้ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าจากจังหวัดน่านและใกล้เคียง นักศึกษาทวภาคี วิทยาลัยเทคนิคปัว จังหวัดน่าน ร่วมกันสร้างฝายภูมิปัญญา (คอกหมู) จำนวน 3 ฝาย และการปลูกต้นไม้พันธุ์พื้นเมือง เช่น ต๋าว หวาย เมี้ยง มะแขว่น พะยูง ยางนา กฤษณา จำนวนรวม 1,000 ต้น เพื่อช่วยชะลอน้ำและเสริมความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ให้คงความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้ประชากรมีน้ำใช้ในการอุปโภค-บริโภค และทำการเกษตรตลอดทั้งปีอย่างยั่งยืน

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า “กิจกรรมในวันนี้เป็นการประกาศผลสำเร็จของการดำเนินกิจกรรมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ในช่วงระยะเวลา 7 ปี (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 – 2566) ที่กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยให้การสนับสนุนงบประมาณรวมกว่า 20.4 ล้านบาท ดำเนินงานใน 5 พื้นที่ เพื่อบริหารจัดการดิน น้ำ ป่า ที่นำมาซึ่งพื้นที่ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง มีความอุดมสมบูรณ์สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน มีน้ำสำรองใช้ได้เพียงพอตลอดทั้งปี ตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ในพื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูน ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ด้วยการขยายผลการดำเนินงานและเสริมความมั่นคงทางน้ำในพื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูนเพิ่มเติม และขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ ชุมชนนาบงและบ้านวังปะ ซึ่งประสบปัญหาน้ำหลาก ดินถล่ม เส้นทางสัญจรโดนตัดขาด ปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้ในงานเกษตรกรรมและเพื่อการอุปโภคเนื่องจากขาดแหล่งกักเก็บน้ำและการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนมาอย่างยาวนาน”

ดร.รอยล จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ด้านการนำประสบการณ์จัดการน้ำและพัฒนาน้ำในชุมชนที่ประสบความสำเร็จมาขยายผลการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนไปยังชุมชนอื่น จนเกิดการบริหารจัดการน้ำที่เชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ และเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้น ณ พื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูน หนึ่งในพื้นที่ได้ดำเนินงานร่วมกับกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ที่เป็นตัวอย่างของความสำเร็จจากการร่วมกันของชุมชนในการอนุรักษ์และฟื้นฟูจากเดิมเป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดให้กลับมาเป็นป่าต้นน้ำ มีความมั่นคงน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค และการเกษตร จนเป็นต้นแบบฟื้นฟูเขาหัวโล้น ด้วยไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ชาวบ้านขายผลิตภัณฑ์ได้รายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าตัว รวมทั้งมีกลุ่มพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบยั่งยืนและตั้งกองทุนหมู่บ้าน เกิดเป็นเครือข่ายร่วมกันพัฒนาและจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ”

นายกษิดิ์เดช ปันสม ปลัดอาวุโสอำเภอบ่อเกลือ ผู้แทนรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า “ขอชื่นชมและขอบคุณกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ที่ได้ร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) รวมทั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำชุมชนบ้านดงผาปูน เทศบาลตำบลบ่อเกลือใต้ ที่สำคัญคือชาวชุมชนดงผาปูน ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันดำเนินงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า และการดำเนินชีวิตที่ช่วยให้ประชาชนมีรายได้จากการทำเกษตรแบบอยู่ร่วมกับป่าได้ รวมทั้งเป็นตัวอย่างให้ชุมชนพื้นที่อื่นได้เห็นความสำคัญในการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ พัฒนาแหล่งน้ำ และบริหารจัดการน้ำให้เกิดขึ้นในชุมชนของตัวเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป”

สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน เป็นโครงการระยะยาวแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ช่วง ระหว่างปี พ.ศ. 2560 – 2566 กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยให้การสนับสนุนงบประมาณรวมกว่า 20.4 ล้านบาท ได้แก่

•ช่วงที่ 1: พ.ศ. 2560 – 2562 สนับสนุนงบประมาณรวม 11.42 ล้านบาท เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนด้วยการพัฒนาศักยภาพคนในชุมชน ให้เข้าใจและบริหารจัดการน้ำได้ด้วยตนเอง เกิดความสำเร็จของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภค แบ่งการดำเนินการตามปัญหาการจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ใน 3 พื้นที่ ได้แก่ 1) พื้นที่ชุมชนบ้านนาบงและบ้านดงผาปูน ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน  2) พื้นที่ชุมชนบ้านร้องแง ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน และ  3) พื้นที่ชุมตำบลนครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก

•ช่วงที่ 2: พ.ศ. 2563 – 2566 สนับสนุนงบประมาณรวม 8.97 ล้านบาท เน้นสร้างความมั่นคงน้ำ เพื่อเป็นต้นแบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ อาหาร และผลผลิต เกิดกติกาการบริหารจัดการน้ำที่ยอมรับและนำไปใช้ร่วมกัน สามารถขยายผลความรู้และความสำเร็จสู่พื้นที่ใกล้เคียง ดำเนินงานในพื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ใน 5 พื้นที่ ได้แก่ 1) พื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูน (รวมชุมชนบ้านนาบงและชุมชนบ้านวังปะ) ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน 2) พื้นที่ชุมชนบ้านร้องแง ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน

3) พื้นที่ชุมชนตำบลนครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก 4) พื้นที่ชุมชนบ้านป่าแพะ ต.แม่ขะนิง อ.เวียงสา จ.น่าน และ 5) พื้นที่ชุมชนบ้านปางสา ต.จอมจันทร์ อ.เวียงสา จ.น่าน

ผู้ได้รับผลประโยชน์ (ปี 2560 – 2566)จำนวนครัวเรือนจำนวนประชากร (คน)พื้นที่เพาะปลูกที่ได้รับผลประโยชน์ (ไร่)ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น (ลบ.ม.)งบประมาณ
ที่ใช้ (บาท)
ชุมชนบ้านดงผาปูน (รวมบ้านนาบงและบ้านวังปะ)3371,1211,2016,6339,257,600
ชุมชนบ้านร้องแง7551,6559921904,369,000
ชุมชนตำบลนครป่าหมาก7301,9385,450137,9375,543,000
ชุมชนบ้านป่าแพะ276803065603,000
ชุมชนบ้านปางสา10039700623,000
รวมลุ่มน้ำน่านทั้ง 5 พื้นที่2,1985,9147,643144,82520,395,600

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 7 ปี (พ.ศ. 2560 – 2566) กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ได้ร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. ดำเนินโครงการพัฒนาทรัพยากรน้ำและบริหารจัดการน้ำ เพื่อช่วยลดปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง รวมทั้งเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ใน 10 พื้นที่ ประกอบด้วยในพื้นที่จังหวัดน่าน ได้แก่

1) ชุมชนบ้านดงผาปูน อ.บ่อเกลือ (พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน) 2) ชุมชนร้องแง อ.ปัว (พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน) 3) ชุมชนเวียงสา อ.เวียงสา 4) ชุมชนป่าแพะ อ.เวียงสา รวมทั้ง 5) ชุมชนนครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก 6) ชุมชนตำบลขุนควร อ.ปง จ.พะเยา 7) ชุมชนป่าเลา อ.สอง จ.แพร่ 8) ชุมชนแม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ 9) ชุมชนตำบลนาแขม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และ10) ชุมชน

ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ก่อตั้งโดยกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ได้ร่วมกันประกาศจัดตั้งกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิฮอนด้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 เพื่อเตรียมความพร้อมในการมอบความช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับประชาชนไทยในยามที่ประเทศไทยอาจเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ แผ่นดินไหว ดินถล่ม ภัยหนาว ภัยแล้ง น้ำท่วม ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ที่ดำเนินงานภายใต้กองทุนดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที โดยมอบเงินสมทบ 1,000 บาทต่อการขายรถยนต์หนึ่งคัน 100 บาทต่อการขายรถจักรยานยนต์หนึ่งคัน และ 10 บาทต่อการขายเครื่องยนต์อเนกประสงค์ 1 เครื่อง ปัจจุบัน กองทุนมียอดเงินสะสมอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ กองทุนฯ ได้กำหนดภารกิจในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านเงินทุน 2) ด้านวัสดุอุปกรณ์ 3) ด้านการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และ 4) ด้านการส่งเสริมความรู้ในการรับมือภัยพิบัติ โดยตลอดระยะเวลา 11 ปีของการดำเนินการ “กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย” ได้มีส่วนร่วมให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ รวมจำนวนเงินมากกว่า 540 ล้านบาท

ลามิน่า คว้ารางวัลยอดจำหน่ายสูงสุด ประจำปี 2566

บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร “ลามิน่า” จากสหรัฐอเมริกา แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดย นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับรางวัลผู้จำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด ประจำปี 2566 ในหมวดรางวัลเกียรติยศ Thailand Car & Motorcycle Marketing Awards 2023 จากงาน Thailand Car of The Year 2023

ฟิล์มกรองแสง “ลามิน่า” บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด โดยนางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับรางวัลผู้จำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด ประจำปี 2566 ในหมวดรางวัลเกียรติยศ Thailand Car & Motorcycle Marketing Awards 2023 จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.)

งานประกาศรางวัลครั้งนี้จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินตามหลักกติกาสากล ประเมินจากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นด้านกลยุทธ์การตลาด การขาย นวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ณ ศูนย์ประชุมเดอะฮอลล์ กรุงเทพฯ

ฟิล์มกรองแสง “ลามิน่า” ประสบความสำเร็จในตลาดประเทศไทยด้วยการครองอันดับ 1 ในตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคารต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 20 ปี ทั้งยังเป็นผู้นำทางด้านการคัดสรรนวัตกรรมด้านฟิล์มกรองแสงมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมาโดยตลอด ซึ่ง “ลามิน่า” ได้เปิดตัวสินค้าในกลุ่ม Lamina Digital Boost ฟิล์มดิจิทัลประหยัดพลังงานรุ่นใหม่เป็นรายแรกของประเทศไทยมาก่อนหน้า

ทำให้บริษัทได้รับการตอบรับจากผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ไฮบริด/อีวี และสมาร์ทคาร์ยุคดิจิทัลอย่างล้นหลาม จากการที่รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ดังกล่าว มีการติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณดิจิทัล ทั้งเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งาน การสื่อสารและความบันเทิงแบบครบวงจร ซึ่งฟิล์มกรองแสงลามิน่า ดิจิทัลบูสต์ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่รบกวนสัญญาณเหล่านี้แต่อย่างใด ทำให้การใช้งานของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ทำได้อย่างมีเสถียรภาพและไหลลื่นเหนือกว่าฟิล์มกรองแสงอื่นๆ

นอกจากนี้บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงมืออาชีพระดับเอเชียแปซิฟิก ยังนำเข้าผลิตภัณฑ์ด้านยานยนต์อีกมากมาย อาทิ อุปกรณ์บรรทุกสัมภาระธูเล่ (Thule) จากประเทศสวีเดน ผลิตภัณฑ์ฟิล์มนิรภัยปกป้องสีรถลูมาร์ (LLumar) จากสหรัฐอเมริกา และผลิตภัณฑ์ดูแลรักษายานยนต์ครบวงจรแอลลักซ์ (LLux) คุณภาพเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

Thailand 10-hour Endurance Race รถโตโยต้าส่ง 3 คัน ใช้เชื้อเพลิงเป็นกลางทางคาร์บอน วิ่งจบทุกคัน

Thailand 10-hour Endurance Race จบการแข่งขันด้วยโตโยต้าปิดการแข่งขันอย่างงดงามกับรถยนต์ทางเลือกสู่ความ (รถยนต์เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน/รถยนต์เครื่องยนต์ไฮโดรเจน/รถยนต์ HEV)

ส่งมอบคำขอบคุณและประสบการณ์ “Fun to Drive” แด่แฟนๆ ชาวไทยและชาวเอเชีย

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (โตโยต้า) เข้าร่วมการแข่งขัน “IDEMITSU SUPER ENDURANCE SOUTHEAST ASIA TROPHY 2023” (Thailand 10-hour Endurance Race) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 และ 23 ธันวาคม 2566 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในประเทศไทย โดยมีรถยนต์เข้าร่วมการแข่งขัน 3 คัน ได้แก่ “ORC ROOKIE GR86 CNF concept” GR86 ใช้เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน “ORC ROOKIE GR Corolla H2 concept” Corolla เครื่องยนต์ไฮโดรเจน และ “CP ROOKIE PRIUS CNF-HEV GR concept” Prius ที่เป็น HEV ซึ่งทุกคันสามารถวิ่งจนจบการแข่งขันได้สำเร็จ

ในการแข่งขัน Thailand 10-hour Endurance Race ครั้งนี้ เราใช้ไฮโดรเจนที่ผลิตในประเทศซึ่งมาจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับเราในการสร้างสังคมที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทย นอกจากนี้ ก่อนการแข่งขัน เราได้จัดกิจกรรมขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่ให้การสนับสนุนเราเสมอมา กิจกรรมเหล่านี้ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน รวมถึงการขับขี่อย่างสนุกสนาน (Fun to drive) ผ่านกีฬามอเตอร์สปอร์ต

1. GR FESTIVAL 2023

ก่อนการแข่งขัน Thailand 10-hour Endurance Race บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้จัดงาน GR FESTIVAL 2023 ขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยมีแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตกว่า 2,500 คนมารวมตัวกันเพื่อชมงานดังกล่าว

ในงาน GR FESTIVAL 2023 มีนักแข่งจาก ROOKIE Racing, Toyota Gazoo Racing Team Thailand และ D1 มาเข้าร่วมในการแข่งขัน ซึ่งนอกจากผู้ชมจะได้ชมผลงานของแต่ละทีม อาทิ การแข่งแบบยิมคาน่าในรูปแบบจับเวลา (Time Attack) การแสดงดริฟท์โชว์ ฯลฯ แล้ว เรายังมีการแนะนำรถ Toyota Hilux Champ ให้ได้ชมด้วย ซึ่งเป็นเสน่ห์ของกีฬามอเตอร์สปอร์ต รวมถึงเป็นการแสดงความขอบคุณแก่แฟนๆ ชาวไทย

เราจะยังคงมุ่งมั่นสร้างรอยยิ้มให้ลูกค้าชาวไทยของเราด้วยการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงสร้างฐานแฟนๆ จากกีฬามอเตอร์สปอร์ตต่อไป

บรรยากาศงาน GR FESTIVAL 2023

2. รถยนต์ทั้ง 3 คัน (รถยนต์เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน/รถยนต์เครื่องยนต์ไฮโดรเจน/รถยนต์ HEV) สามารถวิ่งจนจบการแข่งขัน Thailand 10-hour Endurance Race ได้สำเร็จ

รถยนต์ทั้ง 3 คัน ได้แก่ GR86 (รถยนต์เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน), Corolla (รถยนต์เครื่องยนต์ไฮโดรเจน) และ Prius (รถยนต์ HEV) ที่เข้าร่วมในการแข่งขัน Thailand 10-hour Endurance Race เมื่อวันที่ 22 และ 23 ธันวาคม 2566สามารถวิ่งจนจบการแข่งขันด้วยผลการแข่งขันดังต่อไปนี้

Noชื่อทีมชื่อรถ/นักแข่งคลาสจำนวนรอบอันดับโดยรวมอันดับในคลาส
228ORC ROOKIE RacingORC ROOKIE GR86 CNF concept
・Kazuya Oshima, Kenta Yamashita, Keizo Kato, Daisuke Toyoda
D2289ที่ 4ที่ 4
264CP ROOKIE RacingCP ROOKIE PRIUS CNF-HEV GR concept
・Kachorn Chiaravanont, MORIZO, Tatsuya Kataoka, Naoya Gamo, Hibiki Taira
D2272ที่ 11ที่ 6
232ORC ROOKIE RacingORC ROOKIE GR Corolla H2 concept
・MORIZO, Yasuhiro Ogura, Masahiro Sasaki, Hiroaki Ishiura
D2161*ที่ 55ที่ 8

*มีการดับเครื่องตามแผนประมาณ 2 ชั่วโมง

ในการแข่งขันครั้งนี้ เราพยายามเพิ่มทางเลือกสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนให้มากขึ้นโดยเริ่มจากกีฬามอเตอร์สปอร์ต รถ GR86 และ Prius ใช้เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ส่วน Corolla เครื่องยนต์ไฮโดรเจนก็ใช้ไฮโดรเจนบางส่วนที่ผลิตจากก๊าซชีวภาพที่เกิดจากมูลไก่ในฟาร์มของ CP

หลังจบการแข่งขัน มร.อากิโอะ โตโยดะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันในนามนักแข่งว่า Morizo ​​ได้แสดงความคิดเห็นไว้ดังนี้

“จุดประสงค์ในการเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ คือการนำเสนอรถยนต์ไฮโดรเจนและไฮบริดให้เป็นอีกทางเลือกสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน แม้จะมีปัญหาเกิดขึ้นบ้าง แต่เราก็สามารถวิ่งจนจบการแข่งขันได้สำเร็จ นอกจากรถเครื่องยนต์ไฮโดรเจนที่เราได้นำมาแข่งเป็นปีที่ 2 แล้ว ผมก็รู้สึกดีใจที่ชาวไทยก็ให้การยอมรับสิ่งที่เรานำเสนอ ผ่าน รถยนต์ โตโยต้า Prius และรถไฮบริดเป็นอย่างดี

เรากำลังทำงานร่วมกับ CP Group ภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในประเทศไทยโดยอาศัยความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัท ซึ่ง คุณขจร เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรูลีสซิ่ง จำกัด ที่มาร่วมกับทีม Rookie Racing ในการขับ CP ROOKIE PRIUS CNF-HEV GR concept ในครั้งนี้ รวมถึงท่านประธานกรรมการ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด คุณสุภกิต เจียรวนนท์ ก็รักในการขับรถเช่นกัน ดังนั้น การที่ CP Group และโตโยต้ามาเข้าร่วมการแข่งขัน Thailand 10-hour Endurance Race ด้วย CP ROOKIE PRIUS CNF-HEV GR concept ในครั้งนี้ ผมคิดว่าการร่วมมือในครั้งนี้ ได้ทำให้ผู้คนได้รับรู้ถึงกิจกรรมที่พวกเรากำลังทำกันอยู่มากขึ้น

ในบางครั้ง การสร้างอนาคตภายใต้จุดมุ่งหมายที่จะขับเคลื่อนสังคมให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน เป็นเรื่องยากที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งที่จะทำได้โดยลำพัง หากทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตพลังงาน ผู้ขนส่ง ผู้ใช้ และผู้ผลิตรถยนต์ ทุกๆ คนร่วมมือกัน จำนวนพันธมิตรของพวกเรา ก็จะเพิ่มมากขึ้น แล้วผมเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

คนไทยทุกคนก็สามารถสนับสนุนผู้ที่กำลังพยายามดำเนินการเหล่านี้ได้ ผมอยากอยู่ในโลกที่ทุกคนร่วมกันสร้างอนาคต รวมถึงสนับสนุนผู้ที่มีความพยายามช่วยกันเปลี่ยนไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิมครับ”

บรรยากาศการแข่งขัน

ORC ROOKIE GR86 CNF concept

ORC ROOKIE GR Corolla H2 concept

CP ROOKIE PRIUS CNF-HEV GR concept

บรรยากาศการเติมไฮโดรเจน

คุณขจร และ MORIZO

โตโยต้าจะส่งเสริมการดำเนินการเหล่านี้ต่อไปเพื่อสร้างสมดุลระหว่างแนวคิด “Multi-pathway” ที่มุ่งบรรลุเป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” และแนวคิด “Fun to Drive” เพื่อ “สร้างรอยยิ้มให้กับลูกค้าทุกคน” ต่อไป

Toyota Gazoo Racing Motorsport 2023 ปิดฤดูกาลคว้าแชมป์ประจำปีครบทั้ง 4 รุ่น

ปิดฤดูกาลแข่งขัน Toyota Gazoo Racing Motorsport 2023 ในสภาพอากาศเย็นสบาย กระหึ่มสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตส่งท้ายฤดูกาล สามารถทำผลงานด้วยการคว้าแชมป์ประจำปีครบทั้ง 4 รุ่น

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าใน จ.บุรีรัมย์ ร่วมเปิดการแข่งขัน “Toyota Gazoo Racing Motorsport 2023” สนามที่ 5 นัดปิดฤดูกาล เก็บคะแนนสะสมประจำปี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของรายการแข่งขันระดับอินเตอร์เนชั่นแนล IDEMITSU SUPER ENDURANCE SOUTHEAST ASIA TROPHY 2023

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเปิดการแข่งขันว่า “ยินดีต้อนรับสู่ โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต 2023 สนามสุดท้ายประจำฤดูกาล และขอต้อนรับแฟนๆ ผู้หลงใหลในความเร็ว รวมทั้ง นักแข่งทุกท่าน สำหรับสนามนี้นอกจากเป็นนัดปิดฤดูกาลแล้ว ยังเป็นโอกาสอันดีเพื่อทดสอบสมรรถนะรถที่ผ่านการพัฒนามาตลอดทั้งฤดูกาลอีกด้วย โตโยต้าเล็งเห็นว่ามอเตอร์สปอร์ตเป็นกีฬาที่รถแข่งจะต้องผ่านสนามซึ่งมีสถานการณ์อันแตกต่าง และเป็นสนามให้เราสามารถนำรถลงวิ่ง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาตัวรถให้ดียิ่งขึ้นตามปรัชญาเพื่อการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งขึ้น หรือ “ever-better cars”

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวต่อไปว่า “ปีนี้เราจัดกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย เป็นปีที่ 37 ภายใต้แนวคิด “จากสนามแข่งสู่ท้องถนน” เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทย ตลอดจนสร้างนักแข่งหน้าใหม่ เราจึงจัดการแข่งขันในรูปแบบวันเมคเรซอย่างต่อเนื่อง เริ่มด้วยรถกระบะ“Hilux REVO” กับสมรรถนะทรงพลังของเครื่องยนต์ 2,400 ซีซี และเร้าใจไปกับความคล่องแคล่วและความอึดของ “Corolla ALTIS GR Sport” เครื่องยนต์ 1,800 ซีซี รวมทั้ง “Yaris ATIV Lady One Make Race” และ “YARIS One Make Race” กับเครืองยนต์สุดประหยัด 1.2 ลิตร ที่ตอบสนองดีเยี่ยม และขอนำเสนออีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่ผ่านการทดสอบสุดโหดในรายการแข่ง Asia Cross Country Rally Toyota มาแล้วกับรถต้นแบบ Hilux REVO GRSport”

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวถึงความพิเศษสำหรับการแข่งขันในปีนี้ว่า “โตโยต้ามุ่งนำเสนอทางเลือกด้านพลังงานที่หลากหลายเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต โดยทีม ROOKIE Racing ได้ลงแข่งรายการ Fuji 24 Hours ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยรถรุ่น GR Corolla H2 Concept ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลว และปีนี้ได้เข้าร่วมแข่งในรายการ IDEMITSU SUPER ENDURANCE SOUTHEAST ASIA TROPHY 2023 ด้วยรถรุ่น GR COROLLA Concept และ GR86 Carbon-neutral Fuel Concept โดยมี MORIZO หรือ คุณอากิโอะ โตโยดะ ลงแข่งขันในรุ่น COROLLA H2 Concept ที่ใช้ไฮโดรเจนจากก๊าซชีวภาพซึ่งมาจากมูลไก่ในฟาร์มของเครือ CP Group และผลิตที่ TDEM ซึ่งเป็นโรงงานนำร่องของโตโยต้าอีกด้วย”

“นอกจากนี้ ผมขอประกาศอีกไฮไลท์สำคัญของปีนี้นั่นคือ รถ CP ROOKIE PRIUS CNF-HEV GR Concept ที่ใช้เชื้อเพลิงซึ่งมีความเป็นกลางทางคาร์บอน  พร้อมกับการต้อนรับนักแข่งท่านใหม่ คุณขจร เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู ลีสซิ่ง จำกัด ในส่วนของทีม Toyota Gazoo Racing Thailand ร่วมแข่งขันรายการนี้ ด้วย TOYOTA 86 – ALTIS และ YARIS ใช้เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนเช่นกัน นอกจากความสนุกในสนามแข่ง เรายังจัดแสดงนิทรรศการเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน เช่น สถานีเติมไฮโดรเจนแบบเคลื่อนที่ ตลอดจนกิจกรรมมากมายจากพาร์ทเนอร์ที่มีจุดยืนร่วมกัน รวมทั้งโซนนิทรรศการโดย CJPT ซึ่งท่านจะได้ร่วมสัมผัสโดรนพลังงานไฮโดรเจนภายในงานนี้ ขอขอบคุณพาร์ทเนอร์ ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ และนักแข่งทุกท่าน ขอให้เพลิดเพลินไปกับจิตวิญญาณแห่งมอเตอร์สปอร์ตภายในงานของเราตลอดสุดสัปดาห์นี้” มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวต่อหน้าผู้ชมแน่นสนาม

ผลการแข่งขัน โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต 2023 สนามที่ 5

รายการแรก พิสูจน์สมรรถนะ ความคล่องตัว และความทนทานของ YARIS Hatchback “เล็กพริกขี้หนู” จากพลังของเครื่องยนต์ Dual VVT-i 1200 ซีซี ที่ได้รับการปรับแต่งตามกฏกติกา One Make Race พร้อมนำเสนอพลังงานทางเลือกใหม่ในกีฬามอเตอร์สปอร์ต โดย แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ โรเตอร์ ทองเจือ ในขณะที่ อันดับ 2 เป็นของ ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์ อันดับ 3 เกียรติพรรณ ไผ่เจริญ อันดับ 4 เป็นของ นิพิฐพนธ์ วัฒนานิตย์ และ อันดับ 5 อภิชัจจ์ วิวัฒน์สุรกิจ ขับเคี่ยวกันอย่างสุดมันส์ด้วยฝีมือการขับของนักแข่งวัยรุ่น ตลอดการแข่งขัน 8  รอบสนาม สร้างความตื่นเต้น เร้าใจ ให้กับผู้ชมที่เฝ้าชมติดขอบสนามอย่างไม่ละสายตา

ผลการแข่งขัน YARIS One Make Race : Division 1 (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีมคะแนนสะสม
117โรเตอร์ ทองเจือPTT LUBBRICANTS Team Jib Online48
299ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์TMC-Drive68 by wootbangbon350
33เกียรติพรรณ ไผ่เจริญ333 CJ โชว์จุ่ง ลูกหมาก36
439นิพิฐพนธ์ วัฒนานิตย์PMC5256
578อภิชัจจ์ วิวัฒน์สุรกิจRedream Racing Team33

ผลการแข่งขัน YARIS One Make Race : Division 2 (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีม
115บุญโชค ถิรธารากรNexzet HGR Racing Team by PMC52
234พรรณภัทร พรรณทรัพย์ 
333Clement Leung 
491ปวิธชาติ รัตตกาลกูลFORESTA NEXZTER BY PTS Racing
535Kelvin Kwok 

ต่อด้วยรายการ “HILUX REVO One Make Race” แข่งขันชิงเจ้ากระบะดีเซล โชว์สมรรถนะเหนือชั้นของเครื่องยนต์ GD Super Power 2,400 ซีซี ที่ทนทาน ทั้งในสนามแข่งขัน และการใช้งานจริง หลังการแข่งขัน 8 รอบสนาม ผลการแข่งขันปรากฏว่า แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ อันดับ 2 ธีรพันธ์ พรมขำ อันดับ 3 เอกสิทธ์ นามแสงเผา อันดับ 4 นิรุทธ์ สุจริต และ อันดับ 5 เป็นของ Theophile Napat Broianigo บรรยากาศการแข่งขันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สนุกสนาน เร้าใจ เนื่องจากเป็นรถใช้งานที่ผู้ชมคุ้นเคยบนท้องถนนจึงส่งใจเชียร์กันสุดใจ และยังมีการควบคุมมลพิษในกติกาการแข่งขันด้วยการปล่อยควันดำจากท่อไอเสียน้อยที่สุดอีกด้วย

ผลการแข่งขัน “HILUX REVO One Make Race” (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีมคะแนนสะสม
198  เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์Kaizo-R Motorsports Team Nexzter by Ruk Service67
222ธีรพันธ์ พรมขำNexzter HGR Racing Team By PMC5239
32เอกสิทธ์ นามแสงเผา 78
419นิรุทธ์ สุจริต 42
529Theophile Napat Broianigo 32

เร่งดีกรีความมันส์ด้วยเสียงแผดร้องก้องกังวาลจากปลายท่อไอเสียของเครื่องยนต์ Dual VVT-i 1,800 ซีซี ในรุ่น“Corolla ALTIS GR Sport One Make Race” บนโครงสร้างตัวถัง TNGA ซึ่งเป็นไฮไลท์ประจำการแข่งขัน แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ อะกิ จิตรานุวัฒน์  ตามมาด้วย อันดับ 2  Kentaro Chiba  อันดับ 3 เป็นของ ศักดิ์ชัย เยี่ยมวัฒนา อันดับ 4 นรรัศมิ์ อภิวาท และ อันดับ 5 อัฐพล แก้วอาษา บรรยาการการแข่งขันตลอด 8 รอบสนามเต็มไปด้วยความดุเดือด นับจากทะยานออกจากจุดสตาร์ท ด้วยความแม่นยำจากฝีมือการขับของนักแข่ง สะกดผู้ชมให้เกาะติดขอบสนามด้วยความเร้าใจ แสดงให้เห็นสมรรถนะ ความทนทาน สมศักดิ์ศรีรถซีดานยอดนิยมของคนไทย และคนทั่วโลก

ผลการแข่งขัน “Corolla ALTIS GR Sport One Make Race” (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีมคะแนนสะสม
19อะกิ จิตรานุวัฒน์YK Motorsport72
23Kentaro ChibaORC Racing59
346ศักดิ์ชัย เยี่ยมวัฒนาNexzter Gulf of Thailand38
425นรรัศมิ์ อภิวาทCompact Brakes Superclub Racing Team75
526อัฐพล แก้วอาษาB-QUICK29

ปิดท้ายการแข่งขันด้วย “Yaris ATIV Lady One Make Race ด้วยสมรรถนะเหนือชั้นของรถ ECO Car ยอดนิยมของคนไทย และเครื่องยนต์ Dual VVT-i 1200 ซีซี แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ ปิยะวดี พฤฒิสาร  ตามมาด้วย อันดับที่ 2  ศิริภากรณ์ แยบยนต์  อันดับที่ 3 สาวิตรี กวางแก้ว อันดับที่ 4  ปัณฑ์นลิน ทวยเดช  และ อันดับที่ 5 อลิษา ขุนแขวง การแข่งขันรายการเดียวที่จัดขึ้นสำหรับนักแข่งหญิงโดยเฉพาะ ซึ่งสร้างความดุดัน มันส์ได้ไม่แพ้นักแข่งชาย ขับเคี่ยวกันอย่างสุดมันส์ตลอด 8 รอบการแข่งขัน แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะ ความทนทาน ของรถยนต์ ECO Sedan อันดับ 1 ขวัญใจคนไทยได้อย่างชัดเจน

ผลการแข่งขัน “Yaris ATIV Lady One Make Race (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีมคะแนนสะสม
1135ปิยะวดี พฤฒิสารSmile Nexzter Ruk Service Racing Team62
2168ศิริภากรณ์ แยบยนต์TMC-Drive68 by wootbangbon369
3138สาวิตรี กวางแก้วCompact Brakes Superclub Racing Team56
4128ปัณฑ์นลิน ทวยเดชKaizo-R Motorsports Team Nexzter by Ruk Service64
5115อลิษา ขุนแขวงBBMP MOTORSPORT44

ขอบคุณแฟนพันธุ์แท้มอเตอร์สปอร์ตทั่วประเทศ สำหรับการติดตามชม ส่งใจเชียร์ตลอดทั้งปี พบกันใหม่ฤดูกาลแข่งขันหน้า ปี 2024 สนุกสนาน เร้าใจอย่างแน่นอน

โตโยต้าห่วงใยคนไทย เชิญนำรถทุกยี่ห้อตรวจเช็คฟรี 30 รายการ

โตโยต้าห่วงใยคนไทย เดินทางปลอดภัย – ท่องเที่ยวปีใหม่สุขใจ เชิญนำรถทุกยี่ห้อตรวจเช็คฟรี! 30 รายการ ที่ศูนย์บริการรถยนต์ FIXFIT

ศูนย์บริการรถยนต์ FIXFIT ภายใต้การควบคุณภาพของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมสนับสนุนการขับขี่ปลอดภัย เดินทางไกลช่วงปีใหม่ให้คนไทยได้อุ่นใจ เชิญนำรถทุกยี่ห้อเข้ารับบริการตรวจเช็คฟรี! ทั้งก่อนและหลังเดินทางที่ศูนย์บริการ FIXFIT ทุกสาขา เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ทุกคันที่เดินทางในช่วงเทศกาลแห่งความสุข เดินทางอย่างมั่นใจ ปลอดภัย ลดความเสี่ยงปัญหาการใช้รถยนต์ระหว่างเดินทาง ช่วยประหยัดน้ำมัน และลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ให้บริการโดยช่างผู้ชำนาญมาตรฐานศูนย์บริการโตโยต้า ครอบคลุมระบบต่างๆ รวม 30 รายการ ได้แก่

• ที่ปัดน้ำฝน / น้ำล้างกระจก 

• ระดับน้ำมันเครื่อง

• ระดับน้ำในถังสำรอง / ระดับน้ำยาหล่อเย็น 

• ระดับน้ำมันเบรก

• ระดับน้ำมันพาวเวอร์ 

• ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์

• แบตเตอรี่ 

• สภาพยางรถยนต์

• ตรวจเสียงเครื่องยนต์ขณะสตาร์ท 

• ระบบปรับอากาศ พัดลม และน้ำยา

• สภาพไส้กรองแอร์ 

• ระบบสายพานต่างๆ

• ระบบไฟส่องสว่าง/แตร 

• เข็มขัดนิรภัย

• ระดับน้ำมันเกียร์ 

• ระบบฟรีแป้นเหยียบ / คลัตช์ / เบรกมือ

• ยางกันฝุ่นเพลาขับ 

• ยางกันฝุ่นแร็ค

• ลูกหมากปีกนก 

• ลูกปืนล้อ

• รอยรั่ว และความผิดปกติของเครื่องยนต์

• รอยรั่ว และความผิดปกติของเกียร์ (เปิดงานซ่อมตรวจ)

• รอยรั่ว และความผิดปกติของหม้อน้ำ 

• รอยรั่ว และความผิดปกติของท่อทางน้ำ

• รอยรั่ว และความผิดปกติของพวงมาลัยพาวเวอร์ 

• ระดับน้ำมันเฟืองท้าย

• ระดับน้ำมันทรานเฟอร์ 

• กรองดักน้ำ (เฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล)

• ระดับน้ำกลั่น 

• โช๊คอัพหน้า/หลัง

ศูนย์บริการรถยนต์ FIXFIT ควบคุมคุณภาพบริการโดยโตโยต้า ให้บริการรถทุกยี่ห้อ มาตรฐานศูนย์บริการ ราคาอู่ เชิญนำรถเข้ารับบริการได้ทั้ง 11 สาขา ใกล้บ้านท่าน

สาขา อ่อนนุช          จ.-ส. เวลา 8.00 – 17.00 น.          โทร. 085-488-8522

สาขา ถนนบรมราชชนนี     จ.-ส. เวลา 8.00 – 17.00 น.          โทร. 02 -885-1734

สาขา บางนา-ตราด กม.25    จ.-ส. เวลา 8.00 – 19.00 น.          โทร. 082-690-4515

สาขา บางเมือง       จ.-ส. เวลา 8.00 – 17.00 น.          โทร. 091-771-6535

สาขา กิ่งแก้ว           จ.-ส. เวลา 8.00 – 17.00 น.          โทร. 02-027-7899 กด 2

สาขา ปทุมธานี        จ.-ส. เวลา 8.00 – 17.00 น.          โทร. 097-004-5505, 02-975-7500 ต่อ 114

สาขา ฉะเชิงเทรา     จ.-อ. เวลา 9.00 – 18.00 น.          โทร. 038-500-567

สาขา นครปฐม        จ.-ส. เวลา 10.00 – 19.00 น.        โทร. 034-900-321, 322

สาขา เชียงราย   จ.-อ. เวลา 8.00 – 18.00 น. โทร. 053-798-855 ,081-980-8855

สาขา กาฬสินธุ์        จ.-อ. เวลา 8.00 – 19.00 น.          โทร. 043-812-244

สาขา ชลบุรี  จ.-อ. เวลา 9.00 – 19.00 น.          โทร. 085-275-5222

เตรียมรถเดินทางท่องเที่ยวปีใหม่สุขใจที่ FIXFIT ทุกสาขาทั่วประเทศ

ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มกราคม 2567 โดยไม่ต้องนัดหมายล่วงหน้า

ติดตามข้อมูล และโปรโมชั่นต่างๆ ได้ทาง

Facebook FIXFIT THAILAND และ Line @fixfitthailand หรือคลิก https://lin.ee/rlcarFa

โตโยต้า ถนนสีขาว รณรงค์ลดอุบัติเหตุในเทศกาลปีใหม่ 2567

โตโยต้า ถนนสีขาว รณรงค์ลดการใช้ความเร็วในการขับขี่ เสริมสร้างความสุข ให้ถนนทุกสายเป็นถนนสีขาว ปลอดอุบัติเหตุ ในเทศกาลปีใหม่ 2567

โครงการ โตโยต้า ถนนสีขาว โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รณรงค์ลดใช้ความเร็วในการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ผ่านการจำลองสภาพรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุจากความเร็ว ภายใต้ข้อความสื่อสาร “ยิ่งเร็ว.. ยิ่งสูญเสียเร็ว” เน้นย้ำเรื่องของ “ความเร็ว” ซึ่งถือเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย พร้อมส่งมอบความมั่นใจ ก่อนการเดินทางให้กับผู้ใช้รถยนต์โตโยต้า ด้วยการให้บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 24 รายการ ที่ศูนย์บริการ ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2567

โตโยต้า มีความตั้งใจในการรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเน้นย้ำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนตระหนักถึงเรื่อง “ความเร็ว” ด้วยการขับขี่โดยใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงร่วมแบ่งปันวินัย และน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทาง เพื่อช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล ในปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมการสื่อสารรูปแบบใหม่ ผ่านการจำลองสภาพรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุจากความเร็ว ใน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา และขอนแก่น พร้อมข้อความสื่อสาร “ยิ่งเร็ว.. ยิ่งสูญเสียเร็ว” ในระหว่างวันที่ 16-22 ธันวาคม 2566 เพื่อตอกย้ำ และสร้างการตระหนักถึงผลลัพธ์จากการขับรถเร็วก่อนการเดินทางท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้การเดินทางท่องเที่ยว เป็นไปอย่างปลอดภัยตลอดเส้นทาง บริษัทฯ พร้อมด้วยผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ จึงจัดให้มีบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 24 รายการ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรถยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถนำรถยนต์ไปตรวจเช็กได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2567 โดยมีรายการตรวจเช็ก 24 รายการ ดังนี้

1. ตรวจเสียงเครื่องยนต์ขณะสตาร์ต

2. ที่ปัดน้ำฝน/น้ำล้างกระจก

3. ยางกันฝุ่นเพลาขับ

4. ลูกปืนล้อ

5. ลูกหมากปีกนก

6. สภาพยางรถยนต์

7. สายพานต่าง ๆ

8. ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์

9. รอยรั่วและความผิดปกติของท่อทางน้ำ

10. รอยรั่วและความผิดปกติของพวงมาลัยพาวเวอร์

11. รอยรั่วและความผิดปกติของหม้อน้ำ

12. รอยรั่วและความผิดปกติของเกียร์

13. รอยรั่วและความผิดปกติของเครื่องยนต์

14. ระบบฟรีแป้นเหยียบ/คลัตช์/เบรกมือ

15. ระบบไฟส่องสว่าง/แตร

16. ระบบเครื่องปรับอากาศ พัดลม และน้ำยา

17. ระดับน้ำมันพาวเวอร์

18. ระดับน้ำมันเกียร์

19. ระดับน้ำมันเครื่อง

20. ระดับน้ำมันเบรก

21. ระดับน้ำในถังสำรอง/ระดับน้ำยาหล่อเย็น

22. เข็มขัดนิรภัย

23. แบตเตอรี่/ระดับน้ำกลั่น

24. โช้กอัพหน้าหลัง

-ระดับน้ำมันเฟืองท้าย (เพิ่มเติม เฉพาะรถที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว)

-ระดับน้ำมันทรานเฟอร์ (เพิ่มเติม เฉพาะรถที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว)

โตโยต้า มุ่งมั่นรณรงค์และขับเคลื่อนให้เกิดสังคมแห่งความปลอดภัยในการเดินทาง อันจะนำมาซึ่งการเติมเต็ม และผลักดันสังคมไทยให้เข้าใกล้ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” (Sustainable Development Goals) ต่อไป และขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ “ร่วมสร้างสังคมคนขับรถดี” ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผ่านการขับขี่ตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตามกฎจราจร มีวินัย และน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทาง เพื่อขับเคลื่อนความสุข และความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนให้แก่คนไทยทุกคนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567

*สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า TOYOTA CONTACT CENTER 1486 หรือ อีเมล [email protected]

                 “โตโยต้า ร่วมขับเคลื่อนอนาคต”

ตลาดรถยนต์พฤศจิกายน 2566 คัน รถเก๋งโต 21.2%

ตลาดรถยนต์พฤศจิกายนยังชะลอตัวต่อเนื่อง 9.8% ยอดขาย 61,621 คัน รถเก๋งโต 21.2% สวนทางปิกอัพหดตัว 38.8% รอลุ้นปัจจัยบวกยอดจองจากงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2566 ด้วยยอดขาย 61,621 คัน ลดลง 9.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์นั่งเติบโตต่อเนื่องด้วยยอดขาย 24,567 คัน เติบโต 21.2% ส่วนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์สวนทางด้วยยอดขาย 37,054 คัน ลดลง 22.8% ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยังไม่ฟื้นตัวด้วยยอดขาย 22,104 คัน ลดลง 39.1%

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มาจากสภาพเศรษฐกิจ โดยภาพรวมของตลาดรถยนต์พฤศจิกายนยังชะลอตัวต่อเนื่องที่ 9.8% ด้วยยอดขาย 61,621 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 21.2% ด้วยยอดขาย 24,567 คัน โดยอีโคคาร์เป็นเพียงเซกเมนท์เดียวที่มีการเจริญเติบโตที่ 32.2% ด้วยยอดขาย 18,783 คัน ในขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องที่ 22.8% ด้วยยอดขาย 37,054 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน หดตัวถึง 39.1% ด้วยยอดขาย 22,104 คัน ปัจจัยหลักเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่เติบโตได้ตามที่คาดการ ความมั่นใจผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว โดยมีอุปสรรคสำคัญคือความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ อันเป็นผลมาจากความกังวลต่อความสามารถในการผ่อนชำระของผู้รับสินเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน

ตลาดรถยนต์ธันวาคมมีความหวังฟื้นตัวขึ้นตามฤดูกาลขาย “High season” โดยมีความหวังสำคัญคือแคมเปญกระตุ้นตลาดช่วงสุดท้ายของปีในงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2023 ซึ่งสามารถกวาดยอดจองรถทุกยี่ห้อในงานตลอด 14 วัน ได้ถึง 53,248 คัน เติบโตขึ้นถึง 45.17% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่ายอดจองเหล่านี้จะมาผลักดันตลาดรถยนต์เดือนธันวาคมให้เติบโตขึ้นได้มากน้อยเพียงใด

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2566

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 61,621 คัน ลดลง 9.8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      21,700 คัน      ลดลง 11.6 %   ส่วนแบ่งตลาด 35.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          10,415 คัน      ลดลง 37.1%    ส่วนแบ่งตลาด 16.9%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      7,328 คัน        เพิ่มขึ้น 0.0%    ส่วนแบ่งตลาด 11.9%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 24,567 คัน เพิ่มขึ้น 21.2%                                 

อันดับที่ 1 โตโยต้า      7,512 คัน        ลดลง 10.6%    ส่วนแบ่งตลาด 30.6%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า      3,928 คัน        ลดลง 11.5%    ส่วนแบ่งตลาด 16.0%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      872 คัน         ลดลง 41.4%    ส่วนแบ่งตลาด 3.5%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 37,054 คัน ลดลง 22.8%                               

อันดับที่ 1 โตโยต้า      14,188  คัน     ลดลง 12.1%    ส่วนแบ่งตลาด 38.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           10,415 คัน      ลดลง 37.1%    ส่วนแบ่งตลาด 28.1%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      3,400 คัน       เพิ่มขึ้น 17.6%  ส่วนแบ่งตลาด 9.2%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 22,104 คัน ลดลง 39.1%                     

อันดับที่ 1 อีซูซุ            9,377 คัน        ลดลง 39.0%    ส่วนแบ่งตลาด 42.4%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      8,544 คัน        ลดลง 37.3%    ส่วนแบ่งตลาด 38.7%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        2,324 คัน        ลดลง 51.6%    ส่วนแบ่งตลาด 10.5%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,251 คัน

อีซูซุ 1,500 คัน – โตโยต้า 1,422  คัน – ฟอร์ด 845  คัน – มิตซูบิชิ 406  คัน – นิสสัน 78 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 17,853 คัน ลดลง 38.8%                               

อันดับที่ 1 อีซูซุ            7,877 คัน        ลดลง 38.3%    ส่วนแบ่งตลาด 44.1%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      7,122 คัน       ลดลง 36.2%    ส่วนแบ่งตลาด 39.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        1,479 คัน       ลดลง 56.8%    ส่วนแบ่งตลาด 8.3%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม –พฤศจิกายน 2566

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 707,454 คัน ลดลง 7.7%                             

อันดับที่ 1 โตโยต้า       241,844 คัน   ลดลง 6.5%     ส่วนแบ่งตลาด 34.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ            141,671 คัน   ลดลง 27.1%    ส่วนแบ่งตลาด 20.0%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       84,516 คัน    เพิ่มขึ้น 13.4%  ส่วนแบ่งตลาด 11.9%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 266,365 คัน เพิ่มขึ้น 10.8%                               

อันดับที่ 1 โตโยต้า        92,034 คัน   เพิ่มขึ้น  24.7%  ส่วนแบ่งตลาด 34.6%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า        51,297 คัน   ลดลง   8.2%   ส่วนแบ่งตลาด 19.3%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ         14,291 คัน   ลดลง  26.1%   ส่วนแบ่งตลาด 5.4%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 441,089 คัน ลดลง 16.2%                   

อันดับที่ 1 โตโยต้า       149,810 คัน    ลดลง 18.9%    ส่วนแบ่งตลาด   34.0%

อันดับที่ 2 อีซูซุ            141,671 คัน   ลดลง 27.1%    ส่วนแบ่งตลาด   32.1%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       33,219 คัน    เพิ่มขึ้น 78.2%  ส่วนแบ่งตลาด   7.5%

4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 301,001 คัน ลดลง 26.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ           127,260 คัน     ลดลง 29.0%    ส่วนแบ่งตลาด   42.3%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      118,075 คัน     ลดลง 25.1%    ส่วนแบ่งตลาด   39.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด         33,636 คัน    ลดลง 11.6%    ส่วนแบ่งตลาด   11.2%

 *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 55,806 คัน

โตโยต้า 20,318 คัน – อีซูซุ 19,531 คัน – ฟอร์ด 10,963 คัน – มิตซูบิชิ 3,930 คัน – นิสสัน 1,064 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 245,195, คัน ลดลง 30.5%

อันดับที่ 1 อีซูซุ            107,729 คัน     ลดลง  33.3%   ส่วนแบ่งตลาด 43.9%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      97,757 คัน      ลดลง  26.4%   ส่วนแบ่งตลาด 39.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        22,673 คัน      ลดลง  24.0%   ส่วนแบ่งตลาด  9.2%   

TOYOTA Gazoo Racing Team Thailand คว้าแชมป์ปิดฤดูกาล Thailand Super Series 2023

TOYOTA Gazoo Racing Team Thailand สุดจัด! คว้าแชมป์ปิดฤดูกาล “Thailand Super Series 2023” ที่ สนามช้างฯ บุรีรัมย์

“TOYOTA Gazoo Racing Team Thailand” ทีมแข่งรถที่ยิ่งใหญ่ และประสบความสำเร็จอย่างสูงของวงการมอเตอร์สปอร์ต ภายใต้การสนับสนุนของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ประกาศศักดาปิดท้ายฤดูกาล “Thailand Super Series 2023” สนาม 7 – 8 สุดยิ่งใหญ่ เรียงแถวขึ้นโพเดียมรับถ้วยรางวัลครบทุกรุ่นทั้ง GT3 GTM GT4 และ Super Compact นำโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ – ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ – ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ – มานัต กุละปาลานนท์ – กรัณฑ์ ศุภพงษ์ – ธัญชนก เจริญสุขะวัฒนะ – กฤษฎิ์ วสุรัตน์ – ณดล วัฒนธรรม และ เคนทาโร่ ซึจิโทริ เมื่อวันที่ 15-17 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

TOYOTA Gazoo Racing Team Thailand ลงสนามแข่งในนัดปิดฤดูกาลของ “Thailand Super Series 2023” ด้วยความพร้อมสุดขีดเพื่อไล่ล่าโพเดียม 4 รุ่นหลักของรายการแข่งขัน Thailand Super Car GTM ด้วยรถแข่ง Lexus RC-F GTM หมายเลข 24 ขับโดย ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ นักแข่งมือเก๋าชั้นครูของทีม โดยมีคะแนนเก็บสูงสุด แต่ในเรซ 7 พลาดท่าไม่จบการแข่งขันเนื่องจากอุบัติเหตุ แต่กลับมาแก้มือใหม่ในเรซที่ 8 หวดคนเดียวตลอด 60 นาที ทำผลงานยอดเยี่ยมจบการแข่งขันในอันดับ 1 ด้านรถหมายเลข 38 ขับโดย กฤษฎิ์ วสุรัตน์ ประสานมือกับ เคนทาโร่ ซึจิโทริ ทำผลงานดีสุดในอันดับ 4 ทำให้รุ่นนี้กวาดถ้วยรางวัลประเภททีมอีกรางวัล

ต่อด้วยรุ่น Thailand Super Car GT3 ในรถแข่ง Lexus RC-F GT3 หมายเลข 9 ขับโดย ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และ มานัต กุละปาลานนท์ รุ่นนี้ทีมลุ้นตำแหน่งแชมป์ประเทศไทย สู้กันเดือดทั้ง 2 เรซ จบการแข่งขันไปด้วยอันดับ 7 และ อันดับ 3 ของรุ่น ทำให้คะแนนสะสมรวมทั้งฤดูกาล “ณัฐพงษ์” และ “มานัต” คว้าแชมป์ประจำปีประเทศไทยในรุ่นนี้มาครองได้อย่างสวยงาม (ผลอย่างไม่เป็นทางการ)

ส่วนในรุ่น Thailand Super Car GT4 ด้วยรถแข่ง TOYOTA Supra GT4  หมายเลข 19 ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ และ กรัณฑ์ ศุภพงษ์ จูงมือกันจบการแข่งขันด้วยอันดับ 2 และ อันดับ 4 ของรุ่น

ปิดท้ายด้วยรุ่น Thailand Super Compact ในรถแข่งหมายเลข 19 TOYOTA Yaris E-Fuel Carbon Neutral ซึ่งใช้พลังงานเชื้อเพลิงซึ่งมีความเป็นกลางทางคาร์บอน ขับโดย ธัญชนก เจริญสุขะวัฒนะ และ ณ ดล วัฒนธรรม ทำผลงานส่งท้ายปีได้ยอดเยี่ยม ขึ้นโพเดียมในอันดับ 4 และ 3 ของรุ่น

หลังจบการแข่งขัน สุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีม และนักแข่ง โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า “เป็นการปิดท้ายฤดูกาลของ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ซีรีส์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รถแข่งทุกคันทำผลงานดีรับถ้วยรางวัลกันทั้งหมด วันนี้พวกเราหายเหนื่อย และมีพลังสำหรับการไปสู้ศึกในรายการเอ็นดูรานซ์ 10 ชม.สัปดาห์หน้า ขอกำลังใจจากแฟนมอเตอร์สปอร์ตทุกคน ติดตามส่งใจเชียร์ทีมของเราด้วยนะครับ”

TOYOTA Gazoo Racing Team Thailand มีตารางแข่งขันต่อในรายการสุดท้ายของปี กับรายการมาราธอนทางเรียบ 10 ชั่วโมงเต็ม “Idemitsu Super Endurance Southeast Asia Trophy 2023” โดยลงแข่งร่วมกับทีม Rookie Racing จากประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 22-23 ธันวาคม 2566 ที่จะถึงนี้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ติดตามชม และเชียร์ทีมแข่งรถสัญชาติไทยที่มุ่งมั่น และตั้งใจพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเพิ่มเติมได้ที่ : Facebook และ Instagram: TOYOTAGazooRacingTeamThailand

Mazda Goal ก้าวแรกสู่อาชีพ

มาสด้า ร่วมกับสวาทแคทจัดกิจกรรม “Mazda Goal ก้าวแรกสู่อาชีพ” ส่งเสริมเยาวชนไทยก้าวสู่นักฟุตบอลอาชีพ

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ร่วมกับ สโมสร นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี จัดกิจกรรม “Mazda Goal ก้าวแรกสู่อาชีพ” ครั้งที่ 2 เดินหน้าต่อเติมความฝัน เรียนรู้เพิ่มทักษะ ร่วมสร้างอนาคตให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงแก่นแท้ของกีฬาฟุตบอลผ่านประสบการณ์จริงจากนักฟุตบอลระดับอาชีพ เพื่อให้สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นนักกีฬาระดับอาชีพต่อไปในอนาคต โดยมีนักกีฬาฟุตบอลของสโมสรฯ และทีมผู้ฝึกสอนรวมกว่า 30 คน มาช่วยกันถ่ายทอดประสบการณ์และเทคนิคการเล่นฟุตบอล โดยมีเยาวชนจากโรงเรียนในจังหวัดโคราชและจังหวัดใกล้เคียง เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กว่า 150 คน ณ สนามฝึกซ้อม SWATCAT Training Pitch จังหวัดนครราชสีมา

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กิจกรรม “Mazda Goal ก้าวแรกสู่อาชีพ” เป็นความร่วมมือกันระหว่าง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย และ สโมสร นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ซึ่งเป็นพันธมิตรร่วมกันมายาวนานเกินกว่า 1 ทศวรรษ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อผลักดันและเปิดโอกาสให้เยาวชนที่รักในกีฬาฟุตบอลได้มีโอกาสเข้าถึงเทคนิคการเล่นฟุตบอล เพื่อเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจากนักฟุตบอลอาชีพ ตลอดจนถึงเพื่อนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ต่อไปในอนาคต ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมสังคมที่เรามุ่งมั่นดำเนินการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ เพื่อส่งมอบความสุข และเพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกัน

กิจกรรม “Mazda Goal ก้าวแรกสู่อาชีพ” ครั้งที่ 2 จัดขึ้น ณ สนามฝึกซ้อม SWATCAT Training Pitch จังหวัดนครราชสีมา ในรูปแบบกิจกรรมตลอดทั้งวัน โดยมีนักฟุตบอลอาชีพจากทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี  พร้อมด้วยทีมผู้ฝึกสอนรวมกว่า 30 คน เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และทักษะกีฬาฟุตบอลให้กับเยาวชน โดยกิจกรรมแบ่งออกเป็น 4 ฐาน ได้แก่ Ball Feeling Basic Movement, Passing and Dribbling, Dribbling and Receiving และ Dribbling and Shooting ซึ่งเด็กๆ ได้รับทั้งความรู้และความสนุกสนานจากกิจกรรมไปพร้อมๆ กันตลอดทั้งวัน พร้อมกันนี้ ทางสโมสรฯ ยังได้ลงนามเซ็นสัญญากับสองเยาวชนที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมและมีทักษะการเล่นที่ดีเข้าสู่สวาทแคดอะคาเดมี่

ทั้งนี้ มาสด้ายังคงให้การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมในหลากหลายรูปแบบซึ่งรวมถึงกิจกรรมกีฬา เพื่อผลักดันให้เยาวชนไทยสามารถพัฒนาทักษะในสิ่งที่ตนเองรัก และนำไปต่อยอดเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้ต่อไปในอนาคต ตลอดจนถึงสนับสนุนให้วงการกีฬาไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปเคียงข้างกับสังคมไทย เพื่อโลก เพื่อสังคม และเพื่อผู้คน ที่ยั่งยืนตลอดไป

บุคคลในภาพ : (จากซ้ายไปขวา), นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ประธานสโมสรฯ, นายอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ นางสาวอัญรินทร์ วงศ์อัครพัฒนา รองประธานฝ่ายรายได้และสิทธิประโยชน์ สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save