- Advertisement -
29.1 C
Bangkok
Home Blog

Toyota Gazoo Racing Thailand 2025 พร้อมระเบิดความมัน

Toyota Gazoo Racing Thailand 2025 พร้อมระเบิดความมันทั้ง 5 สนาม มุ่งสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า มุ่งขยายฐานคนรักรถ และเพิ่มกลุ่มคนรักมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นายพฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ นายกราชยานยนต์สมาคม แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมแถลงข่าวการจัดกิจกรรม Toyota Gazoo Racing Thailand 2025 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ณ TOYOTA ALIVE ถ.บางนา-ตราด กม. 3

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เริ่มบุกเบิกวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย มาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเจตนารมณ์ที่จะยกระดับและเพิ่มความนิยมในกีฬาประเภทนี้ให้แพร่หลายในหลากหลายรูปแบบ และครอบคลุมทุกระดับ ไม่ว่าจะด้วยการจัดการแข่งขัน การส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน และให้การสนับสนุนให้แก่ผู้ที่มีความฝันตั้งแต่ระดับเยาวชน ไปจนถึงนักแข่งระดับอาชีพ ให้ได้มีโอกาสสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ โดยจากความทุ่มเทในการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างต่อเนื่อง โตโยต้าได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในวงการนี้อย่างแท้จริง

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “ขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่นและความไว้วางใจที่ทุกท่านมีให้กับผลิตภัณฑ์ของเรา ทำให้ยอดจองของโตโยต้าทั่วประเทศทั้งหมดในช่วงมอเตอร์โชว์ มีมากกว่า 21,000 คัน ซึ่งเป็นยอดจองภายในงานมอเตอร์โชว์ มากกว่า 9,600 คัน และจากยอดจอง 9,600 คัน อยู่ในระหว่างขออนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยโตโยต้าคาดว่าจะสามารถส่งมอบรถ สู่ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลกว่า 7,600 คัน ภายในเดือนเมษายน

สำหรับโตโยต้า กีฬามอเตอร์สปอร์ตคือรากฐานในการสร้างยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า เราได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตร ผ่านการแข่งขันอีกหลายรายการทั่วโลก เพราะเราเชื่อว่า “ถนนสร้างคน และคนสร้างรถ” โดยการเข้าร่วมการแข่งรถในสนามต่างๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีให้ดียิ่งขึ้น สะท้อนกลับมาสู่ไลน์อัพของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ยังเป็นการสะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใต้กลยุทธ์ความหลากหลายด้านทางเลือก (Toyota multiple pathway) ปัจจุบัน เราได้ขยายความร่วมมือกับ โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย (TMA) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เพื่อพัฒนายนตรกรรมและชิ้นส่วนรถยนต์ให้ดียิ่งกว่าสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและ สามารถตอบสนองสนามแข่งมอเตอร์สปอร์ตอันหฤโหดได้อย่างแท้จริง”

ในปีที่ผ่านมา รถกระบะ Hilux Revo GR Sport 4X4 ได้รับการพัฒนาช่วงล่างให้ดียิ่งขึ้น โดยฝีมือวิศวกรชาวไทย ยังสามารถคว้าชัยชนะ แชมป์อันดับ 1 ในรายการ Asia Cross Country Rally 2024 และในปีนี้เรายังได้ส่งรถยนต์ไฮบริดรุ่น Yaris Cross HEV ในการแข่งขันแรลลี่ ที่จัดโดย ราชยานยนต์สมาคม แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (RAAT Rally) ซึ่งรุ่นนี้จะมีการปรับช่วงล่าง และเครื่องยนต์ไฮบริดเพื่อการแข่งขัน

 ความสำเร็จเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แรงบันดาลใจสู่การพัฒนา “ยนตรกรรมและชิ้นส่วนรถยนต์ที่ดียิ่งกว่า” แต่ยังนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่เห็นได้จากการพัฒนารถที่ใช้เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน 2 รุ่น เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันบนสนามแข่ง ซึ่งได้แก่ Yaris Carbon Neutral Fuel  และ Ativ Carbon Neutral Fuel นอกจากนี้ โตโยต้ามีการสนับสนุนทีมแข่ง Toyota Gazoo Racing Thailand ในการแข่งขันทั้งในรูปแบบแรลลี่ และแบบเซอร์กิต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยและพัฒนารถยนต์โตโยต้าในอนาคต ในประเทศไทย โตโยต้าเป็นผู้นำของวงการมอเตอร์สปอร์ต ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน กว่า 39 ปี โดยกิจกรรม Toyota Gazoo Racing Thailand จะสร้างความสนุกสนานความเร้าใจของกีฬามอเตอร์สปอร์ตแล้ว  กิจกรรมนี้ยังเป็นการส่งเสริมแนวทางการพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงของโตโยต้าที่น่าเชื่อถือที่สุด”

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงไฮไลต์ของ Toyota Gazoo Racing Thailand 2025 ในปีนี้ว่า “ปีนี้ Toyota Gazoo Racing Thailand จัดขึ้นในรูปแบบเฟสติวัล เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสความสนุกสนาน ทั้งการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ One Make Race โดยเราจะมีรถเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 60 คัน เริ่มจาก One Make Race ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Yaris ATIV Lady One Make Race/ YARIS One Make Race / Hilux REVO One Make Race และ Corolla ALTIS GR Sport One Make Race ที่ยังเปิดรับสมัครอยู่ และยังมอบข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้า ที่เคยผ่านโครงการ Toyota Gazoo Racing Academy จะได้รับส่วนลด 10% ของค่าสมัครการแข่งขันอีกด้วย หากผู้ที่ชื่นชอบรักในกีฬามอเตอร์สปอร์ต สามารถสมัครแข่งขันได้ภายใน 31 พฤษภาคม นี้ ผ่านทาง Facebook : ToyotaGazooRacingThailand ซึ่งในปีนี้ น้องมิย่า น้องป๊ายปาย และคุณปังปอนด์ ก็ยังอยู่แข่งขัน One Make Race พร้อมสร้างความสนุกและความตื่นเต้น เหมือนเช่นเคย

สำหรับผู้ที่รักการตกแต่งรถ ให้ดูโดดเด่นและเท่ห์ยิ่งขึ้น เราได้ร่วมมือกับพันธมิตรชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ ชื่อดังระดับประเทศกับ ชุดอุปกรณ์ตกแต่งทางเลือก Associated Accessories Product หรือ AAP อาทิ ชุดตกแต่งรอบคัน GR Part จาก บริษัท ทีซีดี เอเชีย จำกัด และล้ออัลลอยจากแบรนด์ Lenso ซึ่งผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อผ่านผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ หรือ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.toyota.co.th/accessories/  และยังมีชุดแต่งและผลิตภัณฑ์จากพันธมิตรของ Toyota Gazoo Racing Thailand อีกด้วย”

นายศุภกร กล่าวถึงกิจกรรมความบันเทิงในปีนี้ว่า “นอกจากความเข้มข้นในสนามแข่งแล้ว แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตจะได้พบกับกิจกรรมจัดเต็มทั้งไลฟ์สไตล์ ความบันเทิงต่างๆ อาทิ คอนเสิร์ตร็อคสุดมันส์ จากวงไทรทศมิตร, คู่ดูโอ้ ป๊อบ ปองกูลและโอ๊ต ปราโมทย์, สาวน้อยเสียงหวาน น้องแอลลี่ ที่จังหวัดภูเก็ต และเชียงใหม่ พิเศษปีนี้เรามีกิจกรรมใหม่ GR COMMUNITY ที่จะเชิญลูกค้า GR Supra , GR 86 , GR Corolla และ GR Yaris เข้าร่วมชมการแข่งขัน พร้อมพบกับ CAR GURU อย่าง คุณเบียร์ ใบหยก และยังมี กิจกรรม MEET AND GREET กับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง พร้อมชมโชว์สมรรถนะรถโตโยต้าสุดมันส์ได้ ในกิจกรรม CAR PERFORMANCE SHOW ทั้งรถดริฟท์ รถสมรรถนะสูงตระกูล GR และ GR Sport

“สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณ การกีฬาแห่งประเทศไทย ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ / YOKOHAMA / PTT Station / Modellista โดย TCD Asia / LENSO / ARTO / Singha Corporation และสื่อมวลชนทุกท่าน ที่ร่วมสนับสนุนกิจกรรม Toyota Gazoo Racing Thailand มาโดยตลอด”

สัมผัสความสนุกสนาน เร้าใจของ “Toyota Gazoo Racing Thailand 2025”                               ทั้ง 4 จังหวัด 5 สนาม ทั่วประเทศ

-สนามที่ 1                         วันที่ 5-6 กรกฎาคม           ชลบุรี

-สนามที่ 2                         วันที่ 16-17 สิงหาคม         ภูเก็ต

-สนามที่ 3 และ 4              วันที่ 13-14 กันยายน         บุรีรัมย์

-สนามที่ 5 (สนามสุดท้าย) วันที่ 15-16 พฤศจิกายน    เชียงใหม่

แฟนพันธุ์แท้กีฬามอเตอร์สปอร์ต ห้ามพลาด!

ข้อมูลเกี่ยวกับ Toyota Gazoo Racing Thailand 2025

โตโยต้าจัดการแข่งขัน โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ภายใต้ปรัชญา “ถนนสร้างคน และคนสร้างรถ” (Roads build people, and people build cars) มุ่งสู่เป้าหมายในการสร้างสรรค์ “ยนตรกรรม ที่ดียิ่งกว่า” (MAKE EVER-BETTER CARS)

โตโยต้าเป็นผู้นำของวงการมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน กว่า 39 ปี โดยเราได้มีส่วนร่วมพัฒนาวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตในทุกมิติ

-เริ่มตั้งแต่ระดับเยาวชน อายุระหว่าง 8-11 ปี โตโยต้าได้ร่วมมือกับ ทรู วิชั่นส์ สนับสนุนโครงการ “ทรูวิชั่นส์-โตโยต้า จูเนียร์ โกคาร์ท เทรนนิ่ง” มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2545

-โดยบุคคลทั่วไปที่มีความฝัน ต้องการเป็นนักแข่งรถ ก็สามารถสมัคร Toyota Gazoo Racing Academy เพื่อเรียนรู้ทักษะการแข่งรถ ตั้งแต่หลักสูตร Pre-racing ไปจนถึงหลักสูตร Racing

-และสำหรับนักแข่งหน้าใหม่ ที่อยากลงสนามแข่งจริง ก็สามารถร่วมลงแข่งในรายการ Toyota One Make Race ซึ่งถือเป็นรายการแข่งรถทางเรียบที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศ

-นอกจากนี้ เรายังสนับสนุนนักแข่งมืออาชีพ ภายใต้ทีมแข่ง Toyota Gazoo Racing Thailand ร่วมการแข่งขันในหลายรายการ

ที่สำคัญ เมื่อปี พ.ศ. 2567  รถกระบะ Hilux Revo GR Sport 4X4 ที่ได้รับการพัฒนาช่วงล่างให้ดียิ่งขึ้น โดยฝีมือวิศวกรชาวไทย สามารถคว้ารับชัยชนะแชมป์อันดับ 1 ใน การแข่งขันรายการ Asia Cross Country Rally 2024 ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจ สู่การพัฒนายนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า ซึ่งรวมถึงพาร์ทชิ้นส่วนรถยนต์ที่จะแนะนำในอนาคต

และในปีพ.ศ. 2568 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ยังได้สนับสนุนทีมแข่ง Toyota Gazoo Racing Thailand เข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งในรูปแบบแรลลี่ และแบบเซอร์กิตหลายรายการ เพื่อมุ่งสู่การวิจัยและพัฒนารถยนต์โตโยต้าในอนาคต อาทิเช่น รายการ Thailand Super Series, รายการ Asia Cross Country Rally และรายการ RAAT Thailand Rally Championship  ด้วยการส่งรถยนต์โตโยต้าทั้งหมด 6 รุ่น  ได้แก่  GR Supra, Hilux Champ, Yaris , Yaris Ativ,  Hilux Revo GR Sport 4×4 และ น้องใหม่ล่าสุดอย่าง Yaris Cross HEV”

เร้าใจไปกับรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ One Make Race ทั้ง 4 รุ่น

-Yaris ATIV Lady One Make Race

Sedan ยอดนิยม คล่องตัวเร้าใจ ไปกับเครื่องยนต์เบนซิน 1,200 ซีซี Dual VVT-i กับ สำหรับนักแข่งหญิงที่ชอบความเร็ว ปีนี้ ยังมีสาวสวย Toyota Racing Star Team พิชชา มิย่า ทองเจือ กับรถ ATIV CNF 

-YARIS One Make Race

Hatchback ยอดนิยม Toyota YARIS เครื่องยนต์เบนซิน 1,200 ซีซี Dual VVT-i สำหรับนักแข่งระดับ Entry โดยปีนี้ ยังคงมี “ป๊าย ปาย โอริโอ” ศิลปิน อินฟลูเอนเซอร์ขวัญใจมหาชน สมาชิก Toyota Racing Star Team ร่วมเปิดประสบการณ์ความเป็นกลางทางคาร์บอน ด้วยรถแข่ง YARIS CNF

-Hilux REVO One Make Race

มันส์เต็มพิกัดกับสมรรถนะของรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล GD Super Power 2,400 ซีซี กับบทพิสูจน์ความแกร่ง ทนทาน และช่วงล่างที่เกาะถนนแม่นยำ สำหรับนักแข่ง ที่ชื่นชอบความดิบ หนักแน่น ดุดัน

-Corolla ALTIS GR Sport One Make Race

เอกลักษณ์ของ QDR : Quality Durability Reliability ที่ประกอบด้วยคุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ เร้าใจไปกับพลังเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-i 1,800 ซีซี และโครงสร้าง TNGA ที่ลงตัวทั้งสมรรถนะเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง ระบบบังคับเลี้ยว ระบบเบรก โดยมีหนุ่มปังปอนด์ อัครวุฒิ ร่วมลงแข่ง

จัดเต็มสำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต ลูกค้ารถโตโยต้า และผู้ที่ชื่นชอบรถ

-คอนเสิร์ตร็อคสุดมันส์ จากวงไทรทศมิตร ที่จังหวัดภูเก็ต และ มันส์กันต่อกับ คู่ดูโอ้ ป๊อบ ปองกูลและโอ๊ต ปราโมทย์, สาวน้อยเสียงหวาน น้องแอลลี่ ที่เชียงใหม่

-กิจกรรมใหม่ GR COMMUNITY พิเศษ เฉพาะลูกค้า GR Supra, GR 86, GR Corolla และ GR Yaris ที่จะพาท่านพบปะและพูดคุยอย่างใกล้ชิดกับ CAR GURU อย่าง คุณเบียร์ ใบหยก

-MEET AND GREET กับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง และ Toyota Racing Star Team “พิชชา มิย่า ทองเจือ” “ปังปอนด์ อัครวุฒิ” และ “ป๊ายปาย โอริโอ” ที่จะมาพบปะแฟนๆ ในทุกๆ สนาม

-พบสมรรถนะรถโตโยต้าได้ ในกิจกรรม CAR PERFORMANCE SHOW ทั้งรถดริฟท์ รถสมรรถนะสูง ตระกูล GR และ GR Sport

TGR Academy

-ก้าวสู่การเป็นนักแข่ง ด้วยการเข้าอบรมกับโครงการ Toyota Gazoo Racing Academy ที่มีทั้งผู้ฝึกสอนมากประสบการณ์และนักแข่งมืออาชีพ จากทีมแข่ง Toyota Gazoo Racing Thailand การันตืด้วยผลงานจากแชมป์รายการต่างๆ มากมาย

-สำหรับผู้ที่สนใจในกีฬามอเตอร์สปอร์ต และอยากเรียนรู้เทคนิคต่างๆ กฎกติกาการแข่งขัน เพื่อก้าวสู่การเป็นนักแข่งอาชีพ สามารถดูรายละเอียดคอร์สอบรมได้ตามนี้

คอร์สอบรม ค่าสมัคร     สถานที่

Pre-Racing 5,000 บาท   Toyota Alive บางนา

Racing        8,000 บาท   สนามพีระฯ เซอร์กิต พัทยา

-สำหรับผู้ที่เคยผ่านการอบรม TGR Academy สามารถนำใบประกาศนียบัตรจากทางโครงการ มายื่น รับส่วนลด 10% ในการสมัครเข้าร่วมแข่งขัน Toyota One Make Race สำหรับปีนี้ได้เลย

-ตารางการอบรมประจำปี 2568

ติดตามข้อมูลข่าวสาร และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Facebook / Youtube: Toyota Gazoo Racing Thailand

Instagram: tgrthailand   

TikTok: tgr.Thailand

มาสด้า มอบรางวัลแชมป์นักกอล์ฟเยาวชน

มาสด้า มอบรางวัลผู้ชนะเลิศการแข่งขันกอล์ฟเยาวชน เตรียมเดินทางไปสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมกับแข่งขันทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา

มาสด้า มอบรางวัลผู้ชนะเลิศกอล์ฟเยาวชน โครงการ Mazda U.S. College PREP Junior Golf Championship 2025 ผลการแข่งขันปรากฏว่าเยาวชนที่ชนะเลิศอันดับหนึ่งในระดับ Middle School เป็นเยาวชนดาวรุ่งดวงใหม่จากประเทศไทยที่ผงาดคว้าแชมป์ไปครองได้ทั้งประเภทเยาวชนชายและหญิง คือ ด.ช.ภัคภาคิน เชษฐพงศ์พันธุ์ คว้าแชมป์ประเภทเยาวชนชาย และ ด.ญ.กิรณา บัตรพรรธนะ คว้าแชมป์ประเภทเยาวชนหญิง ในขณะที่เยาวชนผู้ชนะเลิศในระดับ High School ได้แก่ เควิน ไคชิน เซีย จากประเทศจีน คว้าแชมป์ประเภทเยาวชนชาย และ แพสชั่น ซู จากประเทศสิงคโปร์ คว้าแชมป์ประเภทเยาวชนหญิง และที่สำคัญมีเยาวชนทั้งชายและหญิงจากประเทศไทยติดอันดับถึง 6 คน จากจำนวนทั้งหมด 16 คน พร้อมร่วมเดินทางไปแข่งขันทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนกรกฏาคม 2568 ที่จะถึงนี้

โดยการจัดการแข่งขันในครั้งนี้เป็นหนึ่งในโครงการส่งเสริมเยาวชนที่มาสด้าร่วมกับ The Agency Recruiter ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหาทุนการศึกษาด้านการกีฬาสำหรับเยาวชน จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมเยาวชนไทยและนานาชาติ และมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า Mazda Family ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่สองติดต่อกัน โดยเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา มีเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้เดินทางไปร่วมการแข่งขันในประเทศสหรัฐอเมริกามาแล้ว จำนวน 20 คน ส่วนในปีนี้เยาวชนที่ชนะเลิศในโครงการฯ ดังกล่าว นอกจากจะได้รับถ้วยรางวัลชนะเลิศพร้อมของรางวัลแล้ว ยังจะได้รับเอกสิทธิ์พิเศษต่างๆ มากมาย อาทิ ตั๋วเครื่องบินไปกลับระหว่างเอเชีย-สหรัฐอเมริกา รวมค่าที่พักระหว่างการแข่งขัน รวมถึงโอกาสที่จะได้รับสิทธิ์ในการคว้าทุนการศึกษาจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชื่อดัง พร้อมสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ณ สนามกอล์ฟ Phoenix Gold Golf & Country Club จังหวัดชลบุรี

นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนวัตกรรมดิจิตอล บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าขอชื่นชมเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ โดยเฉพาะผู้ที่ชนะการแข่งขันคือตัวแทนประเทศไทยที่จะไปแสดงทักษะและฝีมือในเวทีระดับสากล มาสด้าเชื่อเสมอว่า เยาวชนคือพลังสำคัญที่ขับเคลื่อนอนาคตของประเทศ ในฐานะที่มาสด้าเป็นบริษัทรถยนต์ที่มุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์ความสุขในการใช้ชีวิตทุกด้านให้กับทุกคน มาสด้าต้องการส่งมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกค้าและสมาชิกทุกคนในครอบครัว เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้มีโอกาสเดินตามความฝัน นำความสำเร็จและความสุขมาสู่ประเทศไทยและผู้คนรอบข้าง ซึ่งเป็นไปตามปรัชญาใหม่ของมาสด้า นั่นคือ “Joy Drives Lives” หรือ ความสุขขับเคลื่อนชีวิต ทั้งนี้ มาสด้าภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่โครงการนี้เกิดจากความตั้งใจในการสร้างสรรค์สังคมให้ดียิ่งขึ้น และมีเยาวชนให้ความสนใจเข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก

โครงการ Mazda U.S. College PREP Junior Golf Championship 2025 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา มีเยาวชนให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมการแข่งขันจำนวนมาก ทั้งเยาวชนไทยและเยาวชนจากนานาชาติ รวมถึงลูกค้า Mazda Family ที่มาสด้าได้มอบสิทธิพิเศษให้โดยเฉพาะ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีเยาวชนเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันที่สหรัฐอเมริกามาแล้ว 20 คน จากการเข้าร่วมการแข่งขันที่จัดขึ้นในประเทศไทย จำนวน 2 แม็ตซ์ โดยมีเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 300 คน สำหรับในปีนี้มาสด้าได้จัดการแข่งขันขึ้น จำนวน 2 แม็ตซ์ เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา และในครั้งนี้เป็นแม็ตซ์แรก สำหรับเยาวชนที่ติดอันดับท็อป 50% แรกของแต่ละประเภทการแข่งขันในครั้งนี้จะได้รับรางวัลพิเศษมากมาย รวมถึงสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขันระดับแนวหน้าโดยไม่ต้องผ่านรอบคัดเลือก ส่วนผู้ที่ทำอันดับดีที่สุด 12 อันดับแรก จากการแข่งขันในแต่ละประเภท ได้แก่ เยาวชนชาย 6 คน เยาวชนหญิง 6 คน จะได้รับรางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับ จากประเทศต้นทางของทวีปเอเชียไปยังสหรัฐอเมริกา และยังได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน Junior World Cup Invitational Kingsmill ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-17 ก.ค. 68 ที่รัฐเวอร์จิเนียร์ สหรัฐอเมริกา

“สำหรับรางวัลในครั้งนี้เปรียบเสมือนการเปิดประตูก้าวแรกสู่ความสำเร็จ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความมานะและความพยายามที่เยาวชนทุกคน พร้อมฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ เพื่อนำมาซึ่งหนทางสู่ความสำเร็จในก้าวต่อไป และไม่ว่าเยาวชนจะได้รับรางวัลในครั้งนี้หรือไม่ แต่ทุกคนที่ได้มายืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ถือเป็น “ผู้ชนะ” ทั้งนี้ มาสด้าพร้อมจัดกิจกรรมดีๆ เพื่อส่งเสริมให้เยวชนได้มีโอกาสเดินตามความฝันของตนเอง โดยจะมีการอัปเดตกิจกรรมต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์ www.mazda.co.th ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทางมาสด้าตั้งใจจัดขึ้นเพื่อลูกค้า Mazda Family ล้วนเป็นเอกสิทธิพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อมอบให้กับลูกค้า แทนคำขอบคุณที่ลูกค้าให้เกียรติเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับครอบครัวมาสด้า ซึ่งมาสด้าให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้การเอาใจใส่ดูแลลูกค้า รถยนต์ทุกคัน และสมาชิกทุกคนในครอบครัวของลูกค้าไปตลอดอายุการใช้งาน พร้อมให้การดูแลลูกค้าเช่นนี้ในโอกาสถัดไป” นายภพนิพิฐ กล่าว

ผลการแข่งขันกอล์ฟเยาวชน Mazda U.S. College PREP Junior Golf Championship 2025

ระดับ Middle School

ประเภทเยาวชนชาย

•ชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ภัคภาคิน เชษฐพงศ์พันธุ์ (Pakpakin Chetphongphan) ประเทศไทย

•รองนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ยูบีน หยาง (Yubeen Yang) ประเทศจีน

•รองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ ประพัฒน์ แทนศิริไชยา (Paphat Tansirichaiya) ประเทศไทย

ประเภทเยาวชนหญิง

•ชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ กิรณา บัตรพรรธนะ (Kirana Batraphuntara) ประเทศไทย

•รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ศิริกาญจน์ วิชย์โกวิทเทน (Sirikarn Vichkovitten) ประเทศไทย

•รองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ กฤษณ์พรรณรจน์ กฤตมโนรถ ( Kritpannarot Kritmanorot) ประเทศไทย

ระดับ High School

ประเภทเยาวชนชาย

•ชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ เควิน ไคซิน เซีย (Kevin Kaixin Xia) ประเทศจีน

•รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ เดวิด ชารลส์ เซอร์เดเนีย (David Charies Serdenia) ประเทศฟิลิปปินส์

•รองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ มิยอน คิม (Miyeon Kim) ประเทศเกาหลีใต้

•รองชนะเลิศอันดับสาม ได้แก่ อิโน ชังส์ (Ino Chung) ประเทศเกาหลีใต้

•รองชนะเลิศอันดับสี่ ได้แก่ เวด สาย มาชิราจู (Wed Sai Machiraju) ประเทศอินเดีย

ประเภทเยาวชนหญิง

•ชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ แพสชั่น ซู (Passion Hsu) ประเทศสิงคโปร์

•รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ศิฮีร์ตรา แมนดาวา (Srihitra Mandava) ประเทศอินเดีย

•รองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ วิชิตา พรมกัลป์ (Wichita Phromkan) ประเทศไทย

•รองชนะเลิศอันดับสาม ได้แก่ นิก เอลิเซีย มิเรียม คามิล (Nik Alicia Miriam Kamil) ประเทศมาเลเซีย

•รองชนะเลิศอันดับสี่ ได้แก่ จียู ลี (Jiyu Lee) ประเทศเกาหลีใต้

ขอเชิญประชุมใหญ่สามัญ และพิธีมอบทุนการศึกษาบุตร-ธิดาสมาชิก ประจำปี 2568

ด้วยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) กำหนดจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 เพื่อรายงานผลการดำเนินงานของสมาคมฯ ในรอบปีที่ผ่านมา และพิธีมอบทุนการศึกษาบุตร-ธิดาสมาชิก ประจำปี 2568 จึงใคร่ขอเรียนเชิญท่านซึ่งเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมฯ เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวตามกำหนดการ ดังนี้

วันจัดกิจกรรม :  วันพุธที่ 7 พฤษภาคม 2568

พิธีมอบทุนการศึกษาบุตร-ธิดาสมาชิก ประจำปี 2568 :  เวลา 10.00-12.00 น.

ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 :  เวลา 13.00-15.30 น.

สถานที่ :  The Halls (ซอย วิภาวดีรังสิต 64)

วาระการประชุมแจ้งเพื่อทราบและพิจารณา
1. รับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567
2. สรุปผลการดำเนินงานสมาคม วาระปี 2567-2568
3. รายงานการเงินสมาคม ประจำปี 2567 และการแต่งตั้งผู้สอบบัญชี ประจำปี 2568          

และขอความร่วมมือสมาชิกแจ้งข้อมูลการเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 มาที่ https://forms.gle/UjrLZc1FEd3VsYUh7

กำหนดการ

กิจกรรมภาคเช้า
10.00 น. เริ่มลงทะเบียน ณ ห้อง Naga Grand Hall ชั้น 2 The Halls
10.30 น. เริ่มพิธีการ
11.50 น. – ถ่ายภาพร่วมกัน
– จบพิธีการ
12.00 น. ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน
กิจกรรมภาคบ่าย
13.00 น. เริ่มลงทะเบียน / ตรวจสอบสถานภาพสมาชิก / ต่ออายุสมาชิก
ถ่ายภาพทำบัตรสมาชิก / ลงทะเบียนทำประกันอุบัติเหตุ
14.00 น.  เริ่มประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568
–  สรุปผลการดำเนินงานสมาคม วาระปี 2567
–  รายงานการเงิน วาระปี 2567-2568 (พฤษภาคม 2567-เมษายน 2568)
–  ทะเบียนสมาชิก และสวัสดิการสมาชิก
–  การแต่งตั้งผู้สอบบัญชี ประจำปี 2568
15.30 น. จบงาน


มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ จับมือพันธมิตร เปิดโครงการ “TRUST” ขับเคลื่อนความปลอดภัยบนถนนในไทย

มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ จับมือพันธมิตร เปิดตัวโครงการ “TRUST” ร่วมขับเคลื่อนความปลอดภัยบนท้องถนนในประเทศไทย

มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และพันธมิตรหลายภาคส่วน ได้แก่ โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ, สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย และ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) เพื่อเปิดตัวโครงการ TRUST (Thailand Road Users Safety through Technology) อย่างเป็นทางการ เพื่อทดสอบแนวทางในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงระบบและการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568

นำโดย ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, มร.ซูซุมุ มัตสึดะ ผู้อำนวยการมูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้, มร.ศรีนิวาสะ โปปุริ ผู้อำนวยการโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ สำนักงานโครงการกรุงเทพมหานคร, ศาสตราจารย์ ดร.มนูกิจ พานิชกุล รองอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย และ นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการใช้เทคโนโลยีมาทำการวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการขับขี่บนท้องถนน เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุและยกระดับความปลอดภัยทางถนนในประเทศไทย

โครงการ TRUST มีจุดเริ่มต้นจากความมุ่งมั่นของโตโยต้าในการส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน โดยถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ริเริ่มขึ้นจาก การประชุม Tateshina*¹ ซึ่งจัดขึ้นโดยบริษัทโตโยต้า ณ ประเทศญี่ปุ่น ในการประชุมดังกล่าว โตโยต้าได้เชิญผู้นำจากหลากหลายอุตสาหกรรมเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางความปลอดภัยบนท้องถนน โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการขับเคลื่อนสังคมสู่ “Vision Zero” หรือ เป้าหมายลดอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือศูนย์ในระดับโลก

*1 Link : https://global.toyota/en/newsroom/corporate/39544702.html

รูปที่ 1: (ซ้าย) การประชุม Tateshina ที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งจัดขึ้นในกลุ่มของ TMF  และ (ขวา) รายชื่อผู้เข้าร่วมอนุกรรมการประชุม Tateshina

จากอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่ยังคงอยู่ในระดับสูงในประเทศไทย ประกอบกับความมุ่งมั่นของโตโยต้าที่ต้องการก้าวสู่การเป็น “Best in Town” มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ จึงได้ริเริ่ม โครงการ TRUST โดยผนึกความร่วมมือกับหลากหลายภาคส่วน เพื่อยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างยั่งยืน การดำเนินงานของโครงการแบ่งออกเป็นหลายระยะ โดยเน้นการนำข้อมูลเชิงลึกมาวิเคราะห์เพื่อระบุสาเหตุของอุบัติเหตุ ผ่าน 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ผู้ใช้ถนน ยานพาหนะ ถนนและโครงสร้างพื้นฐาน

ความคิดริเริ่มที่สำคัญ: ระยะนำร่อง (เฟส 1) และการขยายผลสู่เฟส 2

โครงการทดลองระยะที่ 1 (เมษายน 2567 – มิถุนายน 2568)

ในระยะเริ่มต้นของโครงการ มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ (TMF) ได้ร่วมมือกับ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ทดลองดำเนินงานในพื้นที่จังหวัด ฉะเชิงเทรา โดยใช้ ข้อมูลจากยานพาหนะของโตโยต้า (Probe Data) เพื่อระบุพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย การศึกษานี้มุ่งเน้นไปที่ 5 จุดเสี่ยง ในอำเภอพนมสารคามและอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา โดยวิเคราะห์พฤติกรรมต่างๆ เช่น การเบรกกะทันหัน การเร่งเครื่องอย่างรวดเร็ว การเลี้ยวกระทันหัน

ผลการศึกษาในระยะแรกแสดงให้เห็นว่า Probe Data มีศักยภาพในการระบุจุดเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ยังคงมุ่งเน้นไปที่ยานพาหนะสี่ล้อเป็นหลัก ขณะที่อุบัติเหตุทางถนนส่วนใหญ่ในประเทศไทยมักเกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์ ซึ่งยังคงต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถทำการวิเคราะห์ได้อย่างครอบคลุมและพัฒนาวิธีการการแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

รูปที่ 2 : ตัวอย่างการวิเคราะห์ Probe Data จากรถยนต์

ระยะที่ 2 (พฤษภาคม 2568 – เมษายน 2570)

ในระยะที่ 2 ของโครงการ TRUST มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้จะขยายการใช้แหล่งข้อมูล และเครือข่ายความร่วมมือให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งนำการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงมาใช้ในการประเมินความเสี่ยงและออกแบบมาตรการด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างมีประสิทธิภาพ พื้นที่เป้าหมายหลักในระยะนี้คือ เขตจตุจักร  กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุสูง เนื่องจากลักษณะการจราจรที่หนาแน่น และมีโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ครอบคลุมอย่างทั่วถึง

ในระยะนี้ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด (RVP) จะเข้าร่วมสนับสนุนโครงการ โดยให้ ข้อมูลอุบัติเหตุ ซึ่งจะช่วยเสริมความแม่นยำในการวิเคราะห์ พร้อมนำไปสู่การพัฒนาแนวทางจัดการความปลอดภัยบนท้องถนนที่เหมาะสมกับบริบทของเมืองอย่างแท้จริง

รูปที่ 3: ภาพพื้นที่ทดลองระยะ 2 –ถนนในเขตจตุจักร

ความสำเร็จของโครงการ TRUST เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของกลุ่มพันธมิตรหลากหลายภาคส่วน โดยบทบาทที่ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent)  และแบ่งบทบาทที่ชัดเจน ดังนี้

•กรุงเทพมหานคร (BMA) – สนับสนุนด้านฐานข้อมูล, ภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV), และดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัย พร้อมทั้งเป็นผู้ผลักดันโครงการโดยรวม

•โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (UN-Habitat) – พัฒนาศักยภาพ, สร้างเครือข่ายระดับโลก, และให้ข้อมูลเชิงลึกด้านความปลอดภัยระดับนานาชาติ

•สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) – บริหารจัดการโครงการ, ให้การสนับสนุนทางเทคนิค การวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุและพฤติกรรมเสี่ยง รวมถึงกำกับดูแลด้านวิชาการ

•โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (TMT) – ให้ข้อมูล  probe data และองค์ความรู้จากโครงการ

•โตโยต้าถนนสีขาว เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน มุ่งเน้นการรณรงค์ ส่งเสริม พัฒนาทักษะจากการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่ที่เป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ

•มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ (TMF) – สนับสนุนเงินทุนและเทคโนโลยี รวมถึงการนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Probe Data, ข้อมูลที่บันทึกเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ และข้อมูลอุบัติเหตุ

นอกจากนี้ยังได้รับการสนันสนุนข้อมูลจากพันธมิตร ได้แก่

บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด (RVP) – ให้การสนับสนุนข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนในอดีตเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และปรับปรุงมาตรการความปลอดภัย

ระยะเวลาดำเนินโครงการและแนวทางการขยายผลในอนาคต

โครงการ TRUST จะเริ่มดำเนินการในดือนพฤษภาคม 2568 ถึง เดือนเมษายน 2570 (ระยะเวลา 2 ปี) โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนารูปแบบการป้องกันอุบัติเหตุที่สามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ความสำเร็จและข้อมูลเชิงลึกจากโครงการ TRUST จะถูกนำเสนอในเวทีนานาชาติเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาความปลอดภัยบนท้องถนนในระดับสากลต่อไป

มร.ซูซูมุ มัตสึดะ ผู้อำนวยการมูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ (TMF) กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศเปิดตัวโครงการ TRUST ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย โดยอาศัยการใช้ข้อมูลจากยานพาหนะร่วมกับการวิเคราะห์ขั้นสูง เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมบนท้องถนนในกรุงเทพมหานครให้ ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีความตั้งใจที่จะ ขยายรูปแบบโครงการนี้ไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศไทยในอนาคต วิสัยทัศน์สูงสุดของเราคือการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เป็นศูนย์ ด้วยพลังของ ความร่วมมือ และนวัตกรรมที่สร้างสรรค์”

ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “ความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นวาระสำคัญสำหรับกรุงเทพมหานครและเราต้องดำเนินมาตรการอย่างจริงจังเพื่อลดอุบัติเหตุและรักษาชีวิตผู้คน การจำกัดความเร็ว, ส่งเสริมการสวมหมวกกันน็อกในกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และการปรับปรุงสภาพถนน ล้วนเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำให้ท้องถนนของเราปลอดภัยยิ่งขึ้น มาตรการเหล่านี้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการปกป้องผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน

นอกเหนือจากนโยบาย เรายังมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ดีขึ้น ปรับปรุงทางข้ามถนน และใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายจราจร การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนนต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ผู้ขับขี่ และประชาชนผู้ใช้ทางเท้า หากเราร่วมมือกัน กรุงเทพมหานครจะกลายเป็นเมืองที่ปลอดภัยและน่าอยู่สำหรับทุกคน”

มร.ศรีนิวาสะ โปปุริ ผู้อำนวยการโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ สำนักงานกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “เมืองต่างๆ จำเป็นต้องเร่งความพยายามในการพัฒนาความปลอดภัยทางถนนอย่างเร่งด่วน ที่องค์การยูเอ็น-ฮาบิแทต เราเชื่อว่าการใช้ประโยชน์จากโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ จะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้เมืองมีความปลอดภัยและครอบคลุมมากขึ้น เช่น ความเร็วของยานพาหนะ ปริมาณการจราจร ประเภทของยานพาหนะ และสถานการณ์เสี่ยงที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ

ศาสตราจารย์ ดร.กัณวีร์ กนิษฐ์พงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “จากการดำเนินงานระยะแรกในจังหวัดฉะเชิงเทรา เราได้ใช้ข้อมูลจาก Probe Data ของยานพาหนะร่วมกับเทคโนโลยี AI ในการรวบรวมและวิเคราะห์สาเหตุของอุบัติเหตุ ควบคู่ไปกับวิธีการดั้งเดิมที่ใช้กันในการศึกษาการเกิดอุบัติเหตุทางจราจร (RC – EXPAND) ซึ่งพบว่ามีข้อได้เปรียบหลายประการที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ หนึ่งในนั้นคือการมีข้อมูลที่ครอบคลุมระยะเวลานานกว่า ซึ่งแตกต่างจากการเก็บข้อมูลโดยมนุษย์ที่มักจำกัดอยู่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ อีกทั้งยังช่วยลดอคติจากการประเมินของมนุษย์ นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้ยังให้รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับจราจร เช่น ความเร็วของยานพาหนะ ปริมาณการจราจร ประเภทของยานพาหนะและสถานการณ์เสี่ยงที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ”

“อย่างไรก็ตาม เรายังคงเผชิญกับความท้าทายบางประการในการเก็บรวบรวมข้อมูลประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ความรู้และความเชี่ยวชาญของผู้ใช้ข้อมูล อีกทั้งในระยะนี้ เรายังขาดข้อมูลเกี่ยวกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การวิเคราะห์ครอบคลุมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและความความคืบหน้าต่างๆ ของโครงการ TRUST กรุณาติดต่อ : มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ (Toyota Mobility Foundation – TMF) อีเมล : [email protected]

เกี่ยวกับมูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ (Toyota Mobility Foundation – TMF)

มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ (TMF) ก่อตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม 2557 โดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน (Toyota) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสังคมที่ทุกคนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและอิสระยิ่งขึ้น มูลนิธิฯ แสดงถึงความมุ่งมั่นของโตโยต้าต่อแนวคิด การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ การให้ความเคารพต่อผู้คน โดยใช้ความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่มี เพื่อสร้างระบบการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการเดินทาง มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ (TMF) ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ องค์กรไม่แสวงหากำไร สถาบันวิจัย และพันธมิตรอื่นๆ เพื่อพัฒนาโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) และแก้ไขปัญหาการเดินทางทั่วโลก

มร.อากิโอะ โตโยดะ ประธานมูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ กล่าวไว้ว่า “TMF มุ่งสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก เพื่อช่วยให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”

ที่ผ่านมา TMF ได้นำโครงการและความท้าทายด้านการเดินทางไปดำเนินงานในหลายประเทศ เช่น โครงการสาทรโมเดลและโครงการพระราม 4 โมเดลในประเทศไทย, โครงการ CATCH ในมาเลเซีย, STAMP Challenge ในอินเดีย, Sustainable Cities Challenge และ Mobility Unlimited Challenge ในระดับโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TMF และแนวทางการดำเนินงานได้ที่ www.toyotamobilityfoundation.org 

เรเว่จับมือททท. ส่งเสริมการท่องเที่ยววันสงกรานต์

เรเว่จับมือททท. ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ พร้อมสนับสนุน BYD Sealion 6 DM-i ในกิจกรรม Amazing Songkran

บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจําหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานใหม่ BYD และ DENZA อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ ร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ด้วยการร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมสนับสนุนรถยนต์ BYD SEALION 6 DM-i จำนวน 6 คัน เพื่อรองรับคณะ Social Media Influencer ทั้งไทยและนานาชาติ ระหว่างการร่วมกิจกรรม Amazing SANAE THAI MAHA SONGKRAN Media Fam Trip เมื่อวันที่ 13 – 14 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในรูปแบบ Low Carbon ที่สร้างความตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) และสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยว Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ของประเทศไทย ที่เน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลประเพณีไทย โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ให้เป็นที่รู้จักและโด่งดังในระดับสากล ในวันต้อนรับคณะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มีผู้บริหารให้เกียรติร่วมงานตามภาพซ้าย ดังนี้

•นายวิศิษฎ์ พิทยะวิริยากุล ประธานบริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด (แถวสุดท้ายที่ 2 จากซ้าย)

•นายประวิทย์ วิจิตรธนกูล ผู้จัดการฝ่ายพาณิชย์ บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (แถวสุดท้ายที่ 3 จากซ้าย)

•นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (แถวสุดท้ายที่ 4 จากซ้าย)

•นางสาวเด่นเดือน เหลืองเช็ง ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (แถวสุดท้ายที่ 5 จากซ้าย)

•นางสาวพัชรา อนงค์จรรยา ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (แถวสุดท้ายที่ 6 จากซ้าย)

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “เรเว่มีความยินดียิ่งที่ได้ร่วมมือกับททท. เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย ในเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการสืบสานเทศกาลสงกรานต์ พร้อมกับส่งเสริมให้ชาวต่างประเทศได้ชมความงานของเทศกาลนี้ ผ่าน influencer นานาชาติที่ได้มาร่วมการเดินทางในครั้งนี้ โดยคณะเดินทางท่องเที่ยวตลอดทริปอย่างสะดวกสบาย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปกับ BYD SEALION 6 DM-i”

นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “เรเว่ ได้นำ BYD SEALION 6 DM-i มาสนับสนุนกิจกรรมของททท. เนื่องจากมีคุณสมบัติครบครัน ทั้งพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบายทุกที่นั่งพร้อมพื้นที่บรรทุกสัมภาระจุใจ ที่สำคัญยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ซึ่งเน้นการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพราะสร้างมลพิษต่ำ ทั้งยังรองรับทุกโจทย์การใช้งาน เพราะรองรับทั้งการเสียบปลั๊กชาร์จไฟและเติมเชื้อเพลิง”

เส้นทางการเดินทางของกิจกรรม Amazing SANAE THAI MAHA SONGKRAN Media Fam Trip ในวันแรกจะเน้นการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เป็นหลัก โดยมีจุดหมายแรกเป็นการทำบุญ ณ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร จากนั้น คณะได้เดินทางต่อด้วย BYD SEALION 6 DM-i เพื่อไปร่วมสนุกเทศกาลสงกรานต์ ณ สยาม สแควร์ และ ถนนสีลม หลังสนุกมาทั้งวัน คณะได้มาลิ้มลอง Street Food ที่ลือชื่อระดับโลกบนถนนบรรทัดทอง ก่อนกลับสู่ที่พัก ในวันแรกของกิจกรรม ผู้ร่วมเดินทางได้พิสูจน์ว่า BYD SEALION 6 DM-i ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลักและเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมือง เพราะสามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวเป็นระยะทางกว่า 104 กิโลเมตร (NEDC) ทั้งยังขับขี่ได้อย่างคล่องตัว จากการตอบสนองทันใจเช่นเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า

ในวันถัดมา คณะเดินทางได้มุ่งหน้าสู่สมุทรปราการด้วย BYD SEALION 6 DM-i เพื่อชมความงามของการท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรม โดยมีจุดหมายเป็นชุมชมกอบัว คุ้มบางกระเจ้า และ ชุมชมชาวมอญ อำเภอพระประแดง พร้อมสัมผัสวีถีชีวิตคนท้องถิ่น และชิมอาหารพื้นเมือง ตลอดการเดินทางเป็นระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร คณะเดินทางได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ของ BYD SEALION 6 DM-i อีกรูปแบบ ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากันอย่างลงตัว โดยปรับรูปแบบการทำงานของระบบขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติระหว่าง EV mode, HEV Series Mode และ HEV Parallel Mode ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างนุ่มนวล เนื่องจากลดแรงสะเทือนและเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ ที่สำคัญยังใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนั้น ห้องโดยสารยังมีพื้นที่กว้างขวาง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน

สัมผัส BYD SEALION 6 DM-i และยนตรกรรม BYD ทุกรุ่น ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ BYD ใกล้บ้านท่านทั้ง 150 สาขาทั่วประเทศ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของรถยนต์ทุกรุ่นได้ที่ reverautomotive.com สำหรับรถยนต์ BYD หรือ denzathailand.com สำหรับรถยนต์ DENZA ท่านยังสามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ที่ Official Facebook Page: BYD REVER Thailand

วิริยะประกันภัย ประชุมผู้จัดการสาขาทั่วประเทศ

วิริยะประกันภัย จัดประชุมผู้จัดการสาขาทั่วประเทศ มุ่งส่งเสริมงานบริการ ผ่านเครือข่ายตัวแทน – คู่ค้าพันธมิตร

นายดลเดช สัจจวีระกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติเป็นประธาน “การประชุมผู้จัดการสาขาทั่วประเทศ” พร้อมนำคณะผู้บริหารระดับสูง และผู้จัดการสาขาทั่วประเทศ เข้าร่วมการประชุมวางแผนกำหนดแนวทางการดำเนินงาน ประจำปี 2568 โดยมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพของตัวแทนประกันวินาศภัย และยกระดับมาตรฐานการดูแลคู่ค้าทางธุรกิจของบริษัทฯ ให้มีความสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ผ่านโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากร และการสนับสนุนเครื่องมือทางการตลาด ที่ช่วยส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันให้กับเครือข่ายตัวแทน ณ โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์การบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าผู้เอาประกันภัย ด้วยบริการประกันวินาศภัยที่มีคุณภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกัน จึงได้จัดการประชุมผู้จัดการสาขาทั่วประเทศขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อยกระดับคุณภาพงานบริการงานสาขา ทั้ง 6 ภูมิภาค และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายตัวแทนและพันธมิตรทางธุรกิจ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้เอาประกันภัยได้อย่างรวดเร็ว เป็นธรรม และได้รับความคุ้มครองสูงสุด

YAMAHA NMAX 125 Tech MAX คว้ารางวัลระดับโลก Red Dot Design Award 2025

All New YAMAHA NMAX 125 Tech MAX การันตีความเป็นที่สุด คว้ารางวัลระดับโลก Red Dot Design Award 2025 ยืนยันความเป็นผู้นำด้านดีไซน์ต่อเนื่อง 14 ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2012

บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญอีกครั้ง เมื่อ All New YAMAHA NMAX 125 Tech MAX สกู๊ตเตอร์พรีเมียมรุ่นล่าสุดของค่าย สามารถคว้ารางวัล Red Dot Award: Product Design 2025 หนึ่งในรางวัลด้านการออกแบบระดับโลกที่ทรงเกียรติที่สุด ซึ่งนับเป็นปีที่ 14 ติดต่อกันที่ผลิตภัณฑ์ของยามาฮ่าได้รับรางวัลนี้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2012

โดย All New YAMAHA NMAX 125 Tech MAX ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากพื้นฐานของ NMAX ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 โดยยังคงรักษา DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล MAX Series ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผสมผสานสไตล์สปอร์ตที่โดดเด่นเข้ากับสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ ในขนาดตัวรถที่กะทัดรัดได้อย่างลงตัว

All New YAMAHA NMAX 125 Tech MAX ปี 2025 ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Condensed Elements” หรือ “การออกแบบอย่างลงตัว” เพื่อยกระดับทั้งในเรื่องของความสะดวกสบาย ความคล่องตัว และฟังก์ชันการใช้งาน โดยมาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่ด้วยไฟหน้า – ไฟท้ายแบบ LED โดยมีขนาดที่เล็กลง และหน้าจอเรือนไมล์แบบ TFT ที่ล้ำสมัย ช่วยลดขนาดตัวรถโดยรวมลงได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยเบาะนั่งดีไซน์หรูและโทนสีพิเศษที่ยกระดับความ พรีเมียมเหนือกว่ารุ่นมาตรฐาน

สำหรับรางวัล Red Dot Design Award จัดขึ้นโดย Design Zentrum Nordrhein Westfalen ประเทศเยอรมนี และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดรางวัลด้านการออกแบบระดับโลก

สมาคมรถโบราณฯ ปลื้มมติ ครม. ไฟเขียวนำเข้ารถโบราณ

สมาคมรถโบราณฯ เผยความคืบหน้ามติ ครม. ไฟเขียวนำเข้ารถโบราณ เน้นส่งเสริมอนุรักษ์ หนุนงานช่างไทย สร้างซอฟท์เพาเวอร์ไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ วอนรัฐเร่งวางเกณฑ์อนุญาตนำเข้ารถโบราณ

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อ 12 มีนาคม 2567 และ 22 เมษายน 2568 อนุมัติกฎหมายนำเข้ารถโบราณเพื่อการอนุรักษ์นั้น

สมาคมฯ ต้องขอขอบคุณภาครัฐที่รับฟังข้อมูลด้วยดีมาตลอด โดยขอสรุปมติ ครม. และประเด็นที่เคยร่วมหารือกับหน่วยงานต่างๆ กรณี “การนำเข้ารถโบราณที่มีอายุเกิน 30 ปี” ซึ่งจะมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ของ 6 หน่วยงานรัฐ ดังนี้

1. กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดรับฟังความคิดเห็นแล้วและอยู่ระหว่างเตรียมออกประกาศอนุญาตให้นำเข้ารถยนต์โบราณตามมติ ครม.

2. กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างปรับเกณฑ์ยกเว้นเรื่องการปล่อยไอเสียของรถโบราณ ซึ่งจะถูกจำกัดจำนวนวันใช้รถ

3. กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างยกร่างประกาศลดอัตราอากร และยกเว้นอากรศุลกากร สำหรับรถยนต์โบราณ สำหรับรถยนต์นั่งตามพิกัดอัตราศุลกากร ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปี แต่ไม่เกิน 100 ปี และพิกัดอัตราศุลกากรรถยนต์โบราณที่มีอายุตั้งแต่ 100 ปี

4. กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างออกประกาศกำหนดภาษีสรรพสามิตที่จะใช้จัดเก็บภาษีรถยนต์โบราณอายุเกิน 30 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ไม่รวมถึงรถกระบะ และมอเตอร์ไซค์ โดยคิดคำนวณภาษีจากราคาประเมินสากลที่เป็นปัจจุบัน และถูกประกาศโดยกรมสรรพสามิต ทั้งนี้คาดว่าจะกำหนดอัตราขั้นต่ำที่ 2 ล้านบาท

5. กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ผลักดันเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มบทนิยามรถโบราณกำหนดขนาด ลักษณะ ของแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์โบราณเป็นป้ายสีดำ ตัวอักษรสีขาว

6. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมออกกฎให้รถยนต์โบราณชุดนี้วิ่งได้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันที่นำไปจัดแสดงตามกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจำนวนวันต้องรอประกาศเป็นทางการอีกครั้ง

“การอนุญาตนำเข้ารถโบราณช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์รถโบราณ และรถคลาสสิคให้คึกคักขึ้น เก็บภาษีได้เพิ่ม ช่วยสร้างงานซ่อมบูรณะให้ช่างไทย ส่งเสริมซอฟท์พาวเวอร์  เพิ่มมนต์เสน่ห์ให้การท่องเที่ยวได้อย่างดี  สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทยพร้อมขยายกิจกรรมประจำปีต่างๆ ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม” นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี กล่าวเพิ่มเติม

เอเอเอสฯ ชวนสัมผัสปอร์เช่พลังงานไฟฟ้าอันล้ำสมัย

เอเอเอสฯ ชวนสัมผัสปอร์เช่พลังงานไฟฟ้า สุดยอดนวัตกรรมแห่งความแรงและความล้ำสมัย ณ เอเอเอส-เฮาส์ เอ็มสเฟียร์

เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแห่งแรกในประเทศไทย ถ่ายทอดอนาคตแห่งนวัตกรรมยานยนต์ผ่านการจัดแสดงยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้คอนเซปต์ “Electrified DNA” ที่ตอกย้ำจิตวิญญาณความสปอร์ตและสมรรถนะระดับตำนานของปอร์เช่อย่างอย่างแท้จริง เพื่อให้ชาว เอ็ม ดิสทริค ได้สัมผัสตัวตนอันทรงพลังของปอร์เช่ในยุคใหม่ อาทิ ปอร์เช่ มาคันน์ 4 (Macan 4), ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) และ ปอร์เช่ ไทคานน์ 4 เอส ครอส ทัวริสโม (Taycan 4S Cross Turismo) พร้อมต้อนรับผู้ที่หลงใหลและเหล่าสมาชิกครอบครัวปอร์เช่ ณ เอเอเอส-เฮาส์ ชั้น 2  ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์) ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา

นำขบวนสู่อนาคตด้วย มาคันน์ 4 (Macan 4) สปอร์ตเอสยูวีพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ถ่ายทอดสมรรถนะในแบบ E-Performance ได้อย่างเหนือระดับ ผสานดีไซน์สปอร์ตและห้องโดยสารกว้างขวางที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกวัน พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยภายใต้แนวคิด ‘Keep Your Essence’ มาคันน์ 4 คันนี้ มาขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุดแบบ PSM (Permanent Magnet Synchronous Motor) ที่ให้พละกำลังสูงสุด 408 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม. ภายใน 5.2 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 220 กม./ชม. อีกทั้งพิสัยการขับขี่สูงสุดถึง 612 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP พร้อมสีตัวถังสุดสดใสอย่าง Frozen Blue Metallic

ตามมาด้วย ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า 4 ประตู  ที่ผสานดีไซน์ใหม่อันโดดเด่นและหรูหราเข้ากับเส้นสายที่เฉียบคมยิ่งขึ้น ในสีตัวถังสุดสุดหรูหราและทันสมัยอย่าง Shade Green อีกทั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมถ่ายทอดอารมณ์แห่งการขับขี่ที่มากกว่าแค่ความรู้สึกแบบ ‘Overfeel’ สร้างความตื่นเต้นในทุกการขับขี่ด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 410 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.8 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 230 กม./ชม. อีกทั้งพิสัยการขับขี่สูงสุดถึง 559 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP พิเศษมากยิ่งขึ้นด้วย Performance Battery Plus ที่จะช่วยเพิ่มพละกำลังแรงม้าเป็น 435 แรงม้า พร้อมแรงบิด ขยับขึ้นเป็น 420 นิวตันเมตร

ปิดท้ายการขับเคลื่อนสู่อนาคตด้วย ปอร์เช่ ไทคานน์ โฟร์ เอส ครอส ทัวริสโม (Taycan 4S Cross Turismo) ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าดีไซน์โดดเด่นรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ผสานความอเนกประสงค์เข้ากับความหรูหรา มาในสีตัวถังสุดโดดเด่นอย่าง Neptune Blue พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ไว้ใจได้ในทุกเส้นทาง ถ่ายทอดจิตวิญญาณในแบบ ‘Soul, Electrified’ มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 571 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.1 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 240 กม./ชม. อีกทั้งพิสัยการขับขี่สูงสุดถึง 488 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP

ตลอดช่วงเวลาการจัดแสดง เอเอเอสฯ พร้อมมอบประสบการณ์เหนือระดับ ด้วยเซอร์ไพรส์ใหม่ๆ ที่ได้รับการนำเสนออย่างต่อเนื่อง ผ่านการปรับเปลี่ยนคอนเซปต์ให้สดใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสบรรยากาศที่หรูหราทันสมัย พร้อมการต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยกาแฟและของว่างสูตรพิเศษจาก SHADE COMMUNE ร้านกาแฟแบบสเปเชียลตี้โดย เอเอเอส กรุ๊ป ที่พร้อมเติมเต็มทุกโมเมนต์ให้ล้ำค่าและน่าประทับใจยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกชมและเลือกซื้อสินค้า Porsche Lifestyle หลากหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือของสะสม ที่สะท้อนตัวตนของผู้หลงใหลในโลกแห่งปอร์เช่ได้อย่างมีสไตล์

เอเอเอส–เฮาส์ ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าในการเป็นมากกว่าศูนย์กลางสำหรับผู้ที่หลงใหลในยานยนต์ระดับลักซ์ชัวรี เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ที่เปิดโอกาสให้สมาชิกครอบครัวเอเอเอสฯ และผู้ที่หลงใหลในโลกแห่งยานยนต์ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับโลกแห่งยนตรกรรม เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ที่รักการขับขี่แบบไร้ขีดจำกัด สำหรับผู้ที่ทำการจองรถยนต์ปอร์เช่ที่ เอเอเอส–เฮาส์ จะได้รับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษพร้อมของขวัญสุดพรีเมียมที่คัดสรรมาโดยเฉพาะอีกด้วย

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ฮอนด้า แต่งตั้ง “โคจิ อิวานามิ” นั่งประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ

ฮอนด้า ประกาศแต่งตั้ง “โคจิ อิวานามิ” ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ ตั้งเป้ามัดใจลูกค้าด้วยการส่งมอบประสบการณ์ขั้นกว่าที่เชื่อมโยงในทุกทัชพอยต์ (Touchpoint) ผ่านการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ พร้อมผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศแต่งตั้ง นายโคจิ อิวานามิ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป ด้วยประสบการณ์ที่แข็งแกร่งอย่างรอบด้าน ทั้งการวิจัยและพัฒนายานยนต์ การพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์ โดยการเข้ารับตำแหน่งฯ ของนายโคจิ อิวานามิ ในครั้งนี้ พร้อมที่จะผลักดันและขับเคลื่อนคุณค่าหลักของฮอนด้าไปอีกขั้น เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ อีกทั้งมุ่งมั่นที่จะยกระดับผลิตภัณฑ์ให้สร้างความผูกพันกับลูกค้า โดยทำให้ฮอนด้ากลายเป็นเพื่อนคู่ใจที่ลูกค้าไว้วางใจด้วยบริการหลังการขายที่อุ่นใจไร้กังวลในทุกเส้นทาง

นายโคจิ อิวานามิ มีความหลงใหลในรถยนต์มาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมศึกษา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนตร์สูตรหนึ่ง หรือ ฟอร์มูลาวัน (Formula One) ที่ฮอนด้าเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เขาศึกษาต่อด้าวิศวกรรมเครื่องกล ด้วยเป้าหมายที่แน่วแน่ในการร่วมงานกับฮอนด้า เพื่อสร้างสรรค์รถยนต์ในแบบที่เขาใฝ่ฝัน

ในปีพ.ศ. 2546 นายโคจิ อิวานามิ เริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับฮอนด้าในตำแหน่งวิศวกรออกแบบระบบปรับอากาศ ณ บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนารถยนต์อย่างเต็มรูปแบบ เขาจึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์รถยนต์ฮอนด้า รุ่นต่างๆ รวมถึงมีบทบาทเป็นผู้ช่วยหัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนา ฮอนด้า เอชอาร์-วี (พ.ศ.2557)

ที่เป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในระดับโลกและประเทศไทย จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างรอบด้าน จึงได้รับโอกาสก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนารถยนต์ โดยได้รับผิดชอบในกระบวนการพัฒนารถยนต์ ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผน การออกแบบ การวิจัยและพัฒนา การผลิต และการขาย

ด้วยผลงานที่สร้างคุณค่าให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง นายโคจิ อิวานามิ จึงได้รับความไว้วางใจในการนำฮอนด้าไปสู่การเติบโตอีกขั้น โดยเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการหน่วยธุรกิจ ส่วนงานยานยนต์ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และต่อมาได้รับโอกาสให้บริหารงานธุรกิจของฮอนด้าในต่างประเทศ โดยได้ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายธุรกิจ บริษัท อเมริกัน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงและเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของฮอนด้า โดยดูแลทั้งด้านกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ การวิจัยและพัฒนาและแผนการขายสำหรับรถยนต์รุ่นหลัก เริ่มจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ก่อนที่จะขยายไปดูแลเทคโนโลยียานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (BEV) และยังได้ขยายบทบาทการบริหารจัดการในการดูภาพรวมกลยุทธ์ทางธุรกิจตลอดจนการพัฒนาแบรนด์ทั่วตลาดสหรัฐอเมริกา

ด้วยประสบการณ์ที่ครอบคลุมรอบด้านกว่า 20 ปี การเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารและซีอีโอในครั้งนี้ สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของฮอนด้า โดยมีนายโคจิ อิวานามิ ที่พร้อมนำทัพฮอนด้าสู่การแข่งขันที่เข้มข้นในตลาด

ในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่

นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอของ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า คือเพื่อนคู่ใจที่ไว้วางใจได้ในทุกเส้นทาง สร้างความผูกพันเชื่อมโยงกับลูกค้า ควบคู่ไปกับการส่งมอบยนตรกรรมอันยอดเยี่ยมที่เสริมสร้างแรงบันดาลใจและความมั่นใจ เพื่อก้าวสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ แห่งการขับเคลื่อน โดยเรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าแก่ลูกค้าในทุกทัชพอยต์ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่นและไว้วางใจได้ในผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขายของเรา ในขณะที่ก้าวเข้าสู่ยุคการขับเคลื่อนแห่งอนาคต เป้าหมายของผมคือการยกระดับและตอกย้ำความแข็งแกร่งของฮอนด้าในประเทศไทย เพื่อที่จะนำเสนอประสบการณ์ที่ตอบโจทย์และเหนือความคาดหมายของลูกค้าไปอีกขั้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจตลอดการเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า”

ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่แข็งแกร่ง นายโคจิ อิวานามิ พร้อมนำ ฮอนด้า ก้าวไปข้างหน้าโดยให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าระยะยาวแก่ลูกค้า ผ่านผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ บริการที่ไร้รอยต่อและความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับตัวแทนเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยยึดมั่นในคุณค่าหลักของแบรนด์โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงาน ฮอนด้า ตั้งเป้าที่จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตยานยนต์ในประเทศไทย พร้อมเติบโตเคียงข้างคนไทยอย่างต่อเนื่อง และสานต่อพันธกิจในฐานะองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไปอย่างยั่งยืน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save