- Advertisement -
23.8 C
Bangkok
Home Blog Page 3

เอ็มจี เผยโฉม NEW MG IM5 และ NEW MG ETERRON 9 ในงาน Motor Expo 2025

เอ็มจี เผยโฉม NEW MG IM5 และ NEW MG ETERRON 9 ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมข้อเสนอพิเศษครบทุกรุ่น ในงาน Motor Expo 2025

กรุงเทพฯ – 28 พฤศจิกายน 2568 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ชูวิสัยทัศน์ GLOCAL Strategy ผสานเทคโนโลยีและองค์ความรู้ระดับโลกมาประยุกต์ให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ชูยนตรกรรรมไฮไลท์ NEW MG IM5 รถ Premium Intelligent e-Sedan ที่จะเข้ามาเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอในกลุ่มพรีเมียมอีวีต้นปีหน้า และการจัดแสดงกระบะอีวี NEW MG ETERRON 9 ครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน ชูการบริการหลังการขายที่ครบวงจรและมีความพร้อมในทุกมิติ และจุดเด่นที่แตกต่างอย่าง EV LIFETIME WARRANTY รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน โดยไม่จำกัดระยะทางและผู้ครอบครองรถ พร้อมมอบหลากข้อเสนอพิเศษส่งท้ายปีครบทุกรุ่น เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นเจ้าของยนตรกรรม เอ็มจี ได้ง่ายและคุ้มค่ากว่าที่เคย

ในทศวรรษที่ 2 เอ็มจี มุ่งขับเคลื่อนองค์กรภายใต้วิสัยทัศน์ “GLOCAL Strategy” (Global + Local) ที่ผสานเทคโนโลยีระดับโลกเข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคไทย เพื่อมุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเทียบชั้นยานยนต์โลก ควบคู่กับการพัฒนาการบริการ แนวทางการทำการตลาด รวมถึงกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับในงาน Motor Expo 2025 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งงานใหญ่แห่งปีที่ เอ็มจี พร้อมส่งมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภคในช่วงสุดท้ายก่อนสิ้นปี

นายซู๋ว์ หยิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด กล่าวว่า “งาน Motor Expo 2025 เอ็มจี มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ‘SMART HUMAN FORWARD’ สะท้อนแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อมนุษย์ และการก้าวไปข้างหน้าสู่อนาคตแห่งการเดินทางที่ยั่งยืน เพราะเทคโนโลยีไม่ใช่แค่สิ่งที่ล้ำหน้า แต่เป็นสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตของผู้คนง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเต็มไปด้วยความสบายใจในทุกเส้นทาง ภายในงานนี้ เอ็มจี ได้นำเสนอยานยนต์ที่มากด้วยนวัตกรรมครอบคลุมทุกระบบขับเคลื่อน นำโดย 2 รุ่นไฮไลท์อย่าง NEW MG IM5 ซึ่งเป็นรถ Premium Intelligent e-Sedan มีขนาดตัวรถยาวเกือบ 5 เมตร พร้อมตัวถังที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยี IM Digital Chassis ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบช่วงล่างและพวงมาลัย ระบบเลี้ยวสี่ล้อ ทำให้ NEW MG IM5 มีการควบคุมที่นิ่ง คล่องแคล่ว มั่นใจในทุกสถานการณ์การขับขี่ ที่มากไปกว่านั้น คือมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP ซึ่งยนตรกรรมรุ่นนี้พร้อมเข้ามาเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอในกลุ่มรถพรีเมียมอีวีช่วงต้นปีหน้า รวมถึงการจัดแสดงครั้งแรกในอาเซียนของ NEW MG ETERRON 9 รถกระบะไฟฟ้าที่โดดเด่นด้วยสมรรถนะการขับขี่ให้กำลัง 436 แรงม้า จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตขนาด 102 kWh สามารถวิ่งไกลถึง 430 กิโลเมตร สะดวกสบายด้วยระบบ ห้องโดยสารที่กว้างขวาง พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP”

ในงานนี้ เอ็มจี ยังได้นำยนตรกรรมคุณภาพครบทุกระบบขับเคลื่อนมาจัดแสดงและจำหน่าย นำโดย NEW MG S5 EV รถไฟฟ้า B-SUV ยนตรกรรมแห่งความภาคภูมิใจของ เอ็มจี ที่สามารถคว้ารางวัล THAILAND EV OF THE YEAR 2025 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) นับเป็นปีที่ 3 ของ เอ็มจีที่คว้ารางวัลติดต่อกัน ต่อจาก NEW MG4 ELECTRIC ที่ได้รับรางวัลนี้ในปี 2023 และ ALL NEW MG3 HYBRID+ ที่ได้รับรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR ในปี 2024 ซึ่งล้วนเป็นรางวัลที่ได้รับการโหวตและยอมรับจากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย สะท้อนถึงคุณภาพและความเชื่อมั่นที่มีต่อแบรนด์ เอ็มจี มาอย่างต่อเนื่อง

มากไปกว่านั้น เอ็มจี ยังให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าในระยะยาว โดยให้ความสำคัญกับศูนย์บริการและระบบ หลังการขายครบวงจร ทั้งการบริหารจัดการอะไหล่ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลลูกค้าทั่วประเทศ และจุดเด่นที่แตกต่างกับการเป็นแบรนด์ที่มอบ “EV LIFETIME WARRANTY” รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง

ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน โดยไม่จำกัดระยะทางและผู้ครอบครองรถ การันตีด้วยรางวัล แคมเปญยอดเยี่ยมแห่งปี ในฐานะแบรนด์ที่มีแคมเปญยอดเยี่ยมแห่งปี ด้วย EV LIFETIME WARRANTY จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ซึ่งล้วนสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ เอ็มจี ในการยกระดับมาตรฐานรถยนต์ไฟฟ้าและบริการหลังการขายอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า เอ็มจี และเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเยี่ยมชมรถยนต์ เอ็มจี และรับข้อเสนอสุดพิเศษได้ที่บูธ เอ็มจี หมายเลข A07 อาคาร ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี รวมถึงโชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2568 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ mgcars.com

GWM เปิดราคา WEY G9 ที่ 2.349 ล้านบาท

GWM เปิดตัว WEY G9 ลักชัวรี่ MPV ราคา 2.349 ล้านบาท จัดเต็มด้วยเทคโนโลยี Hi4 สุดล้ำ ความสบายเหนือระดับ และความปลอดภัยขั้นสูง พร้อม WEY Exclusive Privileges เอกสิทธิ์เหนือระดับสำหรับลูกค้าคนสำคัญ

กรุงเทพฯ 28 พฤศจิกายน 2568 – GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ภายใต้แนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด GWM เดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาดรถลักชัวรี่ MPV ในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัว WEY G9 รถ MPV ลักชัวรี่รุ่นแรกจากแบรนด์ GWM WEY ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยแนวคิด The Crafted Masterpiece เสมือนประติมากรรมชิ้นเอก ที่มอบประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับ ผ่านงานออกแบบที่ประณีต หรูหรา พร้อมเทคโนโลยี Hi4 อันล้ำสมัย ความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัยระดับแฟลกชิป โดย WEY G9 รุ่น Hi4 Ultra เปิดตัวด้วยราคาเพียง 2,349,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสยนตรกรรมรุ่นใหม่ พร้อมทัพรถพลังงานใหม่ทุกรุ่นของ GWM ได้อย่างใกล้ชิด ณ บูธ GWM A05 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ถึง 10 ธันวาคม 2568

WEY G9 คือ ลักชัวรี่ MPV ยุคใหม่ ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้บริหารระดับสูง นักธุรกิจ และข้าราชการระดับสูง รวมถึงการใช้งานของครอบครัวระดับไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเจรจาธุรกิจ หรือแม้แต่การท่องเที่ยวพักผ่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่ต้องการทั้งสมรรถนะ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ โดย WEY G9 มาพร้อมสีภายนอกที่บ่งบอกถึงความเรียบหรูเหนือระดับถึง 4 สี ได้แก่ สีขาว Aurora White, สีทอง Superior Gold, สีเทา Wisdom Grey และ สีดำ Nebula Black

และเพื่อตอบโจทย์ความเป็น The Crafted Masterpiece อย่างเป็นรูปธรรม WEY G9 มาพร้อม WEY Exclusive Privileges มอบประสบการณ์สุดพิเศษและการบริการเหนือระดับให้กับลูกค้าทุกท่าน ที่มอบความสะดวกสบาย อุ่นใจและไร้กังวลในทุกการเดินทาง และในทุกช่วงเวลาของการเป็นเจ้าของ ได้แก่

•Personal Assistant ผู้ช่วยส่วนตัวพิเศษเฉพาะลูกค้า WEY G9 เท่านั้น ที่จะช่วยดูแลในทุกที่ทุกเวลา และทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง อาทิ การแนะนำตอบคำถามด้านการใช้งานรถ ประสานงานแก้ไขกรณีมีปัญหาทางเทคนิค แจ้งเตือนและนัดหมายนำรถเข้ารับบริการ แจ้งเตือนและประสานงานต่ออายุทะเบียนรถยนต์หรือประกันอุบัติเหตุรถยนต์ประจำปี เป็นต้น

•รถทดแทนการใช้งานรุ่น WEY G9 พร้อมบริการรับ-ส่ง ในกรณีที่รถ WEY G9 มีปัญหาทางด้านเทคนิคในระยะเวลารับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และต้องใช้ระยะเวลาในการซ่อมเกิน 2 วันทำการ GWM ขอมอบรถทดแทนการใช้งานเป็นรุ่น WEY G9 พร้อมบริการส่งและรับรถถึงมือท่าน เพื่อให้ลูกค้า WEY G9 ได้รับความสะดวกสบายอย่างต่อเนื่อง 

•บริการช่วยเหลือฉุกเฉินแบบเอ็กคลูซีฟ ไม่ว่ารถ WEY G9 จะไปเกิดปัญหาทางด้านเทคนิคอยู่ที่ใด ลูกค้า

WEY G9 สามารถเลือกรับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) ดังต่อไปนี้

-บริการรถลีมูซีนเพื่อรับ-ส่งลูกค้าคนพิเศษจากจุดเกิดเหตุเพื่อให้ท่านถึงที่หมายได้อย่างสะดวกและปลอดภัย (เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล)

-บริการช่วยเหลือค่าเดินทางต่อจากจุดเกิดเหตุสู่จุดหมายปลายทาง

-บริการจัดหาตั๋วเครื่องบินจากสนามบินใกล้จุดเกิดเหตุสู่จุดหมายปลายทาง

-บริการจัดหาที่พักเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าระหว่างรอการแก้ไขปัญหาทางด้านเทคนิค

-บริการช่วยเหลือฉุกเฉินแบบเอ็กคลูซีฟไม่ครอบคลุมกรณีอุบัติเหตุทุกกรณี และจำกัดมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทต่อเหตุการณ์ โดยจะคำนวณจากมูลค่าที่เกิดขึ้นตามจริง ทั้งนี้การบริการดังกล่าวไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ และมีระยะเวลา 5 ปี นับจากวันรับมอบรถ

-บริการ Pick-up & Delivery GWM ขอมอบบริการรับ-ส่งรถเพื่อเข้ารับการตรวจเช็กระยะปีละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 5 ปี มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อปี ให้กับลูกค้า WEY G9

-การบำรุงรักษา GPSI แบบไร้กังวล มอบความอุ่นใจในทุกการเช็กระยะ ด้วยบริการฟรีค่าแรงและค่าอะไหล่จำนวน 10 ครั้ง ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

นอกจากนี้ WEY G9 ยังมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปีเต็ม ฟรี ค่าแรงและค่าอะไหล่บำรุงรักษาตามระยะทาง (GPSI) 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันคุณภาพรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ปลั๊กอินไฮบริด 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) โดย GWM จะเริ่มส่งมอบ WEY G9 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2569 เป็นต้นไป

** เงื่อนไขการให้บริการเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดได้ที่ GWM Thailand – Service

สำหรับ WEY G9 โดยโดดเด่นใน 3 มิติสำคัญ หรือ 3C ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริหารยุคใหม่อย่างแท้จริง ได้แก่

•Confidence มั่นใจในทุกเส้นทางด้วยสมรรถนะระดับแฟลกชิป: WEY G9 มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังอัจฉริยะ DHT ให้กำลังรวมสูงสุด 442 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 642 นิวตันเมตร รองรับการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนสูงสุดถึง 170 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) พร้อมถังน้ำมัน 58 ลิตร มอบระยะทางขับขี่รวมกว่า 1,000 กิโลเมตร เหมาะสำหรับผู้บริหารที่ต้องเดินทางต่อเนื่องทั้งภายในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องจุดชาร์จ หัวใจหลักของสมรรถนะอยู่ที่เทคโนโลยี Hi4 – Hybrid Intelligent 4-Wheel Drive ระบบไฮบริดขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะที่ผสาน “สามแหล่งพลังงาน + เก้าโหมดการทำงาน” สามารถปรับเปลี่ยนระบบการทำงานเพื่อรองรับทุกสภาพถนน ตั้งแต่พื้นผิวลื่นจนถึงการเข้าโค้งด้วยความเร็ว มาพร้อมระบบ ITVC ที่สามารถปรับแรงบิดแบบเรียลไทม์ภายใน 0.01 วินาที เพิ่มเสถียรภาพ ลดอาการลื่นไถล และมอบความมั่นใจสูงสุดในทุกสถานการณ์ โดยเทคโนโลยี Hi4 ได้รับรางวัลสูงสุดจาก China SAE ปี 2025 ตอกย้ำความเหนือชั้นด้านวิศวกรรมยานยนต์

•Comfort ความสบายเหนือระดับที่สัมผัสได้จริง: ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้โปร่งโล่ง เดินผ่านสะดวกด้วยช่องกลางที่กว้างถึง 170 มิลลิเมตร นอกจากนี้ เบาะยังหุ้มด้วยหนัง Nappa คุณภาพสูงที่ให้สัมผัสนุ่ม หรูหรา ระบายอากาศได้ดี เบาะแถวสองแบบ Zero Gravity Seat ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของสภาวะไร้น้ำหนักในเทคโนโลยีอวกาศของ NASA ปรับเข้ามุม Golden Angle เพื่อให้หัวใจและหัวเข่าอยู่ระดับเดียวกัน มอบความสบายเกินพิกัด รองรับการเดินทางยาว ๆ ของผู้บริหาร เพิ่มความผ่อนคลายด้วยระบบนวดไฟฟ้า 6 โหมด ระบบระบายอากาศ พร้อมตู้เย็นภายในรถขนาดใหญ่ 12.5 ลิตร เปิดได้ทั้งด้านหน้า (Front Armrest) และด้านหลังแบบลิ้นชัก รองรับทั้งโหมดทำความเย็น 0–15°C และโหมดอุ่น 35–50°C มอบความสะดวกสบายขั้นสุดให้กับทุกการเดินทาง

•Convenience ความสะดวกที่ชาญฉลาดและปลอดภัย: WEY G9 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Coffee OS 3.3 สามารถแสดงสถานะรถในรูปแบบภาพสามมิติแบบเรียลไทม์ รองรับคำสั่งเสียงมากถึง 21 ภาษาและหลายสำเนียง ควบคุมทุกอย่างด้วยปลายนิ้ว เช่น สั่งเปิดฝาท้าย ปรับอุณหภูมิ หรือควบคุมระบบเบาะโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน รองรับ Petal Maps Navigation แบบ 3 มิติ การเชื่อมต่อกับแอปผ่าน GWM App Store และระบบความปลอดภัยไซเบอร์ระดับองค์กรแบบ End-to-End เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้ที่ต้องจัดการข้อมูลสำคัญ ทั้งยังมีระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะมากถึง 28 รายการ ถุงลมนิรภัย 6 จุด และโครงสร้างตัวถังที่ทำจากเหล็กกล้าสัดส่วนสูงถึง 83.01 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงระบบปกป้องแบตเตอรี่หลายชั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในทุกการเดินทาง

สัมผัส WEY G9 – The Crafted Masterpiece ที่คุณจะต้องหลงใหลในความลักชัวรี่ ความล้ำสมัย และความสะดวกสบายได้แล้ววันนี้ และเตรียมพบกับการเปิดตัว NEW GWM POER SAHAR DIESEL รถกระบะสมรรถนะสูงขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม ที่จะมาเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกไลฟ์สไตล์ โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ณ บูธ GWM A05 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

มิตซูบิชิ-เอ็มจี-ยามาฮ่า คว้ารางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ประกาศผลการตัดสินรางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 จากรถที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบ Final List จำนวน 23 รุ่น ซึ่งมีการให้คะแนนรอบสุดท้าย ณ ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ หรือ ATTRIC จ.ฉะเชิงเทรา โดยได้รับความอนุเคราะห์สถานที่จัดการทดสอบจากสถาบันยานยนต์ กระทรวงอุตสหากรรม โดยงานมอบรางวัล Thailand Car of The Year 2025 มีขึ้นเมื่อวันที่ 19 พศจิกายน 2568 ที่ The Halls วิภาวดีรังสิต และได้รับเกียรติจาก ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม มาเป็นประธานในพิธี

สำหรับรางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 มีดังนี้

รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 หรือ Thailand Car of The Year 2025

-All-New Mitsubishi XFORCE HEV

รางวัลรถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมประจำปี 2568 หรือ Thailand EV of The Year 2025

-New MG S5 EV

รางวัลรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 หรือ Thailand Motorcycle of The Year 2025

-All-New Yamaha N Max Tech MAX

นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thai Automotive Journalists Association (TAJA) กล่าวว่า สมาคมฯ ขอแสดงความยินดีกับ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ที่คว้ารางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้ไปครองได้สำเร็จ

“ที่ผ่านมา สรยท.ได้ดำเนินการจัดงานมอบรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปีต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 11 รอบแรกเป็นการคัดเลือกรถที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ โดยจะต้องเป็นรถยนต์และรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวและประกาศราคาจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 30 กันยายน 2568 ซึ่งสมาชิกจะลงคะแนนคัดเลือกรอบแรก จากนั้นจึงนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผ่านการคัดเลือกทั้งหมด 23 รุ่น ไปทดลองขับและลงคะแนนรอบสุดท้ายที่ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ หรือ ATTRIC อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และมานับคะแนนก่อนการประกาศรางวัลภายในงานฯ ต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และสักขีพยาน”

สำหรับปีนี้มีรถยนต์ที่ผ่านเข้ารอบ Final List ในกลุ่มรถยนต์ 10 รุ่น คือ BYD Seal 5 DMI, Ford Ranger MS-RT, Isuzu D-Max 2.2 Maxforce, Isuzu MU-X 2.2 Maxforce, Mazda BT-50 2.2, Mitsubishi XForce HEV , Nissan Serena S Hybrid , Suzuki Fronx, Toyota Yaris Ativ HEV GR Sport  และ Toyota Camry HEV

กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 7 รุ่น คือ BMW iX1L eDrive20L M Sport,  BYD Sealion 7, Jaecoo 5EV, Mercedes-Benz G580 EV, MG S5 EV, MG IM6 และToyota BZ4X

ส่วนกลุ่มรถจักรยานยนต์ จำนวน 6 รุ่น คือ  BMW R1300GSA, Harley-Davidson Street BOB, Honda Wave 125, Honda PCX160, Yamaha New Aerox  และ All-New Yamaha N Max Tech Max

นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกรุ่นที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย รวมทั้งในภูมิภาคอาเซียน เช่นเดียวกันกับการปรับปรุงกฎเกณฑ์ในการคัดเลือกรถยอดเยี่ยมให้ทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนไปของอุตสาหกรรมยานยนต์และสร้างมาตรฐานให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุคปัจจุบันด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ภายในงานฯ ยังมีการมอบรางวัล Thailand Car & Motorcycle  Marketing Award 2025 ให้กับค่ายผู้ผลิตและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งเป็นการมอบรางวัลจากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในทั้งยอดขาย การผลิต และกลยุทธ์การตลาด ในปี 2024-2025 จำนวน 20 บริษัท ดังนี้

1. รางวัลยอดจำหน่ายรถยนต์รวมสูงสุดประจำปี 2567

-บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จากยอดจำหน่ายรวมจำนวน 220,356 คันในปี 2567

2. รางวัลแบรนด์รถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดในกลุ่ม C-Segment ประจำปี 2567

-บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จากยอดขายของรถยนต์นั่ง Civic และ CR-V จำนวน 19,000 คัน

3. รางวัลรถยนต์ต้นแบบที่โดดเด่นแห่งปี 2568

-บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จากรถกระบะต้นแบบ ISUZU DRAGON MAX ที่มีความโดดเด่นในการผสมผสานความคลาสสิคและนวัตกรรมล้ำสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

4. รางวัลแบรนด์รถยนต์พรีเมี่ยมที่มียอดขายสูงสุดประจำปี 2567

-บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยยอดจำหน่ายรวมจำนวน 13,659 คัน ในปี 2567

5. รางวัลผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ที่สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจในตลาดปิกอัพไทย

-บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด โดย Ford Ranger Line-up ซึ่งมีความหลากหลายทั้งในการใช้งานเชิงพาณิชย์ อย่าง Super Duty ตามด้วยรุ่นปกติ ไปจนถึงรุ่นสมรรถนะสูงอย่าง Ranger Raptor และ Ranger MS-RT

6. รางวัลรถยนต์อเนกประสงค์ MPV ขนาดกลางที่เปี่ยมด้วยความคุ้มค่า

-บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กับรถยนต์ Nissan Serena e-Power ซึ่งเปิดตัวในตลาดเมืองไทยในราคาที่สามารถสัมผัสได้กับความอเนกประสงค์ คุณภาพรถยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่น และขุมพลัง e-Power ที่ตอบสนองต่อการขับขี่ได้อย่างลงตัว

7. รางวัลผู้บุกเบิกและวางรากฐานด้านการส่งออกยานยนต์ไทย

-บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นแบรนด์แรกที่ประกอบรถยนต์จากโรงงานในประเทศไทยส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศโดย เริ่มเมื่อปี 2531 ปัจจุบันมียอดส่งออกสะสมมากกว่า 5.5 ล้านคัน

8. รางวัลแบรนด์ผู้มีส่วนร่วมในการเติบโต SME ไทย

-บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มอบให้ Suzuki Carry รถยนต์ที่ตอบโจทย์กับการใช้งานของกลุ่ม SME อย่างลงตัว อีกทั้งยังออกแบบแคมเปญด้านการตลาดต่างๆ เพื่อให้กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกและง่ายขึ้น

9. รางวัลการยกระดับบริการหลังการขายที่โดดเด่นแห่งปี 2568

-บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ Audi ในประเทศไทย ซึ่งได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ในการสร้าง Audi Body & Paint Center สำหรับรองรับการให้บริการลูกค้าชาวไทย และสร้างความมั่นใจในการใช้งานรถยนต์ Audi มากยิ่งขึ้น

10. รางวัลแคมเปญยอดเยี่ยมแห่งปี 2568

-บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับแคมเปญ EV Lifetime Warranty ของ MG รับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน ที่มีความโดดเด่นและสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า

11. รางวัลผู้สร้างมาตรฐานใหม่แห่งการรับประกันในตลาดรถยนต์

-บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในการรับประกันเครื่องยนต์ดีเซล 1,000,000 กิโลเมตร หรือ 8 ปี ของ GWM Tank 300 และ Tank 500 นับเป็นการรับประกันที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

12. รางวัลผู้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ารวมสูงสุดประจำปี 2567

-บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 38,210 คัน

13. รางวัลแบรนด์รถไฟฟ้าที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดประจำปี 2568

-บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด นอกจากยอดขายที่ประสบความสำเร็จจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ ที่เปิดตัวตลอดทั้งปี 2567 และ 2568 แล้ว ทางแบรนด์ยังลงทุนในเรื่องคลังอะไหล่เพื่อรองรับกับการเติบโตในด้านยอดขายอีกด้วย

14.รางวัลรถยนต์ไฟฟ้าเอสยูวีพรีเมียมขนาดกลางยอดเยี่ยมด้านสมรรถนะและนวัตกรรม

-บริษัท ซีเคอาร์ อินเทลลิเจนท์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด โดย ZEEKR 7X รถยนต์พลังไฟฟ้าที่มาพร้อมกับกำลังขับเคลื่อนถึง 416-637 แรงม้า บวกกับความเพียบพร้อมในด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความทันสมัยของอุปกรณ์ที่ครบครัน 

15. รางวัลผู้นำด้านยานยนต์พลังไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ของไทย

-บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ หลากหลายทางเลือกทั้งรถบัสและหัวลาก ในการรองรับกับการใช้งานของภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์รายแรกในไทยที่ใช้ฝีมือคนไทย

16. รางวัลบริษัทประกันภัยรถยนต์ ที่มียอดรายได้จากกรมธรรม์สูงสุด ประจำปี 2568

-บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยยอดขายกรรมธรรม์รวม 36,380 ล้านบาท แสดงถึงการได้รับการยอมรับจากลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง

17. รางวัลแบรนด์ฟิล์มกรองแสงที่ได้รับความเชื่อมั่นสูงสุดจากผู้บริโภคชาวไทย

-บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ตัวแทนจำหน่าย ลามิน่า แบรนด์ฟิล์มกรองแสงที่มียอดขายสูงสุด และได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคชาวไทย

18. รางวัลผู้นำในด้านนวัตกรรมแห่งการขับขี่ขั้นสูงสุดในโลกรถจักรยานยนต์

-บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย นวัตกรรมคุณภาพด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกับผู้ขับขี่ รวมทั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง 

19. รางวัลแคมเปญยอดเยี่ยมด้านความปลอดภัยประจำปี 2568

-บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กับแคมเปญการมอบหมวกกันน็อคจำนวน 60,000 ใบมูลค่า 60 ล้านบาท ในโอกาสครบรอบ 60 ปี ของบริษัท เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยและสร้างจิตสำนึกให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในประเทศไทย

20. รางวัลผู้นำด้านนวัตกรรมการผลิตเพื่อสิ่งแวดล้อม

-บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เพื่อยกย่องโรงงานผลิตที่มีนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม การใช้เทคโนโลยีสะอาด การรีไซเคิลทรัพยากร รวมทั้งระบบจัดการของเสียที่ลดผลกระทบต่อธรรมชาติ

โดยรางวัลทั้งหมดนี้ เป็นความตั้งใจของสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) รวมทั้งสมาชิกสมาคม ที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งสนับสนุนให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง รวมทั้งเป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง สนับสนุนวิชาชีพสื่อมวลชนสายยานยนต์ และเป็นสื่อกลางระหว่างผู้ผลิตยานยนต์ และอุปกรณ์เนื่องต่างๆ กับผู้บริโภคเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกันอีกด้วย

โตโยต้า ส่งแคมเปญส่งท้ายปี “โตโยต้า อาริกาโตะ” บุกงาน Motor Expo 2025

โตโยต้า ส่งมอบข้อเสนอสุดพิเศษ “ดีลตอบจบ ครบทุกความต้องการ” พร้อมแคมเปญส่งท้ายปี “โตโยต้า อาริกาโตะ” ในงาน Thailand International Motor Expo 2025

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และคณะผู้บริหารระดับสูง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเปิดบูธโตโยต้าในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 Thailand International Motor Expo 2025” ภายใต้แนวคิด “Move your world” จัดแสดงรถยนต์โตโยต้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ นำโดยรถกระบะมหาชนรุ่นใหม่ HILUX TRAVO” เสริมทัพด้วยรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ทั้ง HILUX TRAVO-e” และbZ4X” ตอกย้ำความเป็นผู้นำ HEV ด้วยรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ YARIS CROSS NIGHTSHADE EDITION”, “NEW YARIS ATIV HEV” และ INNOVA ZENIX” เติมเต็มไลน์อัพผู้นำตัวจริงในตลาด PPV ด้วย FORTUNER LEADER G+” พร้อมพบกับการกลับมาของตำนานรถแข่ง GR86” รุ่นใหม่ พร้อมประกาศราคาภายในงาน โดยรถทุกรุ่นมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ “ดีลตอบจบ ครบทุกความต้องการ” และแคมเปญส่งท้ายปี “โตโยต้า อาริกาโตะ” ในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “โตโยต้าขอแสดงความห่วงใยจากใจต่อพี่น้องชาวไทยทุกคน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงที่ผ่านมา โตโยต้าจัดส่งคาราวานเพื่อให้การช่วยเหลือและสนับสนุนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมผ่านมูลนิธิโตโยต้า และในวันนี้โตโยต้ายังได้ส่งคาราวานช่วยเหลือชุดใหม่ไปยังชุมชนในพื้นที่ภาคใต้ พวกเราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ได้รับผลกระทบ และขอให้ทุกท่านปลอดภัย

นอกจากนี้ โตโยต้าขอบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษารถยนต์ ด้วยบริการตรวจเช็กสภาพรถฟรี 30 รายการ พร้อมสิทธิประโยชน์ส่วนลดค่าอะไหล่ 30% สำหรับงานซ่อมทั่วไปและเคมีภัณฑ์ และส่วนลดค่าอะไหล่ 50% สำหรับกลุ่มพรมปูพื้นและพรมซับเสียงรถยนต์ และสำหรับลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ประกันภัย TOYOTA CARE และ TOYOTA CARE PHYD ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยชั้นนำทั้ง 7 แห่ง สามารถนำรถเข้ารับบริการซ่อมเคลมประกันได้ที่ศูนย์ซ่อมตัวถังและสีโตโยต้าทุกแห่งทั่วประเทศ

โตโยต้าขอยืนยันว่า เรายังคงลงทุนต่อเนื่องในประเทศไทย พร้อมมีส่วนร่วมส่งเสริมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยผ่านการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยโตโยต้าได้แนะนำรถรุ่นใหม่หลายรุ่นที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนอันหลากหลาย

เริ่มจากการแนะนำรถกระบะไฮลักซ์รุ่นใหม่ “Hilux Travo” และ “Travo-e BEV” ในวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รถรุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทย และนอกจากคุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ (QDR) อันเป็นเอกลักษณ์ของโตโยต้าแล้ว ยังมาพร้อมสมรรถนะในการขับขี่ที่ทรงพลัง ควบคู่กับความสะดวกสบายในการขับขี่และความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม ด้วยระบบที่เรียกว่า “Dynamic Cloud Suspension” Hilux Travo ยังถูกดีไซน์ภายใต้แนวคิด “ไซเบอร์ซูโม่” พร้อมคอนเซปต์ “แข็งแกร่ง คล่องตัว” ถ่ายทอดความแข็งแกร่ง ความคล่องตัว และทรงพลัง อันสะท้อนถึงรากฐานประเพณีญี่ปุ่น และจิตวิญญาณแห่งความเป็นนักสู้ไว้อย่างลงตัว โดยไฮลักซ์ ทราโว่ ได้รับการต้อนรับอย่างล้นหลามจากสื่อมวลชน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากลูกค้า และตั้งแต่การเปิดตัวไฮลักซ์ ทราโว่จนถึงวันนี้ เราได้รับยอดจองไฮลักซ์รวมทุกรุ่นแล้วกว่า 10,000 คัน

นอกจากนั้น ไฮลักซ์ยังมาพร้อม ไฮลักซ์ รีโว่ และไฮลักซ์ แชมป์ ที่เราเพิ่งทำการแนะนำรุ่นฐานล้อสั้นพิเศษ และขอเชิญลูกค้าทุกท่าน ให้มาสัมผัส “โลกแห่งไฮลักซ์” ได้ภายในบูธโตโยต้าปีนี้ และท่านยังจะได้พบกับ เจ้าตลาด PPV อย่างฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ Leader G Plus ที่มาพร้อมมาตรฐานคุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ (QDR) รวมถึงสเปกที่ยอดเยี่ยม Leader G Plus จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้นำรุ่นใหม่ ที่ต้องการรถ PPV ที่เชื่อถือได้ในราคาที่ง่ายในการเป็นเจ้าของ

สำหรับในช่วงปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568 โตโยต้ามีการเปิดตัว New Yaris Ativ HEV Premium และ HEV GR Sport สำหรับลูกค้าที่มองหารถอีโคซีดาน ที่เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานประจำวันพร้อมความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริดที่พิสูจน์แล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ (Trusted HEV) และมีประสิทธิภาพสูงในการใช้งานจริง ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้า โดยรถยนต์โตโยต้าอีโคคาร์เป็นกลุ่มรถที่สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้กว่า 50%

สำหรับ Yaris Cross  ยนตรกรรมไฮบริดที่มียอดขายสูงสุดในประเทศไทย มีการแนะนำ Yaris Cross Nightshade ที่โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครด้วยการตกแต่งรอบคันแบบ Dark Design ที่เสริมความ   สปอร์ตอย่างลงตัว เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการลุคเมือง ทันสมัยและมีสไตล์

อีกหนึ่งไฮไลต์คือ Toyota bZ4X รถยนต์ไฟฟ้า BEV อเนกประสงค์ D-Segment ประกอบและนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้มาตรฐานการผลิตที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ความพร้อมของชิ้นส่วนอะไหล่ และเครือข่ายงานบริการที่ไว้วางใจได้สูงสุด ช่วยเติมเต็มไลน์อัปของโตโยต้าให้ครบถ้วน รถรุ่นนี้ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม พร้อมระยะในการขับขี่ที่ไกล ในราคาที่น่าดึงดูด นับตั้งแต่การเปิดในช่วงปลายเดือนสิงหาคม มียอดจองสิทธิ์ล่วงหน้า 2,000 คัน ภายในเพียงหนึ่งเดือน โตโยต้าขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อคุณลูกค้าทุกท่านครับ

นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่มองหาสุดยอดมินิแวนหรู ขอนำเสนอ “Alphard และ Vellfire HEV” มาจัดแสดง และพร้อมส่งมอบสู่มือลูกค้าได้ทันที และเพื่อเอาใจผู้ที่หลงใหลในความเร็วและแฟน ๆ GR วันนี้ “GR86” ได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมให้ทุกท่านเป็นเจ้าของได้แล้ว

นอกจากนี้ โตโยต้ายังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้งานของลูกค้าทุกกลุ่มที่สำคัญที่สุด ขอนำเสนอแพ็กเกจทางการเงินที่เป็นเจ้าของได้ง่าย สำหรับทุกรุ่น รวมถึงแคมเปญส่งท้ายปี “โตโยต้า อาริกาโตะ” มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวปิดท้าย

สัมผัสไฮไลท์ยนตรกรรมรุ่นใหม่หลายหลายรุ่น

รถกระบะที่อยู่เคียงข้างคนไทยมายาวนาน HILUX TRAVO

HILUX TRAVO OVERLAND ราคาเริ่มต้น 1,102,000 บาท

“GREAT EXPLORER” เพื่อนร่วมเดินทางที่เคียงข้างไปกับคุณ ให้คุณออกไปค้นพบ และสัมผัสประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ แล้วคุณจะรู้ว่าไม่มีเป้าหมายใดเป็นไปไม่ได้ หากคุณพร้อมลุยไปด้วยกัน กับเทคโนโลยี “Dynamic Cloud” ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความสบายในทุกมิติ ในส่วนของการออกแบบมาในคอนเซ็ปต์ “Tough & Agile” ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)” สะท้อนภาพลักษณ์ที่ทรงพลังและคล่องตัว ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง ดีไซน์ภายใน “Robust Simplicity” ดีไซน์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ทุกฟังก์ชันใช้งานได้จริง จอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว แบบดิจิทัล ทันสมัย คมชัด พร้อมพวงมาลัยไฟฟ้า แม่นยำ ควบคุมง่าย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ระบบ Multi-Terrain Select (MTS) ช่วยปรับการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวที่หลากหลาย ทั้งแบบดิน ทราย โคลน หิน หรือหิมะ ลุยได้ดังใจ รับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 1.89% หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

HILUX TRAVO Prerunner              ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท

HILUX TRAVO 4TREX                  ราคาเริ่มต้น 984,000 บาท

“GREAT URBANER” มาในทั้ง Double Cab และ Smart Cab เน้นการใช้งานส่วนบุคคลและไลฟ์สไตล์ สะดวกสบายไปกับเพื่อนร่วมทางที่พร้อมไปกับคุณ ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองที่เน้นความคล่องตัว ด้วย PRERUNNER ขับเคลื่อน 2 ล้อ และพร้อมพาคุณออกไปเติมพลัง ดื่มด่ำธรรมชาติกับรุ่น 4TREX ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาร่วมเดินทาง และ ทำให้ทุกวันเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน ดีไซน์ภายนอกที่ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)” ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง มาพร้อมกับเครื่องยนต์ GD SUPER POWER ขนาด 2.8 ลิตร มาพร้อมทั้งพลังและความประหยัดที่ดีขึ้น ตอบสนองความต้องการและการใช้งานของลูกค้าที่ต้องการรถกระบะที่เปี่ยมไปด้วยขุมพลัง แต่ยังประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีหัวฉีดอัจฉริยะ i-Art ควบคุมหัวฉีดอย่างแม่นยำด้วยเซ็นเซอร์คอมพิวเตอร์ ให้ละอองน้ำมันละเอียด เผาไหม้หมดจด และระบบ Stop & Start ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถจอดนิ่ง เพื่อเพิ่มการประหยัดน้ำมัน

นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อม Wireless Charger ในส่วนของการขับขี่ก็จัดเต็มด้วยเทคโนโลยี “Dynamic Cloud” ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุมการทรงตัวและความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความสบายในทุกมิติ

รับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 0.99% หรือดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 1.65% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD สำหรับ Prerunner Smart Cab

รับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 0.99% หรือดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 1.75% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD สำหรับ Prerunner Double Cab

รับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 1.79% หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD สำหรับ 4TREX Smart Cab

HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX ราคาเริ่มต้น 767,000 บาท

“GREAT ACHIEVER” กระบะคู่ใจที่พร้อมเคียงข้างทุกความมุ่งมั่น เพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง มาพร้อมตัวถังแบบมาตรฐานและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ให้สมรรถนะครบทั้งความแกร่งพร้อมลุย การบรรทุกที่เหนือชั้น และความคุ้มค่าในทุกเส้นทาง พร้อมพิชิตทุกความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือน มุมอับสายตาที่กระจกมองข้างพร้อมช่วยเตือนขณะถอยรถ พร้อม Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลัง และ Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง

รับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 1.69% หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

HILUX TRAVO-e                  ราคาเริ่มต้น 1,491,000 บาท

“GREAT THINKER” กระบะไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนจากแนวคิด MULTI-PATHWAY ถูกคิดเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลาย ผ่านการมองอนาคตอย่างรอบด้าน คิดเพื่อทุกคน คิดเพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ และคิดเพื่อการเดินทางสู่อนาคตใหม่ ที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน มั่นใจกับ “DIAMOND GUARD” เทคโนโลยี ปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าช่วยปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าด้วยแผ่นปิดเสริมความปลอดภัย ทั้งด้านหน้าและใต้ท้องรถ แบตเตอรี่ยึดกับเฟรมย่อยเป็นรูป Diamond Shape ช่วยลดความ เสียหายต่อแบตเตอรี่จากการบิดตัวของเฟรมระหว่างการใช้งาน เสริมความปลอดภัยจากการ กระแทก รอบทิศทางด้วยโครงสร้างดูดซับแรงกระแทก ให้คุณลุยได้อย่างมั่นใจ

รับข้อเสนอ เมื่อจองรถภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568

และรับรถภายในวันที่ 31 มีนาคม 2569

รับความคุ้มสุดพิเศษไปเลย 3 ต่อ

ต่อ 1 รับฟรี คูปองชาร์จไฟ มูลค่า 10,000 บาท* จาก EV Station PluZ

-ต่อ 2 รับฟรี บัตรกำนัลที่พัก มูลค่า 7,700 บาท* จาก The Standard Pattaya Na Jomtien ประเภทห้อง Deluxe Room จำนวน 1 คืน

ต่อ 3 รับฟรี ประกันภัยชั้น 1** Toyota Care PHYD (Pay How You Drive ขับดีลดให้) และขยายระยะเวลารับประกันสูงสุด 5 ปี***

ยนตรกรรมไฮบริดยอดนิยม

YARIS CROSS NIGHTSHADE และ NEW YARIS ATIV HEV

YARIS CROSS NIGHTSHADE                ราคา 919,000 บาท

รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ขนาดเล็กยอดนิยมรุ่นพิเศษ YARIS CROSS NIGHTSHADE โดดเด่นตั้งแต่แรกเห็นด้วยกระจังหน้าแบบ Metro Stylish ล้ออัลลอยปัดเงาสีดำ 18 นิ้ว กระจกมองข้างสีดำ และแพ็คเกจตกแต่งรอบคันสีดำ ได้แก่ ชุดตกแต่งบริเวณด้านล่าง (กันชนหน้า- หลัง และด้านข้าง), ชุดตกแต่งไฟตัดหมอกหน้า, คิ้วกระโปรงท้าย และคิ้วขอบหน้าต่างสีโครเมียมรมดำ มาพร้อม 2 สีภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ Cement Gray Metallic (ใหม่) และ Platinum White Pearl ที่มาพร้อมกับหลังคาแบบดำทูโทน ภายในสีดำเพิ่มความโดดเด่นให้สปอร์ต พรีเมียม ไม่ซ้ำใคร 

รับข้อเสนอ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.55% หรือ ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,539 บาทต่อเดือน

NEW YARIS ATIV HEV                 ราคาเริ่มต้น 719,000 บาท

รถยนต์ซับคอมแพคซีดานรุ่นยอดนิยม กับขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.5 ลิตร และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) ให้กำลังสูงสุด 111 แรงม้า อัตราการใช้เชื้อเพลิงสูงสุด 29.4 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Stickerโดยทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ ในรุ่น HEV Premium) มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันด้วยหน้าจอ 10.1 นิ้ว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, Wireless Charger และเหนือระดับความปลอดภัยยิ่งขึ้นกับ Toyota Safety Sense ด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) แบบ All-Speed พร้อมระบบช่วยคุมรถให้อยู่ในเลน LKC (Lane Keeping Control) กับทางเลือกรุ่น HEV Premium และรุ่น HEV GR Sport

สำหรับรุ่น HEV GR Sport สะท้อนความโดดเด่น สปอร์ตและขับสนุกยิ่งขึ้น กับดีไซน์กระจังหน้าแบบใหม่ พร้อมโลโก้ GR และชุดแต่ง GR-S ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว หลังคาดำ พร้อมกระจกมองข้างสีดำปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED และพับเก็บอัตโนมัติ สำหรับภายในมากับเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ พร้อมโลโก้ GR เพิ่มความสนุกในการขับขี่ด้วยช่วงล่างและพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ปรับจูนพิเศษ

รับข้อเสนอ ผ่อนเริ่มต้น 5,965 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

ยนตรกรรมไฟฟ้า รถ D-SUV อเนกประสงค์ New bZ4X

NEW bZ4X                       ราคาเริ่มต้น 1,529,000 บาท

ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Hammerhead พร้อม Center Lamp ภายในกว้างขวาง สะดวกสบาย ด้วยหลักการออกแบบ Open & Relax มั่นใจในทุกการขับเคลื่อนด้วยโครงสร้าง e-TNGA ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าของโตโยต้าโดยเฉพาะ ศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวดี คล่องตัวทุกการเคลื่อนไหว ให้กำลังสูงสุด 343 แรงม้า (รุ่นAWD) มาพร้อม X-Mode ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะ เมื่อขับขี่บนเส้นทางที่ท้าทาย รองรับหัวชาร์จแบบ AC Type 2 กำลังสูงสุด 22 กิโลวัตต์ ระยะทางวิ่งสูงสุด 600 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 100% (รุ่นFWD)

รับข้อเสนอ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD และพิเศษเฉพาะที่งาน Motor Expo รับเพิ่ม บัตรกำนัลส่วนลด 20,000 บาท

ภายในงานยังมีการจัดแสดงยนตรกรรมหลากหลายรุ่นครบทุกไลน์อัพ เพื่อนำเสนอทางเลือกที่มีความหลากหลาย สามารถตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบและครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

การกลับมาของ GR 86 ใหม่ Feel the Pulse of the Road

•GR 86 ใหม่ “Feel the Pulse of the Road” มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบแนวนอน 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุดถึง 237 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร

•ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้า ‘G-Mesh’ Matrix Grille เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ GR พร้อมไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED เสริมความสปอร์ตด้วยท่อไอเสียคู่

•ภายในห้องโดยสาร เบาะคู่หน้าหุ้มหนังแท้และ Ultrasuede® พร้อมจอแสดงผลแบบสี MID Boxer Design ที่ปรับโหมดการแสดงผลได้ตามสไตล์การขับขี่ – Normal, Sport, หรือ Track และจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง

•สมรรถนะปรับจูนใหม่ เพื่อความสนุกและมั่นใจยิ่งกว่าเดิม

oการปรับแต่งลิ้นผีเสื้อ เพื่อการตอบสนองที่ดีขึ้น ขับขี่สนุก

oการปรับจูนโช้กอัพหน้าและหลัง ทำให้ควบคุมรถและการตอบสนองในการขับขี่ดีขึ้น

oการปรับจูนระบบเกียร์อัตโนมัติ ลดเกียร์ต่ำลงที่รอบเครื่องยนต์สูงขึ้น

oการปรับตั้งระบบพวงมาลัยไฟฟ้า ทำให้การตอบสนองของพวงมาลัยดีขึ้น และเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่

ราคา 2,999,000 บาท

เป็นเจ้าของรถ GR 86 วันนี้ สัมผัสประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตแบบ GAZOO Racing และสิทธิพิเศษสุด Exclusive

•GR Service package บริการเช็กระยะมาตรฐาน ภายในระยะเวลา 3 ปี 45,000 กม.(แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

•Roadside Service package ฟรี ระยะเวลา 5 ปี (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)

•GR Track Experience สัมผัสประสบการณ์ลงขับในสนามแข่ง พร้อม GR Master Class เรียนรู้เทคนิกการขับจากนักแข่งทีม Toyota Gazoo Racing Thailand

•และกิจกรรมพิเศษสำหรับลูกค้า GR อีกมากมาย

*ขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนกิจกรรมต่างๆ ตามความเหมาะสม โดยทางบริษัทฯ จะเเจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า

นอกจากนี้เรายังมี GR Corolla รุ่นล่าสุด ล็อตสุดท้าย ให้ท่านสามารถชมได้ในงานฯ เฉพาะวันที่ GR Garage เข้าร่วมงาน (วันที่ 4, 7 และ 10 ธันวาคม 2568)

สามารถพบกับ GR 86 รุ่นใหม่ และ GR 86 Mini Press Talk พร้อมกิจกรรมพิเศษอีกมากมายได้ที่งาน GR Day : Coffee & Connect ในวันที่ 7 ธันวาคม 2568 นี้ ณ Silooet House บางใหญ่

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ผ่านทาง GR Garage ทั้ง 6 แห่งทั่วประเทศ หรือเว็บไซต์ https://www.toyota.co.th/gr_garage/

ใหม่!  เปิดตัวชุดอุปกรณ์ตกแต่งใหม่ CHARISMO LUXE

สำหรับรุ่น CAMRY พร้อมส่วนลดพิเศษ

เพื่อตอกย้ำถึงการเป็นรถยนต์ Hybrid Medium Size Sedan ยอดนิยม ที่มีความพรีเมียม สมรรถนะดี ความสะดวกสบายครบครัน และมั่นใจได้ในระบบความปลอดภัย โดยมาพร้อมกับการแนะนำชุดอุปกรณ์ตกแต่งใหม่ในชื่อ CHARISMO LUXE อันประกอบด้วยสเกิร์ตกันชนหน้า ชุดสเกิร์ตข้าง สเกิร์ตกันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง ด้วยเส้นสายที่โดดเด่นและเปลี่ยนแครักเตอร์ของตัวรถให้คงความหรูหราและเพิ่มความสปอร์ตให้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

มาพร้อมกับส่วนลดพิเศษในช่วงเปิดตัว (28 พ.ย. 68 – 31 ธ.ค. 68) จากปกติ 29,990 บาท เหลือเพียง 24,000 บาท หรือผ่อนเพิ่มเริ่มต้นเพียงเดือนละ 353 บาท*

*ติดตั้งกับรถใหม่และคำนวณจากรุ่น HEV Smart ที่ดาวน์ 25% ระยะเวลา 84 เดือน ดอกเบี้ย 3.35%

TOYOTA ACCESSORIES

บ่งบอกความมีเอกลักษณ์ โดดเด่นในทุกการขับขี่

เปิดมิติใหม่ของการแต่งรถด้วยอุปกรณ์ตกแต่งที่ออกแบบภายใต้มาตรฐานโตโยต้า ทุกรายละเอียดผ่านการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทั้งดีไซน์ที่เข้ากับตัวรถ สะท้อนความเป็นตัวคุณ โดนเด่นแบบมีเอกลักษณ์ มาพร้อมการควบคุมคุณภาพที่ไว้ใจได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมืองหรือโลดแล่นสู่เส้นทางไกล และอุปกรณ์ตกแต่งโตโยต้ามาพร้อมการรับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม.1 ให้ทุกเส้นทางเต็มไปด้วยความสบายใจตั้งแต่วันแรกที่ติดตั้ง

CAMRY : อุปกรณ์ตกแต่งชุด CHARISMO LUXE

“เผยตัวตนสปอร์ต…ที่มาพร้อมความเหนือระดับ”

ราคา 29,990  บาท ส่วนลดพิเศษช่วงแนะนำ 5,990 บาท ลดเหลือ 24,000  บาท  (ระยะเวลากิจกรรม 28  พฤศจิกายน 2568 – 31 ธันวาคม 2568)

1.สเกิร์ตกันชนหน้า            ราคา  7,500 บาท

2.ชุดสเกิร์ตข้าง                 ราคา  9,890 บาท

3.สเกิร์ตกันชนหลัง            ราคา  6,700 บาท

4.สปอยเลอร์หลัง               ราคา  5,900 บาท

YARIS ATIV / NEW YARIS ATIV HEV : อุปกรณ์ตกแต่งชุด CHARISMO DRIFT

“ตกแต่งอย่างมีสไตล์ ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์”

ราคา 19,990 บาท ส่วนลดพิเศษช่วงแนะนำ 4,000 บาท ลดเหลือ 15,990 บาท (ระยะเวลากิจกรรม 21 สิงหาคม 2568 –31 ธันวาคม 2568)

1.สเกิร์ตกันชนหน้า            ราคา 4,600 บาท

2.ชุดสเกิร์ตข้าง                  ราคา  6,500 บาท

3.สเกิร์ตกันชนหลัง            ราคา  4,600 บาท

4.สปอยเลอร์หลัง               ราคา 4,290 บาท

YARIS ATIV / NEW YARIS ATIV HEV : อุปกรณ์ตกแต่งชุด GR

“แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง ถ่ายทอดสู่ทุกเส้นทางของคุณ”

ราคา 28,990  บาท ส่วนลดพิเศษช่วงแนะนำ 6,000 บาท ลดเหลือ 22,990 บาท (ระยะเวลากิจกรรม 21 สิงหาคม 2568 –31 ธันวาคม 2568)

1.สเกิร์ตกันชนหน้า            ราคา  6,890 บาท

2.ชุดสเกิร์ตข้าง                  ราคา  7,900 บาท

3.สเกิร์ตกันชนหลัง            ราคา  7,200 บาท

4.สปอยเลอร์หลัง               ราคา  7,000 บาท

Hilux Revo Z-Edition (C-Cab): อุปกรณ์ตกแต่งชุด ROCK PACKAGE

“ตกแต่งสไตล์สปอร์ตพรีเมียม ตอบรับการใช้งานที่หลากหลายทั้งในเมืองและนอกเมือง”

ราคา 20,890 บาท ส่วนลดพิเศษเฉพาะในงาน MOTOR EXPO ลดเหลือ 19,410 บาท (ระยะเวลากิจกรรม 28  พฤศจิกายน 2568 – 10 ธันวาคม 2568)

อุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้า (TGA)

1.ชุดแต่งบันไดข้าง C-CAB          ราคา 7,400 บาท

อุปกรณ์ตกแต่งจากพันธมิตร (แบรนด์ AZZY)2

2.สเกิร์ตกันชนหน้า                      ราคา  5,500 บาท

3.ชุดตกแต่งซุ้มล้อ                       ราคา  7,990 บาท

Hilux Revo Z-Edition (D-Cab): อุปกรณ์ตกแต่งชุด DRIFT PACKAGE

“ตกแต่งสไตล์สปอร์ตเรซซิ่ง โดนใจวัยรุ่นสายซิ่งและผู้ที่ชื่นชอบการแต่งแนวสปอร์ตจัดเต็ม”

ราคา 13,100 บาท ส่วนลดพิเศษเฉพาะในงาน MOTOR EXPO ลดเหลือ 11,580 บาท (ระยะเวลากิจกรรม 28  พฤศจิกายน 2568 – 10 ธันวาคม 2568)

อุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้า (TGA)

1.ชุดแต่งบันไดข้าง D-CAB          ราคา 7,600 บาท

อุปกรณ์ตกแต่งจากพันธมิตร (แบรนด์ AZZY)2

2.สเกิร์ตกันชนหน้า                     ราคา 5,500 บาท

HILUX TRAVO PRERUNNER (D-Cab): อุปกรณ์ตกแต่งชุด CHARISMO ROCK

“ตกแต่งอย่างมีสไตล์ ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์” สู่อีกขั้นของภาพลักษณ์ออฟโรดที่ไม่ซ้ำใคร

ราคา 14,900 บาท ส่วนลดพิเศษเฉพาะในงาน MOTOR EXPO ลดเหลือ 11,920 บาท (ระยะเวลากิจกรรม 28  พฤศจิกายน 2568 – 10 ธันวาคม 2568)

1.ชุดตกแต่งกันชนหน้า คาริสโม่             ราคา 6,000 บาท

2.คิ้วตกแต่งฝากระโปรงด้านข้าง            ราคา 1,600 บาท

3.กรอบรองที่จับประตู (สีดำ)                  ราคา 1,900 บาท

4.คิ้วกันกระแทกประตู (ใหญ่) D-CAB    ราคา 3,500 บาท

5.สปอยเลอร์ท้ายกระบะ                        ราคา 1,900 บาท

หมายเหตุ :

1.ระยะเวลารับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน อ้างอิงจากคู่มือรับประกันคุณภาพรถยนต์ โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.toyota.co.th/accessories/warranty/tga

2.ผลิตภัณฑ์ AZZY ผลิตและรับประกันโดยบริษัท เอซีซีวาย 9999 จำกัด รับประกัน 1 ปี หรือ 20,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โปรดศึกษารายละเอียดการรับประกันเพิ่มเติมได้ที่ https://www.toyota.co.th/accessories/warranty/azzy

3.ราคาที่ปรากฎในรายการเป็นราคาขายปลีกแนะนำรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และราคาดังกล่าวไม่รวมค่าแรงติดตั้ง

พิเศษช่วงงาน  Motor Expo 2025 ซื้อรถโตโยต้า รับข้อเสนอพิเศษ กับแคมเปญ “โตโยต้า อาริกาโตะ โปรแจกใหญ่จัดเต็ม”

เพียงสแกน QR ลงทะเบียน ลุ้นรับเพิ่ม 3 ต่อ

ต่อที่ 1 สแกนปั๊บ เลือกรับเลย บัตรกำนัลส่วนลด สูงสุด 10,000 บาท หรือส่วนลดดอกเบี้ย สุงสุด 0.4% หรือ แพ็กเกจเช็กระยะ Smart Plan 50,000 กม.

ต่อที่ 2 จองใน 7 วัน ลุ้นรับเพิ่ม บัตรกำนัลสูงสุด 100,000 บาท ทุกสัปดาห์ 3,000 รางวัล

ต่อที่ 3 รับรถแล้ว ลุ้นรางวัล ทริปญี่ปุ่น รางวัลละ 2 ที่นั่ง 10 รางวัล

ตั้งแต่ 4 พฤศจิกายน 2568 – 31 ธันวาคม 2568

* เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการที่บูธโตโยต้า หรือโชว์รูมโตโยต้าของผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือศูนย์ผู้บริการข้อมูลลูกค้า1486 บริการด้วยเทคโนโลยีVoice Bot 24 ชั่วโมง บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตwww.toyota.co.th

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.toyota.co.th/promotion/yearend2025

เป็นเจ้าของรถโตโยต้าง่ายๆ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ

ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 Thailand International Motor Expo 2025

29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

พลาดไม่ได้กับข้อเสนอสุดพิเศษภายในงาน และที่ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่

https://www.toyota.co.th

Facebook: Toyota Motor Thailand

LINE Official: @ToyotaThailand                   

TikTok: @ToyotaMotorTH

X: @ToyotaMotorTH                                     

Instagram: @toyotamotorthailandofficial

GAC AION ขนทัพยนตรกรรมพลังงานใหม่จัดแสดงในงาน Motor Expo 2025

GAC AION Thailand ขนทัพยนตรกรรมพลังงานใหม่จัดแสดงครบทุกไลน์อัปในงาน Motor Expo 2025 พร้อมเผยโฉม “Govy AirCab” ยานยนต์บินได้ไร้คนขับ

GAC AION Thailand ผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ระดับโลก ประกาศความยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 หรือ Thailand International Motor Expo 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยในปีนี้ GAC ได้เนรมิตพื้นที่จัดแสดงบูท A12 ให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งเทคโนโลยีโลกอนาคต ภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นการเชื่อมต่อการเดินทางอัจฉริยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขนทัพยนตรกรรมไฟฟ้าครอบคลุมทุกเซกเมนต์ และไฮไลต์สำคัญกับการเปิดตัวสีใหม่ของ HYPTEC HT และการปรากฏตัวครั้งแรกของนวัตกรรมอากาศยานไร้คนขับ “Govy AirCab” พร้อมจัดหนักแคมเปญส่งเสริมการขาย พร้อมขยายสิทธิ์ Lifetime Warranty

Mr.Wang Haoyong ประธานกรรมการบริหาร GAC AION Thailand ได้กล่าวเปิดงานโดยเน้นย้ำถึงความสำเร็จและทิศทางกลยุทธ์ของแบรนด์ในประเทศไทยว่า “ภายใต้กลยุทธ์ระดับโลก ‘ONE GAC 2.0’ เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่เปลี่ยนจากการส่งออกผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว ไปสู่การส่งออกระบบนิเวศการเดินทาง (Mobility Ecosystem) แบบครบวงจร โดยยึดมั่นในปรัชญา ‘In local, for local’ หรือการดำเนินงานในท้องถิ่นเพื่อคนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง”

Mr.Wang Haoyong กล่าวเสริมถึงความสำเร็จในปีที่ผ่านมาว่า “ประเทศไทยเปรียบเสมือนเครื่องยนต์หลักในกลยุทธ์ระดับโลกของเรา ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคมปีนี้ เรามียอดขายรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 10,000 คัน เติบโตขึ้นถึง 149% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และ GAC ยังคงรักษาตำแหน่งท็อป 3 ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยได้อย่างเหนียวแน่น”

“เราไม่ใช่แค่ผู้เข้าร่วมในตลาด แต่เราคือพันธมิตรที่ช่วยยกระดับการผลิตในท้องถิ่น โดยปัจจุบันเรามีอัตราการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Localization rate) สูงถึง 51% และในปีนี้จะมีรถยนต์อีกหลายรุ่นที่ผลิตในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยให้การส่งมอบรถรวดเร็วยิ่งขึ้น” นอกจากนี้ GAC ยังเป็นผู้ผลิตรถยนต์ (OEM) รายเดียวในประเทศไทยที่มีขีดความสามารถในการซ่อมแบตเตอรี่ได้ครบทุกระดับ ทำให้การซ่อมบำรุงแบตเตอรี่มีความรวดเร็วและปลอดภัย”

สำหรับทิศทางในปี 2026 GAC มุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถยนต์ไฮบริดที่ปรับจูนให้เหมาะกับพฤติกรรมการขับขี่ของคนไทย พร้อมขยายเครือข่ายศูนย์บริการและโชว์รูมให้ครอบคลุม 80 แห่งทั่วประเทศ และขยายคลังอะไหล่ให้มีขนาดถึง 12,000 ตารางเมตร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าภายใต้คำมั่นสัญญา Drive GAC WITH CONFIDENCE”

เผยโฉมความหรูหราบทใหม่ GAC HYPTEC HT สีใหม่ “Moonstone Grey”

GAC AION Thailand ได้เผยโฉม GAC HYPTEC HT ในเฉดสีใหม่ “Moonstone Grey” (สีเทามูนสโตน) ที่สะท้อนความสปอร์ตลักชัวรีขั้นสุด สีเทาพิเศษนี้ช่วยขับเน้นเส้นสายตัวถังให้ดูมีมิติ ลึกลับ และทรงพลัง ผสานเข้ากับดีไซน์ประตูแบบปีกนก (Gull-wing Doors) อันเป็นเอกลักษณ์ และห้องโดยสารระดับ First Class มอบสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ที่เหนือระดับ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมอย่างลงตัว

ข้อเสนอสุดพิเศษในงาน Motor Expo 2025

GAC AION Thailand มอบข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุดแห่งปี ตอบสนองมาตรการ EV 3.0 ก่อนมีการปรับโครงสร้างราคาในปีถัดไป สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถและออกใบกำกับภาษี ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 และจดทะเบียนรถภายในวันที่ 31 มกราคม 2569

GAC AION UT

ราคาพิเศษ : GAC AION UT รุ่น 420 Standard ราคา 469,900 บาท (จากปกติ 519,900 บาท) และรุ่น 500 Premium ราคา 599,900 บาท (จากปกติ 669,900 บาท)

ข้อเสนอทางการเงิน : เลือกผ่อนชำระสบาย เริ่มต้นเพียง วันละ 165 บาท หรือ ดาวน์เริ่มต้นเพียง 8,888 บาท

สิทธิประโยชน์ : ส่วนลดพิเศษสำหรับชุดแต่งรอบคันมูลค่า 6,000 บาท, รับประกันแบตเตอรี่ขับเคลื่อนและมอเตอร์ขับเคลื่อนพร้อมกล่องควบคุมในชุดมอเตอร์ตลอดอายุการใช้งาน (Lifetime Warranty) และเลือกรับฟรี Home Charger หรือ สายชาร์จพกพาและสายต่อพ่วง VtoL

GAC AION V

•ราคาพิเศษ: GAC AION V รุ่น 602 Luxury ราคาเพียง 899,900 บาท (จากปกติ 1,029,900 บาท)

•สิทธิประโยชน์ : รับฟรี iPhone 17 Pro (มูลค่า 43,900 บาท), ส่วนลดพิเศษสำหรับชุดแต่งรอบคันมูลค่า 6,000 บาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ขับเคลื่อนและมอเตอร์ขับเคลื่อนพร้อมกล่องควบคุมในชุดมอเตอร์ตลอดอายุการใช้งาน (Lifetime Warranty)

GAC HYPTEC HT

•ราคาพิเศษ: GAC HYPTEC HT รุ่น 620 Premium ราคาเพียง 1,249,000 บาท (จากปกติ 1,449,000 บาท) และรุ่น 620 Luxury ราคาเพียง 1,549,000 บาท (จากปกติ 1,749,000 บาท)

•ข้อเสนอทางการเงิน: อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%

•สิทธิประโยชน์: รับฟรี iPhone 17 Pro (มูลค่า 43,900 บาท) พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ขับเคลื่อนและมอเตอร์ขับเคลื่อนพร้อมกล่องควบคุมในชุดมอเตอร์ตลอดอายุการใช้งาน (Lifetime Warranty)

GAC M8 PHEV

•ข้อเสนอพิเศษ: ราคาเริ่มต้น 2,499,000 บาท

•ข้อเสนอทางการเงิน: อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% หรือเลือกแผน Smart Buy ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 12,232 บาท/เดือน

•สิทธิประโยชน์: ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษาตามระยะทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 60,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน), ฟรี อุปกรณ์ตกแต่งแท้ (จอเพดานและตู้เย็นภายในรถยนต์ พร้อมบริการติดตั้ง) และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ขับเคลื่อนและชุดเกียร์มอเตอร์ไฟฟ้า ตลอดอายุการใช้งาน (Lifetime Warranty)

GAC AION Thailand ประกาศมอบสิทธิ์ “Lifetime Warranty” ให้กับรถยนต์ รุ่น GAC HYPTEC HT, GAC M8 PHEV, GAC AION V, GAC AION UT และ GAC AION Y Plus เพื่อขอบคุณทุกความไว้วางใจและสร้างความเชื่อมั่นสูงสุดแก่ลูกค้าชาวไทย

เพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้าชาวไทยมอบให้เสมอมา GAC AION Thailand ได้ประกาศยกระดับมาตรฐานการดูแลครั้งสำคัญ ด้วยการมอบสิทธิ์การรับประกันแบตเตอรี่ขับเคลื่อนและมอเตอร์ขับเคลื่อนพร้อมกล่องควบคุมในชุดมอเตอร์ตลอดอายุการใช้งาน (Lifetime Warranty) ให้ครอบคลุมรถยนต์ GAC AION ครบทุกรุ่น ได้แก่ GAC HYPTEC HT, GAC M8 PHEV, GAC AION V,  GAC AION UT และ GAC AION Y Plus โดยสิทธิพิเศษนี้มอบให้ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน ที่จองและออกรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 เพื่อยืนยันถึงความตั้งใจจริงที่จะดูแลสมาชิกครอบครัว GAC AION ทุกท่านเสมือนคนในครอบครัว และสร้างความมั่นใจในการใช้งานระยะยาวอย่างแท้จริง

การขยายสิทธิ์ Lifetime Warranty ครั้งนี้ ครอบคลุมการรับประกัน 3 หัวใจหลักของยานยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ แบตเตอรี่ขับเคลื่อน, มอเตอร์ขับเคลื่อน และกล่องควบคุมในชุดมอเตอร์ ซึ่งถือเป็นคำมั่นสัญญาภายใต้ปรัชญา “Drive GAC WITH CONFIDENCE” ที่ต้องการให้ผู้ใช้งานทุกคนขับขี่ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล และเชื่อมั่นในคุณภาพระดับโลกของ GAC AION ตลอดอายุการใช้งาน

ทะยานสู่อนาคตกับ “Govy AirCab” ครั้งแรกในไทย

“Govy AirCab” (โกวี่ แอร์แค็บ) สร้างปรากฏการณ์ในงาน Motor Expo 2025 ในฐานะยานยนต์บินได้ไร้คนขับ (Autonomous Flying Vehicle) รุ่นแรกของโลกที่มีการผลิตแบบ Mass Production ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ GAC AION ในการปฏิวัติการเดินทางสู่น่านฟ้าอัจฉริยะ โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน 6 แกน 12 ใบพัด พร้อมระบบความปลอดภัยสำรอง (Redundancy Design) ที่ช่วยประคองตัวเครื่องลงจอดได้อย่างนิ่มนวลแม้เกิดเหตุขัดข้อง รองรับการบินไกล 30 กิโลเมตร และชาร์จเร็วเพียง 25 นาที

จากกระแสตอบรับที่ท่วมท้นด้วยยอดจองกว่า 1,000 คันในฮ่องกง ปัจจุบัน Govy AirCab ได้รับใบอนุญาตทำการบินพิเศษ (Special Flight License) เรียบร้อยแล้ว และกำลังเดินหน้าขอใบรับรองความสมควรเดินอากาศ โดยมีเป้าหมายเริ่มสายการผลิตและส่งมอบภายในสิ้นปี 2026 เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการขนส่งระยะสั้น ซึ่งจะเป็นการเปิดมิติใหม่แห่งการเดินทางให้กับประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายละเอียดรถยนต์พลังงานใหม่จาก GAC AION Thailand สามารถดูรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์

www.aionauto.com/th-th/

และลงทะเบียนเพื่อทดลองขับได้ที่ www.aionauto.com/th-th/test-drive/AION%20V

GWM คว้ารางวัลผู้สร้างมาตรฐานใหม่ รับประกันเครื่องยนต์ดีเซล 1 ล้านกิโลเมตร

GWM คว้ารางวัล “ผู้สร้างมาตรฐานใหม่แห่งการรับประกันในตลาดรถยนต์” ตอกย้ำความเชื่อมั่นในการรับประกันเครื่องยนต์ดีเซล 1,000,000 กิโลเมตรของ GWM TANK และการเดินหน้าสู่ “อันดับ 1 ของแบรนด์รถยนต์จีนด้านบริการหลังการขาย”

GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” GWM (Thailand) ตอกย้ำความเชื่อมั่นในงานด้านบริการหลังการขาย ผ่านการรับประกันคุณภาพเครื่องยนต์ดีเซลและการดูแลลูกค้าแบบระยะยาว ด้วยการคว้ารางวัล “ผู้สร้างมาตรฐานใหม่แห่งการรับประกันในตลาดรถยนต์” จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) โดยมี คุณธีร์ธวัฒน์  โกศลานันทกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริการหลังการขาย GWM (Thailand) เป็นผู้แทนรับรางวัลจาก คุณสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมฯ สรยท. สะท้อนถึงความโดดเด่นและคุณภาพของการรับประกันเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ในตระกูล GWM TANK ด้วยระยะทางสูงสุด 1,000,000 กิโลเมตร (หรือ 8 ปี) ที่ต่อยอดจากประสบการณ์ของ GWM ในการคิดค้นและพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลมากว่า 30 ปี ผสานกับกลยุทธ์การรับฟังเสียงของผู้บริโภค และเป้าหมายในการก้าวขึ้นเป็น ‘No.1 Chinese Brand in Aftersales Service’ หรือ อันดับ 1 ของแบรนด์รถยนต์จีนด้านบริการหลังการขาย ในประเทศไทย

รางวัลสำคัญครั้งนี้มีที่มาจากการที่ GWM ทลายมาตรฐานเดิมๆ ในอุตสาหกรรมรถยนต์ กล้าประกาศรับประกันเครื่องยนต์ดีเซลด้วยระยะทางสูงสุดถึง 1,000,000 กิโลเมตร ในตระกูลรถยนต์ดีเซลของ GWM TANK ซึ่งอยู่ในรถยนต์ SUV ยอดนิยมของคนไทย ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ NEW GWM TANK 300 DIESEL และ NEW GWM TANK 500 DIESEL เพื่อสร้างความอุ่นใจในคุณภาพและความเชื่อมั่นในการใช้งานรถในระยะยาว โดยอาศัยพื้นฐานจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ GWM ด้านการพัฒนาและผลิตเครื่องยนต์ดีเซลมายาวนานหลายสิบปีทั่วโลก ความเชื่อมั่นในเทคโนโลยี โครงสร้างเครื่องยนต์ และมาตรฐานการผลิตระดับสากล ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นเงื่อนไขการรับประกันที่ยาวนาน ครอบคลุม และตรวจสอบได้จริง ช่วยยกระดับให้ GWM กลายเป็นผู้นำในตลาดด้วยการสร้าง “มาตรฐานใหม่ของการรับประกันในตลาดรถยนต์” และเสริมความมั่นใจให้ลูกค้าชาวไทยในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ความสำเร็จของ GWM TANK ในประเทศไทยไม่ได้มาจากการกล้ารับประกัน 1 ล้านกิโลเมตรเท่านั้น หากยังเป็นผลจากกลยุทธ์ด้านการรับฟังเสียงของผู้บริโภค หรือ User-Centric เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า มุ่งมั่นมอบการบริการที่ไม่เพียงตอบโจทย์ แต่เหนือความคาดหวังผ่านบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ การพัฒนาและยกระดับมาตรฐานช่างเทคนิคอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการอะไหล่อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจทั้งก่อนและหลังการตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์ GWM ในทุกๆ ระยะทาง

 MITSUBISHI XFROCE HEV คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568

“มิตซูบิชิ” ตอกย้ำความสำเร็จของ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี คว้ารางวัล รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 (Thailand Car of The Year 2025) จาก สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.)

นายยอดชาย ซื่อวัฒนากุล (ซ้ายสุด) ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักสื่อสารการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้แทนขึ้นรับมอบรางวัลเกียรติยศ รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 (Thailand Car of The Year 2025) จากรถยนต์ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มอบโดย ดร.ณัฐพล รังสิตพล (ที่ 3 จากขวา) ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง (ที่ 2 จากขวา) นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย และ นายพุทธิ ผาสุก (ขวาสุด) อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) และประธานคณะอนุกรรมการคัดเลือกและตัดสินรถยอดเยี่ยมประจำปี 2568 ภายในพิธีประกาศรางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.)

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ชูความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวทีอันทรงเกียรติได้แก่ รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 (Thailand Car of The Year 2025) จากรถยนต์ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี และ รางวัลผู้บุกเบิกและวางรากฐานด้านการส่งออกยานยนต์ไทย จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) โดยทั้ง 2 รางวัล ผ่านการพิจารณาและตัดสินโดยคณะอนุกรรมการคัดเลือกรถประจำปี 2568 ซึ่งประกอบไปด้วยสื่อมวลชนอาวุโสและผู้ทรงคุณวุฒิที่คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมยานยนต์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์อย่างไม่หยุดยั้งเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของคนไทยทุกคน

มร.เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รางวัลอันทรงเกียรติทั้ง 2 รางวัลนี้ สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่า และความเชื่อมั่นต่อแบรนด์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั้งในด้านเทคโนโลยีการขับขี่ ความปลอดภัย การออกแบบ ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด โดยเฉพาะ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2568 และได้รับรางวัล Thailand Car of The Year 2025 เป็นรถยนต์คอมแพกต์เอสยูวีฟูลไฮบริดรุ่นล่าสุด ภายใต้แนวคิด MITSUBISHI e:MOTION ที่ผสาน 3 สุดยอดเทคโนโลยี อันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ เราใช้เวลาหลายเดือน ในการทดสอบรถยนต์รุ่นนี้ รวมระยะทางทั้งหมดกว่า 100,000 กิโลเมตร ทั่วประเทศไทย เพื่อประเมินความทนทาน และสมรรถนะในการขับขี่ ทีมทดสอบของเราได้รวบรวมข้อมูล และความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่างๆ และได้นำไปใช้ในการพัฒนารถรุ่นนี้ ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการทดสอบความทนทานของรถ และปรับแต่งระบบกันสะเทือนที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานบนสภาพถนนที่หลากหลายของประเทศไทย ให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ขอขอบคุณสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ที่ให้เกียรติมอบรางวัลอันทรงคุณค่า และเล็งเห็นความมุ่งมั่นในการพัฒนายนตรกรรมอย่างไม่หยุดยั้งของเรา รางวัลในครั้งนี้ถือเป็นกำลังใจสำคัญที่จะทำให้เราเดินหน้าพัฒนายนตรกรรมที่ดียิ่งขึ้นเพื่อลูกค้าชาวไทยต่อไป”

สำหรับ 2 รางวัลที่ทางมิตซูบิชิ ได้รับจากพิธีประกาศรางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 ได้แก่

1) รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 (Thailand Car of The Year 2025)

รางวันที่ได้รับนับเป็นรางวัลใหญ่แห่งปีของ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ที่เพิ่งเปิดตัวช่วงต้นปี 2568 โดยในปีนี้ทางสมาคมฯ และคณะอนุกรรมการคัดเลือกจากรถยนต์ที่เปิดตัวสู่ตลาด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 ทั้งสิ้น 20 รุ่น จาก 15 แบรนด์ โดยมีเกณฑ์การพิจารณารถรุ่นใหม่ (New Model) ประกอบไปด้วย 8 หัวข้อหลัก แบ่งออกเป็น เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง, ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว, ความปลอดภัย Active Safety, ความปลอดภัย Passive Safety, ดีไซน์ภายนอก, ดีไซน์ภายใน, การส่งเสริมการผลิตในประเทศ และการเพิ่มความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์

โดย ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี เป็นรถยนต์คอมแพกต์เอสยูวีไฮบริดรุ่นล่าสุดจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มอบประสบการณ์แบบ “Xperience the Force” ที่เปี่ยมไปด้วยพลังในทุกการขับขี่ มาพร้อมกับ MITSUBISHI e:MOTION ซึ่งผสาน 3 สุดยอดเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7 DRIVE MODE) และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง Active Yaw Control (AYC) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสบการณ์การขับขี่ที่ทรงพลังแต่ยังคงความนุ่มนวลเหนือระดับ พร้อมการออกแบบภายในห้องโดยสารที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการทั้งสไตล์และฟังก์ชันที่ครบครัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มยานยนต์ไฮบริด

2) รางวัลผู้บุกเบิกและวางรากฐานด้านการส่งออกยานยนต์ไทย (Pioneer of Thai Auto Export)

นับเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจและเชิดชูเกียรติในฐานะที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นบริษัทรถยนต์รายแรกของไทยที่ส่งออกรถยนต์ที่ผลิตโดยคนไทยส่งออกสู่ต่างประเทศ โดยรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นแรกที่ส่งออกคือ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ แชมป์ ซึ่งส่งไปยังประเทศแคนาดา เมื่อปี พ.ศ. 2531 จากนั้นได้ขยายการผลิตและการส่งออกไปยัง 120 ประเทศทั่วโลก โดยปัจจุบันมียอดส่งออกสะสมมากกว่า 5.7 ล้านคัน

ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงตอกย้ำศักยภาพของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในฐานะผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมยานยนต์ และการส่งออกของไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนายนตรกรรม เทคโนโลยีการขับขี่ และความปลอดภัย รวมถึงยานยนต์พลังงานทางเลือกให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างมั่นคง

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดพิธีถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดพิธีถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๘ นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นำคณะผู้บริหารและพนักงาน เข้าร่วมพิธีลงนามถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

อีซูซุ เปิดตัวหนังโฆษณา Digital Sound Check ชุดล่าสุด

อีซูซุ เปิดตัว Digital Sound Check ชุดล่าสุด สัมผัสมิติความเร้าใจกับจุดพีคใหม่ของ MU-X “THE NEXT PEAK” ในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ทั่วประเทศ

อีซูซุ ร่วมกับ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ผู้นำธุรกิจโรงภาพยนตร์ชั้นนำของไทย เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา Digital Sound Check ชุดใหม่ล่าสุด “MU-X The Seamless Peak Experience” นำเสนอประสบการณ์ผ่านระบบภาพและเสียงที่ดีที่สุดแห่งโลกภาพยนตร์เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสความเร้าใจพร้อมก้าวสู่จุดพีคใหม่…ของชีวิตไปกับสุดยอดรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ระดับหรู MU-X “THE NEXT PEAK” โดยมีนายวิชัย สินอนันพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย “โบว์ – เมลดา สุศรี” นักแสดงสาวมากความสามารถมาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษร่วมพูดคุย ณ โรงภาพยนตร์ IMAX ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ สามารถรับชมพร้อมกันได้ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป

นายวิชัย สินอนันต์พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เป็นศูนย์รวมความบันเทิงสำหรับคนหลากหลายไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์มาอย่างยาวนาน มีเครือข่ายโรงภาพยนตร์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เช่นเดียวกับรถอีซูซุที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถชาวไทยได้อย่างครบถ้วนพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานอีซูซุที่มีครอบคลุมทั่วประเทศตามแนวคิด “Isuzu Trusted Buddy อีซูซุเคียงข้างคุณเคียงคู่ไทย” อีซูซุจึงเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์จะเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างกว้างขวาง ด้วยเหตุนี้ อีซูซุจึงได้ร่วมมือกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณา Digital Sound Check ชุดใหม่ล่าสุด “MU-X The Seamless Peak Experience” ถ่ายทอดจากแนวคิด “คนที่สำเร็จ เขาแข่งกับตัวเอง” ต่อยอดเรื่องราวของการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง สู่จุดพีคใหม่…ของชีวิตอย่างสมจริงของรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ MU-X “THE NEXT PEAK” ผ่านเทคโนโลยีภาพและเสียงของโรงภาพยนตร์ที่ผสานกับโลกแห่งการขับขี่อย่างไร้รอยต่อ ล่าสุด อีซูซุได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ครบทุกไลน์อัพเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สำหรับรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ MU-X “THE NEXT PEAK” นี้มาพร้อมกับโช้กอัพใหม่! แบบ STIFF FLEX ที่ออกแบบมาเพื่อลดการสั่นสะเทือนและการโคลงของรถขณะกำลังขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นุ่มนวล มั่นใจทุกครั้งที่เข้าโค้ง พร้อมลุยแบบก้าวข้ามขีดจำกัดทุกสถานการณ์ได้อย่างแน่นอน”

นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เมเจอร์มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีภาพและเสียงให้เหนือระดับอยู่เสมอ เพื่อให้ทุกครั้งที่ผู้ชมเข้ามาในโรงภาพยนตร์ ได้สัมผัสทั้ง “ภาพ” และ “เสียง” ที่รู้สึกได้จริง การร่วมมือกับอีซูซุในครั้งนี้คือการผสานพลังของภาพยนตร์และยนตรกรรม เพื่อให้คนดูได้เห็นสมรรถนะของ MU-X “THE NEXT PEAK” ผ่านระบบภาพและเสียงระดับโลกของโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ฯ พร้อมให้รับชมแล้ว 159 สาขา 254 โรงทั่วประเทศ ตั้งแต่ 27 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป”

นอกจากนี้ ในงานยังมีแขกรับเชิญพิเศษ “โบว์-เมลดา สุศรี” มาร่วมสร้างสีสัน ซึ่งพิธีกรหนุ่ม แคน-อติรุจ กิตติพัฒนะ ได้พูดคุยเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์การใช้รถของดาราสาวและความรู้สึกหลังจากได้รับชมภาพยนตร์ Digital Sound Check ล่าสุด “สิ่งที่โบว์รู้สึกได้อย่างชัดเจนจากภาพยนตร์ Digital Sound Check คือความ Seamless ของภาพและเสียง ทุกอย่างลื่นไหล เท่ และทรงพลัง เหมือนกำลังพาเราขึ้นสู่จุดพีคของตัวเองแบบไร้สิ่งมาขวาง ซึ่งถ่ายทอดคอนเซปต์ของ MU-X “THE NEXT PEAK” ได้อย่างโดดเด่น ทำให้โบว์อินกับแนวคิดการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองมากยิ่งขึ้น”

ร่วมสัมผัสสมรรถนะเหนือระดับของรถอเนกประสงค์ระดับหรู MU-X “THE NEXT PEAK” สู่จุดพีคใหม่…ของชีวิต ที่พร้อมโลดแล่นบนจอภาพยนตร์ด้วยนวัตกรรมภาพและเสียงที่ดีที่สุดแห่งโลกภาพยนตร์ ในภาพยนตร์โฆษณา Digital Sound Check ชุด “MU-X The Seamless Peak Experience” ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ผ่านโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทุกสาขาทั่วประเทศ ติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com และ LINE Official : @isuzuthai 

เอ็มจี คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยม 3 ปีซ้อน

เอ็มจี สร้างประวัติศาสตร์ รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยม 3 ปีต่อเนื่อง NEW MG S5 EV รับรางวัล THAILAND EV OF THE YEAR 2025

กรุงเทพฯ – 24 พฤศจิกายน 2568 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทยสะท้อนความมุ่งมั่นในยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ทัดเทียมอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ด้วยการสร้างประวัติศาสตร์เป็นแบรนด์รถยนต์แบรนด์แรกในไทยที่ได้รับรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปีบนเวทีระดับประเทศได้ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน  โดยล่าสุด NEW MG S5 EV รถอีวีมหาชน ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ THAILAND EV OF THE YEAR 2025 จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) พร้อมสร้างความเชื่อมั่นด้วยการรับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อน (EV LIFETIME WARRANTY) ตลอดอายุการใช้งาน จนสามารถคว้ารางวัลแคมเปญยอดเยี่ยมแห่งปี จากสมาคมฯ เพื่อส่งมอบความมั่นใจในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้คนไทย

NEW MG S5 EV เป็นรถ e-SUV ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM รองรับทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ ด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear-Wheel Drive) พร้อม 4 จุดเด่นสำคัญ “ใหญ่ – เย็น – ยาว – เยอะ” ด้วยห้องโดยสารขนาดกว้างขวาง มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์เต็มรูปแบบบนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและเพิ่มความเย็นสบายมากยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งคู่หน้าระบบเป่าลม ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจในทุกการเดินทางทั้งวิ่งไกลและชาร์จไว พร้อม EV LIFETIME WARRANTY และเป็นรถ e-SUV ที่เข้าถึงง่าย ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มค่า สมรรถนะ และประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้งานชาวไทย โดยรถรุ่นนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่ผลิตในประเทศไทย จาก บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด

นอกเหนือจากรางวัลรถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมในปีนี้ แล้ว เอ็มจี ยังเคยได้รับรางวัลเช่นเดียวกันในปี 2023 กับ NEW MG4 ELECTRIC ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ของ เอ็มจี ในระดับโลก และ ปี 2024 ยังได้รับ THAILAND CAR OF THE YEAR กับรุ่น ALL NEW MG3 HYBRID+ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่ได้รับการยอมรับในคุณภาพ โดยในปีนี้ เอ็มจี ยังได้รับรางวัลแคมเปญยอดเยี่ยมแห่งปี จาก EV LIFETIME WARRANTY ซึ่ง เอ็มจี ถือเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทยที่กล้ารับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งานโดยไม่จำกัดระยะทางและผู้ถือครองรถ นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่สะท้อนถึงประสบการณ์และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ของ เอ็มจี ไม่เพียงเท่านั้น เอ็มจี ยังมีความมุ่งมั่นในการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ทัดเทียมอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ด้วยการเป็นแบรนด์แรกที่บุกเบิกนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้าเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ และได้รับรางวัลผู้บุกเบิกนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (The Innovative EV Pioneer Award) อันทรงเกียรติ จาก บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

นายต๋า เซิน เซิน กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสเอไอซี มอเตอร์- ซีพี จำกัด กล่าวว่า “การได้รับรางวัล THAILAND EV OF THE YEAR 2025 ครั้งนี้ ถือเป็นผลงานที่สะท้อนความทุ่มเท และถือเป็นความภาคภูมิใจของผู้บริหารและทีมงาน กับผลิตภัณฑ์ของ เอ็มจี โดย เอ็มจี เป็นแบรนด์รถยนต์แบรนด์แรกที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์การรับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีติดต่อกัน 3 ปี จากความสำเร็จแรกกับ NEW MG4 ELECTRIC ที่ได้รับรางวัล THAILAND EV OF THE YEAR 2023 ต่อด้วย ALL NEW MG3 HYBRID+ ที่ได้รับรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 สู่รางวัลล่าสุดกับ NEW MG S5 EV ที่ได้รับรางวัล THAILAND EV OF THE YEAR 2025 ทั้งหมดนี้ เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ เอ็มจี ที่ได้รับการยอมรับและการันตีคุณภาพ ด้วยผลคะแนนที่น่าเชื่อถือจากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) เอ็มจี ขอขอบคุณทุกความไว้วางใจจากสื่อมวลชนทุกท่านที่มีต่อยนตรกรรมของ เอ็มจี รางวัลอันทรงเกียรตินี้จะเป็นหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่จะส่งต่อความมั่นใจในแบรนด์และผลิตภัณฑ์ไปยังผู้บริโภคชาวไทย ความสำเร็จในครั้งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ เอ็มจี เดินหน้าในการนำเสนอยนตรกรรมที่มาพร้อมนวัตกรรมและคุณภาพ เพื่อให้คนไทยได้เป็นเจ้าของได้ง่ายด้วยความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น”

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save