- Advertisement -
34.4 C
Bangkok
Home Blog Page 4

ซีอีโอ ลามิน่า ร่วมเสวนาวันสตรีสากล

นางสาวจันทร์นภา สายสมร ผู้รับรางวัล Her Awards, UNFPA Thailand ประชากรหญิงผู้สร้างแรงบันดาลใจ จากองค์การสหประชาชาติ ร่วมงานนิทรรศการประชากรหญิงผู้สร้างแรงบันดาลใจ Photo Exhibition International Women’s Day 2025 และให้เกียรติร่วมเสวนาในหัวข้อ Women and girls who inspire ผู้หญิงและเด็กหญิงผู้สร้างแรงบันดาลใจ เนื่องในวันสตรีสากล จัดโดย UNFPA กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ ณ MRT ศูนย์วัฒนธรรม

นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคารลามิน่า ร่วมงานนิทรรศการประชากรหญิงผู้สร้างแรงบันดาลใจ และร่วมเสวนาหัวข้อ ผู้หญิงและเด็กหญิงผู้สร้างแรงบันดาลใจ ในวันสตรีสากล

ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นางสาวสายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบระดับตำนานทีมชาติไทย ดร.นันทกาญจน์ สูงสุมาลย์ วูดแฮม ผู้อำนวยการสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย นางสาวจตุรพร ธนาพรสังสุทธิรอง กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด (ประเทศไทยและอินโดไชน่า) บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจแอนด์ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด และ นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคารลามิน่า

ซึ่งงานดังกล่าว กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ร่วมกับ บริษัท นินจา เพอร์เฟคชั่น จำกัด ได้จัดทำโครงการ Her Awards Photo Exhibition เพื่อเฉลิมฉลองวันสตรีสากล ปีพ.ศ.2568 ภายในงานมีนิทรรศการภาพถ่าย และเปิดตัว Photo Book ที่ได้รวบรวมภาพการทำงาน รวมถึงประวัติของบุคคลและองค์กรที่ได้รับรางวัล Her Awards, UNFPA Thailand 2024 จากทั่วประเทศ

ทั้งนี้ นางสาวจันทร์นภา สายสมร ได้รับรางวัลประชากรหญิงผู้สร้างแรงบันดาลใจ Her Awards, UNFPA Thailand 2024  ในฐานะผู้เสียสละอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือและพัฒนากลุ่มคนเปราะบาง เพื่อให้หลุดพ้นจากบริบทปัญหาด้านต่างๆ รวมทั้งสร้างโอกาสให้ต่อยอดพัฒนาสู่การพึ่งตนเองและการยกระดับคุณภาพชีวิต จากโครงการลามิน่าสานฝันเด็กไทยได้เล่าเรียนที่สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กไทยในถิ่นทุรกันดารมาตลอด 24 ปี อีกทั้งยังได้รับพระราชทานปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ประจำปีการศึกษา 2566 จากผลงานและความสำเร็จในการประกอบสัมมาชีพอันเป็นที่ประจักษ์

GWM เริ่มส่งมอบ TANK 300 DIESEL และ HAVAL H6 ให้ลูกค้าชาวไทยกลุ่มแรก

GWM (Thailand) เริ่มส่งมอบ NEW GWM TANK 300 DIESEL และ ALL NEW GWM HAVAL H6 ให้ลูกค้าชาวไทยกลุ่มแรกทั่วประเทศแล้ววันนี้

กรุงเทพฯ 11 เมษายน 2568 – GWM (Thailand) พร้อมยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users) หลังกวาดยอดจองสูงถึง 4,959 คัน ภายในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟน ๆ ชาวไทย ล่าสุด จัดกิจกรรมส่งมอบ NEW GWM TANK 300 DIESEL รถเอสยูวีขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนฯ ใหม่ที่มีความโดดเด่นเหนือใคร และ ALL NEW GWM HAVAL H6 รถเอสยูวีอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างครบครัน ณ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ ทั้ง 69 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการส่งมอบที่รวดเร็วและใช้เวลาเพียง 15 วันหลังจากที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ นับเป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของทั้ง “นวัตกรรมอัจฉริยะและเปี่ยมด้วยคุณภาพเพื่อการเดินทางแห่งอนาคต” ที่ตอบรับกับความต้องการของคนไทยได้อย่างแท้จริง และ “ความเชื่อมั่นของลูกค้าชาวไทย” ที่มีต่อ GWM แสดงถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ และความพร้อมในการส่งมอบและยกระดับประสบการณ์ที่ “เหนือกว่า” ในทุกด้าน ผ่านกลยุทธ์ระดับโลกอย่าง “GWM Go With More” โดยบรรยากาศของกิจกรรมส่งมอบ เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขของลูกค้าและพนักงาน GWM

เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าว “ขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกท่านที่มอบความไว้วางใจให้กับ GWM และขอต้อนรับลูกค้าทุกท่านที่ได้รับการส่งมอบ NEW GWM TANK 300 DIESEL และ ALL NEW GWM HAVAL H6 เข้าสู่ครอบครัว GWM เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ารถยนต์เอสยูวีของเราทั้งสองรุ่นนี้ จะเข้ามาเติมเต็มประสบการณ์การขับขี่ และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของทุกท่านด้วยความโดดเด่นที่มากกว่าในทุกด้านอย่างแท้จริง สืบเนื่องจากการรับฟังความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั่วประเทศ จนนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโทจย์ความต้องการของคนไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เรากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ ทั่วประเทศ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าที่สั่งจองรถยนต์ NEW GWM TANK 300 DIESEL รวมถึงรุ่นอื่น ๆ จะได้รับรถและการบริการหลังการขายที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและเปี่ยมด้วยมาตรฐานระดับสากล ในขณะเดียวกัน เรากำลังเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้สามารถตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าที่มีเข้ามาอย่างล้นหลามและเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่มียอดจองสูงถึง 2,786 คัน โดยในเดือนเมษายนนี้ เราจะทำการส่งมอบรถยนต์ได้ประมาณ 300 คัน และในเดือนพฤษภาคมนี้อีกมากกว่า 1,000 คัน”

นอกจากนี้ GWM (Thailand) ยังจัดให้มีกิจกรรมพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าร่วมแชร์ประสบการณ์และการเดินทางกับ GWM TANK 300 รถเอสยูวีสไตล์ Premium Boxy คู่ใจ ทั้งรุ่นไฮบริดและดีเซล ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขง่าย ๆ ตามนี้  เพียงแชร์ภาพความประทับใจขณะใช้รถ GWM TANK 300  ในการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ เป็นโมเมนต์แห่งความสุขที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างคุณและรถคู่ใจ หรือเป็นภาพที่มีรถ GWM TANK 300 พร้อมผู้คนในโมเมนต์แห่งความสุข ลุ้นรับรางวัล บัตรกำนัล Starbucks มูลค่า 1,000 บาท ประกาศผลผู้โชคดีในวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 นี้ โดยสามารถร่วมกิจกรรมได้แล้วตั้งแต่วันที่ 11 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568

GWM (Thailand) พร้อมด้วยยนตรกรรมเพื่อการเดินทางแห่งอนาคตที่ครอบคลุมทุกพลังงาน ทุกเซกเมนต์ ทุกความต้องการ ทั้ง GWM TANK, GWM HAVAL, GWM ORA และ GWM POER รอต้อนรับผู้ขับขี่ชาวไทยทุกท่าน ให้ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าในทุกมิติอย่างใกล้ชิด พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมากมายได้แล้ววันนี้! ณ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ ทั้ง 69 แห่งทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แอปพลิเคชัน GWM เว็บไซต์ https://www.gwm.co.th/ หรือ GWM Contact Center หมายเลข 02-668-8888

GWM เร่งขยายการเติบโตในปี 2025 ผ่าน 4 กลยุทธ์

GWM (Thailand) เร่งขยายการเติบโตในปี 2025 พร้อมเดินหน้าตอบความต้องการลูกค้าทั่วโลก ด้วยแนวคิด “All Scenarios, All Powertrains, All Users” ผ่าน 4 กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ

GWM (Thailand) พร้อมยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ผ่าน 4 กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ  GWM เดินหน้าขับเคลื่อนแบรนด์ตลอดปี 2568 ด้วยกลยุทธ์ระดับโลกอย่าง “GWM Go With More” มุ่งเน้นส่งมอบประสบการณ์ด้านผลิตภัณฑ์และการบริการหลังการขายที่ “เหนือกว่า” ในทุกด้านให้กับลูกค้าชาวไทยและทั่วโลก พร้อมขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียนเพื่อดำเนินธุรกิจส่งออกรถยนต์คุณภาพของ GWM ไปยังกลุ่มตลาดพวงมาลัยขวาทั่วโลก ด้วย 4 กลยุทธ์

-ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Strategy)

-การสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Building)

-ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ (Partner Collaboration)

-และการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Management – CEM)

ทั้งนี้ เพื่อมอบโซลูชันด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและมีความหลากหลายทั้งด้านพลังงาน (Multi Powertrain) ประเภท (Multi Category) และเซกเมนต์ (Multi Segment) ดังเช่น 2 นวัตกรรมล่าสุดที่เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 นี้ ได้แก่ NEW GWM TANK 300 DIESEL และ ALL NEW GWM HAVAL H6 ที่ได้รับยอดจองและการตอบรับอย่างล้นหลามในงาน

มร.ปาร์กเกอร์ ฉี ประธาน GWM ตลาดต่างประเทศ ระบุว่า “GWM ยึดมั่นในจุดยืนของแบรนด์ภายใต้แนวคิด ‘ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)’ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสะท้อนจิตวิญญาณของแบรนด์ ที่ว่า GWM Go With More ซึ่งเรามุ่งหวังให้ผู้ใช้ได้มีประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมและเพลิดเพลินกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างผ่านยนตรกรรมที่หลากหลาย พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสนุกและความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับในประเทศไทย เราเพิ่งเปิดตัวสองผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดของเราเพื่อรองรับความต้องการของคนไทย ได้แก่ NEW GWM TANK 300 DIESEL และ ALL NEW GWM HAVAL H6 ผมขอขอบคุณจากใจสำหรับกระแสตอบรับที่ล้นหลามจากงาน Motor Show 2025 ต่อรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้ การสนับสนุนและความคิดเห็นที่ยอดเยี่ยมจากแฟนๆ ชาวไทยมีความหมายกับเราเป็นอย่างมาก และเป็นแรงบันดาลใจให้เรามุ่งมั่นพัฒนาและส่งมอบยนตรกรรมคุณภาพสูงที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย สมรรถนะยอดเยี่ยม และที่สำคัญที่สุด คือ มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในรถยนต์ทุกรุ่น ทุกคันของ GWM เรามุ่งมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาและนำเทคโนโลยียานยนต์ที่ดีที่สุดมาสู่ประเทศไทย พร้อมทั้งขยายการส่งออกไปยังประเทศในอาเซียนและตลาดโลก เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่ง มั่นคง และยั่งยืน สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณลูกค้าชาวไทย สื่อมวลชนไทย พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ และตลาดในประเทศไทยทุกภาคส่วน สำหรับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งต่อ GWM ขอบคุณจากใจครับ”

สำหรับกระแสตอบรับที่ท่วมท้นที่ผู้บริโภคชาวไทยมีต่อ NEW GWM TANK 300 DIESEL และ ALL NEW GWM HAVAL H6 ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 นั้น ปัจจัยความสำเร็จมาจากการดำเนินงานตามกลยุทธ์ทั้ง 4 ด้านของ GWM ซึ่งล้วนพิสูจน์ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ถึงความสำเร็จขั้นต้นผ่านกลยุทธ์ดังกล่าว ประกอบด้วย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Strategy) เพื่อพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาดไทย ผ่านรถยนต์พลังงานใหม่ที่มีความหลากหลาย การสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Building) เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำในกลุ่มผู้บริโภคไทย ภายใต้แนวคิด “ONE GWM” และ “GWM Go With More” สู่การมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในทุกมิติ ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ (Partner Collaboration) โดย GWM จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ทุกรายทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การสร้างความรู้ด้านการขายและการตลาด เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เติบโตและมั่นคงไปพร้อมกัน และการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Management – CEM) มุ่งเน้นการบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ ทั้งการบริหารจัดการอะไหล่ที่มีประสิทธิภาพ การเพิ่มทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญของช่างเทคนิค ควบคู่ไปกับการดูแลลูกค้าอย่างครบวงจรภายใต้หลักการ SMART ประกอบไปด้วย Simple (สะดวก), Modern (ทันสมัย), Attention (ใส่ใจ), Reliable (เชื่อถือได้) และ Timeliness (ตรงเวลา) รวมถึงการทยอยเปิดศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานของ GWM สู่การมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับชาวไทย

สำหรับการส่งมอบ NEW GWM TANK 300 DIESEL และ ALL NEW GWM HAVAL H6 จะทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2568 เป็นต้นไป ในขณะเดียวกัน ณ โรงงานอัจฉริยะ ในจังหวัดระยอง ก็พร้อมเดินหน้าเต็มกำลังในการรองรับความต้องการของลูกค้าด้วยการผลิตรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกพลังงานทั้งรถยนต์ไฮบริด ปลั๊กอิน-ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้า 100% และรถยนต์ดีเซล รวมถึงการหาโอกาสทางการส่งออกไปยังกลุ่มตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวาในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ตอกย้ำการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศยุทธ์ศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางการผลิตและประกอบรถยนต์ที่มีความหลากหลายทั้งด้านพลังงาน (Multi Powertrain) ประเภท (Multi Category) และเซกเมนต์ (Multi Segment)

นอกจากที่ GWM จะมีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เติบโตขึ้นผ่านกลยุทธ์ต่างๆ แล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นสร้างการเติบโตและเดินหน้าเคียงข้างชาวไทยดังที่ได้ให้คำมั่นสัญญาตั้งแต่ที่ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ล่าสุด จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทยที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ GWM ได้เร่งออกโปรแกรมความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ การตรวจเช็กสภาพรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวฟรี ณ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมมอบส่วนลดค่าแรงและค่าอะไหล่ 30% (ยกเว้นแบตเตอรี่ ยางรถยนต์ และประดับยนต์) สำหรับการซ่อมบำรุง ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถติดต่อ GWM Contact Center โทร. 02-668-8888 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับบริการและขอคำแนะนำเพิ่มเติม

GWM จะยังคงมุ่งมั่นด้วยกลยุทธ์ดังกล่าว พร้อมเดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภค และผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่ระดับโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ GWM ในการนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์คุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเหนือกว่าในทุกมิติ

GWM ส่ง TANK 300 DIESEL และ HAVAL H6 ล็อตแรกกว่า 500 คัน สู่ดีลเลอร์

GWM ส่ง NEW GWM TANK 300 DIESEL และ ALL NEW GWM HAVAL H6 ล็อตแรกกว่า 500 คัน จากสายการผลิตในประเทศ สู่ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ พร้อมส่งมอบและให้ทดลองขับแล้ววันนี้

GWM (Thailand) พร้อมยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” โดยจากความสำเร็จล่าสุดของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่สร้างกระแสตอบรับถล่มทลายตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว ด้วยยอดจองที่เกินความคาดหมาย สะท้อนความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยในเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลของ GWM ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างครบครัน มอบการขับขี่ที่นิ่ง เงียบ และนุ่มนวล รวมถึงความคุ้มค่าคุ้มราคาของ ALL NEW GWM HAVAL H6 ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมเช่นเดียวกัน มาพร้อมความสะดวกสบายและความปลอดภัยจัดเต็ม ล่าสุด GWM พร้อมส่งมอบรถยนต์ทั้งสองรุ่นกว่า 500 คัน จากโรงงานอัจฉริยะของ GWM จังหวัดระยอง ซึ่งในจำนวนนี้เป็น NEW GWM TANK 300 DIESEL จำนวน 300 คัน ส่งตรงไปยัง GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ เพื่อเปิดให้ทดลองขับและเริ่มทยอยส่งมอบให้ผู้ใช้งานทั่วประเทศตลอดเดือนเมษายนนี้ โดย GWM จะเพิ่มกำลังการผลิต NEW GWM TANK 300 DIESEL เพื่อตอบรับกับยอดสั่งจองที่เข้ามาอย่างล้นหลามและเกินความคาดหมายโดยเร็วที่สุด โดยมีแผนการผลิตตั้งแต่เดือนพฤษภาคมในระดับมากกว่า 1,000 คันต่อเดือน

มร.เวยน์ โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณลูกค้าทั่วประเทศที่ให้การตอบรับอย่างล้นหลามให้กับ NEW GWM TANK 300 DIESEL และ ALL NEW GWM HAVAL H6 เรามีความภูมิใจที่ได้เริ่มส่งมอบยานยนต์คุณภาพสูงจากโรงงานอัจฉริยะของ GWM ในประเทศไทย ผลิตโดยคนไทย เพื่อคนไทย และผู้ใช้งานทั่วโลกสู่การสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าในทุกด้าน โดยแฟน ๆ GWM ที่ไม่มีโอกาสได้แวะเวียนไปที่บูธ GWM ในงานมอเตอร์โชว์ สามารถพิสูจน์และสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์เอสยูวีสไตล์ Premium Boxy และรถยนต์เอสยูวีทางเลือกใหม่สำหรับครอบครัวยุคใหม่ได้ ที่ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ ทั่วประเทศใกล้บ้าน พร้อมรับการบริการและข้อมูลผลิตภัณฑ์จากน้อง iAM และผู้เชี่ยวชาญของเรา ผมมั่นใจว่าหลังจากทดลองขับและสัมผัสรถยนต์ของเราอย่างใกล้ชิด ทุกท่านจะตกหลุมรักรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้ ที่ทาง GWM มุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาขึ้นมาจากการรับฟังเสียงของผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง”

ความสำเร็จของ NEW GWM TANK 300 DIESEL และ ALL NEW GWM HAVAL H6 ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ GWM ในการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่มาตรฐานสากล ผ่านการลงทุนในโรงงานผลิตที่ทันสมัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และยังช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ และพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย อีกทั้งยังช่วยยกระดับห่วงโซ่อุปทานในประเทศให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ตอกย้ำการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของภูมิภาค ร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับกับ NEW GWM TANK 300 DIESEL และ ALL NEW GWM HAVAL H6 ได้แล้ววันนี้ที่ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แอปพลิเคชัน GWM เว็บไซต์ https://www.gwm.co.th/ หรือ GWM Contact Center หมายเลข 02-668-8888

อีซูซุ จัดการแข่งขันทักษะการขายและบริการประจำปี 2567

อีซูซุเดินหน้าจัดการแข่งขันทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายประจำปี 2567 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า

อีซูซุตอกย้ำความเป็นผู้นำวงการรถยนต์เมืองไทย เดินหน้าพัฒนาบุคลากรมืออาชีพ จัดกิจกรรมการแข่งขันทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายประจำปี 2567 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1,320,000 ล้านบาท  ให้บุคลากรได้แข่งขันเเละโชว์ทักษะความรู้ความสามารถทั้งส่วนงานขายและบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดยอีซูซุได้จัดกิจกรรมนี้ต่อเนื่องมากกว่า 30 ปี

ทั้งนี้ภายในงานยังมีการร่วมแสดงความยินดีกับช่างอีซูซุซึ่งเป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันทักษะระดับนานาชาติ หรือ I-1 Grand-Prix ประเภทรถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ หรือ CV Division ประจำปี 2024 ซึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศ จากผู้เข้าแข่งขันรวมทั้งสิ้น 35 ประเทศ ได้แก่ คุณณัฐวุฒิ พลฤทธิ์ พนักงานช่างยนต์ รถบรรทุกขนาดกลาง-ใหญ่ จากบริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด และ คุณณัฐพงศ์ วังเขียว พนักงานช่างยนต์ รถบรรทุกขนาดกลาง-ใหญ่ บริษัท ธาราลำพูนอีซูซุเซลส์ จำกัด

มร.ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “เพื่อการเติบโตภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทายในปัจจุบัน เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพงานบริการทั้งในด้านการขายและบริการหลังการขาย โดยเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าตลอดการใช้งานของรถอีซูซุ นอกจากนี้การเตรียมความพร้อมด้านความรู้และทักษะที่เหมาะสมของบุคลากรยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญของผู้จำหน่าย เพื่อให้กลายเป็น “Trusted Buddy” ที่ลูกค้าสามารถพึ่งพาได้ทุกเมื่อ การแข่งขัน “ทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายอีซูซุ” จึงเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมทุกท่านได้แสดงความรู้และทักษะ เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการของอีซูซุให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น”

การแข่งขันทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายอีซูซุ ประจำปี 2567 รอบชิงชนะเลิศนี้ ผู้เข้าแข่งขันต้องผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นตามมาตรฐานการปฏิบัติงานแต่ละด้าน ประกอบด้วยการแข่งขัน 6 ประเภท สำหรับรอบชิงชนะเลิศนี้มีเจ้าหน้าที่ผ่านเข้ารอบทั้งสิ้น 107 คน จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 617 คน

ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดต้องผ่านการคัดเลือกทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติในรอบคัดเลือก และสำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนั้น  ผู้เข้าแข่งขันต้องผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน แต่ละด้าน ซึ่งทุกด้านของการแข่งขันล้วนมีส่วนสำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพของการขายและการบริการหลัง การขาย โดยมีคณาจารย์จากสถาบันการศึกษาชั้นนำให้เกียรติร่วมเป็นกรรมการตัดสินในครั้งนี้ด้วย โดยผลการแข่งขันมีดังนี้

-รางวัลชนะเลิศ ที่ปรึกษาการขาย รถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ได้แก่        

คุณณัฐพล พึ่งประชา จาก บริษัท อีซูซุนครหลวง จำกัด

-รางวัลชนะเลิศ ที่ปรึกษาการขาย รถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ ได้แก่

คุณมงคลชัย วงศ์มหาศิริกุล จาก บริษัท อีซูซุนครหลวงมอเตอร์ จำกัด

-รางวัลชนะเลิศ พนักงานช่าง รถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ได้แก่        

คุณสุวัฒน์ จันทร จาก บริษัท ชลบุรีอีซูซุเซลส์ จำกัด

-รางวัลชนะเลิศ พนักงานช่าง รถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ ได้แก่

คุณชัยวัฒน์ ศรีจันทร์ จาก บริษัท อึ้งง่วนไต๋อีซูซุเซลส์ จำกัด

-รางวัลชนะเลิศ พนักงานมัลติฟังก์ชัน (ที่ปรึกษางานบริการและเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์) ได้แก่

คุณธงชัย เย็นรักษา จาก บริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด

-รางวัลชนะเลิศ พนักงานอะไหล่ ได้แก่

คุณมงคล พลฤทธิ์ จาก บริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด

“รู้สึกดีใจแบบบรรยายความรู้สึกไม่หมดจริงๆ ครับ ก่อนแข่งรอบนี้ผมเตรียมตัวโดยการทบทวนความรู้ ทั้งความรู้เก่า และความรู้ใหม่ รวมถึงฝึกซ้อมที่ตัวรถจริงด้วย การแข่งเป็นการจำลอง แต่การทำงานคือการแก้ปัญหาจริง แค่การทำงานจริงจะไม่จำกัดเวลาเท่านั้นเอง ส่วนตัวมองว่าระหว่างการแข่งขันถ้าเราทำได้ในเวลาที่จำกัด การทำงานจริงก็จะถือว่าไม่ยากอีกต่อไป ผมจะเอาขั้นตอนและความรู้การแข่งขันตรงนี้ไปปรับใช้ และแนะนำน้องๆ ในทีมต่อไป”

คุณสุวัฒน์ จันทร รางวัลชนะเลิศ พนักงานช่าง รถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ จาก บริษัท ชลบุรีอีซูซุเซลส์ จำกัด

“การแข่งขันครั้งนี้ ทำให้เราได้ความรู้ รวมถึงเทคนิคในส่วนงานต่างๆมาประยุกต์ใช้ได้ดีมากเลยทีเดียวครับ อยากเชิญเพื่อนๆ ที่มีความพร้อมเข้ารวมการแข่งขันเพื่อแสดงศักยภาพ และนำความรู้ไปต่อยอดครับ ผมหวังไว้เต็มร้อยว่าต้องได้รางวัลกลับไป และก็ได้จริงๆ ครับ”

คุณธงชัย เย็นรักษา รางวัชนะเลิศ พนักงานมัลติฟังก์ชัน (ที่ปรึกษางานบริการและเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์) จาก บริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด

“ผมเก็บประสบการณ์รวมครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้วครับ และครั้งนี้ผมก็ทำได้สมความตั้งใจที่เตรียมตัวมาอย่างดี ประสบการณ์ที่สะสมมาจะนำไปส่งต่อให้ที่ปรึกษาการขายคนอื่น ๆ ต่อไป การแข่งขันคือการพัฒนาตัวเอง ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสก็อยากให้มาเข้าลองร่วมการแข่งขันดูครับ”

คุณมงคลชัย วงศ์มหาศิริกุล รางวัลชนะเลิศ ที่ปรึกษาการขาย รถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ จากบริษัท อีซูซุนครหลวงมอเตอร์ จำกัด กล่าวทิ้งท้าย

อีซูซุเดินหน้าสานต่อโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” แห่งที่ 44

อีซูซุเดินหน้าสานต่อโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” แห่งที่ 44 แก่โรงเรียนวัดพวงนิมิต จ.สระแก้ว

กลุ่มอีซูซุในประเทศไทย โดย มร. ทาคาชิ  ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และนายวิจิตร สดสะอาด ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 9 ระยอง มุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาสิ่งที่ดีให้สังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดส่งมอบระบบน้ำดื่มสะอาดในโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” เป็นปีที่ 12 แห่งที่ 44 ให้แก่ โรงเรียนวัดพวงนิมิต อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของนักเรียนและครูในโรงเรียนรวมถึงคนในชุมชนตอกย้ำปรัชญาการดำเนินธุรกิจ หรือ “วิถีอีซูซุ” นั่นคือ “ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ ช่วยให้สังคมพัฒนา”

มร.ทาคาชิ  ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “ดังที่ทุกท่านทราบดีว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลก ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจเกือบทุกประเภท ตลาดรถยนต์ไทยก็กำลังเผชิญภาวะหดตัวอย่างรุนแรงต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจของกลุ่มอีซูซุด้วย อย่างไรก็ตามเราก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อกิจกรรมเพื่อสังคมของเราให้น้อยที่สุด เราจึงได้พยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้นได้ สำหรับโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” ในปีนี้ เราได้เพิ่มอุปกรณ์พิเศษในกระบวนการผลิตน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียน นั่นคือ การติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซล่าเซลล์ เพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของอีซูซุในเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่งเป็นนโยบายหลักของอีซูซุ รวมทั้งการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทยในการใช้พลังงานทดแทนอีกด้วย”

 สำหรับโรงเรียนวัดพวงนิมิต เป็นโรงเรียนขนาดกลาง ตั้งอยู่ในอำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว เปิดสอนตั้งแต่อนุบาล 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียน คุณครู และบุคลากรทั้งสิ้นกว่า 300 คน โรงเรียนดังกล่าวประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้งของทุกปี เนื่องจากต้องพึ่งพาแหล่งน้ำหลักในการอุปโภคและบริโภคจากหมู่บ้าน เมื่อใดก็ตามที่หมู่บ้านขาดแคลนน้ำ นักเรียนและบุคลากรจึงได้รับความเดือดร้อนไปด้วย อีซูซุจึงส่งทีมงานลงพื้นที่สำรวจปัญหาและติดตั้งระบบน้ำดื่มสะอาดที่ประกอบด้วย ระบบบ่อบาดาลครบวงจร ระบบกรองน้ำดื่มสะอาดตามมาตรฐาน พร้อมอาคารศูนย์ผลิตน้ำดื่ม พร้อมจัดอบรมวิธีการใช้งาน การทำความสะอาด และการบำรุงรักษาให้กับบุคลากรที่รับผิดชอบ รวมทั้งการเข้าไปตรวจสอบคุณภาพน้ำให้ได้มาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้นักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนได้มีน้ำดื่มสะอาดถูกหลักอนามัยบริโภคอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ปัญหาน้ำดื่มอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ สำหรับโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” ในปีนี้ เราได้เพิ่มอุปกรณ์พิเศษในกระบวนการผลิตน้ำดื่มสะอาด นั่นคือ การติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของอีซูซุในเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่งเป็นนโยบายหลักของอีซูซุ รวมทั้งการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทยในการใช้พลังงานจากทรัพยากรทดแทน และยังช่วยลดค่าไฟฟ้าของโรงเรียนได้กว่า 3,000 บาทต่อเดือนอีกด้วย

นายวิจิตร สดสะอาด ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 9 ระยองกล่าวถึงโครงการว่า “โครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” เป็นโครงการที่ดีมาก ดีใจแทนประชาชนโดยเฉพาะนักเรียนและครู อาจารย์ ความร่วมมือระหว่างราชการและเอกชน ทำให้โครงการที่มีประโยชน์แบบนี้นี้เกิดขึ้นได้ อยากให้ทางอีซูซุดำเนินโครงการนี้ต่อไปจนครบทุกโรงเรียนที่ยังขาดแคลนน้ำในประเทศไทย”

นายศิขรินทร์ สว่างวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพวงนิมิต กล่าวถึงปัญหาน้ำที่โรงเรียนว่า “ตั้งแต่ที่ผมเข้ามาดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนวัดพวงนิมิตนั้น ปัญหาแรกที่เจอเลยก็คือ ปัญหาเรื่องน้ำ นอกจากปัญหาน้ำไม่เพียงพอต่อการใช้ หรือการดื่มแล้ว ยังมีปัญหาน้ำที่มีอยู่มีสารปนเปื้อน เนื่องจากว่าเป็นน้ำผิวดิน ซึ่งติดกับไร่อ้อยและไร่พืชของชาวบ้าน ที่ส่วนหนึ่งก็จะมีการใช้ยาฆ่าหญ้า ขอขอบคุณอีซูซุและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แทนนักเรียน คุณครู และคนในชุมชนที่เมตตาจัดทำโครงการนี้เพราะว่าเรื่องของน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญ ประเทศจะเจริญก้าวหน้า น้ำเป็นปัจจัยหลัก”

โครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” เป็นโครงการระยะยาวที่กลุ่มอีซูซุมุ่งมั่นตามปณิธานที่ได้ตั้งไว้ว่าจะดำเนินโครงการนี้จนกว่าจะไม่มีโรงเรียนในประเทศไทยประสบปัญหาเรื่องน้ำดื่มสะอาดอีกต่อไป เพื่อตอบแทนสังคมโดยมีเป้าหมายที่จะบรรเทาความเดือดร้อนปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดให้หมดไป พร้อมเน้นย้ำแนวคิดของอีซูซุ “Isuzu Trusted Buddy” ตอกย้ำคุณค่าแบรนด์ เคียงข้างลูกค้า เคียงคู่สังคมไทย ขอเป็นเพื่อนคู่ใจที่ลูกค้าชาวไทยไว้วางใจได้เสมอในทุกขั้นตอน โดยตั้งเป้าหมายที่จะสร้างความสุขแก่คนไทย และสร้างการรับรู้คุณค่าแบรนด์อีซูซุที่มีต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย ซึ่งได้เจริญเติบโตตลอดมาและพร้อมที่เคียงคู่ประเทศไทยต่อไปในอนาคตอย่างยั่งยืน

AOT มั่นใจ เลือก All-New Camry เข้าร่วมทัพลีมูซีนสุวรรณภูมิ

AOT มั่นใจ เลือก All-New Camry สำหรับบริการลีมูซีนสุวรรณภูมิเพื่อส่งมอบความสะดวกสบาย เหนือระดับ ในทุกการเดินทาง

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าพบ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เพื่อแสดงความขอบคุณ พร้อมทำการส่งมอบรถไฮบริดซีดาน ALL-NEW CAMRY จำนวน 50 คัน สำหรับมอบบริการเหนือระดับ ที่มาพร้อมความสะดวกสบาย มั่นใจ และปลอดภัย ตลอดการเดินทาง กับบริการรับ-ส่งผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ AOT Limousine เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568 ณ อาคารผู้โดยสาร สนามบินสุวรรณภูมิ

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ขอขอบคุณ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ที่มอบความไว้วางใจ ในการเลือกใช้ โตโยต้า คัมรี อย่างต่อเนื่อง ตลอด 19 ปี นับตั้งแต่เปิดทำการ เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ 2549 และในปีพ.ศ. 2568 นี้ ทาง AOT ยังคงเชื่อมั่น และมอบความไว้ใจให้กับโตโยต้า โดยเลือกใช้ ALL-NEW CAMRY HEV SMART สีเงิน Precious Metal ใหม่จำนวน 50 คัน  เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรถลีมูซีนประจำสนามบิน หรือ AOT Limousine ในการให้บริการรับส่งผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อันเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่น และความไว้วางใจที่มีให้กับยนตรกรรมที่มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริดของโตโยต้า ที่สามารถมอบความสะดวกสบาย ทั้งยังปลอดภัยมั่นใจได้ ตลอดการใช้งาน ภายใต้แนวคิด “TOYOTA NO.1 TRUSTED HEV ไฮบริดที่ใช่มั่นใจทุกเจน”

ทั้งนี้ ALL-NEW CAMRY เป็นผู้นำรถยนต์ไฮบริด ที่ได้รับความไว้วางใจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 15 ปี และยังมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ด้วยการสื่อสารภายใต้แนวคิด “TOYOTA TRUSTED HYBRID  และยังเป็นรถรุ่นที่ได้รับรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี THAILAND CAR OF THE YEAR 2025 ในรุ่น BEST MID-SIZE HYBRID SEDAN (UNDER 2,500 CC) สำหรับผู้ที่สนใจรับบริการรถลีมูซีนสุวรรณภูมิ สามารศึกษารายละเอียดการจองเพิ่มเติมได้ ที่เว็บไซต์ http://aotlimousine.com

ท่าอากาศยานไทย เชื่อมั่นอีซูซุ เลือกรถ MU-X ให้บริการ AOT LIMOUSINE

ท่าอากาศยานไทยเชื่อมั่นอีซูซุ เลือกรถ MU-X “THE NEXT PEAK” 90 คัน ให้บริการ AOT LIMOUSINE ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้กับบุคคลทั่วไปและภาคธุรกิจ

มร.มิชิมาสะ โคโนะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ส่งมอบรถอเนกประสงค์ ใหม่! MU-X “THE NEXT PEAK” รุ่น Active ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ ใหม่! Isuzu 2.2 Ddi MAXFORCE พลังใหม่…กำหนดโลก และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด จำนวน 90 คัน ให้แก่คุณกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและนายสุวิทัต วงศ์วิเชียร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายการพาณิชย์) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ผู้ดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก รวมทั้งดำเนินการกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่องกับการประกอบกิจการท่าอากาศยาน มั่นใจเลือก MU-X “THE NEXT PEAK” ผู้นำรถอเนกประสงค์ยอดนิยมของอีซูซุในเมืองไทยที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ตลอดจนความสะดวกสบาย เทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ เพื่อใช้สำหรับ AOT LIMOUSINE ซึ่งเป็นบริการขนส่งไป-กลับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่มีคุณภาพให้กับประชาชนทั่วไปและภาคธุรกิจ พร้อมมาตรฐานระดับความปลอดภัยสูงสุด ความน่าเชื่อถือ และความสะดวกสบาย

บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ค่ายรถเผยยอดจองรวม 7.9 หมื่นคัน

“บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” ค่ายรถเผยยอดจองรวม 7.9 หมื่นคัน โตเพิ่ม 44.8% มั่นใจช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ปี 2568 โดยแบ่งเป็นรถยนต์ 77,379 คัน ขณะที่รถจักรยานยนต์ 2,562 คัน มั่นใจช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ปี 2568

งาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” ประสบความสำเร็จตามคาด ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน บรรดาค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 54 แบรนด์ ที่เข้ารวมงานต่างปลื้มเก็บยอดจองรถยนต์รวมทุกเซ็กเม้นท์จำนวน 79,941 คัน ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะรองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เปิดเผยว่า “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 นับเป็นอีกครั้งของการจัดงานที่ประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งจำนวนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และผู้ประกอบการธุรกิจยานยนต์ที่เข้าร่วมงานซึ่งมีเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่งผลให้บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก และได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก จากการรวบรวมตัวเลขผู้เข้าชมงานในปีนี้อยู่ที่ 1,601,011 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

ด้านของยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เกิดขึ้นภายในงาน มียอดรวมทั้งสิ้น 79,941 คัน แบ่งออกเป็นรถยนต์ 77,379 คัน ขณะที่รถจักรยานยนต์มียอดจองในปีนี้มี 2,562 คัน จากตัวเลขดังกล่าว พบว่าสัดส่วนยอดจองรถภายในงาน แบ่งออกเป็นรถในกลุ่ม xEV มียอดจองอยู่มากกว่า 65% โดยเฉพาะประเภทเอสยูวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนรถเครื่องยนต์สันดาปมีสัดส่วนอยู่ที่ 35%

จากการรวบรวมตัวเลขยอดจองรถยนต์ภายในงาน 5 อันดับแรก ประกอบด้วย BYD มียอดจองรวม 9,819 คัน TOYOTA มียอดจองรวม 9,615 คัน GAC มียอดจองรวม 7,018 คัน DEEPAL มียอดจองรวม 6,067  คัน  และ  HONDA มียอดจองรวม 5,948 คัน

ส่วนตัวเลขยอดจองของรถจักรยานยนต์ 5 อันดับแรกได้แก่ YAMAHA มียอดจองรวม 1,286 คัน SUZUKI มียอดจองรวม 224 คัน ROYAL ENFIELD มียอดจองรวม 224 คัน HARLEY-DAVIDISON มียอดจองรวม 215 คัน TRIUMPH 170 คัน BMW MOTORRAD มียอดจองรวม 165 คัน โดยทางไทยฮอนด้า ไม่ประสงค์จะแจ้งยอดจองภายในงานครั้งนี้

ตัวเลขยอดจองของรถจักรยานยนต์ 5 อันดับแรกได้แก่ YAMAHA มียอดจองรวม 1,286 คัน SUZUKI มียอดจองรวม 224 คัน ROYAL ENFIELD มียอดจองรวม 224 คัน HARLEY-DAVIDISON มียอดจองรวม 215 คัน TRIUMPH 170 คัน BMW MOTORRAD มียอดจองรวม 165 คัน โดยทางไทยฮอนด้า ไม่ประสงค์จะแจ้งยอดจองภายในงานครั้งนี้

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดจองรถยนต์ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ มีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 44.8% การมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เปิดตัวภายในงานซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ผู้บริโภคกำลังให้ความสนใจ การแข่ง ขันทางด้านแคมเปญโปรโมชั่น การยกระดับความเชื่อมั่นของแบรนด์รถยนต์หลายค่ายในการขยายการรับประกันคุณภาพสินค้า รวมถึงนโยบายการสนับสนุนของภาครัฐอย่าง กระบะพี่ มีคลังค้ำ ล้วนเป็นส่วนสำคัญให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและกล้าตัดสินใจในการซื้อรถยนต์มากยิ่งขึ้นกว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

นายจาตุรนต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สิ่งหนึ่งที่ตอกย้ำว่างานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เป็นหนึ่งในงานที่ช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ได้เป็นอย่างดี คือ การที่ค่ายรถยนต์เลือกจะใช้แคมเปญกระตุ้นการขายทั่วประเทศเป็นแคมเปญเดียวกันกับที่ใช้ภายในงาน ส่งผลให้เกิดยอดจองรถยนต์ที่เติบโตขึ้นทั่วประเทศ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นเป็นอย่างดี จากบริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ ในการเข้าร่วมงานเพื่อจัดแสดงเทคโนโลยียานยนต์ไปจนถึงนวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในการสร้างบูธและจัดแสดงโชว์สุดอลังการมาโดยตลอดอีกด้วย”

ทั้งนี้ ทางผู้จัดงานต้องขอขอบคุณทุกๆ บริษัทที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ที่มีส่วนช่วยเหลือและสนับสนุนให้งาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ในปีนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม นั่นเป็นการยืนยันให้เห็นได้ถึงการเป็นงานแสดงรถยนต์อันดับหนึ่งของเมืองไทยและเป็นหนึ่งในอาเซียน เทียบชั้นกันงานแสดงรถยนต์ระดับโลกได้อย่างแท้จริง

สำหรับกำหนดการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 47 จะมีขึ้นวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2569 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี

GWM กวาดยอดจอง 4,959 คัน ในงาน Motor Show 2025

GWM กวาดยอดจองกว่า 4,959 คัน ในงาน Motor Show 2025 พร้อมประกาศปรับราคา NEW GWM TANK 300 DIESEL ทุกรุ่น ขึ้น 30,000 บาท

กรุงเทพฯ 7 เมษายน 2568 – GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด ประกาศความสำเร็จจากงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 46 จากกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ พร้อมปิดยอดจองสะสมรวมทั้งสิ้น 4,959 คัน โดยรถยนต์รุ่นยอดนิยม 3 อันดับแรก นำโดย NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการรถยนต์ดีเซลในประเทศไทย ครองใจสายลุยทั้งในเมืองและนอกเมือง ด้วยดีไซน์เป็นเอกลักษณ์และขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนฯ ใหม่ล่าสุด ด้วยยอดจองสูงถึง 2,786 คัน สะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าและความแข็งแกร่งของแบรนด์ในประเทศไทย ตอกย้ำความสำเร็จของ GWM หลังเปิดศักราชใหม่ได้ไม่นาน

นอกจากนี้ จากกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่เปิดตัวมาพร้อมกับราคาแนะนำสุดพิเศษเริ่มต้นเพียง 999,000 บาท และสามารถกวาดยอดจองสูงกว่า 800 คัน ภายใน 5 วัน เพื่อเฉลิมฉลองและขอบคุณลูกค้ากับการตอบรับอย่างล้นหลามให้กับรถยนต์รุ่นนี้ GWM จึงได้มีการประกาศขยายระยะเวลาโปรโมชันออกไปจนจบงานมอเตอร์โชว์ หรือถึงวันที่ 6 เมษายน 2568 เวลา 23.59 น. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว GWM ขอประกาศปรับราคา NEW GWM TANK 300 DIESEL ทุกรุ่น ขึ้นจำนวน 30,000 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2568 เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

•NEW GWM TANK 300 DIESEL 2.4T รุ่น PRO จากราคา 999,000 บาท เป็นราคา 1,029,000 บาท

•NEW GWM TANK 300 DIESEL 2.4T รุ่น ULTRA จากราคา 1,149,000 บาท เป็นราคา 1,179,000 บาท

•NEW GWM TANK 300 DIESEL 2.4T ULTRA 4WD จากราคา 1,249,000 บาท ราคา 1,279,000 บาท

สำหรับผู้ที่จอง NEW GWM TANK 300 DIESEL ตั้งแต่วันที่ 7 – 30 เมษายน 2568 รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปีเต็ม ฟรี บริการระบบตรวจสอบและสั่งการรถผ่านอินเทอร์เน็ต* (Telematic Service) พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ (Internet in Vehicle) ระยะเวลา 3 ปี ฟรี ค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทางภายในระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน และไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี พร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร* (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันเครื่องยนต์ดีเซล 1,000,000 กิโลเมตร หรือ 8 ปี (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

* เงื่อนไขการให้บริการเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดได้ที่ GWM Thailand – Service   

เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุน GWM ด้วยความไว้วางใจและความอบอุ่นเสมอมา รวมถึงทีมงานทุกคนที่ร่วมกันสร้างความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ให้กับ GWM ในงาน Motor Show ในครั้งนี้ โดยยอดจองที่เกิดขึ้นในงาน เป็นเครื่องพิสูจน์ที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของรถยนต์ของเราที่ครอบคลุมทุกพลังงานว่าสามารถตอบความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ นอกเหนือจากการมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันล้ำสมัยแล้ว ‘การบริการหลังการขาย’ คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ มาโดยตลอด ทั้ง GWM และ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ กว่า 68 แห่งทั่วประเทศ มีความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อพัฒนาการดูแลลูกค้าไปอีกขั้น ตั้งแต่การบริหารจัดการอะไหล่ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การพัฒนาทักษะช่างเทคนิค ไปจนถึงการซ่อมบำรุงรถยนต์ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือกว่าในทุกมิติให้กับลูกค้าชาวไทยทุกคน สอดคล้องกับแนวคิด ‘GWM Go With More’”

สำหรับผู้ที่พลาดโอกาสสัมผัสยนตรกรรมสุดล้ำครอบคลุมทุกพลังงานของ GWM ในงาน Motor Show สามารถเข้าชมและทดลองขับยนตรกรรมใหม่แห่งอนาคตทั้ง 3 รุ่น ทั้ง NEW GWM TANK 300 DIESEL, ALL NEW GWM HAVAL H6 และ NEW GWM ORA Good Cat สี So Blue และรถยนต์ GWM รุ่นอื่นๆ ได้ที่ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ 68 สาขาทั่วประเทศ

(รุ่นรถที่จัดแสดงและให้ทดลองขับจะแตกต่างกันไปแต่ละ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ โปรดตรวจสอบรายละเอียดก่อนเข้ารับบริการ) พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษที่รอให้ชาวไทยเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save