- Advertisement -
30.6 C
Bangkok
Home Blog Page 70

มาสด้า เดินหน้ายกระดับศักยภาพบุคลากรผู้จำหน่ายทั่วไทย

มาสด้า เดินหน้ายกระดับศักยภาพบุคลากรผู้จำหน่ายทั่วประเทศ จัดสัมมนา Make the move to a sustainable future หนึ่งในกลยุทธ์หลักเสริมแกร่งบุคลากรผู้จำหน่าย คู่ขนาดไปกับการสร้างแบรนด์มาสด้าให้แข็งแกร่งและยั่งยืนตลอดไป ด้วยการส่งมอบความประทับใจและเป็นมิตร โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

“มาสด้า” จัดงานรวมพลคนแถวหน้า Mazda National Dealer  Leadership Seminar 2024 งานสัมมนาเพื่อพัฒนาบุคลากรของผู้จำหน่ายมาสด้าในระดับผู้บริหาร ประจำปี 2024 ภายใต้แนวคิด “Make the Move to a Sustainable Future” โดยได้รับความร่วมมือจากบุคลากรระดับผู้นำทีมของผู้จำหน่ายมาสด้าทั่วประเทศในทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายขาย ฝ่ายบริการ ฝ่ายซ่อมตัวถังและสี เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 250 คน เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บุคลากรผู้จำหน่าย โดยเฉพาะการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้สัมผัสในทุก Touchpoint ไปตลอดช่วงระยะเวลาที่เป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า ตามแนวทาง Retention Business Model ที่ให้ความสำคัญกับเสริมสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ อันเป็นแนวทางที่มาสด้าประเทศไทยและมาสด้าทั่วโลกได้เน้นย้ำ ยึดมั่นเป็นนโยบายหลักสำคัญตลอดมา โดยให้ความสำคัญต่อการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าและยกระดับความเป็นเลิศในการส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าแบบครบวงจร

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า งานสัมมนาจัดขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเกิดแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรของผู้จำหน่าย แสดงให้เห็นถึงการทำงานเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ One Mazda Team ที่พร้อมผนึกกำลังทำงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อผลักดันองค์กรให้เกิดความแข็งแกร่งและก้าวสู่การเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืน โดยเฉพาะการบริหารคุณค่าหลักของแบรนด์ หรือ P.P.V. ประกอบด้วย Purpose การสร้างคุณค่าและเติมเต็มความมีชีวิตชีวาให้กับผู้คนที่ได้สัมผัสกับแบรนด์มาสด้าในทุกประสบการณ์และทุกช่วงเวลาของชีวิต ตามด้วย Promise คำมั่นสัญญาจากมาสด้า คือการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ครบทุกมิติได้อย่างสมดุลทั้งทางด้านอารมณ์ความรู้สึกและกายภาพ รวมถึงชุมชนและสังคม และคุณค่าหลักที่สำคัญอย่างยิ่งที่บุคลากรมาสด้าทุกคนยึดมั่น คือ Values หรือ คุณค่า ทัศนคติ แนวคิด และพฤติกรรม อันเป็นค่านิยมที่แบรนด์ยึดมั่น โดยให้ความสำคัญกับมนุษย์อย่างแท้จริง มีจิตวิญญาณนักสู้ ส่งมอบประสบการณ์ความประทับใจด้วยความใส่ใจและเป็นมิตรโดยไม่คาดหวังรางวัลตอบแทน โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกบริบท

การพัฒนาและยกระดับศักยภาพบุคลากรคือหนึ่งในวิถีทาง Thai Mazda Way ที่มาสด้าให้ความสำคัญสูงสุด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มาสด้ามีการจัดอบรมในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ หลังจากที่ได้ประกาศนโยบายที่เน้นย้ำการทำงานเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน ตามแนวทาง Retention Business Model ที่ยึดมั่นเอาใจใส่ดูแลลูกค้าให้ดีที่สุดในทุกองค์ประกอบ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ลูกค้าและมอบสิทธิประโยชน์ที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า มาสด้าจึงได้ใช้โอกาสนี้ในการถ่ายทอดแนวทางปฏิบัติ ด้วยการถ่ายทอดแนวคิดและวิถีการทำงานพร้อมทั้งเป้าหมายที่บุคลากรมาสด้าต้องถือปฏิบัติร่วมกัน ผ่านการทำ Visual Storytelling หรือ การสร้างสรรค์ภาพวาดที่เป็นบทสรุปจากการสัมมนา พร้อมนำเสนอทักษะความรู้ โดยเฉพาะการยกระดับประสบการณ์ที่ดีและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เป็นแบรนด์ที่ส่งมอบบริการอันเป็นอัตลักษณ์ ซึ่งได้รับเกียรติจากวิทยากรรับเชิญพิเศษมากมาย ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์การสร้างแบรนด์ (CEO – VML Thailand) การตลาดในยุคดิจิทัล (CEO – Content Shifu) ให้กับบุคลากรของผู้จำหน่ายในระดับผู้นำองค์กรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สามารถนำเอาหลักการเหล่านี้ไปถ่ายทอดให้กับทีมเพื่อประโยชน์สูงสุดในการทำงาน เพื่อส่งมอบการดูแลลูกค้าได้อย่างดีที่สุด และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้บุคลากรของผู้จำหน่าย โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์มาสด้าให้แข็งแกร่งและยั่งยืนตลอดไป เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในด้าน Top Customer Retention และ Top Service Retention เพื่อแทนคำมั่นสัญญาว่ามาสด้าจะเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่ส่งมอบความสุขและสร้างรอยยิ้มให้กับลูกค้า Joy Drives Lives แทนคำขอบคุณที่ลูกค้าไว้วางใจและเลือกใช้รถมาสด้าให้เป็นรถคู่ใจไปตลอดการเดินทาง

SUZUKI CARRY รถส่งความสุข รถคู่คิดธุรกิจ SME

SUZUKI CARRY “รถส่งความสุข” เดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อสังคมต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ยกขบวน Suzuki Carry Barber Truck ส่งความสุขแก่ผู้สูงอายุพร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์ รถคู่คิดธุรกิจ SME

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากซูซูกิเปิดตัว SUZUKI CARRY รถกระบะเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2549 ก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เข้าไปอยู่ในใจของคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมหรือ SME  จนมาถึงการเปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 2 ในปี 2562 ด้วยรูปโฉมทันสมัย คงไว้ซึ่งจุดเด่นในเรื่องความอเนกประสงค์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ภายใต้แนวคิด “Carry Your Dream เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” ส่งให้ปัจจุบันมียอดขายสะสมในประเทศไปมากกว่า 61,436 คัน

โดย SUZUKI CARRY นับเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กที่อยู่คู่กับผู้ประกอบการไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยแนวคิดของซูซูกิ นอกจากคำนึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าที่จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีและมีความคุ้มค่าในทุกด้านแล้ว “ซูซูกิ” ยังยกให้ SUZUKI CAARY เป็นตัวแทนแห่งความมุ่งมั่นในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนสังคมไทยผ่านแคมเปญ “SUZUKI Cause We Care-เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” จึงเป็นความมุ่งหวังที่จะพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับช่วยเหลือเกื้อกูลชุมชนและสังคมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

หนึ่งในโครงการสำคัญที่เรายังคงเดินหน้าส่งมอบความสุขกันมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 คือ กิจกรรม “Carry Your Dream Carry Your Life” โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ณ มูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย ซึ่งได้ร่วมมือกับทั้งผู้ประกอบการที่เป็นพันธมิตร และผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ ทำการดัดแปลงรถกระบะเพื่อการพาณิชย์อเนกประสงค์ SUZUKI CARRY ให้กลายเป็นร้านตัดผมเคลื่อนที่เพื่อนำไปให้บริการ พร้อมทั้งการมอบเครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็นไว้ให้ทางมูลนิธิฯ ซึ่งจากจุดเริ่มต้นในครั้งนั้น เราได้ขยายการจัดกิจกรรมการส่งมอบความสุขนี้ไปยังผู้ด้อยโอกาสทางสังคมยังสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ไทยมาจนถึงปัจจุบัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21  มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมือกับทางผู้ประกอบการร้านตัดผมจากร้าน “เฮ้ย รถตัดผมชาย Jirass Barber” และผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิในพื้นที่ นำโดย คุณพงษ์ธร อุเทนพัฒนันท์ กรรมการผู้จัดการ และ คุณชยธร อุเทนพัฒนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เฮงวัฒนา จำกัด นำ SUZUKI CARRY Barber Truck มาให้บริการตัดผมแก่ผู้สูงอายุ ณ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุขอนแก่นเป็นศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ รวมไปถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุในจังหวัดขอนแก่น โดยเป็นศูนย์ พัฒนา การจัดสวัสดิการสังคมฯ ที่เปิดให้บริการแก่ผู้สูงอายุประเภทมาเช้า – เย็นกลับ (Day Center) ซึ่งนอกจากการให้บริการตัดผมแล้ว ในครั้งนี้ยังมีอินฟลูเอนเซอร์สายกีฬาชื่อดัง เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อมอบความสนุก พร้อมสร้างรอยยิ้ม ความสุขและความประทับใจให้แก่ทุกท่านอีกด้วย ทั้งยังได้มอบเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นให้กับทางศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุขอนแก่น โดยมีคุณภธิรา กิตติเดชานันท์ ผู้อำนวยการ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุขอนแก่น และนายอาคม ศิลปดอนบม นายกเทศมนตรี ตำบลสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เป็นผู้แทนในการรับมอบอีกด้วย

จากทุกกิจกรรมที่ซูซูกิจัดขึ้น โดยมี SUZUKI CARRY เป็นสื่อกลางในการส่งมอบทุกความสุขให้คนไทย ตอกย้ำให้เห็นถึงคุณค่าของรถยนต์รุ่นนี้ สามารถตอบรับต่อความต้องการที่หลากหลายเป็นได้มากกว่ารถขนสินค้าหรือสัมภาระ เปรียบเสมือนดั่งพาร์ทเนอร์คนสำคัญที่พร้อมจะสนับสนุน และร่วมขับเคลื่อนอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการด้วยความจริงใจ เดินหน้าไปสู่จุดหมายและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน

นายวัลลภ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า แนวคิด “Carry Your Dream เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” ยังคงเป็นดีเอ็นเอที่ชัดเจนของ SUZUKI CARRY เพราะไม่ว่าความฝันของคุณจะเป็นอย่างไร หรืออยู่ท่ามกลางวิกฤตการณ์แบบไหน SUZUKI CARRY ก็พร้อมจะเป็นยานพาหนะที่อยู่เคียงข้างร่วมฝ่าวิกฤตในทุกสถานการณ์ ซึ่งที่ผ่านมาได้พัฒนารูปแบบให้สามารถรองรับการดัดแปลงได้อย่างหลากหลาย จึงตอกย้ำได้อย่างชัดเจนว่า SUZUKI CARRY เป็นได้มากกว่ารถขนสินค้าหรือสัมภาระ แต่เปรียบเสมือนพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ที่พร้อมจะสนับสนุนและร่วมขับเคลื่อนอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการด้วยความจริงใจ เดินหน้าไปสู่จุดหมายและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน อีกทั้งเรายังมีพันธมิตรเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศเข้ามาร่วมเป็นเอ็กซ์คลูซีฟลีสซิ่ง ช่วยเรื่องการอนุมัติสินเชื่อให้มีความหลากหลายและช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ

สมาคม สรยท. เข้าพบแนะนำคณะกรรมการบริหารชุดใหม่กับคณะผู้บริหารระดับสูง ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย

สมาคม สรยท. เข้าพบแนะนำคณะกรรมการบริหารชุดใหม่กับคณะผู้บริหารระดับสูง บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ (Thailand Automotive Journalists Association : TAJA) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ วาระปี 2567-2569 เข้าพบ นางสาวมนวรา เพชรพลากร ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด และทีมประชาสัมพันธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า เพื่อสวัสดีและแนะนำกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ ขณะเดียวกันได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงทิศทางตลาดรถยนต์ในประเทศไทย พร้อมหารือถึงความร่วมมือระหว่างสมาคมฯ กับผู้ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมฯ ณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567

สมาคม สรยท. เข้าพบแนะนำคณะกรรมการบริหารชุดใหม่กับผู้บริหารระดับสูง บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล

สมาคม สรยท. เข้าพบแนะนำคณะกรรมการบริหารชุดใหม่กับคณะผู้บริหารระดับสูง บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI

นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ (Thailand Automotive Journalists Association : TAJA) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ นำคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ วาระปี 2567-2569 เข้าพบ ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI และประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์, นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI รองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ และนายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายพัฒนาธุรกิจ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เพื่อแนะนำคณะกรรมการชุดใหม่ พร้อมรับฟังข้อแนะนำและแนวทางการดำเนินงานบริหารสมาคมฯ ณ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI  เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR สีใหม่สุดเร้าใจ

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เติมเต็มทุกการผจญภัย เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR สีใหม่สุดเร้าใจ สมรรถนะในการขับขี่ระยะไกลที่เหนือกว่าทุกสภาพถนน

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับนักบิดชาวไทยสายผจญภัยอีกครั้ง เปิดตัวสีใหม่สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ด้วยสีตัวถังภายนอกสีน้ำเงิน Racing Blue Metallic และยังคงรักษาเอกลักษณ์ที่แท้จริงของตระกูลไดนามิกโรดสเตอร์ ในกลุ่มแอดเวนเจอร์ สปอร์ต พร้อมสะกดทุกสายตาบนท้องถนน บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ยังคงนำเสนอความสปอร์ตซึ่งมาพร้อมกับความสามารถอันหลากหลายและฟีเจอร์ทันสมัยต่างๆ พร้อมมอบสมรรถนะในการขับขี่ระยะไกลที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเดินทางไปบนถนนอันคดเคี้ยวหรือท่องเที่ยวไปในเมือง

มร. ชิวาภาดา เรย์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “การเพิ่มตัวเลือกสีใหม่สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ช่วยยกระดับรูปลักษณ์แบบไดนามิก และเสริมมาดแบบใหม่ให้กับมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตผจญภัยรุ่นนี้ พร้อมผสานความสปอร์ตและสมรรถนะแบบทัวริ่งไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งช่วยถ่ายทอดความรู้สึกอิสระและไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ให้กับนักบิดในการขับขี่ทุกเส้นทาง บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR นำเสนอคุณลักษณะเฉพาะในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง มาพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นและเทคโนโลยีล่าสุดที่ได้รับการต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นนักบิดที่มีประสบการณ์หรือมือใหม่ เราขอเชิญชวนแฟนๆ ทุกท่านให้มาสัมผัสประสบการณ์สุดยอดการผจญภัยในการขับขี่และสมรรถนะอันทรงพลังของมอเตอร์ไซค์ที่น่าตื่นเต้นรุ่นนี้ ซึ่งผสมผสานความคล่องตัว ความสะดวกสบาย และสไตล์เข้ากับตัวเลือกสีใหม่ที่โดดเด่น”

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR สีน้ำเงิน Racing Blue Metallic ราคาจำหน่าย: 599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR นับเป็นที่สุดของมอเตอร์ไซค์ในตระกูลแอดเวนเจอร์ สปอร์ต อย่างแท้จริง ด้วยสมรรถนะโฉบเฉี่ยว ตำแหน่งการขับขี่ี่แบบนั่งตรงสไตล์ GS ความสะดวกสบายในการขับขี่ระยะไกล ทั้งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และรูปลักษณ์ที่สื่อถึงความทรงพลัง เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ ความโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ยังอยู่ที่การสืบทอดดีไซน์และคอนเซปต์ของมอเตอร์ไซค์ในตระกูล XR ที่ผสานความสปอร์ตและสมรรถนะแบบทัวริ่งเข้าไว้ได้อย่างลงตัว ทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีในการขับขี่ที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟหน้า LED ที่ปรับองศาตามการเลี้ยวโค้ง (Adaptive Cornering Light) และระบบ Keyless Ride ซึ่งล้วนเป็นคุณสมบัติที่ไม่เคยมีมาก่อนในมอเตอร์ไซค์ระดับกลาง

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งพละกำลัง 73 กิโลวัตต์ (99 แรงม้า) ที่ 8,500 รอบต่อนาที ให้แรงบิด 88 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบต่อนาที ให้ความเร็วสูงสุดมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดดเด่นด้วยขนาดของเครื่องยนต์ 895 ซีซี พร้อมองศาการจุดระเบิดที่ 270/450 องศา และระบบเก็บเสียงแบบใหม่ มอบเสียงทรงพลังและเร้าใจยิ่งขึ้น ทั้งยังมาพร้อมระบบคลัทช์แบบ anti-hopping และระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ เพื่อมอบความปลอดภัยยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ขับขี่ มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 4.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงไร้สารตะกั่วค่าออกเทน 91 ขึ้นไป

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR สร้างความสนุกเร้าใจในการขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ ‘Rain’ และ ‘Road’ รวมทั้ง Riding Modes Pro ประกอบด้วย ‘Dynamic’ และ ‘Dynamic Pro’ เพื่อยกระดับความสปอร์ตให้เร้าใจยิ่งขึ้น ระบบ ABS Pro ช่วยให้ควบคุมมอเตอร์ไซค์ได้อย่างแม่นยำในทุกสถานการณ์การขับขี่ พร้อมระบบ Dynamic Traction Control (DTC) ระบบ Dynamic Brake Control (DBC) ระบบ Dynamic ESA และ ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (RDC) ในขณะที่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติยังช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาความเร็วรถให้คงที่ได้ นอกจากนั้น ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ Gear Shift Assistant Pro ยังช่วยให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงได้เกือบทุกช่วงน้ำหนักบรรทุกและช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์โดยไม่ต้องควบคุมคลัตช์ ระบบทำความร้อนที่แฮนด์ยังช่วยป้องกันมือชาและความเมื่อยล้าเมื่อขับขี่ไปในในสภาพอากาศที่หนาวเย็น

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 15.5 ลิตร โดยถังน้ำมันของรุ่นนี้มีน้ำหนักเบาและผ่านกระบวนการเชื่อมที่นำมาใช้ในการผลิตมอเตอร์ไซค์เป็นครั้งแรก ขณะที่โครงสร้างการยึดเหล็กกล้าส่วนท้ายรถก็ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานเป็นครั้งแรกในมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้เช่นกัน จึงทำให้ส่วนท้ายรถมีรูปลักษณ์ที่เพรียวและสั้นยิ่งขึ้น นอกจากนั้น บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ซึ่งมีระยะสปริงที่ค่อนข้างยาวขึ้น ช่วยมอบความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และหลากหลายกว่าในสไตล์แบบทัวริ่ง

ระบบไฟหน้า LED ที่ปรับองศาตามการเลี้ยวโค้ง (Adaptive Cornering Light) พร้อมระบบ Headlight Pro นอกจากจะสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ยิ่งขึ้นแล้ว ยังนับว่าเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นในมอเตอร์ไซค์ขนาดมิดไซส์ ทำให้การขับขี่เวลากลางคืนมีความอุ่นใจยิ่งขึ้นด้วยไฟหน้าส่องสว่างตามการเลี้ยวโค้ง และหลอดไฟทั้งหมดเป็นแบบ LED ที่ได้รับการติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับมอเตอร์ไซค์ในตระกูล F-Series ทุกรุ่น บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR มาพร้อมตำแหน่งที่นั่งซึ่งมอบทั้งความสปอร์ตและความสบายสำหรับการขับขี่แบบทัวริ่งเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่ระยะไกล ชุดแฟริ่งด้านหน้าที่มาพร้อมกระจกกันลมปรับระดับได้มอบทั้งลุคสปอร์ตและการป้องกันให้แก่ผู้ขับขี่

นอกจากนี้ในรุ่นนี้ ยังมาพร้อมโซ่ M Endurance ด้วยคุณสมบัติการหล่อลื่นและความทนทานต่อการสึกหรอที่ยอดเยี่ยม โซ่ M Endurance ช่วยมอบความสะดวกสบายด้านการบำรุงรักษามากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการทำความสะอาดที่ยุ่งยากและหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากต้องเผชิญปัญหาน้ำมันหล่อลื่นกระเด็นหากใช้โซ่ธรรมดา โซ่ M Endurance จึงมอบทั้งความสะดวกสบายและความทนทานในการใช้งานสูงสุด

บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ยังมีหน้าจอ TFT สีขนาด 6.5 นิ้วและระบบเชื่อมต่อ BMW ConnectedRide เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ฟีเจอร์ดังกล่าวช่วยให้นักบิดสามารถคุยโทรศัพท์ ฟังเพลง หรือใช้งานระบบนำทางได้อย่างสะดวกในขณะขับขี่ ทั้งนี้ มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มีวางจำหน่ายแล้วในสีน้ำเงิน Racing Blue Metallic

สมาคม สรยท. เข้าพบผู้บริหารรระดับสูง บริษัท สื่อสากล จำกัด เพื่อแนะนำคณะกรรมการบริหารชุดใหม่

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย เข้าพบแนะนำคณะกรรมการบริหารชุดใหม่กับผู้บริหารรระดับสูง บริษัท สื่อสากล จำกัด

นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ (Thailand Automotive Journalists Association : TAJA) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริกหารชุดใหม่ เข้าพบนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ (Motor Expo) ในฐานะสมาชิกกิตติมศักดิ์ และบริหารระดับสูง เพื่อแนะนำคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ วาระปี 2567-2569 พร้อมกันนี้ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และการผสานความร่วมมือด้านการส่งเสริมทักษะวิชาชีพต่างๆ ให้กับสมาชิกสมาคมฯ ร่วมกันอีกด้วย วันที่ 19 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา

สมาคม สรยท. เข้าพบแนะนำคณะกรรมการบริหารชุดใหม่กับผู้บริหารระดับสูงมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย เข้าพบแนะนำคณะกรรมการบริการชุดใหม่กับผู้บริหารรระดับสูง บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ (Thailand Automotive Journalists Association : TAJA) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เข้าพบ มร.ริสึโคะ คาเนโคะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมการบริการ, นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย, นายยอดชาย ซื่อวัฒนากุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักสื่อสารการตลาด และนางสาวรินทร์ลิตา ศรีโรจนภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด การเข้าพบครั้งนี้นอกจากแนะนำคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ วาระปี 2567-2569 แล้ว ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการพูดคุยถึงนโยบายการดำเนินงานของสมาคมฯ อีกด้วย ณ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา

ไทยฮอนด้า ชง ก้อง-สมเกียรติ ชูโรง โมโตจีพี ไทยแลนด์

“ไทยฮอนด้า” ชูโรง “โมโตจีพี ไทยแลนด์”  “ก้อง-สมเกียรติ” เดินหน้าล่าแชมป์โฮมเรซ พร้อมรับเกียรติสูงสุด “จันทรา สแตนด์” ปีที่ 3 ติดต่อกัน

“ไทยฮอนด้า” ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย เป็นตัวชูโรงในศึก โมโตจีพี 2024 สนามที่ 18 รายการ “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์” หลังแถลงข่าวเปิดขายบัตรเข้าชมอย่างเป็นทางการ นำทัพโดย “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดประวัติศาสตร์ของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ที่ประกาศล่าแชมป์โฮมเรซ พร้อมได้รับเกียรติสูงสุดนักแข่งไทยคนเดียวที่มีสแตนด์เชียร์ใน เวิลด์กรังด์ปรีซ์ เป็นของตัวเอง คือ “จันทรา สแตนด์” เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน พร้อมชวนแฟนชาวไทยร่วมลุ้นในศึกมอเตอร์สปอร์ตยักษ์ใหญ่ของโลก โมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 ที่เตรียมระเบิดความมันส์สนามที่ 18 รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ ระหว่างวันที่ 25-27 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางการรอคอยของแฟนความเร็วจากทั่วโลก

“ไทยฮอนด้า” ยังคงเป็นตัวชูโรงสำหรับการแข่งขัน ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ด้วยการนำของนักบิดประวัติศาสตร์ของไทยอย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา เจ้าของ 2 ชัยชนะ และ 6 โพเดียมในคึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ รวมถึง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ดาวรุ่งชาวไทยที่ขยับขึ้นไปแข่งขันใน โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เป็นฤดูกาลแรก

โดยได้มีการเปิดขายบัตรเข้าชมการแข่งขันเป็นวันแรก ซึ่งฝ่ายจัดการแข่งขัน “พีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์” ได้จัดให้มี “ฮอนด้า สแตนด์” สำหรับกองเชียร์มอเตอร์สปอร์ต บริเวณโค้ง 10 และโค้ง 11 เพื่อส่งกำลังใจเชียร์นักแข่งฮอนด้า ทั้งนักบิดฮอนด้าใน โมโตจีพีอย่าง “ลูก้า มารินี”  และ “โจอัน เมียร์” ในทีม เรปโซล ฮอนด้า รวมถึง “โยฮันน์ ซาโก” และ “ทาคาอากิ นาคากามิ” ในสังกัด แอลซีอาร์ ฮอนด้า และ ที่สำคัญคือนักบิดไทยที่จะลงชิงชัยในโฮมเรซ

ดร. อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ผมอยากจะขอเชิญแฟนชาวไทยเข้าไปชมการแข่งขันเยอะๆ ครับ ไปชมความภาคภูมิใจของคนไทย นักแข่งที่สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่าง “ก้อง-สมเกียรติ” ให้คว้าชัยในบ้านเกิด และ “ก๊องส์-ธัชกร” ให้สร้างผลงานที่ดีในโฮมเรซ”

ด้าน “ก้อง-สมเกียรติ” กล่าวว่า “สำหรับในปีนี้รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ครับ ที่จะได้กลับมาแข่งที่บ้านเราอีกครั้ง ปีที่แล้วเราคว้าตำแหน่งที่ 3 ได้ขึ้นโพเดียม แต่ในปีนี้ผมก็หวังที่จะชนะให้ได้ และจะได้ร้องเพลงชาติไทยในสนามบ้านเกิดให้ได้ อยากเชิญแฟนชาวไทยไปชมในสนามกันเยอะๆ ครับ”

ส่วน “ก๊องส์-ธัชกร” เปิดเผยว่า “ทุกครั้งที่ลงแข่งในเมืองไทย ผมจะตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิมทุกครั้งครับ ภูมิใจที่ได้แข่งในบ้านเกิด จะเก็บข้อผิดพลาด เพื่อทำผลงานให้ดีขึ้น เพื่อมอบของขวัญให้แฟนชาวไทยครับ”

นอกจากนี้ จะยังมีนักบิดเลือดใหม่ของภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ลงแข่งขันในโฮมเรซกับรายการ “อิเดมิตซึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2024” ได้แก่ “ออสติน” ธนฉรรต ประทุมทอง หมายเลข 5, “จิมมี่” บูรพา วันมูล หมายเลข 10 และ “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงษ์ หมายเลข 20 เพื่อลงอวดผลงานในบ้านเกิดต่อหน้าแฟนชาวไทยอีกด้วย

สำหรับ “ลูกค้าฮอนด้า” ที่ซื้อบัตรเข้าชมทุกประเภท รวมถึง “ฮอนด้า สแตนด์” และ “สมเกียรติ สแตนด์” จะได้รับส่วนลดพิเศษ 20% เพียงแค่นำกุญแจรถจักรยานยนต์ฮอนด้า แสดงต่อพนักงานขายบัตร ณ จุดจำหน่ายบัตร Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อรับส่วนลดในการซื้อบัตรทันที 20% และพิเศษสำหรับ ลูกค้าที่ถือบัตร “ฮอนด้า สแตนด์” จะได้รับชุด Cheering Kit ก่อนขึ้นสแตนด์เชียร์ในวันงาน ทุกที่นั่ง เพื่อความสนุกและบรรยากาศในการเชียร์นักแข่งไทยไปด้วยกันอีกด้วย

ทั้งนี้ ศึก “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์” จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ส่งกำลังใจเชียร์พร้อมติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวนักบิดฮอนด้าทุกคน ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ : Race to The Dream

ยามาฮ่า ร่วมแถลงข่าวเปิดจำหน่ายบัตรชม MotoGP 2024

ยามาฮ่า ร่วมงานแถลงข่าวเปิดจำหน่ายบัตรชม MotoGP 2024 มอบสิทธิ์ส่วนลดราคาบัตร พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่ ชิง R15M มูลค่า 1.38 แสนบาท

นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า พร้อมผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG, มร.เฟร์ราน จุงก้า ผู้อำนวยการอาวุโส ด้านผู้สนับสนุนระดับโลก ดอร์น่าสปอร์ต นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด และนายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในพิธีแถลงข่าวการจำหน่ายบัตรชมการแข่งขัน MotoGP 2024 รายการ PT Grand Prix of Thailand 2024 ที่จะมีขึ้น ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2567 นี้ โดยในปีนี้ยามาฮ่ามอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่าที่ซื้อบัตรชมการแข่งขัน เพียงแสดงกุญแจรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่น รับสิทธิ์ส่วนลด 20% (1 สิทธิ์สามารถซื้อได้ 10 ใบ และจำนวนจำกัดเพียง 1,000 ที่นั่งเท่านั้น) พร้อมสิทธิ์ลุ้นชิงรถจักรยานยนต์ YAMAHA R15M Connected-ABS มูลค่า 138,000 บาท จำนวน 1 คัน เมื่อซื้อบัตรชมเฉพาะ YAMAHA Stand ทุกที่นั่ง

สำหรับการแถลงข่าวการจำหน่ายบัตรชมการแข่งขัน MotoGP 2024 รายการ PT Grand Prix of Thailand 2024 ในครั้งนี้มีขึ้น ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 25 การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ออกแพ็กเกจสบายใจรายเดือนสะดวกทุกการเดินทาง

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปล่อยแพ็กเกจรายเดือนสำหรับลูกค้าที่ใช้ฟีเจอร์เสริมผ่าน Mercedes me มอบทางเลือกความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ดิจิทัลออกสู่ตลาดมากมาย อาทิ แอปพลิเคชัน “Mercedes me” ที่เพียงแค่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็สามารถเปิดประตูสู่โลกดิจิทัลและพบกับฟังก์ชันระดับชั้นนำมากมาย ทั้งยังมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นในทุกที่ ด้วยบริการดิจิทัลต่างๆ เช่น ฟีเจอร์การสั่งการระยะไกลจากสมาร์ทโฟน ฟีเจอร์สำหรับเช็คสถานะการชาร์จแบตได้เรียลไทม์ ฟีเจอร์สำหรับปรับอากาศให้เดินทางได้อย่างรื่นรมย์ และฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย ในตลอดช่วง 1–3 ปีแรก ลูกค้ามีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์บางฟีเจอร์* ที่ติดตั้งมาพร้อมกับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และเมื่อบริการดิจิทัลหมดอายุ ลูกค้าสามารถเลือกขยายเวลารับบริการได้ โดยสามารถเลือกชำระเงินได้ทั้งแบบแพ็กเกจ 1 ปี และแพ็กเกจ 3 ปี

*สำหรับลูกค้ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป และขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางเทคนิคของรถยนต์แต่ละรุ่น

ล่าสุดทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมนำเสนอบริการ “Digital Extras” ในรูปแบบ แพ็กเกจรายเดือน (Subscription) สำหรับการใช้งานบนแอปพลิเคชัน Mercedes me เพื่อเป็นทางเลือกของความสะดวกสบายให้กับลูกค้าไปอีกขั้น โดยมอบความอิสระในการยกเลิกการใช้งานได้ทุกเมื่อ และสามารถทดลองใช้บริการดิจิทัลได้ฟรี เป็นระยะเวลา 1 เดือน นับจากวันที่สมัคร

บริการ Digital Extras แบบแพ็กเกจรายเดือน (Subscription) ครอบคลุมทั้งการต่ออายุบริการ Digital Extras ขั้นพื้นฐาน และการอัปเกรดรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยสามารถเลือกแพ็กเกจได้ตามความต้องการ ทั้งเพื่อความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และการช่วยเหลือเพิ่มเติมที่เหนือระดับยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

Renewal Packages : การต่ออายุบริการ Digital Extras ขั้นพื้นฐาน สำหรับลูกค้ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป ที่รองรับแอปพลิเคชัน Mercedes me และหมดอายุการใช้งาน Digital Extras ฟรี 3 ปีแรก* ในราคาแบบรายเดือน เริ่มต้นเพียง 80 บาท/เดือน* ดังนี้

•Remote Packages เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ให้ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมตลอดเวลา ราคา 350 บาท ต่อเดือน

•Navigate Packages เดินทางสู่จุดหมายอย่างรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ด้วยข้อมูลทางการจราจรแบบเรียลไทม์ ราคา 540 บาท ต่อเดือน

•Excellence Packages เอ็กซ์คลูซีฟแพ็กเกจที่มาพร้อม Remote Package และ Navigation Package (ระบบนำทาง) ราคา 760 บาท ต่อเดือน

•Remote Engine Start ระบบสตาร์ทรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อปรับอุณหภูมิภายในรถยนต์ให้สะดวกสบายขั้นสุดก่อนออกเดินทาง ราคา 220 บาท ต่อเดือน

•Remote & Navigation Services เสริมการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าและการชาร์จไฟให้สะดวกสบายและง่ายดายมากขึ้นในทุกเส้นทาง ราคา 80 บาท ต่อเดือน

(ราคาข้างต้นรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)

*การใช้งานรองรับสำหรับลูกค้ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปี 2019 เป็นต้นไป ที่สามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน Mercedes me

*จำนวนของบริการเสริม Digital Extras ที่รวมอยู่ อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์ โปรดตรวจสอบความพร้อมในการใช้งาน โดยราคาและบริการจะปรากฏขึ้น เมื่อคุณเข้าสู่ระบบและเชื่อมต่อรถยนต์แล้ว

On Demand Packages (SA+) : บริการ Digital Extras เสริม ในการปรับแต่งรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และการขับขี่ สำหรับลูกค้ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป ที่รองรับแอปพลิเคชัน Mercedes me ในราคาแบบรายเดือน เริ่มต้นเพียง 75 บาท/เดือน* ดังนี้

•MBUX Entertainment เปลี่ยนห้องโดยสารให้เป็นคอนเสิร์ตของศิลปินคนโปรดแบบไม่มีสะดุด ผ่านการเชื่อมต่อวิทยุและสตรีมมิ่ง ราคา 75 บาท ต่อเดือน

•Individualization ปรับแต่งรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ให้เป็นเอกลักษณ์ยิ่งขึ้นตามความต้องการและความชื่นชอบ ราคา 370 บาท ต่อเดือน

•Active Distance Assist DISTRONIC ผู้ขับขี่สามารถควบคุมระยะห่างที่ต้องการจากรถยนต์ข้างหน้า พร้อมปรับความเร็วให้เหมาะสมด้วย DISTRONIC ราคา 500 บาท ต่อเดือน

•Beginner Driver and Valet Service Mode ระบบควบคุมอัตราเร่งที่นุ่มนวลและจำกัดการเข้าถึงข้อมูลโปรไฟล์ส่วนบุคคลจากผู้ขับขี่คนอื่น ๆ ราคา 100 บาท ต่อเดือน

•Rear Axle Steering มอบความคล่องแคล่วในการเข้าจอดและการหลบหลีก ลดวงเลี้ยวเพื่อการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น (ปรับมุมพวงมาลัยได้สูงสุด 10 องศา) ราคา 2,540 บาท ต่อเดือน

•Emergency key deactivation ระบบรักษาความปลอดภัยของกุญแจรถหากสูญหาย โดยล็อคและปลดล็อคผ่านระบบปิดการใช้งานกุญแจฉุกเฉิน ราคา 200 บาท ต่อเดือน

•Traffic Sign Assist ระบบตรวจสอบป้ายจราจร ทั้งการจำกัดความเร็ว การห้ามแซง และกฎจราจรอื่นๆ ที่เลือกไว้ได้ตลอดเวลา ราคา 450 บาท ต่อเดือน

(ราคาข้างต้นรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)

ทดลองใช้งาน Mercedes me Store ได้ที่ https://mb4.me/mercedesme_store สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Mercedes me บน Apple Store  (iOS) ผ่าน https://mb4.me/MMC_Apple และ Android ผ่าน https://mb4.me/MMC_GooglePlay สอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั้ง 41 แห่ง ทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือโทร 1250

ทั้งนี้ การใช้งานของแต่ละบริการขึ้นอยู่กับข้อมูลเฉพาะทางเทคนิค โปรดตรวจสอบรายละเอียดก่อนการตัดสินใจ และเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โปรดตรวจสอบรายละเอียดแพ็กเกจ ณ ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการอีกครั้ง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save