- Advertisement -
28.6 C
Bangkok
Home Blog Page 7

CEO ลามิน่า รับมอบโล่เชิดชูเกียรติ

นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคารลามิน่า รับมอบโล่เชิดชูเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานกรรมการ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะผู้อุปการะมูลนิธิช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษาเป็นระยะเวลา 20 ปี ในงาน Stream of Giving สายธารแห่งการให้ไม่สิ้นสุด ครบรอบ 50 ปี CCF ณ หอประชุมสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น

ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณแก่ผู้อุปการะที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนมูลนิธิฯ อีกทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้สังคมเห็นความสำคัญของการให้และการอุปการะเด็ก เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อุปการะได้พบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเด็กและเยาวชนที่ได้รับการสนับสนุน งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างสังคมที่มีความเอื้อเฟื้อและสนับสนุนการพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ นางสาวจันทร์นภา สายสมร ได้รับรางวัลประชากรหญิงผู้สร้างแรงบันดาลใจ HER AWARDS, UNFPA THAILAND 2024 จากองค์การสหประชาชาติ ในฐานะผู้เสียสละอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือและพัฒนากลุ่มคนเปราะบาง เพื่อให้หลุดพ้นจากบริบทปัญหาด้านต่างๆ รวมทั้งสร้างโอกาสให้ต่อยอดพัฒนาสู่การพึ่งตนเองและการยกระดับคุณภาพชีวิต จากโครงการลามิน่าสานฝันเด็กไทยได้เล่าเรียนที่สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กไทยในถิ่นทุรกันดารมาตลอด 24 ปี อีกทั้งยังได้รับพระราชทานปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการตลาด จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ประจำปีการศึกษา 2566 จากผลงานและความสำเร็จในการประกอบสัมมาชีพอันเป็นที่ประจักษ์

DENZA Harmony เปิดโชว์รูมใหม่พร้อมศูนย์บริการครบวงจร บนถนนศรีนครินทร์

DENZA Harmony เปิดโชว์รูมใหม่พร้อมศูนย์บริการครบวงจร บนถนนศรีนครินทร์ เรายึดมั่นด้วยคุณภาพ ควบคู่กับการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งมั่นใจตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันผู้ผลิตสินค้า นอกจากจะให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพของสินค้าเป็นหลักแล้ว ยังต้องใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์ของตัวเอง ดังเช่น Harmony Auto Group รถยนต์ระบบไฟฟ้า ที่คำนึงถึงเรื่องนี้

นายหลี่ ซั่วหราน ผู้อำนวยการภูมิภาคประจำประเทศไทย Harmony Auto Group กล่าวว่า “ Denza มีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงอย่าง BYD Blade Battery ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและความทนทาน พร้อมผสานการออกแบบที่หรูหราและสบาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด และในปัจจุบัน BYD ได้ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นแต่เพียง ผู้เดียวของแบรนด์ Denza”

สำหรับ Harmony Auto Group ผู้จำหน่ายรถยนต์ระดับพรีเมียมระดับโลก ได้เดินหน้าขยายเครือข่ายในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโชว์รูม Denza Harmony สาขาศรีนครินทร์ อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ โดยชูจุดเด่นที่มีพื้นที่จัดแสดงรถยนต์ที่ออกแบบใหม่อย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสกับเทคโนโลยีล้ำสมัยจากแบรนด์ Denza ได้อย่างใกล้ชิด ภายในโชว์รูมประกอบ ด้วยหลากหลาย Zone พร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้น ไว้คอยให้บริการด้วยความเป็นมืออาชีพ โดยที่เปิดทำการมาตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2567 นั้น ได้ส่งมอบรถ Denza ไปแล้วมากกว่า 500 คัน ทำให้ Denza Harmony สาขาศรีนครินทร์ เป็นดีลเลอร์ที่มียอดขายสูงที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย

นายหลี่ ซั่วหราน กล่าวอีกว่า สำหรับรถยนต์รุ่นยอดฮิตอย่าง Denza D9 นั้นมีจุดเด่นหลายประการ อย่างแรกก็คือในด้านศักยภาพที่มีความได้เปรียบในเรื่องของพื้นที่ใช้สอย ความสามารถในการวิ่งระยะไกล เทคโนโลยีอัจฉริยะ และอุปกรณ์ที่มีความหรูหรา อย่างที่สองคือเทคโนโลยี 3 ประการ ได้แก่ แบตเตอรี่ มอเตอร์และระบบควบคุมไฟฟ้า ได้รับการยอมรับจากตลาดในวงกว้าง อย่างที่สาม คือราคาที่เป็นราคาที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง (Competitive Price)

ในส่วนของรถรุ่นใหม่ที่นำมาแสดงที่โชว์รูม ได้แก่ Denza Z9 GT โดยรถรุ่นนี้นั้นมาพร้อมดีไซน์และการออกแบบที่ล้ำสมัยทั้งภายนอกและภายใน พร้อมกับขุมพลังไฟฟ้าที่ทรงพลัง ระบบขับขี่อัตโนมัติอัจฉริยะและเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ชั้นสูง ส่วนราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะมีการประกาศในภายหลัง ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะเป็นราคาที่น่าตื่นเต้นและเป็นที่ประทับใจสำหรับลูกค้าทุกท่านอย่างแน่นอน

เป็นที่น่าจับตามองว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในไทย และมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ซึ่งเรื่องนี้ นาย หลี่ ซั่วหราน กล่าวว่า Denza คือแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี ซึ่งเกิดจากความร่วมมือทางกลยุทธ์ระหว่าง BYD Auto และ Daimler AG บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz มุ่งมั่นในการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคุณภาพสูงสู่ตลาดประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนสู่การใช้พลังงานอย่างยั่งยืน และลดการปล่อยมลพิษ

“เราเป็นตัวแทนแบรนด์ผู้จำหน่ายรถยนต์ EV ระดับโลก ที่มีสาขาในหลายประเทศ ในเขตภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ฮ่องกง, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ญี่ปุ่น, เกาหลี, เวียดนาม, ออสเตรเลีย และประเทศไทย รวมถึงในยุโรป อเมริกา และแอฟริกา เช่น สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ โปแลนด์ สเปน เม็กซิโก แอฟริกาใต้ และอื่นๆ โดยสิ่งที่เราให้ความสำคัญ คือ คุณภาพ บริการ และความไว้วางใจของลูกค้า เป็นค่านิยมหลักเสมอมา”

นายหลี่ ซั่วหราน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นประกอบการนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐและองค์กรต่างๆ ทำให้แนวแนวโน้มของตลาดรถไฟฟ้าในประเทศไทยรวมถึงในระดับนานาชาติเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้รถยนต์พลังงานใหม่ยังถือเป็นทิศทางแห่งอนาคตอีกด้วย และเรามั่นใจว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย มีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น โชว์รูมศรีนทร์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น จึงมีแผนขยายสาขาในพื้นที่ศักยภาพอื่นทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงประสบการณ์ EV ระดับไฮเอนด์จาก Denza ได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมวางเป้าหมายเป็นผู้นำตลาดรถ EV ระดับพรีเมียมในไทย

ทั้งนี้ Harmony Auto ยังเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD โดยมีโชว์รูมเปิดให้บริการแล้ว 6 สาขา ในเขตกรุงเทพและพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ BYD Harmony สาขา กัลปพฤกษ์, BYD Harmony สาขา ปทุมธานี คลอง 2, BYD Harmony สาขารังสิต,  BYD Harmony สาขาสำโรง, BYD Harmony สาขาพิบูลสงคราม และ BYD Harmony สาขา สายไหม โดยในอนาคตเราจะเปิดสาขาเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และตอบโจทย์ลูกค้าที่หลากหลายกลุ่มให้ได้ดีที่สุด

วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เตรียมความพร้อมเปิดศูนย์บริการสาขาแรกในประเทศไทย

วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ประกาศเตรียมความพร้อมเปิดศูนย์บริการแห่งแรกในประเทศไทย บริเวณพื้นที่ย่านบางบัวทอง ซึ่งจะบริหารงานโดย บริษัท นิวตัน เพรสทีจ ออโต จำกัด เพื่อขยายความสามารถในการให้บริการให้มีความครอบคลุม และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ยกระดับคุณภาพการบริการและการซ่อมบำรุงหลังการขายเพื่อเสริมความพึงพอใจให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าในพื้นที่ บางบัวทองปากเกร็ด, นนทบุรี และ บางใหญ่ โดยศูนย์บริการแห่งใหม่นี้คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการได้ในไตรมาสที่สามของปี

บรรยายภาพ : มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จำกัด (ขวา) ถ่ายภาพร่วมกับ นายปรเมศวร์ ลิ้มสวัสดิ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวตัน เพรสทีจ ออโต จำกัด (ซ้าย)

มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอันมาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และการยกระดับการบริการเพื่อสร้างความพึ่งพอใจอันสูงสุดแก่ลูกค้าเป็นเรื่องที่วอลโว่ คาร์ให้ความสำคัญเสมอมา  การเปิดศูนย์บริการแห่งแรกในประเทศไทยคือการสานต่อความมุ่งมั่นดังกล่าว เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเป็นเจ้าของรถวอลโว่ให้แก่ลูกค้าผ่านการบริการที่รวดเร็ว สะดวกในการเข้าถึงเนื่องจากศูนย์บริการมีพื้นที่ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งศูนย์บริการแห่งนี้จะเป็นศูนย์นำร่อง และเราได้มีการวางแผนที่จะเปิดศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ”

ศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว และครอบคลุมมากยิ่งขึ้นโดยลูกค้าสามารถนำรถเข้าไปรับบริการบำรุงรักษาและงานซ่อมทั่วไปจากช่างผู้ชำนาญการ ซึ่งผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่มีมาตรฐานจากวอลโว่ โดยศูนย์บริการสาขาบางบัวทองนี้ ให้บริการบนพื้นที่ขนาด 3,200 ตารางเมตร ซึ่งนอกเหนือจากการบำรุงรักษาและงานซ่อมแล้ว ศูนย์บริการดังกล่าวยังมีพื้นที่รับรองลูกค้า และพื้นที่จำหน่าย รถผู้บริหารและรถออกศูนย์ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานของวอลโว่ คาร์ – Volvo Selekt certified used cars โดยหลังจากเปิดบริการคาดว่าจะรองรับการให้บริการลูกค้าได้มากถึง 130 – 150 คันต่อเดือน

ศูนย์บริการ สาขา บางบัวทอง โดยบริษัท นิวตัน เพรสทีจ ออโต จำกัด ตั้งอยู่ที่ 19/11 หมู่5 ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

GWM เผยเครื่องยนต์ดีเซล ผ่านการวิจัยและพัฒนากว่า 30 ปี

GWM เผยเครื่องยนต์ดีเซล ผ่านการวิจัยและพัฒนากว่า 30 ปี การันตีด้วยผู้ใช้งานเกือบ 2 ล้านคนทั่วโลก

GWM ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” มุ่งหน้าขับเคลื่อนทั้งตลาดในประเทศไทยและในระดับโลก ด้วยความสำเร็จในความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นขุมพลังที่ GWM ได้วิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยาวนานกว่า 30 ปี โดยเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของความสำเร็จของแบรนด์ที่ถือกำเนิดในประเทศจีน สู่การได้รับการยอมรับจากนานาชาติถึงคุณภาพ สมรรถนะ และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์หลากหลายรุ่นของ GWM การันตีด้วยผู้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเกือบ 2 ล้านคน ใน 170 ประเทศและทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศแอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรัสเซีย รวมถึงในประเทศไทยที่มีการเปิดตัว NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ และได้รับการตอบรับที่ล้นหลามจากผู้บริโภคคชาวไทย ซึ่งเป็นอีกบทพิสูจน์คุณภาพของเครื่องยนต์ดีเซลของ GWM ในเวทีระดับโลก ที่พร้อมจะยกระดับประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเพื่อตอบโจทย์การเดินทางในทุกรูปแบบ

ในฐานะผู้นำตลาดรถกระบะและรถเอสยูวีออฟโรดจากจีน GWM ที่เริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่ปี 2527 และก้าวเข้าสู่วงการรถกระบะอย่างเต็มตัวในปี 2539 ด้วยการเปิดตัวรุ่น “Deer” ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่ทำให้ GWM ครองแชมป์ยอดขายรถกระบะอันดับ 1 ในประเทศจีนมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนขยายสู่ตลาดต่างประเทศในปี 2540 ความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งนำมาสู่การเปิดตัว “GWM POER” ในปี 2562 รถกระบะยุคใหม่ที่สร้างปรากฏการณ์ด้วยยอดขายถล่มทลาย โดยเป็นรถกระบะเรือธงที่ครองความนิยมในประเทศจีนมาอย่างยาวนานถึง 26 ปี ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้น ความทนทานสูง และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการในหลากหลายตลาดทั่วโลก ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และอเมริกาใต้ จนก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในจีน และติด 1 ใน 3 แบรนด์รถกระบะยอดนิยมของโลก จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่การเป็นผู้นำระดับโลก ความสำเร็จของ GWM สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่มองไกล และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลที่ได้พัฒนาและสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สะท้อนแนวคิด “GWM Go With More” ที่ GWM ยึดถือ ไม่ใช่เพียงแค่การผลิตรถยนต์คุณภาพ แต่คือส่งการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในทุกมิติ ทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และความเชื่อมั่นในการเป็นแบรนด์ระดับโลก

เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ความเชี่ยวชาญระดับโลกที่พิสูจน์แล้ว

เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชั่นใหม่ ของ GWM เป็นผลงานจากศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ลงทุนไปแล้วกว่า 500 ล้านหยวน (ประมาณ 2,300 ล้านบาท) ซึ่งเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ได้รับการพัฒนาโดยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด โดยมีคุณสมบัติเด่นที่พิสูจน์แล้วในตลาดจริง ซึ่งมีจุดเด่น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่

•ด้านสมรรถนะเหนือระดับ มอบพละกำลังสูงสุดถึง 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดที่สูงถึง 260 นิวตันเมตร ในรอบเครื่องต่ำ และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตรแบบต่อเนื่องหรือแฟลตทอร์คที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ทำให้การออกตัวและการขับขี่ในพื้นที่ที่มีความท้าทายเป็นไปได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งในเมืองและออฟโรด

•ด้านประหยัดพลังงาน เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ใหม่นี้ถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้ที่ดีกว่า ทำให้การใช้พลังงานจากน้ำมันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลดการสูญเสียพลังงานที่ไม่จำเป็น โดยอัตราการบริโภคน้ำมันของ NEW GWM TANK 300 DIESEL อยู่ที่ 14 กิโลเมตรต่อลิตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ Eco sticker ในประเทศไทย) สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งน้ำมันหนึ่งถัง (ดีเซล B7) สามารถขับขี่ได้ระยะทางไกลมากกว่า 1,000 กิโลเมตร

•ด้านความเงียบและนุ่มนวลเหนือชั้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์และการพัฒนาเทคโนโลยีในการลดเสียงรบกวน NVH (Noise, Vibration, Harshness) ที่ยอดเยี่ยม จึงทำให้ห้องโดยสารมีระดับเสียงต่ำกว่า 68 เดซิเบลในช่วง idle speed ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ นิ่ง ไม่สั่น เทียบเคียงได้กับเครื่องยนต์เบนซิน

•ด้านความทนทานรับประกันคุณภาพยาวนานถึง 1 ล้านกิโลเมตร GWM มั่นใจในคุณภาพของเครื่องยนต์เซ็ตนี้ จึงกล้าสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้งานด้วยการมอบการรับประกันคุณภาพเครื่องยนต์ที่ยาวนานและครอบคลุมมากขึ้นถึง 1 ล้านกิโลเมตร (หรือ 8 ปี) สำหรับรถยนต์รุ่น NEW GWM TANK 300 DIESEL ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพของเครื่องยนต์

มร.เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “จากความสำเร็จของการเปิดตัว NEW GWM TANK 300 DIESEL GWM (Thailand) ยังคงเดินหน้าส่งมอบเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้ให้กับแฟนๆ ชาวไทย เราเชื่อมั่นว่าขุมพลังดีเซล 2.4T เจอเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ มอบการขับขี่ที่เงียบและนุ่ม พร้อมมสมรรถนะ การประหยัดพลังงาน และความทนทาน ฉีกกฏของเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิมๆ เรามุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำเครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้เข้ามาให้ชาวไทยได้สัมผัสเป็นประเทศแรกๆ ในโลก ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของตลาดในประเทศไทยและการนำผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของคนไทยมาให้คนไทยได้เป็นเจ้าของและในปีนี้เราจะมีรถยนต์รุ่นใหม่ของ GWM อีกหลากหลายรุ่นที่จะเข้าสร้างมาตรฐานใหม่แห่งสมรรถนะการขับขี่ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ความเอนกประสงค์ และความคุ้มค่าที่เหนือความคาดหมาย พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของ GWM ในการเป็นแบรนด์ระดับโลกที่พัฒนายานยนต์เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างแท้จริง”

เรเว่และ BYD ก้าวสู่การตลาด Sports MKT

เรเว่และ BYD ก้าวสู่การตลาด Sports MKT สนับสนุนกีฬารายการใหญ่และนักกีฬาดาวรุ่ง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมส่งเสริมสุขภาพที่ดีของทุกคน

•กลุ่มธุรกิจเรเว่และ BYD ประกาศสนับสนุนกีฬารายการใหญ่ และนักกีฬาดาวรุ่ง ตลอดปี 2568

•ประเดิมรายการแรกกับ BYD HYROX Bangkok การแข่งขันฟิตเนสในร่มระดับโลกสุดทรหด

•ตามด้วย SEA V.League 2025 Presented by รถยนต์ไฟฟ้า BYD การแข่งขันวอลเลย์บอลระดับภูมิภาค และ Korat Marathon 2025 Presented by BYD งานวิ่งระดับประเทศ

•สนับสนุนนักกอล์ฟดาวรุ่ง อาทิ “โปรตี้ สุธีภัทร์” – โปรกอล์ฟชาย มือ 1 ของคนไทย จากอันดับ World Ranking ปัจจุบัน, “โปรอาโป ชลชีวา” – โปรกอล์ฟหญิงดาวรุ่ง มือ 1 Thai LPGA 2024, “โปรต้อม” – แคดดี้มืออาชีพ ผู้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ใน Honda LPGA Thailand 2025 กับ ‘แองเจิล หยิน’

กรุงเทพฯ – 9 พฤษภาคม 2568 – บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจําหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานใหม่ BYD และ DENZA อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ เดินหน้าสนับสนุนวงการกีฬา เพื่อสื่อสารถึงกลุ่มผู้ชมที่หลากหลายขึ้น ทั้งการแข่งขันกีฬารายใหญ่ และการสนับสนุนนักกีฬาที่มีผลงานโดดเด่น ด้วยเป้าหมายที่จะสนับสนุนทุกความตื่นเต้นเร้าใจ จากการร่วมลุ้นไปกับการแข่งขัน พร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนสู้เพื่อความสำเร็จ และส่งเสริมให้ทุกคนหันมาเล่นกีฬาที่ชื่นชอบ นำไปสู่สุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “รายการกีฬาที่ เรเว่ เข้าร่วมสนับสนุนนั้นมีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งระดับนานาชาติและระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรายการแข่งขันฟิตเนสในร่ม BYD HYROX Bangkok รายการแข่งขันวอลเลย์บอลระดับนานาชาติ SEA V.League 2025 Presented by รถยนต์ไฟฟ้า BYD และรายการวิ่งมาราธอนระดับประเทศ Korat Marathon 2025 Presented by BYD เพื่อเป็นการสื่อสารกับคนรักกีฬาทุกช่วงวัยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ และยังสะท้อนให้เห็นว่า เรเว่ คือองค์กรยุคใหม่ที่พร้อมเปิดรับทุกความท้าทายและการแข่งขัน ทั้งยังคำนึงถึงความยั่งยืนอย่างรอบด้าน”

นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “หนึ่งในภารกิจสำคัญของ เรเว่ คือการส่งเสริมความยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่แค่สิ่งแวดล้อมผ่านการเป็นผู้นำของการนำเข้า ยานยนต์พลังงานใหม่ที่ลดการสร้างมลพิษมาจำหน่ายในประเทศไทย แต่ยังรวมไปถึงการสร้างแรงบันดาลใจ และส่งเสริมการออกกำลังกาย จนนำไปสู่สุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืนของทุกคน โดยเราจะส่งสารดังกล่าว ผ่านการทำการตลาดในรูปแบบของ Sports Marketing ด้วยการสนับสนุนกีฬาใหญ่หลายรายการตลอดปี ทั้งยังมีการสนับสนุนนักกีฬาที่มีฝีมือโดดเด่น เพื่อส่งเสริมให้นักกีฬาไทยได้ไปแสดงฝีมือในรายการใหญ่ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยต่อไป”

BYD HYROX Bangkok การแข่งขันฟิตเนสในร่มระดับโลกสุดทรหด

รายการกีฬาที่ เรเว่ ร่วมสนับสนุนและกำลังจะเริ่มขึ้น ในเดือนพฤษภาคมเป็นรายการแรก คือรายการ BYD HYROX Bangkok ซึ่งเป็นการแข่งขันฟิตเนสในร่มระดับโลกสุดทรหด และจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย การแข่งขันเต็มไปด้วยสถานีหลายรูปแบบ ที่พิสูจน์ความแข็งแกร่งของร่างกายรวมถึงการวิ่ง 1,000 เมตร สลับกับการออกกำลังแบบฟังก์ชันนัลทั้งหมด 8 รอบ รายการนี้มีผู้กล้ามากกว่า 9,000 ราย พร้อมร่วมประชันความแข็งแกร่งในการแข่งขัน ซึ่งจะจัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 24 – 25 พฤษภาคม 2568

SEA V.League 2025 Presented by BYD วอลเลย์บอลลีกระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การแข่งขันใหญ่รายการถัดไปที่ เรเว่ มีส่วนร่วมสนับสนุนคือรายการ SEA V.League 2025 Presented by รถยนต์ไฟฟ้า BYD ซึ่งเป็นการแข่งขันวอลเลย์บอลลีก ระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในปีนี้ โดยมีทั้งประเภทชายและหญิง มีทีมตัวแทนจาก 4 ประเทศ จัดขึ้นที่ 4 สนามของแต่ละประเทศ ประกอบด้วย เวียดนาม, ไทย, ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ส่วนกำหนดการแข่งขันนั้นอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม

Korat Marathon 2025 Presented by BYD รายการวิ่งที่ผ่านการรับรองโดยมาตรฐานระดับโลก

เรเว่ ยังมีส่วนรวมในงานวิ่งระดับประเทศอย่าง Korat Marathon 2025 Presented by BYD ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด The Memorable Marathon และเป็นรายการวิ่งที่ผ่านการรับรองโดยมาตรฐานระดับโลก World Athletics Road Race Label ปี 2025 ส่วนการแข่งขันจะแบ่งระดับความยาวเป็น 5, 10, 21.1 และ 42.195 กิโลเมตร เส้นทางอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี – สวนน้ำบุ่งตาหลั่ว จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568

พร้อมสนับสนุน 12 นักกอล์ฟระดับแนวหน้าของไทย

ในส่วนของการสนับสนุนนักกีฬาที่มีฝีมือโดดเด่นในปีนี้ เรเว่ เฟ้นหานักกอล์ฟที่มีศักยภาพ พร้อมขึ้นสู่จุดสูงสุดของความฝันสอดคล้องแนวคิดของแบรนด์ BYD อย่าง Build Your Dreams นำไปสู่การเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของนักกอล์ฟระดับแนวหน้าของไทย 12 คน อาทิ “โปรตี้ สุธีภัทร์” – โปรกอล์ฟชาย มือ 1 ของคนไทย จากอันดับ World Ranking ปัจจุบัน, “โปรอาโป ชลชีวา” – โปรกอล์ฟหญิงดาวรุ่ง มือ 1 Thai LPGA 2024 ที่เพิ่งประเดิมแชมป์แรกของปี 2025 ในรายการ SINGHA-NSDF Pattaya Ladies Open 2025, “โปรต้อม” – แคดดี้มืออาชีพ ผู้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์แชมป์ใน Honda LPGA Thailand 2025 กับ “แองเจิล หยิน”

สุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืนนั้นสร้างขึ้นเองได้แล้ววันนี้ เพียงเริ่มเล่นกีฬาที่คุณชื่นชอบ ไปพร้อมกับการร่วมเชียร์และลุ้นไปกับนักกีฬาไทย ในการแข่งขันสุดมันส์ที่ เรเว่ คัดสรรมาให้คุณและพบกับยนตรกรรม BYD ทุกรุ่น ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ BYD ใกล้บ้านท่านทั้ง 150 สาขาทั่วประเทศ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของรถยนต์ทุกรุ่นได้ที่ reverautomotive.com สำหรับรถยนต์ BYD หรือ denzathailand.com สำหรับรถยนต์ DENZA ท่านยังสามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ที่ Official Facebook Page : BYD REVER Thailand

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปล่อยแคมเปญล MB Tires “เปลี่ยนยางฯ 4 เส้น จ่ายเพียง 3 เส้น”

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปล่อยแคมเปญล่าสุดจาก MB Tires กับข้อเสนอ “เปลี่ยนยาง 4 เส้น จ่ายเพียง 3 เส้น” พร้อมจองสิทธิ์ได้แล้ววันนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมอีกหลายรายการ

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เอาใจลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ต้องการเปลี่ยนยางรถยนต์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขับขี่ในทุกเส้นทางตลอดช่วงหน้าฝนนี้ นำเสนอแคมเปญบริการหลังการขายของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม MB Tires กับข้อเสนอสุดพิเศษ “เปลี่ยนยางฯ 4 เส้น จ่ายเพียง 3 เส้น*” สำหรับเจ้าของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกรุ่น ทุกช่วงอายุรถยนต์ เมื่อเข้ารับบริการเปลี่ยนยางรถยนต์พร้อมกัน 4 เส้น ณ ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ที่เข้าร่วมรายการสำหรับแคมเปญดังกล่าว จำนวน 38 แห่ง โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม MB Tires เป็นยางรถยนต์คุณภาพสูงที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ร่วมพัฒนากับผู้ผลิตยางระดับโลกหลากหลายแบรนด์ เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานในทุกรูปแบบการขับขี่สำหรับรถยนต์ทุกเซกเมนต์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่ต้องการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นพร้อมกับความปลอดภัยขั้นสูงสุด

ลูกค้าที่สนใจข้อเสนอพิเศษจากแคมเปญ MB Tires สามารถจองสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ถึง 30 พฤษภาคม 2568 และเข้ารับบริการเปลี่ยนยางฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ถึง 31 สิงหาคม 2568 พร้อมรับสิทธิพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนี้

•ฟรี! ค่าแรงเปลี่ยนยาง 4 เส้น*

•ฟรี! ชุดของขวัญพิเศษ MB Tires Gift set* (มูลค่า 3,146 บาท)

•ฟรี! ของขวัญจากผู้ผลิตฯ ยาง* (ยี่ห้อ Pirelli, Continental, Yokohama) สินค้ามีจำนวนจำกัด

•ฟรี! บัตรกำนัล มูลค่า 1,000 บาท* (สำหรับลูกค้าจองบริการเปลี่ยนยางล่วงหน้า)

•ฟรี! บริการสลับยาง 1 ครั้ง*

•การรับประกันยาง บาด บวม แตก ตำ 1 ปี* มีเฉพาะยี่ห้อที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้เท่านั้นและเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของผู้ผลิตฯ ยางรถยนต์แต่ละราย

•แบ่งชำระ 0% 10 เดือน* เมื่อมียอดค่าใช้จ่าย 30,000 บาทขึ้นไป ผ่านบัตรเครดิตยูโอบีเมอร์เซเดส

นัดหมายล่วงหน้าเพื่อจองสิทธิ์และเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เข้าร่วมรายการ คลิก https://mb4.me/OAB_2025 หรือ ติดต่อศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เข้าร่วมรายการใกล้บ้านคุณ

*เงื่อนไขและรายละเอียดเพิ่มเติม

•สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์เปลี่ยนยางรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จำนวน 4 เส้น เฉพาะยี่ห้อ Michelin, Pirelli, Continental, Goodyear, Bridgestone, Yokohama ที่ศูนย์บริการฯ ที่เข้าร่วมโปรแกรม MB Tires ตั้งแต่ 20 พฤษภาคม 2568 – 30 พฤษภาคม 2568 และชำระค่าใช้จ่ายภายในระยะเวลาตั้งแต่ 20 พฤษภาคม 2568 – 31 สิงหาคม 2568

•ลูกค้าสามารถจองสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม – 30 พฤษภาคม 2568 (ศูนย์บริการยางฯ 38 แห่งทั่วประเทศ)

•สามารถใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์บริการยางฯ ที่จองสิทธิ์ไว้เท่านั้น

•ยางที่แถมจะเป็นยางรุ่นและขนาดเดียวกันกับยางที่ลูกค้าชำระค่าใช้จ่าย และ/หรือยางที่ราคาขายแนะนำถูกที่สุด

•การสนับสนุน 1 สิทธิ์ สามารถใช้ได้เพียง 1 ครั้งต่อหมายเลขตัวถังเท่านั้น

•สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสดได้

•เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด กรณีมีข้อโต้แย้ง การตัดสินของบริษัทฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด

•โปรดตรวจสอบรายละเอียดแคมเปญได้ ณ ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ

สอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดผ่านช่องทางออนไลน์ที่ https://mb4.me/TH_CSSpecialOffers หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้าฯ โทร. 1250 ทั้งนี้ เงื่อนไขให้เป็นไปตามที่บริษัทฯ และศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการกำหนด

โตโยต้า สานต่อความมุ่งมั่น พัฒนาเยาวชนไทยสู่ฟุตบอลระดับโลก

โตโยต้า สานต่อความมุ่งมั่น พัฒนาเยาวชนไทยสู่ฟุตบอลระดับโลก จัดโครงการ “TOYOTA Junior Football Clinic 2025” โดยร่วมมือกับ EKKONO Academy สถาบันพัฒนาฟุตบอลเยาวชนระดับโลกจากประเทศสเปน และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เดินสายเฟ้นหา 23 นักเตะเยาวชนไทย สู่ Training Camp และร่วมแข่งขันในรายการ Surf Cup Tournament & Johan Cruyff Tournament ที่ประเทศสเปน

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เดินหน้าสนับสนุนเยาวชนไทยสู่เวทีฟุตบอลระดับโลก จัดโครงการ “TOYOTA Junior Football Clinic 2025” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ภายใต้แนวคิด “IGNITE PRIDE TO WIN จุดประกายความฝันสู่ชัยชนะ” โดยปีนี้ได้ร่วมมือกับ EKKONO Academy สถาบันพัฒนาฟุตบอลเยาวชนระดับโลกจากประเทศสเปน และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เฟ้นหา 23 นักเตะเยาวชนไทยที่มีความสามารถในกีฬาฟุตบอล เข้าร่วม Training Camp ที่ประเทศสเปน และร่วมแข่งขันในรายการ Surf Cup Tournament & Johan Cruyff Tournament ซึ่งเป็นเวทีระดับนานาชาติที่จะเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้พัฒนาศักยภาพตามมาตรฐานระดับโลก

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “โครงการ TOYOTA Junior Football Clinic ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2013 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 โดยมีจุดมุ่งหมายในการพัฒนากีฬาฟุตบอลในประเทศไทย และเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้เข้าร่วมพัฒนาทักษะด้านฟุตบอล โดยจะผ่านการคัดเลือกจากทีมโค้ชระดับนานาชาติ และในปีนี้ โตโยต้าได้ร่วมมือกับ “EKKONO Academy” สถาบันพัฒนาฟุตบอลเยาวชนระดับโลกจากประเทศสเปน ที่มีประสบการณ์ในการฝึกสอนให้กับสโมสรชั้นนำทั่วโลก เพื่อเฟ้นหาเยาวชนไทยที่มีศักยภาพสูงสุด และพัฒนาให้พร้อมสำหรับการแข่งขันระดับโลก โดยโตโยต้าจะเดินสายจัดกิจกรรมคัดเลือกเยาวชนใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ สุพรรณบุรี / เชียงใหม่ / ขอนแก่น / นครศรีธรรมราช / สงขลา / เชียงราย และนนทบุรี เพื่อคัดเลือกนักเตะเยาวชนไทย 23 คน เข้าสู่ Training Camp ที่ประเทศสเปน และเข้าร่วมแข่งขันในรายการ Surf Cup Tournament & Johan Cruyff Tournament ซึ่งเป็นเวทีระดับนานาชาติที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงฝีเท้า และพัฒนาศักยภาพในสนามมาตรฐานระดับโลก

สำหรับโครงการ TOYOTA Junior Football Clinic 2025 ยังได้รับการสนับสนุนจาก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (FA Thailand) เข้าร่วมเป็นทีมคัดเลือก ซึ่งจะทำให้การคัดเลือกมีความเข้มข้นมากขึ้น อีกทั้งสำหรับเยาวชน 23 คนที่ได้รับคัดเลือกและผ่านการฝึกอบรมนั้น จะได้รับโอกาสเข้าสู่ฐานข้อมูลของสมาคมฯ เพื่อใช้ในการพัฒนานักกีฬาฟุตบอลเยาวชนไทยสู่ระดับมืออาชีพ โดยจะได้รับการติดตามพัฒนาการ เพื่อเป็นโอกาสในการเข้าร่วมโครงการ “Talent Identification หรือ Talent ID” ของสมาคมฯ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เพื่อค้นหาและคัดเลือกนักฟุตบอลเยาวชนที่มีศักยภาพสูงทั่วประเทศไทย เข้าสู่ฐานข้อมูลทีมชาติ เพื่อเป็นช้างศึก U17 ในอนาคต

“เราเชื่อว่าฟุตบอลเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างวินัย ความรับผิดชอบ และความสามารถในการทำงานเป็นทีม ซึ่งโตโยต้าภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันวงการฟุตบอลเยาวชนไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยให้เยาวชนที่มีความสามารถได้รับโอกาสที่ดีที่สุด และสามารถก้าวไปสู่ฟุตบอลอาชีพ และทีมชาติไทยในอนาคต”

โตโยต้าขอเชิญชวนเยาวชนไทยที่มีความฝันสู่เส้นทางฟุตบอลอาชีพ เข้าร่วมการแข่งขันคัดเลือกนักเตะ ในโครงการ “TOYOTA Junior Football Clinic 2025” ซึ่งเปิดโอกาสให้เยาวชนอายุ 8-13 ปี จากทั่วประเทศได้แสดงศักยภาพ และพัฒนาทักษะฟุตบอลภายใต้  การฝึกสอนของโค้ชระดับโลกจาก EKKONO Academy โดยสามารถสมัครได้ที่ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ในจังหวัดที่รับสมัคร และที่ Facebook page : Toyota Spirit of Football ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

“แร็พเตอร์” กระบะสายพันธุ์แกร่ง ชื่อนี้ได้แต่ใดมา

รถกระบะสมรรถนะสูงที่กล้าลุยทุกเส้นทาง ไม่มีชื่อไหนโดดเด่นไปกว่า “แร็พเตอร์” จากฟอร์ด ผู้บุกเบิกนวัตกรรมในการพัฒนารถกระบะสมรรถนะสูง นับตั้งแต่การเปิดตัว F-150 SVT Lightning ในปีพ.ศ. 2536 และเบื้องหลังความแกร่งนี้ เกิดจากดีเอ็นเอที่ถูกบ่มเพาะในสนามแข่งมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ยุค 80 (พ.ศ. 2523 – 2532)

รถฟอร์ดเริ่มโด่งดังในสนามแข่งออฟโรดเมื่อ แมนนี่ เอสเควร์รา ขึ้นขับฟอร์ด เรนเจอร์ ลงสนามและคว้าแชมป์ SCORE Championships ทั้งในสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกในช่วงปี 80 ต่อมาในทศวรรษ 90 ทีม Rough Riders ก็เข้ามาสานต่อความสำเร็จและสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศมากกว่า 20 รายการภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี จนกระทั่งในช่วงยุค 2000 (พ.ศ. 2543 – 2552) ฟอร์ดได้นำความเชี่ยวชาญจากสนามแข่งมาพัฒนาเป็นรถกระบะสมรรถนะสูงสำหรับใช้งานจริงสร้างนิยามใหม่ให้กับวงการรถกระบะออฟโรดที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

รถฟอร์ดตระกูลแร็พเตอร์รุ่นแรกถือกำเนิดขึ้นเมื่อฟอร์ดเปิดตัว F-150 แร็พเตอร์ รุ่นแรกในปีพ.ศ. 2553 พร้อมกระแสการตอบรับถล่มทลายจนมีคิวจองยาวนานถึงหนึ่งปี จากนั้นฟอร์ดได้ขยายไลน์อัพตระกูลแร็พเตอร์เพิ่มขึ้นด้วยการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ในปีพ.ศ. 2562 ตามด้วยฟอร์ด บรองโก แร็พเตอร์รุ่นแรกในปีพ.ศ. 2564 และล่าสุดกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันที่สองในปีพ.ศ. 2566

รถฟอร์ดทุกรุ่นในตระกูลแร็พเตอร์มีเอกลักษณ์ร่วมกันคือการออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันออฟโรด ที่ทำให้ลูกค้าได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ฐานล้อที่กว้างกว่ารุ่นมาตรฐาน ระยะความสูงจากพื้นที่มากขึ้น โครงสร้างเสริมความแข็งแรงและระบบกันสะเทือนที่ออกแบบใหม่ พร้อมโช้คอัพที่ผ่านการพิสูจน์ในสนามแข่งแล้ว ฟอร์ดส่งรถแร็พเตอร์ลงแข่งขัน Baja 1000 หนึ่งในสนามออฟโรดที่ท้าทายที่สุดในโลกเพื่อพิสูจน์ความดุดันบนเส้นทางสมบุกสมบัน แม้จะเป็นรายการแข่งขันที่มีรถรุ่นปรับแต่งพิเศษเข้าร่วม แต่ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์รุ่นที่ผลิตจากโรงงานและจำหน่ายไปทั่วโลกก็ได้ร่วมการแข่งขัน และคว้าชัยชนะมาแล้ว  นี่คือเครื่องหมายการันตีความเป็น ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เปรียบเสมือนตราเกียรติยศที่รถกระบะแต่ละคันต้องพิสูจน์ให้ได้ เพื่อให้ได้การยอมรับว่าเป็นแร็พเตอร์ตัวจริง

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือรถรุ่นยอดนิยมขวัญใจลูกค้าคนไทยพร้อมสโลแกนประจำตัวแกร่งจริงทุกคัน ดุดันทุกสถานการณ์ ด้วยคุณสมบัติสำคัญเหล่านี้ที่ทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์โดดเด่นและแตกต่างจากรถรุ่นอื่นๆ 

สมบุกสมบันทุกเส้นทางด้วยช่วงล่างที่คาดการณ์ได้ล่วงหน้า

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ พัฒนามาเพื่อครองตำแหน่งผู้นำการขับขี่ออฟโรด โดยใช้ระบบช่วงล่างอัจฉริยะ ประกอบด้วยโช้คอัพ FOX แบบ Live-Valve Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว พร้อมเซ็นเซอร์ที่คอยตรวจจับและประมวลผลการขับขี่ 500 ครั้งต่อวินาที ทั้งพื้นผิวถนน การบังคับเลี้ยว การเร่ง การเบรก และการเคลื่อนไหวของตัวรถ เพื่อปรับตัวรองรับสภาพเส้นทางในแต่ละรูปแบบได้แบบเรียลไทม์ ใช้น้ำมันโช้คผสมเทฟลอนพิเศษที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดแรงเสียดทาน

โครงสร้างแกร่งพิเศษ

รถตระกูลแร็พเตอร์สร้างมาเพื่อทนทานต่อความสมบุกสมบันของเส้นทางออฟโรดสุดโหด โดยมีโครงสร้างเพลารถเป็นเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง ออกแบบมาเพื่อทนต่อการใช้งานเมื่อขับขี่ออฟโรดความเร็วสูงโดยได้รับการเสริมความแกร่งในจุดสำคัญ เช่น จุดจับยึดต่างๆ ของช่วงล่างให้พร้อมรับทุกการผจญภัยในเส้นทางออฟโรดความเร็วสูงไม่ว่าจะตะลุยเนินทราย ปีนหิน หรือวิ่งบนทางลูกรัง

ฐานที่กว้างขึ้น ดุดันยิ่งขึ้น

การออกแบบรถตระกูลแร็พเตอร์ไม่ได้ทำเพื่อความเท่เท่านั้น ฐานล้อที่กว้างขึ้นเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มความดุดันเพื่อการขับขี่ในพื้นที่ออฟโรด โดยจะช่วยให้รถยึดเกาะพื้นได้มั่นคงขึ้น ขับขี่ได้มั่นใจ โดยเฉพาะเวลาอยู่บนเส้นทางที่ท้าทาย ซึ่งฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์มีฐานล้อกว้างกว่าเรนเจอร์รุ่นมาตรฐาน 90 มม. เพิ่มความดุดันและความสามารถในการทรงตัว นอกจากนี้ยังใช้ยางออลเทอร์เรนของ BF Goodrich ขนาด 33 นิ้ว ที่พัฒนามาเพื่อฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โดยเฉพาะอีกด้วย

รับมือทุกสภาพพื้นผิวโดยโหมดการขับขี่ที่เลือกเองได้

ไม่ว่าจะบนทางเรียบ ไปจนถึงพื้นหิน รถตระกูลแร็พเตอร์มีโหมดการขับขี่อัจฉริยะสำหรับทุกสภาพเส้นทาง โดยทำหน้าที่เสมือนวิศวกรคอยปรับระบบต่างๆ ให้ได้ทันใจ ตั้งแต่การตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์ ความไวต่อระบบเบรก การยึดเกาะ การทรงตัว ไปจนถึงเสียงของท่อไอเสีย โดยแผงหน้าปัดรถยนต์ดิจิทัลก็จะเปลี่ยนไปตามโหมดที่เลือกด้วย สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มีให้เลือก 7 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดถนนลื่น โหมดหิน โหมดโคลน โหมดทราย และโหมดบาฮา พร้อมระบบควบคุมความเร็วสำหรับการขับขี่ออฟโรด Trail Control™ ทำหน้าที่เสมือนระบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติสำหรับเส้นทางออฟโรด ช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิจดจ่อกับการบังคับควบคุมพวงมาลัยได้

อวดความดุดันด้วยเสียงการขับขี่ที่สามารถเลือกได้

เมื่อได้ชื่อว่าเป็นแร็พเตอร์ ย่อมไม่ได้มีเพียงสมรรถนะ แต่ยังมอบประสบการณ์ความดุดันที่เหนือชั้น โดยมีระบบท่อไอเสียปรับแต่งได้เพื่อให้เจ้าของรถสนุกกับการขับขี่ในแบบของตนเอง มาพร้อมระบบ Active Valve เพื่อมอบเสียงที่ไพเราะและดุดัน สามารถเลือกปรับได้ 4 โหมด ตั้งแต่โหมดเงียบสำหรับการขับขี่ที่ผ่อนคลาย โหมดปกติสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โหมดสปอร์ตเมื่อต้องการเพิ่มความตื่นเต้น ไปจนถึงโหมด Baja ที่ปลดปล่อยเสียงคำรามตามนิยามแกร่งจริงทุกคัน ดุดันทุกสถานการณ์

ล่าสุดฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้พิสูจน์สมรรถนะระดับสูงในสนามแข่งขันจริง โดยทีมฟีลลิค อินโนเวชัน มอเตอร์สปอร์ต ที่ได้รับการสนับสนุนจากฟอร์ด ประเทศไทย สามารถคว้าแชมป์ประจำปีในการแข่งขันไทยแลนด์ แรลลี่ เรด แชมเปี้ยนชิพ 2567 (Thailand Rally Raid Championship – TRRC) ในรุ่น T2.1 หรือรุ่นโปรดักชัน สำหรับรถที่ผลิตจากโรงงานในประเทศไทย และล่าสุดในปีนี้ ยังคว้าอันดับ 2 ในรุ่น T2 และอันดับ 4 Overall จากการแข่งขันสนามแรก คอออฟโรดและคนรักฟอร์ดที่สนใจสามารถติดตามชมการแข่งขันสนามต่อไปได้ในวันที่ 31 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน พ.ศ. 2568 นี้ ได้ทางเฟซบุ๊ก ฟอร์ด

ฮุนได ปล่อยแคมเปญรับเปิดเทอม “Hyundai Back to School”

ฮุนได ปล่อยแคมเปญรับเปิดเทอม “Hyundai Back to School” เขย่าวงการปล่อยงานครีเอทีฟการ์ตูน พร้อมข้อเสนออุ่นใจสำหรับทุกครอบครัว

เปิดเทอมใหม่นี้ ฮุนได ชวนลูกค้าที่สนใจมองหา ทั้ง “รถยนต์คู่ใจ” และ “เครื่องมือการเรียนรู้สำหรับเจ้าตัวเล็ก” ด้วยแคมเปญ “Hyundai Back to School : เปิดเทอมใหม่กับฮุนได อุ่นใจทุกครอบครัว” พร้อมฉีกแนวนำเสนอชิ้นงานครีเอทีฟด้วยลายเส้นการ์ตูน (Cartoon Style) สร้างความแตกต่างและแปลกใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่มองหารถครอบครัว ทั้ง MPV, SUV และ Premium EV ได้ง่ายขึ้น

เพียงจองรถฮุนไดรุ่นใดก็ได้ ระหว่างวันที่ 13 – 19 พฤษภาคม 2568 และรับรถภายใน 30 มิถุนายน 2568 รับฟรี! Samsung Galaxy Tab A9 มูลค่า 5,990 บาท* สมาร์ตไอเท็มที่ช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมข้อเสนอสุดคุ้มที่ออกแบบมาเพื่อ “ครอบครัวทุกสไตล์” ไม่ว่าจะเป็นสายเทคโนโลยี สายผจญภัย หรือคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ผ่อนต่ำ เริ่มต้นเพียง 8,356 บาทต่อเดือน* หรือรับส่วนลดเงินสดสูงสุด 280,000 บาท*

ไฮไลท์ข้อเสนอ Hyundai Back to School

•STARIA เลือกรับดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน หรือส่วนลดเงินสดสูงสุด 200,000 บาท*

•IONIQ 5 ดอกเบี้ย 0% นาน 72 เดือน รับเพิ่มฮุนไดช่วยผ่อนสูงสุด 30,000 บาท ฟรีเครดิตชาร์จไฟสูงสุด 10,000 บาท*

•PALISADE ดอกเบี้ย 0.99% นาน 48 เดือน ฟรี Digital Car Key*

•STARGAZER ดอกเบี้ย 0% นาน 60 เดือน ผ่อนเริ่มต้น 8,356 บาท รับเพิ่มฮุนไดช่วยผ่อน 2,500 บาท นาน 4 เดือน หรือส่วนลดเงินสด 100,000 บาท*

รถยนต์ MPV อเนกประสงค์รุ่นยอดนิยม

STARIA ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ พร้อมใส่ใจทุกเจเนอเรชัน รองรับ 11 ที่นั่ง นำเข้าทั้งคันจากเกาหลี รับส่วนลดเงินสดสูงสุด 200,000 บาท หรือเลือกรับ ดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน พร้อมฮุนไดช่วยผ่อนสูงสุด 60,000 บาท*

STARGAZER ครอบครัวไซซ์เล็กแต่จุมาก รับดอกเบี้ย 0% นาน 60 เดือน ผ่อนเริ่มต้นแค่ 8,356 บาท/เดือน รับเพิ่ม on top ฮุนไดช่วยผ่อน 2,500 บาท นาน 4 เดือน* หรือจะเลือกรับส่วนลดเงินสด 100,000 บาท

รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่มีสไตล์

IONIQ 5 เอสยูวีไฟฟ้าแห่งอนาคต กับข้อเสนอ ดอกเบี้ย 0% นาน 72 เดือน ฮุนไดช่วยผ่อนสูงสุด 30,000 บาท ฟรีเครดิตชาร์จไฟ 10,000 บาท พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ และค่าแรงติดตั้ง*

IONIQ 6 ซีดานไฟฟ้าเรียบหรู วิ่งไกล 545 กม./ชาร์จ ดอกเบี้ย 0% นาน 36 เดือน ฟรีเครดิตชาร์จไฟ 10,000 บาท พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ และค่าแรงติดตั้ง*

สายครอบครัวเลิฟผจญภัย ต้องไม่พลาดกับ SUV Lineup

PALISADE Flagship SUV รถผู้บริหารไซซ์ใหญ่ ราคาเริ่มต้น 2,299,000 บาท รับดอกเบี้ย 0.99% ผ่อนนาน 48 เดือน

CRETA ALPHA เอสยูวีขนาดกะทัดรัดกับดีไซน์สะดุดตาและฟีเจอร์ครบครัน ราคาเริ่มต้น 929,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 0% ผ่อนสูงสุด 48 เดือน*

SANTA FE Hybrid อีกหนึ่งทางเลือกของ SUV เครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 7 ที่นั่ง เลือกรับส่วนลดเงินสดสูงสุดถึง 280,000 บาท* หรือเลือกผ่อนสบายๆ กับดอกเบี้ย 0% นานถึง 84 เดือน

ไม่ว่าครอบครัวของคุณจะมีสมาชิกกี่คน มีไลฟ์สไตล์แบบไหน ฮุนไดมีรถที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่อง “ดีไซน์ ฟังก์ชัน และงบประมาณ” ของคุณพร้อมของขวัญสุดสมาร์ตที่ช่วยเสริมการเรียนรู้ให้เจ้าตัวเล็กอย่าง Samsung Galaxy Tab A9 มูลค่า 5,990 บาท* เพียงจองรถยนต์ฮุนได ตั้งแต่วันที่ 13–19 พฤษภาคม 2568 นี้ และรับรถภายใน 30 มิถุนายน 2568 ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อรับข้อเสนอ Hyundai Back to School ได้ที่โชว์รูมฮุนไดทั่วประเทศ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.hyundai.com/th

ซื้อฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมชุดแต่ง MS-RT วันนี้ ชมการแข่งรถ F1

ซื้อฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมชุดแต่ง MS-RT วันนี้ รับฟรี ทริปชมการแข่งรถ F1 ที่สิงคโปร์ สุดเร้าใจ

ฟอร์ด ประเทศไทย มอบประสบการณ์สุดเร้าใจสำหรับสาวกรถแข่งมอเตอร์สปอร์ต ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ ทริปชมการแข่งรถฟอร์มูล่า วัน สิงคโปร์ กรังด์ ปรีซ์ หรือ F1 ณ มารีน่า เบย์ สตรีท เซอร์กิต ประเทศสิงคโปร์ เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน เมื่อซื้อรถฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมชุดแต่ง MS-RT ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 30 มิถุนายน 2568 จำนวนจำกัด

“ฟอร์ดให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของลูกค้า เราได้ร่วมกับพันธมิตรผู้ดัดแปลงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์และสร้างความประทับใจสูงสุด สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมชุดแต่ง MS-RT นี้ เราได้ปรับจูนช่วงล่างใหม่ ซึ่งยังคงให้สัมผัสการขับขี่ที่เร้าใจในแบบสปอร์ตและพร้อมรองรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว” เมธัส ลิขิตสัจจากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว

ฟอร์ด ประเทศไทย มอบข้อเสนอเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมชุดแต่ง MS-RT ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 30 มิถุนายน 2568 ที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดที่ร่วมรายการ รับฟรี! แพ็กเกจทริปเดินทางชมการแข่งรถฟอร์มูล่า วัน สิงคโปร์ กรังด์ ปรีซ์ หรือ F1 เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2568 ที่ประเทศสิงคโปร์ รวมมูลค่ากว่า 58,834 บาท ในแพ็กเกจประกอบด้วย

•ตั๋วเครื่องบินไป-กลับแบบฟูล เซอร์วิส พร้อมที่พัก 2 คืน

•บัตรเข้าชมการแข่งขัน F1 สุดเร้าใจ ในวันที่ 4-5 ตุลาคม 2568

•สิทธิ์เข้าชมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังระดับโลกเอลตัน จอห์น ฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมชุดแต่ง MS-RT มาพร้อมตัวเลือก 2 สี ได้แก่ สีเทา คอมมานด์ เกรย์ และสีดำ แอ็บโซลูท แบล็ก ราคา 1,754,000 บาท โดยฟอร์ดและอาร์เอ็มเอ กรุ๊ป พันธมิตรผู้ดัดแปลงรถยนต์ที่ได้รับการรับรอง Qualified Vehicle Modifier (QVM) จากฟอร์ด พร้อมมอบความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT ด้วยการรับประกันคุณภาพที่ครอบคลุมทั้งอะไหล่แท้จากฟอร์ดและชิ้นส่วนการดัดแปลงทั้งหมดจากอาร์เอ็มเอ ด้วยระยะเวลาการรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) และฟรีค่าแรงเช็กระยะ พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save