•สัมผัสจริง 19-20 ก.ค. นี้ ทดลองขับ The all-new SANTA FE ได้ที่เมกะบางนา และโชว์รูมฮุนไดทั่วประเทศ
กรุงเทพฯ 15 กรกฎาคม 2568 – ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย เดินเกมรุกตลาดรถยนต์ต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวยานยนต์ D-SUV ใหม่ล่าสุด “The all-new SANTA FE” นับเป็นเจเนอเรชันที่ 5 ของ SANTA FE ภายใต้สโลแกน “Open for More Horizons เพราะมากกว่าเส้นขอบฟ้า คือคำว่าอิสระ” สะท้อนจิตวิญญาณ SUV ยุคใหม่ที่พร้อมพาคุณออกไปสู่จุดหมายใหม่ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ และขยายขอบเขตการใช้ชีวิตให้ไกลกว่าที่เคย เพราะ The all-new SANTA FE ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนโฉม แต่เป็นการรีเซตภาพลักษณ์รถอนกประสงค์ SUV : Sport Utility Vehicle ยุคใหม่ ด้วยเส้นสายทรงพลังที่ผสานความหรูหราและอารมณ์แห่งการผจญภัยในหนึ่งเดียว ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริดที่ให้สมรรถนะเหนือชั้น แต่ยังประหยัดพลังงาน พร้อมอัดแน่นเทคโนโลยีอัจฉริยะและระบบความปลอดภัยที่ครบครัน พร้อมวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 1,599,000 บาท
นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “The all-new SANTA FE ไม่ได้เป็นเพียง SUV รุ่นใหม่ แต่คือสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นของฮุนไดในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด SUV ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ฮุนไดก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ลำดับ 3 ของโลก ด้วยยอดจำหน่ายมากกว่า 4 ล้านคันต่อปีในกว่า 190 ประเทศ ความสำเร็จนี้เกิดจากการสร้างนวัตกรรมและกำหนดทิศทางใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์มาอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทย ฮุนไดให้ความสำคัญอย่างมากในฐานะตลาดยุทธศาสตร์หลักในอาเซียน และพร้อมลงทุนอย่างจริงจังเพื่อสร้างความเติบโตระยะยาว พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด และส่งมอบรถยนต์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกมิติ ทั้งวันนี้และอนาคต”
ทุกรายละเอียดของ The all-new SANTA FE สะท้อนถึงความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอันลึกซึ้ง ทั้งในเรื่องของการออกแบบพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยทำมาเมื่อเทียบกับ SANTA FE รุ่นเดิม ที่นั่งแบบ Captain Seats สิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย เพราะแก่นแท้แห่งความงามต้องเริ่มต้นจากฟังก์ชันการใช้งานที่สมบูรณ์แบบและตอบสนองประโยชน์สูงสุดในชีวิตจริง นำเสนอผ่านรูปลักษณ์ทรงเหลี่ยม สไตล์ Boxy Design ที่เฉียบคม สะท้อนความแข็งแกร่งและความพรีเมียมแบบ SUV ยุโรป
นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “The all-new SANTA FE รุ่นใหม่นี้พัฒนาขึ้นจากการผสานดีไซน์แห่งอนาคต ด้วยรูปทรงเหลี่ยม สไตล์ Boxy Design เข้ากับฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ชีวิตจริง ทุกมิติของรถถูกออกแบบอย่างมีเหตุผลและความหมาย ทุกเส้นสายและเหลี่ยมมุมสะท้อนเจตนารมณ์ที่ชัดเจน ห้องโดยสาร 3 แถว 6 ที่นั่ง พร้อม Captain Seat ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ด้วยพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระท้าย ที่ขยายพื้นที่ได้กว้างขวางเสมือนห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ (Living Room-Like) มาพร้อมเทคโนโลยี Turbo Hybrid ของฮุนได ที่ทั้งแรงและประหยัด โดยสื่อสารผ่านคำว่า Open for More Horizons ซึ่งไม่ใช่เป็นแค่สโลแกน แต่คือแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบในทุกองค์ประกอบ และต้องการสื่อสารว่า “เพราะมากกว่าเส้นขอบฟ้า คือคำว่าอิสระ” ทำให้มั่นใจได้ว่านี่คือ SUV ที่ตอบโจทย์การเดินทางทุกไลฟ์สไตล์ ให้อิสระทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทางพักผ่อน พร้อมพาทั้งผู้ขับและผู้โดยสารไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ และเปิดโลกแห่งการผจญภัย ให้คุณใช้ชีวิตได้เต็มที่และดื่มด่ำยิ่งกว่าเดิม”
ความปลอดภัยยังคงเป็นหัวใจสำคัญของ The all-new SANTA FE ติดตั้งชุดเทคโนโลยีอัจฉริยะ Hyundai SmartSense ถึง 13 ระบบ ที่ครบครันที่สุดในคลาส มอบความมั่นใจทุกเส้นทางด้วยระบบช่วยขับอันชาญฉลาด ทั้ง Smart Cruise Control พร้อม Stop & Go ที่ควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า, Forward Collision-Avoidance Assist (FCA) ระบบเบรกอัตโนมัติหากเสี่ยงต่อการชนปะทะด้านหน้า, Blind-Spot Collision-Avoidance Assist (BCA) ระบบเตือนและช่วยเบรกเมื่อเปลี่ยนเลน, Lane Following Assist และ Lane Keeping Assist ระบบรักษาตำแหน่งรถให้อยู่กลางเลน, Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อถอยหลังหรือมีรถวิ่งตัดหลัง, Safe Exit Assist ระบบเตือนและล็อกประตูอัตโนมัติหากมีรถแล่นผ่านขณะเปิดประตู, Surround View Monitor (เฉพาะรุ่น Prestige) กล้องรอบคันช่วยให้จอดได้อย่างมั่นใจ และ Reverse Parking Collision-Avoidance Assist ระบบช่วยเบรกเมื่อมีสิ่งกีดขวางขณะถอยจอด เพื่อทำให้ทุกการเดินทางของคุณปลอดภัยและอุ่นใจยิ่งกว่าเดิม
The all-new SANTA FE นำเสนอ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Exclusive ราคา 1,599,000 บาท และ Prestige ราคา 1,749,000 บาท มาพร้อม 3 เฉดสีภายนอกสุดพรีเมียม ได้แก่ Beach Sand, Pearl White และ Space Black เสริมความมั่นใจด้วยการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. และการรับประกันแบตเตอรีไฮบริด 8 ปี หรือ 160,000 กม. พร้อมดอกเบี้ยพิเศษช่วงเปิดตัว 1.99% ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน เมื่อออกรถภายใน 31 สิงหาคม 2568
เชิญมาสัมผัสและทดลองขับ The all-new SANTA FE ได้ด้วยตัวคุณเองที่โชว์รูมฮุนไดทั่วประเทศ และในวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2568 พบกับงาน “The all-new SANTA FE : Meet The New Horizon” ณ ศูนย์การค้าเมกะบางนา แล้วมาร่วมเปิดประสบการณ์กับมาตรฐานใหม่ของ SUV ยุคใหม่ที่ทุกคนรอคอยไปด้วยกัน
เอ็มจี โชว์นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ NEW MG IM6 ในเทศกาลระดับตำนานอย่าง GOODWOOD FESTIVAL OF SPEED 2025
•เอ็มจี นำทัพด้วย รถไฟฟ้าอัจฉริยะสุดล้ำอย่าง NEW MG IM5 และ NEW MG IM6
•ดีไซน์อันโดดเด่นและลงตัวของ NEW MG CYBER X และ NEW MG CYBERSTER Black Edition
•การปรากฎตัวอีกครั้งของ MG EX4 รถแนวคิดที่ได้แรงบันดาลใจจาก Metro 6R4 ยุค 80s ผสานดีไซน์ล้ำสมัยกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่างลงตัว
•ตอกย้ำการเป็นรถไฟฟ้ามหาชนในยุโรปด้วย NEW MG S5 EV
เวสต์ซัสเซกซ์, สหราชอาณาจักร – 14 กรกฎาคม 2568 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เผยถึง เอ็มจี สหราชอาณาจักร ได้เข้าร่วมงานเทศกาลระดับตำนานอย่าง GOODWOOD FESTIVAL OF SPEED 2025 โดยภายในงานได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการอย่าง NEW MG IM5 และ NEW MG IM6 นอกเหนือจาก 2 รุ่นที่กล่าวมา เอ็มจี ยังนำโมเดลเรือธงอย่าง NEW MG CYBERSTER Black Edition และ NEW MG CYBER X ที่ออกแบบโดย Mr. Jozef Kabaň – Vice President of SAIC DESIGN และรถ SUV มหาชนอย่าง NEW MG S5 EV ซึ่งเป็นโมเดลที่มาสานต่อความนิยมจาก MG ZS EV รวมถึงการนำเอา MG EX4 รถแนวคิดพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแรลลี่ระดับตำนานอย่าง Metro 6R4 แห่งยุค 80s ที่มาพร้อมเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ผสานดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย สะท้อนวิสัยทัศน์ของแบรนด์ เอ็มจี ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในระดับโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ที่มาของ เทศกาล GOODWOOD FESTIVAL OF SPEED
เทศกาล Goodwood Festival of Speed ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1993 โดย Charles Gordon-Lennox หรือ Duke of Richmond เพื่อรำลึกถึงอดีตสนามแข่งในที่ดิน Goodwood Estate ที่เคยรุ่งเรืองในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง งานจัดในรูปแบบการแข่ง “Hill Climbing” บนถนนยาว 1.16 ไมล์ (1.867 กิโลเมตร) หน้าคฤหาสน์ Goodwood House ซึ่งเปิดโอกาสให้ทั้งรถแข่งคลาสสิก ซูเปอร์คาร์ และนวัตกรรมยานยนต์รุ่นใหม่ได้ประชันความเร็วกันอย่างใกล้ชิด เป็นหนึ่งในงานมอเตอร์สปอร์ตกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นทุกเดือนกรกฎาคม มีนักแข่งมากมาย รวมถึงอดีตนักแข่งอาวุโส ตลอดจนกลุ่มคนที่ชื่นชอบในความเร็วเข้าร่วมงานมากกว่าหนึ่งแสนคนต่อวัน พร้อมกิจกรรมหลากหลาย เช่น การโชว์รถคลาสสิก การนำรถแรลลี่วิ่งบนสนามฝุ่น โชว์นวัตกรรมต่างๆ รถยนต์รุ่นใหม่ของค่ายรถ รวมถึงการนำรถยนต์ต้นแบบมาวิ่งในงานก่อนการเปิดตัว งานนี้ไม่เพียงเฉลิมฉลองความเร็ว แต่ยังสะท้อนมรดกทางวัฒนธรรมของวงการยานยนต์ในทุกยุคสมัยอย่างชัดเจน
เขย่าตลาดยุโรปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย กับ NEW MG IM6
เมื่อช่วงบ่ายของ วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เอ็มจี สหราชอาณาจักร ได้เปิดตัว NEW MG IM6 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The 1st ever Premium Intelligent e-SUV” ที่ได้เปิดตัวในประเทศไทยเป็นที่แรกและได้ส่งมอบรถให้แก่ลูกค้ากลุ่มแรกแล้วกว่า 1,000 คัน รวมถึง ฮ่องกง และออสเตรเลีย ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าที่สนใจเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะเป็นอย่างดี โดย NEW MG IM6 ถูกพัฒนาขึ้นเป็นหนึ่งในโกลบอลโมเดลของ เอ็มจี เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ขับขี่รุ่นใหม่ที่มองหายานยนต์อัจฉริยะซึ่งมอบทั้งสมรรถนะ ความปลอดภัย และความบันเทิงอย่างครบครัน จุดเด่นที่ทำให้รถรุ่นนี้โดดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาด คือ ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ (Intelligent Four Wheel Steering System) ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเลนในความเร็วสูงเสถียรและการกลับรถในที่แคบได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ (Intelligent Air Suspension) ที่ไม่เพียงแต่ช่วยลดแรงกระแทกต่อพื้นถนนถึงห้องโดยสาร แต่ยังสามารถปรับระดับความสูงของช่วงล่างได้ถึง 3 ระดับ ตามลักษณะการขับขี่เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นคงในทุกการเดินทาง โดยภายในงาน NEW MG IM6 และ NEW MG IM5 ได้มีโอกาสวิ่งทดสอบสมรรถนะในเส้นทางขึ้นเขา และทางอันคดเคี้ยวตามที่ผู้จัดงานได้จัดเตรียมไว้ให้ด้วย
NEW MG CYBERSTER Black Edition และ NEW MG CYBER X : แรงบันดาลใจจากจินตนาการสู่ความเป็นจริง
ภายในงานยังมีไฮไลต์ที่สำคัญกับการเผยโฉม NEW MG CYBERSTER Black Edition สปอร์ตโรดเตอร์ระดับไอคอนิก ยนตรกรรมที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณจากรถสปอร์ตในตำนานอย่าง MGB Roadster ที่กลับมาพร้อมตัวถังสีดำสนิทแบบ Luxury Matte Black ผสมอนุภาคแก้วระดับ Ultra-Fine สร้างประกายระยิบระยับ เมื่อขับเคลื่อนผ่านกระบวนการพ่นสีแบบเดียวกับรถซูเปอร์ลักชัวรี่ มาพร้อมดีไซน์โครเมียมหรูหราและห้องโดยสารสีดำล้วน NEW MG CYBER X ยนตรกรรมดีไซน์ทรงกล่อง (Boxy SUV) สำหรับชีวิตคนเมืองโดยเฉพาะ ผลงานการออกแบบโดย Mr. Jozef Kabaň – Vice President of SAIC DESIGN ที่ผสานความแข็งแกร่งสไตล์ SUV เข้ากับฟังก์ชันของ EV Compact ได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยโครงสร้างสูงโปร่ง เส้นสายด้านหน้าและด้านท้ายที่สั้นกระชับ ถ่ายทอดภาพลักษณ์แห่งความมั่นใจ ตัวถังเคลือบด้วยสี “Stardust Gray” ที่เมื่อจอดนิ่งจะเป็นสีด้าน และเงาวาวเมื่อเคลื่อนไหว เพิ่มเสน่ห์ล้ำสมัยในทุกมุมมอง ขณะที่ไฟหน้าแบบป๊อปอัพสุดคลาสสิก ผสานเข้ากับหลักอากาศพลศาสตร์ยุคใหม่อย่างลงตัว ก่อเกิดเป็นความสง่างามที่ทั้งโดดเด่นและทันสมัยไม่เหมือนใคร
MG EX4 การกลับมาของตำนานในยุคพลังงานไฟฟ้า
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด คือการนำ MG EX4 รถแนวคิดสุดพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Metro 6R4 ตำนานรถแรลลี่แห่งยุค 80s โดยได้รับการออกแบบโดยทีมดีไซเนอร์ของ เอ็มจี ในกรุงลอนดอน ถ่ายทอดจิตวิญญาณความแรงในอดีตผ่านเทคโนโลยีแห่งอนาคต MG EX4 มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสมรรถนะสูงจาก NEW MG4 ELECTRIC XPOWER เสริมความเร้าใจด้วยลวดลายกราฟิกใหม่ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการจัดแสดงในงาน GOODWOOD FESTIVAL OF SPEED 2025
ตอกย้ำการเป็นรถไฟฟ้ามหาชนในยุโรปด้วย NEW MG S5 EV
NEW MG S5 EV รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่จาก เอ็มจี ได้มีโอกาสวิ่งโชว์ในงานนี้ด้วย โดยชูจุดเด่นด้านดีไซน์ทันสมัย พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง และเทคโนโลยีภายในครบครัน รุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่สูงสุด 64 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุดราว 550 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง NEW MG S5 EV เป็นหนึ่งในรถที่สะท้อนแนวทางการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังของ เอ็มจี ที่ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มค่าและการใช้งานในชีวิตประจำวัน การได้มีโอกาสนำรถคันนี้วิ่งในงานถือเป็นการเปิดตัวสู่สายตาระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบในเวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับตำนานของอังกฤษต่อยอดจากรุ่น MG ZS EV ซึ่งเป็นที่นิยมในตลาดยุโรป