- Advertisement -
24.6 C
Bangkok
Home Blog Page 7

โตโยต้าถนนสีขาว ร่วมมือ รพ.จุฬาลงกรณ์ ประเมินการขับขี่รถยนต์สาหรับผู้สูงอายุ

โตโยต้าถนนสีขาว ร่วมมือ ศูนย์ฝึกสมอง รพ.จุฬาลงกรณ์ นาโปรแกรมประเมินสมรรถนะการขับขี่รถยนต์สาหรับผู้สูงอายุ จัดนิทรรศการในงานเสวนา “สมองดี มีสุข”

นายสิริวิทย์ ปรีชาศุทธิ์ ผู้อานวยการฝ่ายวางแผนองค์กร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จากัด พร้อมด้วย รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อานวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ รศ.ดร.พญ.โสฬพัทธ์ เหมรัญช์โรจน์ หัวหน้าศูนย์ฝึกสมอง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ร่วมเปิดงาน Chula Cognitive “สมองดี มีสุข” ที่ประกอบด้วยงานเสวนา นิทรรศการ และบูธกิจกรรม เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สูงอายุที่เข้าร่วมงานกว่า 300 คน ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568

โตโยต้าดาเนินกิจกรรมด้านความปลอดภัยทางถนน ภายใต้โครงการโตโยต้า ถนนสีขาว อย่างต่อเนื่องมากว่า 37 ปี เพื่อสร้าง “สังคมคนขับรถดี (Good Driver Society)” แก่ประชาชนในทุกวัย โดยหนึ่งในนั้น คือการนา “โปรแกรมประเมินสมรรถนะการขับขี่รถยนต์สาหรับผู้สูงอายุ” ที่ได้พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเน้นประเมินสุขภาพใน 4 ด้าน ได้แก่ พลังร่างกาย สายตา การตัดสินใจ และความเข้าใจเหตุการณ์ มาใช้กับประเทศไทย ซึ่งกาลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์

ในงานนี้ โตโยต้า ได้ร่วมมือกับศูนย์ฝึกสมอง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ในการพัฒนาหลักสูตรโปรแกรม ด้วยการให้ความรู้เพิ่มเติมในเชิงการแพทย์ ถึงความเสี่ยงและผลกระทบต่อการขับขี่ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายในผู้สูงวัย รวมถึงการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพขับขี่ที่ปลอดภัยมากขึ้น ผ่านการจัดบูธกิจกรรมเพื่อประเมินสมรรถนะการขับขี่รถยนต์ และมอบองค์ความรู้ด้านการ “ขับขี่ปลอดภัย” ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้สูงอายุที่เข้าร่วมงานเสวนาทุกคน โดยโตโยต้าวางแผนต่อยอดกิจกรรม ร่วมกับพันธมิตร และผู้แทนจาหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ในการนาโปรแกรมประเมินสมรรถนะการขับขี่รถยนต์ ให้เข้าถึงกลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้น อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง สังคมคนขับรถดี ให้เกิดขึ้นจริงได้ต่อไป

โตโยต้า เข้าร่วมพิธีส่งมอบผู้สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรช่างซ่อมตัวถังและสีรถยนต์

โตโยต้า เข้าร่วมพิธีส่งมอบผู้สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้น ช่างซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ ระหว่าง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมโตโยต้า ได้เข้าร่วมพิธีส่งมอบผู้สำเร็จการฝึกอบรม หลักสูตรช่างซ่อมตัวถังและพ่นสีรถยนต์ UBISD Model เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 โดยมี นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นประธานในพิธี โดยได้ส่งมอบผู้สำเร็จการฝึกอบรมในหลักสูตร ช่างซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ และได้รับการรับรองมาตรฐานช่างตัวถังและสีรถยนต์ ระดับ1 โตโยต้า จำนวน 20 คน เข้าทำงานกับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า 5 แห่ง ภายใต้โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้ศึกษาต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้เริ่มสนับสนุนการฝึกในหลักสูตร ช่างซ่อมตัวถังและพ่นสีรถยนต์ ตั้งแต่ปี 2550 มีระยะเวลาในการฝึก 120 ชั่วโมง มุ่งเน้นให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษามีงานทำ ภายใต้การรับรองคุณภาพโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งโตโยต้าและบริษัทในเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับงานช่างสีรถยนต์ ได้ให้การสนับสนุนวัสดุฝึก อุปกรณ์ วิทยากร พร้อมทั้งรับผู้สำเร็จการฝึกอบรมเข้าทำงานในกลุ่มผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า โดยตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ผ่านมา สามารถผลิตช่างตัวถังและช่างสีรถยนต์ร่วมกันกว่า 1,000 คน

โตโยต้า มีความแน่วแน่ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่

                                      “โตโยต้า ร่วมขับเคลื่อนอนาคต”

ฮุนได เปิดตัว SANTA FE ชูภาพลักษณ์รถอเนกประสงค์ของคนรุ่นใหม่

ฮุนได พลิกโฉมวงการ SUV ไทย เปิดตัว “The all-new SANTA FE” ชูดีไซน์ Boxy พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ที่เหนือกว่า ด้วยสโลแกน “Open for More Horizons”

•SUV ดีไซน์ Boxy หรูหรา อเนกประสงค์ พร้อมฝาท้ายเปิดกว้าง และพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยทำมา เสมือนห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่

•สมรรถนะไฮบริดเหนือชั้น ขุมพลัง 1.6 Turbo Parallel Hybrid 232 แรงม้า แรงบิด 367 นิวตัน-เมตร ประหยัดสูงสุด 19.6 กม./ลิตร

•ห้องโดยสารกว้างขวาง 3 แถว 6 ที่นั่ง หรูหรา พร้อม Captain Seat เบาะแถวสองปรับไฟฟ้าหนึ่งเดียวในตลาด สบายเหมือนเลาจน์ส่วนตัว จอคู่ Panoramic Curved Display 12.3 นิ้ว + 12.3 นิ้ว ฟังก์ชันครบ

•สัมผัสจริง 19-20 ก.ค. นี้ ทดลองขับ The all-new SANTA FE ได้ที่เมกะบางนา และโชว์รูมฮุนไดทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ 15 กรกฎาคม 2568 – ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย เดินเกมรุกตลาดรถยนต์ต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวยานยนต์ D-SUV ใหม่ล่าสุด “The all-new SANTA FE” นับเป็นเจเนอเรชันที่ 5 ของ SANTA FE ภายใต้สโลแกน “Open for More Horizons เพราะมากกว่าเส้นขอบฟ้า คือคำว่าอิสระ” สะท้อนจิตวิญญาณ SUV ยุคใหม่ที่พร้อมพาคุณออกไปสู่จุดหมายใหม่ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ และขยายขอบเขตการใช้ชีวิตให้ไกลกว่าที่เคย เพราะ The all-new SANTA FE ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนโฉม แต่เป็นการรีเซตภาพลักษณ์รถอนกประสงค์ SUV : Sport Utility Vehicle ยุคใหม่ ด้วยเส้นสายทรงพลังที่ผสานความหรูหราและอารมณ์แห่งการผจญภัยในหนึ่งเดียว ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริดที่ให้สมรรถนะเหนือชั้น แต่ยังประหยัดพลังงาน พร้อมอัดแน่นเทคโนโลยีอัจฉริยะและระบบความปลอดภัยที่ครบครัน พร้อมวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 1,599,000 บาท

นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “The all-new SANTA FE  ไม่ได้เป็นเพียง SUV รุ่นใหม่ แต่คือสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นของฮุนไดในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด SUV ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ฮุนไดก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ลำดับ 3 ของโลก ด้วยยอดจำหน่ายมากกว่า 4 ล้านคันต่อปีในกว่า 190 ประเทศ ความสำเร็จนี้เกิดจากการสร้างนวัตกรรมและกำหนดทิศทางใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์มาอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทย ฮุนไดให้ความสำคัญอย่างมากในฐานะตลาดยุทธศาสตร์หลักในอาเซียน และพร้อมลงทุนอย่างจริงจังเพื่อสร้างความเติบโตระยะยาว พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด และส่งมอบรถยนต์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกมิติ ทั้งวันนี้และอนาคต”

ทุกรายละเอียดของ The all-new SANTA FE สะท้อนถึงความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอันลึกซึ้ง ทั้งในเรื่องของการออกแบบพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยทำมาเมื่อเทียบกับ SANTA FE รุ่นเดิม ที่นั่งแบบ Captain Seats สิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย เพราะแก่นแท้แห่งความงามต้องเริ่มต้นจากฟังก์ชันการใช้งานที่สมบูรณ์แบบและตอบสนองประโยชน์สูงสุดในชีวิตจริง นำเสนอผ่านรูปลักษณ์ทรงเหลี่ยม สไตล์ Boxy Design ที่เฉียบคม สะท้อนความแข็งแกร่งและความพรีเมียมแบบ SUV ยุโรป

นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “The all-new SANTA FE รุ่นใหม่นี้พัฒนาขึ้นจากการผสานดีไซน์แห่งอนาคต ด้วยรูปทรงเหลี่ยม สไตล์ Boxy Design เข้ากับฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ชีวิตจริง ทุกมิติของรถถูกออกแบบอย่างมีเหตุผลและความหมาย ทุกเส้นสายและเหลี่ยมมุมสะท้อนเจตนารมณ์ที่ชัดเจน  ห้องโดยสาร 3 แถว 6 ที่นั่ง พร้อม Captain Seat ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ด้วยพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระท้าย ที่ขยายพื้นที่ได้กว้างขวางเสมือนห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ (Living Room-Like) มาพร้อมเทคโนโลยี Turbo Hybrid ของฮุนได ที่ทั้งแรงและประหยัด  โดยสื่อสารผ่านคำว่า Open for More Horizons ซึ่งไม่ใช่เป็นแค่สโลแกน แต่คือแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบในทุกองค์ประกอบ และต้องการสื่อสารว่า “เพราะมากกว่าเส้นขอบฟ้า คือคำว่าอิสระ” ทำให้มั่นใจได้ว่านี่คือ SUV ที่ตอบโจทย์การเดินทางทุกไลฟ์สไตล์ ให้อิสระทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทางพักผ่อน พร้อมพาทั้งผู้ขับและผู้โดยสารไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ และเปิดโลกแห่งการผจญภัย ให้คุณใช้ชีวิตได้เต็มที่และดื่มด่ำยิ่งกว่าเดิม”

ห้องโดยสารกว้างขวาง หรูหรา และอเนกประสงค์เกินคลาส

ห้องโดยสาร SANTA FE ใหม่ ผสานความหรูหรา ความอเนกประสงค์ และเทคโนโลยีเหนือระดับ โดดเด่นด้วยเบาะแถวสองแบบ Captain Seat ปรับไฟฟ้า หนึ่งเดียวในคลาส มอบความสะดวกสบายเสมือนเลาจน์ส่วนตัว พร้อมจอคู่ Panoramic Curved Display ขนาด 12.3 นิ้ว + 12.3 นิ้ว เชื่อมต่อจอมาตรวัดและอินโฟเทนเมนต์อย่างไร้รอยต่อ Bi-directional Multi-console ที่เก็บของคอนโซลกลางที่ใช้งานสะดวกทั้งผู้ขับและผู้โดยสารแถวสอง ขณะที่ Dual Wireless Charger มาพร้อมพัดลมระบายความร้อน เพื่อชาร์จสมาร์ตโฟนได้รวดเร็วและปลอดภัย เสริมบรรยากาศพรีเมียมด้วย Ambient Light Colour ถึง 64 เฉดสี  ในห้องโดยสาร

ขุมพลังไฮบริดที่จัดเต็มพลังและความประหยัด

The all-new SANTA FE Gen 5 ขับเคลื่อนด้วย 1.6 Turbo Parallel Hybrid Technology ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรีลิเธียมไอออนโพลิเมอร์ขนาด 1.49 kWh ให้พลังสูงสุดถึง 232 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 367 นิวตัน-เมตร ที่ 1,000–4,100 รอบ/นาที พร้อมมาตรฐานการปล่อยไอเสีย Euro 6 และระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ที่เหมาะกับทุกสภาพการขับขี่ มอบอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยสูงสุดที่ 19.6 กม./ลิตร ระบบบังคับเลี้ยวเป็นพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ให้ความแม่นยำและตอบสนองทันใจ ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ มอบประสบการณ์ขับที่นุ่มนวลและมั่นคง ระบบเบรกทั้งหน้าและหลังเป็นดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน เสริมความมั่นใจในการเบรก พร้อมล้ออัลลอยหรู ขนาด 18 นิ้ว เติมเต็มความ  พรีเมียมและสมรรถนะในทุกมิติ

มั่นใจด้วย Hyundai SmartSense เทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือชั้น

ความปลอดภัยยังคงเป็นหัวใจสำคัญของ The all-new SANTA FE  ติดตั้งชุดเทคโนโลยีอัจฉริยะ Hyundai SmartSense ถึง 13 ระบบ ที่ครบครันที่สุดในคลาส มอบความมั่นใจทุกเส้นทางด้วยระบบช่วยขับอันชาญฉลาด ทั้ง Smart Cruise Control พร้อม Stop & Go ที่ควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า, Forward Collision-Avoidance Assist (FCA) ระบบเบรกอัตโนมัติหากเสี่ยงต่อการชนปะทะด้านหน้า, Blind-Spot Collision-Avoidance Assist (BCA) ระบบเตือนและช่วยเบรกเมื่อเปลี่ยนเลน, Lane Following Assist และ Lane Keeping Assist ระบบรักษาตำแหน่งรถให้อยู่กลางเลน, Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อถอยหลังหรือมีรถวิ่งตัดหลัง, Safe Exit Assist ระบบเตือนและล็อกประตูอัตโนมัติหากมีรถแล่นผ่านขณะเปิดประตู, Surround View Monitor (เฉพาะรุ่น Prestige) กล้องรอบคันช่วยให้จอดได้อย่างมั่นใจ และ Reverse Parking Collision-Avoidance Assist ระบบช่วยเบรกเมื่อมีสิ่งกีดขวางขณะถอยจอด เพื่อทำให้ทุกการเดินทางของคุณปลอดภัยและอุ่นใจยิ่งกว่าเดิม

The all-new SANTA FE นำเสนอ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Exclusive ราคา 1,599,000 บาท และ Prestige ราคา 1,749,000 บาท มาพร้อม 3 เฉดสีภายนอกสุดพรีเมียม ได้แก่ Beach Sand, Pearl White และ Space Black เสริมความมั่นใจด้วยการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. และการรับประกันแบตเตอรีไฮบริด 8 ปี หรือ 160,000 กม. พร้อมดอกเบี้ยพิเศษช่วงเปิดตัว 1.99% ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน เมื่อออกรถภายใน 31 สิงหาคม 2568

เชิญมาสัมผัสและทดลองขับ The all-new SANTA FE  ได้ด้วยตัวคุณเองที่โชว์รูมฮุนไดทั่วประเทศ และในวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2568 พบกับงาน “The all-new SANTA FE : Meet The New Horizon” ณ ศูนย์การค้าเมกะบางนา แล้วมาร่วมเปิดประสบการณ์กับมาตรฐานใหม่ของ SUV ยุคใหม่ที่ทุกคนรอคอยไปด้วยกัน

ซูซูกิ รุกธุรกิจภาคการขนส่งและโลจิสติกส์

ซูซูกิ รุกธุรกิจภาคการขนส่งและโลจิสติกส์ SUZUKI CARRY DRIVE YOUR DREAM จัดโปรหนักเจาะกลุ่มผู้ประกอบการยุคใหม่ รับส่วนลดสูงสุด 30,000 บาท พร้อมผ่อนเริ่มต้นเพียงวันละ 222 บาท

16 กรกฎาคม 2568-บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กระตุ้นตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กอีกครั้ง ส่งแคมเปญสุดพิเศษ “SUZUKI CARRY DRIVE YOUR DREAM เคียงคู่ทุกธุรกิจ” ชูจุดเด่นรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 30,000 บาท พร้อมผ่อนเริ่มต้นเพียง 6,498 บาทต่อเดือน หรือเฉลี่ยวันละ 222 บาทเท่านั้น พร้อมเจาะกลุ่มผู้ประกอบการยุคใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจภาคการขนส่งและโลจิสติกส์ที่ต้องการความคล่องตัวและคุ้มค่าสูงสุด

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศ ไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์เริ่มแสดงสัญญาณการฟื้นตัวหลังจากเผชิญกับความท้าทายมาอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายรวมในช่วงกลางปีเริ่มขยับตัวเป็นบวกเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งแม้ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์จะยังไม่กลับมาเติบโตเท่ากับตลาดรถยนต์ในกลุ่มอื่น แต่แนวโน้มที่แข็งแกร่งของภาคการขนส่งและโลจิสติกส์กลับเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม E-commerce และการขนส่งแบบ Last-mile (การขนส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคปลายทางโดยตรง) ที่มีการขยายตัวรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง ทำให้ SUZUKI CARRY มีศักยภาพสูงในการตอบโจทย์และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ช่วยให้ผู้ประกอบการขยายกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

SUZUKI CARRY รถกระบะเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2549 เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เข้าไปอยู่ในใจของคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อม หรือ SME จนมาถึงการเปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 2 ในปี 2562 ด้วยรูปโฉมทันสมัย คงไว้ซึ่งจุดเด่นในเรื่องความอเนกประสงค์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ภายใต้แนวคิด “CARRY YOUR DREAM เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” ส่งให้ปัจจุบันมียอดขายสะสมในประเทศจำนวน 62,130 คัน

SUZUKI CARRY คือ คำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ประกอบการด้านขนส่งและโลจิสติกส์ เพราะมีความคล่องตัวสูง ประหยัดน้ำมัน และราคาเข้าถึงง่าย ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ดังนี้

-ความคล่องตัวสูง: ด้วยวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 4.4 เมตร ทำให้ CARRY สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นตรอกซอกซอยในเมือง หรือพื้นที่จำกัดได้อย่างง่ายดาย มอบความได้เปรียบในการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วและตรงเวลา

-พื้นที่บรรทุกที่ออกแบบมาเพื่องานขนส่ง: กระบะท้ายเรียบขนาดใหญ่ สามารถเปิดได้ทั้ง 3 ด้าน ช่วยให้การขนถ่ายสินค้าสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น รองรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุดถึง 945 กิโลกรัม เหมาะสำหรับการขนส่งพัสดุ สินค้าอุปโภคบริโภค หรืออุปกรณ์ต่างๆ

-ทนทาน พร้อมลุยทุกงานหนัก: โครงสร้างที่แข็งแกร่งและช่วงล่างที่ออกแบบมาเพื่อการบรรทุกโดยเฉพาะ ทำให้มั่นใจได้ในความทนทานพร้อมรับมือทุกสภาพการใช้งานหนักในแต่ละวัน

-ต้นทุนต่ำ กำไรสูงสุด: นอกจากราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายแล้ว เครื่องยนต์เบนซิน K15B ยังขึ้นชื่อเรื่องการประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาต่ำ ช่วยให้ผู้ประกอบการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

SUZUKI CARRY จำหน่ายในราคาเพียง 395,000 บาท (ราคารุ่นมาตรฐานไม่รวมอุปกรณ์ตกแต่ง) และเพื่อส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจ ซูซูกิได้จัดแคมเปญพิเศษ “SUZUKI CARRY DRIVE YOUR DREAM เคียงคู่ทุกธุรกิจ” ให้ลูกค้าเลือกรับข้อเสนอพิเศษดังนี้

•ผ่อนเริ่มต้นเพียง 6,498 บาท/เดือน (หรือประมาณ 222 บาท/วัน)

•ส่วนลดพิเศษ: ลูกค้าองค์กร (นิติบุคคล) และผู้ประกอบการจดทะเบียนพาณิชย์ รับส่วนลดสูงสุด 30,000 บาท

•พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก

ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าวสร้างเงื่อนไขการเป็นเจ้าของที่ง่ายที่สุด ด้วยข้อเสนอที่น่าสนใจ คำนวณจากเงินดาวน์ 25% และขยายระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 84 เดือน ที่สำคัญ ข้อเสนอนี้ได้ รวมมูลค่าการติดตั้งส่วนต่อเติม ไม่ว่าจะเป็นตู้ทึบหรือกระบะคาร์โก้ มูลค่ากว่า 150,000 บาทไว้แล้ว ทำให้ผู้ประกอบการสามารถออกรถและนำไปต่อยอดธุรกิจได้ทันที ด้วยงบประมาณที่ควบคุมได้และชัดเจน สำหรับส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าองค์กร (นิติบุคคล) และผู้ประกอบการที่จดทะเบียนพาณิชย์ รับส่วนลดสูงสุดถึง 30,000 บาท (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) นับเป็นการช่วยลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการได้เติบโตอย่างตรงจุด

นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า SUZUKI CARRY เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมและขับเคลื่อนธุรกิจขนาดย่อมในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน นอกเหนือจากความเหมาะสมกับธุรกิจขนส่งแล้ว รถรุ่นนี้ยังคงเป็นขวัญใจผู้ประกอบการ SME และ Food Truck ด้วยความอเนกประสงค์ในการดัดแปลงที่ไม่มีข้อจำกัด SUZUKI CARRY สามารถเปลี่ยนโฉมเป็นธุรกิจหรือร้านค้าเคลื่อนที่ได้หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ทุกไอเดียสร้างสรรค์ทางธุรกิจ และยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและความเข้าใจในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ประกอบการ การตัดสินใจเลือกใช้ SUZUKI CARRY ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจสามารถมอบความสะดวกสบายและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ในทุกพื้นที่เท่านั้น แต่ยังเป็นการขยายช่องทางการขาย สร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างชาญฉลาด ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่ต้องการความรวดเร็วและเข้าถึงได้ง่ายอย่างลงตัว นับเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการปรับตัวและสร้างสรรค์นวัตกรรมธุรกิจอย่างต่อเนื่องของภาคผู้ประกอบการไทย

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหารถกระบะเพื่อการพาณิชย์ที่ตอบโจทย์ครบทุกด้าน ทั้งความคุ้มค่า ความทนทาน และความคล่องตัว แคมเปญสุดพิเศษนี้คือโอกาสที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นและขยายธุรกิจให้เติบโตไปอีกขั้น ซูซูกิไม่ได้เพียงแค่มอบรถยนต์ แต่ยังพร้อมเคียงข้างคุณในทุกก้าวสำคัญ ด้วยทีมที่ปรึกษาการขายผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาด้านการออกแบบและตกแต่ง SUZUKI CARRY ให้ตรงตามธุรกิจ นอกเหนือจากนั้น ซูซูกิยังได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำเช่น ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และสถาบันการเงินอื่นๆ ที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมทีมงานให้คำปรึกษาทางด้านสินเชื่อเพื่ออำนวยความสะดวกในการดูแลเรื่องภาระค่าใช้จ่ายให้สามารถเป็นเจ้าของ SUZUKI CARRY ได้โดยง่ายอีกด้วย สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมซูซูกิทั่วประเทศ

GWM TANK 500 DIESEL สื่อสารภาพลักษณ์ผ่านกลยุทธ์ Presenter Marketing

GWM (Thailand) เตรียมเปิดตัว NEW GWM TANK 500 DIESEL ผ่านกลยุทธ์ Presenter Marketing ดึง “ป้อง ณวัฒน์” สะท้อนกลุ่มเป้าหมายพรีเมียมเหนือระดับ

กรุงเทพฯ 16 กรกฎาคม 2568 – GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” เตรียมเดินหน้าเปิดตัว NEW GWM TANK 500 DIESEL รถยนต์อเนกประสงค์พรีเมียม PPV 7 ที่นั่ง พร้อมขับเคลื่อนความพรีเมียมที่แตกต่างด้วยกลยุทธ์ Presenter Marketing ดึง “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” เป็น “พรีเซ็นเตอร์คนไทย” ของรถยนต์รุ่นนี้ เจาะอินไซต์ผู้ชายไทยที่ต้องการรถยนต์ ‘พรีเมียม + สมาร์ท’ สะท้อนภาพลักษณ์ระดับพรีเมียมของรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นนี้ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกด้านของผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต โดยเตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้แก่วงการรถยนต์พร้อมกับการเปิดตัว NEW GWM TANK 500 DIESEL วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 นี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ติดตามรับชมไลฟ์สดพร้อมกันทั่วประเทศได้ทาง Facebook หรือ YouTube หรือ TikTok : GWM Thailand ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป

“ป้อง ณวัฒน์” สะท้อนถึงข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ซึ่งเป็นผู้ชายไทยวัยทำงานที่ประสบความสำเร็จ มีสไตล์ มีความชื่นชอบที่แตกต่าง เปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ พร้อมเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต รักครอบครัว และต้องการบาลานซ์ระหว่าง “งาน ชีวิต ไลฟ์สไตล์” อย่างลงตัว อีกทั้งยังเต็มไปด้วยภาพลักษณ์ของผู้ชายที่ใช้ชีวิตอย่างมีระดับ พร้อมมาดสุขุม ลุ่มลึก มีเอกลักษณ์ แข็งแกร่ง และทรงพลัง ทั้งในฐานะนักแสดงแถวหน้าของประเทศไทยและในประเทศจีน และบทบาทนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ โดย ป้อง ณวัฒน์ สามารถส่งต่อภาพลักษณ์อันโดดเด่น หรือ Brand Persona ของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ออกมาได้อย่างชัดเจน

มร.เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “GWM มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ ป้อง ณวัฒน์ ในครั้งนี้ การใช้ ป้อง ณวัฒน์ ไม่ได้เป็นแค่การสร้างการรับรู้ (Awareness) แต่เป็นการวางบุคลิกลักษณะของพรีเซ็นเตอร์และผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม จากภาพลักษณ์ที่ “สำเร็จแต่เปิดกว้าง” “เหนือระดับแต่ไม่อวดอ้าง” “มีวุฒิภาวะแต่ยังทันสมัย” และยังบาลานซ์ได้ทั้งเรื่องงาน ครอบครัว และธุรกิจ ดังนั้น ป้อง ณวัฒน์ จึงมีความเป็นตัวตนที่สอดคล้องกับลักษณะอันโดดเด่นของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ได้อย่างกลมกลืน การใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ของเรา คือการเชื่อมโยงแบรนด์กับความเป็นพรีเมียม ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในแบบที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่ด้วยรูปลักษณ์ของรถยนต์ แต่ผ่านการเล่าเรื่อง ไลฟ์สไตล์ และการใช้ชีวิตจริงของพรีเซ็นเตอร์ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนแบรนด์ GWM สู่ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียม PPV 7 ที่นั่งในประเทศไทย ด้วยการตลาดเชิงกลยุทธ์ที่ผสาน “ความเข้าใจคน” เข้ากับ “ความเข้าใจแบรนด์”

NEW GWM TANK 500 DIESEL เตรียมมอบประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะที่ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่

1.) ความพรีเมียมตั้งแต่ภายนอกสู่ภายใน 2.) ความสบายเหนือระดับด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย 3.) เทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัย และ 4.) ความปลอดภัยที่อัดแน่นสร้างความมั่นใจให้ในทุกเส้นทาง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง ทั้งเพื่อธุรกิจ การเดินทางกับครอบครัว หรือทริปผจญภัย นิยามมาตรฐานใหม่ของรถ PPV 7 ที่นั่ง ระดับโลกอย่างแท้จริง

เตรียมนับถอยหลังสู่งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “NEW GWM TANK 500 DIESEL” วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 นี้ พร้อมยกระดับประสบการณ์ PPV พรีเมียมให้กับผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่สนใจสามารถทดลองขับก่อนใครได้แล้ววันนี้ ที่ GWM Partner Store ทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ GWM Application, www.gwm.co.th หรือ GWM Contact Center 02-668-8888

GWM ฉลองครบรอบ 4 ปี จัดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ HAVAL H6

GWM จัดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ “GWM HAVAL H6” ฉลองความสำเร็จครบรอบ 4 ปี สู่การเป็น SUV ขวัญใจคนไทย มอบ 3 ข้อเสนอพิเศษ ลูกค้าเก่ารับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท

กรุงเทพฯ 15 กรกฎาคม 2568 – GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุดจัดแคมเปญเฉลิมฉลองของ GWM HAVAL H6 ที่ได้ร่วมเดินทางพร้อมกับชาวไทยครบ 4 ปี โดยรถยนต์เอสยูวีรุ่นนี้เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ GWM ได้นำมาให้ชาวไทยได้สัมผัสเมื่อครั้งเปิดตัวแบรนด์ GWM ในประเทศไทย โดยตลอดรระยะเวลาดังกล่าว ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า GWM HAVAL H6 เป็นรถยนต์คุณภาพที่สามารถครองใจผู้ใช้งานชาวไทย และได้รับเสียงตอบรับอย่างอบอุ่นเสมอมา ในโอกาสครบรอบ 4 ปีแห่งเส้นทางความสำเร็จครั้งใหญ่นี้ GWM ขอขอบคุณแฟนๆ ชาวไทย ด้วยการมอบแคมเปญสุดพิเศษ “GWM HAVAL H6 4th Anniversary” ที่มาพร้อม โปรโมชันจัดเต็ม 3 ทางเลือก ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยครอบคลุมทั้งรุ่น ALL NEW GWM HAVAL H6 PHEV และ ALL NEW GWM HAVAL H6 HEV ให้ผู้ที่สนใจได้เลือกข้อเสนอและสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจ ไม่ว่าจะสายชิล เน้นผ่อนเบา สบายๆ ทุกเดือน หรือสายอัปเกรดตัวจริง นำรถเก่ามาแลกใหม่ ให้จ่ายไม่พลาดทุกดีล และสายมองไกล ใช้ยาว คุ้มทุกระยะ พิเศษสุด เพื่อขอบคุณลูกค้าคนสำคัญที่ได้ให้ความไว้วางใจในแบรนด์และผลิตภัณฑ์ ลูกค้าเก่าของ GWM ทุกรุ่น รับส่วนลดเพิ่มอีก 20,000 บาทอีกทันที โดยทั้งสามข้อเสนอนี้ พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ตั้งแต่ 1 – 31 กรกฎาคม 2568 นี้เท่านั้น

เลือกข้อเสนอที่ใช่ ในสไตล์ที่เป็นตัวเองกับ ALL NEW GWM HAVAL H6 พร้อม 3 ทางเลือกสุดพิเศษ*

แพ็กเกจที่ 1 : สายชิล ผ่อนเบา เอาอยู่ทุกเดือน**

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาทางเลือกการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ “ผ่อนสบาย แบบไร้กังวล” GWM พร้อมตอบโจทย์ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระรายเดือนท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบัน ด้วยโปรแกรมช่วยผ่อนรายเดือนเพียง 5,000 บาท มอบให้นานถึง 12 เดือน สำหรับผู้เลือก ALL NEW GWM HAVAL H6 PHEV รวมมูลค่าสูงถึง 60,000 บาท และ 10 เดือน สำหรับผู้เลือก ALL NEW GWM HAVAL H6 HEV รวมมูลค่า 50,000 บาท นอกจากนี้ยังได้รับความคุ้มค่าทวีคูณด้วยข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อย่าง ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.95% เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมรับส่วนลดเงินสดสูงสุด 80,000 บาท สำหรับรุ่น PHEV และ 70,000 บาท สำหรับรุ่น HEV

แพ็กเกจที่ 2 : สายอัปเกรดตัวจริง นำรถเก่ามาแลกใหม่ ให้จ่ายไม่พลาดทุกดีล**

สำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่าในการอัปเกรดรถคันใหม่แบบไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือ GWM ขอมอบทางเลือกที่ 2 “TRADE-IN รถเก่าแลกรถใหม่” พร้อมรับสิทธิประโยชน์เพิ่มสูงสุดถึง 60,000 บาท เมื่อซื้อ ALL NEW GWM HAVAL H6 PHEVและรับสิทธิ 50,000 บาท เมื่อซื้อ ALL NEW GWM HAVAL H6 HEV โดยข้อเสนอสุดพิเศษนี้สามารถใช้ร่วมกับโปรโมชั่นหลัก ทั้งส่วนลดเงินสดสูงสุด 80,000 บาท สำหรับรุ่น PHEV และ 70,000 บาท สำหรับรุ่น HEV พร้อมดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นเพียง 1.95% เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ทำให้สามารถควบรวมข้อเสนอด้านราคา ดอกเบี้ย และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้อย่างลงตัว

แพ็กเกจที่ 3 : สายมองไกล ใช้ยาว คุ้มทุกระยะ**

สำหรับผู้ที่มองหา “ความคุ้มค่าในระยะยาว” GWM จัดเต็มข้อเสนอเพื่อมอบความอุ่นใจตลอดการใช้งาน ไม่ว่าจะเลือก ALL NEW GWM HAVAL H6 HEV หรือ PHEV ก็รับสิทธิประโยชน์ด้านการดูแลรักษาแบบครบครัน โดยมอบบริการ GWM Pro Service Inclusive (GPSI) ครอบคลุมค่าอะไหล่และค่าแรงในการบำรุงรักษาตามระยะทางสูงสุดถึง 10 ครั้ง ภายใน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) รวมมูลค่าสูงสุด 43,820 บาท (ในรุ่น PHEV) และ 43,200 บาท (ในรุ่น HEV) พร้อมช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรถได้อย่างเห็นผล สำหรับลูกค้าที่เลือกรุ่น PHEV ยังได้รับ GWM Home Charger พร้อมบริการติดตั้งฟรี 1 ครั้ง (ในระยะสายไฟไม่เกิน 15 เมตร) รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท พร้อมรับส่วนลดเงินสดสูงสุด 80,000 บาท สำหรับรุ่น PHEV และ 70,000 บาท สำหรับรุ่น HEV และดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นเพียง 1.95% เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน อีกหนึ่งทางเลือกเพื่อการใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบสบายใจในระยะยาว ทั้งสะดวก ประหยัด และคุ้มค่าตั้งแต่วันแรกที่รับรถจนถึงทุกการเดินทางในอนาคต

สำหรับลูกค้าเก่าที่เป็นเจ้าของรถยนต์ GWM ทุกรุ่น รับส่วนลดเพิ่มอีก 20,000 บาทจากข้อเสนอทั้ง 3 ทางเลือก** ยิ่งไปกว่านั้น ALL NEW GWM HAVAL H6 HEV และ PHEV ทุกรุ่นมาพร้อมกับการรับประกันภัยชั้น 1 นานถึง 1 ปีเต็ม มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท ฟิล์มกรองแสง Lamina CM ONE มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 13,200 บาท (รุ่น PHEV) และ 9,900 บาท (รุ่น HEV) บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท บริการระบบตรวจสอบและสั่งการผ่านระบบอินเทอร์เน็ต พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถนาน 3 ปีเต็ม มูลค่า 10,500 บาท รวมถึงการรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร*** (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และในรุ่น PHEV มีการรับประกันแบตเตอรี่ เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร*** (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) สำหรับรุ่น HEV ไม่จำกัดระยะทาง***

* เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ ALL NEW GWM HAVAL H6 ได้ที่ แอปพลิเคชัน GWM และ www.gwm.co.th

** ทุกทางเลือก ได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าเก่า GWM ทุกรุ่น

รับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท จากโปรโมชันที่เลือก เพียงแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของรถ GWM รุ่นใดก็ได้

*** เงื่อนไขการให้บริการเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดได้ที่ GWM Thailand – Service

มร.เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา GWM HAVAL H6 ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพระดับโลก ประสิทธิภาพขั้นสูง และความสามารถในการตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งในด้านสมรรถนะ ความคุ้มค่า ความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เรารู้สึกซาบซึ้งในความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศที่เลือกให้ GWM เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการเดินทาง และขอขอบคุณทุกเสียงตอบรับที่มีค่าต่อการพัฒนาแบรนด์ของเราอย่างต่อเนื่อง ในโอกาสครบรอบ 4 ปีของ GWM HAVAL H6 ในประเทศไทย GWM จึงตั้งใจมอบแคมเปญสุดพิเศษนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนความเชื่อมั่นของลูกค้าทุกท่าน และออกแบบข้อเสนอที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งรุ่น HEV และ PHEV เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการและสไตล์การใช้ชีวิตของตนเองได้มากที่สุด สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ GWM ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้งาน (All Users) และตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ (All Scenarios) อย่างแท้จริง”

เอ็มจี ประกาศแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการคนใหม่

เอ็มจี ประกาศแต่งตั้ง กรรมการผู้จัดการคนใหม่ “ต๋า เซินเซิน” นำ เอ็มจี ก้าวสู่การเป็นองค์กรระดับโกลบอล

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ประกาศแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงคนใหม่ มร. ต๋า เซินเซิน (Mr. Da ShenShen) ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568เป็นต้นไป โดยจะรับผิดชอบดูแลการดำเนินงานและการวางกลยุทธ์ทั้งหมดของ เอ็มจี ในประเทศไทย ร่วมกับ มร.ซู๋ว์ หยิ่น (Mr. Xu Yin) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด เพื่อก้าวสู่การพัฒนาในยุคใหม่ พร้อมเดินหน้าแผนกลยุทธ์องค์กรระดับโลก ประกอบด้วยการเป็น “ฐานการผลิต เอ็มจี ในอาเซียน ศูนย์กลางการส่งออกสู่ตลาดโลก รวมถึงสานต่อแบรนด์ให้เป็นที่นิยมในประเทศไทย”

การเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ของ มร.ต๋า เซินเซิน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกำหนดทิศทางใหม่ให้กับ เอ็มจี ประเทศไทย โดย มร.ต๋า จะนำวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์และมุมมองระดับสากลมาขับเคลื่อนองค์กรผ่านยุทธศาสตร์ “Globalization to Localization” หรือ GLOCAL 3.0 ซึ่งให้ความสำคัญกับ การนำเทคโนโลยีล้ำสมัยในกลุ่มยานยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicles) มานำเสนอแก่ผู้บริโภคชาวไทย อาทิ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระบบไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ (HEV) เทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ตลอดจนการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ผสานวิสัยทัศน์ระดับโลกเข้ากับการปฏิบัติการในระดับประเทศอย่างกลมกลืน

ทั้งนี้ มร.ต๋า เซินเซิน ได้เข้ารับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับนานาชาติมากกว่า 20 ปี เคยดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ของ SAIC-GM สาขาอู่ฮั่น (Wuhan) และสามารถยกระดับศักยภาพการผลิตสูงถึง 700,000 คันต่อปี ด้วยการวางระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพและทัดเทียมโรงงานระดับโลก โดยยังสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิผล ทั้งยังเคยมีผลงานด้านกลยุทธ์ในฐานะกรรมการผู้จัดการที่ Shanghai Valeo Automotive Electrical Systems Co., Ltd. โดยมีส่วนขับเคลื่อนธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมส่งมอบเทคโนโลยีให้กับแบรนด์พรีเมียมระดับโลก ทั้งนี้ มร.ต๋า ถือเป็นผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ การขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าและการวางแผนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

มร.ต๋า เชิน เชิน กล่าวว่า “ตลาดประเทศไทยถือเป็นหัวใจสำคัญในกลยุทธ์ระดับโลกของ เอ็มจี เราต้องการผสานมาตรฐานระดับสากลเข้ากับความสามารถในการตอบสนองความต้องการของตลาดในท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างฐานการผลิตยานยนต์แห่งอนาคตที่สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง เป้าหมายของ เอ็มจี คือการทำให้เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่าย ให้ทุกครอบครัวของลูกค้าคนไทยได้รับประสบการณ์การเดินทางที่เปี่ยมด้วยความสะดวกสบายและความอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป เอ็มจี จะยังคงยึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง และพัฒนาเทคโนโลยีบนพื้นฐานของคุณภาพ เพื่อเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยอย่างแท้จริง”

การแต่งตั้งครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของ เอ็มจี ในการยกระดับกลยุทธ์และตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสำคัญระดับภูมิภาคและระดับโลก ภายใต้การนำของ มร.ต้า เซินเซิน เอ็มจี ประเทศไทยจะเร่งเดินหน้าตาม 3 แกนกลยุทธ์หลัก ได้แก่:

• เร่งยกระดับการผลิตในประเทศและพัฒนาเครือข่ายห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ทั้งในไลน์การผลิตและการขนส่งอะไหล่ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์อัจฉริยะและพลังงานใหม่

• นำเสนอยานยนต์และบริการที่เป็นนวัตกรรม เพื่อนำพาผู้บริโภคสู่ยุคการเดินทางอัจฉริยะ

• สร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคไทยมากยิ่งขึ้น และขยายอิทธิพลของแบรนด์ในตลาด

อนึ่ง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เอ็มจี ดำเนินธุรกิจภายใต้การบริหารของ มร.จ้าว เฟิง ซึ่งได้วางรากฐานที่มั่นคงให้แก่แบรนด์ สร้างแนวทางใหม่ และวางระบบองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมผลักดันให้ เอ็มจี เติบโตอย่างต่อเนื่อง และพร้อมต่อยอดสู่ความยั่งยืนในระยะยาว

มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จัดงานฉลองครบรอบ 25 ปี

มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จัดงานฉลองครบรอบ 25 ปี มอบ Exclusive Program สำหรับ BMW ‘The i7’ ลุ้นรับบัตรโดยสารการบินไทย ไป-กลับญี่ปุ่น และอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 600,000 บาท

บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และ มอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้ MGC-ASIA จัดงานฉลองครบรอบ 25 อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมเปิดตัว Exclusive Program สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู ‘The i7’ ภายใต้คอนเซปต์ ‘The i7 the Incredible 7 Series’ โดยร่วมมือกับการบินไทย ให้ลูกค้าได้ลุ้นรับบัตรโดยสารสายการบินไป-กลับญี่ปุ่น มูลค่ารวมกว่า 600,000 บาท ยนตรกรรมอัลตราลักชัวรี่ เปี่ยมด้วยเทคโนโลยี ล้ำสมัย และเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 พร้อมมอบ Exclusive Program สุดคุ้มค่า ที่โชว์รูม บีเอ็มดับเบิลยู มิลเลนเนียม ออโต้ ทุกสาขาทั่วประเทศ

มร.เรเน่ แกร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ในโอกาสฉลองครบรอบ 25 ปี แห่งความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่าง บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และ มิลเลนเนียม ออโต้ ทั้ง 2 องค์กรนี้ได้ร่วมกันเสริมสร้างรากฐานทางธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับการก้าวสู่ศักราชใหม่ร่วมกัน นอกจากนี้ เรายังคงร่วมกันยืนหยัดทำงานอย่างมุ่งมั่นเพื่อลูกค้า บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อย่างต่อเนื่อง

สำหรับโอกาสพิเศษนี้ ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจกับทีมงาน มิลเลนเนียม ออโต้ สำหรับความมุ่งมั่นยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าในทุกๆ ด้าน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาสถานะของ บีเอ็มดับเบิลยู ในฐานะแบรนด์อันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมของประเทศไทย เป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน ขอแสดงความยินดีอีกครั้งในโอกาสครบรอบ 25 ปี อันทรงคุณค่าและยินดีสำหรับความร่วมมือและการทำงานอย่างต่อเนื่องในอนาคต”

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู มิลเลนเนียม ออโต้ ก่อตั้งโชว์รูมแห่งแรกบนถนนพระราม 4 ตามด้วยสาขาลาดพร้าวเป็นแห่งที่สอง จากนั้นได้มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโชว์รูมทั้งหมด 11 สาขาทั่วประเทศ รวมมินิเอกมัย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 7 สาขา – พระราม 4, ลาดพร้าว, พระราม 3, พัฒนาการ-ศรีนครินทร์, สยามพารากอน, ไอคอนสยาม และ มินิ เอกมัย ขณะที่ต่างจังหวัดมี 4 สาขาหัวเมืองหลัก – อุบลราชธานี, หาดใหญ่, ภูเก็ต และ สุราษฎร์ธานี

มิลเลนเนียม ออโต้ มีความสัมพันธุ์ที่ดีกับ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และบริษัท การบินไทย มายาวนาน จึงขอใช้โอกาสนี้ แทนคำขอบคุณลูกค้าทุกๆ ท่าน ที่ได้มอบความไว้วางใจให้เราดูแล ด้วยการนำเสนอ ‘BMW The i7’ ภายใต้คอนเซปต์ ‘The i7 the Incredible 7 Series’ ยนตรกรรมลักชัวรีระดับแฟลกชิป และเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 โดยมอบสิทธิประโยชน์ พร้อม Exclusive Program และสิทธิประโยชน์จาก การบินไทย รวมมูลค่ากว่า 600,000 บาท”

คุณ กรกฏ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีกับความร่วมมือครั้งนี้ ระหว่าง การบินไทย และ มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ซึงทั้งสององค์กรนับว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน โดยผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การร่วมมือกันของทั้งสององค์กร จะเป็นการเกื้อกูลกันทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี”

25 ปีแห่งความภาคภูมิใจ กับ BMW Millennium Auto

เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 25 ปี มิลเลนเนียม ออโต้ ขอมอบสิทธิประโยชน์ พร้อม Exclusive Program ให้กับลูกค้า BMW ‘The i7’ ดังต่อไปนี้

• ฟรีแพ็คเกจดูแลบำรุงรักษานาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*

• ประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 3 ปี*

• Wallbox Charger*

• บัตรโดยสารสายการบินไทย ไป-กลับญี่ปุ่น จำนวน 4 ที่นั่ง (2 BC และ 2 ECO)*

• กล่องใส่กุญแจ*

• คะแนนสะสม Mobilife Point*

• BMW Advance car eye 3.0 pro*

• บัตรเครดิต UOB รูดจองสูงสุด 1,000,000 บาท ผ่อน 0% นาน 3 เดือน*

ขอเรียนเชิญลูกค้าและผู้ที่สนใจ สำรองที่นั่งเพื่อร่วมงาน High Tea Reception และกิจกรรมทดลองขับ BMW ‘The i7’ ในวันที่ 18-20 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ที่เบอร์โทร. 1286

สั่งสมความเชื่อมั่น ผ่านงานบริการหลังการขาย

ความเชื่อมั่นของลูกค้า คือ สิ่งที่ มิลเลนเนียม ออโต้ ให้ความสำคัญตามหลัก Customer Centric หรือการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ส่งผลให้ มิลเลนเนียม ออโต้ สามารถดูแลรถยนต์ไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู และ มินิได้อย่างดีที่สุดตามมาตรฐานสากล กับเครือข่ายศูนย์บริการ 9 สาขา รวมกว่า 150 ช่องซ่อม รองรับการให้บริการได้ถึง 113,000 คันต่อปี ความพร้อมของเครื่องมือพิเศษในการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า และเครื่องชาร์จ DC กำลังแรงสูง 160 กิโลวัตต์ และ แบบ AC ทั้ง 9 สาขา รวมเป็นจำนวนกว่า 44 เครื่อง ด้วยงบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ทีมช่างซ่อมรถยนต์ไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู และ มินิ ที่มีประสบการณ์สูง ผ่านการรับรองจาก บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ปิดท้ายด้วยการมีสถาบันฝึกอบรมภายในองค์กร เรียกว่า มาสเตอร์ ออโตโมทีฟ เทรนนิ่ง พัฒนาต่อยอด และรักษามาตรฐานของทีมช่างในทุกมิติ

มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ฉลองครบรอบ 25 ปี อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมไฮไลท์เป็น ‘The i7’ ยนตรกรรมไฟฟ้าระดับอัลตราลักชัวรี่’ ที่มาพร้อม Exclusive Program สุดคุ้มค่า ผสานความสนุกสนานด้วยคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ทั้งหมดเพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าที่ได้มอบความไว้วางใจ และร่วมทางมาด้วยกันอย่างอบอุ่นและยั่งยืน

สอบถามข้อมูล โทร.1286 Millennium Auto Connect

BMW Millennium Auto Line Official: https://bit.ly/2Z3ou46 (@millenniumauto)

MINI Millennium Auto Line Official: https://lin.ee/Cg7ysco

FB/IG: MINI Millennium Auto

https://www.millenniumauto.co.th

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

“อีซูซุ” แจกจริง กับแคมเพจ์นสุดพิเศษ “ดีแมคซ์ ดีจริง ลุ้นทองทุกสัปดาห์”

“อีซูซุ” แจกจริง กับแคมเพจ์นสุดพิเศษ “ดีแมคซ์ ดีจริง ลุ้นทองทุกสัปดาห์”

อีซูซุ จัดแคมเพจ์นพิเศษ “ดีแมคซ์ ดีจริง ลุ้นทองทุกสัปดาห์” สำหรับลูกค้าที่ซื้อและรับรถอีซูซุ ดีแมคซ์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2568 ลุ้นรับรางวัลจี้ทองคำน้ำหนัก 2 สลึง มูลค่า 26,051.39 บาท จับรางวัลทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 22 รางวัล จำนวน 9 สัปดาห์ รวม 198 รางวัล คิดเป็นมูลค่ารวม 5,158,175.17 บาท ตอกย้ำแนวคิด “ISUZU Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” รถปิกอัพคุณภาพ “ดีแมคซ์ ดีจริง” ปิกอัพที่รวมทุกความต้องการไว้ครบ ทั้งในเรื่องความแรง ความประหยัดน้ำมัน ความทนทาน การเกาะถนน และความคุ้มค่า จับสลากครั้งแรกโดย คุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ผู้แทนจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยและผู้แทนสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ณ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม https://www.isuzu-tis.com/specialoffer/pup/dmdj

หมายเหตุ :

– สิทธิ์ในการลุ้นรางวัลจะถูกแบ่งตามรอบการจับรางวัล ผู้ที่ซื้อและรับรถในช่วงเวลาของรอบใด จะมีสิทธิ์ ลุ้นรางวัลเฉพาะในรอบการจับรางวัลของสัปดาห์นั้นๆ เท่านั้น และสิทธิ์ดังกล่าวจะไม่ถูกนำไปรวมเพื่อจับรางวัลในรอบถัดไป

– ผู้โชคดีมีสิทธิ์ได้รับรางวัลเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และลูกค้า 1 สิทธิ์ จะมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลจับสลากได้เพียง 1 ครั้ง (1รอบ) เท่านั้น ลูกค้านิติบุคคลและลูกค้ารายใหญ่ (Fleet Customer) สามารถร่วมแคมเพจ์นได้ และได้รับ 1 สิทธิ์เท่านั้น

– ประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่มีการจับสลาก เวลา 18.00 น. ผ่านเพจ FB : All-New ISUZU D-Max และทางผู้จำหน่ายอีซูซุทั่วประเทศ พร้อมรายละเอียดการรับรางวัล

– ใบอนุญาตจับสลากเลขที่ 1047-1055/2568

เอ็มจี โชว์นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ NEW MG IM6

เอ็มจี โชว์นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ NEW MG IM6 ในเทศกาลระดับตำนานอย่าง GOODWOOD FESTIVAL OF SPEED 2025

•เอ็มจี นำทัพด้วย รถไฟฟ้าอัจฉริยะสุดล้ำอย่าง NEW MG IM5 และ NEW MG IM6

•ดีไซน์อันโดดเด่นและลงตัวของ NEW MG CYBER X และ NEW MG CYBERSTER Black Edition

•การปรากฎตัวอีกครั้งของ MG EX4 รถแนวคิดที่ได้แรงบันดาลใจจาก Metro 6R4 ยุค 80s ผสานดีไซน์ล้ำสมัยกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่างลงตัว

•ตอกย้ำการเป็นรถไฟฟ้ามหาชนในยุโรปด้วย NEW MG S5 EV

เวสต์ซัสเซกซ์, สหราชอาณาจักร – 14 กรกฎาคม 2568 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เผยถึง เอ็มจี สหราชอาณาจักร ได้เข้าร่วมงานเทศกาลระดับตำนานอย่าง GOODWOOD FESTIVAL OF SPEED 2025 โดยภายในงานได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการอย่าง NEW MG IM5 และ NEW MG IM6 นอกเหนือจาก 2 รุ่นที่กล่าวมา เอ็มจี ยังนำโมเดลเรือธงอย่าง NEW MG CYBERSTER Black Edition และ NEW MG CYBER X ที่ออกแบบโดย Mr. Jozef Kabaň – Vice President of SAIC DESIGN และรถ SUV มหาชนอย่าง NEW MG S5 EV ซึ่งเป็นโมเดลที่มาสานต่อความนิยมจาก MG ZS EV รวมถึงการนำเอา MG EX4 รถแนวคิดพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแรลลี่ระดับตำนานอย่าง Metro 6R4 แห่งยุค 80s ที่มาพร้อมเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ผสานดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย สะท้อนวิสัยทัศน์ของแบรนด์ เอ็มจี ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในระดับโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ที่มาของ เทศกาล GOODWOOD FESTIVAL OF SPEED

เทศกาล Goodwood Festival of Speed ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1993 โดย Charles Gordon-Lennox หรือ Duke of Richmond เพื่อรำลึกถึงอดีตสนามแข่งในที่ดิน Goodwood Estate ที่เคยรุ่งเรืองในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง งานจัดในรูปแบบการแข่ง “Hill Climbing” บนถนนยาว 1.16 ไมล์ (1.867 กิโลเมตร) หน้าคฤหาสน์ Goodwood House ซึ่งเปิดโอกาสให้ทั้งรถแข่งคลาสสิก ซูเปอร์คาร์ และนวัตกรรมยานยนต์รุ่นใหม่ได้ประชันความเร็วกันอย่างใกล้ชิด เป็นหนึ่งในงานมอเตอร์สปอร์ตกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นทุกเดือนกรกฎาคม มีนักแข่งมากมาย รวมถึงอดีตนักแข่งอาวุโส ตลอดจนกลุ่มคนที่ชื่นชอบในความเร็วเข้าร่วมงานมากกว่าหนึ่งแสนคนต่อวัน พร้อมกิจกรรมหลากหลาย เช่น การโชว์รถคลาสสิก การนำรถแรลลี่วิ่งบนสนามฝุ่น โชว์นวัตกรรมต่างๆ รถยนต์รุ่นใหม่ของค่ายรถ รวมถึงการนำรถยนต์ต้นแบบมาวิ่งในงานก่อนการเปิดตัว งานนี้ไม่เพียงเฉลิมฉลองความเร็ว แต่ยังสะท้อนมรดกทางวัฒนธรรมของวงการยานยนต์ในทุกยุคสมัยอย่างชัดเจน

เขย่าตลาดยุโรปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย กับ NEW MG IM6

เมื่อช่วงบ่ายของ วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เอ็มจี สหราชอาณาจักร ได้เปิดตัว NEW MG IM6 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The 1st ever Premium Intelligent e-SUV” ที่ได้เปิดตัวในประเทศไทยเป็นที่แรกและได้ส่งมอบรถให้แก่ลูกค้ากลุ่มแรกแล้วกว่า 1,000 คัน รวมถึง ฮ่องกง และออสเตรเลีย ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าที่สนใจเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะเป็นอย่างดี  โดย NEW MG IM6 ถูกพัฒนาขึ้นเป็นหนึ่งในโกลบอลโมเดลของ เอ็มจี เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ขับขี่รุ่นใหม่ที่มองหายานยนต์อัจฉริยะซึ่งมอบทั้งสมรรถนะ ความปลอดภัย และความบันเทิงอย่างครบครัน จุดเด่นที่ทำให้รถรุ่นนี้โดดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาด คือ ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ (Intelligent Four Wheel Steering System) ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเลนในความเร็วสูงเสถียรและการกลับรถในที่แคบได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ (Intelligent Air Suspension) ที่ไม่เพียงแต่ช่วยลดแรงกระแทกต่อพื้นถนนถึงห้องโดยสาร แต่ยังสามารถปรับระดับความสูงของช่วงล่างได้ถึง 3 ระดับ ตามลักษณะการขับขี่เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นคงในทุกการเดินทาง โดยภายในงาน NEW MG IM6 และ NEW MG IM5 ได้มีโอกาสวิ่งทดสอบสมรรถนะในเส้นทางขึ้นเขา และทางอันคดเคี้ยวตามที่ผู้จัดงานได้จัดเตรียมไว้ให้ด้วย

NEW MG CYBERSTER Black Edition และ NEW MG CYBER X : แรงบันดาลใจจากจินตนาการสู่ความเป็นจริง

ภายในงานยังมีไฮไลต์ที่สำคัญกับการเผยโฉม NEW MG CYBERSTER Black Edition สปอร์ตโรดเตอร์ระดับไอคอนิก ยนตรกรรมที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณจากรถสปอร์ตในตำนานอย่าง MGB Roadster ที่กลับมาพร้อมตัวถังสีดำสนิทแบบ Luxury Matte Black ผสมอนุภาคแก้วระดับ Ultra-Fine สร้างประกายระยิบระยับ เมื่อขับเคลื่อนผ่านกระบวนการพ่นสีแบบเดียวกับรถซูเปอร์ลักชัวรี่ มาพร้อมดีไซน์โครเมียมหรูหราและห้องโดยสารสีดำล้วน NEW MG CYBER X ยนตรกรรมดีไซน์ทรงกล่อง (Boxy SUV) สำหรับชีวิตคนเมืองโดยเฉพาะ ผลงานการออกแบบโดย Mr. Jozef Kabaň – Vice President of SAIC DESIGN ที่ผสานความแข็งแกร่งสไตล์ SUV เข้ากับฟังก์ชันของ EV Compact ได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยโครงสร้างสูงโปร่ง เส้นสายด้านหน้าและด้านท้ายที่สั้นกระชับ ถ่ายทอดภาพลักษณ์แห่งความมั่นใจ ตัวถังเคลือบด้วยสี “Stardust Gray” ที่เมื่อจอดนิ่งจะเป็นสีด้าน และเงาวาวเมื่อเคลื่อนไหว เพิ่มเสน่ห์ล้ำสมัยในทุกมุมมอง ขณะที่ไฟหน้าแบบป๊อปอัพสุดคลาสสิก ผสานเข้ากับหลักอากาศพลศาสตร์ยุคใหม่อย่างลงตัว ก่อเกิดเป็นความสง่างามที่ทั้งโดดเด่นและทันสมัยไม่เหมือนใคร

MG EX4 การกลับมาของตำนานในยุคพลังงานไฟฟ้า

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด คือการนำ MG EX4 รถแนวคิดสุดพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Metro 6R4 ตำนานรถแรลลี่แห่งยุค 80s โดยได้รับการออกแบบโดยทีมดีไซเนอร์ของ เอ็มจี ในกรุงลอนดอน ถ่ายทอดจิตวิญญาณความแรงในอดีตผ่านเทคโนโลยีแห่งอนาคต MG EX4 มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสมรรถนะสูงจาก NEW MG4 ELECTRIC XPOWER เสริมความเร้าใจด้วยลวดลายกราฟิกใหม่ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการจัดแสดงในงาน GOODWOOD FESTIVAL OF SPEED 2025

ตอกย้ำการเป็นรถไฟฟ้ามหาชนในยุโรปด้วย NEW MG S5 EV

NEW MG S5 EV รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่จาก เอ็มจี ได้มีโอกาสวิ่งโชว์ในงานนี้ด้วย โดยชูจุดเด่นด้านดีไซน์ทันสมัย พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง และเทคโนโลยีภายในครบครัน รุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่สูงสุด 64 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุดราว 550 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง NEW MG S5 EV เป็นหนึ่งในรถที่สะท้อนแนวทางการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังของ เอ็มจี ที่ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มค่าและการใช้งานในชีวิตประจำวัน การได้มีโอกาสนำรถคันนี้วิ่งในงานถือเป็นการเปิดตัวสู่สายตาระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบในเวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับตำนานของอังกฤษต่อยอดจากรุ่น MG ZS EV ซึ่งเป็นที่นิยมในตลาดยุโรป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save