ฮอนด้า เตรียมเปิดตัว “The M.O.V.E. by Honda” Immersive Experience Center แห่งแรกของแบรนด์ในกรุงเทพฯ เปิดมุมมองใหม่สู่อนาคตแห่งการเดินทางผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ภายใต้แนวคิด “Sense the Synergy”
(กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 30 กรกฎาคม 2568) – บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด เตรียมเปิดตัว “The M.O.V.E. by Honda” ศูนย์สร้างประสบการณ์เสมือนจริงแห่งแรกของแบรนด์อย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ โดยตั้งอยู่ที่โซน EM GLASS ชั้น G ศูนย์การค้า EMSPHERE ใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ได้รับการออกแบบ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์สู่การขับเคลื่อนแห่งอนาคตผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 พร้อมนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดจากฮอนด้า ทั้งในกลุ่มรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์การขับเคลื่อนล้ำสมัยอย่าง eVTOL
ฮอนด้า ยืนหยัดเคียงข้างสังคมไทยมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ในฐานะผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ รถยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ โดยประเทศไทยยังคงเป็นฐานการผลิตและศูนย์กลางการจำหน่ายที่สำคัญของฮอนด้า อีกทั้งเป็นตลาดหลักของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และนวัตกรรมแห่งอนาคตของภูมิภาค ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฮอนด้า ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ภายใต้โกลบอลแบรนด์สโลแกน “The Power of Dreams – How we move you.”
The M.O.V.E. by Honda จัดแสดงภายใต้แนวคิด “Sense the Synergy” ที่สื่อถึงการผสานพลังระหว่างปรัชญาแห่งฮอนด้า และโลกยานยนต์แห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยภายในงาน ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งอนาคตผ่านทุกมิติของความรู้สึก พร้อมเปิดมุมมองใหม่ของการเดินทางในอนาคตตามแบบฉบับของฮอนด้า
เติมเต็มประสบการณ์ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 กับ The M.O.V.E. Café คาเฟ่ที่ผู้เยี่ยมชมจะได้ลิ้มรสอนาคตที่สะท้อนผ่านอาหาร นำเสนอผ่านเมนูขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นที่รังสรรค์ขึ้นผ่านแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์ของฮอนด้า ในการขยายขอบเขตการเดินทางทั้งทางบก น้ำ และอากาศ โดย เชฟเดช คิ้วคชา ผู้ได้รับรางวัล Asia’s Best Pastry Chef 2025 จากเวที Asia’s 50 Best Restaurants คาเฟ่แห่งนี้จึงไม่ใช่แค่เพียงพื้นที่สำหรับการพักผ่อน แต่เป็นจุดหมายปลายทางด้านประสาทสัมผัสที่ถ่ายทอดพลังแห่งการผสานรวมของการเดินทางในรูปแบบใหม่อย่างมีชีวิตชีวา ในแบบฉบับของฮอนด้าอย่างแท้จริง
The M.O.V.E. by Honda ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของฮอนด้า ในการเดินหน้าสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและอนาคตของความยั่งยืน ฮอนด้าขอเชิญชวนลูกค้า ผู้หลงใหลในนวัตกรรม และประชาชนทั่วไปมาร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ศูนย์การค้า EMSPHERE กับอิมเมอร์ซีฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์แห่งแรกของฮอนด้าที่จะพาไปสัมผัสมิติใหม่ของการเดินทางอย่างที่ ไม่เคยมีมาก่อนผ่านนิทรรศการสุดล้ำ พร้อมเข้าถึงแนวคิด Sense the Synergy ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของฮอนด้าอย่างเต็มรูปแบบ
-Artful Design การออกแบบสร้างสรรค์ดุจงานศิลปะชิ้นเอก Car As Art ถ่ายทอดภายใต้คอนเซ็ป KODO: Soul of Motion จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว โดดเด่นด้วยความสวยงามต้องตาต้องใจผู้พบเห็น ทั้งดีไซน์ภายนอกและภายใน รวมถึงสีภายนอกอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาสด้าที่ผลิตขึ้นด้วยแนวทาง “ทาคุมินูริ” ที่หมายถึงการเพ้นท์สีโดยช่างผู้ชำนาญการ
ครอสโอเวอร์เอสยูวีระดับพรีเมี่ยม New Mazda CX-30 Essential ได้รับการออกแบบตามสไตล์ที่มีเอกลักษณ์ ภายใต้ KODO Design, Soul of Motion มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Less is More” ที่เน้นถึงความเรียบง่ายแต่งดงาม ถือเป็นการตอกย้ำถึงพันธกิจของมาสด้าในการมุ่งมั่นพัฒนายนตรกรรมขึ้นไปอีกขั้น เพราะปรัชญาการออกแบบมาสด้า คือรถยนต์เปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นเอก “Car As Art” ที่บรรจงสรรสร้างขึ้นด้วยความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ และยังคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่และผู้โดยสารผ่านเทคโนโลยี SKYACTIV และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย i-Activsense ที่ให้ทั้งสะดวกสบายและความปลอดภัยไปพร้อมกัน
Mazda CX-30 คือครอสโอเวอร์เอสยูวีเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดของมาสด้า ที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์เหล่านี้ไว้อย่างลงตัวในทุกองค์ประกอบ ทั้งยังได้รับการการันตีความยอดเยี่ยมด้วยรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยม Thailand Car of the year 2020 เป็นรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นเพียงแบรนด์เดียวที่เข้ารอบ 3 คันสุดท้ายเพื่อชิงรางวัล World Car of the Year 2020, คว้ารางวัล Golden Steering Wheel Award 2019 ประเภท Compact SUV จากประเทศเยอรมนี, รางวัล RedDot Award 2020 ประเภท Product Design จากประเทศเยอรมนี, รางวัล Design Trophy 2020 ประเภท SUV และ ประเภท “Champion of all Classes” จากประเทศเยอรมนี และยังได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากมายจากหลายประเทศทั่วโลก นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย รถรุ่นนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในยนตรกรรมที่สร้างศักยภาพด้านการแข่งขันในตลาดให้กับแบรนด์มาสด้ามาจนถึงปัจจุบัน
หัวข้อสำคัญที่ได้มีการประกาศให้ผู้จำหน่ายได้รับทราบ คือ แผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่จะถูกนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยภายใต้กลยุทธ์สำคัญอย่าง Global Model
“ความพร้อมในวันนี้คือสิ่งสำคัญที่จะตอกย้ำให้ลูกค้าเห็นถึงความมุ่งมั่นของซูซูกิในการยึดมั่นในแนวทาง ‘SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ’ ซึ่งเป็นแนวทางในการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์คุณภาพตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน พร้อมอยู่เคียงข้างลูกค้าและชุมชนในทุกช่วงเวลา”
ตลอดระยะเวลากว่า 6 ปี (นับตั้งแต่ปี พ.ศ 2562) ที่ริเริ่มทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เอ็มจี เดินหน้าขับเคลื่อนสังคมอีวีในทุกมิติทั้งด้านผลิตภัณฑ์ ด้วยการขยายไลน์อัพรถอีวีให้มีหลากหลายเซ็กเมนต์เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าคนไทยได้ตรงจุดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสไตล์ HATCHBACK 5 ประตู อย่าง NEW MG 4 ELECTRIC หนึ่งเดียวในตลาดที่มีรถไฟฟ้าสไตล์ STATION WAGON กับ NEW MG EP PLUS และ NEW MG ES สำหรับกลุ่ม SUV มี 2 ตัวเลือกกับ NEW MG ZS EV โมเดลบุกเบิกตลาดอีวีของ เอ็มจี และ NEW MG S5 EV อีวีมหาชนรุ่นล่าสุด นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม EV PREMIUM ซึ่งจะมี e-MPV ขนาด 7 ที่นั่งที่มีให้เลือกทั้งรุ่น NEW MG MAXUS 9 และ NEW MG MAXUS 7 อีกรุ่นที่ถือเป็นสีสันให้กับตลาดอีวีเมืองไทยอย่าง NEW MG CYBERSTER และโมเดลล่าสุดกับ NEW MG IM6 อีกทั้งยังเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่มีโมเดล MADE IN THAILAND อย่าง NEW MG 4 ELECTRIC และ NEW MG S5 EV ทำให้ผู้บริโภคคนไทยเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าง่ายมากขึ้น ในขณะที่ด้านการบริการหลังการขายยังคงได้รับการพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในทุกพื้นที่ผ่านโชว์รูมและศูนย์บริการเอ็มจีกว่า 125 แห่ง และสถานีชาร์จเร็ว MG SUPER CHARGE อีกกว่า 125 แห่งทั่วประเทศ
LOS ANGELES, CA – NOVEMBER 15: Ikuo Maeda, Global Head of Design at Mazda, speaks onstage during the Mazda design event on November 15, 2016 in Los Angeles, California. Mazda Motor Corporation today reveals the all-new Mazda CX-5 to the world. (Photo by Victor Decolongon/Getty Images for Mazda Motor Co.)
ความสำเร็จจากการออกแบบภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ ไม่ได้ถูกจำกัดในบางประเทศเท่านั้น แต่ยังได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จมากมายมาแล้วทั่วโลก รางวัล 2020 World Car Design of the Year, 2021 Canadian Car of the Year, 2010 Red Dot “Best of the Best” จากประเทศเยอรมนี ในรถยนต์ All New Mazda3 และ รางวัลอีกมาย อาทิ รางวัล 2020 Red Dot award ประเภท Product design จากประเทศเยอรมนี รางวัล 2020 Design trophy ประเภท SUV และประเภท Champion of all classes จากประเทศเยอรมนี และยังเป็นรถยนต์ญี่ปุ่นเพียงแบรนด์เดียวที่เข้ารอบ 3 คันสุดท้ายเพื่อชิงรางวัล 2020 World Car of the Year และ World car design of the Year ในรถยนต์ All-New Mazda CX-30
** เงื่อนไขการให้บริการเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดได้ที่ GWM Thailand – Service
มร.ปาร์คเกอร์ ฉี ประธาน GWM ตลาดต่างประเทศ กล่าวว่า “วันนี้นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของ GWM ในการสานต่อกลยุทธ์ระดับโลก All scenario, All powertrain, All users ด้วยการเปิดตัว NEW GWM TANK 500 DIESEL อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เรามั่นใจว่า NEW GWM TANK 500 DIESEL จะได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้บริโภคชาวไทย และจะเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญที่ร่วมยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่เวทีโลกไปพร้อมกับเรา”
•เมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดการรับสิทธิ และเข้ารับบริการ Service A หรือ B จะได้รับคืนสิทธิการรับประกันคุณภาพ High-Voltage Battery จนถึงอายุรถปีที่ 10* นับจากวันส่งมอบรถให้กับลูกค้า เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพจำกัดระยะทางขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์ ที่ระบุในตารางด้านบน
1.สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่เข้ารับบริการ Service A หรือ B ที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 – 31 ธันวาคม 2568 และชำระค่าใช้จ่ายครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด
2.มียอดค่าใช้จ่ายผ่านศูนย์บริการฯ มากกว่าหรือเท่ากับ 40,000 บาท คำนวณเฉพาะค่าสินค้าและบริการตามประเภทที่กำหนด โดยสามารถรวมค่าบริการ Service A/B, งานซ่อมบำรุงตามมาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์, Accessories & Collections, MB Tire, Digital Extras, MBSP แพ็กเกจ Extra Guarantee Lite, รวมค่าอะไหล่และค่าแรงหลังหักส่วนลดใดๆ (ถ้ามี) โดยเป็นมูลค่าก่อนคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม