- Advertisement -
28.1 C
Bangkok
Home Blog Page 6

มาสด้า ปรับโฉม MAZDA2 ชูความคุ้มค่า ประหยัด

มาสด้า เนรมิตบูธดีไซน์ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ JOY DRIVES LIVES พร้อมโชว์รถต้นแบบ Mazda Iconic SP และรถไฟฟ้า Mazda6e ในงานมอเตอร์โชว์ 2025

กรุงเทพฯ– ประเทศไทย, วันที่ 25 มีนาคม 2568 – มาสด้าบุกงานมอเตอร์ โชว์ 2025 จัดแสดง 2 เทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ตามแนวทาง Multi-solution เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน นำโดย Mazda Iconic SP คอนเซ็ปต์คาร์ของรถสปอร์ตคอมแพ็ค ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รองรับการใช้พลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ และ Mazda6e รถยนต์ไฟฟ้า 100% BEV รุ่นแรกจากมาสด้า พร้อมเปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นยอดนิยม New Mazda2 Essential โดดเด่นเรื่องความคุ้มค่าและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ มาพร้อมราคาเริ่มต้นเพียง 529,000 บาท ทั้งยังแนะนำ New Mazda MX-5 35th Anniversary Edition รถสปอร์ตโรดสเตอร์รุ่นพิเศษที่เฉลิมฉลองการครบรอบ 35 ปี แบรนด์ไอคอนเจ้าตำนานความสนุกสนานในการขับขี่มาอวดโฉมพร้อมเปิดให้จองเป็นเจ้าของ พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษให้เป็นเจ้าของได้ง่าย ณ บูธมาสด้า ในงาน มอเตอร์ โชว์ 2025 ระหว่างวันที่ 26 มี.ค. 68 – 6 เม.ย. 68 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บูธมาสด้าครั้งนี้มีความพิเศษยิ่งกว่าทุกปี ไม่เพียงเฉพาะแค่การออกแบบใหม่เท่านั้น เนื่องจากมาสด้าได้นำยนตรกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคตถึงสองรุ่น ที่ได้รับการพัฒนาตามแนวทาง Multi-solution มาจัดแสดงในประเทศไทย เริ่มจาก ยานยนต์ต้นแบบสปอร์ตคอมแพ็คคาร์ Mazda Iconic SP ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าโดยใช้เครื่องยนต์โรตารี่แบบ 2 โรเตอร์ ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ รองรับการใช้พลังงานหลากหลายรูปแบบ มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ น้ำหนักเบา กระจายน้ำหนัก 50:50 ได้รับการออกแบบตามแนวทาง Kodo Design รวมถึงการขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวกันกับรถ เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุกสนานในการขับขี่ โดยรถต้นแบบคันนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา เพื่อฟื้นตำนานรถสปอร์ตเครื่องยนต์โรตารี่ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

สำหรับรถยนต์รุ่นที่สองได้แก่ Mazda6e รถยนต์ไฟฟ้า 100% BEV รุ่นแรกที่มาสด้าพัฒนาขึ้นตามแนวทาง Multi-solution Technology สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะมาสด้าไว้อย่างชัดเจนในทุกองค์ประกอบ ทั้งดีไซน์ภายนอกที่สง่างามตามแนวคิด Kodo Design – Soul of Motion และเอกลักษณ์ของสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง กระจายน้ำหนัก 50:50 มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 80 กิโลวัตต์ ให้ระยะการขับขี่ได้ไกลสุดถึง 552 กม. มาพร้อมเทคโนโลยี FAST CHARGE สามารถชาร์จไฟจาก 30%-80% ได้เร็วสูงสุดภายใน 15 นาที มอบความสนุกสนานในการขับขี่ตามปรัชญา จินบะ-อิไต และเน้นหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้าเฉกเช่นเดียวกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก

นอกจากรถยนต์ไฮไลท์สองรุ่นที่นำมาจัดแสดงแล้ว มาสด้ายังเปิดตัว New Mazda2 Essential มาเปิดตัวภายในงานฯ มาพร้อมดีไซน์ที่บ่งความเป็นตัวตนที่ชัดเจน และฟังก์ชั่นที่เติมเต็มกับทุกไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ มาพร้อมทางเลือก 4 รุ่นใหม่ ได้แก่ รุ่น PRIME มอบความ ”คุ้มสุด” ของรุ่นเริ่มต้นที่มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร และมอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน รุ่น ULTRA มอบความ “สบายสุด” ครบครันด้วยเทคโนโลยีความสะดวกสบาย พร้อมกับฟังก์ชั่นที่รู้ใจและตอบโจทย์กับทุกมิติของการใช้ชีวิต และ รุ่น SIGNATURE มอบความ “พร้อมสุด” กับสองทางเลือก กับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ในรุ่น 1.3 Signature และ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร ในรุ่น XDL Signature โดย Mazda2 Essential มีราคาจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นโดยเริ่มต้นเพียง 529,000 บาท

ไม่เพียงเท่านี้ มาสด้ายังได้นำยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด แบรนด์ไอคอนยอดนิยม New Mazda MX-5 35th Anniversary Edition มาจัดแสดงให้แฟนๆ ในประเทศไทยได้ชมและครอบครองเป็นเจ้าของ มาพร้อมการตกแต่งพิเศษเพื่อถ่ายทอดความพิเศษในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น สีภายนอกพิเศษ Artisan Red Premium สัญลักษณ์รุ่นพิเศษ 35th Anniversary Edition พนักพิงศีรษะ และพรม พร้อม Serial Number ที่บริเวณด้านข้างตัวถัง เพื่อบ่งบอกถึงบอกถึงความพิเศษในฐานะรุ่นลิมิเต็ด รวมถึงเบาะหนังสีพิเศษ Sports Tan หลังคาแข็งเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สี Bright วางจำหน่ายในจำนวนจำกัด ในราคา 3,069,000 บาท

นอกจากนี้ มาสด้ายังได้นำรถยนต์ครบทุกรุ่นมาจัดแสดงพร้อมมอบข้อเสนอพิเศษภายในงาน อาทิ ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* นานสูงสุด 72 เดือน* ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance* ฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ MUS นานสูงสุด 7 ปี* ฟรีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ SHARP รุ่น IG-NX2B มูลค่า 3,990 บาท* และสำหรับเจ้าของรถยนต์มาสด้าและครอบครัว รับฟรี บัตรน้ำมันมูลค่าสูงสุด 30,000 บาท* ภายในงานฯ และที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

หมายเหตุ :

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mazda.co.th หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ที่ปรึกษาการขายมาสด้าในงานมอเตอร์โชว์ หรือที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

มิตซูบิชิ ชวนสัมผัสยนตรกรรมฟูลไฮบริด 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ในมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนสัมผัสยนตรกรรมฟูลไฮบริดสุดล้ำสมัย 2 รุ่นใหม่ล่าสุด “ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี” และ “มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์” พร้อมแคมเปญพิเศษ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนลูกค้าสัมผัสความล้ำสมัย พร้อมดีไซน์สุดโฉบเฉี่ยว กับครั้งแรกของการจัดแสดงรถยนต์ฟูลไฮบริด 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ ร่วมด้วยแคมเปญพิเศษ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 พร้อมเดินหน้าประกาศความพร้อม ส่งทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต เตรียมลงสู้ศึกการแข่งขันรายการเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ (เอเอ็กซ์ซีอาร์) 2025 ด้วยรถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ และตอกย้ำความสำเร็จด้วยการคว้า 5 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 หรือ ‘Car of the Year 2025’

มร.เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากที่เราได้เปิดตัวรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ในวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา งานนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าจะได้ชมการจัดแสดงรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ที่หลายๆ คนรอคอย รวมถึงรถ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ ซึ่งเป็นรถรุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด โดยรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ฟูลไฮบริด พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์ที่โดดเด่น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”

“นอกจากนี้ เรายังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม และรับมอบรถภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 นี้ กับแคมเปญ “Early Bird Offers เฉพาะช่วงเปิดตัวเท่านั้น” โดยลูกค้าจะได้รับบัตรของขวัญที่พักโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา มูลค่า 10,000 บาท รวมถึงโปรโมชั่นอื่นๆ อีกมากมายสำหรับรถยนต์ทุกร่น” มร.อินาบะ กล่าวเพิ่มเติม

ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ได้รับการพัฒนาร่วมกับทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาวไทยและมีฐานการผลิตที่โรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส แหลมฉบัง จ.ชลบุรี มั่นใจได้ในคุณภาพรถยนต์และบริการหลังการขายที่ครบครัน แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่ อิกไนท์ (Ignite) อัลทิเมท (Ultimate) และรุ่นท็อป อัลทิเมท เอ็กซ์ (Ultimate X) พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ภายใต้แนวคิด ซิลก์กี แอนด์ โซลิด (Silky & Solid) สะท้อนความเรียบหรูแต่ทรงพลังในทุกมิติอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกกว่าในทุกการเดินทาง ผสานการทำงานของ 3 สุดยอดเทคโนโลยี ในแบบ MITSUBISHI e:MOTION ที่เหนือระดับไปอีกขั้น ด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด Generation ใหม่ ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม แต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 24.4 กิโลเมตร/ลิตร* มาพร้อมกับ โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ หรือ 7 Drive Mode ให้ความปลอดภัย ลุยได้ในทุกสภาพถนน และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจสูงสุดขณะเข้าโค้ง พร้อมช่วงล่างและระบบกันสะเทือนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ให้เหมาะกับทุกสภาพถนนในประเทศไทย จากการทดสอบจริงบนถนนของเมืองไทยกว่า 100,000 กิโลเมตร

นอกจากนี้ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ยังโดดเด่นและเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense)  แบบครบครัน ซึ่งรวมถึง กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) พร้อมระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (Moving Object Detection: MOD) ถุงลม 6 ตำแหน่ง และอีกมากมาย พร้อมมอบความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยห้องโดยสารกว้าง พื้นที่เก็บของหลากหลาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ โดยในรุ่นท็อป อัลทิเมท เอ็กซ์ (Ultimate X) ยังมาพร้อมระบบเสียงไดนามิค ซาวน์ ยามาฮา พรีเมียม (Dynamic Sound Yamaha Premium) และลำโพง 8 จุด เพื่อคุณภาพเสียงเหนือระดับอีกด้วย

อีกหนึ่งไฮไลต์ภายในงาน ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี เพลย์ รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด ที่ตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก ของรถจากซีรีส์ ‘มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์’ ที่มีการติดตั้งชุดแต่งจากโรงงานในโทนสีดำ ให้บุคลิกใหม่ที่โดดเด่น มีสไตล์ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับในแบบ MITSUBISHI e:MOTION ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นในสไตล์สปอร์ตพรีเมียม ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งปรับพับได้หลากหลายรูปแบบและมีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และรองรับไลฟ์สไตล์สุดแอ็กทีฟของครอบครัวยุคใหม่

ภายในงานยังจัดแสดง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ไพร์ม ใหม่ มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ครบครันมากยิ่งขึ้น ในราคาจำหน่ายเท่าเดิม เพิ่มความคุ้มค่าด้วยการยกระดับความสะดวกสบายและความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) เพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารสะดวกสบาย สะท้อนความหรูหราและทันสมัย

ปิดท้ายด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฮเปอร์ พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู (Hyper Power X2) กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ตอบสนองไลฟ์สไตล์สปอร์ตพรีเมียมด้วยรูปลักษณ์โดดเด่นมีสไตล์ สะกดทุกสายตา ห้องโดยสารสะดวกสบายทุกจุด ผสานดีไซน์ภายในสีทูโทน เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน ‘Diamond Sense’ พร้อมระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) และระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งสามารถเปลี่ยนโหมดเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ได้ทันทีแม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว (Shift-on-the-Fly) ทั้งยังสามารถขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ (Full-Time All Wheel Control) เสริมความปลอดภัยให้ขับขี่คล่องตัวพร้อมตะลุยทุกสภาพอากาศและพื้นผิวถนนทุกรูปแบบด้วย 7 โหมดการขับขี่ และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)

นอกจากการขนทัพสุดยอดยนตรกรรมมาจัดแสดงแล้ว มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังประกาศความพร้อมเตรียมส่งทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ลงสู้ศึกเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ หรือ เอเอ็กซ์ซีอาร์ 2025 ด้วยรถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ โฉมใหม่* เพื่อกลับมาทวงตำแหน่งแชมป์อีกครั้ง พร้อมประกาศความสำเร็จที่ได้คว้า 5 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 หรือ ‘Car of the Year 2025’ จากบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ สมรรถนะ และความพึงพอใจของลูกค้า รางวัลอันทรงเกียรติเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในการพัฒนาด้านวิศวกรรม นวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในทุกกลุ่มยานยนต์ โดยรถมิตซูบิชิ ที่ได้รับรางวัลนปีนี้ ประกอบด้วย

•มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี : รางวัลรถอเนกประสงค์ไฮบริดขนาดเล็ก เครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,600 ซีซี ยอดเยี่ยม

•มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท : รางวัลรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม

•มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท : รางวัลรถอเนกประสงค์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม

•มิตซูบิชิ แอททราจ : รางวัลรถยนต์อีโคคาร์ 4 ประตู ราคาคุ้มค่า ยอดเยี่ยม

•มิตซูบิชิ มิราจ : รางวัลรถยนต์อีโคคาร์ ประหยัดน้ำมัน ยอดเยี่ยม

ผู้สนใจสามารถชมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทุกรุ่นได้ที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย (A9) ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือ Bangkok International Motor Show 2025 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 – 3 เมืองทองธานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และนัดหมายเพื่อทดลองขับได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดรับสายทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

*รถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ โฉมใหม่ จะถูกจัดแสดงที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เฉพาะในวันแถลงข่าวเท่านั้น

สุดยอดยนตรกรรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่จัดแสดง ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

รุ่นรถยนต์โปรโมชั่นพิเศษ
ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%*รับฟรี บัตรของขวัญเซ็นทารา มูลค่า 10,000 บาท* รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี* รับฟรี รับประกันคุณภาพนาน 5 ปี  หรือ 100,000 กม. พร้อมฟรี ค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี* เลือกรับ แพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี หรือ หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี*ครอบครัวมิตซูบิชิ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30,000 บาท ผ่าน M-Drive*
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี เพลย์เลือกรับ ดอกเบี้ย 0%* รับฟรี แพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี* รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี* รับฟรี รับประกันคุณภาพนาน 5 ปี  หรือ 100,000 กม. พร้อมฟรี ค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี* ครอบครัวมิตซูบิชิ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30,000 บาท ผ่าน M-Drive*
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ไพร์ม ใหม่เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.09%* รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี* เลือกรับ แพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี*รับฟรี รับประกันคุณภาพนาน 5 ปี  หรือ 100,000 กม. พร้อมฟรี ค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี* ครอบครัวมิตซูบิชิ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30,000 บาท ผ่าน M-Drive*
มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีทเลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%* รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี* เลือกรับ แพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี หรือ หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี*รับฟรี รับประกันคุณภาพนาน 5 ปี  หรือ 100,000 กม. พร้อมฟรี ค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี* ครอบครัวมิตซูบิชิ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30,000 บาท ผ่าน M-Drive*

*เงื่อนไขและรายละเอียดเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด หลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

ซูซูกิ ส่ง CARRY ซูเปอร์มาร์เก็ต ควง SWIFT สปอร์ตแฮทช์แบ็ก ในงานมอเตอร์โชว์ 2025

ซูซูกิ ยกระดับธุรกิจเคลื่อนที่ พบ CARRY ซูเปอร์มาร์เก็ต SWIFT สปอร์ตแฮทช์แบ็กรุ่นยอดนิยมในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ ชูแคมเปญ SUZUKI WORRY FREE PROGRAM พร้อมโปรโมชันผ่อนยาวสูงสุด 99 เดือน หรือผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,999 บาท

24 มีนาคม 2568-กรุงเทพมหานคร- นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม-6 เมษายน 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ยังคงเป็นอีกหนึ่งในงานจัดแสดงยนตกรรมสำคัญของประเทศไทย ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในช่วงต้นปีได้เป็นอย่างดี

ในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค แต่ยังมีผลกระทบต่อลักษณะการใช้งานของยานยนต์ในชีวิตประจำวันอีกด้วย การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลนี้ และได้เปลี่ยนแปลงวิธีการที่ผู้บริโภคเลือกและใช้งานรถยนต์ในชีวิตประจำวัน ซึ่งไม่เพียงแค่เลือกซื้อรถยนต์ตามประสิทธิภาพหรือราคา แต่พวกเขายังให้ความสำคัญกับฟีเจอร์ที่สามารถช่วยให้การขับขี่มีความสะดวกสบาย ปลอดภัย และตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว หรือการเดินทางไกลที่ต้องการความสะดวกสบายและมั่นใจในความปลอดภัย

สำหรับซูซูกิ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบัน แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้การขับขี่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ซูซูกินำเสนอจะช่วยให้การขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองเป็นไปอย่างราบรื่น โดยให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ลดมลพิษ และช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจและปลอดภัยในทุกการเดินทาง

โดยในปีนี้ ซูซูกิพร้อมที่จะขับเคลื่อนตลาดด้วยรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันและสามารถปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภค ทั้งในด้านความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความคุ้มค่าของการใช้งาน ซึ่งรถยนต์จากซูซูกิไม่เพียงแค่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการที่มีอยู่ แต่ยังเป็นการนำเสนอประสบการณ์ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ขับขี่ในหลายๆ ด้าน

ด้วยเป้าหมายยอดขาย 8,000 คันในปี 2568 เป็นเป้าที่จะเติบโตขึ้นถึง 41% เมื่อเปรียบเทียบกับยอดขายในปีที่ผ่านมา การเติบโตนี้เกิดจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านผลิตภัณฑ์และการบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าผ่านการให้บริการที่มีคุณภาพสูงเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ซูซูกินำรถยนต์ทุกรุ่นเข้าร่วมแสดง ภายใต้แนวคิด “Fill your life with vibrant colors” โดยต้องการสื่อสารถึงความสุข ความสนุกสนาน และความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการออกแบบบูธให้มีสีสัน เต็มไปด้วยพลังที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงการมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยสีสันและความสุข

โดยในบูธแบ่งพื้นที่การจัดแสดงออกเป็นรถยนต์รุ่นมาตรฐานทั้ง SUZUKI SWIFT , SUZUKI CELERIO, SUZUKI XL7, SUZUKI CARRY และ SUZUKI JIMNY และพื้นที่สำหรับจัดแสดงรถตกแต่งพิเศษซึ่งแต่ละคันจะมีแนวคิดการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป เพื่อนำเสนอเป็นแนวทางสำหรับลูกค้าของซูซูกิ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งเพื่อความสปอร์ตเร้าใจในการขับขี่ หรือเพื่อนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์จากรถคันโปรดของตัวเองได้อย่างแท้จริง

นอกจากการนำเสนอสินค้าในรุ่นมาตรฐานที่มาพร้อมกับโปรโมชันที่น่าสนใจในงานครั้งนี้ รถรุ่นไฮไลต์ที่สำคัญนำโดย SUZUKI SWIFT สปอร์ตแฮทช์แบ็กยอดนิยมของคนไทย มาพร้อมเครื่องยนต์รหัส K12M ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่ DUALJET ช่วยลดมลพิษและประหยัดน้ำมันถึง 23 กิโลเมตรต่อลิตร ด้วยดีไซน์ภายในห้องโดยสารสีดำ ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินสไตล์สปอร์ต จอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth และเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน เติมเต็มความบันเทิงในการขับขี่ ทำให้ไม่พลาดทุกการติดต่อตลอดการเดินทาง ในราคาเริ่มต้นเพียง 567,000 บาท SUZUKI SWIFT สปอร์ตแฮทช์แบ็กอีโคคาร์รุ่นยอดนิยม คือหนึ่งในไฮไลต์ที่สำคัญในงานนี้ ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์มีความล้ำสมัยด้วยรูปทรงที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน บ่งบอกตัวตนที่โดดเด่นไม่เหมือนใครได้อย่างชัดเจน รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ มาพร้อมอัตราบริโภคเชื้อเพลิงที่ประหยัดคุ้มค่า ภายใต้ราคาที่จับต้องได้อย่างแท้จริง

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่สำคัญคือการนำรถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ SUZUKI CARRY มาตกแต่งบนพื้นฐานการใช้งานจริงภายใต้แนวคิด “ซูเปอร์มาร์เก็ตเคลื่อนที่” แนวคิดของการนำร้านของสะดวกซื้อมาไว้บนรถ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่อยู่อาศัยห่างไกล ไปจนถึงตามตรอกซอกซอยในเมืองใหญ่ มีกลุ่มลูกค้าทั้งในหมู่บ้านอย่างผู้สูงอายุ แม่บ้าน กลุ่มลูกค้าในโรงงานและไซต์งานก่อสร้าง หรือสถานที่อื่นๆ การบริการในรูปแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าแต่ยังเป็นการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย

SUZUKI CARRY รถกระบะอเนกประสงค์ที่ถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานรวมถึงรูปลักษณ์ที่พร้อมจะนำไปดัดแปลงและพัฒนาต่อยอดให้เข้ากับทุกแนวทางของการดำเนินชีวิต และสามารถดัดแปลงให้เหมาะสมกับหลากหลายธุรกิจ ตั้งแต่การขนส่งสินค้า การให้บริการเคลื่อนที่ ไปจนถึงการสร้างโอกาสธุรกิจใหม่ๆ จนถูกเรียกว่า Goods Truck และ Service Truck สามารถต่อยอดในการทำธุรกิจอื่นๆ เสมือนดั่งพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ที่พร้อมจะสนับสนุนและร่วมขับเคลื่อนอยู่เคียงข้างผู้ใช้ด้วยความจริงใจ อีกทั้งซูซูกิยังมุ่งหวังให้เป็นไอเดียต้นแบบ สร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจที่แตกต่าง จุดประกายแนวทางใหม่ให้ผู้ประกอบการ ตอกย้ำแนวคิด “Carry Your Dream เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะปรับเปลี่ยนรถกระบะบรรทุกให้เป็นรถขนส่งความสุขเคียงข้างทุกเส้นทางฝันทั้งในด้านธุรกิจและการใช้ชีวิตส่วนตัว รวมถึงการช่วยเหลือสังคมเหมาะสมกับการเป็นรถที่ครองใจผู้ประกอบการตัวจริง

SUZUKI CARRY กระบะบรรทุกพร้อมสู้งานทุกธุรกิจในฝัน มาพร้อมเครื่องยนต์ K15B ขนาด 1.5 ลิตร มั่นใจทุกเส้นทางกับขุมกำลังเครื่องยนต์ ประหยัดน้ำมันและให้พลังการขับเคลื่อนสูง มีพื้นที่กระบะบรรทุกแบบเรียบขนาดใหญ่ สามารถเปิดได้ทั้ง 3 ด้าน เพิ่มความสะดวกในการขนถ่ายสัมภาระขึ้น-ลงเป็นเรื่องง่าย ด้วยระยะความสูงจากพื้นถึงท้ายกระบะ 750 มม. รองรับการบรรทุกสูงสุดมากถึง 945 กิโลกรัม ช่วงล่างแข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสาร สะดวกสบายกับความกว้าง พร้อมระบบปรับอากาศ เครื่องเล่นวิทยุ และ MP เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง SUZUKI CARRY มีราคาจำหน่ายเพียง 395,000 บาท  ตอบโจทย์ธุรกิจในฝันได้อย่างคุ้มค่า ให้ผู้ประกอบการต่อยอดและขยายธุรกิจได้อย่างง่ายดาย ด้วยโปรแกรมผ่อนเริ่มต้นเพียงวันละ 222 บาท

ด้านของผลิตภัณฑ์รุ่นอื่นๆ SUZUKI JIMNY รถยนต์ออฟโรดขนาดคอมแพ็คกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซูซูกิ ที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของดีไซน์และสมรรถนะเกินตัวกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-time 4WD พร้อมใช้งานในทุกสภาพการขับขี่และภูมิประเทศที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานอย่างมืออาชีพ เติมเต็มประสบการณ์ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตสไตล์ออฟโรด โดยมีสีโมโนโทนให้เลือกเป็นสีเขียว /Solid Jungle Green สีดำ/Pearl Bluish Black สีเทา/Solid Medium Gray และสีขาว /Superior White และสีขาว/Metallic Chiffon Ivory ในราคาเดิมที่ 1,760,000 บาท และ สีทูโทน เป็นสีเหลืองกับหลังคาสีดำ/Solid Kinetic Yellow with Pearl Bluish Black และสีขาวกับหลังคาสีดำ/ Metallic Chiffon Ivory with Pearl Bluish Black ในราคาเดิมที่ 1,790,000 บาท

SUZUKI CELERIO รุ่นที่เคยสร้างกระแสความคุ้มค่า ที่มาพร้อมความโดดเด่นทุกด้าน ในสไตล์ CITY CAR มาพร้อมกับการปรับปรุงเพื่อตอบรับทุกการใช้งานที่ครบครัน ด้วยจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่นวิทยุ MP3 และ WMA พร้อม Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และ USB ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 319,900 บาท

SUZUKI XL7 HYBRID ดีไซน์กระจังหน้าโครเมียมมาพร้อมกับไฟหน้า LED รีเฟล็กเตอร์ และ Daytime Running Light  ลงตัวกับไฟท้าย LED แบบ Light Guides  ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง กับเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง มาพร้อมด้วยเทคโนโลยี Smart Hybrid จากซูซูกิ ซึ่งเป็นการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ISG พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ION ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน และเสริมประสิทธิภาพการออกตัวได้อย่างนุ่มนวลและรวดเร็วด้วยกำลังส่งจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า อีกทั้งยังบำรุงรักษาง่ายไม่แตกต่างจากเครื่องยนต์เบนซินสามารถใช้งานได้อย่างไร้กังวล พร้อมตอกย้ำความมั่นใจด้วยการรับประกันแบตเตอรี่นาน 5 ปีเต็ม ราคา 799,000 บาท

ซูซูกิ เตรียมข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่านให้สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิได้ง่ายยิ่งขึ้น เพียงจองรถและรับรถภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 รับสิทธิพิเศษไม่ว่าจะเป็น SUZUKI WORRY FREE PROGRAM” ที่เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถรองรับการดูแลลูกค้าด้วยคุณภาพและมาตรฐานของซูซูกิได้อย่างแท้จริง พร้อมทั้งข้อเสนอพิเศษส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท หรือเลือกผ่อนสบายนานสูงสุด 99 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง โดยติดต่อสอบถามรายละเอียดแคมเปญพิเศษของรถแต่ละรุ่นได้ที่บูธรถยนต์ซูซูกิหรือที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 90 แห่ง

ซูซูกิยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยตามแผนที่วางไว้ในเชิงรุกด้วยรถรุ่นใหม่ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงเรายังมีแผนที่จะยกระดับงานบริการในทุกด้าน เพื่อดูแลลูกค้าของซูซูกิด้วยความจริงใจและสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าซูซูกิได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด

โปรโมชัน สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

SUZUKI SWIFT

เลือกรับสิทธิพิเศษฟรี

ทางเลือกที่ 1 : SUZUKI WORRY FREE PROGRAM

-ฟรี Suzuki Maintenance Service 7 ปี

-ฟรี Suzuki Warranty 7 ปี

-ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 7 ปี

-ทางเลือกที่ 2 : ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท สำหรับรุ่น GL และ GLX หรือ รับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 45,000 บาท สำหรับรุ่น GL NEXT พร้อม ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,999 บาทหรือเลือก ผ่อนนานสูงสุด 99 เดือนๆ ละ 5,781 บาทพิเศษเฉพาะรุ่น SWIFT GLX ฟรี กล้องบันทึกภาพหน้ารถมูลค่า 5,885 บาท

•พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก

SUZUKI XL7 HYBRID

•ราคาพิเศษเริ่มต้น 799,000 บาท

•พร้อมเลือกรับข้อเสนอ ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 7,888 บาทหรือเลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือนๆ ละ 8,146 บาท 

•พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรกและบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี

SUZUKI CELERIO

•ราคาพิเศษเริ่มต้น 319,900 บาท

•พร้อมเลือกรับข้อเสนอ ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 2,999 บาทหรือเลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน เดือนละ 3,302 บาท

•พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรกและบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี

SUZUKI CARRY

•รับข้อเสนอส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 20,000 บาท

•หรือ เลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่ม 1.99% นาน 60 เดือน

•หรือ รับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นวันละ 222 บาท

•พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก

SUZUKI JIMNY Offroad Edition

•รับสิทธิพิเศษ SUZUKI WORRY FREE PROGRAM

-ฟรี Suzuki Maintenance Service 7 ปี

-ฟรี Suzuki Warranty 5 ปี

-ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 7 ปี

พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก 

เอ็มจี จัดใหญ่ กับ 3 ไฮไลท์ในกลุ่มรถอีวี พร้อมแคมเปญสุดพิเศษในงานมอเตอร์โชว์ 2025

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ชู 3 ไฮไลท์กลุ่มยนตรกรรมอีวีในงานมอเตอร์โชว์ 2025 กับโมเดลใหม่อย่าง NEW MG IM6 สู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ และการเพิ่มสีสันใหม่กับอีวีรุ่นยอดนิยมอย่าง NEW MG4 ELECTRIC ด้วยสีใหม่ SOL BLUE เพิ่มความพรีเมียมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเตรียมขยายไลน์อัพใหม่กับ NEW MG S5 EV ที่จะมาเติมความร้อนแรงให้กับตลาด B-SUV ด้วยจุดเด่น “ขับสนุก ชาร์จไว วิ่งไกล นั่งสบาย พร้อม Lifetime Warranty” นอกจากนี้ยังมียนตรกรรมหลากหลายขุมพลังขับเคลื่อนที่มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของอย่างคุ้มค่าที่สุด ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A08 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับงานมอเตอร์โชว์ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งเวทีสำคัญที่จะทำให้ เอ็มจี เดินหน้าสู่เป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาด 5% ภายในปีนี้ โดย เอ็มจี มาพร้อมกับ “3 ความใหม่” ของยนตรกรรมในกลุ่มอีวี ที่จะยกระดับมาตรฐานและเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค”

สัมผัสกับยานยนต์อัจฉริยะที่ทำให้การขับขี่รถอีวีก้าวสู่อีกระดับ

สัปดาห์ที่ผ่านมา เอ็มจี ได้สร้างสีสันในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้าอีกครั้งด้วยการส่ง NEW MG IM6 เข้าสู่ตลาดอีวีระดับพรีเมียม ชูจุดเด่นของการเป็น The First-ever Premium Intelligent e-SUV ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “ขับเคลื่อนตัวตน บนความเป็นตัวเอง” (I’M WHO I’M) จึงทำให้โมเดลนี้เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่มอบประสบการณ์การควบคุมขับขี่ที่ง่าย และสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ สามารถปรับระดับความสูงของช่วงล่างได้ถึง 3 ระดับ ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ ช่วยให้การเปลี่ยนเลนมีเสถียรภาพมากขึ้น สามารถกลับรถในที่แคบได้สบายๆ ฟังก์ชัน Crab Mode ช่วยให้การเคลื่อนรถออกจากพื้นที่ที่มีข้อจำกัดเป็นเรื่องง่าย ระบบ One Touch iAD ตัวช่วยในการถอยจอดหลากรูปแบบ ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ระบบอัจฉริยะแสดงผลในที่มืดและฝนตก และ NEW MG IM6 ยังมีจุดเด่นด้านสมรรถนะการขับขี่กับพละกำลังสูงสุด 778 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 802 นิวตัน-เมตร มาพร้อมมอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. เพียง 3.48 วินาที เท่านั้น แบตเตอรี่ขนาดความจุ 100 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 634 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟได้รวดเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% – 80% ใช้เวลาน้อยกว่า 20 นาที* ด้วยแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ รองรับการชาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 396 kW 

*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับจำนวนแบตเตอรี่ที่เหลือ และกำลังไฟของสถานีชาร์จ

“เพิ่มสีใหม่” ในรุ่นอีวียอดนิยม นำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค

NEW MG4 ELECTRIC อีวีรุ่นยอดนิยมของ เอ็มจี สร้างสีสันครั้งใหม่ด้วยสี SOL BLUE ให้กลิ่นอายความพรีเมียมกับรถแฮทช์แบคไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ตรุ่นนี้สะท้อนภาพลักษณ์ความสุขุม นุ่มลึกของผู้ขับขี่ โดยสีใหม่นี้มีในรุ่น STANDARD RANGE รุ่น D, LONG RANGE รุ่น D และรุ่น V ราคาเริ่มต้น 709,900 บาท

เตรียม “ขยายไลน์อัพใหม่” มอบความคุ้มค่าด้วย e-SUV ที่ครบเครื่อง

สำหรับบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่จะเกิดขึ้นในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ (วันที่ 25 มีนาคม 2568 เวลา 13.00 น. – 14.00 น. ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A08) กับการเปิดตัวและประกาศราคา NEW MG S5 EV “โกลบอลอีวี” ที่มีมาตรฐานคุณภาพเดียวกันทั่วโลก เป็นหนึ่งในโมเดลยุทธศาสตร์ของ เอ็มจี ในปีนี้ และเป็นรถไฟฟ้าแบรนด์ เอ็มจี อีกรุ่นที่ผลิตในประเทศไทย และจะพลิกโฉมวงการยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ด้วยการเป็น e-SUV ที่ “ขับสนุก ชาร์จไว วิ่งไกล นั่งสบาย พร้อม Lifetime Warranty”

เป็นเจ้าของยนตรกรรมหลากหลายรูปแบบการขับเคลื่อนได้อย่างคุ้มค่า

นอกจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แล้วนั้น เอ็มจี เพิ่มโอกาสให้คนไทยได้เป็นเจ้าของยนตรกรรมคุณภาพได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถในงานฯ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 6 เมษายน 2568 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

กลุ่มรถยนต์สันดาป

NEW MG5 PRO

•ดาวน์เริ่มต้น 31,499 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,156 บาท

•ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

NEW MG ZS

•ดาวน์เริ่มต้น 10%

•เลือกรับ เอ็มจี ช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท นาน 9 เดือน

•ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

NEW MG EXTENDER

•ดาวน์เริ่มต้น 5% ผ่อนสูงสุด 84 งวด

•รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

กลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือก

ALL NEW MG3 HYBRID+

•ดาวน์เริ่มต้น 8,888 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 6,516 บาท

•รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

•ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

NEW MG VS HEV

ดาวน์เริ่มต้น 10%

•เลือกรับ เอ็มจี ช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท นาน 9 เดือน

•ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

NEW MG HS PHEV

•รับสิทธิ์ช่วยผ่อนสูงสุด 5,000 บาท นาน 20 เดือน หรือ เลือกรับบัตรน้ำมันมูลค่าสูงสุด 5,000 บาท นาน 20 เดือน (เลือกอยากใดอย่างหนึ่ง และไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้)

•รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

•ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

กลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

NEW MG IM6 มาพร้อม PRIME PACKAGE มูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท*

•MG SHIELD ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 2 ปี มูลค่า 72,000 บาท

•ฟรี รับ IM MAG HUB SET PACKAGE มูลค่า 17,380 บาท

•ฟรี MG HOME CHARGER พร้อมติดตั้ง มูลค่า 38,500 บาท

•ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนระดับพรีเมียม นาน 5 ปี มูลค่า 12,500 บาท

•ฟรี ค่าบริการระบบปฏิบัติการ i-SMART นาน 5 ปี มูลค่า 7,450 บาท

•ฟรี บริการค่าจดทะเบียน กรอบป้ายทะเบียน และชุดพรมปูพื้น มูลค่า 8,385 บาท

•สิทธิพิเศษ การบริการ MG PREMIUM FAST LANE

•สิทธิพิเศษ การบริการ MG PREMIUM CALL CENTRE

•ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน 48 เดือน

•รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน

•รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

*หมายเหตุ : PRIME PACKAGE นี้ สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถ NEW MG IM6 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568

NEW MG4 ELECTRIC

•ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน

•รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน

•ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

•ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

NEW MG ZS EV

•ราคาพิเศษ 699,000 ในรุ่น X

•เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ดาวน์เริ่มต้นที่ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน

•รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

•ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

•ฟรี อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L จำนวน 1 ชุด

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

NEW MG MAXUS 9

•รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการ

ใช้งาน

•ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

•ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

NEW MG MAXUS 7

•รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการ

ใช้งาน

•ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

•ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

•ฟรี อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L จำนวน 1 ชุด

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

NEW MG CYBERSTER

•รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน

•รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

•ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

•ฟรี อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L จำนวน 1 ชุด

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

•ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 5 ปี

NEW MG EP PLUS

•รับดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%

•รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

•ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

NEW MG ES

•ราคาพิเศษ 899,000 บาท

•หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% เมื่อดาวน์เริ่มต้นที่ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน

•รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

•ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

•ฟรี อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L จำนวน 1 ชุด

•ฟรี ชุดพรมปูพื้น

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนดเท่านั้น

ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสและทดลองขับยนตรกรรมทุกรุ่น พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษของ เอ็มจี ได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 6 เมษายน นี้ ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A08 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และที่โชว์รูม เอ็มจี ทั้ง 140 แห่งทั่วประเทศ

เลกซัส เปิดประสบการณ์เหนือระดับ Lexus Electrified มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

“เลกซัส” สัมผัสประสบการณ์ยนตรกรรมเหนือระดับ Lexus Electrified หลากหลายรุ่น พร้อมบริการสุด Exclusive แบบ “Omotenashi” ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เลกซัส กรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดบูธเลกซัส ภายใต้แนวคิด “Electrify your Pathway” ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าของ Lexus ที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย พร้อมยกระดับมาตรฐานคุณภาพเพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับลูกค้า ผ่านแนวคิด Multi Pathway ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ด้วยตัวเลือกขุมพลังที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) รถยนต์ระบบไฮบริด (HEV) และระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่ผสานสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันอย่างลงตัว

ภายในงาน ลูกค้าจะได้สัมผัสกับยนตรกรรมระดับหรูจาก Lexus Electrified หลากหลายรุ่น พร้อมข้อเสนอพิเศษที่ดีที่สุดแห่งปี นอกจากนี้ยังมีบริการเหนือระดับแบบ “Omotenashi” ที่ให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียด มอบประสบการณ์สุดพรีเมียมตามแบบฉบับเลกซัส ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายศุภกร รัตนวราหะ กล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า “ในครั้งนี้ บูธเลกซัสนำเสนอภายใต้แนวคิด “Electrify your Pathway” ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าของ Lexus ที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย พร้อมยกระดับมาตรฐานคุณภาพเพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับลูกค้า ผ่านแนวคิด Multi Pathway ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ด้วยตัวเลือกขุมพลังที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) รถยนต์ระบบไฮบริด (HEV) และระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่ผสานสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันอย่างลงตัว”

•Lexus LM รถตู้อเนกประสงค์สุดหรู ออกแบบมาเพื่อผู้นำระดับไอคอนิก มอบทั้งความสะดวกสบายและความหรูหราเหนือระดับ มีให้เลือกทั้งรูปแบบ 4 6 และ 7 ที่นั่ง ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามด้วยยอดขายกว่า 1,500 คันตั้งแต่เปิดตัว และยังได้รับรางวัล BEST HYBRID LUXURY MPV ผ่านการประกวดรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี CAR OF THE YEAR 2025

•Lexus RX ยนตรกรรมครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม มีพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขึ้น ตกแต่งหรูหราด้วยวัสดุชั้นดี พร้อมไปด้วยด้วยเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยที่เหนือระดับ

•Lexus LBX Bespoke ซึ่งเป็นรุ่นแรกของ Lexus ที่ให้ทุกท่านสามารถปรับแต่งและออกแบบรถตามสไตล์ของตัวเอง ซึ่งทุกท่านสามารถลอง Customize ได้ที่ Bespoke Corner หรือที่ www.lexus.co.th

•รถรุ่นอื่นๆ จากเลกซัส ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น NX / UX / ES และ IS ลูกค้าทุกท่านได้มั่นใจกับรถยนต์เลกซัสในทุกมิติ ทั้งในด้านคุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ เนื่องจากรถทุกรุ่นได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และถูกผลิตด้วยมาตรฐานระดับสูง พิถีพิถันในทุกรายละเอียดควบคู่ไปกับความปราณีตจาก Lexus Craftsmanship ทั้งยังใช้เทคโนโลยีระดับไฮเอนด์ และนวัตกรรมของเลกซัสที่ล้ำสมัยให้ทุกการเดินทาง คือประสบการณ์อันสุดพิเศษ ทุกท่านสามารถสัมผัสและทดลองขับยนตรกรรมที่โดดเด่นเหล่านี้ได้ภายในงาน

นอกจากนี้ภายในงานเราได้เตรียมมอบประสบการณ์สุดพิเศษระดับพรีเมียมให้กับลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสกับประสบการณ์การดูแลเหนือระดับ ตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงบูธ ด้วยบริการสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น

•LEXUS Exclusive Parking – สะดวกสบายยิ่งขึ้นกับบริการช่องจอดรถที่ลานจอดรถโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค (Novotel Bangkok Impact) เอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะลูกค้ารถยนต์เลกซัสเท่านั้น

•VIP Access Badge – สำหรับท่านสมาชิก Lexus Elite Club Application สามารถกดรับบัตรเข้างาน ได้ที่ Application เพื่อสิทธิพิเศษในการเข้าชมงานอย่างรวดเร็ว พร้อมเอกสิทธิ์เฉพาะตัว

•LEXUS’TERIA Lounge – ผ่อนคลายในเลานจ์สุดหรูที่ตกแต่งอย่างมีระดับโดย CHANINTR ผู้แทนและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์หรูชั้นนำระดับโลก พร้อมขนมจาก Truly Scrumptious ที่คัดสรรมาเพื่อคุณ

•Private Driving Experience with a Master Driver – สัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ กับผู้เชี่ยวชาญด้านการขับขี่ระดับมืออาชีพ ที่จะยกระดับประสบการณ์การทดลองขับรถยนต์เลกซัสไปกับคุณ

•Lexus Bespoke Your Scent Workshop กิจกรรมเวิร์กชอปสุดพิเศษในช่วงสุดสัปดาห์ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สร้างสรรค์น้ำหอมกลิ่นเฉพาะตัวของตนเอง ณ บูธเลกซัส

“สำหรับท่านใดที่สนใจอยากเป็นเจ้าของรถเลกซัส ผมคิดว่าช่วงนี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะในรุ่น Plug-in Hybrid เนื่องจากจะมีการปรับราคาตามอัตราโครงสร้างภาษีใหม่ที่กำลังจะมีผลในต้นปีหน้า ยิ่งไปกว่านั้นพิเศษสุดภายในงาน ทุกท่านสามารถเป็นเจ้าของ Lexus ได้ง่ายยิ่งขึ้นกับแคมเปญพิเศษที่ดีที่สุด ด้วยดอกเบี้ย 0% ประกันภัยชั้นหนึ่ง และ LXP ที่ขยายการรับประกันเป็น 5 ปี พิเศษสุด สำหรับ 100 ท่านแรกที่จองรถภายในงานรับทันที Jo Malone Scent to Go มูลค่า 2,400 บาท และรับเพิ่ม Lifestyle Voucher Play Eat Meet Experience มูลค่า 5,000 บาท สำหรับการจองรถรุ่นที่ร่วมรายการ* (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)

นอกจากนี้เลกซัสยังมีบริการ “KINTO” ให้บริการลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์ โดยครอบคลุมทุกค่าใช้จ่าย เพื่อให้คุณมีประสบการณ์ที่ไร้กังวล ให้ท่านตัดสินใจเป็นเจ้าของรถได้ง่ายกว่าที่เคย พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Peace of Mind สร้างความมั่นใจด้วยบริการหลังขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศด้วย Lexus Service Corner และ Home Visit Mobility Service” นายศุภกร กล่าว

พบกับยนตรกรรมระดับหรูของเลกซัสหลากหลายรุ่นภายในงาน 

Lexus LM… “Own A World Apart”

Lexus LM ยนตรกรรมระดับหรูยอดนิยมในกลุ่ม Luxury Van ที่มาพร้อมกับความคล่องแคล่ว หรูหราและสง่างาม พร้อมที่จะมอบสุดยอดประสบการณ์ “Omotenashi” ราวกับว่าอยู่ภายในห้องสวีทของโรงแรมสุดหรู หรือห้องทำงานเคลื่อนที่ ให้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ และพื้นที่สำหรับแรงบันดาลใจเชิงบวก ทั้งด้านความคิดและการกระทำ ให้ความหรูหราเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล สะท้อนวิสัยทัศน์ “Making Luxury Personal” ของเลกซัส

Lexus LM มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย อาทิ จอส่วนตัว Personalized Screen แยกการนำเสนอเนื้อหาแต่ละบุคคล พร้อมระบบเครื่องเสียงแบบ 2-Zone Audio System แยกระบบเสียงด้านหน้าคนขับและด้านหลัง สามารถรับฟังคอนเทนท์ที่แตกต่างกันได้โดยไม่รบกวนซึ่งกันและกัน หลังคา Moon roof หน้าจอแสดงผลระบบปรับอากาศแบบแยกโซนสามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วย Overhead Control และแท็บเล็ตสั่งการด้านหลัง Removable Touchscreen Rear Controller

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

-Lexus LM 350h Executive 7-Seater            ราคา          6,290,000 บาท

-Lexus LM 350h Executive 4-Seater            ราคา          7,590,000 บาท

-Lexus LM 500h Executive 6-Seater            ราคา          6,990,000 บาท

-Lexus LM 500h Executive 4-Seater            ราคา          8,290,000 บาท

Lexus LBX Bespoke…“Customize Your Style”

ครั้งแรกของ Lexus กับการ Customize ได้เต็มรูปแบบใน Lexus LBX Bespoke ที่ให้คุณออกแบบได้เต็มรูปแบบทั้ง สีภายนอกและภายใน / วัสดุตกแต่ง / สีเข็มขัดนิรภัย / ลายปักภายใน / สีหนังหุ้มพวงมาลัยและหัวเกียร์ และ ล้ออัลลอย เพื่อให้รถสะท้อนสไตล์ของคุณอย่างแท้จริง โดยทุกท่านสามารถออกแบบ Lexus LBX Bespoke และจองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Lexus.co.th หรือแวะมาที่บูธ Lexus เพื่อออกแบบด้วยตัวคุณเองที่ Bespoke Corner โดยมี Lexus Brand Ambassador คอยให้ข้อมูลและช่วยแนะนำการปรับแต่ง LBX Bespoke ให้ตรงกับสไตล์ของคุณ

Lexus LBX Bespoke ได้รับการพัฒนาขึ้นให้เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่มาพร้อมคุณภาพเหนือระดับ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Premium Casual” เรียบหรูและโดดเด่น ด้วยดีไซน์รอบด้านที่มีความประณีต สะท้อนความเป็นตัวตนของ LBX ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะดีไซน์ด้านหน้าแบบ Resolute Look ภายในห้องโดยสารออกแบบด้วยแนวคิด “Tazuna Concept” ให้ผู้โดยสารสามารถผ่อนคลาย เพลิดเพลิน รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวร่วมไปกับรถ และได้รับความสะดวกสบายสูงสุดตามหลักสรีรศาสตร์ ทั้งยังสามารถเพลิดเพลินตลอดการเดินทางไปกับเครื่องเสียง Mark Levinson ระบบ Lexus Teammate Advanced Park Panoramic View Monitor และเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับกับ Lexus Safety System+ 3.0

Lexus LBX Bespoke ยังคงเอกลักษณ์ความสุนทรีย์ในการขับขี่แบบเฉพาะตัวของเลกซัส หรือ “Lexus Driving Signature” ไว้ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยี สถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังใหม่ GA-B (Global Architecture-B Platform) ที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ช่วยเพิ่มสมรรถนะความปลอดภัยระดับสูง รองรับแรงเฉื่อยและลดจุดศูนย์ถ่วง ให้รถมีความเสถียรยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ระบบ HEV ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังรวมทั้งระบบ 134 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 9.2 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 26.32 กม./ลิตร

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

-เกรด Luxury         2,229,000 บาท

-เกรด Premium      2,390,000 บาท

-เกรด Bespoke      2,690,000 บาท*

* สำหรับเบาะที่นั่งวัสดุ L-Aniline เพิ่ม 100,000 บาท

Lexus RX “Charge Through the Limits of Imagination”

Lexus RX ยนตรกรรมครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม ตอบสนองการใช้งานทุกรูปแบบด้วยทางเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลายนำเสนอเอกลักษณ์ใหม่ของเลกซัส ด้วยสมรรถนะและการออกแบบที่ประณีตและพิถีพิถัน พื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขึ้น ตกแต่งหรูหราด้วยวัสดุชั้นดี Semi-Aniline Leather เพิ่มมุมมองใหม่ในห้องโดยสาร ด้วยหลังคากระจกพาโนรามา Panorama Glass Roof ภายในออกแบบภายใต้ปรัชญา “Human Centric” ที่มุ่งเน้นคนขับเป็นจุดศูนย์กลางตามหลักการดีไซน์แบบ “Tazuna Concept” สร้างบรรยากาศที่โอบล้อมผู้ขับขี่ให้สามารถควบคุมทุกอย่างโดยแทบไม่ต้องละสายตา และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับตัวรถ ด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบ GA-K (Global Architecture-K Platform) ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำพร้อมกับระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi-Link และ Adaptive Variable Suspension ส่งผลให้ RX ทรงตัวและเกาะถนนดีเยี่ยม พวงมาลัยและคันเร่งตอบสนองได้ดั่งใจ ตอกย้ำเอกลักษณ์การขับขี่ “Lexus Driving Signature” ได้เป็นอย่างดี และยังพร้อมไปด้วยด้วยเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยที่เหนือระดับ

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

Lexus RX 350h

-เกรด Luxury                              4,520,000 บาท

-เกรด Premium                           4,870,000 บาท

Lexus RX 450h+

-เกรด Luxury AWD                     4,720,000 บาท

-เกรด Premium AWD                 5,170,000 บาท

Lexus RX 500h

-เกรด F SPORT Direct4             5,580,000 บาท

Lexus NX… “Reimagine”

Lexus NX ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยวและทันสมัยด้วยกระจังหน้า Spindle Grille ไฟท้ายรูปทรงตัว L สอดรับกับโลโก้ของเลกซัส ภายในออกแบบมาให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง โดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอขนาดใหญ่ 9.8 นิ้ว ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ได้อย่างสะดวกและง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบ GA-K (Global Architecture-K Platform) ทำให้ตัวรถมีขนาดที่ใหญ่ และกว้างขึ้น ส่งผลให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวเยี่ยม และควบคุมได้ดั่งใจ ทำให้ NX มีเสถียรภาพในการขับขี่ดีขึ้นในทุกมิติ ตอกย้ำปรัชญา “Lexus Driving Signature” ได้เป็นอย่างดี มั่นใจตลอดการเดินทางมาพร้อมกับ Lexus Hybrid Drive ที่ได้พละกำลังจากเครื่องยนต์ 4 สููบแถวเรียงความจุุ 2.5 ลิตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนประสิทธิภาพสููง ทำให้สมรรถนะการขับขี่ที่เต็มพลัง สนุุกเร้าใจ แต่ยังคงประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม

ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย Lexus NX มาพร้อมกับ Lexus Safety System+ ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระบบกลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ E-LATCH โดยระบบจะช่วยให้ประตูรถทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ระบบการเปิด-ปิดประตูแบบ Safe Exit Assist เพิ่มความปลอดภัยขณะลงจากรถ ช่วยให้คุณไม่ต้องออกแรงดึงหรือผลักเพื่อเปิดประตู ทำให้ Lexus NX เป็น SUV ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้เป็นอย่างดี

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

NX 350h

-เกรด Luxury                              3,310,000 บาท

-เกรด Grand Luxury                   3,460,000 บาท

NX 450h+

-เกรด Grand Luxury AWD         3,660,000 บาท

-เกรด Premium AWD                 3,940,000 บาท

-เกรด Overtrail AWD                  4,180,000 บาท

-เกรด F SPORT AWD                 4,390,000 บาท

Lexus UX 300h… “The Urban Disruptor”

 Lexus UX 300h มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบ GA-C (Global Architecture-C Platform) ที่เชื่อมต่อตัวถังด้วยระบบเลเซอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส และใช้อลูมิเนียมเข้ามาเป็นองค์ประกอบของตัวรถ ส่งผลให้ตัวถังมีน้ำหนักเบา และแข็งแกร่ง จุดศูนย์ถ่วงต่ำ การทรงตัวดีเยี่ยม ควบคุมรถได้ดั่งใจ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดมากยิ่งขึ้น ถึง 196 แรงม้า ผสานกับแบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ให้อัตราเร่งได้ดั่งใจ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 8.1 วินาที

การออกแบบภายนอกปราดเปรียวแข็งแกร่ง ด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ทอดตัวจากกระจังหน้าแบบ Spindle Grille อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส และบังโคลนขึ้นรูปสามมิติ สื่อถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง การออกแบบภายในแฝงด้วยปรัชญา “YET” ของเลกซัส สร้างความแตกต่างด้วยเส้นสายที่บ่งบอกความเป็นยนตรกรรมแห่งอนาคต ผสมผสานความสร้างสรรค์และหลักการทางสรีรศาสตร์ ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารเป็นหลัก ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เพลิดพลิน สะดวกสบาย ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานล้ำสมัย

นอกจากนี้ UX 300h ยังประหยัดเชื้อเพลิงดีเยี่ยม โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.81 กม./ลิตร  พร้อมให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม ในการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

-เกรด Luxury                              2,670,000 บาท

-เกรด Grand Luxury                   2,780,000 บาท

-เกรด F SPORT                          3,300,000 บาท

Lexus ES… “Refine Your Journey”

Lexus ES (Executive Sedan) ยนตรกรรมซีดานหรูขนาดกลาง โดดเด่นเรื่องความนุ่มนวลในการขับขี่ และความเงียบภายในห้องโดยสาร ที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของเลกซัส ประณีตพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ควบคู่กับความกว้างขวางของที่นั่งด้านหลังแตกต่างจากรถยนต์หรูทั่วไป มาพร้อมกับไฟหน้าดีไซน์ที่ตอบรับกับกระจังหน้า Spindle Grille เส้นสายที่ดูสปอร์ต เสริมความเฉียบคมให้เข้ากับความหรูหราอย่างลงตัว ไฟหน้าแบบ 3-eye LED Headlamps มาพร้อมกับเทคโนโลยี Blade Scan Adaptive High-beam System ที่จะทำหน้าที่ปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ ช่วยกระจายแสงไฟด้านหน้ารถได้อย่างแม่นยำ และละเอียดมากยิ่งขึ้น หน้าจอขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ได้อย่างสะดวก และง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ตอกย้ำสมรรถนะอันทรงพลังด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังใหม่ GA-K (Global Architecture-K Platform) ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวเยี่ยม และควบคุมได้ดั่งใจ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นล่าสุด มั่นใจตลอดการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ ด้วยระบบ Lexus Safety System+ เจเนอเรชันที่ 2 และระบบช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยจอด Parking Support Brake : PKSB เพิ่มความปลอดภัยขณะถอยจอด โดยระบบจะทำการเบรกอัตโนมัติทันทีหากระบบประเมินว่าอาจเกิดการชน

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

-เกรด Luxury                    3,625,000 บาท

-เกรด Grand Luxury        3,795,000 บาท

-เกรด Premium                 4,210,000 บาท

-เกรด F SPORT                4,380,000 บาท

Lexus IS 300h… “Elegantly Crafted”

Lexus IS 300h รถสปอร์ตซีดานหรูเหนือระดับยอดนิยมจากลูกค้าทั่วโลก โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว สปอร์ต และสมรรถนะที่ทรงพลัง เกาะถนนดีเยี่ยม ตอบสนองการควบคุมได้ดั่งใจ อัตราเร่งออกตัวที่ดี ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของสมรรถนะการขับขี่ในรูปแบบเดิม ภายใต้การพัฒนาด้วยการใช้ถนนออกแบบรถ และทดสอบในสนามแข่ง Shimoyama ประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากสนามแข่งสุดโหดระดับโลก Nurburgring ประเทศเยอรมนี เต็มเปี่ยมด้วยพละกำลัง พร้อมโครงสร้างตัวถังรถยนต์ที่ออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยม โดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุก เร้าใจ ให้กับผู้ขับขี่ได้ ดีไซน์ภายนอกออกแบบด้วยเส้นสายที่เฉียบคม โฉบเฉี่ยว ดุดัน กว้างขวาง และยาวขึ้น พร้อมล้อขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยการเกาะถนนดีเยี่ยม บ่งบอกถึงความเป็นสปอร์ตซีดานได้เป็นอย่างดี

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

-เกรด Luxury                    2,690,000 บาท

-เกรด Premium                3,370,000 บาท

-เกรด F SPORT                3,890,000 บาท

สัมผัสประสบการณ์บริการใช้รถรูปแบบใหม่กับบริการ LEXUS KINTO ONE

บริการใช้รถรูปแบบใหม่แบบครบวงจร ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าคนรุ่นใหม่ สำหรับลูกค้าบุคคล และนิติบุคคล ซึ่งมีแพ็คเกจหลากหลายตอบโจทย์ ทำให้การใช้รถเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย คุ้มค่า ไร้กังวล มอบความสะดวกสบายด้วยค่าบริการครอบคลุมค่าใช้จ่าย ทั้งในการบำรุงรักษา ประกันภัยชั้น 1 มีบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง บริการรวดเร็วทันสมัยผ่านออนไลน์ หมดกังวลเรื่องราคาขายต่อเพียงคืนรถเมื่อครบสัญญา

พิเศษภายในงาน

1.รับ ส่วนลดเงินประกันความเสียหาย เหลือเพียง 10,000 บาท สำหรับรถใหม่ของ KINTO ONE

2.สำหรับลูกค้าที่สมัคร และผ่านการอนุมัติ จะได้รับ บัตรน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท

(รับหลังจากส่งมอบรถภายใน 14 วันผ่านทางไปรษณีย์)

3.พิเศษ สำหรับลูกค้าที่สมัครภายในงาน รับ Starbucks Card มูลค่า 500 บาท

เงื่อนไข : โดยลูกค้าจำเป็นต้องกรอก Code “KTMTS25” บนเว็บไซต์ KINTO

สนใจสอบถามได้ที่ เจ้าหน้าที่ภายในบูธเลกซัส บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือ www.kinto-th.com และ Kinto Call Center 1486

เพิ่มความมั่นใจสูงสุดกับ “Lexus Exclusive Package Standard”

โปรแกรมขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ Lexus

เพิ่มความมั่นใจสูงสุดกับโปรแกรมขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ Lexus เป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง บริการเลขาส่วนตัว ฟรีค่าแรงและอะไหล่ในการบำรุงรักษาตลอด 5 ปี โดยได้ออกแบบประเภทโปรแกรมที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ และช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว

STANDARD : ครอบคลุมค่าแรงตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร

PLUS : ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรง และค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (ยกเว้นอะไหล่เสื่อมสภาพ)

PREMIUM : ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรง และค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมอะไหล่เสื่อมสภาพ

เอกสิทธ์เฉพาะเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เหนือกว่า สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เลกซัสทุกรุ่นจากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ

•รับสิทธิ์เป็นสมาชิกแอปพลิเคชัน Lexus Elite Club เพื่ออำนวยความสะดวกตลอดการใช้รถเลกซัส เช่น การแจ้งเตือน และนัดหมายนำรถเข้าศูนย์บริการ ทั้งร่วมรับสิทธิพิเศษจากร้านค้าชั้นนำมากมาย

•สะดวก ครอบคลุมทุกพื้นที่ กับ Lexus Service Corner ในศูนย์บริการโตโยต้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการด้วยมาตรฐานเลกซัส ทั้ง 15 แห่ง ใน 8 จังหวัด สำหรับพื้นที่นอกเหนือจากการบริการของ Lexus Service Corner เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เรามีบริการ Lexus Home Visit Mobility Unit ที่จะส่งช่างที่มีความรู้ และความชำนาญไปดูแลลูกค้าถึงที่ครอบคลุมครบทุกจังหวัด ทั่วประเทศไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ

พลาดไม่ได้กับข้อเสนอสุดพิเศษ* (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)

รับดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 และ Lexus Exclusive Package (LXP Standard) ขยายระยะเวลารับประกันเป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568

ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

และผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ

โตโยต้า ชูแคมเปญ “ทุกคันมั่นใจ ไปสุดทุกดีล” ในงาน Motor Show 2025

“ทุกคันมั่นใจ ไปสุดทุกดีล” กับโตโยต้าในงาน “The 46th Bangkok International Motor Show 2025” กับแนวคิด “ขับเคลื่อนโลกของคุณ ขับเคลื่อนทุกโอกาสให้เป็นจริง”

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และคณะผู้บริหารระดับสูง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเปิดบูธโตโยต้าในงาน “The 46th Bangkok International Motor Show 2025” ภายใต้แนวคิด “MOVE YOUR WORLD, MOVE ALL OPPORTUNITIES ขับเคลื่อนโลกของคุณ ขับเคลื่อนทุกโอกาสให้เป็นจริง” จัดแสดงรถยนต์โตโยต้าหลากหลายรุ่น ครบทุกไลน์อัพ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยรถทุกรุ่นมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ และมีให้ทดลองขับภายในงาน เลือกมั่นใจ กับดีลที่ใช่ เป็นเจ้าของรถได้ง่ายๆ กับแคมเปญ “ทุกคันมั่นใจ ไปสุดทุกดีล” ในระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวเปิดบูธว่า “ปีนี้ เราจัดแสดงภายใต้คอนเซ็ปต์ “MOVE YOUR WORLD, MOVE ALL OPPORTUNITIES ขับเคลื่อนโลกของคุณ ขับเคลื่อนทุกโอกาสให้เป็นจริง” โดยคอนเซ็ปต์ Move Your World เกิดขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และสร้างการเชื่อมโยงที่ยั่งยืน เหนือการขับเคลื่อนทั่วไป วิสัยทัศน์นี้คือ คำมั่นสัญญาของโตโยต้า ที่จะสร้างอนาคตที่ทุกคนสามารถก้าวไปข้างหน้าได้พร้อมๆ กัน โตโยต้ามุ่งมั่นที่จะมอบโซลูชั่นแห่งการขับเคลื่อนที่ดียิ่งขึ้น และมอบความไว้วางใจ เพื่อนำไปสู่อนาคตที่ดีกว่าให้กับคนไทยทุกคน

ปีที่แล้ว ยอดขายรวมตลาดรถยนต์ประเทศไทยอยู่ที่ 573,000 คัน ลดลง 26% เมื่อเทียบกับ พ.ศ. 2566 อย่างไรก็ตามโตโยต้า ประสบความสำเร็จ ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 38.5% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเราขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่มอบความไว้วางใจในโตโยต้า เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจ และการสนับสนุนจากลูกค้าที่เลือกเรา ด้วยผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ เครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุม รวมถึงความยั่งยืนในทุกมิติ

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระแสความนิยมในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ปีที่ผ่านมา ยอดขายกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ของประเทศไทย อยู่ที่กว่า 200,000 คัน เติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับ พ.ศ. 2566 และคิดเป็น 35% ของยอดขายรถยนต์รวม การเติบโตดังกล่าว มาจากยอดขายรถยนต์ HEV ที่เติบโตขึ้น 29% ในขณะที่ยอดขายรถ BEV ลดลง 8% ชี้ให้เห็นถึงการยอมรับจากลูกค้าชาวไทยที่เลือกรถยนต์ไฮบริด โดยคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานจริง ที่สำคัญ โตโยต้า มียอดขายสูงสุดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า xEV และกลุ่มตลาดรถยนต์ไฮบริด ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในรถยนต์ไฮบริดโตโยต้า หรือ “Trusted HEV” ที่เป็นจุดแข็งของเรา”

ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ผู้นำยนตรกรรมไฮบริดกับ “TOYOTA NO.1 TRUSTED HEV” ขอมอบแคมเปญพิเศษ ในทุกรุ่นไฮบริด

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ แนะนำโซนรถยนต์ไฮบริด “ขอแนะนำ โซนรถยนต์ไฮบริด ที่จัดแสดงรถยนต์ HEV หลายรุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า เริ่มจากรถซีดานกับ ALL-NEW CAMRY รถรุ่นที่ขายดีที่สุดในเซกเมนต์ Medium Size Sedan และ COROLLA ALTIS

สำหรับ SUV ท่านจะได้พบกับ YARIS CROSS รถ HEV ที่ขายดีที่สุดของเซกเมนต์นี้ และ COROLLA CROSS ในกลุ่มรถ MPV เราจัดแสดง INNOVA รวมทั้ง ALPHARD / VELLFIRE รถมินิแวนสุดหรู ที่พร้อมส่งมอบสู่มือลูกค้า”

รถยนต์ไฮบริด ALL-NEW CAMRY ราคาเริ่มต้น 1,455,000 บาท รับข้อเสนอ: ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.59% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD   COROLLA ALTIS ราคาเริ่มต้น 894,000 บาท รับข้อเสนอ: ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.65% และ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD   YARIS CROSS ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท  รับข้อเสนอ: ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.69% หรือผ่อนสบายเริ่มต้นเพียง 7,748 บาท ต่อเดือน   COROLLA CROSS ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท  รับข้อเสนอ: พิเศษสำหรับเจ้าของรถยนต์โตโยต้า ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0.89% และฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD   INNOVA ZENIX ราคาเริ่มต้น 1,379,000 บาท รับข้อเสนอ: ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.79% หรือเลือกรับ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD   ALPHARD & VELLFIRE ราคาเริ่มต้น 4,269,000 บาท มีรถพร้อมจำหน่าย และส่งมอบ

เพื่อแทนคำขอบคุณในทุกความมั่นใจที่ลูกค้ามอบให้ เป็นเจ้าของรถยนต์ไฮบริดทุกรุ่น ALL-NEW CAMRY / COROLLA ALTIS / YARIS CROSS / COROLLA CROSS / INNOVA / ALPHARD / VELLFIRE

รับฟรี แพ็คเกจเช็คระยะ 10,000 – 50,000 กม. (Toyota Smart Plan) พร้อมข้อเสนอพิเศษการรับประกัน

-ขยายระยะเวลาการคุ้มครอง TCFR Plus+

-ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

-ขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี พร้อมรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี

ไม่จำกัดระยะทาง

TOYOTA NO.1 TRUSTED HEV ไฮบริดที่ใช่ มั่นใจทุกเจน” โดยรถยนต์โตโยต้าไฮบริดมาพร้อมกับ

• TRUSTED VALUE ให้ลูกค้ามั่นใจไปกับความคุ้มค่า

ด้วยอัตราการใช้น้ำมันสูงสุด 26.3 กม/ลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker รุ่น YARIS CROSS)

• TRUSTED QUALITY คุณภาพที่ใครก็ไว้วางใจ

• TRUSTED WARRANTY รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 10 ปี

• TRUSTED SERVICE เซอร์วิสที่พร้อมให้บริการ อะไหล่ที่พร้อมส่งภายใน 48 ชั่วโมงและช่างผู้ชำนาญการกว่า 8,000 คน

• TRUSTED NETWORK ศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานและครบวงจรกว่า 450 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ รวมไปถึงบริการแลกเปลี่ยนรถใหม่ที่โตโยต้าชัวร์

ตอกย้ำความเป็นรถกระบะมหาชน กับ โซนไฮลักซ์ ซีรีส์ และ KING OF PPV ฟอร์จูนเนอร์

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ แนะนำโซนไฮลักซ์ซีรีส์และฟอร์จูนเนอร์ “ไฮลักซ์ เป็นรถกระบะขวัญใจมหาชนที่ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นรถในดวงใจของลูกค้าชาวไทย ในวันนี้ เรานำรถที่ได้รางวัลชนะเลิศจากการประกวด REVO Garage Mazter มาจัดแสดง ตลอดจน รุ่นอื่นๆในไลน์อัพของไฮลักซ์ ที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่การใช้งานเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงการใช้งานส่วนบุคคล นอกจากนั้น ยังมีรถกระบะอเนกประสงค์อย่าง Hilux Champ ที่จะทำให้ทุกโอกาสเป็นไปได้ กับหลากหลายรูปแบบในการต่อเติมตัวรถ โดยในวันนี้ เรามีจัดแสดงรถ AFM Sausage Food Truck / รถ Pet Spa รวมทั้ง รถดัดแปลงเพื่อธุรกิจโลจิสติกส์

นอกจากนี้ ขอเชิญท่านพบกับ ฟอร์จูนเนอร์ King of PPV ที่ครองยอดขายอันดับหนึ่งในไทยเป็นเวลา 13 ปี ไฮลักซ์และฟอร์จูนเนอร์ มาพร้อมขุมพลัง “GD Super Power” ขนาด 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร ผสานการทำงานกับหัวฉีดน้ำมันอัจฉริยะ i-ART มอบสมรรถนะและประสิทธิภาพประหยัดเชื้อเพลิง “แรงเหลือๆ ประหยัดเหลือๆ” ตอบสนองทุกความต้องการด้านการใช้งาน”

ไฮลักซ์ รีโว่ และฟอร์จูนเนอร์ HILUX REVO GR SPORT 4×4 ราคาเริ่มต้น 1,479,000 บาท รับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD     HILUX REVO SMART CAB Z EDITION ราคาเริ่มต้น 669,000 บาท รับข้อเสนอ ผ่อนเริ่มต้น 4,999 บาทต่อเดือน หรือดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.29% (ดาวน์25% ผ่อน 48 เดือน) พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD     HILUX REVO DOUBLE CAB PRE-RUNNER ROCCO  ราคา 1,136,000 บาท รับข้อเสนอ ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.40% (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD     HILUX REVO DOUBLE CAB PRE-RUNNER ราคาเริ่มต้น 881,000 บาท รับข้อเสนอ HILUX REVO DOUBLE CAB ผ่อนเริ่มต้น 8,805 บาทต่อเดือน พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD     HILUX CHAMP ราคาเริ่มต้น 459,000 บาท รับข้อเสนอ สำหรับผู้ประกอบการขนส่งและประกอบธุรกิจ รับดอกเบี้ยอัตราพิเศษ เมื่อซื้อไฮลักซ์ แชมป์ พร้อมดัดแปลงหรือต่อเติมเพื่อการทำธุรกิจทุกรูปแบบ     FORTUNER LEADER S ราคาเริ่มต้น 1,239,000 บาท รับข้อเสนอ ผ่อนเริ่มต้น 9,305 บาทต่อเดือน หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.89% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD     FORTUNER LEGENDER (ชุดแต่ง Wide Body)  ราคาเริ่มต้น 1,643,000 บาท อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษจากพันธมิตร Wide Body Package ราคาแนะนำพิเศษ 20,900 บาท/ชุด (ปกติ 30,900 บาท) เลือกผ่อนพร้อมกับตัวรถ เพิ่มเพียง 192 บาท/เดือน  

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวเสริมว่า “เพื่อสร้างความโดดเด่นและความเท่ห์ให้กับรถยนต์ เราได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ที่เป็นที่รู้จักระดับประเทศหลายแห่ง “AAP (Associated Accessories Product)” อาทิ ชุดตกแต่งรอบคันแบรนด์ GR จาก บริษัท ทีซีดี เอเชีย / อุปกรณ์ตกแต่งแนวแคมป์ปิ้งจากแบรนด์ TJM และล้ออัลลอยจากแบรนด์ LENSO รวมทั้ง จะมีการแนะนำ ล้ออัลลอยราคาประหยัด สำหรับ ไฮลักซ์ รีโว่ ภายใต้แบรนด์ Emotion R

ทั้งนี้ ท่านยังสามารถพบกับ ยาริส เอทีฟ และ ยาริส แฮทช์แบค รถยอดนิยมในกลุ่มอีโคคาร์ รวมทั้ง เวลอซ   ภายในงานด้วย”

รถยนต์ยอดนิยม YARIS ATIV ราคาเริ่มต้น 549,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ: Ÿขยายระยะเวลาการคุ้มครอง TCFR Plus+ Ÿ ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด และเลือกรับข้อเสนอพิเศษอีก 2 ต่อ ต่อที่ 1: ผ่อนสบายเริ่มต้น 4,993 บาทต่อเดือน หรือ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0% ต่อที่ 2: ฟรีชุดแต่ง LUSSO หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD   YARIS ATIV NIGHTSHADE (Special Edition) ราคา 699,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ Ÿ ขยายระยะเวลาการคุ้มครอง TCFR Plus+ Ÿ ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด และเลือกรับข้อเสนอพิเศษอีก 2 ต่อ ต่อที่ 1: ผ่อนสบายเริ่มต้น 6,357 บาทต่อเดือน หรือ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0% ต่อที่ 2: ฟรีชุดแต่ง LUSSO หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD   YARIS ราคาเริ่มต้น 559,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ Ÿ ขยายระยะเวลาการคุ้มครอง TCFR Plus+ Ÿ ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด และเลือกรับข้อเสนอพิเศษอีก 2 ต่อ ต่อที่ 1: ผ่อนสบายเริ่มต้น 5,084 บาทต่อเดือน หรือ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0% ต่อที่ 2: ฟรีชุดแต่ง LUSSO หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD   VELOZ ราคาเริ่มต้น 795,000 บาท รับข้อเสนอ: ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care และโปรแกรมช่วยผ่อน 4,000 บาท/เดือน (เดือนที่ 1 – 6) ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง VELOZ X-URBAN ราคาพิเศษ 19,900 บาท (จากราคาปกติ 39,900 บาท) ของมีจำนวนจำกัด  

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวปิดท้ายการแถลงข่าวว่า “โตโยต้า มุ่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าให้กับลูกค้า ผ่านธุรกิจที่ครบวงจรของเรา นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการครอบครองรถ ทั้งบริการ T-Connect และ TCFR+ และขอเชิญชวนท่านรับบริการแลกเปลี่ยนรถคันเก่าจาก “โตโยต้า ชัวร์” นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการซื้อรถยนต์โตโยต้า เพราะเราได้จัดเตรียมข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย สำหรับช่วงเวลานี้ ทั้งแพ็กเกจด้านการเงินที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่นได้ง่ายขึ้น รวมทั้ง ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ ในรถยอดนิยมหลายรุ่น ทั้ง ยาริส เอทีฟ / ยาริส แฮทช์แบค / ไฮลักซ์ และฟอร์จูนเนอร์

ยิ่งไปกว่านั้น จากการที่บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้เปิดตัวมาตรการ “กระบะพี่    มีคลังค้ำ” ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อ “บสย. SMEs PICK-UP” โดยเปิดรับคำขอค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 นั้น ทางบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด มีข้อเสนอ และเงื่อนไขพิเศษในการพิจารณาสินเขื่อ ของลูกค้ากลุ่ม SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย ให้เป็นเจ้าของรถ Hilux REVO และ Hilux CHAMP ได้ง่ายที่สุด   เริ่มในงาน Motor Show นี้ กับดีลดีที่สุดแห่งปีจากโตโยต้าลีสซิ่ง สำหรับลูกค้า SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย ไม่ต้องรอ ออกรถได้เลยวันนี้ ดาวน์เริ่มต้น 0% ไม่ต้องมีผู้ค้ำ พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ อนุมัติง่าย เป็นเจ้าของไฮลักซ์ได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ลูกค้าทุกท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับข้อเสนอชุดอุปกรณ์ตกแต่งสุดพิเศษ เมื่อเลือกเป็นเจ้าของรถรุ่นที่กำหนด ตลอดจนส่วนลดพิเศษก่อนเริ่มงาน เพื่อให้ลูกค้าใช้เป็นส่วนลด เมื่อตัดสินใจซื้อรถภายในงาน รวมทั้งร่วมลุ้นจับรางวัลชิงโชคพิเศษ

และขอเชิญมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การช้อปสุดพิเศษที่บูธ GR Collection กับโปรโมชันสุดคุ้มที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งนักสะสมและสายสตรีทแฟชั่น พบกับสินค้าระดับพรีเมียมที่สะท้อนจิตวิญญาณของมอเตอร์สปอร์ต พร้อมสิทธิพิเศษเฉพาะในงานนี้เท่านั้น พิเศษ ยิ่งซื้อเยอะ ยิ่งลดเยอะ พบกับส่วนลดพิเศษสำหรับสินค้าทุกชิ้นภายในงาน เพื่อมอบความคุ้มค่าสูงสุดให้กับลูกค้า โดยซื้อ 1 ชิ้น รับส่วนลด 3% / ซื้อ 2 ชิ้น รับส่วนลด 5% / ซื้อ 3 ชิ้น รับส่วนลด 10% / ซื้อ 4 ชิ้นขึ้นไป รับส่วนลดสูงสุด 15% และเมื่อซื้อครบ 3,000 บาท รับฟรี GR T-Shirts

โตโยต้ายังมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ ที่จะนำมาซึ่งความไว้วางใจให้กับลูกค้าคนสำคัญของเรา และเราไม่เคยหยุดเดินหน้า เพื่อขับเคลื่อนโลกของเรา”

“ทุกคันมั่นใจ ไปสุดทุกดีล” กับโตโยต้า ทดลองขับ และรับข้อเสนอสุดพิเศษ เป็นเจ้าของรถได้ง่ายๆ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46  ระหว่างว้นที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน นี้ที่ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และฟอรั่ม ฮอลล์ 4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ เปิดตัว 3 รุ่นใหม่ เอาใจไบค์เกอร์ ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

“ไทยยามาฮ่ามอเตอร์” เนรมิตบูธสุดอลังการสะท้อนความสุดในทุกฟีล! ภายใต้แนวคิด “Feel The Unique Experience – สุดทุกทาง…ต่างทุกฟีล” เปิดตัว 3 รุ่นใหม่ สายพันธุ์ R-Series และ Sport Heritage อัดแน่นโปรโมชันมัดใจไบค์เกอร์ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในประเทศไทย พร้อมส่งมอบประสบการณ์ในทุกฟีลให้กับลูกค้ายามาฮ่า เนรมิตบูธยามาฮ่า “Feel The Unique Experience…สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล” มอบที่สุดแห่งประสบการณ์ให้กับลูกค้า เปิดตัวรถซูเปอร์สปอร์ตสายพันธุ์ R-Series รุ่นใหม่ New YAMAHA R9 และ New YAMAHA R3 และรถคลาสสิกสไตล์ Sport Heritage New YAMAHA SR400 Final Edition อัดแน่นโปรโมชันสุดพิเศษทั้งรถสแตนดาร์ด รถบิ๊กไบค์ เครื่องแต่งกาย และผลิตภัณฑ์ยามาลู้ป ผนึกกำลังพันธมิตรทางการค้า มอบที่สุดแห่งประสบการณ์ด้วยกิจกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้าของยามาฮ่าครบทุกไลฟ์สไตล์ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงแนวความคิดการออกแบบบูธยามาฮ่า รวมถึงการเปิดตัวรถใหม่ในปีนี้ว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยามาฮ่ามุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า ภายใต้ปรัชญา “Kando” และสโลแกน “Revs Your Heart” ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความประทับใจ และความพึงพอใจที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า ถ่ายทอดผ่านวิถีอันเป็นเอกลักษณ์ของยามาฮ่าทั้ง 5 ประการ ได้แก่ Innovation, Excitement, Confidence, Emotion และ Ties

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ยามาฮ่าได้เปิดตัวแบรนด์แคมเปญ “Feel The Unique Experience – สุดทุกทาง…ต่างทุกฟีล” เพื่อตอกย้ำความโดดเด่นและสร้างความแตกต่างในตลาดรถจักรยานยนต์ ด้วยผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมทางการตลาด ชูความเป็นผู้นำ Trend Setter ตัวจริงในวงการรถจักรยานยนต์ ด้วย สุด…ทุกการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ สุด…ทุกความเร้าใจในการขับขี่ สุด…ทุกสไตล์ สุด…ทุกความมั่นใจ และสุด…ทุกความเป็นตัวตน สำหรับงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ยามาฮ่าได้นำแคมเปญดังกล่าวมาต่อยอด ภายใต้บูธ “Feel The Unique Experience…สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล”ด้วยการออกแบบที่สะท้อนความเป็นตัวตนของยามาฮ่าอย่างชัดเจน ผ่านแนวคิด “Reflect Your Unique Identity” ที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในทุกมุมมอง

ในปีนี้บูธยามาฮ่าได้นำเสนอความ “สุดทุกทาง” ผ่านผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่หลากหลาย ซึ่งจะทำให้ทุกท่านได้สัมผัสถึงความ “ต่างทุกฟีล” อย่างแท้จริง เริ่มจาก Yamaha R-Series ซึ่งเปิดตัวในงานนี้ถึง 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ New YAMAHA R9 สุดยอดเทคโนโลยีจาก MotoGP ดีไซน์ล้ำสมัยด้วยเครื่องยนต์ CP3 ขนาด 890 ซีซี ที่แรงจัด เร้าใจทั้งบนถนนและในสนามแข่ง New YAMAHA R3 มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ปีกแอโรไดนามิก เพิ่มการทรงตัว ด้วยเครื่องยนต์ 321 ซีซี ที่ตอบสนองได้ทันใจทุกการขับขี่ ควบคุมง่าย คล่องตัวยิ่งขึ้น ดีไซน์ดุดัน เร้าใจ และอัดแน่นไปด้วย DNA ของ R-Series New YAMAHA SR400 ตำนานสองล้อคลาสสิกที่ครองใจชาวไทย ด้วยดีไซน์โดดเด่นที่คงความคลาสสิกไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่โคมไฟหน้าทรงกลม โช้คอัพหน้า-หลังแบบดั้งเดิม ระบบสตาร์ทเท้าไปจนถึงเครื่องยนต์สูบเดียวที่ให้สัมผัสการขับขี่แบบต้นตำรับ ความเรียบง่ายแต่แข็งแกร่งของ SR400 ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนักสะสม และผู้ที่หลงใหลในรถจักรยานยนต์คลาสสิกในประเทศไทย เปิดตัวสีใหม่ซึ่งเป็น Final Edition 2 สีด้วยกัน ได้แก่ สีแดง Deep Red Metallic เป็นสีพิเศษที่ยามาฮ่าไม่เคยทำมาก่อน และ สีเทา Dark Gray Metallic เพื่อให้ Yamaha SR400 เป็นตำนานที่จะอยู่ในใจทุกคนตลอดไป และนี่คือทั้ง 3 รุ่นใหม่ที่สร้างความ “สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล” ของบูธยามาฮ่า “Feel The Unique Experience…สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล” ในปีนี้”

นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการค้าและการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงรายละเอียดเพิ่มเติมของกิจกรรมการตลาดของบูธยามาฮ่าในปีนี้ว่า “สำหรับบูธยามาฮ่า  “Feel The Unique Experience…สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล” ในปีนี้ เราได้เตรียมความ “สุดทุกทาง” และ “ต่างทุกฟีล” ไว้ให้กับลูกค้ายามาฮ่ามากมาย

สุดแรก คือ สุด…ทุกการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ New YAMAHA R9 รถที่นำนวัตกรรมจากสนามแข่ง MotoGP มาใส่ในรถสแตนดาร์ดจากโรงงาน เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับความขับขี่ที่เร้าใจจากสนามแข่งสู่ถนนจริง นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงการทำงานของระบบ YECVT ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่รถออโตเมติกที่อยู่ใน All New Yamaha NMAX TECHMAX ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา และได้การตอบรับเป็นอย่างดี

สุดที่ 2 คือ สุด…ทุกความเร้าใจในการขับขี่ ยามาฮ่าร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ท่องเที่ยวให้กับลูกค้า โดยได้รับเกียรติจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการร่วมทำแคมเปญ “สุดทุกฟีล ชิลทุกวัน@ ภาคตะวันออก” ร่วมกับอัมรินทร์ทีวี และ Traveloka จัดสิทธิพิเศษส่วนลดให้กับลูกค้ายามาฮ่าทั้ง กิน ช้อป เที่ยว รวมทั้งยังมีกิจกรรม XMAX Exclusive Trip ทริปสุด Unseen ที่ออกแบบโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้ลูกค้ายามาฮ่าได้ร่วมทริปสุดพิเศษ รับรองว่าจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างแน่นอน

สุดที่ 3 คือ สุด…ทุกสไตล์ ยามาฮ่าพร้อมเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ทั้งแฟชั่น เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ดูหนัง ฟังเพลง และกีฬา รวมไปถึง e-Sport โดยในงานนี้ยามาฮ่าร่วมมือกับบริษัท Warrix ซึ่งเป็นบริษัทแฟชั่นกีฬาชั้นนำ ร่วมทำกิจกรรม พร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถในงานมอเตอร์โชว์ สำหรับสาย Gamer ยามาฮ่าได้ร่วมกับ BURIRUM E-Sport จัดทำ Exclusive Training ให้กับลูกค้ายามาฮ่า และสำหรับสายเอ็นเตอร์เทนเม้น ยามาฮ่าได้ร่วมกับพาร์เนอร์แบรนด์ต่างๆ จัดดูหนัง ฟังเพลง ให้ลูกค้ายามาฮ่าทั่วประเทศ ซึ่งทุกท่านสามารถติดตามกิจกรรมของยามาฮ่าได้ตลอดทั้งปี

สุดที่ 4 คือ สุด…ทุกความมั่นใจ ยามาฮ่าเป็นแบรนด์แรกในวงการรถจักรยานยนต์ที่สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าโดยมอบรับประกัน 5 ปี และในปีนี้ ยามาฮ่าไม่ได้ดูแลแค่ตัวรถ แต่เราจะดูแลลูกค้าไปพร้อมกันด้วยแคมเปญ “แคร์สุดX2” โดยยามาฮ่าร่วมกับทิพยประกันภัย มอบประกันอุบัติเหตุ และคุ้มครองชดเชยรายได้ มูลค่าสูงสุดถึง 30,000 บาท ให้ลูกค้า YAMAHA FAZZIO และ YAMAHA FINN ที่ซื้อรถตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมถึง 30 มิถุนายนนี้ เพื่อให้ลูกค้ายามาฮ่ามั่นใจทุกครั้งที่ขับขี่

สุดที่ 5 คือ สุด…ทุกความเป็นตัวตน ยามาฮ่าได้เตรียม Inspiration เพื่อให้ลูกค้าได้สะท้อนความเป็นตัวตนให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้นผ่านรถแต่งทั้ง 5 รุ่นยอดนิยม ได้แก่ YAMAHA FAZZIO Racing Toy Pop Art, YAMAHA GRAND FILANO Midcentury Classy Sport, YAMAHA NMAX Sport Cyber Punk, YAMAHA XMAX Super Black Sport Muscle และ YAMAHA AEROX Super Racing Sport

นอกจากนี้เรายังมีรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าครบทุกเซ็กเม้นท์มาจัดโปรโมชันสุดพิเศษภายในงานอย่างครบครัน อีกทั้งยังมียานยนต์ทางน้ำอย่าง YAMAHA WaveRunner และ YAMAHA Super Jet รวมทั้งเครื่องแต่งกาย YAMAHA Apparel & Accessories ให้ทุกท่านได้เลือกช้อปตามสไตล์ของตัวเอง ขอให้ทุกท่านได้ร่วมชมนวัตกรรมจากยามาฮ่า และร่วมสนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆภายในบูธของเรานะครับ”

พร้อมกันนี้ยังมี YAMAHA Rev Idol ที่มีดีกรีระดับมิสแกรนด์ “น้องผ้าไหม – อรอนงค์ อินทร์ทุ่ม มิสแกรนด์สตูล 2023 และ “น้องอายตา – อารยา เยื่องเสือ” มิสแกรนด์กาญจนบุรี 2023 และ YAMAHA Advisor หนุ่มหล่อ สาวสวย Gen ใหม่ จากไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ที่พร้อมให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกแก่ทุกท่านภายในบูธยามาฮ่า “Feel The Unique Experience…สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล”

ยามาฮ่าพร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่สะท้อนตัวตนอันโดดเด่นของผู้ขับขี่ ผ่านนวัตกรรมล้ำสมัย กิจกรรมสุดเร้าใจ และโปรโมชันสุดคุ้มค่า ภายในบูธยามาฮ่า “Feel The Unique Experience…สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล” เชิญร่วมสัมผัสความพิเศษนี้ได้ที่บูธยามาฮ่า ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 แล้วมาค้นหาความเป็นตัวคุณไปพร้อมกับยามาฮ่า วันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี สามารถติดตาม และชมรายละเอียดของบูธยามาฮ่าได้ที่ www.yamaha-motor.co.th หรือที่ Facebook: Yamaha Society Thailand

ไทยฮอนด้า จัดเต็ม เปิดตัวไลน์อัปจักรยานยนต์ครบทุกสไตล์ถึง 9 รุ่น ใน Motor Show 2025

ไทยฮอนด้า จัดเต็ม เปิดตัวไลน์อัปจักรยานยนต์ครบทุกสไตล์ถึง 9 รุ่น นำโดยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUV e:” และบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่ทุกคนรอคอย “New Honda Forza750” ใน Motor Show 2025

กรุงเทพฯ – 24 มีนาคม 2568 : ฮอนด้า โดย บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด และ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผนึกกำลังต่อเนื่อง จัดเต็มไลน์อัปผลิตภัณฑ์ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ (Power Products) ในงาน Motor Show 2025 ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่อยู่เคียงข้างสังคมไทย ที่พร้อมสร้างความสุขและขับเคลื่อนการใช้ชีวิตอย่างอิสระในหลากหลายรูปแบบผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ

ภายในบูทมีการแบ่งโซนการจัดแสดงออกเป็น 3 โซนหลัก เพื่อความสะดวกในการเข้าชม แบ่งเป็น

Product Zone : ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถยนต์ นำโดย “Honda City Hatchback DRIVAL” รุ่นพิเศษ ที่ได้รับการอัปเกรดดีไซน์ เพิ่มเติมความสปอร์ตสุดเท่ ดุดัน เร้าใจ พร้อมสะกดทุกสายตา ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ นำโดย “New Honda Forza750” บิ๊กสกู๊ตเตอร์เรือธงที่มาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยี และสมรรถนะที่เหนือคลาส และ “New Honda CB1000 Hornet SP” ซูเปอร์ Naked ไบค์ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ พร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ครบครัน ตามด้วยโมเดลพิเศษ “New Honda Monkey Chrome Legacy” รุ่น Limited Edition ที่ได้รับการออกแบบพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีไทยฮอนด้า รวมถึง “All New Honda Scoopy x Kuromi” ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก พร้อมให้แฟนๆ ได้จับจอง 2,000 คันเท่านั้น

Innovative Zone : จัดแสดงผลิตภัณฑ์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% โดยไฮไลต์ของโซนนี้ นำโดย “Honda e:N1” รถ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้า พร้อมเปิดให้จองและจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้ลูกค้าทั่วไปได้เป็นเจ้าของ และ สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับไปกับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUV e:” ที่จะมาสร้างนิยามใหม่ของความทันสมัยทั้งด้านดีไซน์และประสิทธิภาพ

Lifestyle Zone : โซนโชว์เคสผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในหลายมิติ ทั้งรถ SUV รถจักรยานยนต์ที่ตอบโจทย์สายลุยอย่างสไตล์แอดเวนเจอร์ และสไตล์เทรล

มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ในโอกาสที่ปีนี้ ไทยฮอนด้าครบรอบ 60 ปี เพื่อเป็นการขอบคุณและสร้างความพิเศษให้กับทุกท่าน รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าใหม่ ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ผสานกับนวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในทุกการเดินทางด้วยกันถึง 9 รุ่น ด้วยกัน”

ในส่วนของผลิตภัณฑ์ไลน์อัป Honda Technology นำโดย “New Honda CUV e:” รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมคอนเซปต์ ‘Smart Ride, Future Ready’ โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัยรอบคัน มาพร้อมกับไฟหน้าและไฟท้ายแบบไฟ LED เสริมประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยเทคโนโลยี Honda RoadSync duo (เฉพาะรุ่น Connectivity) และระบบช่วยถอยหลัง ที่จะช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ตามด้วยหน้าจอแสดงผล TFT ที่มีขนาดใหญ่ถึง 7 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Connectivity, รุ่น Standard ขนาด 5 นิ้ว) รองรับทุกการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode) และโหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) อีกทั้งยังมอบความเร็วสูงสุด 83 กม./ชม. สามารถวิ่งได้ในระยะทางมากกว่า 70 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUV e:” พร้อมเปิดให้เช่าใช้บริการ ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Standard และรุ่น Connectivity มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ (Mat Gunpowder Black Metallic) และ สีขาว (Pearl Jubilee White) สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์เป็นผู้เช่าในราคาพิเศษเฉพาะในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 จำกัดจำนวนเพียง 100 สิทธิ์เท่านั้น

ตามด้วยเทคโนโลยี Honda E-Clutch ที่ได้ถ่ายทอดลงสู่คลาส 300 ซีซี ถึง 2 รุ่นอย่าง “New Honda CL300” รถจักรยานยนต์ Scrambler สไตล์สายลุยแบบคลาสสิก และ “New Honda Rebel300” รถจักรยานยนต์คัสตอมบ็อบเบอร์ ที่ได้เพิ่มเทคโนโลยีควบคุมระบบคลัตช์ด้วยไฟฟ้า เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างลื่นไหล โดยไม่ต้องกำคลัตช์ ทำให้การขับขี่รถสปอร์ตเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้น

“New Honda CL300” พร้อมวางจำหน่ายสีดำ (Mat Gunpowder Black) เปิดตัวในราคาแนะนำที่ 159,900 บาท และ “New Honda Rebel300” พร้อมวางจำหน่าย สีดำ (Pearl Shining Black) ราคาแนะนำที่ 159,900 บาท

รวมถึง “New Honda ADV350” รถจักรยานยนต์ SUV Bike ที่พัฒนานำเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล TFT ใหม่ ขนาด 5 นิ้ว พร้อมระบบการเชื่อมต่อที่ทันสมัยอย่าง Honda RoadSync รองรับทุกความต้องการของผู้ขับขี่ และปุ่มคอนโทรลเลอร์ดีไซน์ใหม่ แบบมัลติฟังก์ชันสั่งการได้หลายระดับ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม รุ่น Standard Type พร้อมวางจำหน่าย 3 สี ได้แก่ สีแดง-ดำ CANYON RED, สีน้ำเงิน OCEAN BLUE และสีดำ CHARCOAL BLACK ราคาแนะนำที่ 189,900 บาท

นอกจากรุ่น Standard แล้ว ฮอนด้ายังได้นำเสนอ Special Edition จากสำนักแต่ง H2C by Honda ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สายแอดเวนเจอร์ตัวจริง เสริมความเท่อีกระดับด้วยชุดอุปกรณ์แต่งรอบคันถึง 11 ชิ้น รุ่น “New Honda ADV350 Unstoppable Touring Edition” พร้อมวางจำหน่ายในราคาแนะนำที่ 204,400 บาท

และขอแนะนำ อีกหนึ่งโมเดลเรือธงที่ทุกคนรอคอยในคลาส 750 Series กับ “New Honda Forza750” บิ๊กสกู๊ตเตอร์เรือธงที่มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือคลาสด้วยเครื่องยนต์ 750 ซีซี OHC 4 วาล์ว 2 สูบเรียง ผสานเทคโนโลยี Dual Clutch Transmission (DCT) เปลี่ยนเกียร์สมูทไม่ต้องกำคลัตช์ ส่งตรงดีเอ็นเอความแรงจากรถบิ๊กไบค์สู่ท้องถนน มาพร้อมหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 5 นิ้ว ปรับดีไซน์ใหม่ให้ตอบโจทย์การมองเห็นที่ชัดเจนยิ่งขึ้น รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Honda RoadSync พร้อมปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 4 โหมด (Standard, Rain, User, Sport) ให้การควบคุมรถมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น อีกทั้งตอบโจทย์สายทัวร์ริ่งด้วยระบบ Cruise Control ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติเหมาะสำหรับการขับขี่ทางไกลและในเมืองได้อย่างดีเยี่ยม

New Honda Forza750 มาในดีไซน์โฉมใหม่ สปอร์ต ดุดัน แต่ยังคงความพรีเมียมไว้ได้อย่างลงตัว โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า LED โคมคู่ พร้อม Daytime Running Lights (DRL) ให้ความสปอร์ตเต็มขั้นด้วยไฟเลี้ยวแบบ Built-in ให้การขับขี่มั่นใจด้วยล้อหน้าขนาด 17 นิ้ว และล้อหลังขนาด 15 นิ้ว พร้อมโช้กหน้าหัวกลับขนาด 41 มม. ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและมอบการทรงตัวที่มั่นคง รวมถึงกระจกบังลมไฟฟ้าอัตโนมัติขนาดกว้างขึ้นถึง 25% ปรับความสูงได้ถึง 120 มม. New Honda Forza750 พร้อมวางจำหน่าย 3 สีใหม่ ได้แก่ สีน้ำตาล (Mat Warm Ash Metallic) สีดำ (Mat Ballistic Black Metallic) และสีเทา (Iridium Gray Metallic) ราคาแนะนำที่ 419,000 บาท

ตามด้วย “New Honda CB1000 Hornet SP” ซูเปอร์ Naked ไบค์ระดับท็อปคลาส ผสานความแรงจากสนามแข่งเข้ากับการออกแบบที่ดุดันในแบบสปอร์ต Naked ให้ความแรงที่สุดในคลาสด้วยเครื่องยนต์ 1000 ซีซี 4 สูบเรียง พร้อมไปทุกเส้นทางด้วยโช้ก Öhlins ปรับได้เต็มรูปแบบควบคุมรถได้ดั่งใจ พร้อมปั๊มเบรก Brembo ให้ความแม่นยำทุกครั้งที่หยุดรถ ควบคุมง่ายดั่งใจด้วย Quick Shifter ที่ปรับได้ 3 ระดับ ระบบคันเร่งไฟฟ้า (Throttle-by-Wire), Riding Mode ที่ปรับได้ถึง 5 โหมด และ Honda Selectable Torque Control (HSTC) ที่ช่วยควบคุมการหมุนล้อหน้าและล้อหลังให้สัมพันธ์กัน แสดงผลด้วยเทคโนโลยีหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านแอปพลิเคชัน Honda RoadSync พร้อมไฟแบ็กไลท์ที่แฮนด์บาร์ใช้งานสะดวก เชื่อมต่อได้ทุกเส้นทาง New Honda CB1000 Hornet SP พร้อมวางจำหน่าย ‘สีดำ MAT BALLISTIC BLACK METALLIC’ ในราคาแนะนำที่ 489,000 บาท

สำหรับสาย Fashion A.T. เปิดตัวด้วยโมเดลสุดเอกซ์คลูซีฟ “All New Honda Scoopy x Kuromi Limited Edition” เป็นการ Collab ครั้งแรกของรุ่น All New Honda Scoopy ในโอกาสฉลองครบรอบ 20 ปี ของ Kuromi ตัวร้ายสุดแสบจาก Sanrio มาพร้อมคอนเซปต์สุดซ่าอย่าง “The ICONIC Sassiness เพื่อนตัวป่วน ชวนไปสุดเทรนด์” นำเสนอความแสบซนด้วยสีดำ-ม่วง สีเอกลักษณ์ของ Kuromi พร้อมลวดลายตัวป่วนทั่วทุกมุมรถ โดดเด่นด้วยสติกเกอร์ 3D Emblem ครบรอบ 20 ปี และเสริมความลิมิเต็ดขั้นสุดกับสติกเกอร์ Serial Number รันเลขที่ตั้งแต่ 0001 – 2000 คัน มาพร้อม Box set สุดป่วน ได้แก่ Honda Smart Key พร้อมเคสลาย Kuromi ครบรอบ 20 ปี อีกทั้งหมวกกันน็อก และเสื้อยืดแขนยาวลาย Kuromi แมตช์กับสีรถได้อย่างลงตัว สำหรับ All New Honda Scoopy x Kuromi Limited Edition ผลิตจำนวนจำกัด 2,000 คันเท่านั้น ราคาแนะนำที่ 60,800 บาท พร้อมเปิดรับจองที่งานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 เป็นที่แรก และ Honda Wing Center ทุกสาขา

ตามมาด้วย “New Honda Lead125” เปิดตัวสีเทาใหม่ ‘Matte Gray’ เติมความมินิมอลให้ลงตัว กับ Special Edition สีเทาแมทท์ มาพร้อมคอนเซปต์ “Minimal Matters ชีวิตลงตัวแน่ แค่มินิมอล” ที่มาพร้อม Emblem สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยหน้ากากด้านหน้า เสริมลุคสปอร์ตด้วยโช้ก และคาลิปเปอร์เบรกสีแดง รวมถึงล้อสีดำด้านเสริมลุคสปอร์ตให้ชัดเจนขึ้น ไฟท้าย LED ฟังก์ชันครบครันตอบโจทย์คนเมือง New Honda Lead125 รุ่น Special Edition พร้อมวางจำหน่ายสีเทาใหม่ (Matte Gray) พร้อมกับ สีดำ (Black) ในราคาแนะนำ 62,500 บาท

พร้อมกันนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ไทยฮอนด้า ขอนำเสนอโมเดลพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองไปกับ “New Honda Monkey Chrome Legacy” รุ่น Limited Edition ที่คัสตอมขึ้นมาพิเศษ โดดเด่นด้วยสีโครเมียมทั้งคัน ตั้งแต่ตัวถังน้ำมันโครเมียมสวยสะดุดตาสไตล์กคลาสสิก และฝาครอบข้างที่เป็นโครเมียม ตัดกับเบาะหนังสีดำที่โชว์หมุดสแตนแลสให้ความหรูหราคลาสสิก พร้อมแสดงเอกลักษณ์ความซนในตำนานกับ 3D Soft Emblem โลโก้เจ้าลิงซนครบรอบ 60 ปีไทยฮอนด้า เสริมความลิมิเต็ดด้วย Chrome Edition Serial Number รันเลขตามจำนวนคันที่ผลิต พิเศษ! มาพร้อมกับหมวกกันน็อกสีเงินเมทัลลิค ที่เข้าเซ็ตกับตัวรถได้อย่างลงตัว เปิดตัวในราคาแนะนำที่ 117,000 บาท โดยเปิดพรีออเดอร์ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 และสามารถจองได้ที่ CUB House Flagship Store ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 เท่านั้น

นอกจากนี้ ไทยฮอนด้ายังแสดงวิสัยทัศน์แห่งอนาคต พร้อมกับเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ตลาดเครื่องยนต์เรือ ด้วยการนำเครื่องยนต์เรือ Outboard Engine รุ่น “All New Honda BF250 V6” ที่เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ นำมาจัดแสดงภายในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 ครั้งนี้อีกด้วย

สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมและสัมผัสประสบการณ์ได้ที่บูทฮอนด้า (A26 และ M1) งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 (The 46th Bangkok International Motor Show) อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 พร้อมด้วยหลากหลายข้อเสนอพิเศษในการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ทั้งภายในงานฯ และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

ฮอนด้า จัดเต็ม ไลน์อัปผลิตภัณฑ์หลากหลาย ในงาน Motor Show 2025

ฮอนด้า จัดเต็ม ไลน์อัปผลิตภัณฑ์หลากหลาย ที่จะพาทุกชีวิตขับเคลื่อนไปข้างหน้า พร้อมเสิร์ฟหนัก ด้วยแคมเปญและข้อเสนอพิเศษสุดปัง ในงาน Motor Show 2025

กรุงเทพฯ – 24 มีนาคม 2568 : ฮอนด้า โดยบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผนึกกำลังต่อเนื่อง จัดเต็มไลน์อัปผลิตภัณฑ์ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ (Power Products) ในงาน Motor Show 2025 ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่อยู่เคียงข้างสังคมไทย ที่พร้อมสร้างความสุขและขับเคลื่อนการใช้ชีวิตอย่างอิสระในหลากหลายรูปแบบผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ

ภายในบูทมีการแบ่งโซนการจัดแสดงออกเป็น 3 โซนหลัก เพื่อความสะดวกในการเข้าชม แบ่งเป็น

-Product Zone : ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถยนต์ นำโดย “Honda City Hatchback DRIVAL” รุ่นพิเศษ ที่ได้รับการอัปเกรดดีไซน์ เพิ่มเติมความสปอร์ตสุดเท่ ดุดัน เร้าใจ พร้อมสะกดทุกสายตา ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ นำโดย “New Honda Forza750” บิ๊กสกู๊ตเตอร์เรือธงที่มาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยี และสมรรถนะที่เหนือคลาส และ “New Honda CB1000 Hornet SP” ซูเปอร์ Naked ไบค์ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ พร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ครบครัน ตามด้วยโมเดลพิเศษ “New Honda Monkey Chrome Legacy” รุ่น Limited Edition ที่ได้รับการออกแบบพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีไทยฮอนด้า รวมถึง “New Honda Scoopy x Kuromi” ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก พร้อมให้แฟนๆ ได้จับจอง 2,000 คันเท่านั้น

-Innovative Zone : จัดแสดงผลิตภัณฑ์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% โดยไฮไลต์ของโซนนี้ นำโดย “Honda e:N1” รถ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้า พร้อมเปิดให้จองและจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้ลูกค้าทั่วไปได้เป็นเจ้าของ และสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับไปกับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUVe:” ที่จะมาสร้างนิยามใหม่ของความทันสมัยทั้งด้านดีไซน์และประสิทธิภาพ

-Lifestyle Zone : โซนโชว์เคสผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในหลายมิติ ทั้งรถ SUV รถจักรยานยนต์ที่ตอบโจทย์สายลุยอย่างสไตล์แอดเวนเจอร์และสไตล์เทรล

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมและสัมผัสประสบการณ์ได้ที่บูทฮอนด้า (A26) งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 (The 46th Bangkok International Motor Show) อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 พร้อมด้วยหลากหลายข้อเสนอพิเศษในการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ทั้งภายในงานฯ และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

นายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การผนึกกำลังอย่างต่อเนื่องของกลุ่มบริษัทฮอนด้าประเทศไทยในปีนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งในฐานะแบรนด์ที่ส่งมอบความสุขและอิสระในการขับเคลื่อนผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ให้ความไว้วางใจและการสนับสนุนฮอนด้าเป็นอย่างดีมาโดยตลอด จนทำให้เราบรรลุความสำเร็จในการผลิตรถยนต์นั่งครบ 4 ล้านคันในประเทศไทย ความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตและส่งออกหลักของฮอนด้า อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะเติบโตเคียงข้างสังคมไทยอย่างยั่งยืน เพื่อต่อยอดความสำเร็จในครั้งนี้ไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ในปีนี้เราจะยกระดับการนำเสนอคุณค่าของแบรนด์ พร้อมเดินหน้าในการส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าในทุกทัชพอยต์ ภายใต้แนวคิด “Where The Drive Means More ฮอนด้า ขับเคลื่อนชีวิต…ไปให้สุดในแบบที่เป็นคุณ” เพื่อถ่ายทอดให้เห็นว่า รถยนต์ของเราเป็นมากกว่ายานพาหนะ เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจที่วางใจได้ ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างและขับเคลื่อนแรงบันดาลใจ เพื่อมอบความสุขในทุกการเดินทางและทุกช่วงเวลาของชีวิต ขอให้ทุกท่านติดตามทิศทางการเปลี่ยนแปลงของฮอนด้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไปด้วยกัน”

โดยไฮไลต์ของบูทฮอนด้าในปีนี้ ประกอบด้วย

•Honda City Hatchback DRIVAL ซิตี้คาร์ 5 ประตูสไตล์สปอร์ตแฮทช์แบ็กสุดเท่ รุ่นพิเศษ เปิดให้จองและจำหน่ายในราคา 829,000 บาท มาพร้อมสีภายนอก สีขาวแพลทินัม (มุก) พร้อมหลังคาสีดำ (ทูโทน) และมีให้เลือกในรุ่นย่อย e:HEV RS จำนวนจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น! มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่ 24 มีนาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2568

-ทางเลือกที่ 1 : ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ ค่างวดเริ่มต้น 8,108 บาท (คำนวณจากรถยนต์ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*

-ทางเลือกที่ 2 :  ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 2.2%* สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty)  และดอกเบี้ย 2.35%* สำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*

ข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 30 เมษายน 2568

Honda City Hatchback DRIVAL มาพร้อมกับการอัปเกรดดีไซน์เพิ่มเติมความสปอร์ตสุดเท่ ดุดัน เร้าใจ สะกดทุกสายตา ด้วยชุดแต่งภายนอกรอบคันใหม่ สุดพิเศษ ใครเห็นก็ต้องบอกว่าทำถึง! ไม่ว่าจะเป็น

oสเกิร์ตหน้าทูโทน และสเกิร์ตหลังทูโทน (Front & Rear Under Spoiler)

oคิ้วตกแต่งกันชนหน้าด้านล่าง (Front Center Garnish)

oชุดตกแต่งไฟตัดหมอก (Front Fog Garnish)

oคิ้วตกแต่งกันชนหลังด้านล่าง (Extend Rear Bumper Garnish)

oหลังคาสีดำ (Roof Black Paint)

oโลโก้รุ่นย่อยพิเศษ DRIVAL เห็นเด่นชัดด้านท้าย

oโลโก้ H-Mark สีดำทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (H-mark Front-Rear)

oโลโก้รุ่นรถสีดำ (City Emblem)

oล้ออัลลอยสีดำ (Black Alloy Wheel)

oสปอยเลอร์หลังสีดำ (Black Tailgate Spoiler)

oสเกิร์ตข้าง (Side Under Spoiler R/L)

oมือจับประตูสีดำ (Black Door Handle)

oชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง (Tailgate Spoiler Garnish)

Honda City Hatchback e:HEV พร้อมทะยานไปกับขุมพลังขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว และเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ที่จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความเร้าใจตั้งแต่ออกตัว ด้วยแรงบิดมอเตอร์ถึง 253 นิวตัน-เมตร ให้อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดที่ 27.8 กม./ลิตร เพิ่มความมั่นใจไปกับ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟังก์ชันระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) และฟีเจอร์เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยครบครัน เช่น ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) เป็นต้น ภายในกว้างขวาง มาพร้อมวัสดุเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีแดง พร้อมเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) แยกพับ 60:40 ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มสเปซการใช้งานอเนกประสงค์ได้ดั่งใจ

Honda e:N1 ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้า ที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปยนตรกรรม xEV ของฮอนด้าอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเปิดให้จองและจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้กับลูกค้าทั่วไปได้เป็นเจ้าของ ในราคา 1,199,000 บาท สำหรับสีดำคริสตัล (มุก) และสำหรับสีขาวแพลทินัม (มุก) ในราคา 1,203,000 บาท สัมผัสประสบการณ์ใหม่อย่างเชื่อมั่น ด้วยการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งระบบ 8 ปี หรือ 160,000 กม.* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมรับข้อเสนอเมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 – 31 กรกฎาคม 2568 รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%* (ส่วนลดดอกเบี้ย 0.3%) สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) สำหรับลูกค้าทั่วไปรับดอกเบี้ย 1.99%* พร้อมรับ

-ฟรี ประกันภัย 1 ปี*

-ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมบริการติดตั้ง และสายชาร์จแบบพกพา*

-ฟรี รับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ 140,000 กม.* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-รับเพิ่มแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ ตามตารางการบำรุงรักษาที่ระบุไว้ในสมุดรับประกัน 5 ปี หรือ 100,000 กม.* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

อุ่นใจไร้กังวลตลอดการใช้งานด้วยเครือข่ายศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ Honda e:N1 มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกความเป็นยนตรกรรมไฟฟ้าด้วยโลโก้ H Mark ใหม่ สไตล์พรีเมียม มินิมอล ภายในกว้างขวางนั่งสบาย พร้อมไฟสร้างบรรยากาศสีฟ้า เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชันล้ำสมัย ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ อาทิ

-ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 15.1 นิ้วแบบ Advanced Touch ที่รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto

-อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย

-ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง

-มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว

ขับสนุก เร่งแรง แต่ยังคงความนุ่มนวลในทุกจังหวะ ด้วยขุมพลังขับเคลื่อนไฟฟ้า 100% จากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3-in-1 (Motor, Power Drive Unit และ Gearbox) ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า (PS) มอบแรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 68.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สูงสุด 500 กม. (มาตรฐาน NEDC) มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และเทคโนโลยีความปลอดภัยอื่น ๆ อย่างครบครัน ให้คุณมั่นใจตลอดการเดินทาง เช่น

-ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information – BSI)

-ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor – CTM)

-กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)

-เซนเซอร์กะระยะ 8 จุด (8-position Parking Sensors)

-ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) เป็นต้น

นอกจากนี้ ในบริเวณโซนจัดแสดง Product Zone ฮอนด้ายังมาพร้อมรถยนต์หลากหลายรุ่นครบทุกเซกเมนต์และครอบคลุมทุกไลน์อัปให้ทุกคนได้สัมผัส เริ่มต้นที่

ไลน์อัประบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงในปัจจุบัน มอบความแรงเกินคาด ประหยัดเกินใคร ให้คุณใช้ชีวิตได้อิสระ และพาคุณไปได้ไกลกว่าด้วยน้ำมัน 1 ถัง และมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่น นำโดย

-The new Honda HR-V e:HEV สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวียอดนิยม ที่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง อัปลุคดีไซน์สปอร์ตใหม่รอบคัน ขับสนุกและประหยัดด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และประหยัดน้ำมันถึง 25.6 กม./ลิตร พาคุณไปได้ไกลกว่า 900 กม. ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง** ครบครันด้วยฟังก์ชันเพื่อการขับขี่และอำนวยความสะดวก*** ที่รองรับกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ใช้งาน อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ราคาเริ่มต้น 949,000 บาท

-Honda Accord e:HEV โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม มอบสมรรถนะที่ดีในทุกการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัวในระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 25 กม./ลิตร สามารถขับไปได้ไกลกว่า 900 กม.ด้วยน้ำมัน 1 ถัง** มาพร้อมหลากหลายเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีการขับขี่อื่น ๆ*** อาทิ Google built-in ปุ่ม Experience Selection Dial ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง และระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ด้วยราคาเริ่มต้น 1,529,000 บาท

-Honda CR-V e:HEV ยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวี 5 ที่นั่ง มาพร้อมดีไซน์ที่แข็งแกร่งในทุกมิติ พร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ให้การตอบสนองได้แรงทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร (รุ่น e:HEV ES) สามารถขับไปได้ไกลกว่า 900 กม. ด้วยน้ำมัน 1 ถัง** ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับพรีเมียม*** พร้อมเติมเต็มทุกความอเนกประสงค์และตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งไลฟ์สไตล์ในเมืองและนอกเมืองอย่างลงตัว ในราคาเริ่มต้นที่ 1,589,000 บาท (รุ่น e:HEV ES)

-City Series ไลน์อัป e:HEV นำโดย Honda City e:HEV ซิตี้คาร์ซีดานยอดนิยมสำหรับคนรุ่นใหม่ และ Honda City Hatchback e:HEV อีกหนึ่งทางเลือกของรถซิตี้คาร์สไตล์สปอร์ต 5 ประตู ที่มาพร้อมพื้นที่อเนกประสงค์กับเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) อันเป็นเอกลักษณ์จากฮอนด้าทั้งสองรุ่น มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองดั่งใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังให้ทั้งอัตราเร่งแรงเร้าใจ ประหยัดน้ำมันสูงสุด 27.8 กม./ลิตร พร้อมพาคุณเดินทางสู่ทุกจุดหมายและไปได้ไกลกว่า 800 กม. ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง** ในราคาเริ่มต้นเพียง 599,000 บาท

ไลน์อัปขุมพลังเทอร์โบ มอบประสบการณ์ขับสนุก อัตราเร่งเร้าใจ สไตล์สปอร์ต แต่ยังคงความประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี มั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่น นำโดย

-The New Honda Civic ไอคอนยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ และไฟท้ายแบบ LED รมดำ ภายในห้องโดยสารกว้างสบาย ให้ความรู้สึกเท่ สปอร์ต ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคล่องตัว เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชันและฟีเจอร์เพื่อการขับขี่และอำนวยความสะดวกที่ครบครัน*** มาพร้อมขุมพลัง VTEC TURBO 1.5 ลิตร มอบความแรงเร้าใจด้วยกำลังสูงสุด 178 แรงม้า ให้อัตราการประหยัดน้ำมัน 17.2 กม./ลิตร โดยรุ่น EL+ ราคา 1,039,000 บาท

-City Series ไลน์อัป TURBO นำโดย Honda City ซิตี้คาร์ยอดนิยม โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว และภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย และ Honda City Hatchback มาพร้อมเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR Seat) อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมขุมพลัง VTEC TURBO 1.0 ลิตร ที่มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ขับสนุกพร้อมตอบสนองทุกการเดินทาง ครบครันด้วยหลากหลายฟังก์ชันการใช้งาน*** สำหรับ City Turbo ประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.8 กม./ลิตร และ City Hatchback Turbo ประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.3 กม./ลิตร ด้วยราคาเริ่มต้น 599,000 บาท

สำหรับแฟนฮอนด้าสายสปอร์ต ห้ามพลาด! พบกับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นยอดนิยม ที่ได้รับการเสริมความสปอร์ตโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งสุดพรีเมียมจากโมดูโล (Modulo) ที่คัดสรรมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งสายแต่งรถ และสายอเนกประสงค์ โดยมีให้เลือกทั้งรูปแบบไอเท็มและแพ็กเกจรอบคัน นำโดย

CR-V (รุ่น e:HEV RS) กับชุดแต่ง Modulo ในคอนเซ็ปต์ Vibrant SUV ที่จะมาเสริมความพรีเมียมที่ลงตัวให้กับ Honda CR-V e:HEV มากกว่าที่เคยเป็น ด้วย

-ชุดแต่งรอบคันแบบพรีเมียมสปอร์ต แพ็กเกจ (RS) ซึ่งประกอบด้วยกันชนหน้าแบบสปอร์ต ชุดตกแต่งกันชนด้านหลัง คิ้วตกแต่งกระจังหน้าแบบโครเมียม บันไดข้าง และชุดตกแต่งฝาท้ายคิ้วโครเมียม ในราคา 45,000 บาท นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งภายใน อย่างไฟส่องสว่างประตูคู่หน้าแบบ LED โลโก้ CR-V ราคา 4,350 บาทและใหม่ล่าสุด! เสริมลุคสปอร์ต พร้อมเพิ่มความโดดเด่นด้วยชุดโลโก้สีดำ ในราคา 1,500 บาท

The New Honda HR-V e:HEV (รุ่น e:HEV EL) กับชุดแต่ง Modulo ในคอนเซ็ปต์ More premium, More sporty ที่จะมายกระดับความพรีเมียมด้วย

-แพ็กเกจ Modulo Urban Shark Grey พร้อมเติมเต็มลุค Everyday Sport อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยชุดแต่งรอบคันประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตหลัง และสเกิร์ตข้างสี Shark Grey ในราคา 21,000 บาท

-แพ็กเกจ Utility พร้อมเสริมความอเนกประสงค์ในการใช้งานประกอบด้วย ม่านบังแดดผู้โดยสารตอนหลัง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้ายรถ ในราคา 4,800 บาท อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานด้วยชุดไฟส่องสว่างบริเวณฝาท้ายรถในราคา 2,500 บาท

แพิเศษสุด เอาใจสาวกฮอนด้า ด้วยชุดแต่งรอบคันจาก มูเกน (MUGEN) ที่ได้รับการติดตั้งมาใน The New Honda HR-V e:HEV (รุ่น e:HEV EL) จัดเต็มมอเตอร์สปอร์ต DNA พร้อมฉีกทุกกฎเกณฑ์เเห่งอัตลักษณ์อันไร้ขีดจำกัด และสร้างความโดดเด่นแบบ Aggressive Sport ด้วยชุดแต่งรอบคัน อาทิ

-สปอยเลอร์หน้า ราคา 22,400 บาท

-สเกิร์ตข้าง ราคา 32,000 บาท

-สปอยเลอร์หลัง ราคา 22,600 บาท

-สปอยเลอร์วิงหลัง ราคา 34,000 บาท

-สปอยเลอร์วิงหลัง (ตรงกลาง) ราคา 34,000 บาท

-เพิ่มความโดดเด่น ดุดันด้วยล้ออะลูมิเนียม MDW 18×7.5J สีดำ ในราคารวมสี่ล้อที่ 54,360 บาท

โดยจัดจำหน่ายผ่านโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ พร้อมรับประกันอุปกรณ์ตกแต่งนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร กรณีติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพร้อมรถยนต์ใหม่

สามารถดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่ง MUGEN เพิ่มเติมได้ที่ https://www.mugenpower-thailand.com/hrv/index.html

สามารถดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่ง Modulo สำหรับ The new HR-V e:HEV เพิ่มเติมได้ที่

และดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่ง Modulo สำหรับ CR-V เพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/products/crv

แคมเปญพิเศษ “ฮอนด้า โปรฮอต รุ่นฮิต”

พร้อมเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าได้ง่ายๆ ด้วยแคมเปญพิเศษ “ฮอนด้า โปรฮอต รุ่นฮิต” สำหรับแต่ละรุ่น!* ไม่ว่าจะเป็น ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0% พร้อมรับฟรี ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์ (Honda Exclusive Care)* และฟรีประกันภัย 1 ปี หรือเลือก ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส**** ดาวน์ต่ำ ผ่อนสบาย และเสริมความมั่นใจไปกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และพิเศษยิ่งขึ้นไปกับแคมเปญ “Honda Happy Trade-in” เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้าหรือรถยนต์ยี่ห้ออื่นคันเก่ามาขายและออกรถยนต์ฮอนด้าคันใหม่ รับเพิ่มฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 40,000 บาท* สำหรับลูกค้าที่จองตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 – 7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 – 30 เมษายน 2568

ลูกค้าที่สนใจ ห้ามพลาด! พบกันที่บูทฮอนด้า (A26) ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2025 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษเดียวกันทั้งในงานและโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศกว่า 224 แห่ง โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมทั้งในงานฯ และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชตกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777

หมายเหตุ :

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

**ตัวเลขระยะทางที่แสดงข้างต้น อ้างอิงและไม่เกินจากการคำนวณตาม Eco Sticker (ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล)

***อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น

****เงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ ตลอดจนเงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่บริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษ

สำหรับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นที่ร่วมรายการและทำสัญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงินที่ร่วมรายการเมื่อจองตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 – 7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 – 30 เมษายน 2568

•ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

**เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2568**

1.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ ค่างวดเริ่มต้น 8,108 บาท (คำนวณจากรถยนต์ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี) เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และ รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

2.ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 2.2% สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) และดอกเบี้ย 2.35% สำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และ รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

และข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้ารับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 30 เมษายน 2568

•ฮอนด้า อี:เอ็น1 มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 –  31 กรกฎาคม 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 – 31 กรกฎาคม 2568 รับดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.69% (ส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ 0.30%) สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) และดอกเบี้ย 1.99%

สำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมรับ

-ฟรี ประกันภัย 1 ปี

-ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมบริการติดตั้ง และสายชาร์จแบบพกพา

-รับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร

-รับประกันแบตเตอรี่ EV เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร

และพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 –  7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 – 31 กรกฎาคม 2568 รับเพิ่มแพ็คเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษาที่ระบุไว้ในสมุดรับประกัน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งมาถึงก่อน

•ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ รับสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 24 เดือน รวมมูลค่า 72,000 บาท ค่างวดเริ่มต้น 2,858 บาท [คำนวณจาก ซิตี้ เทอร์โบ

(เกรด S) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี ซึ่งเป็นค่างวดที่หักจากสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนแล้ว] เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%

2.ดอกเบี้ย 0% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท

และข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้

มาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท

•ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ ค่างวดเริ่มต้น 7,130 บาท [คำนวณจาก ซิตี้ อี:เอชอีวี (เกรด e:HEV SV) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี] เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมรับ ฟรีประกันภัย 1 ปี และ Honda Ultimate Care มูลค่า 11,000 บาท และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

2.ดอกเบี้ย 0.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

และข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท

•ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก เทอร์โบ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ รับสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 24 เดือน รวมมูลค่า 72,000 บาท ค่างวดเริ่มต้น 2,858 บาท [คำนวณจาก ซิตี้ แฮทช์แบ็ก เทอร์โบ ใหม่ (เกรด S+) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี ซึ่งเป็นค่างวดที่หักจากสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนแล้ว] เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%

2.ดอกเบี้ย 0% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท

และข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก เทอร์โบ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก เทอร์โบ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท

•ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ ค่างวดเริ่มต้น 7,130 บาท [คำนวณจาก ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ใหม่ (เกรด e:HEV SV) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี] เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมรับฟรีประกันภัย 1 ปี และ Honda Ultimate Care มูลค่า 11,000 บาท และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

2.ดอกเบี้ย 0.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

และข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท

•ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษในแต่ละรุ่นย่อย ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

รุ่น e:HEV RS และ e:HEV EL

1.ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.69% (ส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ 0.30%) และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) และดอกเบี้ย 1.99% สำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์)’

โดย Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

-ฟรีประกันภัย 1 ปี

-ฟรีรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

-ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ รับสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 4,000 บาท เป็นเวลา 12 เดือน รวมมูลค่า 48,000 บาท ค่างวดเริ่มต้น 7,195 บาท [คำนวณจาก เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ (เกรด e:HEV EL) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี ซึ่งเป็นค่างวดที่หักจากสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนแล้ว] เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

รุ่น e:HEV E

1.ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.69% (ส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ 0.30%) และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) และดอกเบี้ย 1.99% สำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมงเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) อีกทั้งรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

2.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ ค่างวดเริ่มต้น 9,847 บาท [คำนวณจาก เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ (เกรด e:HEV E) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี] เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมฟรี ประกันภัย 1 ปีและฟรี Honda Ultimate Care อีกทั้งรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

ข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถเอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท

•ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.ดอกเบี้ย 0.99% พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์)’

โดย Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

•ฟรีประกันภัย 1 ปี

•ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่

24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ รับสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 5,600 บาท เป็นเวลา 12 เดือน รวมมูลค่า 67,200 บาท ค่างวดเริ่มต้น 5,180 บาท [คำนวณจาก ซีวิค ใหม่ (เกรด EL+) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี ซึ่งเป็นค่างวดที่หักจากสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนแล้ว] เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

และข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถซีวิค ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ซีวิค ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท

•ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.ดอกเบี้ย 1.99% พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์)’

โดย Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

•ฟรีประกันภัย 1 ปี

•ฟรีรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

•ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ รับสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 4,000 บาท เป็นเวลา 12 เดือน รวมมูลค่า 48,000 บาท ค่างวดเริ่มต้น 7,403 บาท [คำนวณจาก ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ (เกรด e:HEV EL+) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี ซึ่งเป็นค่างวดที่หักจากสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนแล้ว]

เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

และข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท

•ฮอนด้า ซีอาร์-วี เทอร์โบ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.ดอกเบี้ย 0% พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์)’ และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท

โดย Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

•ฟรีประกันภัย 1 ปี

•ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ รับสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 8,300 บาท เป็นเวลา 12 เดือน รวมมูลค่า 99,600 บาท ค่างวดเริ่มต้น 6,423 บาท [คำนวณจาก ซีอาร์-วี เทอร์โบ (เกรด E) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี ซึ่งเป็นค่างวดที่หักจากสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนแล้ว] เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมรับ Honda Exclusive Care 

และข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถซีอาร์-วี เทอร์โบ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 40,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ซีอาร์-วี เทอร์โบ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท

•ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.ดอกเบี้ย 0.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และฮอนด้า อัลติเมท แคร์ และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

2.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ รับสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 3,700 บาท เป็นเวลา 12 เดือน รวมมูลค่า 44,400 บาท ค่างวดเริ่มต้น 12,787 บาท [คำนวณจาก ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี (เกรด e:HEV ES) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี ซึ่งเป็นค่างวดที่หักจากสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนแล้ว]

เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อม ฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

และข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถซีอาร์-วี อี:เอชอีวี ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 40,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท

•ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.ดอกเบี้ย 0.99% พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์)’ และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท

โดย Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

•ฟรีประกันภัย 1 ปี

•ฟรีรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

•ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่

24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ รับสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 4,100 บาท เป็นเวลา 12 เดือน รวมมูลค่า 49,200 บาท ค่างวดเริ่มต้น 11,765 บาท [คำนวณจาก แอคคอร์ด อี:เอชอีวี (เกรด e:HEV E) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี ซึ่งเป็นค่างวดที่หักจากสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนแล้ว]

เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมรับ Honda Exclusive Care 

และข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 40,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท

•ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.ดอกเบี้ย 0% พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์)’ และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 35,000 บาท

โดย Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

•ฟรีประกันภัย 1 ปี

•ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ รับสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 4,350 บาท เป็นเวลา 24 เดือน รวมมูลค่า 104,400 บาท ค่างวดเริ่มต้น 3,940 บาท [คำนวณจาก ดับเบิลยูอาร์-วี (เกรด SV) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี ซึ่งเป็นค่างวดที่หักจากสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนแล้ว] เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

•ฮอนด้า บีอาร์-วี มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.ดอกเบี้ย 0% พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์)’ และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท

โดย Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

•ฟรีประกันภัย 1 ปี

•ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ รับสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 6,200 บาท เป็นเวลา 12 เดือน รวมมูลค่า 74,400 บาท ค่างวดเริ่มต้น 3,294 บาท [คำนวณจาก บีอาร์-วี (เกรด E สีขาวทาฟเฟต้า) เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี ซึ่งเป็นค่างวดที่หักจากสิทธิพิเศษฮอนด้าช่วยผ่อนแล้ว]

เงินก้อนสุดท้ายเป็นไปตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่าซื้อ หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

บีเอ็มดับเบิลยู ส่งโปรแรงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ดอกเบี้ย 0% ในงานมอเตอร์โชว์ 2025

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ส่งโปรแรงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จ่ายค่าผ่อนให้ 9 เดือนเต็ม พร้อมดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 5 ปี และข้อเสนอพิเศษจากแคมเปญ ‘JOY With Confidence’ สำหรับลูกค้าที่เลือกเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูไม่ได้อีกมากมายในงานมอเตอร์โชว์ 2025

•ครั้งแรกกับข้อเสนอ JOY WITH CONFIDENCE บีเอ็มดับเบิลยูผ่อนให้ 9 เดือนเต็ม พร้อมผ่อน 0% นานสูงสุด 5 ปี และขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพนานสูงสุด 8 ปี มอบความคุ้มค่าและอุ่นใจที่เหนือระดับ สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู i5, iX และ i7 รุ่นที่กำหนด

•แพ็คเกจ Driving Experience พาเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M และ M Performance บินลัดฟ้าสู่เกาหลีใต้ เพื่อร่วมลับฝีมือหลังพวงมาลัยในสองคอร์สพิเศษ

•ข้อเสนอใหม่สำหรับบีเอ็มดับเบิลยูอีกหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น ฟรีประกันภัยชั้น 1 ขยายเวลาแพ็คเกจ BSI และการรับประกันคุณภาพ รวมถึงส่วนลดจากการเทรดรถยนต์คันเก่า และอื่นๆ อีกมากมาย

หลังจากที่ได้เผยโฉมทัพยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจากทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ที่จะมาร่วมสร้างความตื่นตาในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เตรียมยกระดับความร้อนแรงไปอีกขั้นด้วยข้อเสนอสุดพิเศษจากแคมเปญ ‘JOY With Confidence’ สำหรับลูกค้าที่เลือกเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูภายในงาน สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู i รุ่นพลังงานไฟฟ้าที่เข้าร่วมรายการ ลูกค้าจะได้เป็นเจ้าของรถคันใหม่ได้อย่างไร้กังวล โดยไม่ต้องผ่อนถึง 9 เดือนเต็ม ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู M และ M Performance รุ่นที่ร่วมรายการ มาพร้อมกับคอร์สเรียนเทคนิคการขับขี่สุดเร้าใจในเกาหลีใต้ ภายใต้ความดูแลและคำแนะนำจาก Instructor ผู้ฝึกสอนที่เชี่ยวชาญเพื่อยกระดับประสบการณ์ให้พิเศษยิ่งขึ้น บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังมีดีลพิเศษเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูอีกหลายรุ่น ครบครันทั้งการขยายระยะเวลารับประกัน ส่วนลดจากการเทรดรถยนต์คันเก่า เครดิตการชาร์จ แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และการรับประกันมูลค่าขายต่อในอนาคต

สำหรับรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่จะมาเปิดตัวในงานนั้น บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังถือโอกาสนี้ประกาศราคาจำหน่ายยานยนต์ใหม่ ก่อนที่จะได้สัมผัสตัวจริงกันในงานมอเตอร์โชว์ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 26 มีนาคม 2568 นี้

ข้อเสนอพิเศษใหม่ล่าสุดจากบีเอ็มดับเบิลยู ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

สำหรับลูกค้าที่ทำการจอง และรับมอบรถบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นที่กำหนด พร้อมทำสัญญาทางการเงินกับ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2568

รุ่นข้อเสนอพิเศษ
[ใหม่] บีเอ็มดับเบิลยู i5 eDrive40, iX xDrive50, i7 xDrive60

ข้อเสนอฟรีค่างวดผ่อนชำระ 9 เดือน, ข้อเสนอราคาผ่อนพิเศษต่อเดือน, และข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0%
บีเอ็มดับเบิลยูผ่อนให้ถึง 9 เดือนเต็ม เมื่อเลือกเป็นเจ้าของภายใต้สัญญาในโปรแกรม Hire Purchase with Balloon ผ่อนเริ่มต้น 25,000 บาท/เดือน (สำหรับรุ่น i5 eDrive40 M Sport (Inspiring))อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% เมื่อทำสัญญากับบีเอ็มดับเบิลยู
ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย เป็นระยะเวลา 48-60 เดือนฟรี BMW Wall Boxฟรี เครดิตการชาร์จมูลค่า 20,000 บาทที่สถานีชาร์จ Elex by EGAT ขยายระยะเวลาการรับประกันคุณภาพรถยนต์ BMW Extended Warranty สูงสุด 8 ปีการันตีมูลค่าการขายต่อในอนาคต สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาแบบ BMW Freedom Choice
[ใหม่] บีเอ็มดับเบิลยู X1ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%ผ่อนเริ่มต้น 15,799 บาท/เดือน (สำหรับรุ่น X1 sDrive20i xLine เท่านั้น)ขยายเวลาการรับประกันคุณภาพรถยนต์ BMW Extended Warranty เพิ่มอีก 1 ปีรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท (สำหรับรุ่น X1 sDrive20i xLine เท่านั้น) หรือ 50,000 บาท (สำหรับรุ่น X1 sDrive20i M Sport เท่านั้น) เมื่อนำรถยนต์เก่ามาแลกซื้อ
บีเอ็มดับเบิลยู X3 20d, X3 M50    ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceผ่อนเริ่มต้น 32,299 บาท/เดือน
บีเอ็มดับเบิลยู 330eฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceผ่อนเริ่มต้น 23,799 บาท/เดือน
บีเอ็มดับเบิลยู M340iฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceผ่อนเริ่มต้น 33,999 บาท/เดือน
บีเอ็มดับเบิลยู 320dฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%ผ่อนเริ่มต้น 23,799 บาท/เดือน
บีเอ็มดับเบิลยู iX3ฟรี BMW Wall Boxฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%ผ่อนเริ่มต้น 27,499 บาท/เดือน
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%ผ่อนเริ่มต้น 32,299 บาท/เดือน
บีเอ็มดับเบิลยู M และ M Performance   (รุ่นที่เข้าร่วม บีเอ็มดับเบิลยู M240i, บีเอ็มดับเบิลยู i4 M50, บีเอ็มดับเบิลยู M440i
(รุ่นก่อนปรับโฉม), บีเอ็มดับเบิลยู Z4 M40i, บีเอ็มดับเบิลยู i5 M60, บีเอ็มดับเบิลยู M3 CS, บีเอ็มดับเบิลยู M3 Touring, บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe (รุ่นก่อนปรับโฉม) และ บีเอ็มดับเบิลยู X4M)
ฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceผ่อนเริ่มต้น 37,299 บาท/เดือนฟรี แพ็คเกจ BMW Driving Experience ที่เกาหลีใต้ สำหรับรุ่น M240i, i4 M50, i5 M60, M440i (รุ่นก่อนปรับโฉม), Z4 M40i, M3 CS, M3 Touring (รุ่นก่อนปรับโฉม) และ M4 Coupe (รุ่นก่อน
ปรับโฉม)
บีเอ็มดับเบิลยู 320Li / 330Liฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%ผ่อนเริ่มต้น 19,999 บาท/เดือนหรือ อัปเกรดระยะเวลา BSI Ultimate นานสูงสุด 5 ปีฟรี ขยายเวลา BMW Extended Warranty (การรับประกันคุณภาพรถยนต์) เพิ่มอีก 1 ปี
บีเอ็มดับเบิลยู X3 30eฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceผ่อนเริ่มต้น 33,099 บาท/เดือน
บีเอ็มดับเบิลยู X5 30eฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceผ่อนเริ่มต้น 46,399 บาท/เดือน
บีเอ็มดับเบิลยู รุ่นพลังงานไฟฟ้า   (บีเอ็มดับเบิลยู i4, i5, i7, iX2, iX)ฟรี BMW Wall Boxฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Protect สูงสุด 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceผ่อนเริ่มต้น 31,099 บาท/เดือนฟรี เครดิตการชาร์จมูลค่า 20,000 บาทที่สถานีชาร์จ Elex by EGAT

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bmw.co.th/th/topics/offers-and-services/promotional-offers/bmw-march-2025-motorshowoffer.html#tabs-977a40841f-item-1d09a77bfc-tab

ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เฟซบุ๊กแฟนเพจ BMW Thailand หรือติดต่อ BMW Contact Centre ที่เบอร์ 1397

ข้อเสนอพิเศษจากมินิในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

พบกับข้อเสนอพิเศษ** ที่พร้อมเปิดทางให้คุณได้โลดแล่นไปกับมินิหลากสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ไฟฟ้าขับสนุกหรือรถอเนกประสงค์สำหรับการผจญภัยครั้งใหม่ ด้วยความอุ่นใจจากอัตราผ่อนชำระพิเศษ ประกันภัยชั้นหนึ่ง และอื่นๆ

รุ่นข้อเสนอพิเศษ
MINI Cooper SE และ MINI Aceman SE  ฟรี MINI Wall Boxฟรี ประกันภัยชั้น 1 MINI Protect สูงสุด 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceผ่อนเริ่มต้น 11,555 บาท/เดือน (สำหรับ MINI Cooper SE) และ 15,555 บาท/เดือน (สำหรับ MINI Aceman SE)
MINI Countryman S ALL4ฟรี ประกันภัยชั้น 1 MINI Protect สูงสุด 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาในโปรแกรม Hire Purchase, Hire Purchase With Balloon, Finance Lease หรือ BMW Freedom Choiceฟรี กล้องหน้ารถ Advanced Car Eye 3.0 สำหรับรุ่น MINI Countryman S ALL4 Classicผ่อนเริ่มต้น 22,099 บาท/เดือน

**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mini.co.th/en_TH/home/serv/special-offers/the_new_mini_family.html

ข้อเสนอพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

ออกตัวสู่ทุกเส้นทางกับสองล้อคู่ใจคันใหม่จากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ด้วยข้อเสนอพิเศษ*** ที่มีทั้งประกันภัยชั้นหนึ่ง ขยายเวลาบริการหลังการขาย และอัตราดอกเบี้ยพิเศษสุด

รุ่นข้อเสนอพิเศษ
บีเอ็มดับเบิลยู C 400 GTฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Motorrad Protect สูงสุด 1 ปีขยายระยะเวลา แพ็คเกจบริการหลังการขาย BMW Motorrad Service Inclusive เป็น 3 ปีเต็ม
บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventureเลือกจากฟรี ประกันภัยชั้น 1 BMW Motorrad Protect สูงสุด 1 ปีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%
บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GSอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.65% สำหรับลูกค้าเดิมของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เท่านั้น

***เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save