- Advertisement -
29.5 C
Bangkok
Home Blog Page 67

มาเซราติ เผยโฉม กรันทูริสโม โฉมใหม่ในไทย

มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัว กรันทูริสโม โฉมใหม่อย่างเป็นทางการ เตรียมเผยโฉมต่อสาธารณะ ที่บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45

มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัว มาเซราติ กรันทูริสโม (GranTurismo) โฉมใหม่ อย่างเป็นทางการ นับเป็นการเปิดตำนานบทใหม่ ที่เริ่มขึ้นจาก มาเซราติ A6 1500 เมื่อ 77 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นยนตรกรรมสไตล์จีที (GT) ที่เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของสมรรถนะแบบรถสปอร์ต เข้ากับความสะดวกสบายเพื่อรองรับการขับทางไกล พร้อมเปิดรับจองทั้ง 3 รุ่นย่อย คือ โมเดนา (Modena), โทรเฟโอ (Trofeo) และสุดยอดนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น โฟลกอเร (Folgore) ที่แปลว่าสายฟ้าในภาษาอิตาเลียน ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The Others Just Travel’ ที่มอบประสบการณ์พิเศษ มากกว่าคำว่าการเดินทาง

นายปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย กล่าวว่า “มาเซราติ ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา ผ่านยนตรกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานความตั้งใจในการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้ประสบการณ์จากสนามแข่ง ฟอร์มูล่า อี และวันนี้นับเป็นโอกาสดี ที่ลูกค้าในไทยจะได้สัมผัสกับ มาเซราติ กรันทูริสโม โฉมใหม่ ที่มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์ และขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน กับประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 77 ปี พร้อมเชื่อมั่นว่ายนตรกรรมรุ่นนี้ จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า มาเซราติ ได้อย่างแน่นอนครับ”

งานดีไซน์ของ กรันทูริสโม นำเสนอความสง่างามและสมรรถนะเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร และสามารถจดจำได้ในทันที เส้นสายดูเรียบง่ายแต่ชัดเจน ผสานประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่ดีสุดในเซกเมนต์ สะท้อนตัวตนและความพิถีพิถันในการออกแบบ ขณะเดียวกันก็สามารถรักษาสัดส่วนอันเป็นเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างครบถ้วน ด้วยฝากระโปรงหน้าทรงยาว และตำแหน่งผู้ขับที่อยู่กึ่งกลางระหว่างล้อทั้ง 4 พร้อมหลังคาลาดต่ำสู่ด้านหลัง เน้นให้เห็นความโค้งมนของเสาซี ที่มีโลโก้ตรีศูลติดตั้งอยู่

ห้องโดยสารติดตั้งนวัตกรรมล้ำสมัย ด้วยระบบมัลติมีเดีย Maserati Intelligent Assistant (MIA), อินโฟเทนเมนท์ใหม่ล่าสุด, หน้าจอ comfort display ที่รวมฟังก์ชั่นหลักของทัชสกรีนอเนกประสงค์, นาฬิกาดิจิทัลอัจฉริยะ (Digital Smart Clock) และเฮด-อัพ ดิสเพลย์ (เป็นออปชั่น) นอกจากนี้ ยังมอบประสบการณ์พิเศษแบบ ‘all-round sound experience’ การันตีด้วยสุ้มเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ มาเซราติ รวมทั้งเวอร์ชั่นรถไฟฟ้า อันเกิดจากฝีมือการพัฒนาของวิศวกรจาก Maserati Innovation Lab มอบประสบการณ์สมบูรณ์แบบผ่านระบบเครื่องเสียง Maserati Sound Audio System และมีออปชั่นพิเศษกับสุดยอดเครื่องเสียงสัญชาติอิตาลี ‘Sonus Faber’ ลำโพง 12 ตำแหน่ง และ 19 ตำแหน่งให้เลือก

ขุมพลังเบนซิน วี6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ เน็ททูโน (V6 Nettuno) บล็อกเดียวกับที่ใช้ในซูเปอร์คาร์รุ่น เอ็มซี20 (MC20) ติดตั้งในสองรุ่นย่อย คือ โมเดนา (Modena) ทำได้ 490 แรงม้า (HP) แรงบิด 600 นิวตันเมตร  และ โทรเฟโอ (Trofeo) ที่ผ่านการอัพเกรดเพิ่มกำลังเป็น 550 แรงม้า (HP) แรงบิด 650 นิวตันเมตร ส่วน กรันทูริสโม โฟลกอเร (GranTurismo Folgore) ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ส่งกำลังผ่านมอเตอร์ 402 แรงม้า (HP) จำนวน 3 ตัว (หน้า 1 หลัง 2) ผสานเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ ความจุ 92.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เทคโนโลยีของรถแข่งฟอร์มูลา อี (Formula E) ติดตั้งแบตเตอรี่ไว้บริเวณโครงสร้างกลางรถ (T-Bone) แทนที่การติดตั้งไว้ใต้เบาะผู้ขับ ส่งผลดีต่อสมดุลและจุดศูนย์ถ่วงของรถ ทำได้ 761 แรงม้า (HP) แรงบิด 1,350 นิวตันเมตร กับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วสูงสุดตามลำดับ คือ รุ่น โมเดนา 3.9 วินาที 302 กิโลเมตรต่อชั่วโมง, รุ่น โทรเฟโอ 3.5 วินาที 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรุ่น โฟลกอเร 2.7 วินาที 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาเซราติ กรันทูริสโม รุ่น โมเดนา มาพร้อม 3 โหมดการขับ คือ GT, Comfort และ Sport ขณะที่รุ่น โทรเฟโอ เพิ่มโหมด Corsa ส่วนรุ่น โฟลกอเร มี 4 โหมด คือ GT, Max Range, Sport และ Corsa

สถาปัตยกรรมเชิงเทคนิคของรถรุ่นใหม่นี้ คือ ผลลัพธ์ของนวัตกรรมในการนำวัสดุที่เบาที่สุดมาใช้ เช่น การใช้อะลูมิเนียมหรือแมกนีเซียม ร่วมกับโลหะเกรดสูง เพื่อให้ได้มาซึ่งวัสดุที่เบาและมีประสิทธิภาพชั้นเลิศ นอกจากนั้นก็ยังมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ Atlantis High อันล้ำสมัย ภายใต้มาตรฐาน canFD ที่มีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้เร็วสุดถึง 0.002 วินาที มาพร้อมระบบ cyber-security ระดับ 5 และฟีเจอร์ flash-over-the-air และศูนย์กลางในการควบคุมระบบ Vehicle Domain Control Module (VDCM) ประกอบไปด้วยซอฟต์แวร์ที่พร้อมมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับ ในการควบคุมระบบที่สำคัญทั้งหมดของรถยนต์แบบ 360 องศา เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีทีสุดในทุกสถานการณ์

ความฉับไวแบบรถสปอร์ต ความหรูหรา และความสะดวกสบาย เกิดจากความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า จากจุดเริ่มต้นของการพัฒนา มาเซราติ กรันทูริสโม โฉมใหม่ ที่ผ่านการพัฒนาจาก Maserati Innovation Lab และผลิตที่โรงงาน มิราฟิออรี เมืองตูริน ประเทศอิตาลี สะท้อน ‘ความหรูหราและสมรรถนะแบบอิตาเลียน’ เป็นแนวคิดที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ มาเซราติ ทุกรุ่น พร้อมแสดงให้เห็นว่า มาเซราติ สามารถลบล้างสมการที่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้  โดยผสมผสานสมรรถนะแบบรถสปอร์ต กับความสะดวกสบายที่เหมาะสำหรับการขับทางไกล รวมถึงเครื่องยนต์สันดาปภายในอันทรงพลัง กับสุดยอดนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% เปรียบเสมือนมาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์ในเซกเมนต์

ยามาฮ่า มอบรางวัล YAMAHA FAZZIO จากแคมเปญ Tiktok Challenge

ยามาฮ่า มอบรางวัล YAMAHA FAZZIO จากแคมเปญ “Happy 5 ปี นะคะ Tiktok Challenge” คลิปสุดแฮปปี้ เต้นดีเต้นถูกใจ รับรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท

นายจิรภัทร สายเพชร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดกลุ่มรถออโตเมติก และสนับสนุนการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด มอบรางวัลรถจักรยานยนต์ YAMAHA FAZZIO มูลค่า 53,800 บาท ให้แก่ นายญฐ์ชญา ฟ้ากลาง ผู้โชคดีผ่านแคมเปญ Tiktok Challenge คลิปสุดแฮปปี้ เต้นดีเต้นถูกใจรับ YAMAHA FAZZIO จำนวน 1 รางวัล นอกจากนี้ยังมีรางวัลบัตรน้ำมันมูลค่า 500 บาท จำนวน 100 รางวัล มูลค่ารางวัลรวมทั้งสิ้น 103,800 บาท โดยกิจกรรมนี้ได้จัดเพื่อเป็นการตอกย้ำ ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ และตอกย้ำการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ในรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 400 ซีซี. ทุกรุ่น โดยแคมเปญนี้ได้มีขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 30 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ผ่านช่องทาง Tiktok ซึ่งมีผู้ร่วมสนุกและส่งผลงานชาเล้นจ์ เข้ามาเป็นจำนวนมาก สำหรับผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรม และลุ้นรางวัลจากยามาฮ่า สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ FACEBOOK : YAMAHA SOCIETY THAILAND และ  TIKTOK : YAMAHA SOCIETY THAILAND

โดยการมอบรางวัลในครั้งนี้มีขึ้น ณ สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) เมื่อเร็วๆ นี้

“ลมหายใจไร้มลทิน” มอบรางวัลการประกวดปี 2566

นางสาวชไมพร ปภัสร์พงษ์ รองผู้อำนวยการ มูลนิธิ “ลมหายใจไร้มลทิน” มอบรางวัลชนะการประกวด วีดีโอคลิปสะท้อนค่านิยมแห่งความซื่อสัตย์สุจริต หัวข้อ “ซื่อสัตย์สุจริต ชีวิต New Normal” ระดับอาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวส.) และอุดมศึกษา ให้ผลงานเรื่อง “วิถีใหม่ใจสุจริต” จากทีม Blue Plok Kan มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เมื่อเร็วๆ นี้

มูลนิธิ “ลมหายใจไร้มลทิน” ร่วมกับ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดการประกวดกิจกรรมประจำปี 2566 ซึ่งประกาศผล และมอบรางวัลแก่ผู้ชนะ 4 ประเภท ดังนี้

ประกวดเรียงความหัวข้อ “ถ้าประเทศไทยปราศจากคอร์รัปชัน”

ระดับประถมศึกษา ได้แก่ เด็กหญิงพิชญาภา เสริฐศรี โรงเรียนชุมชนหนองสองห้องคุรุราษฎร์รังสรรค์ จังหวัดขอนแก่น

ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวช.) ได้แก่ นายเฉลิมราชย์ อาจธัญกรณ์ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดเพชรบุรี

ระดับอาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวส.) และอุดมศึกษา ได้แก่ นางสาวชโลทร กิจกาญจน์ วิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี

ประกวดร้องเพลงประกอบดนตรีตามเพลงเพลง “คิดดี ทำดี”

ระดับประถมศึกษา ประเภทเดี่ยว ได้แก่ เด็กหญิงธนัชญา ศรีนุช โรงเรียนวัดลาดปลาเค้า กรุงเทพมหานคร

ระดับประถมศึกษา ประเภทหมู่ ได้แก่ ทีมคิดดีจะรัก คิดรักจะดี โรงเรียนเผดิมศึกษา กรุงเทพมหานคร

เพลง “ด้วยลมหายใจที่ไร้มลทิน”

ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวช.) ประเภทเดี่ยว ได้แก่ นางสาวทัตพิชา กิตติพนังกุลโรงเรียนสตรีวิทยา 2 กรุงเทพมหานคร

ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวช.) ประเภทหมู่ ได้แก่ ทีม 3 มุม

ระดับอาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวส.) และอุดมศึกษา ประเภทเดี่ยว ได้แก่ นางสาวพิมพ์วลัญช์ ดุษฎีปรีชา วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร

ประกวดวาดภาพศิลปะสะท้อนค่านิยมแห่งความซื่อสัตย์สุจริต หัวข้อ “สังคมเข้มแข็ง ลมหายใจยั่งยืน”

ระดับปฐมวัย ได้แก่ เด็กหญิงววรส        อิทธิพลานุคุปต์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร จังหวัดนครปฐม

ระดับประถมศึกษา ได้แก่ เด็กหญิงปรรณ ขติยะสุนทร โรงเรียนวชิราลัย จังหวัดเชียงใหม่

ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวช.) ได้แก่ นายรชฏ ศิริรจน์ โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ

ประกวดวีดีโอคลิปสะท้อนค่านิยมแห่งความซื่อสัตย์สุจริต

หัวข้อ “ซื่อสัตย์สุจริต ชีวิต New Normal”

ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวช.) ได้แก่ ทีม มนว.โปรดักชั่น โรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร

ระดับอาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวส.) และอุดมศึกษา ได้แก่ ทีม Blue Plok Kan มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กรุงเทพมหานคร

ติดตามผลการประกวด และกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิ “ลมหายใจไร้มลทิน” ได้ที่ lomhaijai.org dcy.go.th และ facebook.com/LomhaijaiFoundation/

ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม จัดไลน์อัพลุยมอเตอร์สปอร์ต 2024

ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม จัดทัพนิวไลน์อัพ ลงบิดศึก 2 ล้อระดับนานาชาติ ลุยต่อเนื่อง “ตี – ไอเดีย” บู๊เวิลด์ซูเปอร์สปอร์ต ส่ง “โฟลท – แสตมป์” ลุยศึกเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร มร.ฮิเดฮิโกะ ทาคากิ รองประธานกรรมการบริหาร นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า และวางแผนการตลาด พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง และนักแข่งในสังกัด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ถ่ายภาพร่วมกับ คุณนิตยา เกิดจันทึก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย นายไกรทศ วงษ์สวรรค์ อุปนายกสมาคมสมาคมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ ผู้อำนวยการสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต นายวรวุฒิ พงษ์ธีระพล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะผู้สนับสนุนยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ในงานแถลงข่าวเปิดตัวทีมแข่งประจำฤดูกาล 2024

โดยในปีนี้ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ยังคงเดินหน้าส่งเด็กไทยลุยศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับนานาชาติ ในรายการ เวิลด์ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2024 รุ่น เวิลด์ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี. โดยมี ตี – อนุภาพ ซามูล และ ไอเดีย – กฤตภัทร เขื่อนคำ ลงทำการแข่งขันด้วยรถแข่ง YAMAHA YZF-R6 ส่วนในรายการ เอฟไอเอ็ม เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024 ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ตั้งเป้าทวงคืนบังลังก์ความยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยการส่ง โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ดีกรีแชมป์เอเชียรุ่น 600 ลงทำการแข่งขัน พร้อมด้วย แสตมป์ อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ดีกรีแชมป์รุ่น 250 ลงทำการแข่งขันในสังกัดยามาฮ่า เทคเน่ ทีมอาเซียน พร้อมกันนี้ยามาฮ่ายังได้ส่งดาวรุ่ง เติ้ล – วรพรต ทองดอนเหมือน ลุยศึก ยามาฮ่า อาร์ 3 บลูครู เอฟไอเอ็ม เวิลด์คัพ 2024 เพื่อเปิดประสบการณ์ และพัฒนานักบิดดาวรุ่งไทยในการแข่งขันในเกมระดับประเทศ เพื่อเป็นบันไดขั้นแรกในการก้าวสู่เวทีระดับสากลต่อไปในอนาคต

โดยการแถลงข่าวเปิดตัวทีมแข่ง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม 2024 จัดขึ้น ณ ห้องออดิทอเรียม สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) เมื่อเร็วๆ นี้

เอช เซม มอเตอร์ เปิดเกมรุกปี มังกร รับผู้ร่วมลงทุน

เอช เซม เดินหน้าลุย ปูพรมธุรกิจปีมังกรทอง 2567 เปิดรับพันธมิตรเป็นตัวแทนตั้งสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ ภายใต้รูปแบบธุรกิจ MOVE EV X (ออกเสียง มูฟ-อี-วี-เอกซ์)  ด้วยแนวคิดเปลี่ยนแบตฯ ภายใน 3 นาที คุ้มกว่าชาร์จแบตฯ เอง 6 ชั่วโมง ตั้งเป้าเพิ่ม 80 ตู้ มูลค่าการลงทุนรวม 120 ล้านบาท ภายในปีนี้

นายวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายและผู้ให้เช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เอช เซม เปิดเผยว่า ด้วยผลตอบรับอย่างล้นหลามของการใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เอช เซม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จึงส่งผลให้มีแนวโน้มความต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในปี 2567 นี้ บริษัทฯ จึงได้วางแผนขยายจำนวนสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่เพิ่มอีก 80 ตู้ มูลค่าการลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท

ปัจจุบัน เอช เซม มีสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่กระจายในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ทั้ง สำนักงาน สาขาของ เอช เซม ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน ซูเปอร์มาร์เก็ต คอมมูนิตี้ มอลล์ ถึงแม้จำนวนสถานีจะเพิ่มมากขึ้นแต่จากข้อมูลตัวเลขการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเอช เซม ในช่วงปี 2564 – เดือนมกราคม 2567 มียอดสะสมการเปลี่ยนแบตฯ สูงกว่า 4,000,000 ครั้ง สามารถแจกแจงเพื่อให้เห็นการเติบโตอย่างชัดเจนโดยปีแรก 2564 จำนวนการเปลี่ยนแบตฯ 17,505 ครั้ง ปีต่อมา 2565 ยอดการใช้งานสูงถึง 777,627 ครั้ง เท่ากับมียอดเติบโตสูงขึ้น 4,342% และปี 2566 ที่ผ่านมา มียอดการใช้งาน 2,781,001 ครั้ง เท่ากับการใช้งานสูงขึ้น 258% และในเดือนมกราคม 2567 จำนวนการเปลี่ยนแบตฯ 428,551 ครั้ง ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่มีความสำคัญและมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน

ทั้งนี้ เพื่อง่ายต่อการทำงาน เอช เซม จึงแบ่งโซนความหนาแน่นของการใช้สถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ออกเป็น 3 โซน ได้แก่ Hot Zone มีจำนวนการเปลี่ยนแบตฯ มากกว่า 1.6 แสนครั้งต่อเดือน Warm Zone มีจำนวนการเปลี่ยนแบตฯ มากกว่า 7 หมื่นครั้งต่อเดือน และ Cold Zone มีจำนวนการเปลี่ยนแบตฯ มากกว่า 1 หมื่นครั้งต่อเดือน

จากสถิติการใช้งานดังกล่าว จึงเป็นที่มาของรูปแบบธุรกิจ “MOVE EV X” เพิ่มโอกาส เพิ่มรายได้ให้ผู้สนใจเป็นตัวแทนสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยมีรูปแบบธุรกิจให้เลือก 2 แบบแบบแรกผู้ประกอบการมีความพร้อมทั้ง เงินลงทุนและพื้นที่ (เฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล) โดยธุรกิจสามารถเริ่มต้นด้วยพื้นที่เพียง 8 ตารางเมตร เท่านั้น

ส่วนแบบที่ 2 จะเป็นการจับคู่ธุรกิจ หากผู้ประกอบการไม่มีพื้นที่แต่มีความสนใจทำธุรกิจ MOVE EV X ได้คัดเลือกและรวบรวมพื้นที่สำหรับติดตั้งตู้ให้ผู้สนใจเช่าพื้นที่เพื่อเริ่มธุรกิจได้เช่นกัน โดย MOVE EV X จะเป็นจุดนัดพบให้กับเจ้าของพื้นที่และผู้สนใจทำธุรกิจได้พบและเจรจาธุรกิจกัน

นอกจากจะเป็นจุดนัดพบของการเริ่มต้นธุรกิจแล้ว MOVE EV X ยังเป็นผู้ประเมินพื้นที่ ดำเนินการขอมิเตอร์ไฟฟ้าและติดตั้งตู้ให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย โดยงบประมาณในการลงทุนเริ่มต้นที่ 700,000 บาทและสูงสุดที่ 2.4 ล้านบาท ทำสัญญา 5 ปี และจะคืนทุนภายในเวลา 2 ปี

ผู้สนใจเป็นพันธมิตรมาร่วมสร้างระบบ Ecosystem อย่างยั่งยืน กับ “MOVE EV X by H Sem” เป็นเจ้าของสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สามารถสอบถามรายละเอียดหรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.moveevx.com และ Line: @moveevx

ซูซูกิ ตอกย้ำความเชื่อมั่นจัดแคมเปญพิเศษ PLATINUM DEAL เงื่อนไขเข้าถึงง่าย

ซูซูกิ จัดแคมเปญพิเศษ PLATINUM DEAL ตอกย้ำความเชื่อมั่นลูกค้า รถคุณภาพดี บำรุงรักษาง่าย ขับฟรี 90 วัน หรือ ผ่อนนาน 99 เดือน พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่ซูซูกิเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบันกว่า 15 ปี ที่ลูกค้าคนไทยเปิดโอกาสให้ซูซูกิได้ดูแลและเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนชีวิตอย่างมีคุณภาพ โดยยึดความสำคัญด้านการบริการทั้งก่อนและหลังการขายเป็นที่ตั้ง สร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าว่า เป็นแบรนด์รถยนต์ที่มอบความประหยัด คุณภาพดี การบำรุงรักษารถง่าย สร้างยอดขายสะสมนับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้ถึง 320,969 คัน

ล่าสุด เพื่อสานต่อความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซูซูกิได้ประกาศแผนดำเนินธุรกิจระยะยาวต่อเนื่อง 7 ปี แก่ผู้จำหน่ายทั่วประเทศ นอกจากนโยบายสำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของซูซูกิแล้ว ยังเผยถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของซูซูกิเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้จำหน่าย และเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคว่า ธุรกิจของซูซูกิจะสามารถก้าวไปข้างหน้า มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของสังคมไทยอย่างมีขั้นตอน พร้อมอยู่เคียงคู่คนไทยได้อย่างยั่งยืน  โดยในโอกาสพิเศษนี้เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ซูซูกิขอมอบข้อเสนอที่ดีและคุ้มค่าที่สุด ให้แก่ลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์จากซูซูกิ ให้สามารถเข้าถึงและตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยแคมเปญสุดคุ้ม “SUZUKI PLATINUM DEAL ดีลคุ้ม..ขั้นสุด”

แคมเปญพิเศษ “SUZUKI PLATINUM DEAL ดีลคุ้ม..ขั้นสุด” ให้ลูกค้าสามารถเลือกรับข้อเสนอสุดคุ้มในทุกเงื่อนไขได้มากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็น ข้อเสนอขับฟรี 90 วัน พร้อมรับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท หรือจะเลือกรับดอกเบี้ยพิเศษเริ่ม 0.79% นาน 60 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งทุกรุ่น โดยแคมเปญ “SUZUKI PLATINUM DEAL ดีลคุ้ม..ขั้นสุด” จะเริ่มตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 7 เมษายน 2567 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

SUZUKI SWIFT

•เลือกรับข้อเสนอ ขับฟรี 90 วัน พร้อมรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท สำหรับรุ่น GL และ GLX หรือ รับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 45,000 บาทสำหรับรุ่น GL NEXT 

•หรือ เลือกรับข้อเสนอ ผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน พร้อมรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท สำหรับรุ่น GL และ GLX หรือ รับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 45,000 บาท สำหรับรุ่น GL NEXT

•หรือ เลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่ม 0.79% นาน 60 เดือน

•พนักงานเงินเดือนประจำ และลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ รับดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท

•ฟรี ! ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงระยะเวลา 3 ปี

SUZUKI CIAZ

•เลือกรับข้อเสนอ ขับฟรี 90 วัน พร้อมรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท

•หรือ เลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่ม 0.75% นาน 60 เดือน

•พนักงานเงินเดือนประจำ และลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ รับดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท

•ฟรี ! ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงระยะเวลา 3 ปี

SUZUKI CELERIO

•เลือกรับข้อเสนอ ขับฟรี 90 วัน พร้อมรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาทสำหรับรุ่น GA, GL UP หรือ รับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 15,000 บาท สำหรับรุ่น GL GX

•เลือกรับข้อเสนอ ผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน พร้อมรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท สำหรับรุ่น GA, GL UP หรือ รับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 15,000 บาท สำหรับรุ่น GL GX

•พนักงานเงินเดือนประจำ และลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ รับดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 15,000 บาท

•ฟรี ! ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงระยะเวลา 3 ปี

SUZUKI ERTIGA

•ราคาเริ่มต้น 699,000 บาท พร้อมเลือกรับข้อเสนอ ขับฟรี 90 วัน หรือ ผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน

•พนักงานเงินเดือนประจำ และลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ รับดอกเบี้ยพิเศษ

•ฟรี ! ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงระยะเวลา 3 ปี

SUZUKI XL7

•เลือกรับข้อเสนอ ขับฟรี 90 วัน พร้อมรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท

•เลือกรับข้อเสนอ ผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน พร้อมรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท

•หรือ เลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่ม 1.15% นาน 60 เดือน

•พนักงานเงินเดือนประจำ และลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ รับดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท

•ฟรี ! ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงระยะเวลา 3 ปี

SUZUKI CARRY

•รับข้อเสนอส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 20,000 บาท

•หรือ เลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่ม 1.99% นาน 60 เดือน

•หรือ รับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นวันละ 222 บาท

•ฟรี ! ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก

นายวัลลภ ยังกล่าวอีกว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา ภาพรวมของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย มีตัวเลขอยู่ที่ 775,780 คัน ลดลงประมาณ 9% แสดงถึงสภาวะตลาดที่ยังไม่กลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ด้วยปัจจัยหลากหลายด้านที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ไปจนถึงความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่ออีกด้วย

สำหรับ ซูซูกิ ในปี 2566 ที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายรวมได้ 12,151 คัน ส่วนในปี 2567 ด้วยแนวโน้มของสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ตลาดรถยนต์น่าจะกลับมามีการเติบโตขึ้นอีกครั้ง คาดการณ์ว่าตัวเลขยอดขายรวมของทั้งตลาดจะมีตัวเลขอยู่ประมาณ 800,000 คัน และซูซูกิเชื่อมั่นว่าจากผลิตภัณฑ์รุ่นปัจจุบันที่มีคุณภาพ รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกความต้องการ ไปจนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับงานบริการให้ดียิ่งขึ้นเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า บริษัทฯ มีความคาดหวังในการสร้างยอดขายรถยนต์ซูซูกิในปี 2567 รวมจำนวน 12,000 คัน

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีความสนใจและต้องการเป็นเจ้าของรถทุกรุ่นภายใต้แบรนด์ของซูซูกิ เรายังคงเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการเพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกด้านการอนุมัติสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ลูกค้าที่สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ

ซูซูกิยังคงยึดมั่นในปรัชญาของซูซูกิคือผลิตสินค้าที่มีคุณค่าเหมือนว่าเราคือผู้ใช้ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายเหมาะสมกับลูกค้าชาวไทย ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพงานบริการของโชว์รูมผู้จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิครอบคลุมทั่วประเทศ สอดคล้องกับความตั้งใจของซูซูกิในการจัดทำโครงการ “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” ซึ่งนอกเหนือจากความต้องการที่จะสื่อสารกับลูกค้าทั้งด้านสินค้าและงานบริการได้อย่างทันท่วงทีและมอบบริการที่ดีเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกท่านแล้ว ซูซูกิยังมีความตั้งใจจริง ที่ต้องการที่จะสร้างให้ซูซูกิเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อถือและไว้วางใจเดินคู่เคียงข้างคนไทยต่อไปในอนาคต

บีเอ็มดับเบิลยู เผยโฉม บีเอ็มดับเบิลยู iX2 ใหม่

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เผยโฉม บีเอ็มดับเบิลยู iX2 ใหม่ ยกระดับตลาดพรีเมียมคอมแพกต์ ด้วยที่สุดแห่งสมรรถนะพลังไฟฟ้าในสไตล์เฉพาะตัวของรถยนต์อเนกประสงค์แบบคูเป้

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์แบบคูเป้ หรือ Sports Activity Coupé (SAC) ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนเป็นครั้งแรก กับบีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport ใหม่ ซึ่งนับเป็นเจเนอเรชันที่สองของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X2 ที่พร้อมขับเคลื่อนตลาดรถยนต์กลุ่มพรีเมียมคอมแพกต์ให้มุ่งสู่อนาคตแห่งการขับขี่อย่างยั่งยืน รถยนต์รุ่นนี้ผสานความหรูหรา สมรรถนะการขับขี่ และความคล่องตัวที่สมบูรณ์แบบเข้ากับความมุ่งมั่นของบีเอ็มดับเบิลยูในการสรรสร้างยนตรกรรมแห่งอนาคตได้อย่างลงตัว มาพร้อมรูปทรงที่ใหญ่และสปอร์ตยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยรูปทรงภายนอกแบบคูเป้ที่สะดุดตา เส้นสายด้านข้างที่ช่วยเน้นย้ำรูปลักษณ์อันโฉบเฉี่ยวและทรงพลังของตัวรถ ทั้งยังเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อันล้ำสมัยซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ออกแบบมาเพื่อส่งมอบสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ในทุกเส้นทาง

บีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport ใหม่ราคาจำหน่าย: 3,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport ใหม่ มาพร้อมกับดีไซน์ที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ในสไตล์ของรถยนต์อเนกประสงค์แบบคูเป้ (Sports Activity Coupé – SAC) โดยช่วงหน้ารถโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ ‘Iconic Glow’ ที่มาพร้อมไฟส่องสว่าง ขับเน้นบุคลิกที่ดุดันของตัวรถให้เผยโฉมอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ส่วนไฟหน้าคู่แบบใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับไฟส่องสว่างในเวลากลางวันในดีไซน์แบบ 4 ดวง พร้อมระบบ Adaptive LED ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย เสริมความมั่นใจในขณะเข้าโค้ง และยังตอกย้ำคุณลักษณะที่โฉบเฉี่ยวและปราดเปรียวของรถรุ่นนี้ ควบคู่ไปกับไฟท้ายที่มอบกลิ่นอายความสปอร์ตได้ไม่แพ้กัน ส่วนหลังคารถ เติมเส้นสายที่ทอดยาวต่อเนื่องบรรจบกับไฟท้าย ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport ใหม่ มีทรวดทรงสไตล์คูเป้ที่ปราดเปรียวในแบบของ SAC ตัวจริง ผสมผสานอย่างลงตัวกับชุดแต่ง M Sport ที่มาพร้อมกับล้ออัลลอย M ขนาด 20 นิ้ว ลาย V-spoke 873 แบบสลับสี

บีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยี BMW eDrive รุ่นที่ 5 ด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ตัวหนึ่งที่เพลาหน้าและอีกตัวหนึ่งที่ด้านหลัง ซึ่งสร้างกำลังรวมของระบบที่ 230 กิโลวัตต์/313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 494 นิวตันเมตร รถรุ่นนี้สามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 5.6 วินาที สู่ความเร็วสูงสุดที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยพลังจากชุดแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงที่ติดตั้งอยู่ใต้ตัวถังรถ ความจุพลังงานสุทธิ 66.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งทำให้บีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport มีระยะการขับขี่ถึง 417- 449 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP

รถยนต์รุ่นนี้รองรับการชาร์จแบบกระแสตรง (DC) สูงสุด 130 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จจาก 0-80% ได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 29 นาที ในขณะที่รองรับการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC) สูงสุด 22 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง 45 นาที นอกจากนั้น ยังติดตั้งมากับระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) ซึ่งสามารถอัปเกรดให้เป็นระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Plus (Driving Assistant Plus) ผ่านทาง ConnectedDrive Store ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยทั้งในการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกลอีกด้วย ช่วงล่าง Adaptive M ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้อย่างอิสระระหว่างรูปแบบการขับขี่แบบสะดวกสบายหรือสไตล์สปอร์ตอันเร้าใจ ส่วนระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ยังมอบความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ให้การจอดรถและการบังคับรถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport ใหม่ นำเสนอบรรยากาศพรีเมียมทันสมัยพร้อมให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสกับกลิ่นอายความสปอร์ต ภายในตกแต่งด้วยวัสดุตกแต่งแบบ Aluminium พร้อมแถบกราฟิก และเบาะที่นั่งสปอร์ตหุ้มหนัง M Alcantara/Veganza ผสานสีดำ ตัดกับตะเข็บสีน้ำเงิน คอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec นอกจากนั้น อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ได้แก่ เบาะนั่งปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่ง แบบ M Sport สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า หลังคากระจกพาโนรามาที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ยังให้ความรู้สึกโอ่อ่า กว้างขวางและสะดวกสบาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ชุดกระจกมองข้าง และกระจกมองหลังพร้อมฟังก์ชั่นป้องกันตาพร่า (Anti-Dazzle) ยังติดตั้งมาในรถยนต์รุ่นนี้ด้วย ฟังก์ชันกล้องภายในรถยนต์ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถถ่ายภาพภายในรถขณะที่จอดอยู่ได้ นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport ใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) ให้ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อกและสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ

บีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport ใหม่ ยังได้รับการพัฒนาด้านระบบความบันเทิงและการสื่อสารให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมจอ BMW Head-up Display และจอแสดงผลไวด์สกรีนผสมกับแผงหน้าปัดขนาด 10.25 นิ้ว และจอโค้ง Central Information Display ขนาด 10.7 นิ้ว ทำงานบนระบบปฎิบัติการ BMW Operating System 9 ใหม่ล่าสุด ที่ปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมกับหลากหลายระบบความบันเทิงทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น BMW Live Cockpit Professional ระบบ BMW ConnectedDrive ระบบเครื่องเสียง HiFi Harman Kardon และระบบแท่นชาร์จไร้สาย คุณลักษณะเด่นอีกประการของรุ่นรถยนต์นี้คือระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาของตนกับรถยนต์แบบไร้สายผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto โดยบีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport ใหม่ มีให้เลือกใน 5 สีตัวถัง ได้แก่ สีเทา Brooklyn Grey, สีดำ Sapphire Black, สีขาว Alpine White สีเขียว Cape York Green และสีแดง Fire Red

ลูกค้าที่สนใจสัมผัสประสบการณ์รถยนต์อเนกประสงค์แบบคูเป้ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนพร้อมสมรรถนะอันเหนือชั้นของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport ใหม่ สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.bmw.co.th เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมและจองออนไลน์ หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ BMW Thailand เพื่อติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นดังกล่าว

YAMAHA THAILAND RACING TEAM พร้อมดวลศึกเวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก

YAMAHA THAILAND RACING TEAM พร้อมรันวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยสู่เวทีระดับโลก จับคู่ “ตี-อนุภาพ” และ “ไอเดีย-กฤตภัทร” ชิงชัยในเกม World SuperSport เต็มฤดูกาลอีกครั้ง! ส่วนศึกชิงแชมป์เอเชียส่ง “แสตมป์-อภิวัฒน์” และ “โฟลท-รัฐพงษ์” ทวงบัลลังก์ SuperSport 600 พร้อมดันดาวรุ่ง “เติ้ล-วรพรต” เสริมประสบการณ์ในเกม YAMAHA R3 bLU cRU FIM World Cup

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เดินหน้าสานต่อความสำเร็จเกมมอเตอร์สปอร์ต พร้อมส่ง “YAMAHA THAILAND RACING TEAM” ยอดทีมแข่งทีมแรกของเมืองไทยลงทำการชิงชัยในเวทีระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ทั้งเกม World SuperSport แบบเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยส่ง “ตี-อนุภาพ” และ “ไอเดีย-กฤตภัทร” ลงชิงชัย ส่วนรายการชิงแชมป์เอเชียพร้อมกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ด้วยการจับคู่ระหว่าง “แสตมป์-อภิวัฒน์” และ “โฟลท-รัฐพงษ์” และผลักดันดาวรุ่งอย่าง “เติ้ล-วรพรต” ลุยศึก YAMAHA R3 bLU cRU FIM World Cup เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ อีกทั้งยังพร้อมให้การพัฒนานักบิดดาวรุ่งไทยลงทำการแข่งขันในเกมระดับประเทศ เพื่อเป็นบันไดขั้นแรกในการก้าวสู่เวทีระดับสากลต่อไปในอนาคต

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “สำหรับในปี 2024 นี้ ทีมแข่ง YAMAHA THAILAND RACING TEAM ยังคงมุ่งมั่นพร้อมเดินหน้าทำการแข่งขันในศึกชิงแชมป์โลกรายการ World SuperBike Championship ในรุ่น World SuperSport แบบเต็มฤดูกาลอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากปีที่ผ่านมาสามารถแสดงศักยภาพของทีมแข่งเมืองไทยจนได้รับการยอมรับจากทีมแข่งระดับโลกมาแล้ว โดยในปีนี้ทางทีมพร้อมส่ง ตี – อนุภาพ ซามูล (หมายเลข 51) ซึ่งมีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่องเดินหน้าลงชิงชัยเป็นฤดูกาลที่ 2 และจะจับคู่กับทีมเมทดาวรุ่งรุ่นน้องอย่าง ไอเดีย – กฤตภัทร เขื่อนคำ (หมายเลข 39) ที่ผ่านเกมการแข่งขันระดับโลกด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดมาแล้ว ทั้งรายการ MotoGP ที่สนามช้างฯประเทศไทย และการแข่งขัน World SuperSport  ในยุโรปในปีที่ผ่านมา”

นายวีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายกีฬายานยนต์ กล่าวว่า “ทั้งนี้ YAMAHA THAILAND RACING TEAM ยังคงให้ความสำคัญกับพร้อมพัฒนาทีมงานแมคคานิกส์ และเอ็นจิเนียร์คนไทย โดยพร้อมส่งช่างคนไทยแสดงศักยภาพในการทำงานร่วมกับทีมแข่งในเวทีชิงแชมป์โลก เพื่อนำประสบการณ์ที่ได้จากเกมระดับเวิลด์คลาสมาพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยต่อไปในอนาคตอีกด้วย

 ส่วนเกมการแข่งขันชิงแชมป์ทวีปเอเชียรายการ FIM Asia Road Racing Championship ในปีนี้ YAMAHA THAILAND RACING TEAM ตั้งเป้ากลับมาทวงบัลลังก์แชมป์เอเชียรุ่น SuperSport 600 อีกครั้ง โดยส่งคู่หูทีมเมทที่มีดีกรีแชมป์เอเชียอย่าง โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ยังลงแข่งขันในรุ่น SuperSport 600 และ แสตมป์ – อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์  นักแข่งของ YAMAHA THAILAND RACING TEAM จะลงแข่งขันให้กับทีม YAMAHA Tekhne Racing Team ASEAN ด้วยสัญญาแห่งความร่วมมือกันระหว่างทีมแข่ง YAMAHA THAILAND RACING TEAM กับทาง YAMAHA Motor และพันธมิตร YAMAHA Team Asean

สำหรับการชิงชัยในรายการ YAMAHA R3 bLU cRU European Championship ที่ในปีนี้ ทาง FIM และ Dorna DWO ได้ยกระดับการแข่งขันจากระดับทวีปเป็นการแข่งขันในระดับ World Cup โดยใช้ชื่อรายการว่า YAMAHA R3 bLU cRU FIM World Cup ทางทีมแข่ง YAMAHA THAILAND RACING TEAM พร้อมส่งดาวรุ่งอย่าง เติ้ล – วรพรต ทองดอนเหมือน (หมายเลข 54) เป็นตัวแทนนักบิดของประเทศไทยเข้าร่วมความท้าทายครั้งใหม่เพื่อเป็นบันไดก้าวสู่เกมการแข่งขันในระดับที่สูงขึ้นต่อไปในอนาคต

นอกจากนั้น YAMAHA THAILAND RACING TEAM พร้อมให้การพัฒนานักแข่งดาวรุ่งใหม่เข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตไทย โดยจะทำการสานต่อโครงการการแข่งขัน YAMAHA R3 bLU cRU Thailand Cup ต่อไป โดยทั้งนี้ YAMAHA Motor ได้เห็นถึงศักยภาพ และความพร้อมของทีมแข่งไทยในการที่จะยกระดับพัฒนาโครงการที่อยู่ในระดับ Thailand Cup ขึ้นเป็นเกมระดับแชมเปียนชิพใหม่ของทวีปเอเซีย ภายใต้ชื่อรายการ YAMAHA R3 bLU cRU Asia-Pacific Championship โดยจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานหลักของรายการ และใช้สนามแข่งทั้ง 2 สนามในประเทศไทยคือ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต – สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต และจะนำนักแข่งในอาเซียน รวมถึง จีน – เกาหลีใต้ – ออสเตรเลีย – นิวซีแลนด์-อินเดีย-ไต้หวัน มาร่วมแข่งขันกับนักแข่งไทย ซึ่งจะเป็นการพัฒนาศักยภาพของนักแข่ง bLU cRU ให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อเป็นกำลังสำคัญของนักแข่งยามาฮ่าในเวทีระดับโลกต่อไปในอนาคต

สำหรับเป้าหมายของ YAMAHA THAILAND RACING TEAM มีความชัดเจนแล้วว่า ไม่เพียงแค่ชัยชนะเท่านั้น แต่ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนานักแข่งไทย ทีมแข่งไทย ไปสู่ระดับโลก ให้เป็นที่ยอมรับถึงศักยภาพคนไทย ซึ่งถือเป็นความท้าทายใหม่ที่ YAMAHA THAILAND RACING TEAM จะก้าวข้ามขีดจำกัดไปด้วยความมุ่งมั่น เพื่อยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทยให้ทัดเทียมระดับโลกนั่นเอง”

และนี่คือความท้าทายอีกครั้งกับการแข่งขันระดับโลก ระดับเอเชีย และการสร้างโครงการผลิตนักแข่งไทยภายใต้การผลักดันของไทยยามาฮ่ามอเตอร์ แฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารรวมถึงความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ YAMAHA THAILAND RACING TEAM ผ่านทาง Facebook : YAMAHA THAILAND RACING TEAM

มาสด้า ผนึกสวาทแคทรวมพลังอนุรักษ์ผืนป่าสร้างโป่งเทียม

มาสด้า ผนึกสวาทแคทจัดคาราวานพาลูกค้าและแฟนบอล รวมพลังสร้างโป่งเทียม อนุรักษ์ผืนป่า เขาแผงม้า อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ผนึกกำลังกับ สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี จัดกิจกรรมส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรมระดับท้องถิ่น “Mazda Swatcat Caravan เสริมชุมชน สร้างผืนป่า พาเชียร์บอล” รวมพลังลูกค้าผู้ใช้รถยนต์มาสด้าและแฟนคลับสวาทแคท ร่วมขบวนคาราวานด้วยรถยนต์มาสด้าออกเดินทางไปเรียนรู้และส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนบ้านด่านเกวียน แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผา ภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่นมานานกว่าร้อยปี และร่วมกันสร้างโป่งเทียมเพิ่มแร่ธาตุให้กับสัตว์ป่า เพื่ออนุรักษ์ผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์และยั่งยืน ณ เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าจุดสกัดเขาสูง เขาแผงม้า ในช่วงเย็นยังได้ร่วมส่งแรงใจแรงใจเชียร์ทีมฟุตบอลสวาทแคท ในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก2 ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ซึ่งสร้างความประทับใจและยกระดับความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างลูกค้ามาสด้าและแฟนบอลได้เป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กว่า 100 คน

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “มาสด้าเดินหน้าตามแนวทาง Sustainable Development Goals- SDGs หรือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน สะท้อนถึง 3 แกนหลักของมิติความยั่งยืน ด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสรรค์โลกของเราให้ยังคงความสวยงาม ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และสร้างสังคมที่ยั่งยืนตลอดไป ภายใต้การบริหารคุณค่าของแบรนด์ Brand Value Management (BVM) ประกอบด้วย Purpose เจตนารมณ์และเหตุผลหลักในการดำรงอยู่ของมาสด้า เน้นสร้างคุณค่าและเติมเต็มชีวิตให้กับผู้คนได้สัมผัสแบรนด์มาสด้าด้วยความภาคภูมิใจ Promise คำมั่นสัญญาจากแบรนด์ที่มีให้กับลูกค้าทุกคน มาสด้ายังคงมุ่งมั่นพัฒนารถยนต์ภายใต้เทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก และ Value การสร้างคุณค่าของแบรนด์ให้เป็นมากกว่ายานพาหนะแต่เป็นพาร์ทเนอร์ที่จะทำให้ทุกครอบครัวมีความสุขตลอดการเดินทาง

คาราวาน “Mazda Swatcat Caravan เสริมชุมชน สร้างผืนป่า พาเชียร์บอล” มีรถยนต์มาสด้าเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 30 คัน มีสมาชิกร่วมเดินทางกว่า 100 คน กิจกรรมประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ คือ การเดินทางไปเรียนรู้วิถีแห่งชุมชนเที่บ้านด่านเกวียน ชมหัตถกรรมครื่องปั้นดินเผา อำเภอโชคชัย ช่วยยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นของจังหวัดนครราชสีมา การสร้างโป่งดินเพื่อเป็นแหล่งเสริมแร่ธาตุสำหรับสัตว์ป่า เขาแผงม้า และสุดท้ายนำสมาชิกเข้าชมและเชียร์การแข่งขันฟุตบอล มาสด้าเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันของทุกคนในวันนี้ คือส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม และช่วยสร้างสมดุลให้กับธรรมชาติและสภาพแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น นี่คือหนึ่งในพันธกิจของมาสด้าที่ต้องการยกระดับประสบการณ์ สร้างความสุข และการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้ามาสด้าทั่วประเทศ

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานบริหารสโมสร นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี กล่าวว่า “กิจกรรม “Mazda Swatcat Caravan” เกิดจากความร่วมมือระหว่างพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย, สโมสร นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ผู้จำหน่ายมาสด้าในจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งบางจาก และ อินทนิล ในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกับลูกค้าและแฟนคลับสวาทแคท พร้อมส่งกำลังใจเชียร์การแข่งขันฟุตบอล ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ชมการแข่งขันในเย็นวันนี้ซึ่งเป็นนัดที่แตะในบ้าน ด้วยแรงสนับสนุนจากทุกท่าน ไม่เพียงแต่จะช่วยทำให้จังหวัดนครราชสีมาที่เป็นบ้านเกิดของชาวสวาทแคทก้าวสู่ความยั่งยืนเท่านั้น แต่กำลังใจที่เต็มเปี่ยมในครั้งนี้ ยังจะช่วยส่งเสริมให้ทีมสวาทแคทที่เรารักเอาชนะในเกมส์การแข่งขันในครั้งนี้”

กิจกรรมในครั้งนี้ เริ่มปล่อยขบวนคาราวานออกจากจุดสตาร์ท บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับเกียรติเป็นอย่างสูงจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสมเกียรติ วิริยะนันท์กุล  พร้อมด้วยผู้บริหารจากสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี นำโดย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานบริหาร, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ประธานสโมสรฯ, นางสาวอัญรินทร์ วงศ์อัครพัฒนา รองประธานฝ่ายรายได้และสิทธิประโยชน์, นายวัชระ เจียรบุญ ผู้จัดการทั่วไปแผนกการตลาด, นายอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปส่วนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย นางสาวทัศนียา พัฒนจิตวิไล กรรมการผู้จัดการ มาสด้า ราชาออโต้เซลส์ และทีมบริหารจาก มาสด้า เอกสห กรุ๊ป เข้าร่วมพิธีปล่อยคาราวาน ก่อนมุ่งหน้าออกเดินทางไปยังศูนย์การเรียนรู้เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมชุมชนอันเลื่องชื่อของจังหวัดฯ พร้อมชมนิทรรศการ “งานมหกรรมเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน” ก่อนออกเดินทางมุ่งหน้าไปร่วมกิจกรรมอนุรักษ์สัตว์ป่าที่ยั่งยืน ณ เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าจุดสกัดเขาสูง เขาแผงม้า อำเภอวังน้ำเขียว

หลังจากลูกค้าและแฟนคลับร่วมกันทำโป่งดินเพื่อสัตว์ป่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้เดินทางต่อไปยังสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เพื่อรวมตัวสร้างความฮึกเหิมและรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว และส่งกำลังใจให้ทีมสวาทแคท ในการแข่งขันแมตต์สำคัญระหว่าง สวาทแคท กับ พัทยา ยูไนเต็ด นอกจากลูกค้าและแฟนคลับจะได้สนุกสนานกับกิจกรรมตลอดการเดินทางแล้ว ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างแฟนมาสด้า แฟนคลับสวาทแคท และนักกีฬาในการสู้ศึกการแข่งขันเพื่อทีมที่ทุกคนรักและภาคภูมิใจ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่ผู้ร่วมกิจกรรมจะได้สัมผัสถึงประสบการณ์ความสุขในการขับขี่ หรือ Joy of Driving จากการขับขี่รถยนต์มาสด้าแล้ว ยังได้รับความสุขจากการได้มีส่วนช่วยสร้างสรรค์ชุมชนและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความยั่งยืน เพื่อทำให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับผู้คนในเจเนอเรชั่นถัดไป

บุคคลในภาพในพิธีเปิดกิจกรรม ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา

นางสาวอัญรินทร์ วงศ์อัครพัฒนา (ที่3 จากซ้าย) รองประธานฝ่ายรายได้และสิทธิประโยชน์ สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ (ที่4 จากว้าย) ประธานสโมสรฯ, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (ที่6 จากซ้าย) ประธานบริหารสโมสรฯ, นายสมเกียรติ วิริยะนันท์กุล (ที่6 จากขวา) รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายวัชระ เจียรบุญ (ที่5 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปแผนกการตลาด, นายอุทัย เรืองศักดิ์ (ที่5 จากขวา) ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย และ นางสาวทัศนียา พัฒนจิตวิไล (ที่3 จากขวา) มาสด้าราชาออโต้เซลส์

CUB House เปิดตัว Pop-up Store ครั้งแรกใจกลางเยาวราช

CUB House เปิดตัว Pop-up Store ครั้งแรกใจกลางเยาวราช บนสถานี MRT วัดมังกร ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน

CUB House by Honda สร้างเซอร์ไพรส์กลางเยาวราชรับเทศกาลตรุษจีนด้วยการเปิดตัว CUB House Pop-Up Store บนพื้นที่สถานี MRT วัดมังกร (ทางออกที่ 2) จุดศูนย์กลางวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น นำเสนอรถระดับไอคอน ผสานรวมกับคัลเจอร์ของคนเมือง มอบประสบการณ์สุดพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ตอบโจทย์ทุกสายแฟชั่นทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมให้มาสัมผัสได้ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ จนถึง 22 เมษายน 2567

CUB House Pop-up Store นำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่ตื่นตาตื่นใจโดยการนำ Iconic Models กับชุดแต่งพิเศษจากค่ายดังมาให้ได้สัมผัสกันถึงที่ ไม่ว่าจะเป็น ‘New Dax Me out’ กับชุดแต่ง Daxcessories จากค่าย KitacoSE จัดเต็มสุดแนวตลอดทั้งคัน และ ‘Honda Monkey x Gcraft+’ สาวกลิงน้อยมาพร้อมชุดแต่ง Special Touring Set จากสำนักแต่ง GCraft ที่ออกแบบมาสำหรับสายทัวร์ริ่งโดยเฉพาะ รวมถึง ‘New Honda CT125 x StreamTrail’ สีเหลือง (Yellow Color) มาพร้อมชุดแต่ง Trailventure Set เหมาะสำหรับสายลุย อีกทั้งยังมี CUB House รุ่นอื่น ๆ ที่เตรียมเอาใจสายไบค์เกอร์ให้ได้เติมแต่งความเป็นตัวตน เสริมเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างเต็มที่

พร้อมสัมผัสไลฟ์สไตล์ และสัมผัสรถจริงได้แล้ววันนี้ที่ CUB House Pop-up Store MRT วัดมังกร

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save