3. ASEAN NCAP คือโปรแกรมทดสอบเพื่อประเมินสมรรถนะของรถยนต์รุ่นใหม่ สำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (New Car Assessment Program for Southeast Asian Countries)
การันตีคุณภาพ IONIQ 5 ด้วยการคว้ารางวัลจากเวทีนานาชาติทั่วโลกรวมทั้ง World Car of the Year, World EV of the Year และ World Car Design of the Year จากเวที World Car Awards
Hyundai Santa Fe ติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อันล้ำสมัย ทั้งปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบ Push Start Button ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control พร้อมปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ทั้งแบบ Eco, Sport และ Smart และแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shifter ตลอดจนเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะครบครันที่ทำให้ Santa Fe เป็นสุดยอด D-SUV ที่ตอบโจทย์การเดินทางทุกรูปแบบทั้งการขับขี่ในเมืองใหญ่ และการขับขี่ทางไกลเพื่อพักผ่อนในวันหยุดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ครบครันกับระบบความปลอดภัยเหนือชั้นอย่าง Hyundai SmartSense
Elantra N – ดีเอ็นเอจากสนามแข่งขันสู่ยานยนต์บนท้องถนน
Hyundai N แบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูงล่าสุดจากฮุนได พัฒนาขึ้นด้วยความหลงใหลในสมรรถนะขั้นสูงของกีฬามอเตอร์สปอร์ตบนพื้นฐานแนวคิด “Never Just Drive” โดยรถยนต์ N ทุกรุ่น ผ่านการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญของศูนย์วิจัยและพัฒนา Hyundai Motor Namyang R&D Center ก่อนจะส่งรถยนต์ N ไปทดสอบที่สนาม Nürburgring ในเยอรมนี ซึ่งได้รับการขนานนามเป็นหนึ่งในสนามแข่งที่โหดที่สุดในโลก จนเป็นที่มาของแบรนด์ N ซึ่งตั้งตามชื่อเมือง Namyang และสนามแข่ง Nürburgring นั่นเอง ส่วนเส้นสายของโลโก้ N นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากโค้งสนามแข่งขันในตำนานเช่นกัน
Elantra N มอบศักยภาพแห่งการขับขี่ที่เปี่ยมพลังด้วยเครื่องยนต์ Theta-II 2.0 T-GDi เทอร์โบ กำลังสูงสุด 280 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 392 นิวตันเมตร ที่ 2,100 – 4,700 รอบต่อนาที ใช้ระบบส่งกำลังแบบ N 8-speed Wet Dual Clutch Transmission (DCT) ทั้งยังมีระบบผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้เอง ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า มาพร้อมเทคโนโลยีระบบวาล์วท่อไอเสียแบบแปรผันที่สร้างเสียง Pop-corn Sound และระบบกันสะเทือนแบบ Adaptive ใช้ระบบบังคับเลี้ยวแบบ Rack-mounted Motor Driven Power Steering (R-MDPS) และเบรกอย่างแม่นยำ ด้วยระบบดิสก์เบรกประสิทธิภาพสูงพร้อมช่องระบายความร้อนขนาด 360 x 30 มม. (ล้อหน้า) และขนาด 314 x 20 มม. (ล้อหลัง)
Elantra N เปิดตัวครั้งแรกในไทย นับเป็นประเทศแรกในตลาดต่างประเทศของโลกที่จำหน่ายรถยนต์รุ่นนี้ ทั้งยังเป็นยานยนต์ตระกูล N รุ่นที่ทันสมัยและสมดุลที่สุด สมบูรณ์แบบทั้งการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสนามแข่ง ให้ผู้ขับสัมผัสประสบการณ์แห่งความแรงสุดเร้าใจ พร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยและอุปกรณ์อื่นอันเหนือชั้น Elantra N จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งประสบการณ์กีฬามอเตอร์สปอร์ต บนท้องถนนที่แท้จริง
ผู้เยี่ยมชมบูธฮุนไดยังจะได้สัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตรุ่นอื่นอีกมากมาย ทั้งจากแบรนด์ IONIQ อาทิ IONIQ 6 รถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาต่อจาก Prophecy Concept EV สวยงามด้วยรูปทรงเพรียวบาง พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยและการเชื่อมต่อเทคโนโลยีขั้นสูงครบครันด้วยนวัตกรรมอัจฉริยะ จนได้รับรางวัล 2023 World Car of the Year รวมถึงยานยนต์สมรรถนะสูงจาก N Brand ทั้งรถยนต์ต้นแบบ N Vision 74 สมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยและการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อการขับขี่ที่รื่นรมย์, รถแข่งแรลลี่ดีกรีเจ้าสนาม I20 WRC ซึ่งคว้าตำแหน่งผู้ผลิต WRC ยอดเยี่ยมเป็นปีที่ 2 ติดกัน จากชัยชนะ 3 สนาม ทั้งมอนติคาร์โล เอสโทเนีย และซาร์ดิเนีย
บ.เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ยกทัพรถยนต์ไฟฟ้า BYD จัดโชว์นวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อตอกย้ำ ความเป็นเอกลักษณ์ของ BYD ที่ทำตลาดครองใจผู้บริโภคชาวไทยมาแล้วถึง 3 รุ่น BYD ATTO 3, BYD DOLPHIN, BYD SEAL พร้อมมอบแคมเปญสุดพิเศษส่งท้ายแทนคำขอบคุณลูกค้าเก่าและใหม่ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 และภายในบูธ ยังนำนวัตกรรมพรีเมียมและล้ำสมัยมาโชว์ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสอีก 2 รุ่นภายใต้แบรนด์ Yangwang และ Denza
แบรนด์ Yangwang (หย่างว่าง)
Yangwang U8 (หย่างว่าง ยูเอท) เป็นแบรนด์ไฮเอ็นท์ที่สุดของ Luxury SUV ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสุด ด้วยระบบเทคโนโลยี ล้ำสมัย ที่จะพาคุณเดินทางไปได้ในทุกสภาพถนน ยังมากับระบบความปลอดภัยอย่างเต็มพิกัดและเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ BYD กับ ระบบ DiSus Intelligent Body Control System เป็นระบบควบคุมเสถียรภาพของระบบช่วงล่าง มีระบบไฮดรอลิก และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อให้สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของรถได้ทุกทิศทุกทาง และยังมีระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัวระบบทำความสะอาดจานเบรก ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ระบบป้องกันการล๊อกตายของล้อ อีกด้วย และภายในงานเราได้นำเทคโนโลยีใน Yangwang U8 มาโชว์คือ การหมุนกลับรถแบบ 360 องศา โดยควบคุมและคำนวณรอบการหมุนของมอเตอร์อิสระ 4 ล้อ เป็นครั้งแรกของไทย
รายละเอียดของ Yangwang U8
•สามารถขับขี่ใน Mode Off Road และขับลงน้ำลึกได้ 1 เมตร ได้นานสูงสุด 30 นาที
•ใช้เวลาชาร์จ DC จาก 30-80% ภายในเวลาเพียง 18 นาที
•ส่วนดีไซน์ภายนอกแบบ Ladder-frame
•ด้านหน้าออกแบบให้มีมิติที่เข้ากับเม็ดไฟ LED ไฟหน้า LED แบบ Interstellar Matrix (พร้อมการปรับความสูงแบบอัตโนมัติ) มาพร้อมแถบไฟตกแต่ง 6 แถบที่บริเวณ ตำแหน่งเสา D ของตัวรถ
จากคอนเซ็ปต์ “FUTURE FOR ALL” ที่สะท้อนผ่านดีไซน์การออกแบบบูธตามหลัก Universal Design อีกหนึ่งความโดดเด่นภายในบูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ คือการนำเสนอโมเดลรถรุ่นใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่หลากหลายและมีไลฟ์สไตล์การใช้งานที่แตกต่างกัน โดยมีทั้งรถเอสยูวีรุ่นขายดีตลอดกาลของเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่าง The new GLC ที่เสริมไลน์อัพด้วยเครื่องยนต์ดีเซลพร้อมขุมพลังแบบ Mild Hybrid ในรุ่น “GLC 220 d 4MATIC Avantgarde”, “EQE 350 4MATIC SUV Electric Art” เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นเริ่มต้นจากตระกูล EQE SUV ที่ขับขี่ได้ไกลถึง 558 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง, “The new GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic” ที่สุดแห่งยนตกรรรมเอสยูวีสุดหรูที่ผสานสมรรถนะอันทรงพลังและความสะดวกสบายได้อย่างไร้ที่ติ และ “C 220 d AMG Line” รุ่นย่อยล่าสุดจาก The new C-Class อีกหนึ่งไลน์อัพรถซีดานยอดนิยมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่มาพร้อมเอกลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน
ข้อมูลเบื้องต้น – GLC 220 d 4MATIC Avantgarde (ราคาจำหน่าย 3,720,000 บาท)
ไฮไลท์เด่นในงาน Motor Expo ปีนี้ต้องยกให้ RS Q8 ที่มาพร้อมประสบการณ์ขับขี่แบบสปอร์ตจากเครื่องยนต์ที่เหนือชั้น สมรรถนะ Supercar อันทรงพลัง เทคโนโลยีล้ำสมัยและจุดเด่นของรถในตระกูล RS ที่สร้างเสียงฮือฮาเขย่าตลาดด้วยราคาต่อแรงม้าที่คุ้มค่าที่สุด ราคาเริ่มต้น 11,900,000 บาท ถือเป็นรถในกลุ่ม High performance ที่กำลังอยู่ในกระแสร้อนแรงที่สุดของอาวดี้ พร้อมอวดโฉมกองทัพ RS Model ในราคาสุดเร้าใจ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพิเศษ Competition Edition ที่นำมาจัดแสดงให้ชมในงาน
•RS 5 Coupé quattro competition สปอร์ตคูเป้ตัวแรง ราคาเริ่มต้น 6,599,000 บาท
•RS 4 Avant quattro competition ราคาเริ่มต้น 6,499,000 บาท
•TT RS Coupé ราคา 5,449,000 บาท
พร้อมยกทัพรถ Plug-in Hybrid เทคโนโลยีไฟฟ้าล่าสุด มาแสดงอย่างครบครัน ซึ่งเป็นการผสมผสานความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีของ Audi ด้วยการนำข้อดีของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีการขับเคลื่อนแบบสันดาปมารวมกัน เทคโนโลยี PHEV ที่ลงตัวกับการใช้งานใน A7 55 TFSI e แรง ขับสนุก ขุมพลังกว่า 367 แรงม้า วิ่งได้ไกลถึง 69 กิโลเมตร ด้วยไฟฟ้าล้วน และใช้เวลาชาร์จเพียง 2 ชั่วโมง เท่านั้น พร้อม Plug-in hybrid ในตระกูล SUV ไม่ว่าจะเป็น Q5 55 TFSI e quattro SUV ขนาดที่ลงตัวกับครอบครัวยุคใหม่ Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition และ Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition
พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ของการขับอาวดี้กับกิจกรรมทดลองขับตลอดงาน Motor Expo เพื่อให้แฟนอาวดี้ที่ชื่นชอบสมรรถนะได้สัมผัสกับสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นของ quattro ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ พร้อมความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองการใช้งานอันครบครัน
Audi เป็นรถยนต์นำเข้าประกอบนอกทั้งคัน คุณภาพมาตรฐานเยอรมันทุกรุ่น ลูกค้าที่ออกรถอาวดี้ทุกรุ่นได้รับการดูแลจาก Audi Protection การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตรแล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
นอกจากฟิล์มสำหรับหลังคากระจกแล้ว ในปีนี้ ลามิน่าได้ต่อยอดการทำตลาดฟิล์มกรองแสงเทคโนโลยีดิจิทัลบูสต์ ด้วยการพัฒนาสินค้าเพิ่มอีก 4 ซีรีส์ เปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ ประกอบด้วย Lamina Digital Special Boost, Lamina Digital Executive Boost, Lamina Digital Genius Boost และ Lamina Digital POP Boost เพื่อเสริมไลน์สินค้ากลุ่มเทคโนโลยีพิเศษ ที่มีการเปิดตัวเพื่อตลาดไปก่อนหน้านี้แล้ว 6 ซีรีส์สำหรับตลาดประเทศไทย