- Advertisement -
28.7 C
Bangkok
Home Blog Page 66

โตโยต้า มอบทุนการศึกษาแก่นิสิตจุฬาฯ ประจำปีการศึกษา 2566

โตโยต้า สานโอกาสทางการศึกษา ขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ความยั่งยืน มอบทุนการศึกษา แก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประจำปีการศึกษา 2566 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 51

นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดพร้อมด้วย นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และ นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบทุนการศึกษา แก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประจำปี 2566 โดยมี อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ พร้อมคณาจารย์ และคณะผู้บริหารระดับสูง ร่วมแสดงความยินดี เมื่อวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ณ อาคารจามจุรี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา อันเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาเยาวชน ให้มีความรู้ความสามารถ และมีทักษะพื้นฐานที่จำเป็น โตโยต้า จึงดำเนินธุรกิจควบคู่กับความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสังคมไทยไปสู่ความยั่งยืน รวมถึงเสริมสร้าง ความสุขของผู้คนในสังคม ด้วยการแบ่งปันโอกาสทางการศึกษาให้แก่นิสิต นักศึกษา ที่มีผลการเรียน และความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 51 ปี

โดยโตโยต้า ได้จัดกิจกรรมมอบทุนสนับสนุนแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 1,615 ทุน มูลค่า 21,522,000 บาท โดยในปีนี้ มีนิสิตเข้ารับทุนดังกล่าวจำนวน 12 ทุน มูลค่าทุนละ 80,000 บาท รวมทั้งหมดเป็นมูลค่า 960,000 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

•คณะวิศวกรรมศาสตร์                           จำนวน 4 ทุน          

•คณะอักษรศาสตร์                                จำนวน 2 ทุน          

•คณะรัฐศาสตร์                                     จำนวน 2 ทุน          

•คณะทันตแพทยศาสตร์                        จำนวน 1 ทุน          

•คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี        จำนวน 1 ทุน          

•คณะจิตวิทยา                                       จำนวน 1 ทุน          

•คณะเศรษฐศาสตร์                               จำนวน 1 ทุน          

โตโยต้า ยังคงมุ่งมั่นสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่นิสิต นักศึกษา ด้วยการ “สานโอกาส สร้างรอยยิ้ม” ส่งต่อโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอย่างครอบคลุม และเท่าเทียม เพื่อให้นิสิตนักศึกษา ได้นำเอาทุนการศึกษาไปต่อยอดและพัฒนาศักยภาพของตนเอง รวมถึงเติบโตเป็นบุคลากรที่ดี มีคุณภาพ สร้างคุณูปการให้แก่ประเทศชาติ และร่วมส่งต่อโอกาสทางการศึกษา อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนสังคมไทยให้เข้าใกล้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ต่อไป

                        “โตโยต้า ร่วมขับเคลื่อนอนาคต”

“กรังด์ปรีซ์” ทุ่มงบกว่า 300 ล้าน เนรมิตงานแสดงยานยนต์ระดับโลก

“กรังด์ปรีซ์” ทุ่มงบกว่า 300 ล้าน เนรมิตงานแสดงยานยนต์ระดับโลก “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 45

“กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล” หรือ GPI ประกาศทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่กว่า 76,000 ตารางเมตร จัดงานแสดงยานยนต์ระดับโลก “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45” (THE 45th BANGKOK INTERNATIONAL MOTORSHOW 2024) ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2567 นี้

นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ สายกิจกรรมพิเศษ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดงานในปีนี้ว่า “สำหรับงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024  มาในธีม The Mobility of Joyful Experiences : ประสบการณ์แห่งความสนุกของทุกการเดินทาง ที่สื่อว่า เมื่อถนนแห่งเทคโนโลยียานยนต์และการดำรงชีวิตเดินทางมาบรรจบกัน ความสวยงามของยานยนต์ เทคโนโลยีที่ท้าทายสะท้อนความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม เติมเต็มความสุขและประสบการณ์แห่งความสนุกของทุกการเดินทาง และงานในครั้งนี้ยังพร้อมสนับสนุนเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โดยล่าสุดผู้ประกอบการรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 47 แบรนด์ แบ่งเป็นรถยนต์ 35 แบรนด์ และรถจักรยานยนต์ 12 แบรนด์ เข้าร่วมงานในครั้งนี้ ได้ตอบรับเข้าจองพื้นที่ในงานที่เตรียมจะจัดขึ้นปีหน้าครบทั้ง 100% แล้ว สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของค่ายรถที่มีต่อบริษัทฯ ของเราในฐานะผู้จัดงานแสดงยานยนต์ และมั่นใจต่อแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่เป็นแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ติดต่อเข้ามาจองพื้นที่ภายในงานมอเตอร์โชว์ 2024 อีกหลายเจ้า อาทิ AION, CHANGAN, NETA, HONRI, POCCO, NEXPOINT, FIREBRIGHT และรถยนต์สัญชาติเวียดนาม VINFAST

นอกจากนี้ยังมีแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ๆ ที่เข้าร่วมงาน อาทิ RAPID, FELO, LYVA, ZEEHO, CF MOTO ซึ่งทั้งหมดตอบรับเข้าจองพื้นที่แล้ว ทำให้ในปีนี้ ผู้เข้าชมงานจะได้มีโอกาสสัมผัสกับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่มีให้เลือกหลายหลากรุ่น หลายแบบ อย่างแน่นอน ถือเป็นปรากฎการณ์ครั้งใหม่ที่พื้นที่จัดแสดงภายในทุกพื้นที่ในอาคารชาเลนเจอร์ ของงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ถูกจับจองเต็มไปด้วยแบรนด์รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทำให้งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ต้องมีการขยับขยาย สร้างการเจริญเติบโตของพื้นที่จัดแสดง ไปยังอาคารอิมแพค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 รวมพื้นที่จัดแสดงทั้งสิ้นกว่า 76,000 ตารางเมตร

จะเห็นได้ว่า ในช่วงการเกิดโรคระบาด เศรษฐกิจทั่วโลกถูกฟรีซ ทำให้การลงทุนในธุรกิจต่างๆลดน้อยลง งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เป็นงานแสดงรถยนต์งานแรกของประเทศที่ได้กลับมายืนหยัด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และ อุตสาหกรรมของประเทศไทย หลังจากสถานการณ์โรคระบาดผ่อนคลาย ด้วยความตั้งใจที่ต้องการเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย การท่องเที่ยวของประเทศ ธุรกิจที่เชื่อมโยงกับการจัดงานฯ รวมถึงประชาชนคนไทยได้กลับมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยเงินลงทุนสำหรับการจัดงานในทุกครั้งของการจัดงาน ก่อให้เกิดกระแสเม็ดเงินกระจายรายได้ให้กับทุกภาคส่วน และในปีนี้เช่นเดียวกัน บริษัทยังคงใช้งบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ในการเนรมิตรพื้นที่จัดแสดง ให้เป็นพื้นที่จัดแสดงยานยนต์ที่มีมาตรฐานในระดับสากล และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เข้ามาเดินชมภายในงาน ไม่ว่าจะเป็น การจัดพื้นที่ในการเดินชมงาน การให้มีพื้นที่เจรจาการขาย และอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากบรรดาค่ายรถต่างๆ ในการออกแบบและตกแต่งบูธ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมงานให้เข้าไปเยี่ยมชมสินค้า ซึ่งการออกแบบบูธของแต่ละค่ายต่างได้รับการพิจารณาอนุมัติโดยบริษัทแม่ในต่างประเทศ และใช้งบในการออกแบบก่อสร้างค่อนข้างสูง ซึ่งคาดว่า จะทำให้บรรยากาศของงานในปีนี้จะกลับมาเต็มไปด้วยสีสันเช่นเดิม

สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 จัดขึ้นที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และอิมแพค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม-7 เมษายน 2567 โดยเปิดให้เข้าชมงานเวลาตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น. ในวันธรรมดา และจะเปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา 11:00 -22.00 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ราคาบัตรเข้าชมงาน 100 บาท รับสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลรถยนต์ไฟฟ้า LUMIN  และรถจักรยานยนต์ 4 คันจากแบรนด์ HONDA YAMAHA KAWASAKI และ SUZUKI สำหรับผู้ซื้อบัตรเข้าชม สำหรับผู้จองซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ภายในงานฯ ลุ้นรับรางวัลรถยนต์ MG4 DSK และรถจักรยานยนต์ ZEEHO AE6+

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้บริหารพื้นที่ภายในฮอลล์เพื่อรองรับให้ครอบคลุมทุกความสนใจในเรื่องยานยนต์ โดยภายในอาคารชาเลนเจอร์ จัดเต็มไปด้วยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทั้ง ICE , EV ,CONCEPT CAR พร้อมการเผยโฉมรถยนต์รุ่นใหม่ภายในงาน ไม่ต่ำกว่า 5 แบรนด์  ในส่วนของอาคาร อิมแพค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 จัดแสดง ซูเปอร์คาร์ ไฮเปอร์คาร์แรร์ไอเท็ม ที่มีเพียงคันเดียวในประเทศไทย รถยนต์คลาสสิก บูธอุปกรณ์ตกแต่งรถ สินค้าและอุปกรณ์สำหรับกลุ่มผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนว Camping

งานนี้มั่นใจว่า บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์จะสร้างผลงานที่น่าประทับใจ และสร้างรายได้จากการจัดงานในครั้งนี้จะเติบโตขึ้นกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน

ไทยยามาฮ่า ประกาศทวงบัลลังก์ศึกชิงแชมป์เอเชีย

ไทยยามาฮ่า ร่วมงานแถลงข่าวเปิดศึกชิงแชมป์เอเชีย ประกาศพร้อมลุยทวงบัลลังก์แชมป์อีกครั้ง

นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า และวางแผนการตลาด คณะผู้บริหารระดับสูง พร้อมด้วย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักแข่งในสังกัดยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ถ่ายภาพร่วมกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิจ  นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการ ฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จำกัด และนายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพ และกีฬามวย ในงานแถลงข่าวเตรียมความพร้อมศึกการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชียในรายการ เอฟไอเอ็ม เอเชีย โร้ดเรซซิง แชมเปียนชิพ 2024

โดยในปีนี้ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ส่ง 2 นักแข่งชั้นนำลงทำการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ด้วยรถแข่ง YAMAHA YZF-R6 นำโดย “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ดีกรีแชมป์เอเชียในรุ่น 600 ซีซี พร้อมด้วย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ดีกรีแชมป์เอเชียรุ่น 250 ซีซี ที่ในปีนี้ไทยยามาฮ่า ได้ส่งลงทำการแข่งขันในสังกัดทีม ยามาฮ่า เทคเน่ ทีมอาเซียน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม พร้อมด้วย ยามาฮ่า มอเตอร์ และพันธมิตรอย่าง ยามาฮ่าทีม อาเซียน

โดยการแข่งขันศึกรถจักรยานทางเรียบชิงแชมป์เอเชียสนามแรกจะมีคิวดวลคันเร่งระหว่างวันที่ 15 – 17 มีนาคม 2567 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

สำหรับงานแถลงข่าวเตรียมความพร้อมการแข่งขัน เอเชีย โร้ดเรซซิ่ง ในครั้งนีั มีขึ้น ณ ห้องราชพฤกษ์บอลรูม ชั้น 2 อาคารสปอร์ตคลับเฮ้าส์ ราชพฤกษ์คลับ นอร์ธปาร์ค ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

“ฮอนด้า” ยกทัพนักบิด Honda CBR Series ดวลศึกสองล้อทางเรียบเอเชีย

“ฮอนด้า” ยกทัพนักบิด Honda CBR Series ดวลศึกสองล้อทางเรียบเอเชีย Asia Road Racing Championship 2024 “ชิพ – แชมป์” บิด Honda CBR1000RR-R ดวลรุ่นท็อป “มิกซ์ – ไม้คิว” บิด Honda CBR600RR เก็บประสบการณ์รุ่น SS600 ขับเคี่ยวกับนักแข่งแถวหน้าระดับเอเชีย

“ไทยฮอนด้า” ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ประกาศเข้าร่วมการแข่งขันศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ FIM Asia Road Racing Championship 2024 ส่งทัพนักบิด Honda CBR Series จากโครงการ “เรซ ทู เดอะ แชมป์เปี้ยน” ลงไล่ล่าชัยชนะและท้าทายลิมิตอีกครั้ง โดยยอดนักบิดไทย “ชิพ – แชมป์” บิด Honda CBR1000RR-R ดวลรุ่นท็อป ASB1000 เป้าคว้าชัยโฮมเรซ ผลักดันนักบิดดาวรุ่ง “มิกซ์ – ไม้คิว” บิด Honda CBR600RR เก็บประสบการณ์รุ่น SS600 ขับเคี่ยวกับนักแข่งแถวหน้าระดับเอเชีย

“ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ เตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อลงแข่งขันฤดูกาลนี้ ขยับขึ้นสู่รุ่นท็อปสุดของรายการอย่าง “เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี” (ASB1000) ด้วยรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 41 ภายใต้สังกัด “ฮอนด้า เอเชีย ดรีม เรซซิ่ง วิท แอสติโม” พร้อมด้วย “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ ที่ฟื้นฟูร่างกายกลับมาพร้อมสำหรับการแข่งขันอีกครั้ง ด้วยรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 52 ภายใต้สังกัด “แอสติโม เอสไอ เรซซิ่ง วิท ไทยฮอนด้า” เป้าหมายคว้าชัยโฮมเรซ โดยทั้งคู่ได้เข้าสู่โปรแกรมการฝึกซ้อมที่มีวิทยาศาสตร์การกีฬาควบคุมและพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามโปรแกรมของฮอนด้าในช่วงพรีซีซั่น

ขณะรุ่นที่ต่อสู้กันอย่างเข้มข้นในรายการนี้อย่าง “ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี” (SS600) ฮอนด้าได้ผลักดันนักบิดดาวรุ่งเก็บประสบการณ์ด้วยยอดรถแข่งทางเรียบ Honda CBR Series อย่าง Honda CBR600RR โดยส่ง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 31 พร้อมด้วยทีมเมท “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ หมายเลข 85 ลงขับเคี่ยวกับนักแข่งแถวหน้าระดับเอเชีย

นายอารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวในงานแถลงข่าวการจัดการแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024 ณ สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ เมื่อวันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมีใจความสำคัญส่วนหนึ่งว่า “ฮอนด้ามีนักแข่งไทยเข้าร่วมการแข่งขันในระดับโลกแล้วถึง 3 คนในปีนี้ แบบเต็มฤดูกาล นั่นคือ “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร ที่ลงในรายการ “จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ” และ “โมโตจีพี รุกกี้ส์ คัพ”, “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ในรุ่นโมโตทรี และ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ในรุ่นโมโตทู ส่วนเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง ก็เปรียบเหมือนกับการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ฮอนด้าใช้เป็นเวทีในการส่งนักแข่งลุ้นความสำเร็จ รวมทั้งส่งดาวรุ่งเพื่อเก็บประสบการณ์สู่รายการระดับโลกต่อไป ซึ่งเราก็ส่งนักแข่งลงในรายการนี้ถึง 4 คน ทั้งหมดมาจากการที่ประเทศไทยมีสนามระดับโลก อย่างสนามช้าง และโครงการการพัฒนานักแข่งของฮอนด้า ที่ได้รับการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย จะสร้างนักแข่งไทยให้มีความแข็งแกร่งต่อไป”

ทั้งนี้การแข่งขัน FIM Asia Road Racing Championship 2024 จะแข่งขันทั้งสิ้น 6 สนาม ใน 5 ประเทศ ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และประเทศไทย ซึ่งจะมีการลงทดสอบตามโปรแกรมพรีซีซั่นเทสในวันที่ 13 มีนาคมนี้ และเริ่มแข่งขันสนามแรกในระหว่างวันที่ 15 – 17 มีนาคมนี้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของนักบิดไทยในโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” และ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” รวมถึงส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

#ThaiHonda #MotoGP #Moto2 #Moto3 #SC35 #TB5 #Motorsport #RoadToMotoGP #RaceToTheOne #RaceToTheDream #RaceToTheChampion #ARRC #ARRC2024 #AsiaRoadRacingChampionship2024 #NA41 #PT52 #TL31 #KS85

Isuzu Race Spirit 2023 ปิดฉากยิ่งใหญ่

Isuzu Race Spirit 2023 ที่สุดของการแข่งขันความเร็ว ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี สำหรับกิจกรรม Isuzu Race Spirit 2023 รอบชิงชนะเลิศ เฟ้นหาสุดยอดรถ “อีซูซุ ดีแมคซ์” ที่เร็วและแรงที่สุดในประเทศไทย

กลุ่มตรีเพชรฯ โดยบริษัท ตรีเพชรอีซูซูเซลส์ จำกัด จัดแข่งขันประลองความเร็ว ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี เพื่อค้นหาสุดยอดรถ “อีซูซุ ดีแมคซ์” ที่เร็วและแรงที่สุดแห่งปี นำเหล่านักแข่งสุดยอดแชมป์จากสนามรอบคัดเลือกมาร่วมประลองความเร็วทางตรงแบบควอเตอร์ไมล์ (Drag) ระยะทาง 402 เมตร ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1.2 ล้านบาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ และกิจกรรมความบันเทิงสุดเร้าใจเต็มรูปแบบสำหรับผู้รักความเร็วตัวจริง ณ สนามบางกอกแดร็ก อเวนิว คลอง 5 ปทุมธานี

คุณวิชัย สินอนันพัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “การแข่งขัน ISUZU RACE SPIRIT 2023 เป็นการจัดการแข่งขันรถยนต์ทางตรงแบบควอเตอร์ไมล์ (Drag) ระยะทาง 402 เมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมด้านมอเตอร์สปอร์ตที่อีซูซุได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 และประสบความสำเร็จอย่างสูงตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน โดยได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากโมดิฟายด์ช็อปชั้นนำของประเทศไทย อาทิ หนุ่ย-เป๋อ สุพรรณ จ๊อบ มนตรี SCG เอ้ ปลาทู เบิร์ดหลักห้า เอ๋ เทอร์โบ เอ้ แม่กลอง รวมถึงนักแข่งรถที่ร่วมส่งรถอีซูซุเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อทำลายสถิติของตัวเอง และชิงความเป็นที่หนึ่งของเครื่องยนต์อีซูซุ รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบรถอีซูซุเข้าร่วมชมงานอย่างล้นหลาม ในปีนี้เราได้จัดการแข่งขัน Isuzu Race Spirit เพื่อเก็บคะแนนรวมทั้งหมด 4 สนาม เพื่อนำผู้ชนะในแต่ละสนามมาชิงชัยความเป็นเจ้าแห่งความเร็วตัวจริงในรอบชิงชนะเลิศ ชิงเงินรางวัลรวมทั้งสิ้นกว่า 1.3 ล้านบาท”

โดยผลการแข่งขันที่สุดของความเร็ว ที่เฉือนเอาชนะกันเพียงเสี้ยววินาทีของ “อีซูซุ ดีแมคซ์” ในรอบชิงชนะเลิศพร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท 50,000 บาท 30,000 บาท และโล่เกียรติยศสำหรับผู้ชนะทั้ง 3 อันดับในแต่ละรุ่น โดยผลการแข่งขัน มีดังนี้

•รุ่น All New Isuzu 1.9 Turbo Standard

อันดับที่ : 1   นักแข่ง : เทพพิทักษ์ ส่งเสิรม                   ทีม : อู่ เบียร์ การาจ

เวลา : 11.577 วินาที

อันดับที่ : 2   นักแข่ง : วรวุฒิ สุขิตา                             ทีม : ช่างแจ็ค บางหญ้าแพรก

เวลา : 11.731 วินาที

อันดับที่ : 3   นักแข่ง : สุวรรณ กุสลางกูลวัฒน์  ทีม : อู่ ช่างวัฒน์ ชลบุรี

เวลา : 11.748 วินาที

•รุ่น ISUZU D-MAX PRO 1.9

อันดับที่ : 1   นักแข่ง : มานพ ศรีวิลัย                ทีม : แบงค์ บ้านนา

เวลา : 9.625 วินาที

อันดับที่ : 2   นักแข่ง : เทพพิทักษ์ ส่งเสริม        ทีม : ช่างแจ็ค บางหญ้าแพรก

เวลา : 00.000 วินาที (N/A)

อันดับที่ : 3   นักแข่ง : ไพศาล ตันแต๋ว              ทีม : อู่เอ้ แม่กลอง

เวลา : 9.661 วินาที

•รุ่น ISUZU D-MAX PRO 3.0

อันดับที่ : 1   นักแข่ง : อนุวัฒน์ มณีอินทร์                   ทีม : หนุ่ย เป๋อ สุพรรณ

เวลา : 8.729 วินาที

อันดับที่ : 2   นักแข่ง : สุวรรณ กุสลางกูลวัฒน์  ทีม : อู่ ช่างวัฒน์ ชลบุรี

เวลา : 9.075 วินาที

อันดับที่ : 3   นักแข่ง : สรายุทธ แพงพันธ์                    ทีม : หนุ่ย เป๋อ สุพรรณ

เวลา : 00.000 วินาที (N/A)

•รุ่น ISUZU D-MAX PRO TURBO F55

อันดับที่ : 1   นักแข่ง : เป็นเอก เพ็งวัน              ทีม : อู่ช่างพี เสนา

เวลา : 8.774 วินาที

อันดับที่ : 2   นักแข่ง : พงศ์ปพัสร์ บัวลำเลิศ      ทีม : เอ๋ เทอร์โบ นครปฐม

เวลา : 9.686 วินาที

อันดับที่ : 3   นักแข่ง : ธรรมธัช เพิ่มสุข              ทีม : ต้น เชียงราย

เวลา : 00.000 วินาที (N/A)

•รุ่น ISUZU D-MAX PRO MODIFY

อันดับที่ : 1   นักแข่ง : อนุวัฒน์ มณีอินทร์                   ทีม : หนุ่ย เป๋อ สุพรรณ

เวลา : 7.361 วินาที                                  เอ็ม เอกชาติ

อันดับที่ : 2   นักแข่ง : ธนพล ชูเจริญผล            ทีม : โน๊ตนัทออโต้คาร์

เวลา : 7.417 วินาที                                  อู๊ด อ๋อง ระยอง

อันดับที่ : 3   นักแข่ง : ณัฐวุฒิ หอมสุวรรณ                 ทีม : หนุ่ย เป๋อ สุพรรณ

เวลา : 7.597 วินาที

•รุ่น ALL-NEW ISUZU D-MAX OPEN UNLIMITED

อันดับที่ : 1   นักแข่ง : อนุวัฒน์ มณีอินทร์                   ทีม : หนุ่ยเป๋อสุพรรณ

เวลา : 6.980 วินาที (ทำลายสถิติเดิม)

อันดับที่ : 2   นักแข่ง : ณัฐธนุตม์ วงษ์สมบูรณ์  ทีม : จ๊อบมนตรี SCG

เวลา : 7.127 วินาที

อันดับที่ : 3   นักแข่ง : ธนพล ชูเจริญผล            ทีม : โน๊ตนัทออโต้คาร์

เวลา : 7.358 วินาที                              อู๊ดอ๋องระยอง

•รุ่น ISUZU DRAGSTER DIESEL

อันดับที่ : 1   นักแข่ง : พิสิทธิ์อนันต์ ตันจตุรงศ์  ทีม : ช่างวัฒน์ ชลบุรี

เวลา : 7.092 วินาที

อันดับที่ : 2   นักแข่ง : ธนพล ชูเจริญผล            ทีม : ช่างเบิร์ดหลักห้า

เวลา : 7.325 วินาที

อันดับที่ : 3   นักแข่ง : อนุวัฒน์ มณีอินทร์                   ทีม : หนุ่ยเป๋อสุพรรณ

เวลา : 9.545 วินาที

นอกจากนี้บรรยากาศภายในงานยังมีการประกวดรถอีซูซุแต่งพิเศษ พร้อมบูธผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ตกแต่งคุณภาพชั้นนำอย่าง ECU Shop, Alpha Tech, Monza Factory, BRC Clutch, BRD Racing, Nitto, MRX, Aztex Force, Run stop, PTT OR, Toyo Tires & Nitto Tires, Caltex, Speed Oil, BETA, Flex, Wise, และ Explorar พร้อมกิจกรรมความบันเทิงเต็มรูปแบบ Sexy Car Wash โดยนางแบบสุดเซ็กซี่ที่มาร่วมสร้างสีสันในงานอย่างคับคั่ง จัดเต็มเพื่อแฟนๆ อีซูซุโดยเฉพาะ

ร่วมติดตามและอัพเดทข่าวสาร และกิจกรรมสุดมันสำหรับคนรักปิกอัพอีซูซุตัวจริงได้ทาง www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai  

TOPAZ Detailing จับมือ TTC Motor หนุนกิจกรรม HCD Track Day

โทพาซ ดีเทลลิ่ง ประเทศไทยร่วมกับ TTC Motor ให้การสนับสนุน กิจกรรม HCD Track Day ณ สนาม Chang International Circuit จังหวัดบุรีรัมย์

บริษัท โทพาซ ดีเทลลิ่ง ประเทศไทย จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาด ดูแล ปรับสภาพ รวมถึงการติดตั้งฟิล์มปกป้องสีรถยนต์ระดับ Hi-End จากประเทศอังกฤษ ให้การสนับสนุนกลุ่ม HCD (Hard core Drive) ในกิจกรรม HCD Track Day เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

พร้อมด้วย TTC Motor เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำรถยนต์ Mercedes-AMG SL 43 Mercedes-AMG G 63 และ Mercedes-AMG EQE 53 ให้สมาชิกกลุ่มได้ ยลโฉม ยนตรกรรมทรงสมรรถนะ และทดลองขับ

นอกจากนี้ คุณอัครินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีซี มอเตอร์ จำกัด นำรถไฮไลท์สุดพิเศษ ที่หลายๆ ท่านพลาดไม่ได้เลยกับรถยนต์ Mercedes-AMG GT Black Series รถสปอร์ตทรงพลังในตระกูล AMG ให้ทุกท่านได้ยลโฉม ความเท่ สปอร์ต เร้าใจในทุกอณู

สำหรับรถที่ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทางโทพาซ ดีเทลลิ่ง ประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลและการติดตั้งฟิล์มป้องกันสีรถยนต์ที่เป็นที่หนึ่งของโลก ได้ให้การสนับสนุนของรางวัลและสนับสนุนคูปองทำความสะอาดดูแลรถระดับพรีเมียมในครั้งนี้ด้วย

Topaz Detailing ถือเป็นผู้นำในกลุ่ม Ultra Luxury Car Detailing and Protection Center ที่ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากซูเปอร์สตาร์และเซเลบริตี้จากทุกมุมโลก รวมถึงได้รับเกียรติดูแลรถยนต์ของราชวงศ์ต่างๆ ในโลก ด้วยคุณภาพและการบริการที่เหนือระดับ ให้บริการเสมือนการเสิร์ฟงานศาสตร์และศิลป์ มีการสร้างสรรค์ผลงานที่ประณีตและพิถีพิถันทุกขั้นตอน ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งภายนอกและภายใน เพื่อให้ได้มาซึ่งความงดงามและคุณภาพสูงสุดของยนตรกรรมสุดหรูทุกคัน เปรียบเสมือนผลงานศิลปะระดับ Master piece

มาสด้า ชวนคนไทยสละรถโมเดลของเล่นเติมฝันเยาวชน

มาสด้า ชวนคนไทยสละรถโมเดลของเล่นเติมฝันเยาวชน กับกิจกรรม “The Memorable Love of Cars”

มาสด้าเชื่อว่าความสุขความสนุกสนานในวัยเด็กของหลายคนยังอยู่ในความทรงจำมาตลอด วันนี้ มาสด้าขอเชิญคนไทยหัวใจสปอร์ต มาร่วมกันส่งความสุขในวัยเด็กไปให้กับเยาวชน ในกิจกรรม “The Memorable Love of Cars” เสียสละรถโมเดลของเล่นเพื่อส่งต่อความทรงจำในวัยเด็กไปสร้างความทรงจำใหม่ให้เด็กที่ขาดโอกาส และรถโมเดลของเล่นที่เสียสละเข้ามาจะถูกนำไปจัดแสดงภายในบูธมาสด้าในงานมอเตอร์โชว์ เพื่อให้ผู้ชมงานได้รับชมและสัมผัสร่วมกัน ก่อนจะถูกส่งต่อให้กับน้องๆ เยาวชนในโรงเรียนหรือมูลนิธิฯ ที่มาสด้าจัดกิจกรรม “มาสด้า ปันสุข” เป็นกิจกรรมที่ริเริ่มขึ้นเพื่อแบ่งปันสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคมไทย ผู้ที่สนใจสามารถนำรถโมเดลของเล่นที่ไม่ได้เล่นแล้ว ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ (ขนาด 1:64) นำไปส่งที่โชว์รูมมาสด้าใกล้บ้านทั่วประเทศ หรือส่งทางไปรษณีย์ เริ่ม 19 กุมภาพันธ์ 2567 ถึง 16 มีนาคม 2567 ที่สำคัญมาสด้าจะเรียนเชิญผู้ที่ส่งรถเข้าร่วมกิจกรรมเดินทางเข้าชมบูธมาสด้า และรูปแบบการจัดแสดงรถโมเดลของเล่นก่อนใคร ในงาน มอเตอร์ โชว์ รอบวีไอพี วันที่ 25 มีนาคม 2567 ระหว่างเวลา 16:00 – 18:00 น.

The Memorable Love of Cars

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าต้องการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและสร้างสรรค์สังคมแห่งอนาคตอันน่าปรารถนา ด้วยการส่งมอบรถยนต์และเทคโนโลยีให้สอดคล้องในแต่ละช่วงเวลา พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าทุกคน เราจึงเล็งเห็นความสำคัญในการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างประสบการณ์ และต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการสร้างสายสัมพันธ์อันดีร่วมกับลูกค้าในประเทศไทย ตามคุณค่าหลักของมาสด้า อันประกอบด้วย Purpose คือ เจตนารมณ์และเหตุผลหลักในการดำรงอยู่ สร้างคุณค่าและเติมเต็มความมีชีวิตชีวาให้กับผู้คนที่ได้สัมผัสกับแบรนด์มาสด้าในทุกประสบการณ์และทุกช่วงเวลาของชีวิต Promise คือ คำมั่นสัญญาจากแบรนด์ที่มีต่อลูกค้าทุกคน ยกระดับคุณค่าประสบการณ์ให้ครบทุกมิติ ทั้งด้านอารมณ์ ความรู้สึก และกายภาพ สุดท้ายคือ Values คือ การสร้างคุณค่าของแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ ทัศนคติ แนวคิด รวมถึงพฤติกรรม ให้ความสำคัญกับมนุษย์อย่างแท้จริง, มีจิตวิญญาณนักสู้, ส่งมอบความประทับใจด้วยการเอาใจใส่และเป็นมิตรโดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ Brand Value Management เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าตลอดไป

เพื่อตอบสนองต่อแนวทางดังกล่าว มาสด้าจึงปรับดีไซน์บูธจัดแสดงรถยนต์มาสด้าในงาน มอเตอร์ โชว์ 2024 ใหม่ทั้งหมด พร้อมดึงลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมในการตกแต่งบูธ กับกิจกรรม “The Memorable Love of Cars” เพื่อถ่ายทอดความมุ่งมั่นของมาสด้าในการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ที่รักในการขับขี่ และรักในรถยนต์ โดยมาสด้าได้แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ บอกเล่าเรื่องราวที่มีลูกค้าอยู่ในทุกช่วงเวลา โดยมีรถยนต์มาสด้าเป็นพาร์ทเนอร์ในทุกประสบการณ์ ตอกย้ำถึงความสำคัญที่มีลูกค้าเป็นหนึ่งในทุกการเติบโต พร้อมสื่อสารถึงอารมณ์ความรู้สึก ความสนุกในการขับขี่ ความสุขในการใช้ชีวิต และอนาคตที่รถยนต์จะมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่ชื่นชอบในรถยนต์ได้มีโอกาสแบ่งปันความทรงจำที่มีต่อรถยนต์ร่วมกัน เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกค้าและแบรนด์มาสด้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ผู้ที่สนใจร่วมบริจาครถโมเดลของเล่นให้กับน้องๆ เยาวชน สามารถนำไปบริจาคด้วยตนเองที่โชว์รูมมาสด้าใกล้บ้านทั่วประเทศ หรือส่งทางไปรษณีย์มาที่ บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เลขที่ 10 ซ.ลาซาล 56 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 (ส่งแบบเรียกเก็บเงินปลายทาง) และกรอกรายละเอียดผ่านทาง QR Code ได้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 – วันที่ 16 มีนาคม 2567 พร้อมรับสิทธิ์เข้าชมชมยนตรกรรมมาสด้ารุ่นใหม่และการจัดแสดงรถโมเดลของเล่นที่บูธรถยนต์มาสด้าก่อนใคร ในวันที่ 25 มีนาคม 2567 รอบวีไอพี ที่งาน มอเตอร์ โชว์ 2024 นี้ ตั้งแต่เวลา 16:00 – 18:00 น.

“มาสด้าเชื่อว่ารถโมเดลของเล่นที่ทุกคนสะสมย่อมมีเรื่องราวความทรงจำเกิดขึ้นมากมาย และมีคุณค่าต่อจิตใจ รถโมเดลของเล่นที่ทุกคนส่งมอบผ่านกิจกรรมในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยต่อเติมความฝันให้กับเด็กๆ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน มาสด้าขอเป็นสื่อกลางในการส่งมอบรถของเล่นครั้งนี้ รวมถึงถ่ายทอดเรื่องราว ประสบการณ์ และความฝันให้กับน้องๆ ได้รู้สึกถึงการเป็นเจ้าของรถโมเดลของเล่นเหล่านั้น มาสด้ายังคงเดินหน้าในการส่งมอบความสุขในการขับขี่ ภายใต้การบริหารคุณค่าหลักที่ให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง และมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความสุขในการดำเนินชีวิต ด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความสุขให้กับชีวิตประจำวันของลูกค้าทุกคน เพื่อให้มาสด้าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ลูกค้าภาคภูมิใจ” นายธีร์ กล่าวเพิ่มเติม

รายละเอียดเพิ่มเติมการส่งรถโมเดลของเล่นเข้าร่วมกิจกรรม “The Memorable Love of Cars” ส่งต่อความทรงจำของคุณ สร้างความทรงจำใหม่ให้กับน้องๆ

•รถโมเดลของเล่นขนาด 1:64 ไม่จำกัดรุ่นและยี่ห้อ นำมาส่งด้วยตนเองที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ หรือส่งทางไปรษณีย์มาที่ บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เลขที่ 10 ซ.ลาซาล 56 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 (ส่งแบบเรียกเก็บเงินปลายทาง) ระหว่างวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 จนถึง วันที่ 16 มีนาคม 2567 พร้อมกรอกข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านทาง QR Code ซึ่งรถโมเดลของเล่นของท่านจะถูกนำไปจัดแสดงที่บูธรถยนต์มาสด้าในงาน มอเตอร์ โชว์ 2024 และจะนำไปส่งมอบให้กับน้องๆ เยาวชนในโรงเรียนและมูลนิธิที่มาสด้าเดินทางไปส่งมอบการแบ่งปัน ภายใต้โครงการ มาสด้า ปันสุข ต่อไป

สแกน QR Code ลงทะเบียนร่วมกิจกรรม

โปรดติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของมาสด้าผ่านทางโซเชียลมีเดีย

เว็บไซต์ www.mazda.co.th และ MazdaThailandOfficial: Facebook/YouTube/Instagram/LINE

YAMAHA FINO FINAL EDITION ฉลองครบรอบ 60 ปี

YAMAHA FINO FINAL EDITION ฉลองครบรอบ 60 ปี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ Limited 999 คัน เท่านั้น!

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ฉลองครบรอบ 60 ปี ที่ยืนหยัดในการผลิตสินค้าคุณภาพ และอยู่คู่กับคนไทย ด้วยการส่งรถจักรยานยนต์ออโตเมติกโมเดลระดับตำนานอย่าง “ฟีโน่” ออกวางจำหน่ายในโอกาสสุดพิเศษนี้ นั่นคือ “YAMAHA FINO FINAL EDITION” ต้นกำเนิดแห่งรถออโตเมติกแฟชั่นจากยามาฮ่า ความคลาสสิกร่วมสมัยที่ครองใจคนไทยมากว่า 18 ปี ที่ผลิตออกมาจำหน่ายในจำนวนจำกัดเพียง 999 คัน ทรงคุณค่าด้วยโลโก้ Emblem สีทอง และเพลทระบุหมายเลขจำกัดเฉพาะแต่ละคันที่ผลิต เพิ่มความพิเศษอีกระดับด้วยหมวกกันน็อกลายพิเศษ และมั่นใจในการรับประกันมากกว่า ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร

สำหรับ “YAMAHA FINO FINAL EDITION” มาพร้อมกับเครื่องยนต์ BLUE CORE 125 ซีซี เทคโนโลยีแห่งความประหยัด เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดี ประหยัดน้ำมัน และช่วยลดมลพิษ ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบทุกจังหวะการขับขี่

“YAMAHA FINO FINAL EDITION” ยังคงเสน่ห์ความโดดเด่นด้วย ไฟหน้า LED สไตล์โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่ Diamond Cut Lens ที่นอกจากจะให้ความสว่างชัดเจนแล้ว ยังเต็มไปด้วยความคลาสสิกร่วมสมัย รวมถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครอย่าง DUO METER เรือนไมล์แยกส่วน พร้อมไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด เห็นชัดทุกองศาการมองในขณะขับขี่

นอกจากนี้ “YAMAHA FINO FINAL EDITION” ยังมาพร้อมกุญแจแบบ ANSWER BACK SYSTEM ที่สามารถเปิดช่องกุญแจได้แบบอัตโนมัติ พร้อมไฟเรืองแสง และส่งสัญญาณบอกตำแหน่งรถช่วยให้มองหาตำแหน่งจอดรถได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อม LUGGAGE BOX 7.2L ที่เก็บของขนาด 7.2 ลิตร ที่สามารถเก็บหมวกกันน็อกครึ่งใบรวมถึงสัมภาระจำเป็นได้อย่างสบาย และปลอดภัยหายห่วง

โดย “YAMAHA FINO FINAL EDITION” จะผลิตออกมาจำหน่าย จำนวน 999 คัน พร้อมกับหมวกกันน็อกดีไซน์พิเศษ มาพร้อมกับโลโก้ Emblem สีทอง ที่ระบุหมายเลขการผลิตตัวรถ และเพื่อการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ โดยจะนำรถจักรยานยนต์ที่ระบุหมายเลขสวย และหมายเลขมงคลออกมา ร่วมประมูลกับผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า โดยจะนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายไปร่วมผลิต และพัฒนาหมวกกันน็อกขนาดเล็กที่ออกแบบและผ่านมาตรฐาน มอก. ทั้งนี้ทางไทยยามาฮ่ามอเตอร์จะทำการบริจาคหมวกกันน็อกผ่านหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงบริจาคผ่านกิจกรรมของผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ

สำหรับ “YAMAHA FINO FINAL EDITION” ผลิตออกมาในจำนวนจำกัดเพียง 999 คัน และผลิตจำหน่ายเพียงสีเดียวเท่านั้น คือ สีดำ (Original Black) ที่ทรงคุณค่าเพิ่มขึ้นด้วยโลโก้ Emblem สีทอง พร้อมวางจำหน่ายในราคา 50,900 บาท พร้อมการให้ความมั่นใจในการรับประกันมากกว่า ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร โดยสามารถเป็นเจ้าของ “YAMAHA FINO FINAL EDITION” ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ พิเศษลูกค้ายามาฮ่าสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Yamaha Smart Reward เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมายจากยามาฮ่า สมาชิกใหม่รับฟรี 5,000 คะแนน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263-9999 พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Website: www.yamaha-motor.co.th

Facebook    : Yamaha Society Thailand

Instagram    : @Yamaha Society Thailand

YouTube     : Yamaha Society Thailand

Line OA       : @Yamahasociety

วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้าจับมือสยามโตโยต้าอุตสาหกรรม พัฒนานักศึกษาสู่อุตสาหกรรมยานยนต์

วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้า ร่วมกับ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด ลงนามความร่วมมือ “โครงการความร่วมมือทางวิชาการ” เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพนักศึกษาสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ ปีการศึกษา /ถึ วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้ายังเปิดระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาช่างยนต์อีกด้วย โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึง 9 มิถุนายน 2567 หรือจนกว่าจะเต็มจำนวน

วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้าจัดพิธีลงนามความร่วมมือโครงการความร่วมมือทางวิชาการและมอบทุนการศึกษาโดยได้รับเกียรติจากคุณวิรยศ พฤธากรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนาม ระหว่างวิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้ากับ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม โดยมี คุณรุ่งโรจน์ ขันชะลี ประธานบริหารวิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้า และคุณณรงค์ชัย บัณฑิตวรภูมิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัดเป็นผู้ลงนามความร่วมมือ เมื่อวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องประชุม Camry บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษา ได้เข้าร่วมการฝึกงานที่ บริษัทสยามโตโยต้าอุตสาหกรรม เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์จากการปฏิบัติงาน และสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่มีผลการเรียนดี เข้าศึกษาต่อในระดับ ปวส. ที่วิทยาลัยฯ รวมถึงมีโอกาสเข้าทำงานที่ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรมหลังจบการศึกษา ซึ่งในพิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม ได้มอบเครื่องยนต์ดีเซล 1GD จำนวน 5 เครื่อง เพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอนอีกด้วย

วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้า เปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส.)

จำนวน 3 สาขางาน ได้แก่

1. สาขางานเทคนิคยานยนต์อัจฉริยะ

2. สาขางานธุรกิจการบริการยานยนต์

3. สาขางานเทคนิคซ่อมตัวถังและสีรถยนต์

พิเศษในปีนี้ วิทยาลัยยังเปิดระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)  สาขาช่างยนต์อีกด้วย โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึง 9 มิถุนายน 2567 หรือจนกว่าจะเต็มจำนวน

“เรียนที่นี่ ปลอดภัย คุ้มค่า ได้มาตรฐาน มีงานทำ”

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เอาใจสายลุย

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เอาใจสายลุย เผย 5 เหตุผลที่เหล่านักผจญภัยต้องหลงรัก All New GWM TANK 500 HEV เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียม

กรุงเทพฯ 15 กุมภาพันธ์ 2567 – เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางอันสุดแสนผจญภัยให้กับผู้ขับขี่ชาวไทย เปิดประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจไปกับ All New GWM TANK 500 HEV รถยนต์เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมภายใต้แบรนด์ TANK ที่ได้เปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนกันยายน ปี 2566 ที่ผ่านมา และได้รับเสียงตอบรับจากเหล่าแฟนๆ GWM เป็นอย่างดีตั้งแต่ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยด้วยยอดจองสิทธิ์ซื้อกว่า 1,000 คันและได้รับรางวัล The Most Exciting SUV Award จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2566 ในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว All New GWM TANK 500 HEV ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Nothing is Unreachable: ไม่มีความสำเร็จไหนที่ไปไม่ถึง” ที่พร้อมพาผู้ขับขี่ชาวไทยออกผจญภัยฟันฝ่าทุกอุปสรรค และพร้อมเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ขับขี่ไลฟ์สไตล์สายลุย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะพาทุกคนมาเจาะลึก 5 เหตุผลว่า ทำไมรถยนต์เอสยูวีออฟโรดคันนี้ถึงเหมาะจะเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกทริปการเดินทางของคุณ

สร้างสรรค์โดยแบรนด์ดัง เบื้องหลังความสำเร็จของ HAVAL และ ORA

หากใครยังไม่รู้ All New GWM TANK 500 HEV เป็นรถยนต์เรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ TANK ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่อันดับที่ 3 ที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ รถยนต์ค่ายใหญ่จากแดนมังกรนำเข้ามาให้คนไทยได้สัมผัส โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยจวบจนถึงปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ HAVAL และ ORA ที่ได้รับความนิยมและครองใจแฟนๆ ชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น HAVAL H6 HEV รถยนต์คอมแพคเอสยูวียอดนิยมที่ครองตำแหน่งผู้นำในเซ็กเมนต์ได้อย่างแข็งแกร่ง HAVAL JOLION เจ้าสิงโตอารมณ์ดีที่มายกระดับมาตรฐานความล้ำสมัยของเทคโนโลยีในกลุ่มรถยนต์เอสยูวีบีไปอีกขั้น รวมถึง HAVAL JOLION Sport ที่เกิดจากการรับฟังเสียงของสื่อมวลชนและผู้บริโภคชาวไทยจนเกิดเป็น HAVAL JOLION ที่มุ่งเน้นความสปอร์ต และ HAVAL H6 PHEV ที่คว้ารางวัล “BEST HYBRID SUV UNDER 1,600 CC.” จากงานประกาศรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “CAR & BIKE OF THE YEAR 2023” และน้องเหมียวไฟฟ้าขวัญใจชาวไทยอย่าง ORA Good Cat และ ORA Good Cat GT รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่จุดกระแสตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และบริษัทฯ ยังได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า สปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูง ORA 07 ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 (Motor Expo 2023) ที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ขับขี่ชาวไทยมากยิ่งขึ้น ยังเปิดตัวรถยนต์ New GWM ORA Good Cat มาพร้อมกับราคาสุดเย้ายวนใจ เริ่มต้น 799,000 บาท จากสายการผลิตภายในประเทศที่โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ที่จังหวัดระยองอีกด้วย ด้วยความสำเร็จอันนับไม่ถ้วนของรถยนต์จากค่าย เกรท วอลล์ มอเตอร์ นี้ ผู้ขับขี่ชาวไทยจึงมั่นใจได้เลยว่า All New GWM TANK 500 HEV คันนี้ไม่ได้มีดีแค่ชื่อ เพราะรถยนต์คันนี้ เป็นรถยนต์พรีเมียมเอสยูวีที่ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะ TANK ที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ความจุ 1.76 กิโลวัตต์ ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 244 แรงม้า พร้อมแรงบิดเครื่องยนต์สูงสุด 380 นิวตัน-เมตร  และกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 สปีด (9HAT) ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด ที่พร้อมลุยไปกับคุณในทุกๆ สถานการณ์

ความหรูหราที่แข็งแกร่ง

แม้ว่า All New GWM TANK 500 HEV จะเป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์เอสยูวี แต่ยังมาพร้อมกับความคล่องตัวและความสะดวกสบายอย่างเต็มเปี่ยมในทุกๆ การขับขี่ควบคู่กับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียบง่ายและหรูหรา รวมถึงสไตล์การออกแบบที่คงความบึกบึนและแข็งแกร่งของรถยนต์ออฟโรดเอาไว้ด้วยกัน สร้างความตื่นเต้น ความแตกต่าง และประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับตลาดรถยนต์เอสยูวีและผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง โดยมีการออกแบบอันล้ำสมัยต่าง ๆ มากมาย พร้อมจัดเต็มด้านความสะดวกสบายและระบบความบันเทิงที่ครบครัน อาทิเช่น

•ดีไซน์ด้านหน้า ออกแบบภายใต้ปรัชญาของ “ความหรูหราที่แข็งแกร่ง” ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ผสานช่องระบายอากาศแนวนอนและโลโก้ TANK ที่ลงตัวรับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรง 

•ประตูท้ายแบบ Horizontal พร้อมระบบดูดไฟฟ้า ที่ช่วยผ่อนแรงและอำนวยความสะดวกสบายในการปิดประตูท้าย

•ไฟหน้า Intelligent LED ดีไซน์โดดเด่น ให้ความสว่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยในทุกเส้นทาง ด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกด้านหน้าและหลังแบบ LED

•บันไดข้างระบบไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชัน เปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเปิด-ปิดประตู

•หลังคาซันรูฟระบบไฟฟ้าแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่พร้อมราวหลังคา เพื่อเพิ่มการใช้งานเสาอากาศแบบ Shark Fin

•จอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอมัลติมีเดีย 14.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง และแสดงข้อมูลการขับขี่

•ระบบความบันเทิง พร้อมลำโพง Infinity จำนวน 12 ตัว ระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระ และระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ

•เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ เบาะนั่งคนขับไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะหนัง NAPPA เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ พร้อมระบบ memory seat และระบบ welcome seat เพื่อความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงรถ

•ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5

ฟีเจอร์ออฟโรดสุดล้ำเพื่อการขับขี่ที่ไร้รอยต่อ

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เห็นความสำคัญในการเพิ่มคุณค่าของประสบการณ์ระหว่างการเดินทางของผู้ขับขี่ มากกว่าเพียงแค่การไปถึงสู่จุดหมายปลายทาง จึงออกแบบ All New GWM TANK 500 HEV ขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการขับขี่ให้กับเหล่านักผจญภัยได้มีประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงจุดหมายปลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลบนถนนสายยาว สุดลูกหูลูกตา ถนนลูกรัง หรือจะเข้าไปลุยเขา ฝ่าดงป่า หรือตะลุยเส้นทางออฟโรด ก็ไม่หวั่น ด้วยระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด (Offroad Cruise Control) ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent System) พร้อมโหมดการขับขี่ 11 รูปแบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดสภาพถนนลื่น และ offroad ได้แก่ โหมดโคลน โหมดทราย โหมดหิน โหมด4L โหมด4H โหมดอัตโนมัติ และโหมดเชี่ยวชาญ ที่จะทำให้การเดินทางของคุณสนุกสนานและน่าจดจำ

เฉดสีพรีเมียมสุดคลาสสิก

All New GWM TANK 500 HEV มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น ULTRA และรุ่น PRO มาพร้อมกับสีสันสุดคลาสสิก ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สามารถแสดงตัวตนออกมาได้อย่างโดดเด่น ชัดเจน ด้วยความเรียบหรูผสานกับความแข็งแกร่ง All New GWM TANK 500 HEV มาพร้อมกับสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ ขาว ดำ เทา และสีใหม่เทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA) จับคู่กับสีภายในสีดำและทูโทนสีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น ULTRA และสีเทาคริสตัล) ตอบโจทย์ความชื่นชอบของผู้รักการผจญภัยได้อย่างลงตัว

ข้อเสนอสุดคุ้ม! พร้อมดูแลทุกขณะของการเป็นเจ้าของ GWM TANK 500

นอกจากนี้สำหรับผู้ที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของ All New GWM TANK 500 HEV จะได้รับการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง นอกจากนี้ยังมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบํารุงรักษาตามระยะทาง GWM Pro Service Inclusive – GPSI สูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ( Roadside Assistance ) ตลอด 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี ฟรี บริการระบบตรวจสอบและสั่งการรถผ่านอินเทอร์เน็ต (Telematic Service) พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ (Internet in Vehicle) ระยะเวลา 3 ปี รวมถึงสิทธิพิเศษกับการเป็นส่วนหนึ่งของ GWM TANK CLUB และกิจกรรมสุดพิเศษมากมาย

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตอกย้ำจุดยืนการเป็นหนึ่งในผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในประเทศและในระดับสากล ผ่านการนำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและเต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ ชูเอกลักษณ์และสไตล์อันหลากหลายของผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ HAVAL, ORA และ TANK  เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) ยังมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างและผลักดันระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ให้ยกระดับไปสู่ระดับภูมิภาค จนถึงระดับสากล ได้อย่างเต็มภาคภูมิ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save