- Advertisement -
35 C
Bangkok
Home Blog Page 64

Toyota Gazoo Racing Motorsport 2023 ปิดฤดูกาลคว้าแชมป์ประจำปีครบทั้ง 4 รุ่น

ปิดฤดูกาลแข่งขัน Toyota Gazoo Racing Motorsport 2023 ในสภาพอากาศเย็นสบาย กระหึ่มสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตส่งท้ายฤดูกาล สามารถทำผลงานด้วยการคว้าแชมป์ประจำปีครบทั้ง 4 รุ่น

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าใน จ.บุรีรัมย์ ร่วมเปิดการแข่งขัน “Toyota Gazoo Racing Motorsport 2023” สนามที่ 5 นัดปิดฤดูกาล เก็บคะแนนสะสมประจำปี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของรายการแข่งขันระดับอินเตอร์เนชั่นแนล IDEMITSU SUPER ENDURANCE SOUTHEAST ASIA TROPHY 2023

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเปิดการแข่งขันว่า “ยินดีต้อนรับสู่ โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต 2023 สนามสุดท้ายประจำฤดูกาล และขอต้อนรับแฟนๆ ผู้หลงใหลในความเร็ว รวมทั้ง นักแข่งทุกท่าน สำหรับสนามนี้นอกจากเป็นนัดปิดฤดูกาลแล้ว ยังเป็นโอกาสอันดีเพื่อทดสอบสมรรถนะรถที่ผ่านการพัฒนามาตลอดทั้งฤดูกาลอีกด้วย โตโยต้าเล็งเห็นว่ามอเตอร์สปอร์ตเป็นกีฬาที่รถแข่งจะต้องผ่านสนามซึ่งมีสถานการณ์อันแตกต่าง และเป็นสนามให้เราสามารถนำรถลงวิ่ง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาตัวรถให้ดียิ่งขึ้นตามปรัชญาเพื่อการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งขึ้น หรือ “ever-better cars”

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวต่อไปว่า “ปีนี้เราจัดกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย เป็นปีที่ 37 ภายใต้แนวคิด “จากสนามแข่งสู่ท้องถนน” เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทย ตลอดจนสร้างนักแข่งหน้าใหม่ เราจึงจัดการแข่งขันในรูปแบบวันเมคเรซอย่างต่อเนื่อง เริ่มด้วยรถกระบะ“Hilux REVO” กับสมรรถนะทรงพลังของเครื่องยนต์ 2,400 ซีซี และเร้าใจไปกับความคล่องแคล่วและความอึดของ “Corolla ALTIS GR Sport” เครื่องยนต์ 1,800 ซีซี รวมทั้ง “Yaris ATIV Lady One Make Race” และ “YARIS One Make Race” กับเครืองยนต์สุดประหยัด 1.2 ลิตร ที่ตอบสนองดีเยี่ยม และขอนำเสนออีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่ผ่านการทดสอบสุดโหดในรายการแข่ง Asia Cross Country Rally Toyota มาแล้วกับรถต้นแบบ Hilux REVO GRSport”

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวถึงความพิเศษสำหรับการแข่งขันในปีนี้ว่า “โตโยต้ามุ่งนำเสนอทางเลือกด้านพลังงานที่หลากหลายเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต โดยทีม ROOKIE Racing ได้ลงแข่งรายการ Fuji 24 Hours ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยรถรุ่น GR Corolla H2 Concept ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลว และปีนี้ได้เข้าร่วมแข่งในรายการ IDEMITSU SUPER ENDURANCE SOUTHEAST ASIA TROPHY 2023 ด้วยรถรุ่น GR COROLLA Concept และ GR86 Carbon-neutral Fuel Concept โดยมี MORIZO หรือ คุณอากิโอะ โตโยดะ ลงแข่งขันในรุ่น COROLLA H2 Concept ที่ใช้ไฮโดรเจนจากก๊าซชีวภาพซึ่งมาจากมูลไก่ในฟาร์มของเครือ CP Group และผลิตที่ TDEM ซึ่งเป็นโรงงานนำร่องของโตโยต้าอีกด้วย”

“นอกจากนี้ ผมขอประกาศอีกไฮไลท์สำคัญของปีนี้นั่นคือ รถ CP ROOKIE PRIUS CNF-HEV GR Concept ที่ใช้เชื้อเพลิงซึ่งมีความเป็นกลางทางคาร์บอน  พร้อมกับการต้อนรับนักแข่งท่านใหม่ คุณขจร เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู ลีสซิ่ง จำกัด ในส่วนของทีม Toyota Gazoo Racing Thailand ร่วมแข่งขันรายการนี้ ด้วย TOYOTA 86 – ALTIS และ YARIS ใช้เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนเช่นกัน นอกจากความสนุกในสนามแข่ง เรายังจัดแสดงนิทรรศการเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน เช่น สถานีเติมไฮโดรเจนแบบเคลื่อนที่ ตลอดจนกิจกรรมมากมายจากพาร์ทเนอร์ที่มีจุดยืนร่วมกัน รวมทั้งโซนนิทรรศการโดย CJPT ซึ่งท่านจะได้ร่วมสัมผัสโดรนพลังงานไฮโดรเจนภายในงานนี้ ขอขอบคุณพาร์ทเนอร์ ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ และนักแข่งทุกท่าน ขอให้เพลิดเพลินไปกับจิตวิญญาณแห่งมอเตอร์สปอร์ตภายในงานของเราตลอดสุดสัปดาห์นี้” มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กล่าวต่อหน้าผู้ชมแน่นสนาม

ผลการแข่งขัน โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต 2023 สนามที่ 5

รายการแรก พิสูจน์สมรรถนะ ความคล่องตัว และความทนทานของ YARIS Hatchback “เล็กพริกขี้หนู” จากพลังของเครื่องยนต์ Dual VVT-i 1200 ซีซี ที่ได้รับการปรับแต่งตามกฏกติกา One Make Race พร้อมนำเสนอพลังงานทางเลือกใหม่ในกีฬามอเตอร์สปอร์ต โดย แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ โรเตอร์ ทองเจือ ในขณะที่ อันดับ 2 เป็นของ ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์ อันดับ 3 เกียรติพรรณ ไผ่เจริญ อันดับ 4 เป็นของ นิพิฐพนธ์ วัฒนานิตย์ และ อันดับ 5 อภิชัจจ์ วิวัฒน์สุรกิจ ขับเคี่ยวกันอย่างสุดมันส์ด้วยฝีมือการขับของนักแข่งวัยรุ่น ตลอดการแข่งขัน 8  รอบสนาม สร้างความตื่นเต้น เร้าใจ ให้กับผู้ชมที่เฝ้าชมติดขอบสนามอย่างไม่ละสายตา

ผลการแข่งขัน YARIS One Make Race : Division 1 (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีมคะแนนสะสม
117โรเตอร์ ทองเจือPTT LUBBRICANTS Team Jib Online48
299ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์TMC-Drive68 by wootbangbon350
33เกียรติพรรณ ไผ่เจริญ333 CJ โชว์จุ่ง ลูกหมาก36
439นิพิฐพนธ์ วัฒนานิตย์PMC5256
578อภิชัจจ์ วิวัฒน์สุรกิจRedream Racing Team33

ผลการแข่งขัน YARIS One Make Race : Division 2 (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีม
115บุญโชค ถิรธารากรNexzet HGR Racing Team by PMC52
234พรรณภัทร พรรณทรัพย์ 
333Clement Leung 
491ปวิธชาติ รัตตกาลกูลFORESTA NEXZTER BY PTS Racing
535Kelvin Kwok 

ต่อด้วยรายการ “HILUX REVO One Make Race” แข่งขันชิงเจ้ากระบะดีเซล โชว์สมรรถนะเหนือชั้นของเครื่องยนต์ GD Super Power 2,400 ซีซี ที่ทนทาน ทั้งในสนามแข่งขัน และการใช้งานจริง หลังการแข่งขัน 8 รอบสนาม ผลการแข่งขันปรากฏว่า แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ อันดับ 2 ธีรพันธ์ พรมขำ อันดับ 3 เอกสิทธ์ นามแสงเผา อันดับ 4 นิรุทธ์ สุจริต และ อันดับ 5 เป็นของ Theophile Napat Broianigo บรรยากาศการแข่งขันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สนุกสนาน เร้าใจ เนื่องจากเป็นรถใช้งานที่ผู้ชมคุ้นเคยบนท้องถนนจึงส่งใจเชียร์กันสุดใจ และยังมีการควบคุมมลพิษในกติกาการแข่งขันด้วยการปล่อยควันดำจากท่อไอเสียน้อยที่สุดอีกด้วย

ผลการแข่งขัน “HILUX REVO One Make Race” (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีมคะแนนสะสม
198  เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์Kaizo-R Motorsports Team Nexzter by Ruk Service67
222ธีรพันธ์ พรมขำNexzter HGR Racing Team By PMC5239
32เอกสิทธ์ นามแสงเผา 78
419นิรุทธ์ สุจริต 42
529Theophile Napat Broianigo 32

เร่งดีกรีความมันส์ด้วยเสียงแผดร้องก้องกังวาลจากปลายท่อไอเสียของเครื่องยนต์ Dual VVT-i 1,800 ซีซี ในรุ่น“Corolla ALTIS GR Sport One Make Race” บนโครงสร้างตัวถัง TNGA ซึ่งเป็นไฮไลท์ประจำการแข่งขัน แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ อะกิ จิตรานุวัฒน์  ตามมาด้วย อันดับ 2  Kentaro Chiba  อันดับ 3 เป็นของ ศักดิ์ชัย เยี่ยมวัฒนา อันดับ 4 นรรัศมิ์ อภิวาท และ อันดับ 5 อัฐพล แก้วอาษา บรรยาการการแข่งขันตลอด 8 รอบสนามเต็มไปด้วยความดุเดือด นับจากทะยานออกจากจุดสตาร์ท ด้วยความแม่นยำจากฝีมือการขับของนักแข่ง สะกดผู้ชมให้เกาะติดขอบสนามด้วยความเร้าใจ แสดงให้เห็นสมรรถนะ ความทนทาน สมศักดิ์ศรีรถซีดานยอดนิยมของคนไทย และคนทั่วโลก

ผลการแข่งขัน “Corolla ALTIS GR Sport One Make Race” (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีมคะแนนสะสม
19อะกิ จิตรานุวัฒน์YK Motorsport72
23Kentaro ChibaORC Racing59
346ศักดิ์ชัย เยี่ยมวัฒนาNexzter Gulf of Thailand38
425นรรัศมิ์ อภิวาทCompact Brakes Superclub Racing Team75
526อัฐพล แก้วอาษาB-QUICK29

ปิดท้ายการแข่งขันด้วย “Yaris ATIV Lady One Make Race ด้วยสมรรถนะเหนือชั้นของรถ ECO Car ยอดนิยมของคนไทย และเครื่องยนต์ Dual VVT-i 1200 ซีซี แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ ปิยะวดี พฤฒิสาร  ตามมาด้วย อันดับที่ 2  ศิริภากรณ์ แยบยนต์  อันดับที่ 3 สาวิตรี กวางแก้ว อันดับที่ 4  ปัณฑ์นลิน ทวยเดช  และ อันดับที่ 5 อลิษา ขุนแขวง การแข่งขันรายการเดียวที่จัดขึ้นสำหรับนักแข่งหญิงโดยเฉพาะ ซึ่งสร้างความดุดัน มันส์ได้ไม่แพ้นักแข่งชาย ขับเคี่ยวกันอย่างสุดมันส์ตลอด 8 รอบการแข่งขัน แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะ ความทนทาน ของรถยนต์ ECO Sedan อันดับ 1 ขวัญใจคนไทยได้อย่างชัดเจน

ผลการแข่งขัน “Yaris ATIV Lady One Make Race (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีมคะแนนสะสม
1135ปิยะวดี พฤฒิสารSmile Nexzter Ruk Service Racing Team62
2168ศิริภากรณ์ แยบยนต์TMC-Drive68 by wootbangbon369
3138สาวิตรี กวางแก้วCompact Brakes Superclub Racing Team56
4128ปัณฑ์นลิน ทวยเดชKaizo-R Motorsports Team Nexzter by Ruk Service64
5115อลิษา ขุนแขวงBBMP MOTORSPORT44

ขอบคุณแฟนพันธุ์แท้มอเตอร์สปอร์ตทั่วประเทศ สำหรับการติดตามชม ส่งใจเชียร์ตลอดทั้งปี พบกันใหม่ฤดูกาลแข่งขันหน้า ปี 2024 สนุกสนาน เร้าใจอย่างแน่นอน

โตโยต้าห่วงใยคนไทย เชิญนำรถทุกยี่ห้อตรวจเช็คฟรี 30 รายการ

โตโยต้าห่วงใยคนไทย เดินทางปลอดภัย – ท่องเที่ยวปีใหม่สุขใจ เชิญนำรถทุกยี่ห้อตรวจเช็คฟรี! 30 รายการ ที่ศูนย์บริการรถยนต์ FIXFIT

ศูนย์บริการรถยนต์ FIXFIT ภายใต้การควบคุณภาพของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมสนับสนุนการขับขี่ปลอดภัย เดินทางไกลช่วงปีใหม่ให้คนไทยได้อุ่นใจ เชิญนำรถทุกยี่ห้อเข้ารับบริการตรวจเช็คฟรี! ทั้งก่อนและหลังเดินทางที่ศูนย์บริการ FIXFIT ทุกสาขา เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ทุกคันที่เดินทางในช่วงเทศกาลแห่งความสุข เดินทางอย่างมั่นใจ ปลอดภัย ลดความเสี่ยงปัญหาการใช้รถยนต์ระหว่างเดินทาง ช่วยประหยัดน้ำมัน และลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ให้บริการโดยช่างผู้ชำนาญมาตรฐานศูนย์บริการโตโยต้า ครอบคลุมระบบต่างๆ รวม 30 รายการ ได้แก่

• ที่ปัดน้ำฝน / น้ำล้างกระจก 

• ระดับน้ำมันเครื่อง

• ระดับน้ำในถังสำรอง / ระดับน้ำยาหล่อเย็น 

• ระดับน้ำมันเบรก

• ระดับน้ำมันพาวเวอร์ 

• ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์

• แบตเตอรี่ 

• สภาพยางรถยนต์

• ตรวจเสียงเครื่องยนต์ขณะสตาร์ท 

• ระบบปรับอากาศ พัดลม และน้ำยา

• สภาพไส้กรองแอร์ 

• ระบบสายพานต่างๆ

• ระบบไฟส่องสว่าง/แตร 

• เข็มขัดนิรภัย

• ระดับน้ำมันเกียร์ 

• ระบบฟรีแป้นเหยียบ / คลัตช์ / เบรกมือ

• ยางกันฝุ่นเพลาขับ 

• ยางกันฝุ่นแร็ค

• ลูกหมากปีกนก 

• ลูกปืนล้อ

• รอยรั่ว และความผิดปกติของเครื่องยนต์

• รอยรั่ว และความผิดปกติของเกียร์ (เปิดงานซ่อมตรวจ)

• รอยรั่ว และความผิดปกติของหม้อน้ำ 

• รอยรั่ว และความผิดปกติของท่อทางน้ำ

• รอยรั่ว และความผิดปกติของพวงมาลัยพาวเวอร์ 

• ระดับน้ำมันเฟืองท้าย

• ระดับน้ำมันทรานเฟอร์ 

• กรองดักน้ำ (เฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล)

• ระดับน้ำกลั่น 

• โช๊คอัพหน้า/หลัง

ศูนย์บริการรถยนต์ FIXFIT ควบคุมคุณภาพบริการโดยโตโยต้า ให้บริการรถทุกยี่ห้อ มาตรฐานศูนย์บริการ ราคาอู่ เชิญนำรถเข้ารับบริการได้ทั้ง 11 สาขา ใกล้บ้านท่าน

สาขา อ่อนนุช          จ.-ส. เวลา 8.00 – 17.00 น.          โทร. 085-488-8522

สาขา ถนนบรมราชชนนี     จ.-ส. เวลา 8.00 – 17.00 น.          โทร. 02 -885-1734

สาขา บางนา-ตราด กม.25    จ.-ส. เวลา 8.00 – 19.00 น.          โทร. 082-690-4515

สาขา บางเมือง       จ.-ส. เวลา 8.00 – 17.00 น.          โทร. 091-771-6535

สาขา กิ่งแก้ว           จ.-ส. เวลา 8.00 – 17.00 น.          โทร. 02-027-7899 กด 2

สาขา ปทุมธานี        จ.-ส. เวลา 8.00 – 17.00 น.          โทร. 097-004-5505, 02-975-7500 ต่อ 114

สาขา ฉะเชิงเทรา     จ.-อ. เวลา 9.00 – 18.00 น.          โทร. 038-500-567

สาขา นครปฐม        จ.-ส. เวลา 10.00 – 19.00 น.        โทร. 034-900-321, 322

สาขา เชียงราย   จ.-อ. เวลา 8.00 – 18.00 น. โทร. 053-798-855 ,081-980-8855

สาขา กาฬสินธุ์        จ.-อ. เวลา 8.00 – 19.00 น.          โทร. 043-812-244

สาขา ชลบุรี  จ.-อ. เวลา 9.00 – 19.00 น.          โทร. 085-275-5222

เตรียมรถเดินทางท่องเที่ยวปีใหม่สุขใจที่ FIXFIT ทุกสาขาทั่วประเทศ

ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มกราคม 2567 โดยไม่ต้องนัดหมายล่วงหน้า

ติดตามข้อมูล และโปรโมชั่นต่างๆ ได้ทาง

Facebook FIXFIT THAILAND และ Line @fixfitthailand หรือคลิก https://lin.ee/rlcarFa

โตโยต้า ถนนสีขาว รณรงค์ลดอุบัติเหตุในเทศกาลปีใหม่ 2567

โตโยต้า ถนนสีขาว รณรงค์ลดการใช้ความเร็วในการขับขี่ เสริมสร้างความสุข ให้ถนนทุกสายเป็นถนนสีขาว ปลอดอุบัติเหตุ ในเทศกาลปีใหม่ 2567

โครงการ โตโยต้า ถนนสีขาว โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รณรงค์ลดใช้ความเร็วในการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ผ่านการจำลองสภาพรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุจากความเร็ว ภายใต้ข้อความสื่อสาร “ยิ่งเร็ว.. ยิ่งสูญเสียเร็ว” เน้นย้ำเรื่องของ “ความเร็ว” ซึ่งถือเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย พร้อมส่งมอบความมั่นใจ ก่อนการเดินทางให้กับผู้ใช้รถยนต์โตโยต้า ด้วยการให้บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 24 รายการ ที่ศูนย์บริการ ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2567

โตโยต้า มีความตั้งใจในการรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเน้นย้ำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนตระหนักถึงเรื่อง “ความเร็ว” ด้วยการขับขี่โดยใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงร่วมแบ่งปันวินัย และน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทาง เพื่อช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล ในปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมการสื่อสารรูปแบบใหม่ ผ่านการจำลองสภาพรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุจากความเร็ว ใน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา และขอนแก่น พร้อมข้อความสื่อสาร “ยิ่งเร็ว.. ยิ่งสูญเสียเร็ว” ในระหว่างวันที่ 16-22 ธันวาคม 2566 เพื่อตอกย้ำ และสร้างการตระหนักถึงผลลัพธ์จากการขับรถเร็วก่อนการเดินทางท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้การเดินทางท่องเที่ยว เป็นไปอย่างปลอดภัยตลอดเส้นทาง บริษัทฯ พร้อมด้วยผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ จึงจัดให้มีบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 24 รายการ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรถยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถนำรถยนต์ไปตรวจเช็กได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2567 โดยมีรายการตรวจเช็ก 24 รายการ ดังนี้

1. ตรวจเสียงเครื่องยนต์ขณะสตาร์ต

2. ที่ปัดน้ำฝน/น้ำล้างกระจก

3. ยางกันฝุ่นเพลาขับ

4. ลูกปืนล้อ

5. ลูกหมากปีกนก

6. สภาพยางรถยนต์

7. สายพานต่าง ๆ

8. ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์

9. รอยรั่วและความผิดปกติของท่อทางน้ำ

10. รอยรั่วและความผิดปกติของพวงมาลัยพาวเวอร์

11. รอยรั่วและความผิดปกติของหม้อน้ำ

12. รอยรั่วและความผิดปกติของเกียร์

13. รอยรั่วและความผิดปกติของเครื่องยนต์

14. ระบบฟรีแป้นเหยียบ/คลัตช์/เบรกมือ

15. ระบบไฟส่องสว่าง/แตร

16. ระบบเครื่องปรับอากาศ พัดลม และน้ำยา

17. ระดับน้ำมันพาวเวอร์

18. ระดับน้ำมันเกียร์

19. ระดับน้ำมันเครื่อง

20. ระดับน้ำมันเบรก

21. ระดับน้ำในถังสำรอง/ระดับน้ำยาหล่อเย็น

22. เข็มขัดนิรภัย

23. แบตเตอรี่/ระดับน้ำกลั่น

24. โช้กอัพหน้าหลัง

-ระดับน้ำมันเฟืองท้าย (เพิ่มเติม เฉพาะรถที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว)

-ระดับน้ำมันทรานเฟอร์ (เพิ่มเติม เฉพาะรถที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว)

โตโยต้า มุ่งมั่นรณรงค์และขับเคลื่อนให้เกิดสังคมแห่งความปลอดภัยในการเดินทาง อันจะนำมาซึ่งการเติมเต็ม และผลักดันสังคมไทยให้เข้าใกล้ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” (Sustainable Development Goals) ต่อไป และขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ “ร่วมสร้างสังคมคนขับรถดี” ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผ่านการขับขี่ตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตามกฎจราจร มีวินัย และน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทาง เพื่อขับเคลื่อนความสุข และความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนให้แก่คนไทยทุกคนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567

*สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า TOYOTA CONTACT CENTER 1486 หรือ อีเมล [email protected]

                 “โตโยต้า ร่วมขับเคลื่อนอนาคต”

ตลาดรถยนต์พฤศจิกายน 2566 คัน รถเก๋งโต 21.2%

ตลาดรถยนต์พฤศจิกายนยังชะลอตัวต่อเนื่อง 9.8% ยอดขาย 61,621 คัน รถเก๋งโต 21.2% สวนทางปิกอัพหดตัว 38.8% รอลุ้นปัจจัยบวกยอดจองจากงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2566 ด้วยยอดขาย 61,621 คัน ลดลง 9.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์นั่งเติบโตต่อเนื่องด้วยยอดขาย 24,567 คัน เติบโต 21.2% ส่วนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์สวนทางด้วยยอดขาย 37,054 คัน ลดลง 22.8% ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยังไม่ฟื้นตัวด้วยยอดขาย 22,104 คัน ลดลง 39.1%

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มาจากสภาพเศรษฐกิจ โดยภาพรวมของตลาดรถยนต์พฤศจิกายนยังชะลอตัวต่อเนื่องที่ 9.8% ด้วยยอดขาย 61,621 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 21.2% ด้วยยอดขาย 24,567 คัน โดยอีโคคาร์เป็นเพียงเซกเมนท์เดียวที่มีการเจริญเติบโตที่ 32.2% ด้วยยอดขาย 18,783 คัน ในขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องที่ 22.8% ด้วยยอดขาย 37,054 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน หดตัวถึง 39.1% ด้วยยอดขาย 22,104 คัน ปัจจัยหลักเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่เติบโตได้ตามที่คาดการ ความมั่นใจผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว โดยมีอุปสรรคสำคัญคือความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ อันเป็นผลมาจากความกังวลต่อความสามารถในการผ่อนชำระของผู้รับสินเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน

ตลาดรถยนต์ธันวาคมมีความหวังฟื้นตัวขึ้นตามฤดูกาลขาย “High season” โดยมีความหวังสำคัญคือแคมเปญกระตุ้นตลาดช่วงสุดท้ายของปีในงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2023 ซึ่งสามารถกวาดยอดจองรถทุกยี่ห้อในงานตลอด 14 วัน ได้ถึง 53,248 คัน เติบโตขึ้นถึง 45.17% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่ายอดจองเหล่านี้จะมาผลักดันตลาดรถยนต์เดือนธันวาคมให้เติบโตขึ้นได้มากน้อยเพียงใด

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2566

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 61,621 คัน ลดลง 9.8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      21,700 คัน      ลดลง 11.6 %   ส่วนแบ่งตลาด 35.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          10,415 คัน      ลดลง 37.1%    ส่วนแบ่งตลาด 16.9%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      7,328 คัน        เพิ่มขึ้น 0.0%    ส่วนแบ่งตลาด 11.9%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 24,567 คัน เพิ่มขึ้น 21.2%                                 

อันดับที่ 1 โตโยต้า      7,512 คัน        ลดลง 10.6%    ส่วนแบ่งตลาด 30.6%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า      3,928 คัน        ลดลง 11.5%    ส่วนแบ่งตลาด 16.0%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      872 คัน         ลดลง 41.4%    ส่วนแบ่งตลาด 3.5%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 37,054 คัน ลดลง 22.8%                               

อันดับที่ 1 โตโยต้า      14,188  คัน     ลดลง 12.1%    ส่วนแบ่งตลาด 38.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           10,415 คัน      ลดลง 37.1%    ส่วนแบ่งตลาด 28.1%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      3,400 คัน       เพิ่มขึ้น 17.6%  ส่วนแบ่งตลาด 9.2%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 22,104 คัน ลดลง 39.1%                     

อันดับที่ 1 อีซูซุ            9,377 คัน        ลดลง 39.0%    ส่วนแบ่งตลาด 42.4%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      8,544 คัน        ลดลง 37.3%    ส่วนแบ่งตลาด 38.7%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        2,324 คัน        ลดลง 51.6%    ส่วนแบ่งตลาด 10.5%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,251 คัน

อีซูซุ 1,500 คัน – โตโยต้า 1,422  คัน – ฟอร์ด 845  คัน – มิตซูบิชิ 406  คัน – นิสสัน 78 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 17,853 คัน ลดลง 38.8%                               

อันดับที่ 1 อีซูซุ            7,877 คัน        ลดลง 38.3%    ส่วนแบ่งตลาด 44.1%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      7,122 คัน       ลดลง 36.2%    ส่วนแบ่งตลาด 39.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        1,479 คัน       ลดลง 56.8%    ส่วนแบ่งตลาด 8.3%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม –พฤศจิกายน 2566

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 707,454 คัน ลดลง 7.7%                             

อันดับที่ 1 โตโยต้า       241,844 คัน   ลดลง 6.5%     ส่วนแบ่งตลาด 34.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ            141,671 คัน   ลดลง 27.1%    ส่วนแบ่งตลาด 20.0%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       84,516 คัน    เพิ่มขึ้น 13.4%  ส่วนแบ่งตลาด 11.9%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 266,365 คัน เพิ่มขึ้น 10.8%                               

อันดับที่ 1 โตโยต้า        92,034 คัน   เพิ่มขึ้น  24.7%  ส่วนแบ่งตลาด 34.6%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า        51,297 คัน   ลดลง   8.2%   ส่วนแบ่งตลาด 19.3%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ         14,291 คัน   ลดลง  26.1%   ส่วนแบ่งตลาด 5.4%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 441,089 คัน ลดลง 16.2%                   

อันดับที่ 1 โตโยต้า       149,810 คัน    ลดลง 18.9%    ส่วนแบ่งตลาด   34.0%

อันดับที่ 2 อีซูซุ            141,671 คัน   ลดลง 27.1%    ส่วนแบ่งตลาด   32.1%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       33,219 คัน    เพิ่มขึ้น 78.2%  ส่วนแบ่งตลาด   7.5%

4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 301,001 คัน ลดลง 26.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ           127,260 คัน     ลดลง 29.0%    ส่วนแบ่งตลาด   42.3%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      118,075 คัน     ลดลง 25.1%    ส่วนแบ่งตลาด   39.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด         33,636 คัน    ลดลง 11.6%    ส่วนแบ่งตลาด   11.2%

 *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 55,806 คัน

โตโยต้า 20,318 คัน – อีซูซุ 19,531 คัน – ฟอร์ด 10,963 คัน – มิตซูบิชิ 3,930 คัน – นิสสัน 1,064 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 245,195, คัน ลดลง 30.5%

อันดับที่ 1 อีซูซุ            107,729 คัน     ลดลง  33.3%   ส่วนแบ่งตลาด 43.9%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      97,757 คัน      ลดลง  26.4%   ส่วนแบ่งตลาด 39.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        22,673 คัน      ลดลง  24.0%   ส่วนแบ่งตลาด  9.2%   

TOYOTA Gazoo Racing Team Thailand คว้าแชมป์ปิดฤดูกาล Thailand Super Series 2023

TOYOTA Gazoo Racing Team Thailand สุดจัด! คว้าแชมป์ปิดฤดูกาล “Thailand Super Series 2023” ที่ สนามช้างฯ บุรีรัมย์

“TOYOTA Gazoo Racing Team Thailand” ทีมแข่งรถที่ยิ่งใหญ่ และประสบความสำเร็จอย่างสูงของวงการมอเตอร์สปอร์ต ภายใต้การสนับสนุนของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ประกาศศักดาปิดท้ายฤดูกาล “Thailand Super Series 2023” สนาม 7 – 8 สุดยิ่งใหญ่ เรียงแถวขึ้นโพเดียมรับถ้วยรางวัลครบทุกรุ่นทั้ง GT3 GTM GT4 และ Super Compact นำโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ – ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ – ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ – มานัต กุละปาลานนท์ – กรัณฑ์ ศุภพงษ์ – ธัญชนก เจริญสุขะวัฒนะ – กฤษฎิ์ วสุรัตน์ – ณดล วัฒนธรรม และ เคนทาโร่ ซึจิโทริ เมื่อวันที่ 15-17 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

TOYOTA Gazoo Racing Team Thailand ลงสนามแข่งในนัดปิดฤดูกาลของ “Thailand Super Series 2023” ด้วยความพร้อมสุดขีดเพื่อไล่ล่าโพเดียม 4 รุ่นหลักของรายการแข่งขัน Thailand Super Car GTM ด้วยรถแข่ง Lexus RC-F GTM หมายเลข 24 ขับโดย ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ นักแข่งมือเก๋าชั้นครูของทีม โดยมีคะแนนเก็บสูงสุด แต่ในเรซ 7 พลาดท่าไม่จบการแข่งขันเนื่องจากอุบัติเหตุ แต่กลับมาแก้มือใหม่ในเรซที่ 8 หวดคนเดียวตลอด 60 นาที ทำผลงานยอดเยี่ยมจบการแข่งขันในอันดับ 1 ด้านรถหมายเลข 38 ขับโดย กฤษฎิ์ วสุรัตน์ ประสานมือกับ เคนทาโร่ ซึจิโทริ ทำผลงานดีสุดในอันดับ 4 ทำให้รุ่นนี้กวาดถ้วยรางวัลประเภททีมอีกรางวัล

ต่อด้วยรุ่น Thailand Super Car GT3 ในรถแข่ง Lexus RC-F GT3 หมายเลข 9 ขับโดย ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และ มานัต กุละปาลานนท์ รุ่นนี้ทีมลุ้นตำแหน่งแชมป์ประเทศไทย สู้กันเดือดทั้ง 2 เรซ จบการแข่งขันไปด้วยอันดับ 7 และ อันดับ 3 ของรุ่น ทำให้คะแนนสะสมรวมทั้งฤดูกาล “ณัฐพงษ์” และ “มานัต” คว้าแชมป์ประจำปีประเทศไทยในรุ่นนี้มาครองได้อย่างสวยงาม (ผลอย่างไม่เป็นทางการ)

ส่วนในรุ่น Thailand Super Car GT4 ด้วยรถแข่ง TOYOTA Supra GT4  หมายเลข 19 ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ และ กรัณฑ์ ศุภพงษ์ จูงมือกันจบการแข่งขันด้วยอันดับ 2 และ อันดับ 4 ของรุ่น

ปิดท้ายด้วยรุ่น Thailand Super Compact ในรถแข่งหมายเลข 19 TOYOTA Yaris E-Fuel Carbon Neutral ซึ่งใช้พลังงานเชื้อเพลิงซึ่งมีความเป็นกลางทางคาร์บอน ขับโดย ธัญชนก เจริญสุขะวัฒนะ และ ณ ดล วัฒนธรรม ทำผลงานส่งท้ายปีได้ยอดเยี่ยม ขึ้นโพเดียมในอันดับ 4 และ 3 ของรุ่น

หลังจบการแข่งขัน สุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีม และนักแข่ง โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า “เป็นการปิดท้ายฤดูกาลของ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ซีรีส์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รถแข่งทุกคันทำผลงานดีรับถ้วยรางวัลกันทั้งหมด วันนี้พวกเราหายเหนื่อย และมีพลังสำหรับการไปสู้ศึกในรายการเอ็นดูรานซ์ 10 ชม.สัปดาห์หน้า ขอกำลังใจจากแฟนมอเตอร์สปอร์ตทุกคน ติดตามส่งใจเชียร์ทีมของเราด้วยนะครับ”

TOYOTA Gazoo Racing Team Thailand มีตารางแข่งขันต่อในรายการสุดท้ายของปี กับรายการมาราธอนทางเรียบ 10 ชั่วโมงเต็ม “Idemitsu Super Endurance Southeast Asia Trophy 2023” โดยลงแข่งร่วมกับทีม Rookie Racing จากประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 22-23 ธันวาคม 2566 ที่จะถึงนี้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ติดตามชม และเชียร์ทีมแข่งรถสัญชาติไทยที่มุ่งมั่น และตั้งใจพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเพิ่มเติมได้ที่ : Facebook และ Instagram: TOYOTAGazooRacingTeamThailand

Mazda Goal ก้าวแรกสู่อาชีพ

มาสด้า ร่วมกับสวาทแคทจัดกิจกรรม “Mazda Goal ก้าวแรกสู่อาชีพ” ส่งเสริมเยาวชนไทยก้าวสู่นักฟุตบอลอาชีพ

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ร่วมกับ สโมสร นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี จัดกิจกรรม “Mazda Goal ก้าวแรกสู่อาชีพ” ครั้งที่ 2 เดินหน้าต่อเติมความฝัน เรียนรู้เพิ่มทักษะ ร่วมสร้างอนาคตให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงแก่นแท้ของกีฬาฟุตบอลผ่านประสบการณ์จริงจากนักฟุตบอลระดับอาชีพ เพื่อให้สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นนักกีฬาระดับอาชีพต่อไปในอนาคต โดยมีนักกีฬาฟุตบอลของสโมสรฯ และทีมผู้ฝึกสอนรวมกว่า 30 คน มาช่วยกันถ่ายทอดประสบการณ์และเทคนิคการเล่นฟุตบอล โดยมีเยาวชนจากโรงเรียนในจังหวัดโคราชและจังหวัดใกล้เคียง เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กว่า 150 คน ณ สนามฝึกซ้อม SWATCAT Training Pitch จังหวัดนครราชสีมา

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กิจกรรม “Mazda Goal ก้าวแรกสู่อาชีพ” เป็นความร่วมมือกันระหว่าง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย และ สโมสร นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ซึ่งเป็นพันธมิตรร่วมกันมายาวนานเกินกว่า 1 ทศวรรษ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อผลักดันและเปิดโอกาสให้เยาวชนที่รักในกีฬาฟุตบอลได้มีโอกาสเข้าถึงเทคนิคการเล่นฟุตบอล เพื่อเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจากนักฟุตบอลอาชีพ ตลอดจนถึงเพื่อนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ต่อไปในอนาคต ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมสังคมที่เรามุ่งมั่นดำเนินการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ เพื่อส่งมอบความสุข และเพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกัน

กิจกรรม “Mazda Goal ก้าวแรกสู่อาชีพ” ครั้งที่ 2 จัดขึ้น ณ สนามฝึกซ้อม SWATCAT Training Pitch จังหวัดนครราชสีมา ในรูปแบบกิจกรรมตลอดทั้งวัน โดยมีนักฟุตบอลอาชีพจากทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี  พร้อมด้วยทีมผู้ฝึกสอนรวมกว่า 30 คน เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และทักษะกีฬาฟุตบอลให้กับเยาวชน โดยกิจกรรมแบ่งออกเป็น 4 ฐาน ได้แก่ Ball Feeling Basic Movement, Passing and Dribbling, Dribbling and Receiving และ Dribbling and Shooting ซึ่งเด็กๆ ได้รับทั้งความรู้และความสนุกสนานจากกิจกรรมไปพร้อมๆ กันตลอดทั้งวัน พร้อมกันนี้ ทางสโมสรฯ ยังได้ลงนามเซ็นสัญญากับสองเยาวชนที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมและมีทักษะการเล่นที่ดีเข้าสู่สวาทแคดอะคาเดมี่

ทั้งนี้ มาสด้ายังคงให้การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมในหลากหลายรูปแบบซึ่งรวมถึงกิจกรรมกีฬา เพื่อผลักดันให้เยาวชนไทยสามารถพัฒนาทักษะในสิ่งที่ตนเองรัก และนำไปต่อยอดเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้ต่อไปในอนาคต ตลอดจนถึงสนับสนุนให้วงการกีฬาไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปเคียงข้างกับสังคมไทย เพื่อโลก เพื่อสังคม และเพื่อผู้คน ที่ยั่งยืนตลอดไป

บุคคลในภาพ : (จากซ้ายไปขวา), นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ประธานสโมสรฯ, นายอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ นางสาวอัญรินทร์ วงศ์อัครพัฒนา รองประธานฝ่ายรายได้และสิทธิประโยชน์ สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

TOYOTA GR FESTIVAL 2023 ของขวัญสร้างความสุขส่งท้ายปี

“GR FESTIVAL 2023” Car Performance Show สุดยิ่งใหญ่แห่งปี! เพื่อ “สร้างความสุขให้กับทุกคน – Produce Happiness for All” จากโตโยต้า

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น จัดกิจกรรม Car Performance Show สุดยิ่งใหญ่แห่งปี “GR FESTIVAL 2023” เพื่อสร้างความสุขให้กับทุกคน ภายใต้แนวคิดหลัก “สร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งขึ้น” ผ่านกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และความพยายามในการเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ผ่านการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ต และพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนแม้จะเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงก็ตาม และที่สำคัญแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจซึ่งกันและกันกับการสร้างพันธมิตรที่มีจุดยืนเดียวกัน โดยมีสื่อมวลชน แฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ต และผู้สนใจเข้าร่วมชมงานอย่างคับคั่งกว่า 3,000 คน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ TOYOTA ALIVE บางนา

ภายใต้แนวคิดหลักของกิจกรรม ที่ต้องการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงกีฬามอเตอร์สปอร์ตได้มากขึ้น ผ่านการแสดงสุดยอดสมรรถนะในการขับขี่ยนตรกรรมสมรรถนะสูงหลากหลายรุ่น เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ โดย Master Driver “MORIZO” ผู้เป็นประธานคณะกรรมการบริหารของ บริษัท โตโยต้า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และเป็นถึงผู้ก่อตั้งทีมแข่งระดับโลกในนาม ROOKIE Racing พร้อมนักแข่งฝีมือระดับพระกาฬ จากสนามแข่งทั้งประเทศญี่ปุ่น และในประเทศไทย รวมไปถึง KOL ไทยรุ่นใหม่ เข้าร่วมในงานอย่างคับคั่ง

กิจกรรมสุดเร้าใจในงาน ได้แก่ การขับโชว์สุดยอดสมรรถนะของรถแข่งหลากหลายรูปแบบ เช่น  Drift show และ Time trial โดยนักแข่ง ROOKIE Racing ซึ่งนักแข่งเหล่านี้มีส่วนร่วมในการพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงอย่าง YARIS GR, COROLLA GR และ GR 86 โดยหนึ่งในนักแข่งที่มาร่วมแสดงในครั้งนี้ก็คือ MORIZO ผู้เป็นนักแข่งยอดฝีมือระดับ Master Driver ของโตโยต้า

ข้อมูลของกิจกรรม

MORIZO” คือใคร…?

MORIZO (โมริโซ) เป็นนามแฝงของ มร.อากิโอะ โตโยดะ (MR.AKIO TAYODA) ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะใช้เมื่อเขานั่งอยู่หลังพวงมาลัยในสนามแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง : โมริโซคือใคร? (toyotatime.jp)

โมริโซ ปรมาจารย์นักแข่งและประธานบริษัทฯ อากิโอะ โตโยดะ สามารถพลิกโฉมรถยนต์ของโตโยต้าได้อย่างไร (toyotatimes.jp)

พลิกปูมเส้นทาง MORIZO (โมริโซ)

เป็นที่กล่าวขานถึงว่าประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่งเป็นนักแข่งชั้นครู “Master driver” เขาสาธิตการขับรถแข่งประเภทต่างๆ เช่น การดริฟท์รถ Rally1 ซึ่งเป็นหนึ่งในรถแรลลี่ที่ขับยากที่สุดเขาร่วมการแข่งขันรถยนต์ประเภทเซอร์กิต เช่น Nurburgring, Super-Taikyu รวมถึงแรลลี่อื่นๆ อีกด้วย

สำหรับการแข่งรถรูปแบบวิบาก และการแข่งรถยนต์ทางเรียบในสนามแข่งนั้น มีความแตกต่างกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ดอกยางรถยนต์ และสไตล์การขับขี่ แต่สำหรับนักแข่งชั้นครูอย่าง MORIZO สามารถปรับโหมดการขับขี่ ระหว่างการขับขี่แบบเซอร์กิต และแบบแรลลี่ได้โดยไร้ปัญหา เขายังร่วมขับรถ และมีส่วนร่วมในการพัฒนา GR YARIS และ GR COROLLA รวมถึง รถ Rally2 ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการเปิดตัวในขณะนี้

มร.อากิโอะ โตโยดะ มีหลายบทบาท เช่น ประธานคณะกรรมการบริหารของโตโยต้า ในประเทศญี่ปุ่น ประธานของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งญี่ปุ่น JAMA ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเป็นนักแข่งชั้นครู และ นักแข่งรถในนาม MORIZO

นอกจากนี้ เขายังดำรงตำแหน่งรักษาการหัวหน้าทีมแทน Latvala ในการแข่ง WRC ที่ประเทศฟินแลนด์ เมื่อเร็วๆ นี้อีกด้วย

นักแข่งยอดฝีมือจากประเทศญี่ปุ่น

Masahiro Sasaki มาซาฮิโร ซาซากิ จากคำบอกเล่าของโมริโซนั้น มร.ซาซากิ เป็นนักแข่งรถมืออาชีพเพียงคนเดียวที่เป็นเสมือนแพทย์ที่สามารถสัมผัส ตรวจสอบ และวิเคราะห์ปัญหาของรถ รวมถึงวินิจฉัยถึงสาเหตุ และนำเสนอวิธีการแก้ไขได้ เขายังมีส่วนร่วมในฐานะนักขับหลัก ที่มีส่วนขับเคลื่อนการพัฒนารถ GR86, GR Yaris, GR Corolla และ Lexus โดยในปี 2010 เขาได้ลงแข่งขันในคลาสที่ท้าทายอย่าง GT300 ของ SUPER GT ที่จัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น และคว้าแชมป์ในรุ่น ST-3 รายการ SUPER Taikyu เมื่อปี 2014 เขายังเข้าร่วมการแข่งขันรายการ Nurburgring 24h ณ ประเทศเยอรมัน ตั้งแต่ปี 2020 อีกด้วย และในปีนี้ เขายังคงเป็นหนึ่งในนักแข่งภายใต้สังกัดทีม ROOKIE Racing เข้าร่วมการแข่งขัน SUPER Taikyu  ที่จัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น
Kazuya Oshima คาซูยะ โอชิมะ หลังจากผ่านการฝึกฝนจาก  FTRS (Formula Toyota Racing School –  ฟอร์   มูล่า โตโยต้า เรซซิ่ง สคูล) เขาได้ร่วมลงแข่งรายการแข่งรถฟอร์มูล่าของโตโยต้า และสามารถคว้าแชมป์ได้ ในปี 2005 ในปี 2006 เขาร่วมการแข่งขันรุ่น F3 และคว้าชัยชนะได้สำเร็จในปีต่อมา ตั้งแต่ปี 2009 ยังลงแข่ง รายาร FORMULA JAPAN (หรือรายการ SUPER FORMULA ในปัจจุบัน) ปี 2010 ร่วมการแข่งขันรายการ Nurburgring 24h และคว้าชัยชนะในรุ่นที่ลงแข่งมาแล้วถึง 5 ครั้งด้วยกัน ปี 2019 คว้าแชมป์ Class Driver Championship ใน Super GT GT500 นอกจากนี้ ยังเป็นนักขับคนสำคัญ ที่มีส่วนร่วมพัฒนารถรุ่น GR Yaris และ GR86 CNF ในปีนี้ เขาเข้าร่วมการแข่งขัน Super GT500 ในนามของนักแข่งสังกัด TGR TEAM ENEOS ROOKIE , ลงแข่งขันรายการ Super Formula ในนามของนักแข่งทีม docomo business ROOKIE , รวมถึงรายการ Super Taikyu ในนามนักแข่งทีม ROOKIE RACING TEAM

นักแข่ง TOYOTA GAZOO RACING THAILAND

มานัต กุละปาลานนท์ ต้น”แชมป์การแข่งขัน
51st ADAC TotalEnergies 24h Nürburgring
ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ แมน”
 
แชมป์การแข่งขัน
51st ADAC TotalEnergies 24h Nürburgring
พิชชา ทองเจือ   มิย่า”ร่วมการแข่งขัน YARIS ATIV One Make Race
ประเภทนักแข่งหญิง
อัครวุฒิ มังคลสุต ปังปอนด์”อันดับที่ 1 Toyota One Make Race
Yaris Class
มานะ พรศิริเชิด หนึ่ง”Toyota Gazoo Racing Asia  Cross Country Rally
เดชาพล โตยิ่งเจริญ ปอนด์”D1 Thailand
Championship

รถแข่งที่ใช้ในกิจกรรม GR FESTIVAL 2023

GR YARIS Rally1 HYBRID ขับโดย MORIZO เป็นรถRally รุ่นใหม่ที่ถูกปรับแต่งให้เกือบจะสมบูรณ์แบบตามกฎระเบียบทางเทคนิคของ FIA World Rally Car ปี 2017 ใต้ฝากระโปรงเป็นเครื่องยนต์ Turbo Direct Injection 1.6 ลิตร พละกำลัง 380 แรงม้า

ข้อมูลเพิ่มเติม : ข้อมูลรถ | 2023 | WRC | โตโยต้า Gazoo Racing

Red Bull GR Corolla สร้างโดย CUSCO Racing มีชื่อเสียงโด่งดัง เมื่อแชมป์โลก WRC ปี 2022 อย่าง Calle Rovampella ชนะการแข่งขัน Formula Drift Japan ด้วยรถแข่งคันนี้

รถรุ่นอื่นๆ  ที่ขับแสดงในงาน : GR Supra, GR COROLLA, GR YARIS, GR 86, GR SUPRA D1, COROLLA ALTIS D1, HILUX  Asia Cross Country, Hydrogen cart (เผยโฉมครั้งแรกในไทย)

ซีพี ทรู ลีสซิ่ง เอสซีจี โตโยต้า CJPT สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในไทย

ซีพี ทรู ลีสซิ่ง เอสซีจี โตโยต้า และ CJPT ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อเดินหน้าเร่งความร่วมมือกับหลากหลายอุตสาหกรรมมุ่งสู่การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทย

(จากซ้ายไปขวา) นายฮิโรกิ นากาจิมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ Commercial Japan Partnership Technologies Corporation (CJPT), นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์, นายโคจิ ซะโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น, นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์, นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน), นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ นายขจร เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู ลีสซิ่ง จำกัด และกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ทรู ลีสซิ่ง ปูนซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (โตโยต้า) และ Commercial Japan Partnership Technologies Corporation (CJPT) ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเร่งความร่วมมือในการมุ่งสู่การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทย โดย MOUนี้ เกิดขึ้นจากความสำเร็จในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลจากความพยายามร่วมกันของทุกฝ่าย รวมถึงประสิทธิภาพด้านการขนส่งของซีพี และเอสซีจี และการใช้ยานยนต์จากพลังงานที่หลากหลายตามความต้องการในประเทศไทย

ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ที่ดีและความเชื่อมั่น ระหว่างนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาสกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และนายอากิโอะ โตโยดะ ประธาน บริษัท โตโยต้า (ในขณะนั้น)ซีพี ทรู ลีสซิ่ง เอสซีจี โตโยต้า และ CJPT ได้เริ่มต้นดำเนินการใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านข้อมูล ด้านการเดินทาง และด้านพลังงาน โดยพิจารณาว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยนำมาซึ่งความสุขให้แก่ชาวไทย 67 ล้านคนภายใต้แนวคิด “เริ่มจากสิ่งที่สามารถทำได้ ณ เวลานี้ ร่วมกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน”

(จากซ้ายไปขวา) นายฮิโรกิ นากาจิมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ Commercial Japan Partnership Technologies Corporation (CJPT) ; นายโคจิ ซะโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ; นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ; นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ; นายขจร เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู ลีสซิ่ง จำกัด และกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ

สำหรับ“โซลูชันด้านการใช้ข้อมูล” ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้า คือประสิทธิภาพของการโหลด และปรับเส้นทางในการจัดส่งอย่างเหมาะสม ด้วยการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ด้านการค้าปลีกและการขนส่งของแม็คโคร ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มซีพีรวมถึงเอสซีจี ตลอดจนการนำข้อมูลด้านการขนส่งและยานยนต์มาใช้ เพื่อนำมาทดลองกับร้านค้าที่เราดำเนินการทดสอบ ส่งผลให้ขณะนี้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง15% (*1)

สำหรับ “โซลูชันด้านการเดินทาง” หลังจากที่ โตโยต้า มีการเปิดตัวยานพาหนะที่มีความหลากหลาย รวมทั้งรถบรรทุกที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (FCEVs) รถกระบะไฟฟ้าต้นแบบ Hilux Revo BEV Concept รถ Japan Taxi LPG-HEV และรถตู้ขนาดเล็กเพื่อการพาณิชย์ (Kei) โดยการใช้งานจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับการขนส่งในแต่ละประเภทและในแต่ละวัน สำหรับโครงการความร่วมมือครั้งนี้ มีการใช้รถพลังงานไฮโดรเจน และรถตู้ขนาดเล็ก ในธุรกิจค้าปลีกของ กลุ่มซีพี และเอสซีจี ซึ่งส่งผลให้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ68 ตันต่อปี (*2) นอกจากนี้ ยังประสบความสำเร็จในการริเริ่มการใช้โดรนไฮโดรเจนต้นแบบสำหรับหว่านเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และงานอื่นๆ ในพื้นที่เกษตรของซีพี

เยี่ยมชมโรงงานกระจายสินค้าของซีพีและ เอสซีจีในประเทศไทย

ในส่วนของ “โซลูชันด้านพลังงาน” เพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่มีการเปิดตัวเครื่องผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซชีวภาพที่ได้จากฟาร์มไก่ไข่ของซีพีเอฟและอาหารเหลือทิ้งจากโรงอาหารของโตโยต้า โดยนำพลังงานนั้นมาใช้กับรถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจนและโดรนไฮโดรเจนรวมไปถึงการแข่งรถที่จะมีขึ้นในปลายเดือนธันวาคม นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเริ่มโครงการสาธิตการจัดการพลังงาน โดยใช้ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) และระบบการจัดเก็บพลังงานในแบตเตอรี่

ก้าวต่อไป โตโยต้ามีแผน ที่จะนำรถยนต์ HEV หรือ รถตู้ขนาดเล็กเพื่อการพาณิชย์ “Kei” ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสังคมไทยในปัจจุบันพร้อมทั้งในอนาคตจะมีการนำรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (FCEVs) และรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบไฟฟ้า (BEV) มาเพิ่มเติมเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใต้แนวคิด “การเดินทางที่หลากหลาย” จากโตโยต้า

ทั้งนี้ ความท้าทายต่อไป คือการเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน และการลดต้นทุนในกระบวนการทั้งหมดของขั้นตอน “การผลิต” “การขนส่ง” และ “การใช้” พลังงานโดยการใช้ พลังงานทดแทนที่เหมาะสมกับสภาพ และการใช้งานในประเทศไทย

นอกจากนี้ เพื่อปรับปรุงให้การขนส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการใช้ข้อมูล จะมีการนำข้อมูลด้านค้าปลีก และขนส่งจาก ซีพีและเอสซีจี รวมถึงการนำเทคโนโลยี “Digital Twin” (การสร้างโมเดลเสมือนจริงจากพื้นที่จริง) ของโตโยต้า มาเพิ่มประสิทธิภาพของ “การเดินทาง การขนส่ง และพลังงาน” โดยร่วมมือกับระบบทางสังคม เช่น การจัดการพลังงานและการควบคุมการจราจร เป็นต้น

ภายใต้การบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับบริษัทใหม่ Commercial Japan Partnership Technologies Asia (CJPT-Asia) ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย เพื่อเร่งขยายความร่วมมือไปยังทุกภาคอุตสาหกรรมก่อนจะขยายไปยังประเทศอื่นๆ

การสาธิตการเคลื่อนที่แบบคาร์บอนเป็นกลางแบบหลายเส้นทางในการขนส่งในประเทศไทย

*1 การแปลงเป็นการลดคาร์บอนไดออกไซด์ มาจากการลดระยะทางการขับขี่โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพในการบรรทุกและการรับเส้นทางการจัดส่งให้เหมาะสม

*2 การแปลงเป็นการลดคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดทั้งปี มาจากจากลดคาร์บอนไดออกไซด์แบบ “Tank-to-wheel” เมื่อเทียบกับยานพาหนะทั่วไป โดยขึ้นอยู่กับอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงทั้งหมดที่ใช้ระหว่างการสาธิต

มิตซูบิชิ – เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น คว้ารางวัลสถานประกอบดีเด่น

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และเอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น คว้า 5 รางวัล สถานประกอบกิจการต้นแบบดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับประเทศ ประจำปี 2566

บรรยายภาพ : บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น จำกัด นำโดย มร.เออิจิ โอกาวะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 2 จากขวา) รับรางวัลสถานประกอบกิจการต้นแบบดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับประเทศ ประจำปี 2566 โดยมีผู้บริหารร่วมรับรางวัลจากซ้าย ได้แก่ นายวินัย สนทอง ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (ซ้ายสุด) นายมนัส ยงพฤกษา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 2 ซ้าย) และนายอุเทน พรหมสนธิ์ ผู้ชำนาญการอาวุโส บริษัท เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น จำกัด (ขวาสุด) ในโอกาสนี้ นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กลาง) ได้ร่วมแสดงความยินดี

บริษัท  มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น จำกัด คว้า 5 รางวัลสถานประกอบกิจการต้นแบบดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับประเทศ ประจำปี 2566 จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน รางวัลนี้มุ่งยกย่องการปฏิบัติงานที่ยอดเยี่ยมขององค์กรธุรกิจที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี มีความเป็นอยู่ที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ผู้บริหารของบริษัท  มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น จำกัด ที่เป็นผู้แทนรับรางวัลประกอบด้วย มร. เออิจิ โอกาวะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต นายมนัส ยงพฤกษา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ นายวินัย สนทอง ผู้อำนวยการใหญ่ และนายอุเทน พรหมสนธิ์ ผู้ชำนาญการอาวุโส โดยมีนายเกริกไกร นาสมยนต์ ผู้ตรวจราชการกรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นผู้มอบรางวัลในพิธีมอบรางวัลโล่และเกียรติบัตรสถานประกอบกิจการและสถานศึกษาที่มีระบบบริหารจัดการด้านแรงงานยอดเยี่ยม ประจำปี 2566 ณ จังหวัดชลบุรี

มร.เออิจิ โอกาวะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ผมมีความภูมิใจอย่างมากที่ได้เป็นตัวแทนของพนักงานทุกคนเข้าร่วมพิธีรับรางวัลสถานประกอบกิจการต้นแบบดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประจำปี 2566 ระดับประเทศ ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญสูงสุดในสถานที่ทำงานของเรา และเป็นความรับผิดชอบของทุกคนที่ต้องตระหนักและปฏิบัติทุกวันอย่างต่อเนื่อง”

“เมื่อพนักงานทุกคนมีความปลอดภัย ไม่มีอุบัติเหตุ และทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดีย่อมส่งผลทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุดส่งมอบให้ลูกค้าได้ตรงเวลา ผมขอแสดงความยินดีกับพนักงานทุกคนในโรงงานทั้ง 5 แห่งที่ได้รับรางวัลแห่งเกียรติยศด้านความปลอดภัยในปีนี้ และขอส่งเสริมให้ทุกคนมุ่งมั่นทำงานด้วยความปลอดภัย เพื่อยกระดับคุณภาพให้ดียิ่งขึ้นต่อเนื่องไปทุกปี” มร.โอกาวะ กล่าวเพิ่มเติม

รางวัลนี้มอบให้แก่องค์กรที่มีการดำเนินงานด้านความปลอดภัยและชีวอนามัยที่สอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนด และมีผลการปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 – 31 ธันวาคม 2565 สอดคล้องตามเกณฑ์ของการเข้าร่วมประกวดเพื่อขอรับรางวัลดังกล่าว องค์กรที่ได้รับรางวัลต้องแสดงถึงการพัฒนาอย่าง

ต่อเนื่อง พร้อมกับมีความมุ่งมั่นที่จะสรรค์สร้างและรักษาสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี

บริษัท  มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น จำกัด ได้รับ 5 รางวัลสำหรับ 5 โรงงานดังนี้

-โรงงาน 3 ได้รับรางวัลเกียรติบัตร ระดับเพชรต่อเนื่องสูงสุดเป็นปีที่ 8

-โรงงานปั๊มขึ้นรูป 1 ได้รับรางวัลเกียรติบัตร ระดับเพชรต่อเนื่องเป็นปีที่ 6

-โรงงานเครื่องยนต์ ได้รับรางวัลโล่เกียรติยศและเกียรติบัตร ซึ่งได้รับรางวัล 5 ปีต่อเนื่อง ยกระดับจากระดับทองสู่ระดับเพชร

-โรงงาน 1 และ 2 ได้รับรางวัลเกียรติบัตร ระดับทองต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

-โรงงานปั๊มขึ้นรูป 2 และพลาสติก ได้รับรางวัลเกียรติบัตรระดับทองต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

รางวัลโล่และเกียรติบัตรสถานประกอบกิจการและสถานศึกษาที่มีระบบบริหารจัดการด้านแรงงานยอดเยี่ยมเป็นแนวคิดริเริ่มของกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรธุรกิจและผู้ประกอบการสร้างระบบการจัดการแรงงานและการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพที่นำไปสู่การมีอุบัติเหตุเป็นศูนย์และยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของลูกจ้าง อีกยังทั้งสามารถเป็นต้นแบบให้กับสถานประกอบกิจการอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งจะทำให้องค์กรธุรกิจมีการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ก่อตั้งศูนย์ฝึกอบรมแห่งใหม่ในประเทศไทย

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ก่อตั้งศูนย์ฝึกอบรมของภูมิภาคอาเซียนแห่งใหม่ ในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางด้านยุทธศาสตร์ ระดับภูมิภาคและระดับโลกของไทย

บรรยายภาพ : มร.ฮิเดะโอะ นาคะอิ ผู้ชำนาญการอาวุโส ศูนย์ฝึกอบรมของภูมิภาคอาเซียน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ซ้ายสุด) ให้การต้อนรับตัวแทนผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ระหว่างการฝึกอบรมผลิตภัณฑ์ ออล-นิว ไทรทัน

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ก่อตั้งศูนย์ฝึกอบรมของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Regional Training Center หรือ ARTC) แห่งใหม่ในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางสำคัญด้านการปฏิบัติงานในระดับโลกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดยมีเป้าหมายเพื่อมุ่งยกระดับการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าในด้านการให้บริการ และยกระดับการฝึกอบรมด้านบริการให้แก่บุคลากรของครือข่ายผู้จัดจำหน่ายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั่วภูมิภาคอาเซียน

“ประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตและการปฏิบัติงานที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ได้ทำการผลิตรถยนต์รุ่นแฟล็กชิพหลายรุ่นเพื่อส่งออกไปยังทั่วโลก พร้อมกันนี้ เรายังมุ่งมั่นทุ่มเทที่จะยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการให้ดียิ่งขึ้นในทุกด้าน เราจึงได้ก่อตั้งศูนย์ฝึกอบรมของภูมิภาคอาเซียน (ARTC) ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ขึ้นในประเทศไทย เพื่อ ‘พัฒนาทักษะของผู้ให้การฝึกอบรม’ โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้จัดจำหน่ายในประเทศอาเซียน ด้วยการพัฒนาหลักสูตรอบรมที่เหมาะสมกับตลาดในอาเซียนโดยเฉพาะ” มร.เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กล่าว

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำในการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตเพื่อส่งออกตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยนอกเหนือจากการก่อตั้งศูนย์ฝึกอบรมของภูมิภาคอาเซียน (ARTC) แห่งใหม่นี้ บริษัทฯ ได้เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งด้านการลงทุนและการเติบโตในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย การเปิดสายการผลิตที่ล้ำสมัยสำหรับออล-นิว ไทรทัน และเครื่องยนต์ไฮเปอร์ พาวเวอร์รุ่นใหม่ รวมถึงการก่อตั้งโรงงานพ่นสีคุณภาพสูง ที่ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีอันทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยงบลงทุน 3 พันล้านบาท พร้อมด้วยการเปิดสนามทดสอบรถยนต์แห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ทำให้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กลายเป็นศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save