- Advertisement -
29.2 C
Bangkok
Home Blog Page 63

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เติมพอร์ตอีวี พร้อมอวดโฉมที่งาน StarFest Defining Electric

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เติมพอร์ตอีวีเพิ่ม 2 รุ่น “The new EQE Sedan” และ “The new EQS SUV” พร้อมจัดงาน “StarFest Defining Electric” ชวนลูกค้าสัมผัสยนตรกรรมทุกรุ่น 24-25 สิงหาคมนี้

•เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มอีวีเจเนเรชันใหม่ในปี 2025 เป็นต้นไป: แพลตฟอร์มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% “MB.EA” สำหรับรถขนาดกลาง “AMG.EA” สำหรับรถสมรรถนะสูง และ “VAN.EA” สำหรับรถเชิงพาณิชย์ ส่วนรถอีวีขนาดใหญ่อย่าง EQE และ EQS จะใช้แพลตฟอร์ม “EVA2”

•เติมพอร์ตอีวีทั้งรุ่นนำเข้าและรุ่นประกอบในประเทศ: เปิดตัวซีดานไฟฟ้า “EQE 300” รุ่นนำเข้าจากเยอรมนี และ “EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic” เอสยูวีระดับ Top-End Luxury ที่นำเสนอรุ่นประกอบในประเทศเป็นรุ่นที่ 2 ต่อจาก EQS 500 4MATIC AMG Premium

•ปักหลักโรงงานผลิตในระยะยาว: ต่อสัญญาธนบุรีประกอบรถยนต์เพิ่มอีก 10 ปี รับแผนการขยายไลน์ผลิตรถยนต์รุ่นประกอบในประเทศ ดึงนวัตกรรมระดับโลกเข้ามาเสริมศักยภาพบุคลากรชาวไทย

•อีเวนต์ครั้งใหญ่สำหรับคนอีวี “StarFest Defining Electric”: ชวนลูกค้าสัมผัสยนตรกรรมทุกรุ่นและพูดคุยกับ “คุณอู๋ Spin9” “คุณซู่ชิง จิตต์สุภา” “คุณหลาม ล้ำหน้าโชว์” และ “คุณซี ฉัตรปวีณ์

•แคมเปญ “Worry Free”: รับข้อเสนอสุดพิเศษจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% กับแพ็คเกจข้อเสนอทางการเงิน ประกันชั้น 1 และโปรแกรม MBSP

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำการเป็นผู้บุกเบิกรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในตลาดลักชัวรี่ เดินหน้าเปิดตัวอีวี 2 รุ่นล่าสุด ได้แก่ “EQE 300” รถซีดานไฟฟ้าที่เข้ามาเติมไลน์อัพของ EQE ให้ครบทั้งตัวถังแบบซีดานและเอสยูวี รวมถึงรุ่นสมรรถนะสูงจาก Mercedes-AMG พร้อมด้วย “EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic” เอสยูวี Full-Size Luxury 7 ที่นั่ง ที่เข้ามาสานต่อแผนประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นรุ่นที่ 2 ต่อจาก EQS 500 4MATIC AMG Premium ซึ่งผลิตจากแพลตฟอร์ม EVA2 (Electric Vehicle Architecture) ที่พัฒนาเพื่อรถอีวีโดยเฉพาะ พร้อมเผยวิสัยทัศน์ในระดับโลกและแผนการพัฒนายนตรกรรมแห่งอนาคต ประเดิมจัดงาน “StarFest Defining Electric” ให้ลูกค้าชาวไทยได้เข้ามาสัมผัสพร้อมทดลองขับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด รวมกว่า 13 รุ่น ตั้งแต่วันที่ 24 – 25 สิงหาคม 2567 ณ อันฟอร์แมต สตูดิโอ (Unformat Studio)

มร.มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในระดับโลก มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ระดับ Entry Luxury จนไปถึง Top-End Luxury รวมไปถึงยนตรกรรมจากแบรนด์ Mercedes-AMG และ Mercedes-Maybach นอกจากนี้ยังมีแผนในการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในเจเนเรชั่นถัดไป และลงทุนสร้าง “eCampus” ศูนย์พัฒนาเซลส์แบตเตอรี่สมรรถนะสูงที่เมืองสตุทท์การ์ดต ประเทศเยอรมนี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในด้านคุณภาพและเทคโนโลยีของแบตเตอรี่ และนำมาใช้ในกระบวนการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในอนาคต

สำหรับในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ถือเป็นแบรนด์ลักชัวรี่แบรนด์แรกที่ประกอบแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และเป็นประเทศแรกนอกเยอรมนีที่สามารถประกอบรถอีวีระดับแฟล็กชิพอย่าง “EQS 500 4MATIC” พร้อมเปิดตัวเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โดยหลังจากนั้นได้มีการนำเข้าและเปิดตัวอีกหลายรุ่น อาทิ “EQB 250” “EQE 350 4MATIC SUV” “Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+” “EQS 450+” จนมาถึง 2 รุ่นล่าสุดอย่าง “EQE 300” และ “EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic” และในอนาคต เราได้เตรียมแผนเปิดตัวโมเดลอื่นๆ ทั้งรุ่นที่ประกอบในประเทศผ่านโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์และรุ่นนำเข้าทั้งคัน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์และตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง”

EQE 300 และ EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic จะมาพร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ที่ครอบคลุมการใช้งานตลอดระยะเวลา 10 ปี หรือไม่เกิน 250,000 กิโลเมตร* รวมถึงแพ็คเกจ “Worry Free” กับข้อเสนอที่มอบให้กับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

•ดาวน์ทุกรุ่น 990,000 บาท และสำหรับรุ่น EQE 300 ผ่อนเริ่มต้น 39,000 บาท*

•ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง (Mercedes-Benz Protection) ตลอด 3 ปี*

•ฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง และระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ (MBSP Easy Care & Extra Guarantee ) ตลอด 5 ปี*

•ฟรี ค่าบริการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบ DC ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (Unlimited DC Charging) เป็นระยะเวลา 1 ปี ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่กำหนดไว้ของผู้ให้บริการ “SHARGE”*

*เงื่อนไขให้เป็นไปตามที่บริษัทฯ และตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการกำหนด

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นต่างๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารอัพเดทผ่านทาง Facebook : Mercedes-Benz Thailand IG : @MercedesBenzThailand และ LINE : @mercedesbenzth

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ Mercedes-benz EQE 300

EQE 300 ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นล่าสุดในไลน์อัพของ EQE ที่มาพร้อมตัวถังแบบซีดาน ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว (Single Motor) บริเวณตำแหน่งล้อหลัง มอบกำลังแรงม้าสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 7.3 วินาที ติดตั้งแบตเตอรี่แรงดันสูงความจุ 89 kWh ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลถึง 651 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 170 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10 – 80% เพียง 32 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 9 ชั่วโมง 15 นาที

ดีไซน์ภายนอกของ EQE 300 มาพร้อมการตกแต่งรอบคันแบบ Electric Art Exterior Package เสริมด้วยชุดแต่ง Night Package และกระจังหน้าแบบ Mercedes-Benz pattern ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED High Performance พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist ในส่วนของช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตแบบ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว และยางรถยนต์พร้อมโฟมระบบช่วงล่างแบบ Comfort suspension ติดตั้งระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO Comfort Package และระบบเปิด-ปิด บานประตูท้ายแบบ HANDS-FREE ACCESS และกล้องถอยหลังที่มาพร้อมกับระบบจออัตโนมัติ ที่จะช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นในทุกเส้นทาง

เมื่อเข้ามายังภายในห้องโดยสารจะพบกับดีไซน์การตกแต่งแบบ Electric Art Interior ตามหลักแนวคิด “Progressive Luxury” ที่แฝงอยู่ในทุกมิติของห้องโดยสาร โดยตกแต่งคอนโซลด้วยวัสดุ Laser-cut backlit trim ผสานเข้ากับดีไซน์ Mercedes-Benz pattern และวัสดุแบบ High-gloss black ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตหุ้มหนัง โดยใช้เบาะนั่งแบบ Comfort Seats พร้อมระบบดันหลัง 4 ทิศทาง Lumbar support และฟังก์ชั่นปรับระดับเบาะนั่งด้วยระบบไฟฟ้าพร้อม memory seat สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า รวมถึงฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม อาทิ ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบแยก 2 โซน ระบบชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charging) และไฟเรืองแสง Ambient Light รอบห้องโดยสารที่สามารถปรับได้ถึง 64 เฉดสี โดยจะครอบคลุมในส่วนของโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ บริเวณแดชบอร์ดที่จะเปลี่ยนสีตาม Ambient Light ในตอนกลางคืน

สำหรับระบบการเชื่อมต่อและ Infotainment ภายในรถ โดดเด่นด้วยระบบปฏิบัติการ MBUX7 รุ่นล่าสุด ผสานการทำงานของเทคโนโลยี AI พร้อมติดตั้งระบบจดจำโปรไฟล์ผู้ขับขี่ ด้วยการสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint scanner) และระบบจะปรับการตั้งค่าต่างๆ ในรถ ให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ขับขี่ โดยติดตั้งหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางแบบ OLED ขนาด 12.8 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple Carplay™ & Android Auto™) ติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารด้วยสัญญาณ 5G สำหรับบริการ Mercedes me connect ระบบแผนที่นำทางแบบ Hard-disc navigation พร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ ระบบมัลติมีเดีย MBUX Entertainment Plus และระบบตรวจสอบสภาพการจราจรแบบ Live Traffic Information ในทุกเส้นทาง

สำหรับเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยของ EQE 300 มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมด้วย Assistance Package ที่ทำงานแบบ Active Safety อาทิ ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) และ Active Distance Assist DISTRONIC ที่มาพร้อมเรดาห์รักษาระยะห่างจากตัวรถคันข้างหน้า พร้อมติดตั้งระบบ Parking Package กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยจอด รวมถึงระบบป้องกันก่อนเหตุ (PRE-SAFE® system) และระบบเตือนแรงดันลมยาง ฯลฯ

รุ่นเครื่องยนต์ความจุแบตเตอรี่ (kWh)แรงม้าสูงสุด
 (แรงม้า)
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร)อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.
(วินาที)
ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.)
EQE 300มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว (1 motor on rear axle)892455507.3210

EQE 300 วางจำหน่ายในราคา 3,970,000 บาท

EQE 300 มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีดำ (Obsidian Black) สีเทา (Selenite Grey) สีเงิน (High-tech Silver) และสีน้ำเงิน (Sodalite Blue)

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ Mercedes-benz EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic

EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic เอสยูวีไฟฟ้าระดับ Top-End Luxury รองรับการโดยสารสูงสุด 7 ที่นั่ง ติดตั้งขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All-wheel drive ให้กำลังสูงสุด 360 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 6.1 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 118 kWh ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 658 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง โดยรองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC charge) สูงถึง 200 kWh ใช้เวลาชาร์จเพียง 31 นาทีจาก 10-80% ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 12 ชั่วโมง 15 นาที

EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic ผสานความเป็นที่สุดทั้งในเรื่องเทคโนโลยี ฟังก์ชันการใช้งาน และการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างลงตัวในทุกรายละเอียด เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกที่มีการตกแต่งด้วยชุดแต่ง AMG Bodystyling พร้อมชุดกระจังหน้าแบบ Mercedes-Benz pattern และตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ติดตั้งไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT พร้อมเทคโนโลยีปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist ที่สามารถส่องสว่างไกลถึง 650 เมตร ขับเคลื่อนอย่างสะดวกสบายด้วยล้ออัลลอย AMG multi-spoke lightalloy wheels aerodynamically ขนาด 22 นิ้ว ผสานการทำงานด้วยระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (AIRMATIC) และโฟมช่วยลดเสียงรบกวน พร้อมยกระดับการขับขี่ให้เป็นไปอย่างนุ่มนวลและน่าประทับใจในทุกเส้นทาง

ห้องโดยสารมาพร้อมดีไซน์ระดับไฮเอนด์ที่ให้ความหรูหราตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ผสานสีสันในสไตล์สปอร์ตด้วยการตกแต่งแบบ AMG Line Interior มอบความเพลิดเพลินให้กับผู้โดยสารในทุกที่นั่งด้วยระบบ MBUX7 รุ่นล่าสุด ติดตั้งหน้าจอ MBUX Hyperscreen แบบ ‘zero-layer’ ยาวต่อเนื่องกันกว่า 141 เซนติเมตร โดยซ่อนไว้ด้วยหน้าจอ OLED จำนวน 3 หน้าจอ กินพื้นที่จากเสา A-pillar ฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่ง ทั้งยังมอบความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นด้วยเบาะนั่งแบบ 7 ที่นั่ง 3 ตอน ติดตั้งหน้าจอเพื่อความบันเทิงที่สามารถควบคุมได้ด้วยระบบสัมผัสแบบ MBUX High-End Rear Seat จำนวน 2 จอขนาด 11.6 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง มาพร้อมเบาะนั่งไฟฟ้าที่สามารถปรับตำแหน่งที่นั่งได้ ระบบฟอกอากาศแบบENERGIZING AIR CONTROL Plus แอร์อัตโนมัติ THERMOTRONIC 4 โซน และเทคโนโลยีอื่นๆ อย่างครบครัน

ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามความต้องการกว่า 5 โหมด ด้วยการสัมผัสบริเวณจอกลางผ่านฟังก์ชั่น DYNAMIC SELECT โดยรถยนต์จะเปลี่ยนรอบเครื่องยนต์ พวงมาลัย ช่วงล่าง คันเร่ง และการทำงานของแอร์ ให้เหมาะสมกับการทำงานในแต่ละโหมด ไม่ว่าจะเป็นแบบ ECO, COMFORT, SPORT, INDIVIDUAL และ OFFROAD ซึ่งเป็นโหมดสำหรับการขับขี่ในรูปแบบ Off-Road โดยเฉพาะ ทั้งยังมาพร้อมกล้องรอบคัน 360° ที่ให้การแสดงผลแบบ Transparent bonnet ที่จะแสดงภาพใต้ท้องรถแบบ real-time ทำให้สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างสะดวกสบายเมื่อขับขี่ในโหมด Off-Road

ในส่วนของระบบความบันเทิง รถยนต์คันนี้ยังครบครันด้วยระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester® 3D surround sound system ทรงพลังด้วยลำโพงคุณภาพสูงจำนวน 15 ตัว และรอบห้องโดยสารที่มีกำลังขับขนาด 710 วัตต์ จะช่วยมอบเสียงเพลงที่คมชัดสมจริงราวกับอยู่ในสตูดิโอ มาพร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos® ถ่ายทอดเสียงได้รอบทิศทางแบบ 360 องศา ที่จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารได้อย่างรื่นรมย์

สำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยภายใน EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic นั้นจัดมาให้อย่างเต็มพิกัด ทั้งระบบเลี้ยว 4 ล้อแบบ rear axle steering ทำให้ทุกการขับขี่ง่ายดายยิ่งขึ้นด้วยล้อหลังที่สามารถเลี้ยวได้มากถึง 4.5 องศา รวมถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบ Driving assistance package ที่รวบรวมระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist) ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist) ระบบช่วยจำกัดความเร็วแบบแอ็คทีฟ (Speed Limit Assist) ฯลฯ

รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าความจุแบตเตอรี่ (kWh)แรงม้าสูงสุด
 (แรงม้า)
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร)อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.
(วินาที)
ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.)วิ่งได้สูงสุด (กม.)
EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamicมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 2 motors on front and rear axle1183608006.1210658 (WLTP)

EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic วางจำหน่ายในราคา 5,990,000 บาท

โดยมีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีเทา (MANUFAKTUR Alpine Grey Solid) สีเทา (Selenite Grey Metallic) สีขาว (MANUFAKTUR Diamond White Bright) และสีดำ (Obsidian Black Metallic)

โตโยต้า ยกโชว์รูมมาไว้ที่งาน BIG MOTOR SALE 2024

โตโยต้า ยกบริการครบ จบ เหมือนยกโชว์รูมมาพบรถโตโยต้าหลากหลายรุ่นและบริการครบทุกรูปแบบ ณ บูธโตโยต้า ในงาน BIG MOTOR SALE 2024

นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการครบวงจร รวมถึงข้อเสนอสุดพิเศษ ภายใต้แนวคิด “บริการครบ จบ เหมือนยกโชว์รูมมา” โดยผู้เยี่ยมชมบูธจะได้สัมผัสกองทัพรถยนต์กว่า 10 รุ่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งทัพรถยนต์ HEV รถยนต์นั่ง รถอเนกประสงค์สายครอบครัว และรถกระบะ และในปีนี้ ยังอำนวยความสะดวกให้ท่านเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้าได้ง่ายขึ้น ด้วยบริการเช็กเครดิตไว รู้ผลสินเชื่อได้ภายในงาน พร้อมข้อเสนอพิเศษ “ฟีล So Good ดีล So Great” ลุ้นรางวัลใหญ่ “Mid-Year Wonder ลุ้นเชียร์ ลุยช็อป”* บินลัดฟ้าชมศึกแดงเดือด ไกลถึงประเทศอังกฤษ ที่บูธโตโยต้าในงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2024 ระหว่างวันที่ 23 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน ศกนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

นายณัทธร กล่าวต้อนรับสื่อมวลชนสู่บูธโตโยต้าว่า “ปีนี้เรามาพบกับท่านด้วยแนวคิด “บริการครบ จบ เหมือนยกโชว์รูมมา” ให้บริการลูกค้าทุกท่านแบบ one stop service นำเสนอรถโตโยต้าหลากหลายรุ่น และบริการการขายแบบครบวงจร เริ่มจากกลุ่มรถยนต์ไฮบริด นำทัพโดย Yaris Cross และ Corolla Cross ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยม ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าตั้งแต่เปิดตัวมา รวมถึงรถยนต์ HEV รุ่นอื่นๆ อีกหลายรุ่น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฮบริดในประเทศไทยตั้งแต่พ.ศ. 2552  เป็นต้นมา ปัจจุบันโตโยต้ามียอดขายรถยนต์ไฮบริดสะสมกว่า 217,000 คัน (ยอดจำหน่ายสะสมถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2567) คิดเป็นสัดส่วน 54% ของตลาดรถยนต์ไฮบริดทั้งหมดในประเทศไทย ลูกค้าทุกท่านสามารถมั่นใจในรถไฮบริดทุกรุ่นจากโตโยต้า ด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดยาวนานถึง 10 ปี”

“เรายังมีรถยนต์ยอดนิยมอีกหลายรุ่น ทั้ง Yaris ATIV, Yaris Hatchback และ Fortuner อีกทั้ง ยังมีรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่สุดของเพื่อนคู่ใจสายครอบครัวระดับพรีเมียม INNOVA ZENIX และ Veloz มาให้ชมภายในงานนี้ด้วย ในส่วนของรถกระบะ นำทัพโดย Hilux Revo รุ่นปรับปรุงใหม่ ปี 2024 เริ่มจาก Hilux Revo GR-Sport 4×4 กระบะรุ่นเรือธงสมรรถนะเหนือชั้น ที่ผ่านบทพิสูจน์บนเส้นทางสุดทรหดในประเทศออสเตรเลีย และสามารถคว้าชัยชนะจากการแข่งขันสุดโหดในรายการ Asia Cross Country ที่เพิ่งจบไปเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา รุ่นต่อมาคือ Hilux Revo-D Prerunner และ Hilux Revo Smart Cab Prerunner ที่โดดเด่นด้วยช่วงล่างซับแรงกระแทกดีเยี่ยม มอบความสบายให้ทุกการเดินทาง และยังมี Hilux Revo Z-edition แต่งสนุก ถูกใจสายแต่งรถแน่นอนครับ สำหรับผู้ประกอบการต่างๆ เราขอนำเสนอ Hilux Champ กับแพ็กเกจต่อเติมรถ สร้างธุรกิจเคลื่อนที่ในฝันได้ ครบ จบ ในที่เดียว”

นายณัทธร กล่าวต่อไปว่า “เมื่อทุกท่านมาที่บูธโตโยต้า นอกจากท่านจะได้พบรถยนต์ที่มีคุณภาพด้าน QDR และราคาขายต่อที่ดีแล้ว เราพร้อมที่จะดูแลทุกท่านด้วยเครือข่ายศูนย์บริการถึง 456 แห่งทั่วประเทศ เพื่อมอบความอุ่นใจให้ผู้ใช้งานตลอดการเดินทาง ในงานนี้เรายังเตรียมข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ย 0% หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นอัตราพิเศษ พร้อมมอบฟรีประกันชั้น 1 และสิทธิพิเศษที่หลากหลายในรถทุกรุ่น รวมถึงบริการด้านสินเชื่อพิเศษจาก Toyota Leasing ประเทศไทยและสถาบันการเงินอื่น เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถโตโยต้าได้ง่ายๆ ผ่านคอนเซ็ปต์ เอกสารครบ ผ่านเงื่อนไข รับรถไว”

“ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้ายังได้สิทธิลุ้นทริปร่วมชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ประเทศอังกฤษ และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ในโค้งสุดท้ายของแคมเปญพิเศษ Mid-Year Wonder และสำหรับลูกค้าที่กำลังจะเปลี่ยนรถคันใหม่ ท่านสามารถเลือกซื้อรถและนำรถคันเดิมเข้ารับการประเมินราคาฟรี โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Toyota Sure ภายในบูธของโตโยต้าอีกด้วย สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านอีกครั้ง ที่สนับสนุนโตโยต้าเป็นอย่างดีมาตลอด ผมเชื่อว่ารถโตโยต้าทุกรุ่น และข้อเสนอสุดพิเศษในงาน จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้อย่างแน่นอน” นายณัทธร กล่าวปิดท้าย

เป็นเจ้าของรถโตโยต้า พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษทุกรุ่น

นำโดยรถยนต์ไฮบริดยอดนิยมหลากหลายรุ่น

Yaris Cross

รถไฮบริด SUV CROSSOVER ยอดนิยม ผสานคอนเซ็ปต์ URBAN X ADVENTURE ตอบโจทย์การใช้งานคนเมืองที่ใช้ชีวิตแบบสุดๆ การันตีด้วยรางวัล “ไฮบริด SUV ยอดเยี่ยมแห่งปี” ในรุ่นขนาดไม่เกิน 1,500 ซีซี จากรางวัล  Car of The Year 2024 มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกที่ของแรง ทรงพลัง ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง ตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่ม พร้อมเทคโนโลยี Quole Module ลดความร้อนบนผิวสัมผัส และไฟสร้างบรรยากาศภายใน ขับสนุกสุดๆ ด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด 1.5 ลิตร ประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร มาพร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมตัวกรองฝุ่น PM 2.5 ลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติฯลฯ และอุ่นใจด้วยระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

Yaris Cross ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท*,**

พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•รับดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.69% หรือ ส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ สูงสุด 0.50% หรือผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,984 บาท

Corolla Cross

อีกหนึ่ง SUV ยอดนิยมอีกรุ่นของโตโยต้า การันตีด้วยรางวัล “ไฮบริด SUV ยอดเยี่ยมแห่งปี” ในรุ่นขนาดไม่เกิน 1,800 ซีซี โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และแข็งแกร่ง ดีไซน์กระจังหน้าแบบ Multi-Dimensional ไฟหน้าแบบ LED Crystalized Headlamp และ ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential เหนือระดับด้วยหลังคา Frameless Panoramic Roof พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ช่องต่อ USB แบบ type C พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือกว่า

                          Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท*,**

พิเศษ สำหรับเจ้าของรถโตโยต้า เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•ดอกเบี้ย 0.89% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

INNOVA ZENIX

ยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับพรีเมียมสำหรับครอบครัว ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 186 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุด 21.3 กม./ลิตร ภายในกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมฟังก์ชันระดับพรีเมียม อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารแถวสองปรับไฟฟ้าแบบ Captain Seat พร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า เปิดมุมมองกว้างด้วยหลังคา PANORAMIC ROOF และมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยรอบคัน เพื่อความสะดวกสบาย และอรรถรสในการขับขี่ ในด้านของความปลอดภัย มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense

INNOVA ZENIX ราคาเริ่มต้น 1,379,000 บาท*,**

พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•ดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% หรือ ประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

CAMRY

รถพรีเมียมซีดานขนาดกลาง อีกความภาคภูมิใจของโตโยต้า การันตีด้วยรางวัล “รถยนต์ซีดานไฮบริดขนาดกลางยอดเยี่ยมแห่งปี” และ “รถยนต์ซีดานขนาดกลางยอดเยี่ยมแห่งปี” ในรุ่นขนาดไม่เกิน 2,500 ซีซี ให้ภาพลักษณ์ระดับผู้นำ ด้วยดีไซน์สปอร์ต หรูหรา ผ่านการออกแบบอย่างพิถิพิถัน ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ เบาะที่นั่งด้านหลังปรับเอนไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน เครื่องยนต์ Hybrid Dynamic Force 2.5 ลิตร ทรงพลังแต่นุ่มนวล พร้อมสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม โครงสร้างแบบ TNGA มั่นใจทุกการเดินทาง ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก Toyota Safety Sense

          CAMRY ราคาเริ่มต้น 1,475,000 บาท*,**

พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•รุ่น 2.5 Premium Luxury และ 2.5 HEV Premium:

-ดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

•รุ่น 2.5 Premium และ 2.5 Sport

-ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

•ดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

พิเศษ เติมสไตล์ให้กับซีดานหรูลุคผู้นำ ด้วยชุดแต่งจาก TCD Asia

•ชุดแต่ง CAMRY MODELLISTA ใหม่ ราคา 41,000 บาท

COROLLA ALTIS

ฟีลให้สุด ทุกความรู้สึก กับโคโรลล่า อัลติส ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าดีไซน์ POLYGON ล้อแมกซ์17 นิ้ว สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ วิทยุหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สาย รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto สัมผัสความแรง ด้วยเครื่องยนต์ขุมพลังไฮบริด 1.8 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและเกียร์ E-CVT ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึง 23.3 กม. ต่อลิตร เติมความสนุกสนานในการขับขี่ ด้วยการปรับจูนพวงมาลัยไฟฟ้าใหม่ เข้าโค้งได้อย่างเฉียบคม ปลอดภัยสูงสุดด้วยระบบ Toyota Safety Sense

                               COROLLA ALTIS ราคาเริ่มต้น 894,000 บาท*,**

พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•รุ่น HEV Premium และ 1.8 Sport

-ดอกเบี้ยพิเศษ 1.55% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

•รุ่น 1.6G

-ทางเลือกที่ 1: ดอกเบี้ยพิเศษ 1.55% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

-ทางเลือกที่ 2: ผ่อนเริ่มต้น 9,709 บาท/เดือน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

มั่นใจสูงสุดกับระบบไฮบริด ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษและศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ*

ขยายระยะเวลารับรองแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี (ช่วงปีที่ 6-10)

รับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

เลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ยอดนิยม ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซลอีกหลายรุ่น

อาทิ รถยนต์นั่ง Yaris และ Yaris ATIV รถครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง VELOZ รถยนต์อเนกประสงค์ PPV Fortuner GR Sport และ Fortuner Legender

Yaris ATIV

Let’s Pop Together Popular กับอีโคคาร์ยอดนิยม โตโยต้ายาริสเอทีฟ รถ Compact Sedan ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี การันตีด้วยรางวัล “รถซีดานยอดเยี่ยมแห่งปี” ในรุ่นขนาดไม่เกิน 1,300 ซีซี ดีไซน์ Fastback ปราดเปรียว ทรงพลัง และสง่างาม ไฟเลี้ยว Sequential และไฟหน้าแบบ LED ภายในห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ครบครันทั้ง Apple CarPlay, เครื่องเสียงขนาดหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว, กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor, ไฟสร้างบรรยากาศ 64 เฉดสี และระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

                     Yaris ATIV ราคาเริ่มต้น 549,000 บาท*,**

พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•ดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือ ผ่อนเริ่มต้น 5,336 พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

•ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด พิเศษ ชุดแต่งสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก TCD Asia

•ชุดแต่ง ATIV,Modellista ราคา 48,500 บาท

•ชุดแต่ง ATIV.PRESTO ราคา 17,500 บาท

•ชุดแต่ง ATIV.CHIARO ราคา 8,690 บาท

•ชุดแต่ง ATIV.LUSSO ราคา 19,900 บาท

Yaris

รถอีโคคาร์ Hatchback ยอดนิยม การันตีด้วยรางวัล “รถแฮทช์แบ็คยอดเยี่ยมแห่งปี” ในรุ่นขนาดไม่เกิน 1,300 ซีซี โฉบเฉี่ยว ดีไซน์สปอร์ต ด้านหน้าแบบ HAMMERHEAD ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ใช้งานได้สะดวกรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ให้สนุกไปกับความบันเทิงเต็มพิกัด เพิ่มความมั่นใจ ด้วยระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense

                     Yaris ราคาเริ่มต้น 559,000 บาท*,**

พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•ดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือ ผ่อนเริ่มต้น 5,433 บาท/เดือน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

•ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด พิเศษ เปิดโลกใหม่ด้วยสไตล์ที่แสดงออกถึงตัวตน ด้วยชุดแต่งสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก TCD Asia

•ชุดแต่ง X-URBAN ราคา 44,600 บาท ผ่อนเพียง 493 บาท/เดือน

•ชุดแต่ง LUSSO ราคา 19,990 ผ่อนเพียง 294 บาท/เดือน

•ชุดแต่ง PRESTO ราคา 16,5000 ผ่อนเพียง 243 บาท/เดือน

•ชุดแต่ง CHIARO ราคา 9,690 ผ่อนเพียง 143 บาท/เดือน

VELOZ

ยนตรกรรมอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ดีไซน์ล้ำสมัย ห้องโดยสารกว้างขวางเทียบเท่ารถระดับ C-segment เบาะที่นั่งโดยสารปรับได้ 7 แบบ แผงหน้าปัด ปรับได้ 4 รูปแบบ มาพร้อมเครื่องยนต์ Dual VVT-i  1.5 ลิตร ประสานกับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Sequential Shift ประหยัดน้ำมันถึง 17.9 กม/ลิตร มั่นใจปลอดภัยทั้งครอบครัว ด้วยระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense และกล้องมองรอบคัน

                     VELOZ ราคาเริ่มต้น 795,000 บาท*,**

          พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•ดอกเบี้ยพิเศษ 0% สูงสุด 60 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

•พร้อมช่วยผ่อน 4,000 บาท/เดือน เดือนที่ 1 – 6

•ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด*

Fortuner GR Sport

โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ทรงพลัง สนุกสนานกับสมรรถนะการขับขี่เหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ปรับจูนใหม่ แรงสุด 224 แรงม้า และช่วงล่าง Monotube และให้ประสบการณ์ขับขี่ที่ดียิ่งกว่า ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความบันเทิง อุปกรณ์ตกแต่ง GR Sport อาทิ Smart Key – Push start GR – คันเร่ง เบรกอะลูมิเนียมดีไซน์สปอร์ตพร้อมคาลิเปอร์สีแดงสด ให้ผู้ขับขี่ได้ปลดปล่อยจิตวิญญาณความสปอร์ต และตัวตนที่พิเศษไม่เหมือนใคร มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

Fortuner GR Sport ราคาเริ่มต้น 1,969,000 บาท*,**

Fortuner Legender

รุ่นยอดนิยม การันตีด้วยรางวัล “รถยนต์อเนกประสงค์ PPV ยอดเยี่ยมแห่งปี” ในรุ่นขนาดไม่เกิน 3,200 ซีซี เสริมภาพลักษณ์หรูหราสไตล์ผู้นำ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ เครื่องยนต์ 2.4 และ 2.8 GD Super Power ช่วงล่างพร้อม Monotube ช่วยซับแรงสั่นสะเทือนพร้อมเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้สนุกมากขึ้น วางใจได้ในทุกการเดินทาง กับระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense นอกจากนี้ยังให้ความความคุ้มค่า ประหยัดน้ำมัน และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระดับยูโร 5

Fortuner Legender ราคาเริ่มต้น 1,643,000 บาท*,**

พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•ดอกเบี้ยพิเศษ 0.89% หรือ ผ่อนเริ่มต้น 17,330 บาท พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

พบกระบะตระกูลไฮลักซ์รุ่นปรับปรุงใหม่ Hilux Revo และ Hilux CHAMP

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถกระบะ และผู้ประกอบการธุรกิจ พบกระบะตระกูลไฮลักซ์รุ่นปรับปรุงใหม่ ปี 2567 พร้อมสมรรถนะและการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น เริ่มด้วย Hilux Revo GR Sport 4×4 ที่ผ่านการพิสูจน์ความแข็งแกร่งบนสมรภูมิระดับโลก ในรายการ Asia Cross Rally 2024 สำหรับผู้ชื่นชอบการแต่งรถ เชิญพบกับ Hilux Revo-D Z-Edition และขอแนะนำ Hilux Champ กระบะทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานของผู้ประกอบการธุรกิจเคลื่อนที่ และการใช้งานส่วนบุคคล

Hilux Revo GR Sport 4×4

กระบะสปอร์ตออฟโรดแรงบันดาลใจจาก DAKAR Rally ที่เป็นผลจากความร่วมมือในการพัฒนาของโตโยต้าประเทศออสเตรเลีย และโตโยต้าประเทศไทย โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต และการตกแต่งเอกลักษณ์แบบ GR ผ่านการพิสูจน์สมรรถนะแบบเหนือขั้น ด้วยสภาวะสุดทรหดของประเทศออสเตรเลีย พร้อมลุยในทุกสภาวะการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ GD Super Power ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลัง 224 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วงล่างหน้าหลังพร้อมโช้คอัพ Monotube ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบ Rear Differential Lock ล้ออัลลอยสีดำเงาขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง BFGoodrich แบบ All-Terrain นอกจากนี้ยังมี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย และมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง ด้วยระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

Hilux Revo GR Sport 4×4 ราคาเริ่มต้น 1,479,000 บาท*,**

พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•ดอกเบี้ยพิเศษ 1.59% หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

•ขยายเวลารับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

Hilux Revo-D Prerunner และ Hilux Revo Smart Cab Prerunner

กระบะไลฟ์สไตล์ ใช้งานได้หลายวัตถุประสงค์ ตอบโจทย์ทั้งในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการใข้งานเดินทางไกล เพราะมีช่วงล่าง Superflex นุ่มสบาย ให้ทุกการใช้งานสะดวกสบาย มั่นใจทุกสภาพถนน พร้อมห้องโดยสารกว้างนั่งสบาย ระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน

Hilux Revo-D Prerunner ราคาเริ่มต้น 881,000 บาท*,**

พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.40% หรือผ่อนเริ่มต้น 8,805 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

•ขยายเวลารับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

Hilux Revo Smart Cab Prerunner ราคาเริ่มต้น 775,000 บาท*,**

พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.39% หรือผ่อนเริ่มต้น 7,939 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

•ขยายเวลารับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

Hilux Revo-D Z-Edition

แซดให้โลกเห็น ด้วยกระบะสปอร์ตผสมผสานความโฉบเฉี่ยว เรียบหรู มาพร้อมดีไซน์กระจังหน้าใหม่ ไฟตัดหมอก ไฟหน้ารมดำ พร้อมกับเครื่องยนต์รองรับมาตฐาน Euro 5 พร้อมกับระบบความปลอดภัย ทั้ง VSC และ HAC ในทุกรุ่น พิเศษ เลือกเสริมออพชั่นด้วยชุดแต่ง Z-Runner มาพร้อมกับสเกิร์ตหน้าดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอย 18 นิ้ว บันไดข้าง และ สติ๊กเกอร์ Z-Runner ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และแสดงออกถึงตัวตนของแต่ละบุคคล

Hilux Revo-D Z-Edition ราคาเริ่มต้น 744,000 บาท*,**

พิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.55% หรือผ่อนเริ่มต้น 7,417 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

•ขยายเวลารับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

Hilux Champ

รถกระบะมหาชนขวัญใจคนไทยคันใหม่ การันตีด้วยรางวัล “Best Innovation Pickup” มาพร้อมราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ครอบคลุมการใช้งานครบครันทั้งในเชิงธุรกิจ และการใช้งานส่วนบุคคล ด้วยทางเลือกรุ่นย่อยที่หลากหลายทั้งแบบช่วงล้อสั้นและยาว เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล คล่องตัวด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบเท่ารถยนต์นั่งขนาดเล็ก และยังแข็งแรงทนทาน ด้วยพื้นฐานโครงสร้างและเครื่องยนต์เดียวกับไฮลักซ์ รีโว่ นำมาออกแบบด้วยแนวคิด “Monozukuri” หรือ “Easy for Conversion” ง่ายต่อการนำไปดัดแปลง พิเศษสุด กับประสบการณ์ในการซื้อแบบใหม่ ด้วยโซลูชั่นในการดัดแปลงตัวรถหลากหลายรูปแบบ ที่ให้ลูกค้าเลือกต่อเติมรถ โดยพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการ ได้ครบ จบ ในที่เดียว พร้อมแพ็กเกจประกันภัย Toyota Care PHYD บริการหลังการขาย ที่ครอบคลุมทั้งการใช้งานในธุรกิจและการใช้งานส่วนบุคคล รวมถึงการบริการที่สะดวก รวดเร็ว ด้วยบริการ Express Lane และการให้บริการนอกสถานที่แบบครบวงจร ด้วย Toyota Mobile Service

Hilux Champ ราคาเริ่มต้น 459,000 บาท*,**

พิเศษ เมื่อซื้อพร้อมดัดแปลงต่อเติมเพื่อธุรกิจทุกรูปแบบจากศูนย์โตโยต้า

ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567

•รับดอกเบี้ยต่ำสุด 1.55%

แพ็กเกจสนับสนุน ที่ช่วยให้ง่ายต่อการซื้อรถและติดตั้งอุปกรณ์

•ดาวน์เริ่มต้น 5% (กรณีรวมติดตั้งอุปกรณ์ เริ่มต้นดาวน์ 10%)

•ค่างวดต่ำเช่าซื้อปกติ นานสูงสุด 108 เดือน เริ่มต้น 4,723 บาท ต่อเดือน

•โปรแกรมสบายดี 60 เดือน ที่อัตรา Residual Value 45% เริ่มต้น 3,822 บาท ต่อเดือน

•สามารถผ่อนจ่ายแพ็กเกจบำรุงรักษารถยนต์ Smart plan lite รวมกับค่างวดรถใหม่

Toyota ฟีล So Good ดีล So Great

•มั่นใจกับการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

•เป็นเจ้าของรถได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยบริการสินเชื่อสมัครไว รู้ผลได้ภายในงาน เพียงเตรียมเอกสารมาที่บูธ

•โปรโมชั่น Deal So Great ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ เริ่มต้น 0% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

•ลุ้นรางวัลใหญ่ในโค้งสุดท้ายของรายการ “Mid-Year Wonder ลุ้นเชียร์ ลุ้นช็อป” ให้ท่านบินลัดฟ้าสู่ประเทศอังกฤษชมศึกแดงเดือด และรางวัลอื่นๆอีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

บริการเสริม เติมความสุขให้กับการเป็นเจ้าของรถโตโยต้า

Toyota Sure

บริการแบบ One Stop Service ในด้านการซื้อ-ขาย Trade-in รถมือสอง ที่มีมาตรฐานการประเมินสภาพรถ TVI โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ (inspector) และควบคุมมาตรฐานการดำเนินการภายใต้บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นเรื่องราคาขายต่อ และมูลค่ารถยนต์มือสอง ผ่านบริการประเมินราคารถด้วยมาตรฐานราคากลางฟรี ซึ่งท่านสามารถปรึกษาพนักงานขายได้ ภายในบูธของโตโยต้า พิเศษ นำรถมาประเมินราคากับโตโยต้า ชัวร์ภายในงาน รับบัตรกำนัลจากเซ็นทรัล มูลค่า 300 บาท และสำหรับลูกค้าที่แลกเปลี่ยนรถกับโตโยต้า ชัวร์ภายในงาน รับฟรีชุดอุปกรณ์เติมลมยางมูลค่า 1,700 บาท

KINTO

อีกหนึ่งทางเลือกของการใช้รถยนต์โตโยต้าและเลกซัส ให้ลูกค้ามีรถใช้ ไม่ต้องซื้อ ให้บริการทั้งในรูปแบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เพียงจ่ายค่าบริการรายเดือนราคาเดียว ครอบคลุมทุกการบริการแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยชั้น 1 ตลอดอายุสัญญา เช็กระยะ เปลี่ยนแบต เปลี่ยนยาง เปลี่ยนอะไหล่ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม มีรถทดแทนให้ใช้ระหว่างซ่อม โดยนิติบุคคลสามารถลดหย่อนภาษีได้ถึง 36,000 บาท/คัน/เดือน พร้อมมีรถให้เลือกหลากหลายรุ่น สามารถเลือกใช้รถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตั้งแต่ 1-5 ปี เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าและไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ที่เน้นเรื่องความสะดวกสบาย และความคล่องตัวของการใช้ชีวิต พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย สมัครง่าย ยื่นเอกสารออนไลน์

โดยงานในปีนี้ตอบโจทย์ลูกค้าด้วย KINTO ONE Hot Deal ปรากฏการณ์ใหม่ของบริการออกรถยนต์ ให้ลูกค้ารับรถไวภายใน 7 วัน และเพิ่มด้วยแพ็กเกจสัญญา 1-2 ปี ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การใช้รถยนต์โตโยต้าและเลกซัสอย่างเต็มรูปแบบ พิเศษ สมัครบริการ KINTO ภายในงาน รับบัตรสตาร์บัคส์ มูลค่า 500 บาท และบัตรกำนัลโรงแรมในเครือ Veranda จาก TripSabuy by KINTO มูลค่า 3,000 บาท หลังรับมอบรถ

T-Connect

แอปพลิเคชันที่จะดูแลทั้งรถและผู้ขับขี่ มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์พิเศษมากมายสำหรับลูกค้าโตโยต้า อาทิ ALIVE-X ที่ให้ท่านสะสมคะแนน The 1 และแลกส่วนลดได้ที่ศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ พิเศษ รับของที่ระลึกหลายต่อ เพียงจองรถภายในงานและร่วมกิจกรรมที่บูธ T-Connect

TCFR

Toyota Connected Frequent Service Reward มอบสิทธิพิเศษ เพียงเข้าเช็กระยะต่อเนื่องตามกำหนดที่ศูนย์บริการโตโยต้า รับสิทธิ์ขยายระยะรับประกันคุณภาพสงูสด 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร มาพร้อมระบบ Telematics ที่ช่วยแจ้งเตือนรอบเช็กระยะอย่างแม่นยำ พิเศษ รับส่วนลดเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการโตโยต้าและบัตรกำนัลมูลค่า 200 บาท เมื่อจองรถยนต์ที่เข้าร่วมรายการในงาน

Toyota Care PHYD

ประกันภัยชั้น 1 “Pay How You Drive – ขับดีลดให้” ใช้เทคโนโลยี T-Connect และให้บริการผ่านทางแอปพลิเคชั่น วิเคราะห์ระยะทางและประมวลผลพฤติกรรมการขับขี่ พร้อมทั้งคำแนะนำในการขับขี่รถยนต์ โดยคะแนนพฤติกรรมการขับขี่ของท่าน สามารถนำมาคำนวณและใช้เป็นส่วนลดในการต่ออายุประกันภัยปีถัดไป พิเศษ รับฟรีกรมธรรม์ PHYD เมื่อซื้อรถรุ่นที่ร่วมรายการ ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัยทกำหนด

**สามารถตรวจสอบเงื่อนไขและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการได้ที่บูธของโตโยต้า และโชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ

***ยกเว้น รถตู้ รถเช่า รถที่ซื้อขายภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และ Fleet (รถยนต์นั่งและรถเพื่อการพาณิชย์)

พบบริการครบ จบ เหมือนยกโชว์รูมมา กับรถโตโยต้าหลากหลายรุ่น

และบริการครบทุกรูปแบบ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย

ในงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2024

23 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา      

มาสด้า สร้างเซอร์ไพรส์ไม่หยุดให้ส่วนลดสูงสุด 200,000 ดอกเบี้ย 0%

มาสด้าเปิดเกมรุกตลาดหนักช่วงกลางปี จัดโปรแรงแห่งปีเอาใจคนอยากเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า จัดงาน “Mazda Big Surprise รับข้อเสนอใหญ่ เซอร์ไพรส์ไม่หยุด” ยกทัพยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟให้ลูกค้าเลือกชอปได้ตามใจชอบ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษและของที่ระลึกอีกเพียบ ในกิจกรรม มาสด้า เอ็กซ์โป จัดระหว่างวันที่ 23 สิงหาคม ถึงวันที่ 1 กันยายน 2567 ที่เมกา บางนา

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การจัดงาน มาสด้า เอ็กซ์โป เป็นกิจกรรมที่มาสด้าเนรมิตขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าที่พักอาศัยอยู่ตามเขตพื้นที่ต่างๆ สามารถแวะมาชมและสัมผัสรถยนต์มาสด้าหลากหลายรุ่นที่นำมาจัดแสดง พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษและเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมาเดินชอปปิงหรือทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งการจัดอีเว้นท์ในครั้งนี้เพิ่มความพิเศษมากยิ่งขึ้น เมื่อมาสด้าได้นำรถยนต์ที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุดอยู่ในขณะนี้มาจัดแสดงถึง 4 รุ่น รวมถึงรถยนต์ Mazda6 20th Anniversary Edition ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี มาให้ลูกค้าได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมแคมเปญ Mazda Big Surprise ให้กับผู้ที่กำลังจะออกรถมาสด้าทุกรุ่นภายในงานฯ ซึ่งเป็นข้อเสนอสุดคุ้มที่ไม่เคยจัดขึ้นที่ไหนมาก่อน เพื่อให้ลูกค้าสามารถครอบครองรถยนต์มาสด้าที่ดีที่สุดได้ในราคาคุ้มค่ามากที่สุด

ทั้งนี้ บรรยากาศกิจกรรมที่บูธมาสด้าเต็มไปด้วยความคึกคัก ตลอดทั้งวันมีลูกค้าแวะเวียนเข้าชมยนตรกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Mazda CX-5 มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษกับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท1 หรือ ดอกเบี้ย 0%1 ผ่อนนาน 60 เดือน1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง1 ฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี1 หรือ ดอกเบี้ย 0%1 ฟรีกันภัยชั้นหนึ่ง1 ผ่อนนาน 72 เดือน1 สำหรับเจ้าของรถยนต์มาสด้าและครอบครัวรับฟรีบัตรน้ำมันมูลค่าสูงสุด 30,000 บาท1 ในขณะที่รถยนต์นั่ง Mazda2 รับส่วนลดสูงสุด 108,000 บาท1 หรือ ดอกเบี้ย 0%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง1 ฟรีแพ็กเกจบำรุงรักษาตามระยะ Mazda Care 5 ปี1 และรับเพิ่มฟรีบัตรน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท1 สำหรับเจ้าของรถยนต์มาสด้าและครอบครัว และ Mazda CX-30 Carbon Edition มาพร้อมส่วนลดสูงสุด 120,000 บาท1 หรือ ดอกเบี้ย 0.49%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง1 ฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี1 หรือ ดอกเบี้ย 0%1 ผ่อนนาน 48 เดือน1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง1 และบัตรน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท สำหรับลูกค้ามาสด้าและครอบครัว

สำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถยนต์มาสด้าภายในงาน รับทันที หูฟังไร้สาย JBL UNDER ARMOUR STREAK มูลค่า 2,990 บาท2 หรือ เมื่อจอง Mazda6 20th Anniversary Edition รับส่วนลดเพิ่มเติมอีก และรับฟรีลำโพงบลูทูธ BOSE SOUNDLINK COLOR II มูลค่า 5,900 บาท3 พิเศษยิ่งขึ้นสำหรับเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัว เมื่อออกรถใหม่ รับฟรีบัตรน้ำมันมูลค่าสูงสุด 30,000 บาท4 โดยงานนี้จัดขึ้นที่ศูนย์การค้า เมกา บางนา ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 67 ถึงวันที่ 1 ก.ย. 67 กิจกรรมในวันแรกมีลูกค้าให้ความสนใจอย่างคับคั่ง ทั้งนี้ มาสด้าเชิญชวนลูกค้าและผู้ที่สนใจห้ามพลาดงานนี้ด้วยประการทั้งปวง

นายวัชระ เจียรบุญ ผู้จัดการทั่วไป มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย นำทีมจัดงานเพื่อความสุขของลูกค้า

เซอร์ไพรส์ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อมาสด้าเตรียมจัดกิจกรรมสุดพิเศษนี้สำหรับลูกค้าในย่านฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ก็สามารถแวะมาชมรถและออกรถใหม่พร้อมรับโปรโมชั่นดีๆ แบบนี้ ได้เช่นกัน เนื่องจากมาสด้าเตรียมจัดงาน มาสด้า เอ็กซ์โป ขึ้นอีกครั้งที่ศูนย์การค้า แฟชั่นไอส์แลนด์ ในระหว่างวันที่ 27 ก.ย. 67 – 6 ต.ค. 67 หรือสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mazda.co.th

โปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับลูกค้ามาสด้า

-New Mazda2 (เฉพาะรุ่น S และ SP) รับส่วนลดสูงสุด 108,000 บาท1 หรือ ดอกเบี้ย 0%1 ฟรี Mazda Care แพ็กเกจฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี1 พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง รวมมูลค่าสูงสุด 66,438 บาท1 พิเศษสุดเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัวรับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท1

-New Mazda3 (ทุกรุ่นย่อย) รับส่วนลดสูงสุด 120,000 บาท1 หรือ ดอกเบี้ย 0%1 ผ่อนนาน 48 เดือน1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง1 พิเศษสุดเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัวรับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท1

-Mazda CX-30 ที่สุดแห่งยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวี รับส่วนลดสูงสุด 120,000 บาท1 หรือ ดอกเบี้ย 0%1 ผ่อนนาน 48 เดือน1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง1 พิเศษสุดเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัวรับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท1

-Mazda CX-3 (ทุกรุ่นย่อย) ครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นเริ่มต้น รับส่วนลดสูงสุด 90,000 บาท1 ส่วนรุ่น Base Plus และรุ่น Comfort รับส่วนลดสูงสุด 116,000 บาท1 หรือ ดอกเบี้ย 0%1 ผ่อนนาน 84 เดือน1 พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง1 พิเศษสุดเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัวรับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท

-Mazda CX-8 ยนตรกรรมครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม รับส่วนลดสูงสุด 120,000 บาท1 หรือดอกเบี้ย 1.19%1 ฟรี Mazda Ultimate Service (MUS)1 ฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี รวมมูลค่าสูงสุด 100,861 บาท1 พิเศษสุดเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัวรับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท1

-รถปิกอัพ Mazda BT-50 ดอกเบี้ย 0%1 ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง1 พิเศษสุดเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัวรับฟรีบัตรน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท1

-New Mazda MX-5 ดอกเบี้ย 2.49%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี1 ฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service1 ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี

-Mazda6 20th Anniversary Edition รถสปอร์ตซีดานระดับไฮเอนด์ ที่เปิดให้ลูกค้าจองแล้ววันนี้ในจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน ในประเทศไทย รับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท1 พร้อมข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 1.99%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง1 ฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 7 ปี Mazda Ultimate Service (MUS)1 ขยายการรับประกันคุณภาพนานสูงสุด 7 ปี1 ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ 7 ปี ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 7 ปี รวมมูลค่าสูงสุด 131,312 บาท โดยเฉพาะครอบครัวมาสด้ารับส่วนลดเพิ่มเมื่อลงทะเบียน

หมายเหตุ :

1 เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและเงื่อนไขสุดพิเศษนี้ได้จากที่ปรึกษาการขาย

2 เมื่อจองรถ Mazda2, Mazda3, Mazda CX-3, Mazda CX-30, Mazda CX-5, Mazda CX-8 และ Mazda BT-50 ภายในงาน 3,000 บาท และออกรถภายในวันที่ 30 ก.ย. 67 รับฟรี หูฟังไร้สาย JBL UNDER ARMOUR STREAK มูลค่า 2,990 บาท (จำกัด 1,000 ชิ้น)

3 เมื่อจองรถ Mazda6 20th Anniversary Edition ภายในงาน 10,000 บาท รับฟรี ลำโพงบลูทูธ BOSE SOUNDLINK COLOR ll (คละสี) มูลค่า 5,900 บาท (จำกัดจำนวน 20 ชิ้น)

4 เฉพาะรุ่น Mazda2, Mazda3, CX-3, CX-30, CX-5, CX-8 และ BT-50

ซูซูกิ ขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานทั่วไทย

ซูซูกิ ขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน 32 แห่ง ทั่วไทย มุ่งสร้างความมั่นใจในคุณภาพ รับประกันงานซ่อม 1 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

19 สิงหาคม 2567-กรุงเทพมหานคร- นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไปอย่างมั่นคง จึงเตรียมแผนการดำเนินธุรกิจให้พร้อมรองรับต่อการแข่งขันในอนาคต ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจ “Enhancing the Ability to Compete in the Upcoming Automotive Market เพิ่มขีดความสามารถสู่การแข่งขันในอนาคต” ที่ได้ทำการประกาศแก่ผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

นอกจากแผนการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป ซูซูกิยังได้ประกาศแผนการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ ผ่านแคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” ซึ่งจะเป็นการยกระดับงานบริการในทุกด้าน โดยเน้นย้ำถึงการดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจ ตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้เสมอมา ซึ่งมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถรองรับการดูแลลูกค้าด้วยคุณภาพและมาตรฐานของซูซูกิได้อย่างแท้จริง โดยหนึ่งในแผนงานสำคัญที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” คือ การร่วมมือกับทางผู้จำหน่ายสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ด้วยการขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน เพื่อรองรับงานบริการได้อย่างครบครัน โดยจะมุ่งเน้นมอบงานบริการที่ดีที่สุด เพราะเราเชื่อมั่นว่าลูกค้าซูซูกิ คือ คนสำคัญ  และเพื่อให้ซูซูกิสามารถดำรงอยู่ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในประเทศไทย การปรับปรุงแผนและพัฒนาการดำเนินงานเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ แคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถรองรับการดูแลลูกค้าด้วยคุณภาพและมาตรฐานของซูซูกิได้อย่างแท้จริง

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในฐานะที่เข้ามารับผิดชอบดูแลงานด้านการวางแผนบริหารงานฝ่ายบริการและอะไหล่ สิ่งที่ยึดมั่น คือ การดำเนินงานภายใต้ปรัชญา “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” ซึ่งในการขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกินั้น จะเป็นยกระดับคุณภาพในทุกงานให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ผ่าน 5 จุดแข็งอันสำคัญที่ทุกศูนย์บริการที่ผ่านมาตรฐานต้องมี ดังนี้

อะไหล่แท้ซูซูกิ : เชื่อมั่นในคุณภาพของอะไหล่แท้ที่ได้รับรองมาตรฐานของซูซูกิ

บริการอย่างมืออาชีพ : มั่นใจในบริการและการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพเป็นมิตรและใส่ใจทุกรายละเอียดการซ่อมโดยช่างผู้มีความชำนาญที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการอบรมในการซ่อมรถยนต์ซูซูกิ

เครื่องมือมาตรฐานซูซูกิ : ใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่ได้รับการรับรองจากซูซูกิ ช่วยให้การซ่อมมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมั่นใจในคุณภาพงานซ่อม

สีซ่อมรถยนต์ที่ได้รับรองมาตรฐานซูซูกิ : ใช้สีซ่อมรถยนต์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานของซูซูกิ ทำให้สีรถสวยงามและทนทาน เหมือนใหม่จากโรงงาน

การรับประกันงานซ่อม : รับประกันงานซ่อมว่ามีคุณภาพและมาตรฐานสร้างความอุ่นใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยจะรับประกันงานซ่อม 1 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และอะไหล่รับประกัน 1 ปี 20,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

ปัจจุบันมีผู้จำหน่ายที่ผ่านการรับรองมาตรฐานงานบริการจาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 32 แห่ง  ประกอบด้วย

ลำดับชื่อบริษัทผู้จำหน่ายภาคจังหวัด
1บริษัท ซูซูกิ อินดี้ บางหว้า จำกัดกรุงเทพและปริมณฑลกรุงเทพมหานคร
2บริษัท ดี โฟร์ คาร์ซิตี้ จำกัดกรุงเทพและปริมณฑลกรุงเทพมหานคร
3บริษัท พีพี เมกะ ออโต้ จำกัดกรุงเทพและปริมณฑลกรุงเทพมหานคร
4บริษัท มาพรพาณิชย์ จำกัดกรุงเทพและปริมณฑลกรุงเทพมหานคร
5บริษัท ยูโรเปียน มอเตอร์คาร์ จำกัด (สำนักงานใหญ่)กรุงเทพและปริมณฑลกรุงเทพมหานคร
6บริษัท ยูโรเปียน มอเตอร์คาร์ จำกัด (สาขาทองหล่อ)กรุงเทพและปริมณฑลกรุงเทพมหานคร
7บริษัท บีบี ซูซูกิ ออโต้ จำกัด (สำนักงานใหญ่)กรุงเทพและปริมณฑลกรุงเทพมหานคร
8บริษัท ซูซูกิ ตงเจริญออโต้เซลส์ จำกัดกรุงเทพและปริมณฑลปทุมธานี
9บริษัท ซูซูกิ นวนคร จำกัดกรุงเทพและปริมณฑลปทุมธานี
10บริษัท นวซูซูกิ ปทุมธานี จำกัดกรุงเทพและปริมณฑลปทุมธานี
11บริษัท นวออโตโมบิล บางใหญ่ จำกัดกรุงเทพและปริมณฑลนนทบุรี
12บริษัท ยนต์ตระการ พรีเมียม คาร์ จำกัดกรุงเทพและปริมณฑลนนทบุรี
13บริษัท สุพรรณยนตการ เทรดดิ้ง จำกัดกรุงเทพและปริมณฑลนนทบุรี
14บริษัท บีบี ซูซูกิ ออโต้ จำกัด (สาขาบางบ่อ)กรุงเทพและปริมณฑลสมุทรปราการ
15บริษัท ซูซูกิ ราชบุรี จำกัด (สำนักงานใหญ่)  กลางราชบุรี
16บริษัท ซูซูกิ ราชบุรี จำกัด (สาขาบ้านโป่ง)  กลางราชบุรี
17บริษัท ซูซูกิกาญจนบุรี จำกัดกลางกาญจนบุรี
18บริษัท พ.บรรจง ออโตซัพพลาย จำกัดกลางประจวบคีรีขันธ์
19บริษัท ซูซูกิ หัวหิน (สิทธิภัณฑ์) จำกัดกลางประจวบคีรีขันธ์
20บริษัท ซูซูกิเพชรบุรี (สิทธิภัณฑ์) จำกัดกลางเพชรบุรี
21บริษัท ซูซูกิ ฉะเชิงเทรา (2555) จำกัด  ตะวันออกฉะเชิงเทรา
22บริษัท ซูซูกิ ออโต้ เชียงใหม่ จำกัดเหนือเชียงใหม่
23บริษัท ซูซูกิ ออโต้ เชียงใหม่ จำกัด (สาขาดอนจั่น)เหนือเชียงใหม่
24บริษัท บี.เค. ออโต้ โมบิล จำกัดเหนือตาก
25บริษัท คลัง ออโตโมบิลส์ จำกัด (สำนักงานใหญ่)ตะวันออกเฉียงเหนือนครราชสีมา
26บริษัท คลัง ออโตโมบิลส์ จำกัด (สาขาบายพาส)ตะวันออกเฉียงเหนือนครราชสีมา
27บริษัท คลัง ออโตโมบิลส์ จำกัด (สาขาปากช่อง)ตะวันออกเฉียงเหนือนครราชสีมา
28บริษัท ซูซูกิเจียงอุดร จำกัดตะวันออกเฉียงเหนืออุดรธานี
29บริษัท สำราญยนตรการ ชัยภูมิ จำกัดตะวันออกเฉียงเหนือชัยภูมิ
30บริษัท ซูซูกิ อุบลราชธานี จำกัด (สำนักงานใหญ่)ตะวันออกเฉียงเหนืออุบลราชธานี
31บริษัท ซูซูกิ อุบลราชธานี จำกัด (สาขาเดชอุดม)ตะวันออกเฉียงเหนืออุบลราชธานี
32บริษัท เลิศวิจิตร ออโต้เซลส์ จำกัดตะวันออกเฉียงเหนืออำนาจเจริญ

โดยในอนาคต ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ยังมีแผนงานที่จะขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิ เพิ่มอีกจำนวน 8 แห่ง เป้าหมายภายในปี 2567 จะต้องมีศูนย์ซ่อมตัวถังและสี จำนวน 40 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของซูซูกิและรองรับลูกค้าด้วยบริการ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกได้อย่างทันท่วงที พร้อมส่งมอบบริการและประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกท่านได้อย่างครบครัน

“เราพยายามในการพัฒนางานบริการหลังการขายของซูซูกิให้ยกระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญ คือ เราได้พัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Dealer Management System หรือ DMS) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ในแบบ Real Time ซึ่งช่วยให้ทราบถึงประวัติการเข้ารับบริการของลูกค้า และสามารถประเมินความต้องการ ไปจนถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังร่วมมือกับผู้จำหน่ายทุกรายมุ่งเน้นอบรมพนักงานในเชิงปฏิบัติอย่างมืออาชีพให้มีใจรักในการบริการลูกค้าเป็นอย่างดีอีกด้วย” นายวัลลภ กล่าว

ทั้งนี้ แม้ซูซูกิจะต้องเผชิญการแข่งขันในตลาดที่ค่อนข้างรุนแรง รวมถึงสภาวะการหดตัวลงของตลาดและความเข้มงวดของสถาบันการเงินต่างๆ แต่ในช่วงที่ผ่านมาเรายังคงรักษาระดับยอดขายรถยนต์ไว้ได้อย่างน่าพอใจ ซึ่งนอกจากต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของซูซูกิเป็นอย่างสูงแล้วนั้น ต้องขอขอบคุณผู้จำหน่ายของซูซูกิทุกรายที่ทำงานอย่างหนัก จึงขอให้ลูกค้าซูซูกิทุกท่านเชื่อมั่นได้ว่า  เราจะยังเดินหน้าพัฒนาคุณภาพในทุกด้านอย่างไม่หยุดยั้ง โดยยึดความสำคัญด้านการบริการทั้งก่อนและหลังการขายเป็นที่ตั้ง เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้ จนเราสามารถสร้างยอดขายสะสมนับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้ถึง 311,268 คัน

อย่างไรก็ตาม ปรัชญา “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” นอกจากเป็นแนวทางในการยึดมั่นให้เราพัฒนางานบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อลูกค้าแล้ว ยังเป็นโครงการที่ต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าและคนไทยทุกท่าน ว่าเราไม่ใช่แค่เพียงผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ แต่เราหวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย

GWM จับมือ Jollynn ออกโปรฯ สุดพิเศษ

เกรท วอลล์ มอเตอร์ จับมือ Jollynn บราหายใจได้ ออกโปรฯ สุดพิเศษ ลุ้นขับ ORA Good Cat ฟรี 1 ปี ในแคมเปญ Lady First เปิดอกกับสไตล์ที่ใช่!!

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ในฐานะผู้นำรถยนต์พลังงานใหม่ในไทยที่ขับเคลื่อนโลกด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมอัจฉริยะ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตที่ตอบทุกความต้องการของผู้บริโภค  เดินหน้ามอบประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับแบรนด์ Jollynn แบรนด์ที่มุ่งเน้นในด้านการพัฒนาและจัดจำหน่ายชุดชั้นในสตรีแบบไร้โครงเหล็กคุณภาพสูง จนกลายเป็นที่รู้จักกันในนาม “บราหายใจได้” เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับผู้หญิงยุคใหม่ ให้ออกไปสนุกกับทุกเส้นทางของชีวิต เพื่อทุกความสำเร็จแบบไม่ถูกรั้ง ผ่านแคมเปญ “Lady First เปิดอกกับสไตล์ที่ใช่” โดยแคมเปญเริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2567 สมาชิกของ Jollynn ร่วมลุ้นขับ ORA Good Cat รุ่น ULTRA ฟรี 1 ปี เพียงซื้อสินค้าของ Jollynn ครบ 100 บาท แล้วนำคะแนนมาแลกเพื่อร่วมกิจกรรมนี้ โดยจะประกาศผู้โชคดีในแพตฟอร์มสมาชิกของ Jollynn ผ่านเว็บไซต์ https://jollynn.rocket-crm.app/welcome ในวันที่ 1 พฤษจิกายน 2567 (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) และสมาชิกของ Jollynn ที่เข้าร่วมกิจกรรมทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ GWM ORA ไม่ว่าจะเป็น รุ่น Good Cat รุ่น  Good Cat GT หรือรุ่น 07 รับฟรีคะแนน Jollynn สูงถึง 2,000 คะแนน สามารถเข้าร่วมทดลองขับได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 19 กันยายน 2567 นี้ หรือจนกว่าจะครบ 600 ท่าน

ทั้ง ORA Good Cat และ Jollynn ต่างมีแนวคิดร่วมกันเพื่อผลักดันให้ผู้หญิงทุกคนได้ออกไปใช้ชีวิตได้อย่างที่ใจต้องการเพื่อสร้างความสำเร็จในทุกๆ เส้นทางโดยไม่ถูกรั้ง โดยแคมเปญ Lady First เปิดอกกับสไตล์ที่ใช่นี้ เน้นไปที่สิทธิประโยชน์และโปรโมชันที่คาดไม่ถึง ให้ผู้หญิงทุกคนได้รับประสบการณ์สุดพิเศษนี้ได้อย่างง่ายดาย ตอกย้ำการที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ และ Jollynn ให้ความสำคัญในทุกๆ การเดินทาง ทุกๆ โมเมนต์ของผู้หญิงอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ทั้ง ORA Good Cat และ Jollynn ล้วนได้รับความนิยม และยังเป็นขวัญใจของผู้หญิงยุคใหม่ในไทย อีกทั้งยังมีความเหมือนที่เป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน คือ ดีไซน์ Retro Futuristic ที่โดนใจผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดสีที่ผ่านการออกแบบและคัดเลือกมาอย่างประณีตแล้วว่าตอบโจทย์ความต้องการ รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจและเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในทุกๆ วันของบรรดาผู้หญิงรุ่นใหม่ให้สนุกไปกับโมเมนต์ต่างๆ ในชีวิต ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือความบังเอิญที่ตั้งใจเหมือน ทั้ง ORA Good Cat และชุดชั้นใน Jollynn มีสีสันที่สปาร์คจอยให้บรรดาผู้หญิงที่รักสนุก ได้แมตช์ลุคแฟชั่นสนุกๆ ด้วยบราหายใจได้จาก Jollynn ในทุกวัน ควบคู่ไปกับสีสันที่น่ารักโดนใจของรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ORA Good Cat เพื่อเสริมให้ผู้หญิงมีความมั่นใจ แสดงออกถึงความขี้เล่น และขับเสน่ห์ออกมาได้จนคนต้องเหลียวหลังมามอง เช่น การแมตช์ลุคทำงานให้ดูเป็นสาวหวาน อ่อนโยน แต่ซ่อนความเซ็กซี่ด้วยบรา Jollynn สีเขียวพาสเทลสุดคิ้วท์ รุ่น Cloud Lycra V เข้ากันได้อย่างลงตัวกับรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ORA Good Cat สีเขียวพิสตาชิโอ ที่มาพร้อมกับระบบการขับขี่ที่สนุก เร้าใจ แถมยังมอบความปลอดภัยขั้นสูงสุดตลอดทั้งเส้นทางอีกด้วย

รายละเอียดและเงื่อนไขกิจกรรม

•เพียงซื้อสินค้าของ Jollynn ครบ 100 บาท จะได้สิทธิ์ลุ้นขับ ORA Good Cat รุ่น ULTRA ฟรี 1 ปี โดยแคมเปญเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 และจับฉลากลุ้นรางวัล* บัตรกำนัลจาก Jollynn สำหรับสิทธิ์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat รุ่น ULTRA ฟรี จำนวน 1 ปี มูลค่ารางวัลละ 300,000 บาท จำนวน 1 รางวัล รวมมูลค่า 300,000 บาท ในวันที่ 29 ตุลาคม เวลา 16.00 น.

•สามารถสมัครเป็นสมาชิก Jollynn ได้ที่ https://jollynn.rocket-crm.app/welcome และสมาชิก 50 ท่านแรกในแต่ละสัปดาห์ (ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2567 ทุกวันศุกร์ ถึง วันพฤหัสบดี เวลา 23.59 น.) จะได้รับสายจาก เจ้าหน้าที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อนัดหมายวันและเวลาทดลองขับ) จนกว่าจะครบ 600 ท่านที่ได้ทำการเข้าร่วมกิจกรรมทดลองขับ GWM ORA

•รางวัลของกิจกรรมคือสมาชิก 50 ท่านแรกในแต่ละสัปดาห์ที่ทำการเข้าร่วมกิจกรรมทดลองขับ GWM ORA เสร็จสิ้น จะได้รับคะแนน Jollynn 2,000 คะแนน ระยะเวลากิจกรรม ตั้งแต่วันนี้ถึง 19 กันยายน 2567 หรือจนกว่าจะครบ 600 ท่าน

•วิธีการเข้าร่วมกิจกรรม สมาชิกของ Jollynn สแกน QR Code ของโปสเตอร์ทดลองขับเพื่อไปยังหน้ากิจกรรมทดลองขับ GWM ORA ที่ https://forms.gle/gFAyvmy9PUqJ1skMA แล้วกรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หลังจากกรอกเสร็จจะได้รับสิทธิ์ทดลองขับผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรมทดลองขับนี้

•สามารถเข้าร่วมได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดูเงื่อนไขการเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://drive.google.com/…/1YfxoNqMFwoTdUVndkeN…/view…

*หมายเหตุ : สัญญาในการใช้รถจะเป็นสัญญาที่ทำระหว่างบริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (ผู้ให้เช่า) กับ ผู้โชคดี (ผู้เช่า) เงื่อนไขเป็นไปตาม ที่บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด และเมื่อสิ้นสุดสัญญาผู้โชคดีจะต้องนำกลับมาคืนตามกำหนดสัญญา เมื่อสัญญาครบ 1 ปี

เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ ในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) และบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) ด้วยการเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในปี 2567 รวมถึงปีถัดๆ ไป เพื่อเติมเต็มระบบนิเวศและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้ทัดเทียมระดับสากลควบคู่ไปกับการตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคชาวไทย

เอ็มจี เปิดราคา MG3 HYBRID+ ส่งลุยตลาดซิตี้คาร์

เอ็มจี เปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ ยกระดับมาตรฐานไฮบริดยุคใหม่ ในราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 559,900 บาท

•ALL NEW MG3 HYBRID+ ยนตรกรรมไฮบริดรุ่นล่าสุดของ เอ็มจี สะท้อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้รถในราคาที่เข้าถึงได้

•ประหยัดกว่าและแรงกว่า ด้วยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน 26.2 Km/L

•ขับสนุกกว่า ฉลาดกว่า ปลอดภัยกว่า เทคโนโลยีไฮบริดใหม่ ด้วยมาตรฐาน Global Model

•กว้างกว่า พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังที่จุได้ถึง 293 ลิตร และขยายได้สูงสุดถึง 1,037 ลิตร พร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย

กรุงเทพฯ – 20 สิงหาคม 2567 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย จุดประกายตลาดรถยนต์ไทยครึ่งปีหลังด้วยการเปิดตัว พร้อมกันทุกภูมิภาคเป็นครั้งแรก กับรถรุ่นล่าสุด ALL NEW MG3 HYBRID+ เพื่อบุกตลาด B-Segment พร้อมสร้างจุดเปลี่ยนให้กับวงการไฮบริด ในฐานะรถยนต์ไฮบริดที่มีสมรรถนะสูงภายใต้คอนเซ็ปต์ “อิสระพลัสเวล” ยนตรกรรมที่พลัสมาให้ครบ แรง ขับสนุก ประหยัดเหนือชั้น ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีไฮบริดอัจฉริยะ อีกระดับของประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ในราคาครอบครองได้ง่าย พร้อมสัมผัสตัวจริงและทดลองขับได้ที่งาน BIG MOTOR SALE 2024 และ โชว์รูม เอ็มจี กว่า 150 แห่งทั่วประเทศ 

ALL NEW MG3 HYBRID+ มีความโดดเด่นด้วยระบบ HYBRID+ ที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดจาก SAIC MOTOR เพื่อพัฒนายนตรกรรมที่มาพร้อมสมรรถนะและความประหยัดที่เหนือชั้น โดยระบบ HYBRID+ เป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า ทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงในทุกสภาวะการขับขี่ อีกทั้งรถรุ่นนี้ยังถือเป็น Global Model ที่พัฒนาและปรับจูนทุกระบบโดยทีมวิศวกรระดับโลก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานจริงบนถนนทั่วโลก โดยผ่านการทดสอบในทุกสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ รวมถึงวิ่งทดสอบในสถานการณ์ที่หลากหลาย สำหรับในประเทศไทย ALL NEW MG3 HYBRID+ มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “อิสระพลัสเวล” นำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่ครบครัน ทั้งความประหยัด ความสนุกเร้าใจ เป็นการยกระดับระบบการทำงานของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้มีการทำงานที่อิสระ ครอบคลุมโหมดการขับเคลื่อนที่หลากหลาย มอบความคล่องตัว ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถไฟฟ้าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถยนต์ในกลุ่ม City Car ที่มาพร้อมฟังก์ชันครบครัน พรัอมสมรรถนะ และเทคโนโลยีที่โดดเด่นในระดับราคาที่คนไทยเป็นเจ้าของได้ง่าย

การเปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอยานยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ เอ็มจี ในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในวงการยานยนต์ไทยและระดับโลก ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ความคุ้มค่า และการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ จึงไม่เพียงแต่เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่มองหายานพาหนะที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของ เอ็มจี ในการก้าวสู่อนาคตแห่งการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน

นายซู๋ว์ หยิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นอกจาก ALL NEW MG3 HYBRID+ จะเป็น The Best-in-Class ใน B-Segment ด้วยการยกระดับผลิตภัณฑ์ในหลายๆ ด้านแล้วนั้น ครั้งนี้ เอ็มจี ยังได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ แตกต่างจากการเปิดตัวรถยนต์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น การเปิดโอกาสให้ผู้สนใจลงทะเบียนทดลองขับรถรุ่นใหม่นี้ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 4 ภาคทั่วไทย เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสสมรรถนะของ ALL NEW MG3 HYBRID+ รวมไปถึงการทดสอบขับจริงบนท้องถนน ผ่านกิจกรรมขับทางไกล “กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ด้วยน้ำมันถังเดียว” ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถเมื่อขับขี่บนถนนจริง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร ต่อน้ำมันหนึ่งถัง

“เพื่อยืนยันความเชื่อมั่นและพิสูจน์คุณภาพของรถ เอ็มจี ในทุกการเดินทาง และยังเป็นครั้งแรกที่ เอ็มจี ได้ทำการเปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ พร้อมกันในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ (Nationwide launch) โดยมีกรุงเทพฯ  เป็นศูนย์กลางการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดขึ้นที่ สยามสแควร์วัน นอกจากนี้ ในภูมิภาคต่างๆ ได้มีการจัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในย่านสำคัญของแต่ละพื้นที่ อาทิ ภาคเหนือ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราช และภาคใต้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ โดยในทุกสถานที่จะมีกิจกรรมพิเศษต่อเนื่องจากการเปิดตัว เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาได้สัมผัสประสบการณ์อย่างใกล้ชิด โดย เอ็มจี พร้อมให้ผู้ที่สนใจสามารถจองและทดลองขับได้ที่ งาน BIG MOTOR SALE 2024 และศูนย์บริการของ เอ็มจี 150 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ปลายเดือนนี้ เป็นต้นไป” นายซู๋ว์ หยิ่น กล่าวปิดท้าย

ฮุนได มุ่งสร้างเส้นทางแห่งความยั่งยืน ครีเอตผลงานอาร์ตตอกย้ำ “ขยะไม่เคยไร้ค่า”

ฮุนได มุ่งสร้างเส้นทางแห่งความยั่งยืน คอลแลบ “WISHULADA” ครีเอตผลงานอาร์ตตอกย้ำ “ขยะไม่เคยไร้ค่า” พร้อมจัด IONIQ Talk “IONIQ Waste to Wonder” ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ณ IONIQ Lab

กรุงเทพฯ 17 สิงหาคม 2567 – บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าพันธกิจสร้างสรรค์เส้นทางสู่โลกที่ยั่งยืน จับมือศิลปินชื่อดัง “วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์” ศิลปินสาวผู้สร้างสรรค์ผลงานจากวัสดุเหลือใช้มาอย่างยาวนาน พร้อมจับมือสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เปิดบ้านรับเชิญวิทยากรสุดพิเศษ ดร.ฉัตรตรี ภูรัต ผู้อำนวยการฝ่ายฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม ร่วมเปิดตัวกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนครั้งสำคัญ “IONIQ Waste to Wonder” ณ IONIQ Lab ทรู ดิจิทัล พาร์ค

“ขยะเหลือใช้” ถือเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่โลกทั้งใบ รวมถึงประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งหากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมก็อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดมลภาวะรูปแบบต่าง ๆ เช่น กลิ่นเหม็น สัตว์พาหะนำโรค ตลอดจนนำไปสู่ภาวะโลกร้อน รายงานสถานการณ์ขยะในประเทศไทยประจำปี 2566 ระบุว่าประเทศไทยสร้างขยะมูลฝอยเกิดขึ้น ประมาณ 26.95 ล้านตันต่อปี หรือราว 73,840 ตันต่อวัน คิดเป็นเฉลี่ย 1.12 กิโลกรัมต่อวันต่อคน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 ที่มีปริมาณขยะมูลฝอยอยู่ที่ 25.70 ล้านตัน พบว่าเราสร้างมลภาวะเพิ่มขึ้นถึง 5% ต่อปี

วัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายของปัญหาขยะที่เพิ่มขึ้น การริเริ่มจัดงาน IONIQ Waste to Wonder ที่ IONIQ Lab ไม่เพียงแค่เพื่อปฏิวัติรูปแบบการเดินทาง แต่ยังเปลี่ยนแปลงแนวคิดการเดินทางทั่วโลก ไปสู่อนาคตที่ใสสะอาดและมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น ความร่วมมือด้านศิลปะที่สร้างแรงบันดาลใจกับ WISHULADA ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างความตระหนักรู้ และส่งเสริมการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ และการนำกลับมาใช้ใหม่อย่างจริงจัง โดยจัดงานขึ้นที่ IONIQ Lab ซึ่งยังเป็นศูนย์กลางแห่งการสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน และการพัฒนานวัตกรรมที่ล้ำสมัย ให้ลูกค้าฮุนไดได้มีส่วนร่วมโดยตรงในการสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืน”

“IONIQ Waste to Wonder” แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ผ่านการส่งเสริมการเดินทางที่ยั่งยืน และกระตุ้นจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมผ่านพลังแห่งงานศิลป์ การนำเสนอความสวยงามของศิลปะ และศักยภาพของวัสดุรีไซเคิลในกิจกรรมครั้งนี้ ยังช่วยเน้นย้ำความสำคัญของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ไปพร้อมกับการแสวงหาแนวทางใหม่ ในการจัดการขยะในอนาคต

ผู้เข้าชมงานสามารถสัมผัสถึง ศักยภาพเชิงสร้างสรรค์ของกระบวนการรีไซเคิล นับตั้งแต่การสรรค์สร้างหมีขนมสุดน่ารัก ไฮไลต์ของงานซึ่งประดิษฐ์จากขวดพลาสติก 10,000 ขวด และบรรจุภัณฑ์ขนม 10,500 ชิ้น ไปจนถึงกิจกรรมเวิร์คช็อปการประดิษฐ์ของจากวัสดุเหลือใช้ ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะได้ซึมซับสาระสำคัญของงานที่ว่า “ไม่มีสิ่งใดไร้ค่า” และ “เราทุกคนทำได้” นอกจากนั้น ยังมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใน IONIQ Talk สร้างแรงบันดาลใจและการตระหนักรู้ และกระตุ้นการมีส่วนร่วมในการจัดการขยะ เพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่สดใสกว่า สะอาดยิ่งกว่า และยั่งยืนยิ่งกว่าสำหรับทุกคน

วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ ศิลปินนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและกิจกรรมเพื่อสังคม กล่าวว่า “เรามีความเชื่อมั่นว่าการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และการใช้แผนงานเชิงกลยุทธ์ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตไปจนถึงระดับการบริโภค ถือเป็นสิ่งสำคัญในการลดขยะ และสร้างความก้าวหน้าด้านความยั่งยืน ส่วนการหมุนเวียนวัสดุเหลือใช้ กลับมาใช้งานใหม่ในแนวทางที่ครอบคลุม ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะได้อย่างมากและนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน การจัดการขยะเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของเราทุกคน เพราะถือเป็นปัญหาที่มีความท้าทายอย่างมากในปัจจุบัน สิ่งสำคัญคือเราทุกคนต้องรับรู้ว่าตัวเอง ต่างมีบทบาทในการอนุรักษ์ และใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งถ้าเราร่วมมือกันและใช้ทรัพยากรอย่างมีสติ ก็จะสามารถสร้างความแตกต่างเชิงบวก ให้กับโลกใบนี้ได้อย่างแน่นอน”

ดร.ฉัตรตรี ภูรัต ผู้อำนวยการฝ่ายฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของเรา ไม่ใช่เป็นเพราะหน้าที่รับผิดชอบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก และให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสู่ความรับผิดชอบ ของทั้งผู้ผลิตและบริโภคที่สู่ความยั่งยืนยิ่งขึ้น จากการทำงานวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม การผลักดันนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นโยบายเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) และ ESG (Environment, Social, และ Governance) รวมทั้งการเสริมสร้างศักยภาพให้กับองค์กรและบุคลากรด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเตรียมรับมือกับความท้าท้ายในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว รวมทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรอีกหลายฝ่าย ซึ่งไม่เพียงร่วมกันกำหนดนโยบายเท่านั้น แต่ยังช่วยกันปูทางไปสู่ความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนของเมืองไทยต่อไป”

IONIQ Lab ไม่ได้เป็นเพียงศูนย์รวมนวัตกรรม หากยังเป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจและการทำงานร่วมกันอันเปี่ยมด้วยพลังของคนรุ่นใหม่ ผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรม IONIQ Waste to Wonder สามารถเข้าชมงานศิลปะสุดสร้างสรรค์ เพื่อร่วมกันกำหนดอนาคตที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน ในวันที่ 17 สิงหาคม 2567 นอกจากนี้ ยังมีเวิร์คช็อปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “The Art of Upcycling” เปลี่ยนขยะเป็นงานศิลป์สุดยูนีค ในวันเสาร์ที่ 24, 31, สิงหาคม และ 7 กันยายน 2567 โดยลูกค้าสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่หน้าโชว์รูมในวันที่มีกิจกรรม เพื่อร่วมเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสู่การเปลี่ยนแปลงโลก ผ่านผลงานศิลปะและการเดินทางที่ยั่งยืน

เอ็มจี เปิดไลน์การผลิต MG3 HYBRID+ ในไทย

เอ็มจี เปิดไลน์การผลิต ALL NEW MG3 HYBRID+ สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือกอย่างยั่งยืน

ชลบุรี – 15 สิงหาคม 2567 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ได้รับเกียรติจาก นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบการควบคุมทางสรรพสามิต และ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมคณะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดไลน์การผลิตรถไฮบริดรุ่นล่าสุด ALL NEW MG3 HYBRID+ ก่อนเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในไทย วันที่ 20 สิงหาคม 2567 นี้ พร้อมเยี่ยมชมฐานการผลิตรถยนต์เอ็มจีในไทย ที่ครอบคลุมการผลิตรถยนต์ในทุกรูปแบบการขับเคลื่อน ทั้งรถยนต์สันดาปภายใน รถยนต์พลังงานทางเลือก และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงโรงงานประกอบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมแสดงศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกการขับเคลื่อนอย่างครบวงจร มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้อย่างครอบคลุมที่สุด

นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญของ เอ็มจี ในการต้อนรับ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต และ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมคณะผู้บริหาร และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้ให้เกียรติร่วมเปิดไลน์การผลิตรถยนต์ไฮบริดรุ่นล่าสุด ALL NEW MG3 HYBRID+ ก่อนเปิดตัว อย่างเป็นทางการในไทย วันที่ 20 สิงหาคม 2567 นี้ พร้อมเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์แบบครบวงจรของ เอ็มจี ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่ทั้งหมด 437.5 ไร่ ที่พัฒนาขึ้นภายใต้งบการลงทุนที่สูงถึงกว่า 30,000 ล้านบาท โดย เอ็มจี ถือเป็นแบรนด์รถยนต์จีนที่มีการลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทยสูงเป็นอันดับต้นๆ กับจุดเด่นของโรงงานที่สามารถผลิตและประกอบรถยนต์ครอบคลุมทุกรูปแบบการขับเคลื่อนด้วยกำลังการผลิตสูงสุด 100,000 คันต่อปี โดยมีพื้นที่ของโรงประกอบตัวถัง (Body Shop) โรงพ่นสีรถยนต์ (Paint Shop) โรงประกอบรถ (General Assembly Shop) ครอบคลุม ไปถึงส่วนของคลังจัดเก็บอะไหล่เพื่อรองรับรถยนต์ของเอ็มจีทุกรุ่น รวมถึงพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK ซึ่งประกอบด้วย โรงประกอบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ภายในโรงงานมีการจัดสรรพื้นที่เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ ส่วนการประกอบแบตเตอรี่ ประกอบด้วยสายการผลิตอัตโนมัติที่ทันสมัยอย่างการนำหุ่นยนต์ (Robotic) เข้ามาช่วยในการผลิตเพื่อให้ได้มาตรฐานที่แม่นยำสามารถประกอบแบตเตอรี่ Cell-To Pack ได้สูงสุดมากกว่า 50,000 แพ็คต่อปี

ตลอดระยะเวลาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยกว่า 10 ปี เอ็มจี ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยอย่างครอบคลุม ในฐานะผู้บุกเบิกยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ เอ็มจี ได้พัฒนาและขยาย MG EV ECOSYSTEM เพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับภาครัฐในนโยบายส่งเสริมต่างๆ โดยมีเป้าหมายให้คนไทยได้ใช้ยานยนต์คุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ ล่าสุด เอ็มจี ได้เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ เริ่มต้นด้วยโกลบอลโมเดลอย่าง NEW MG4 ELECTRIC นอกจากนี้ ยังพร้อมตอบรับ การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือกอย่างยั่งยืน ด้วยการขยายไลน์การผลิตเพื่อรองรับการผลิตรถไฮบริดอย่าง ALL NEW MG3 HYBRID+ ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้ตอกย้ำให้เห็นถึงเทคโนโลยียานยนต์ที่ผสมผสานทั้งระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน และระบบไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ ให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดรับกับทิศทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นอีกหนึ่งเซ็กเมนต์ ที่ไทยมีโอกาสเป็นฐานการผลิตระดับโลกได้

นายจ้าว เฟิง กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด กล่าวว่า “การเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ เอ็มจี ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงศักยภาพและความพร้อมของ เอ็มจี ในการลงทุนและทำการตลาดในประเทศไทย ยังมีอีกหนึ่งความสำคัญที่ เอ็มจี ได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐร่วมเป็นสักขีพยานในการพิธีปล่อยรถ ALL NEW MG3 HYBRID+ รถไฮบริดคุณภาพสูง รุ่นล่าสุดออกจากสายการผลิต เพื่อเตรียมพร้อมเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ โดยรถยนต์รุ่นนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นเรือธงที่ เอ็มจี มุ่งมั่นให้เป็นหนึ่งในยนตรกรรมที่สะท้อนถึงแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ เอ็มจี ที่พร้อมผลักดันการผลิตรถไฮบริดแทนที่รถยนต์สันดาปภายใน เพื่อเดินหน้าสู่การเป็น Green mobility และสอดคล้องกับเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมพร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านสังคมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มขั้นตามแนวทางของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก”

มิตซูบิชิ ชวนวิ่งการกุศล “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ชวนกันวิ่ง ชวนกันให้ ครั้งที่ 5”

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมงานวิ่งการกุศล “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ชวนกันวิ่ง ชวนกันให้ ครั้งที่ 5” ณ วิหารเซียน/เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี 17 พ.ย.นี้ พร้อมนำรายได้สมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ สนับสนุนโรงพยาบาลที่ขาดแคลน

กรุงเทพฯ – 16 สิงหาคม 2567 : บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมงานวิ่งการกุศล  “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ชวนกันวิ่ง ชวนกันให้ ครั้งที่ 5” (Mitsubishi Motors Charity Run 2024 #5 ‘Together We Run, Together We Share’) ในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 พร้อมเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2567 โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปสมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลที่ขาดแคลน สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการเพื่อสังคมภายใต้วิสัยทัศน์ “สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย” ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม การศึกษา และสุขภาพ

งานวิ่งครั้งนี้ (Mitsubishi Motors Charity Run 2024 #5) จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ชวนกันวิ่ง ชวนกันให้” โดยเชิญชวนผู้ที่สนใจทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นนักวิ่งที่มีประสบการณ์หรือผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เข้าร่วมงาน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Fun Run ระยะทาง 5 กิโลเมตร ซึ่งพิเศษ! สำหรับปีนี้ ผู้ที่ต้องการชมจุดสำคัญ (Highlight) สามารถวิ่งตามเส้นทางเพิ่มอีก 2 กิโลเมตร เพื่อไปถึงพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ และ Mini Marathon ระยะทาง 10 กิโลเมตร โดยผู้เข้าร่วมงานทุกท่านจะได้รับเสื้อ หมายเลขวิ่ง เหรียญรางวัล ของที่ระลึก พร้อมบริการอาหารและเครื่องดื่ม โดยสามารถรับเสื้อ หมายเลขวิ่งได้ที่ วิหารเซียน จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 15 – 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 – 18.00 น. โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมงานและดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่เว็บไซต์ www.mitsubishimotorscharityrun.com ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 กันยายน 2567

สำหรับนักวิ่งชายและหญิงที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับแรกในประเภท Fun Run ระยะทาง 5 กิโลเมตร จะได้รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัลมูลค่า 1,500 บาท ส่วนนักวิ่งชายและหญิงที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับแรกในประเภท Mini Marathon ระยะทาง 10 กิโลเมตร จะได้รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัลมูลค่า 4,000 บาท พร้อมกันนี้ ผู้วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับแรกในแต่ละกลุ่มอายุ ของการวิ่งประเภท Mini Marathon ระยะทาง 10 กิโลเมตร จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 2,000 บาท โดยผู้เข้าเส้นชัยที่รองชนะเลิศอันดับ 1 และ รองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 1,000 บาท และ 500 บาท ตามลำดับ อีกทั้ง พิเศษสำหรับปีนี้ผู้เข้าเส้นชัยที่รองชนะเลิศอันดับ 3 และ 4 จะได้รับถ้วยรางวัลกลับบ้านอีกด้วย

เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดบิ๊กแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจ

เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดหนักแคมเปญดอกเบี้ย 0% ดาวน์ต่ำ พร้อมส่วนลดและช่วยผ่อนแบบจัดเต็ม

กรุงเทพฯ 13 สิงหาคม 2567 – เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ตอกย้ำการใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (User-Centric) ศึกษาความต้องการของลูกค้าชาวไทยในช่วงสถานการณ์ที่ท้าทาย เพื่อออกแบบข้อเสนอและสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ตอบโจทย์แบบตรงจุดให้แก่ลูกค้า ผ่านโปรโมชันดอกเบี้ย 0% พร้อมช่วยผ่อน หรือส่วนลดเมื่อจ่ายเงินสดสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ทุกรุ่นจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อให้ลูกค้าได้สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะที่มาพร้อมความคุ้มค่าจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ห้ามพลาด  ตั้งแต่ 1-31 สิงหาคม 2567 นี้ ที่ GWM Application หรือเว็บไซต์ https://www.gwm.co.th และ พาร์ทเนอร์ สโตร์ ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศไทย

ข้อเสนอจัดหนักจัดเต็มแบบเกินพิกัด กับดอกเบี้ย 0% พร้อมโปรแกรมช่วยผ่อน หรือส่วนลดเมื่อชำระด้วยเงินสด

•All New GWM HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ดอกเบี้ย 0%** ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 126,000 บาท หรือให้ ช่วยผ่อนนาน 10 เดือน เดือนละ 10,000 บาท รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท** หรือรับส่วนลดมูลค่าสูงสุด 200,000 บาท* เมื่อชำระด้วยเงินสด

•New GWM HAVAL H6 Hybrid SUV รุ่น ULTRA รับดอกเบี้ย 0%** ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท และช่วยผ่อนนาน 10 เดือน เดือนละ 5,000 บาท รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท** และรุ่น PRO รับดอกเบี้ยพิเศษ 0%** ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 82,000 บาท** สำหรับลูกค้าที่ซื้อเงินสด รับส่วนลดมูลค่า 120,000 บาท* สำหรับรุ่น ULTRA และ 50,000 บาท* สำหรับรับรุ่น PRO

•New GWM HAVAL JOLION Hybrid SUV รุ่น Sport เลือกได้ตามใจกับส่วนลดเงินสดมูลค่าสูงสุด 40,000 บาท* หรือดอกเบี้ยพิเศษ 0%** ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 59,000 บาท** หรือดอกเบี้ย 2.15%** ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 8,000 บาท พร้อมช่วยผ่อนเดือนละ 2,000 บาทนาน 12 เดือน รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 24,000 บาท**  สำหรับรุ่น ULTRA รับส่วนลดเงินสดมูลค่าสูงสุด 50,000 บาท หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 0%** ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 74,000 บาท** หรือ ดอกเบี้ย 2.15%** ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท พร้อมการช่วยผ่อนนาน 12 เดือน เดือนละ 2,500 รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท** นอกจากนี้ New GWM HAVAL JOLION Hybrid SUV ทั้งสองรุ่น แถมฟรี ฟิล์มกรองแสง ลามิน่า รุ่น CM ONE รวมมูลค่าสูงสุด 16,500 บาท และฟรีชุดอุปกรณ์ฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมติดตั้ง รวมมูลค่าสูงสุด 18,200 บาท

•GWM New ORA Good Cat รุ่น PRO และ ULTRA กับข้อเสนอดาวน์ต่ำ ดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือช่วยผ่อนนานสูงสุด 12 เดือน มูลค่ารวม 190,000 บาท และ 220,000 บาท ตามลำดับ รุ่น PRO เลือกรับสิทธิพิเศษ ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 48 เดือน ดาวน์เพียง 20% หรือดอกเบี้ย 1.95% เมื่อดาวน์ 25% และผ่อนได้สูงสุด 48 เดือน* พร้อมช่วยผ่อนนาน 12 เดือน เดือนละ 5,000 บาท มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท** และรุ่น ULTRA ลูกค้าสามารถเลือกรับข้อเสนอ ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์เพียง 10% หรือดอกเบี้ย 1.95% เมื่อดาวน์ 25% และผ่อนได้สูงสุด 48 เดือน* พร้อมช่วยผ่อนนาน 12 เดือน เดือนละ 7,500 บาท มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 90,000 บาท** หรือหากเลือกดอกเบี้ยพิเศษ 0% เมื่อดาวน์ 25% สามารถผ่อนได้สูงสุดถึง 60 เดือน* มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 77,000 บาท สำหรับรุ่น PRO และ 108,000 บาทสำหรับรุ่น ULTRA นอกจากนี้ สำหรับรุ่น GT รับข้อเสนอมูลค่ารวมสูงสุดถึง 290,000 บาทกับดอกเบี้ยพิเศษ 0% เมื่อดาวน์ 25% และผ่อน 48 เดือน* มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 82,000 บาท พร้อมกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ช่วยผ่อนนาน 12 เดือน เดือนละ 7,500 บาท สูงสุดไม่เกิน 90,000 บาท**

•GWM ORA 07 รุ่น PERFORMANCE รุ่น LONG RANGE และรุ่น LONG RANGE ULTRA กับข้อเสนอมูลค่ารวม 180,000 บาท 210,000 บาท และ 180,000 บาท ตามลำดับ พิเศษ! ด้วยดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% เมื่อดาวน์ 25% และผ่อน 48 เดือน* มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 67,000 บาท สำหรับรุ่น PERFORMANCE และดอกเบี้ยพิเศษ 0% เมื่อดาวน์ 25% และ ผ่อน 48 เดือน* มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 97,000 บาท สำหรับรุ่น LONG RANGE สำหรับ LONG RANGE ULTRA รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% เมื่อดาวน์ 25% และ ผ่อน 48 เดือน* มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 62,000 บาท

สำหรับนักผจญภัยสายลุย ก็สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์ GWM TANK อย่างคุ้มเกินคุ้ม กับข้อเสนอเกินห้ามใจ

•ALL NEW GWM TANK 300 HEV มาพร้อมข้อเสนอมูลค่ารวม 260,000 บาท สำหรับรุ่น PRO และ 270,000 บาท สำหรับรุ่น ULTRA เลือกรับส่วนลดเงินสดมูลค่าสูงสุด 100,000 บาท* เมื่อชำระด้วยเงินสด หรือดอกเบี้ยพิเศษ 0%** ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ที่มาพร้อมข้อเสนอที่สามารถเลือกได้ตามต้องการ ระหว่างการช่วยผ่อน นาน 10 เดือนๆ ละ 5,000 บาท รวมมูลค่า 50,000 บาท หรือวอยเชอร์สำหรับแลกซื้ออุปกรณ์ตกแต่งมูลค่า 50,000 บาท**

•ALL NEW GWM TANK 500 HEV กับข้อเสนอมูลค่ารวม 250,000 บาท สำหรับรุ่น PRO และ 260,000 บาท สำหรับรุ่น ULTRA ทั้งสองรุ่นมาพร้อมดอกเบี้ยพิเศษ 0%* นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 153,000 บาท สำหรับรุ่น PRO และ 169,000 บาท สำหรับรุ่น ULTRA และรับฟรี Central Gift Voucher มูลค่า 50,000 บาท สำหรับการซื้อเงินสด

ยิ่งไปกว่านั้น รถยนต์ทุกรุ่นและทุกคันของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ที่สร้างความอุ่นใจไร้กังวลให้กับลูกค้า กับการบริการหลังการขายที่ครอบคลุมและคุ้มค่า ได้แก่

•ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง เป็นระยะเวลานาน 1 ปีเต็ม โดย บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน)  หรือ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท

•ฟรี ค่าแรงและค่าอะไหล่งานบำรุงรักษาตามระยะทาง (GWM PRO Service Inclusive : GPSI) สูงสุดไม่เกิน 10 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 100,000 กิโลเมตร หรือระยะทาง 75,000 กิโลเมตร สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 100%  (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน และไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) มูลค่ารวมสูงถึง 45,000 บาท**

•ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลานานถึง 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท**

•ฟรี บริการระบบตรวจสอบและสั่งการรถผ่านอินเทอร์เน็ต** (Telematic Service) พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ ระยะเวลา 3 ปี สำหรับรถยนต์ทุกรุ่น และระยะเวลา 5 ปี สำหรับ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV และ New HAVAL H6 Hybrid SUV รุ่น ULTRA

•ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์พร้อมติดตั้งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า GWM ORA ทุกรุ่นและสำหรับ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 15 เมตร 1 ครั้ง จากตู้ควบคุมไฟฟ้าในบ้าน (ตู้เมน) (ไม่รวมแท่นชาร์จ หากต้องการติดตั้งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและผู้รับการติดตั้งต้องตรวจสอบและเตรียมมิเตอร์ไฟที่สามารถใช้กับโฮมชาร์จเจอร์ด้วยตนเอง) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท

รถยนต์ทุกคันของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร** (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดเป็นระยะเวลา 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** สำหรับรถยนต์ไฮบริดทุกรุ่น รวมถึง การรับประกันแบตเตอรี่ เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร** (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) สำหรับ All New GWM HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV, GWM New ORA Good Cat, GWM New ORA Good Cat รุ่น GT และ GWM ORA 07

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและดีไซน์ แต่ยังมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้คุณได้เป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่คุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า โปรโมชันสุดพิเศษขนาดนี้ อย่าพลาดโอกาสดีๆ ในการเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่ด้วยนวัตกรรมยานยนต์ล้ำสมัยจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคุณ เพียงแค่ลงทะเบียน และวางเงินมัดจำเพื่อรับข้อเสนอพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ถึง 31 สิงหาคม 2567 ผ่านช่องทาง GWM Application หรือเว็บไซต์ https://www.gwm.co.th และโชว์รูม เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศไทย และต้องรับรถยนต์ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 เท่านั้น เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

* เนื่องจากสถานการณ์ดอกเบี้ยลอยตัวในปัจจุบัน บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เฉพาะเมื่อจองและส่งเอกสารทำสัญญาตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนดเท่านั้น หลังจากช่วงเวลาดังกล่าว อัตราดอกเบี้ยพิเศษจะเป็นไปตามที่บริษัทฯ และสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกำหนด

** เงื่อนไขการให้บริการเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดได้ที่ GWM Thailand – Service

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save