“YARIS ATIV” สปอร์ตกับตัวถัง “Fastback style” ทุกรุ่นมาพร้อมไฟหน้าแบบ Full LED ล้ออัลลอยด์ Two tone ขนาด 16 นิ้ว และไฟท้ายแบบ Full LED Light-guiding ไฟเลี้ยว Sequential ใหม่ ภายในเรียบหรูเหนือระดับกับเบรกมือไฟฟ้า EPB รวมทั้งไฟ “Ambient light” ปรับได้ 64 เฉดสี ในห้องโดยสาร และหน้าปัด Full digital ด้านสมรรถนะ แพลตฟอร์มและเกียร์ CVT ใหม่ ที่มาพร้อมการปรับจูนเครื่องยนต์ ส่งผลให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ทรงตัวดี นุ่มนวล ตอบสนองอัตราเร่งทันใจขณะออกตัว ห้องโดยสารเงียบ ครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย มั่นใจสูงสุดกับรางวัล “BEST SEDAN UNDER 1,300 CC”
รถยนต์ซีดานขนาดกลางยอดเยี่ยมแห่งปี 2 รางวัล
“CAMRY” นำเสนอความสมบูรณ์แบบด้วยภาพลักษณ์ดีไซน์สปอร์ต หรูหรา ผ่านการออกแบบอย่างพิถิพิถัน ใส่ใจในทุกรายละเอียดการตกแต่งครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก สร้างความมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเหนือระดับ ด้วยสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจ พร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถยนต์โตโยต้า “Toyota Safety Sense” เวอร์ชั่นล่าสุด พร้อมภาพลักษณ์ระดับผู้นำ มั่นใจสูงสุดกับรางวัล “BEST HYBRID MID-SIZE SEDAN UNDER 2,500 CC” และ “BEST MID-SIZE SEDAN UNDER 2,500 CC”
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิด “The new E-Class : Launch Edition” ในงาน Motor Show 2024 ชูรถไฮไลท์ 5 รุ่น พร้อมโปรโมชั่นจองรถในงานลุ้นรับ C-Class หรือชิงทองคำ มูลค่ารวม 4 ล้านบาท นับเป็นครั้งแรกที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เข้าร่วมกิจกรรมบิ๊กอีเวนต์หลังประกาศโมเดลธุรกิจ Retail of the Future ผสานกับโยบาย One Price ที่จะมาผสานประโยชน์ให้กับตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ต่อไปอย่างยั่งยืน
•เผยโฉม “The new E-Class: Launch Edition” ผลิตในไทยแบบจำนวนจำกัด 2 รุ่นย่อย E 220 d AMG Line ราคา 3.99 ล้าน และ E 350 e AMG Dynamic ราคา 4.25 ล้าน เปิดจองแล้ววันนี้ทั่วประเทศ
•จัดเต็มโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 830,000 บาท พร้อมลุ้นรับรถยนต์รุ่น C 220 d AMG Line หรือทองคำหนักรวม 30 บาท เพียงเลือกทำสัญญาทางการเงินกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) สะท้อนการเป็น “ICON OF INSPIRATION.” ยกทัพยนตรกรรมกว่า 20 รุ่น จัดแสดงในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 (Motor Show 2024) เปิดตัวยนตรกรรมล่าสุด 5 รุ่น นำโดย “The new E-Class : Launch Edition” Business Saloon ที่มาเซอร์ไพรส์กลางงานพร้อมเปิดจองเป็นครั้งแรก มาด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ได้แก่ E 220 d AMG Line ราคาจำหน่าย 3,990,000 บาท และ E 350 e AMG Dynamic ราคาจำหน่าย 4,250,000 บาท
ต่อด้วยรถตระกูลเอสยูวีเกือบทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ GLC 350 e 4MATIC Coupe AMG Dynamic ราคาจำหน่าย 4,340,000 บาท, GLE 300 d 4MATIC AMG Line ราคาจำหน่าย 4,980,000 บาท และ GLS 450 d 4MATIC AMG Dynamic ราคาจำหน่าย 6,980,000 บาท รวมถึง “EQS 450+ AMG Dynamic” รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นนำเข้าแบบ CBU ในราคาที่ดีที่สุด 5,950,000 บาท นอกจากนี้ยังเผยโฉมรถยนต์ระดับ Iconic ของแบรนด์อย่าง “G 63 Grand Edition” 1 ใน 1,000 คันทั่วโลก ที่นำมาจำหน่ายเพียง 10 คันในไทย ในราคา 23,400,000 บาท และจัดแสดงรถยนต์ต้นแบบ “Vision One-Eleven” อนาคตแห่งยานยนต์ที่มีดีเอ็นเอมาจาก C 111 ตำนานแห่งยุค 60-70s โดยรถยนต์ทุกรุ่นมาพร้อมข้อเสนอที่ดีที่สุดที่ลูกค้าจะได้รับไม่ว่าจะซื้อรถในงานหรือที่ตัวแทนจำหน่ายฯ ทั่วประเทศ
มร.มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับงาน Motor Show ในปีนี้ เราต้องการยกเรื่องแรงบันดาลใจมาเป็นคอนเซปต์หลักของการนำเสนอแบรนด์และบูธจัดแสดงรถยนต์ ภายใต้การเป็น “ICON OF INSPIRATION.” ของคนไทย และแบรนด์รถยนต์ที่อยู่คู่กับลูกค้าชาวไทยมาเป็นเวลานาน เราต้องการสะท้อนเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจผ่านการร่วมมือกับศิลปิน 2 คน หนึ่งในนั้นคือ “เบนซ์ – ธนชาติ” ผู้กำกับชื่อดังจาก Salmon House ที่มาร่วมหาคำตอบเบื้องหลังชื่อเล่นยอดฮิตของคนไทยผ่านสารคดีสั้น “The Meaning of Benz” และอีกหนึ่งศิลปินในนาม Bloody Hell Big Head “เบนซ์ – ธนวัต” ที่มาร่วมเติมสีสันแห่งแรงบันดาลใจให้กับบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์”
ภายในบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกคนจะได้พบกับมิติใหม่และสีสันแห่งแรงบันดาลใจ ผ่านการออกแบบบูธในคอนเซปต์ “ICON OF INSPIRATION.” ซึ่งศิลปิน Bloody Hell Big Head ได้นำแรงบันดาลใจจากเรื่องราวและองค์ประกอบต่างๆ ของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มาผสานเข้ากับสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยหนึ่งในยนตรกรรมรุ่นล่าสุดอย่าง GLC 350 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic ก็ถูกนำมาจัดแสดงพร้อมการตกแต่งสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากศิลปิน Bloody Hell Big Head ด้วยเช่นกัน และที่พิเศษไปกว่านั้น สำหรับลูกค้าที่จอง GLC Coupé ภายในงาน จะได้รับ Exclusive Box Set Design by Bloody Hell Big Head จำนวนจำกัดเพียง 50 กล่อง
ภายใต้โมเดลธุรกิจ Retail of the Future รถยนต์ทุกรุ่นจะมาพร้อมราคาและข้อเสนอที่ดีที่สุดจากทุกตัวแทนจำหน่ายฯ ทั่วประเทศ โดยนอกจากรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวภายในงาน เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เปิดเผยแคมเปญสำหรับรถยนต์รุ่นปัจจุบันที่มาพร้อมส่วนลดและประกันชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี
นางสาวอัญญารัตน์ สุทธิเบญจกุล หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวคิดการปรับปรุงใหม่ของ HILUX REVO GR Sport Wide Tread ว่า “HILUX REVO GR Sport 4×4 เป็นรถที่ออกแบบและพัฒนา ภายใต้วิสัยทัศน์ “Making Ever-better Motorsports-bred Cars” ด้วยความมุ่งหวังให้เป็นมากกว่าแค่รถกระบะเพื่อการใช้งาน แต่เป็นรถที่จะร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบการขับขี่และการผจญภัย Hilux REVO GR Sport 4×4 จะเพิ่มความสนุกในการขับขี ทีมพัฒนาได้เพิ่มขีดจำกัดในการขับขี่ ทั้งบนถนนทางเรียบ (ออนโรด) และ ทางขรุขระที่มีอุปสรรคธรรมชาติ (ออฟโรด)
Hilux REVO GR Sport 4×4 ถูกพัฒนา มีการปรับความสูงและความกว้างของรถ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการข้ามผ่านอุปสรรคบนถนนออฟโรด และยังเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่บนถนนทางเรียบ อีกทั้งเครื่องยนต์ได้ถูกพัฒนาเพิ่มกำลังเพื่อเพิ่มความสนุกและการตอบสนองในการขับขี่ ในส่วนของดีไซน์ Hilux REVO GR Sport 4×4 มาพร้อมกับการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง rally และ รูปลักษณ์ที่สปอร์ตทั้งภายนอก และ ภายในตามคอนเซปต์ของ Gazoo Racing ที่มาคู่กับความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์”
Highlight ของ Hilux REVO GR Sport 4×4
1.ดีไซน์ภายนอก Hilux REVO GR Sport 4×4 ได้รับการออกแบบให้มีความเป็นรถกระบะออฟโรด DAKAR Rally ออกแบบให้มีทั้งการป้องกันในการก้าวข้ามอุปสรรค ในขณะเดียวกันก็จัดการเรื่องอากาศพลศาสตร์ได้อย่างดี จุดเด่นคือดีไซน์ใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมตัวถังขนาดกว้างขึ้นและสูงขึ้น มิติองศาด้านหน้าเชิดขึ้น 20 มิลลิเมตร ก้าวข้ามขีดจำกัดในเส้นทางออฟโรดได้ดียิ่งขึ้น
2.สมรรถนะเครื่องยนต์ Hilux REVO GR Sport 4×4 ใหม่นี้ ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.8 ปรับจูนใหม่ แรงขึ้น 10% กำลังสูงสุด 224 แรงม้า (165 กิโลวัตต์) แรงบิด 550 นิวตัน/เมตร พร้อมเกียร์ที่ตอบสนองได้เร็วขึ้น สอดรับกับกำลังเครื่องยนต์เป็นอย่างดี พร้อมโหมดสปอร์ตที่ปรับจูนมาเฉพาะรุ่น Hilux REVO GR Sport 4×4 รีดกำลังเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น ขับสนุกได้ทุกเส้นทาง