- Advertisement -
32.3 C
Bangkok
Home Blog Page 58

“สุรศักดิ์ จรินทร์ทอง” นั่งนายกสมาคมสรยท.คนใหม่

“สุรศักดิ์ จรินทร์ทอง” ได้รับความไว้วางใจเป็นเอกฉันท์ให้นั่ง “นายกสมาคมสรยท.คนใหม่” ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) เมื่อวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมเดอะฮอลล์ ถนนวิภาวดีรังสิต มีวาระการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ แทนคณะกรรมการชุดที่มีนายวชิระ เรืองมาลัย เป็นนายกฯ ซึ่งหมดวาระการบริหารงานตามข้อบังคับ

ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี สรยท. นายวชิระ เรืองมาลัย นายกสมาคมฯพร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารวาระปี 2565-2567 รายงานผลการดำเนินงาน กิจกรรม พร้อมสรุปสถานะทางบัญชีของสมาคมฯ ตลอดวาระการทำงาน 2 ปี โดยมีสมาชิกซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวสายยานยนต์เข้าร่วมประชุมกว่า 150 คน พร้อมกันนี้ได้จัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ขึ้นมาแทนคณะกรรมการชุดเก่าที่มีนายวชิระ เป็นนายกฯ ซึ่งเข้าบริหารงานมาแล้วครบ 2 วาระๆ ละ 2 ปี ตามข้อบังคับ

การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) วาระปี 2567-2569 มีผู้เสนอชื่อสมาชิกลงเลือกทั้งหมด 17 คน ให้ที่ประชุมร่วมลงคะแนนเลือกตั้งเป็นกรรมการผ่านการเลือกตั้งตามธรรมนูญจำนวน 10 คน ประกอบด้วย 1.นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง 2.นางสาวรัชดา ศิริบรรณพิทักษ์ 3.นายพุทธิ ผาสุข 4.นายประกาศิต ปริญญาชัยศักดิ์ 5.นายณัฐเทพ เผ่าจินดา 6.นายธีรธรรม ธรรมศรี 7.นายธนสาร เสาวมล 8.นางสาวอัจฉรา เงินเจริญ 9.นายสราวุธ คำศรี และ 10.นางสาวจิราพร ศรีอำไพ

โดยภายหลังการเลือกตั้งดังกล่าว คณะกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ วาระปี 2567-2569 มีมติเห็นชอบร่วมกันเป็นเอกฉันท์เลือกให้ นายสุรศักดิ์ จริทร์ทอง ขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.)

นายสุรศักดิ์ จริทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thai Automotive Journalists Association : TAJA ในฐานะนายกสรยท.คนใหม่กล่าวว่า “ต้องขอบคุณสมาชิกและคณะกรรมการชุดใหม่ ที่ไว้วางใจเป็นเอกฉันท์ให้ทำหน้าที่หัวเรือใหญ่ในการขับเคลื่อนองค์กรสื่อยานยนต์ การบริหารสมาคมสื่อยานยนต์ในยุคปัจจุบันเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก เพราะนอกจากภาระหน้าที่รายงานข้อมูลข่าวสารยานยนต์ในองค์กรหลัก ขณะเดียวกันต้องทุ่มเทการทำงานร่วมกับคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อให้สมาชิกผู้สื่อข่าวสายยานยนต์ได้มีสวัสดิการที่ดี สามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารเป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมได้อย่างเต็มความสามารถและผสานงานขับเคลื่อนภาระกิจกับองค์กรภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชน”

ด้านนายวชิระ เรืองมาลัย ในฐานะอดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) กล่าวว่า การทำงานของสื่อยานยนต์ในสถานการณ์อุตสาหกรรม และธุรกิจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เข้าสู่การเปลี่ยนผ่านไปยังพลังงานสะอาดในอนาคตอันใกล้ มีรถไฟฟฟ้า (EV) จากจีนเข้ามาทำตลาดในบ้านเรามากขึ้น ด้านสื่อเองมีการเปลี่ยนแปลงจากสื่อกระแสหลักไปเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ข้อมูลข่าวสารมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากสมาชิกเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาที่เข้ามาทำหน้าที่ ในการสร้างบรรทัดฐานการทำงานของสื่อให้มีมาตรฐานสูง โดยร่วมกับองค์กรภายนอก ทั้งภาครัฐและเอกชน ผ่านกิจกรรมต่างๆ ให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล อาทิ การคัดเลือกตัดสินรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปีของไทย รวมถึงรางวัลรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยอดเยี่ยมของประเทศไทยในปี 2566 ที่ผ่านมา

โดยหวังว่าสื่อมวลชนสายยานยนต์ สมาชิกสมาคมฯ ร่วมกับคณะกรรมการชุดใหม่ ช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้กับสมาคมเช่นเดียวกับคณะกรรมการหลายชุดก่อนๆ ได้ดำเนินการไว้แล้ว ด้วยความรักและสามัคคี

นอกจากนี้ในวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษาจำนวน 40 ทุน ให้กับบุตร-ธิดา ของสมาชิก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งเบาภาระและเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับทายาทสมาชิกอีกด้วย

มิตซูบิชิ ไทรทัน คว้ามาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว

ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน สร้างประวัติศาสตร์เป็นรถกระบะ ดับเบิ้ล แค็บ รุ่นแรกคว้ามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด 5 ดาว จาก ANCAP 2024

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) ประกาศความสำเร็จ จากการที่  ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน(1) รถกระบะขนาด 1 ตัน ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5 ดาว(2) จาก ANCAP(3) (Australasian New Car Assessment Program) ปี 2567 ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อประเมินสมรรถนะด้านความปลอดภัยของยานยนต์รุ่นใหม่ ที่จำหน่ายในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดย ออล-นิว ไทรทัน เป็นรถกระบะดับเบิ้ล แค็บ 4 ประตูรุ่นแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในการทดสอบประจำปี 2566 – 2568 และนับเป็นความสำเร็จต่อเนื่องจากการที่ ออล-นิว ไทรทัน ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5 ดาว จากการทดสอบการชนของรถยนต์ใหม่ โดย ASEAN NCAP(4)  ในปี 2566 ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อประเมินสมรรถนะด้านความปลอดภัยของยานยนต์รุ่นใหม่ที่ออกจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา

ออล-นิว ไทรทัน (รุ่นดับเบิ้ล แค็บ ที่จำหน่ายในออสเตรเลีย)

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มุ่งมั่นสานต่อปรัชญาของบริษัทฯ ในการนำเสนอมาตรฐานด้านความปลอดภัย เพื่อนำไปสู่สังคมการเดินทางที่มีสถิติอุบัติเหตุเป็นศูนย์ ผ่านความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย และการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านการจราจร

ออล-นิว ไทรทัน มอบความปลอดภัยเหนือระดับด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE(5) (Reinforced Impact Safety Evolution) ที่มีความแข็งแกร่งสูง สามารถรองรับแรงปะทะและลดการยุบตัวของห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนสภาพน้อยที่สุด พร้อมด้วยเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัย SRS 8 ตำแหน่ง6 (สำหรับรุ่นดับเบิ้ล แค็บ ที่จำหน่ายในออสเตรเลีย) ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โดยสารด้วยระดับความปลอดภัยขั้นสูง เสริมด้วยระบบความปลอดภัยเพื่อยกระดับสมรรถนะความปลอดภัยในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC – Active Stability Control) ที่ช่วยควบคุมการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง ในสภาวะที่รถเสียสมดุล และ ระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM – Forward Collision Mitigation) ที่มีการตรวจจับคนเดินถนนและผู้ขับขี่จักรยานยนต์ ซึ่งถูกติดตั้งให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

ออล-นิว ไทรทัน เป็นรถกระบะขนาด 1 ตัน ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีต้นกำเนิดจากรถรุ่น ฟอร์เต้ (Forte) ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 2521 ก่อนจะได้รับการผลิตมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 45 ปี มากกว่า 5 เจนเนอเรชั่น ด้วยจำนวนการผลิตกว่า 5.7 ล้านคัน ที่จัดจำหน่ายในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และกลายเป็นรถรุ่นสำคัญในเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส

ด้วยการพัฒนาภายใต้แนวคิด “พลังแกร่งคู่ใจสายลุย” (Power for Adventure) ออล-นิว ไทรทัน เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นที่ได้รับการยกระดับและพัฒนาขึ้นใหม่นับตั้งแต่ดีไซน์ภายในและภายนอก ไปจนถึงแชสซีส์ใหม่ เฟรมหรือโครงรถแบบขั้นบันไดใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ โดยได้รับการเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตในเดือนกรกฎาคม 2566 ก่อนที่จะเปิดตัวที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตามด้วยประเทศญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในเดือนมีนาคม และมีกำหนดที่จะเปิดตัวในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

1. ไทรทัน ได้รับการจัดจำหน่ายในชื่อ L200 ในบางประเทศ

2. ครอบคลุมรุ่นดับเบิ้ล แค็บ ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ

3. ANCAP คือ Australasian New Car Assessment Program

4. ASEAN NCAP คือ New Car Assessment Program for Southeast Asian Countries

5. โครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE คือ Reinforced Impact Safety Evolution

6. อุปกรณ์ขึ้นอยู่กับประเภทตัวถังและรุ่นย่อย

วิริยะประกันภัย รวมพลังจิตอาสาสร้างโป่งเทียม

วิริยะประกันภัย รวมพลังจิตอาสาสร้างโป่งเทียม แหล่งอาหารช้างป่า ผืนป่าภาคตะวันออก

นายพรชัย ชำนาญยนต์ ผู้ใหญ่บ้านคลองครก หมู่ 10 ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี รับมอบอุปกรณ์การทำโป่งเทียม มูลค่า 55,000 บาท จากบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมีนายเธียรวิทย์ หาญเมธีคุณา ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 3 (ภาคตะวันออก) ด้านสาขา เป็นผู้ส่งมอบ ภายใต้กิจกรรม “เครือข่ายจิตอาสารักษ์ช้าง ผืนป่าภาคตะวันออก” พร้อมนำคณะวิริยะจิตอาสาร่วมสร้างโป่งเทียม ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน เพื่อใช้เป็นแหล่งอาหารช้างป่า และสัตว์ป่าอื่นๆ ซึ่งช่วยลดการบุกรุกพื้นที่เกษตรจากช้างป่า และยังช่วยลดปัญหาระหว่างคนและช้างป่าอีกด้วย

สำหรับกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นการขยายผลจากการสร้างเครือข่ายจิตอาสารักษ์ช้างผืนป่าภาคตะวันออก ระหว่างบริษัทฯ ชุมชนในพื้นที่ สถาบันการศึกษา และหน่วยงานภาครัฐ ก่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจในการแก้ไขปัญหาระหว่างคนกับช้างป่า อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้ “โครงการรักษ์ช้างยั่งยืน” ซึ่งบริษัทฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและอนุรักษ์ช้างไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดจนช่วยเหลือช้างตามสภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่ พร้อมเตรียมขยายผลโครงการดำเนินงานไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศ

โตโยต้า ส่งมอบรถกระบะไฟฟ้าทดลองวิ่งสองแถวในเมืองพัทยา

โตโยต้า “เติมเต็มทุกการขับเคลื่อน เพื่อเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ” ส่งมอบรถกระบะไฟฟ้าที่ประกอบในไทยเป็นครั้งแรก สำหรับทดลองให้บริการในรูปแบบรถสองแถวในเมืองพัทยา

นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ส่งมอบรถกระบะไฟฟ้า Hilux Revo-e สำหรับทดลองให้บริการในรูปแบบรถสองแถวสาธารณะ แก่นายเรวัฒน์ เซี่ยงฉิน ประธานกรรมการ สหกรณ์เดินรถพัทยา จำกัด เพื่อเป็นการเติมเต็มระบบนิเวศการเดินทางที่ยั่งยืนในเมืองพัทยา โดยจะมีจำนวนทั้งหมด 12 คัน ภายใต้ “โครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ” โดยมีนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ร่วมเป็นประธานในพิธี ณ ศาลาว่าการเมืองพัทยา เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567

หนึ่งในพันธกิจที่สำคัญของโตโยต้าคือการ สร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)  ผ่านการจัดการกระบวนการผลิตเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment) ควบคู่ไปกับ การเตรียมความพร้อมในหลากหลายแนวทาง (Multi Pathway) ที่ว่าด้วยการมุ่งมั่นในการพัฒนาทุกความเป็นไปได้ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเดินทางของผู้คน นำมาสู่การคิดค้นนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์รูปแบบใหม่ๆ ทั้งการวิจัยพัฒนาระบบขับเคลื่อนต่างๆ ที่มีคุณลักษณะแตกต่างกัน รองรับการใช้งานพลังงานได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางของผู้คนด้วยยานยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม สามารถใช้งานได้จริง และเหมาะสมกับโครงสร้างพื้นฐานแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้ เพื่อศึกษาในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ตลอดจนการรับรู้ของผู้คน และพฤติกรรมการใช้งาน ภายใต้สภาพแวดล้อมจริงในประเทศไทย โตโยต้าจึงได้เริ่มโครงการทดลองเพื่อศึกษาวิจัยข้อมูลดังกล่าว ภายใต้ “โครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ” ณ เมืองพัทยา โดยร่วมกับพันธมิตรในภาคส่วนต่างๆ อาทิ องค์กรที่มีความเชี่ยวชาญด้านพลังงาน ตลอดจนภาครัฐ และผู้ประกอบการในจังหวัดชลบุรี ร่วมจัดสร้าง ระบบนิเวศเพื่อรองรับการใช้งานยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในระบบส่งกำลังที่หลากหลาย ภายใต้แนวทาง Multi Pathway สำหรับให้ชุมชนและนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยาได้ทดลองใช้งานในทุกรูปแบบการเดินทาง ประกอบด้วย การเดินทางระยะสั้น (Last mile) ด้วยรถยนต์โตโยต้า รุ่นซีพลัส พอด (C+Pod) การเดินทางระยะกลาง (Inter City) ด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) ตลอดจนการประสานความร่วมมือในการเปิดสถานีไฮโดรเจนแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อนำมาเป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) รุ่นโตโยต้า มิไร ที่โตโยต้านำมาสาธิตการใช้งานในรูปแบบของ การเดินทางระยะไกล (Long Distance) รับส่งระหว่างสนามบินอู่ตะเภา เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจในพื้นที่พัทยา – ชลบุรี

ในวันนี้ โตโยต้าได้ส่งมอบรถกระบะไฟฟ้า Hilux Revo-e สำหรับทดลองให้บริการในรูปแบบรถสองแถวโดยสารประจำทางสาธารณะ (Fixed Route) ในพื้นที่เมืองพัทยา ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 – ธันวาคม 2568 โดยจะมีการส่งมอบเป็นจำนวนทั้งสิ้น 12 คัน ภายใต้โครงการฯ อันจะเป็นประโยชน์ในการวางรากฐานระบบขนส่งสาธารณะของเมืองพัทยา ให้มีความทันสมัยและปราศจากมลภาวะต่อไป

ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวและประชาชนในเมืองพัทยาให้ความสนใจใช้บริการรถยนต์พลังงานทางเลือกของโตโยต้าที่ส่งรถเข้าร่วมโครงการฯไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 4,500 ครั้ง รวมเป็นระยะทางกว่า 335,000 กิโลเมตร อันเป็น ส่วนสำคัญเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากการเดินทางในเมืองพัทยา ซึ่งตั้งเป้าตลอดระยะเวลาโครงการ อยู่ที่ 4,225 ตัน ภายในปี 2568

นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ในวันนี้ เราได้ เติมเต็มทุกการขับเคลื่อน เพื่อเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ ภายใต้แนวทาง Multi Pathway โดยการนำรถกระบะ Hilux Revo-e มาดัดแปลงเป็นรถสองแถว เพื่อให้บริการแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ทั้งนี้ ต้องขอบคุณความร่วมมือจากพันธมิตรทุกภาคส่วน ที่ให้ความร่วมมือในการผลักดันพัทยาให้เป็นต้นแบบเมืองอัจฉริยะของไทย ในด้านการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันเป็นส่วนสนับสนุนเป้าหมายของประเทศ ในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ต่อไป”

                       “โตโยต้า ร่วมขับเคลื่อนอนาคต”

มาสด้า2 พิชิตรางวัลนวัตกรรมสินค้าและบริการยอดเยี่ยมแห่งปี

มาสด้า2 พิชิตรางวัลนวัตกรรมสินค้าและบริการยอดเยี่ยมแห่งปี 2 ปีติดต่อกันด้วยดีไซน์สง่างาม เทคโนโลยีสกายแอคทีฟล้นคัน

รถยนต์นั่งซิตี้คาร์มาสด้า2 ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟและความสง่างามดุจงานศิลปะชิ้นเอกจากการออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ คัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม จนสามารถคว้ารางวัล Product Innovation Awards 2024 หรือ รางวัลสุดยอดสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมแห่งปี 2567 เป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จในด้านนวัตกรรมสินค้าและบริการ ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ – Innovation the products with Intelligence Technology” จากนิตยสาร Business+ เป็นปีที่สองติดต่อกัน โดย นายอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปส่วนงานประชาสัมพันธ์ แผนกการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนรับมอบจาก ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี ประธานในพิธีมอบรางวัล ณ ห้องบอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้า2 พร้อมแนวคิด “Express Your Identity เลือกต่างในแบบเรา” ยังคงรักษาเอกลักษณ์การเป็นซับคอมแพ็คคาร์ที่ดีที่สุดในตลาด ที่ส่งมอบคุณค่ามากกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเจเนอเรชั่น Z ซึ่งถือเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของประเทศที่จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตและเป็นผู้นำเทรนด์ใหม่ๆ โดยลูกค้ากลุ่มนี้กำลังมองหาความหลากหลายในการดำเนินชีวิต เลือกในสิ่งที่เหมาะกับตนเองและกล้าที่จะแตกต่าง มาสด้าจึงยกระดับให้ก้าวล้ำขึ้นไปอีกในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะดีไซน์ภายนอกและภายในใหม่ มีให้เลือกถึง 83 ดีไซน์ ทั้งรูปลักษณ์ การเลือกใช้สีภายนอกและภายใน รวมถึงอุปกรณ์ที่นำมาตกแต่งในแต่ละรุ่น เพื่อให้ตอบโจทย์ความแตกต่างของลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย รวมถึงเหมาะกับบุคลิกและสะท้อนความชื่นชอบของลูกค้าได้อย่างลงตัว ด้วยดีไซน์และองค์ประกอบที่ครบถ้วนสมบูรณ์เหล่านี้จะทำให้มาสด้า2 เป็นรถยนต์นั่งซิตี้คาร์ที่มอบคุณค่าและบ่งบอกรสนิยมอันมีเอกลักษณ์ของลูกค้าได้อย่างชัดเจน

รถยนต์นั่งมาสด้า2 ยังคงเอกลักษณ์ความโดดเด่นด้านสมรรถถนะการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ ที่มีให้เลือกถึง 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร (SKYACTIV-G) ที่ให้ทั้งสมรรถนะความแรง และการขับขี่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร (SKYACTIV-D) ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟไดรฟ์ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างสนุกสนานและราบรื่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังโดดเด่นด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง (GVC Plus) ที่ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยําและสมดุลเพื่อให้ผู้ขับรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพื่อมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่ง รวมถึงราคาที่คุ้มค่า เริ่มต้นเพียง 599,000 บาท จึงทำให้รถมาสด้า2 ได้รับความนิยมและครองใจผู้บริโภคในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน

นอกจากนี้มาสด้า2 ยังคงถ่ายทอดเอกลักษณ์ของการเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มอบคุณค่าเกินความคาดหวังให้กับลูกค้าด้วยความสะดวกสบายจากการขับขี่ ด้วยท่านั่งที่เป็นธรรมชาติและมีวิสัยทัศน์ในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม พร้อมยังช่วยให้เพลิดเพลินกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และไม่พลาดทุกการติดต่อด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัด Mazda Connect ที่รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android AutoTM ผ่านหน้าจอ Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบควบคุมความเร็วคงที่ หรือ Cruise Control และยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง

มาสด้าให้คำมั่นว่าจะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อส่งมอบประสบการณ์อันเป็นที่น่าปรารถนาให้กับลูกค้า ควบคู่กับการช่วยรักษ์โลกของเราให้คงอยู่และเติบโตอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ระยะกลาง Sustainable Zoom-Zoom 2030 เพื่อโลกของเราที่ยังคงความสวยงามตลอดไป เพื่อคุณภาพชีวิตของผู้คนให้มีความสุขยิ่งขึ้น และเพื่อสังคมที่น่าอยู่ตลอดไป

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ผงาดคว้าแชมป์ไทยลีก 2 สุดยิ่งใหญ่

สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, จังหวัดนครราชสีมา, 24 เมษายน 2567 – หลังจากมาสด้าประกาศหนุนสวาทแคทต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 เพื่อลงสู้ศึกไทยลีก 2 ตลอดฤดูกาลนี้ เพราะมาสด้ายังคงเชื่อมั่นในสปิริตความเป็นนักสู้ของทีม ส่งผลให้แมตช์ก่อนสุดท้ายที่เดิมพันด้วยตำแหน่งแชมป์ เจ้าแมวพิฆาตก็ไม่ทำให้แฟนบอลชาวโคราชผิดหวัง ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะทีมหนองบัว พิชญ เอฟซี คู่แข่งสำคัญที่กำลังเบียดกันลุ้นแชมป์ไปสุดมัน 3-0 ผงาดคว้าแชมป์ ครองความยิ่งใหญ่ท่ามกลางแฟนบอลเข้าชมเต็มสนามกว่า 25,000 คน ที่เดินทางมาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม พร้อมกลับขึ้นสู่ไทยลีกอีกครั้งในฤดูกาลหน้า

มาสด้าส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาฟุตบอลของประเทศไทย ด้วยการสนับสนุนทีมสวาทแคทมาตั้งแต่สมัยที่ยังเล่นอยู่ในไทยลีก 2 จนทีมสามารถก้าวขึ้นสู่ไทยลีกซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศในฐานะแชมป์ รวมระยะเวลากว่า 11 ปี และโลดแล่นอยู่ในไทยลีกนานถึง 9 ปี แต่เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาทีมสวาทแคทหล่นลงมาเล่นในไทยลีก 2 แต่ทั้งนี้ทางผู้บริหารสโมสรฯ ประกาศชัดเจนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับบรรดาแฟนๆ แมวพิฆาต : นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ว่าปีนี้จะต้องกลับขึ้นสู่ไทยลีกให้ได้อีกครั้ง และก็ทำได้สำเร็จพร้อมสร้างความสุขให้กับแฟนบอลด้วยการคว้าแชมป์ไทยลีก 2 มาได้อย่างสวยสดงดงาม โดยไม่แพ้ทีมใดในบ้านถึง 17 นัด และเสียประตูน้อยกว่าทุกทีมตลอดฤดูกาล ซึ่งแมตช์สุดท้ายจะออกไปเยือนทีมจันทบุรี เอฟซี ในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 นี้ คิกออฟพร้อมกันทั้ง 9 คู่ เวลา 18.00 น.

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แมตช์นี้นับเป็นนัดสำคัญยิ่งต่อการตัดสินแชมป์ประจำฤดูกาล มีแฟนบอลหลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศเข้าชมการแข่งขันในแมตช์นี้มากสุดถึง 24,556 คน ซึ่งทีมสวาทแคท : นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ยังคงครองสถิติอันดับหนึ่งที่มีผู้เข้าชมเกมมากที่สุด วันนี้ทุกคนในทีมต่างร่วมแรงร่วมใจกันลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ด้วยพลังศรัทธาและเชื่อมั่นในสปิริตความเป็นนักสู้ของทุกคนในทีม ซึ่งเป็น ดีเอ็นเอเฉกเช่นเดียวกับชาวมาสด้า เราไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรคและเชื่อมั่นในสปิริตความเป็นนักสู้ พร้อมฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มากว่า 100 ปี และอยู่เคียงข้างคนไทยมาถึง 73 ปี และเราจะยังคงอยู่เคียงข้างสังคมไทยตลอดไป มาสด้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนวงการฟุตบอลไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ฟุตบอลเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของผู้คน ไม่ใช่เฉพาะกับชาวโคราชเท่านั้น แต่รวมถึงคนไทยทั้งประเทศ

สำหรับการแข่งขันแมตช์สำคัญในครั้งนี้ มีบุคคลสำคัญๆ ที่เดินทางมาให้กำลังใจนักเตะของทีมอย่างคับคั่ง ประกอบไปด้วย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษา, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานบริหาร และคณะผู้บริหารของสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พร้อมด้วยผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ รวมถึงเหล่าบรรดานักเตะแมวพิฆาต ทีมสตาฟโค้ช ฝ่ายเทคนิค และนักฟุตบอลเยาวชนจากอะคาเดมี่ ร่วมชมและเชียร์แมตช์นี้จนล้นสนาม

ตลอดเกมการแข่งขันทั้งสองทีมสู้กันสุดเร้าใจท่ามกลางกองเชียร์กว่า 25,000 คน หลังจบเกมการแข่งขันทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เป็นฝ่ายเอาชนะทีมหนองบัว พิชญ เอฟซี ไปได้ 3-0 คว้าแชมป์ไทยลีก 2 มาครองอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีพิธีมอบถ้วยฉลองแชมป์สุดอลังการ และได้รับเกียรติอย่างสูงจาก มาดามแป้ง : นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่เดินทางมาร่วมชมการแข่งขันและมอบถ้วยเกียรติยศในครั้งนี้

“ลามิน่า” คว้ารางวัลความสำเร็จสูงสุดระดับเอเชีย

“ลามิน่าฟิล์ม” ฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคารอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค รับรางวัล Thailand’s Outstanding Brands 2023 หรือรางวัลแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจสูงสุดต่อเนื่อง ประจำปี 2566 จากเวทีระดับเอเชีย ในงาน 2023 Asia CEO Award Ceremony (Thailand) จัดโดย อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ ประเทศสิงคโปร์ และบริษัท นีโอ ทาร์เก็ต จำกัด ประเทศไทย

นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.เทคโนเซล (เฟรย์) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์และอาคารลามิน่า รับรางวัล Thailand’s Outstanding Brands 2023 รางวัลแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจสูงสุดต่อเนื่อง ประจำปี 2566 จากเวทีระดับเอเชีย

บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์และอาคาร “ลามิน่า” จากสหรัฐอเมริกา โดย นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับรางวัลแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจสูงสุดต่อเนื่อง ด้วยการบริหารจัดการองค์กรที่แข็งแกร่ง มีวิสัยทัศน์ชัดเจน มีแผนการขยายธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม มีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องและโดดเด่น

การมอบรางวัลสุดยอดแบรนด์ชั้นนำที่ทรงอิทธิพลในเอเชียจัดขึ้นเป็นปีที่ 12 โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณารางวัลดังนี้ หนึ่ง ส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ในอุตสาหกรรม (Brand Market share) สอง การสร้างตัวตนในใจลูกค้า (Brand Presence) ในสื่อออนไลน์และออฟไลน์ สาม ความเสมอต้นเสมอปลายในการทำกิจกรรมของแบรนด์ (Brand Consistency) ในสื่อออนไลน์และออฟไลน์

นอกจากนี้บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงมืออาชีพระดับเอเชียแปซิฟิค ยังนำเข้าผลิตภัณฑ์ด้านยานยนต์อีกมากมาย อาทิ อุปกรณ์บรรทุกสัมภาระธูเล่ (Thule) จากประเทศสวีเดน ผลิตภัณฑ์ฟิล์มนิรภัยปกป้องสีรถลูมาร์ (LLumar) จากสหรัฐอเมริกา และผลิตภัณฑ์ดูแลรักษายานยนต์ครบวงจรแอลลักซ์ (LLux) คุณภาพเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

Toyota Gazoo Racing Thailand 2024 พร้อมระเบิดความมันทั้ง 5 สนามทั่วไทย

Toyota Gazoo Racing Thailand 2024 พร้อมระเบิดความมันทั้ง 5 สนาม นำสู่แนวคิด “ถนนสร้างคนและคนสร้างรถ” กับการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นายสนธยา คุณปลื้ม นายกราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์และนายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมแถลงข่าวการจัดกิจกรรม “Toyota Gazoo Racing Thailand 2024” เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ณ TOYOTA ALIVE ถ.บางนา-ตราด กม. 3

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เริ่มบุกเบิกวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ด้วยเจตนารมณ์ที่จะยกระดับและเพิ่มความนิยมในกีฬาประเภทนี้ให้แพร่หลาย ไม่ว่าจะด้วยการจัดการแข่งขัน ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน และให้การสนับสนุนให้แก่ผู้ที่มีความฝัน ตั้งแต่ระดับเยาวชน ไปจนถึงนักแข่งระดับอาชีพ ให้ได้มีโอกาสสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ จากความทุ่มเทในการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างต่อเนื่อง โตโยต้าได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในวงการนี้อย่างแท้จริง

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า “สำหรับโตโยต้า มอเตอร์สปอร์ตคือรากฐานในการสร้างยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า เราตระหนักว่า สภาพแวดล้อมที่สุดขีดของมอเตอร์สปอร์ต คือสนามที่ “รถลงวิ่ง เกิดปัญหาและมีการแก้ไขปรับปรุง จนเป็นรถที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม” และการเข้าการแข่งขัน จะช่วยพัฒนาเทคโนโลยีให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะสะท้อนมายังไลน์อัพของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย ให้กับลูกค้าของเรานั่นเอง”

“ในประเทศไทย ปีนี้เป็นปีที่โตโยต้ามอเตอร์สปอร์ต ดำเนินกิจกรรมเป็นปีที่ 38 เรามุ่งสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับคนไทย ผ่านความมุ่งมั่น เพื่อสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า ปัจจุบัน เราร่วมมือกับ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (TMC) ที่ประเทศญี่ปุ่น และ โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย (TMA) เพื่อพัฒนายนตรกรรม ภายใต้สนามแข่งมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย”

“นอกจากนั้น เราขอเปิดตัวรถ 3 คัน ที่ล้วนใช้เชื้อเพลิงที่ความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใต้กลยุทธ์ความหลากหลายด้านทางเลือก เริ่มจาก Yaris e-fuel และ Ativ e-fuel ที่จะเข้าร่วมรายการ Yaris One Make Race และยังมี Yaris e-fuel ที่จะร่วมรายการ Thailand Super Series รวมถึง Altis e-fuel จะร่วมรายการ Idemitsu Super Endurance ขอให้ทุกท่านร่วมส่งกำลังใจและสนับสนุนนักแข่งจากทีมแข่ง Toyota Gazoo Racing Thailand กันนะครับ”

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงการแข่งขันในปีนี้ว่า “ปีนี้ Toyota ยกระดับกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตไปอีกขั้น ผ่านความร่วมมือระหว่างวิศวกรชาวไทย จากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย (TMA) และทีมแข่ง Toyota Gazoo Racing Thailand ร่วมกันศึกษาและพัฒนาสมรรถนะรถในสนามแข่งจริง เราได้เตรียมรถทั้งหมด 4 รุ่น New Hilux Champ, New Hilux REVO GR Sport Wide Tread, Corolla Altis e-fuel, Yaris e-fuel เพื่อเข้าแข่งขันในรายการต่างๆ เช่น  Thailand Super Series, Asia Cross Country Rally และ Idemitsu Super Endurance โดยผลการศึกษาวิจัยรถ ภายใต้สภาวะแบบสุดขีดจากสนามแข่งจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนารถยนต์โตโยต้าในอนาคตเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าคนไทยได้อย่างดีที่สุด

“และในส่วนของกิจกรรม โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ 2024 เรายินดีที่จะมอบความสนุกสนาน ให้กับผู้ที่ชื่นชอบรถและกีฬามอเตอร์สปอร์ต โดยจะจัดกิจกรรมในรูปแบบ เฟสติวัล ซึ่งจะมีทั้งการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ One Make Race และกิจกรรม Entertainment มากมาย เริ่มจากการแข่งขัน One Make Race มีรถที่จะลงพิสูจน์สมรรถนะทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Yaris ATIV Lady One Make Race, YARIS One Make Race, New Hilux REVO One Make Race และ Corolla ALTIS GR Sport One Make Race เรายังคงมุ่งมั่นส่งเสริม ความเป็นกลางทางคาร์บอน ในกีฬามอเตอร์สปอร์ต โดยมีการเพิ่มรถแข่ง Yaris Ativ ที่ใช้น้ำมัน e-fuel ซึ่งจะขับโดย “น้องพิชชา มิย่า ทองเจือ” และ ยังมีนักแข่ง Toyota Gazoo Racing Star Team คนใหม่ “น้อง ป๊าย ปาย โอริโอ้” Influencer ชื่อดังที่จะใช้รถ Yaris e-fuel ร่วมแข่งขันในรายการ Yaris OMR

นายศุภกร กล่าวถึงกิจกรรมความบันเทิงในปีนี้ว่า “นอกจากความเข้มข้นในสนามแข่งแล้ว แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตจะได้พบกับ กิจกรรม GR Performance Show นำทีมโดยนักขับมืออาชีพระดับเอเชีย มาโชว์สมรรถนะของรถ ในรูปแบบ Drift และ Gymkhana และ กิจกรรม lifestyle ใหม่ๆ อาทิ GR Night Festival ตลอดจนเหล่า influencer ชื่อดังมาช่วยสร้างสีสันในการแข่งขัน ณ สนามบางแสน ภูเก็ต และเชียงใหม่ ห้ามพลาดกันนะครับ!”

นอกจากนี้ นายศุภกรยังเชิญชวนเยาวชนที่สนใจในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ได้มีส่วนร่วม “เรายังร่วมกับ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น สนับสนุนกีฬา e-Motorsports จัดการแข่งขัน ชิงแชมป์ Toyota Gazoo Racing GT Cup 2024 ผ่านเกมส์แข่งรถชื่อดัง Gran Turismo 7 เฟ้นหาสุดยอดเยาวชนนักแข่งจากประเทศไทย ไปร่วมประลองฝีมือในเวทีระดับโลก เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกีฬามอเตอร์สปอร์ตใน โอกาสนี้ ผมขอเชิญชวน เหล่าเกมเมอร์สมัครเข้าร่วมแข่งขันได้ที่ Website : toyotagazooracing.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และขอให้ทุกท่านร่วมกันเชียร์ นักกีฬา e-Motorsport ชาวไทย เพื่อเป็นตัวแทนในระดับเอเชียแปซิฟิกและระดับโลก 

“ผมมั่นใจว่า กิจกรรม Toyota Gazoo Racing Thailand ในปีนี้ จะมอบรอยยิ้ม และความสุข ให้กับลูกค้าชาวไทยทุกท่าน สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณ การกีฬาแห่งประเทศไทย ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย YOKOHAMA / Modellista โดย TCD Asia / LENSO / ARTO / Singha Corporation และพี่น้องสื่อมวลชนทุกท่าน ที่ร่วมสนับสนุน กิจกรรม Toyota Gazoo Racing Thailand มาโดยตลอด Let’s Build Future Together”

Toyota Gazoo Racing Thailand 2024 “MAKE EVER-BETTER CARS” From Circuit to the Road       

โตโยต้าจัดการแข่งขัน โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต ภายใต้ปรัชญา “ถนนสร้างคน และคนสร้างรถ” (Roads build people, and people build cars) มุ่งสู่เป้าหมายในการสร้างสรรค์ “ยนตรกรรม ที่ดียิ่งกว่า” (MAKE EVER-BETTER CARS) โดยปีนี้เราร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ในการเรียนรู้พัฒนาคนและพัฒนารถยนต์ในอนาคต ทั้ง Hilux Champ ที่พัฒนาเพื่อลงแข่งขันในรายการ Thailand Super Series และ New Hilux REVO GR Sport Wide tread เพื่อร่วมแข่งในรายการ Asia Cross Country Rally โดยเราศึกษาพัฒนาจากสภาวะแวดล้อมของประเทศไทย เพราะเราเชื่อว่า ประสบการณ์และการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับรถในสนาม จะนำไปสู่การพัฒนารถยนต์ที่มีสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ โตโยต้ายังสนับสนุนทีมแข่ง Toyota Gazoo Racing Thailand เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนารถผ่านการแข่งขันในรายการต่างๆ ตอบสนองต่อแนวคิด MAKE EVER-BETTER CARS และยกระดับการแข่งขัน ด้วยการนำรถแข่งขุมพลังงานที่เป็นกลางทางคาร์บอน อีกหนึ่งทางเลือกของพลังงานแห่งอนาคต เข้าร่วมแข่งขัน

พบความสนุกสนานเร้าใจของกิจกรรม Toyota Gazoo Racing Thailand 2024 ภายใต้แนวคิด “MAKE EVER BETTER CARS” Form Circuit to the Road กับรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ One Make Race ทั้ง 4 รุ่น

-Yaris ATIV Lady One Make Race รถ ECO Sedan ยอดนิยม มอบความสนุกสนาน เร้าใจ ด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซิน 1,200 ซีซี. Dual VVT-i กับ สำหรับนักแข่งหญิงที่ชื่นชอบความเร็ว โดยในปีนี้ ยังได้สาวสวยจาก “Toyota Racing Star Team” น้อง “พิชชา มิย่า ทองเจือ” ร่วมลงแข่งด้วยรถ ATIV e-fuel คันใหม่

-YARIS One Make Race Hatchback ECO Car ยอดนิยม Toyota YARIS รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน 1,200 ซีซี. Dual VVT-i สำหรับนักแข่งระดับ Entry โดยปีนี้มีนักแข่งหน้าใหม่ “ป๊าย ปาย โอริโอ” ศิลปิน อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง มาเป็นสมาชิก Toyota Racing Star Team คนใหม่ พร้อมเปิดประสบการณ์ความเป็นกลางทางคาร์บอนในรายการนี้ ด้วยรถแข่ง YARIS e-fuel

-Hilux REVO One Make Race เร้าใจกับสมรรถนะของรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ขับเคลื่อนด้วยพลังเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล GD Super Power 2,400 ซีซี. กับบทพิสูจน์ความแกร่ง ทนทาน และช่วงล่างที่เกาะถนนแม่นยำ สำหรับนักแข่งสายดีเซล ที่ชื่นชอบความดิบ หนักแน่น ดุดัน

-Corolla ALTIS GR Sport One Make Race Signature แห่งคุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือที่ไม่มีใครเทียบด้วย QDR : Quality Durability Reliability สนุกสุดเหวี่ยงกับพลังของเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-i 1,800 ซีซี. และโครงสร้าง TNGA ที่ลงตัวทั้งสมรรถนะเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง ระบบบังคับเลี้ยว ระบบเบรก โดยได้หนุ่มปังปอนด์ อัครวุฒิ ขยับมาร่วมลงแข่งในรุ่น

ส่งความสุขให้คนไทยด้วยกิจกรรมแบบจัดเต็ม สำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต เยาวชนรุ่นใหม่ และผู้มีความหลงใหลในรถ

-ยกพลทัพนักแข่งระดับเอเชีย โชว์ดริฟท์และGymkhana พร้อมกิจกรรมความบันเทิงแบบ beach lifestyle ณ การแข่งขันสนามที่ 2 จังหวัดภูเก็ต

-GR Night Festival พร้อมโชว์ดริฟท์และ Gymkhana โดยนักแข่งระดับเอเชีย จัดเต็มความบันเทิงสำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต ในบรรยากาศหลังอาทิตย์ตกดิน ณ การแข่งขันสนามที่ 4 จังหวัดเชียงใหม่

-Exclusive Meet & Greet กับสมาชิก Toyota Racing Star Team “พิชชา มิย่า ทองเจือ” “ปังปอนด์ อัครวุฒิ” และ “ป๊ายปาย โอริโอ” ที่จะมาพบปะแฟนๆ และสร้างสีสัน ณ การแข่งขันทั้ง 5 สนาม

-พบสีสันความบันเทิงอื่นๆ รวมถึงร้านอาหาร ร้านอุปกรณ์ตกแต่ง พร้อมโปรโมชันจากผู้แทนจำหน่าย และความสนุกสนานพร้อมของแจกเพียบ จาก Yokohama, Modellista, Lenso และ Singha

การแข่งขัน e-Motorsports ชิงแชมป์ “Toyota Gazoo Racing GT Cup 2024” ส่งเสริมเยาวชนรุ่นใหม่ให้มีส่วนร่วมกับมอเตอร์สปอร์ตมากขึ้น

กลับมาอีกครั้ง กับการเฟ้นหาสุดยอดนักแข่งเกมส์แข่งรถชื่อดัง Gran Turismo 7 บนเครื่อง Play Station ชิงแชมป์ถ้วย Toyota Gazoo Racing GT Cup 2024 และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมประลองฝีมือ ในระดับเอเชียแปซิฟิกและระดับโลก เกมเมอร์ไทยที่สนใจประลองฝีมือ สามารถสมัครเข้าร่วมลงแข่งขันได้ที่ www.toyotagazooracing.com ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

สัมผัสความสนุกสนาน เร้าใจของ “Toyota Gazoo Racing Thailand 2024”                               ทั้ง 5 สนาม ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

-เปิดการแข่งขันสนามแรก            วันที่ 5-7 กรกฎาคม           ชลบุรี

-สนามที่ 2                             วันที่ 3-4 สิงหาคม             ภูเก็ต

-สนามที่ 3                             วันที่ 13-14 กันยายน          บุรีรัมย์

-สนามที่ 4                              วันที่ 9-10 พฤศจิกายน       เชียงใหม่

-ชิงแชมป์ประจำปีสนามสุดท้าย   วันที่ 19– 20 ธันวาคม          บุรีรัมย์

ติดตามทุกความมันส์และความเคลื่อนไหว

Toyota Gazoo Racing Thailand 2024” ได้ที่

FB: Toyota GAZOO Racing Thailand

TikTok: tgr.thailand

Instagram: tgrthailand

โตโยต้า ผู้สนับสนุนหลักเแบดมินตัน TOYOTA Thailand Open 2024

โตโยต้า ผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติ “TOYOTA Thailand Open 2024” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักแบดมินตันไทยคว้าชัยโอลิมปิก

นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย คุณอังสุรัศมิ์ ฤกษ์ถวิลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย คุณกรรศ์ฉัตร ฟูพร้อมวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟาร์อีสท์สเปเชียลลิตี้ จำกัด และคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมแถลงข่าวจัดการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติ รายการ “TOYOTA Thailand Open 2024” การแข่งขันในระดับ HSBC BWF World Tour Super 500 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ณ โรงแรมอโนมาแกรนด์ กรุงเทพฯ

นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวในการแถลงข่าวว่า “ในนามของบริษัทฯ มีความยินดีอย่างภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและพัฒนาวงการกีฬาแบดมินตันในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยการแข่งขันรายการนี้นอกจากจะเป็นการแข่งขันระดับเวิร์ลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ซึ่งเป็นรายการใหญ่โดยจะมีนักกีฬายอดฝีมืออันดับต้นๆ ของโลกรวมทั้งนักกีฬาดาวรุ่งรุนใหม่ที่กำลังเป็นทีน่าจับตามองมาร่วมชิงชัยให้กับแฟนแบดมินตันชาวไทยได้สัมผัสอย่างไกล้ชิดถึงในประเทศไทย

โตโยต้าเชื่อมั่นว่าการจัดการแข่งขันในประเทศไทยครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้นักกีฬาไทยได้แสดงศักยภาพและสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยให้หันมาสนใจเล่นกีฬาแบดมินตันให้มากยิ่งขึ้น และขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยเข้าชมการแข่งขันและร่วมเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาของไทยในการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย”

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีความภาคภูมิใจในการเป็นผู้สนับสนุนหลักสำหรับการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติ TOYOTA Thailand Open 2024 ในปีนี้ ร่วมกับสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้แฟนกีฬาแบดมินตันไทยได้ชม และเชียร์ทัพนักกีฬาไทย พร้อมสร้างผลงานให้กับนักกีฬาระดับโลกถึงในประเทศไทย โดยทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 14-19 พฤษภาคม 2567 นี้ ณ อาคารกีฬานิมิบุตร สถามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ บริษัท โตโยต้าฯ และสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ร่วมสร้างความพิเศษของการแข่งขันในครั้งนี้ จากการที่ทัพนักกีฬาแบดมินตันไทยสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้ครบทั้ง 5 ประเภท โดยจะขอมอบรถยนต์โตโยต้า ยาริส เอทิฟ รุ่น สปอร์ต จำนวน 1 คันและรางวัลอื่นๆ ให้กับแฟนแบดมินตันชาวไทยผู้โชคดีที่ได้ซื้อบัตรและไปร่วมส่งกำลังใจให้นักกีฬาของเราถึงในสนามการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 19 พฤษภาคม 2567 นี้ อีกด้วย

                       “โตโยต้า ร่วมขับเคลื่อนอนาคต”

ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่

https://www.toyota.co.th

Facebook: Toyota Motor Thailand LINE ID: @ToyotaThailand

มิตซูบิชิ แต่งตั้งผู้บริหารใหม่ เดินทัพสร้างการเติบโต

มิตซูบิชิ แต่งตั้งผู้บริหารใหม่ พร้อมเดินหน้าเสริมทัพ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรอย่างต่อเนื่องและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศแต่งตั้ง นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ ขึ้นดำรงตำแหน่ง กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย ดูแลรับผิดชอบด้านการขายและบริการหลังการขาย รวมถึงสายงานการตลาด สายงานบริหารประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมการบริการ พร้อมเสริมทัพด้วยสองผู้บริหารชาวญี่ปุ่นที่จะร่วมสนับสนุนการทำงาน ได้แก่ มร.ทะอิจิ นาคาจิมะ ในตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานขายและการตลาด และ นางสาวริสึโคะ คาเนะโคะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมการบริการ โดยมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 

นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ ได้สั่งสมประสบการณ์การทำงานมาอย่างยาวนาน จนเป็นที่ยอมรับในความมุ่งมั่นทุ่มเท ความเฉียบคมทางธุรกิจ รวมถึงทักษะความเป็นผู้นำที่ดี โดยก่อนหน้านี้ ได้ดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานขาย บริการหลังการขาย และการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย นับตั้งแต่ปี 2564 และในปัจจุบัน ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย เพื่อดูแลรับผิดชอบในการยกระดับและสร้างความแข็งแกร่งด้านการขายและบริการหลังการขาย รวมถึงสายงานการตลาด สายงานบริหารประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมการบริการ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรอย่างต่อเนื่องและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า

ขณะที่ มร.ทะอิจิ นาคาจิมะ ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานขายและการตลาด เพื่อดูแลรับผิดชอบในด้านการปฏิบัติการขาย ฝ่ายบริหารการขาย ฝ่ายพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ และฝ่ายการศึกษาและฝึกอบรม ซึ่งครอบคลุมสถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และศูนย์ฝึกอบรมของภูมิภาคอาเซียน โดย มร.นาคาจิมะ ได้เริ่มต้นทำงานกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ในปี 2541 ทางด้านกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ ในภูมิภาคยุโรป ก่อนที่จะได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบในหลากหลายตลาดต่างประเทศ ได้แก่ รัสเซีย, ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนากลยุทธ์การขายและการดำเนินการด้านการตลาด

ด้วยความเชี่ยวชาญในงานบริหารประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมการบริการ นางสาวริสึโคะ คาเนะโคะ เริ่มต้นทำงานกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ตั้งแต่ปี 2540 และได้สั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทางด้านการปรับปรุงพัฒนาการขายในประเทศญี่ปุ่น งานวางแผนการตลาดระหว่างประเทศและงานบริหารการสื่อสารกับลูกค้า โดยในปัจจุบัน ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมการบริการ เพื่อดูแลรับผิดชอบฝ่ายสื่อสารการตลาด ฝ่ายกลยุทธ์ดิจิทัล ฝ่ายบริหารลูกค้าสัมพันธ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รวมถึงฝ่ายบริการหลังการขาย ฝ่ายอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่ง และฝ่ายบริการข้อมูลเทคนิค

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ให้ความสำคัญกับประเทศไทยในฐานะตลาดที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ การเสริมทัพผู้บริหารในครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทย รวมถึงระดับภูมิภาคและระดับโลก ทั้งนี้ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหัวใจสำคัญด้านยุทธศาสตร์ทั้งในเชิงธุรกิจและศูนย์กลางการผลิตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ที่ผ่านมาจึงได้มีการขับเคลื่อนแผนการเติบโตผ่านการลงทุนสำคัญๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การลงทุนในสายการผลิตใหม่สำหรับออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่ประกอบด้วยหุ่นยนต์อัจฉริยะมากกว่า 250 ตัว และการผลิตเครื่องยนต์ใหม่ “ไฮเปอร์เพาเวอร์” ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ในปี 2566 และ การลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อเปิดตัวโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ที่แหลมฉบัง ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในปี 2565

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนการลงทุน ด้วยงบกว่า 500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาสายการผลิตที่โรงงานประกอบรถยนต์ ณ แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า xEV โดยเริ่มจาก เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ไปพร้อมกับรถยนต์อีโคคาร์ที่ผลิตอยู่เดิม

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถยนต์ที่พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเติมเต็มความสนุกเร้าใจในการการขับขี่ เพื่อปลุกจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นจากเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ภายใต้ดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) ด้วยปณิธานที่จะสร้างความเติบโตและพัฒนาไปพร้อมกับสังคมไทยและลูกค้าคนพิเศษ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save