- Advertisement -
30 C
Bangkok
Home Blog Page 57

TOPAZ Detailing จับมือ TTC Motor หนุนกิจกรรม HCD Track Day

โทพาซ ดีเทลลิ่ง ประเทศไทยร่วมกับ TTC Motor ให้การสนับสนุน กิจกรรม HCD Track Day ณ สนาม Chang International Circuit จังหวัดบุรีรัมย์

บริษัท โทพาซ ดีเทลลิ่ง ประเทศไทย จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาด ดูแล ปรับสภาพ รวมถึงการติดตั้งฟิล์มปกป้องสีรถยนต์ระดับ Hi-End จากประเทศอังกฤษ ให้การสนับสนุนกลุ่ม HCD (Hard core Drive) ในกิจกรรม HCD Track Day เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

พร้อมด้วย TTC Motor เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำรถยนต์ Mercedes-AMG SL 43 Mercedes-AMG G 63 และ Mercedes-AMG EQE 53 ให้สมาชิกกลุ่มได้ ยลโฉม ยนตรกรรมทรงสมรรถนะ และทดลองขับ

นอกจากนี้ คุณอัครินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีซี มอเตอร์ จำกัด นำรถไฮไลท์สุดพิเศษ ที่หลายๆ ท่านพลาดไม่ได้เลยกับรถยนต์ Mercedes-AMG GT Black Series รถสปอร์ตทรงพลังในตระกูล AMG ให้ทุกท่านได้ยลโฉม ความเท่ สปอร์ต เร้าใจในทุกอณู

สำหรับรถที่ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทางโทพาซ ดีเทลลิ่ง ประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลและการติดตั้งฟิล์มป้องกันสีรถยนต์ที่เป็นที่หนึ่งของโลก ได้ให้การสนับสนุนของรางวัลและสนับสนุนคูปองทำความสะอาดดูแลรถระดับพรีเมียมในครั้งนี้ด้วย

Topaz Detailing ถือเป็นผู้นำในกลุ่ม Ultra Luxury Car Detailing and Protection Center ที่ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากซูเปอร์สตาร์และเซเลบริตี้จากทุกมุมโลก รวมถึงได้รับเกียรติดูแลรถยนต์ของราชวงศ์ต่างๆ ในโลก ด้วยคุณภาพและการบริการที่เหนือระดับ ให้บริการเสมือนการเสิร์ฟงานศาสตร์และศิลป์ มีการสร้างสรรค์ผลงานที่ประณีตและพิถีพิถันทุกขั้นตอน ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งภายนอกและภายใน เพื่อให้ได้มาซึ่งความงดงามและคุณภาพสูงสุดของยนตรกรรมสุดหรูทุกคัน เปรียบเสมือนผลงานศิลปะระดับ Master piece

มาสด้า ชวนคนไทยสละรถโมเดลของเล่นเติมฝันเยาวชน

มาสด้า ชวนคนไทยสละรถโมเดลของเล่นเติมฝันเยาวชน กับกิจกรรม “The Memorable Love of Cars”

มาสด้าเชื่อว่าความสุขความสนุกสนานในวัยเด็กของหลายคนยังอยู่ในความทรงจำมาตลอด วันนี้ มาสด้าขอเชิญคนไทยหัวใจสปอร์ต มาร่วมกันส่งความสุขในวัยเด็กไปให้กับเยาวชน ในกิจกรรม “The Memorable Love of Cars” เสียสละรถโมเดลของเล่นเพื่อส่งต่อความทรงจำในวัยเด็กไปสร้างความทรงจำใหม่ให้เด็กที่ขาดโอกาส และรถโมเดลของเล่นที่เสียสละเข้ามาจะถูกนำไปจัดแสดงภายในบูธมาสด้าในงานมอเตอร์โชว์ เพื่อให้ผู้ชมงานได้รับชมและสัมผัสร่วมกัน ก่อนจะถูกส่งต่อให้กับน้องๆ เยาวชนในโรงเรียนหรือมูลนิธิฯ ที่มาสด้าจัดกิจกรรม “มาสด้า ปันสุข” เป็นกิจกรรมที่ริเริ่มขึ้นเพื่อแบ่งปันสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคมไทย ผู้ที่สนใจสามารถนำรถโมเดลของเล่นที่ไม่ได้เล่นแล้ว ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ (ขนาด 1:64) นำไปส่งที่โชว์รูมมาสด้าใกล้บ้านทั่วประเทศ หรือส่งทางไปรษณีย์ เริ่ม 19 กุมภาพันธ์ 2567 ถึง 16 มีนาคม 2567 ที่สำคัญมาสด้าจะเรียนเชิญผู้ที่ส่งรถเข้าร่วมกิจกรรมเดินทางเข้าชมบูธมาสด้า และรูปแบบการจัดแสดงรถโมเดลของเล่นก่อนใคร ในงาน มอเตอร์ โชว์ รอบวีไอพี วันที่ 25 มีนาคม 2567 ระหว่างเวลา 16:00 – 18:00 น.

The Memorable Love of Cars

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าต้องการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและสร้างสรรค์สังคมแห่งอนาคตอันน่าปรารถนา ด้วยการส่งมอบรถยนต์และเทคโนโลยีให้สอดคล้องในแต่ละช่วงเวลา พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าทุกคน เราจึงเล็งเห็นความสำคัญในการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างประสบการณ์ และต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการสร้างสายสัมพันธ์อันดีร่วมกับลูกค้าในประเทศไทย ตามคุณค่าหลักของมาสด้า อันประกอบด้วย Purpose คือ เจตนารมณ์และเหตุผลหลักในการดำรงอยู่ สร้างคุณค่าและเติมเต็มความมีชีวิตชีวาให้กับผู้คนที่ได้สัมผัสกับแบรนด์มาสด้าในทุกประสบการณ์และทุกช่วงเวลาของชีวิต Promise คือ คำมั่นสัญญาจากแบรนด์ที่มีต่อลูกค้าทุกคน ยกระดับคุณค่าประสบการณ์ให้ครบทุกมิติ ทั้งด้านอารมณ์ ความรู้สึก และกายภาพ สุดท้ายคือ Values คือ การสร้างคุณค่าของแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ ทัศนคติ แนวคิด รวมถึงพฤติกรรม ให้ความสำคัญกับมนุษย์อย่างแท้จริง, มีจิตวิญญาณนักสู้, ส่งมอบความประทับใจด้วยการเอาใจใส่และเป็นมิตรโดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ Brand Value Management เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าตลอดไป

เพื่อตอบสนองต่อแนวทางดังกล่าว มาสด้าจึงปรับดีไซน์บูธจัดแสดงรถยนต์มาสด้าในงาน มอเตอร์ โชว์ 2024 ใหม่ทั้งหมด พร้อมดึงลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมในการตกแต่งบูธ กับกิจกรรม “The Memorable Love of Cars” เพื่อถ่ายทอดความมุ่งมั่นของมาสด้าในการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ที่รักในการขับขี่ และรักในรถยนต์ โดยมาสด้าได้แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ บอกเล่าเรื่องราวที่มีลูกค้าอยู่ในทุกช่วงเวลา โดยมีรถยนต์มาสด้าเป็นพาร์ทเนอร์ในทุกประสบการณ์ ตอกย้ำถึงความสำคัญที่มีลูกค้าเป็นหนึ่งในทุกการเติบโต พร้อมสื่อสารถึงอารมณ์ความรู้สึก ความสนุกในการขับขี่ ความสุขในการใช้ชีวิต และอนาคตที่รถยนต์จะมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่ชื่นชอบในรถยนต์ได้มีโอกาสแบ่งปันความทรงจำที่มีต่อรถยนต์ร่วมกัน เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกค้าและแบรนด์มาสด้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ผู้ที่สนใจร่วมบริจาครถโมเดลของเล่นให้กับน้องๆ เยาวชน สามารถนำไปบริจาคด้วยตนเองที่โชว์รูมมาสด้าใกล้บ้านทั่วประเทศ หรือส่งทางไปรษณีย์มาที่ บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เลขที่ 10 ซ.ลาซาล 56 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 (ส่งแบบเรียกเก็บเงินปลายทาง) และกรอกรายละเอียดผ่านทาง QR Code ได้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 – วันที่ 16 มีนาคม 2567 พร้อมรับสิทธิ์เข้าชมชมยนตรกรรมมาสด้ารุ่นใหม่และการจัดแสดงรถโมเดลของเล่นที่บูธรถยนต์มาสด้าก่อนใคร ในวันที่ 25 มีนาคม 2567 รอบวีไอพี ที่งาน มอเตอร์ โชว์ 2024 นี้ ตั้งแต่เวลา 16:00 – 18:00 น.

“มาสด้าเชื่อว่ารถโมเดลของเล่นที่ทุกคนสะสมย่อมมีเรื่องราวความทรงจำเกิดขึ้นมากมาย และมีคุณค่าต่อจิตใจ รถโมเดลของเล่นที่ทุกคนส่งมอบผ่านกิจกรรมในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยต่อเติมความฝันให้กับเด็กๆ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน มาสด้าขอเป็นสื่อกลางในการส่งมอบรถของเล่นครั้งนี้ รวมถึงถ่ายทอดเรื่องราว ประสบการณ์ และความฝันให้กับน้องๆ ได้รู้สึกถึงการเป็นเจ้าของรถโมเดลของเล่นเหล่านั้น มาสด้ายังคงเดินหน้าในการส่งมอบความสุขในการขับขี่ ภายใต้การบริหารคุณค่าหลักที่ให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง และมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความสุขในการดำเนินชีวิต ด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความสุขให้กับชีวิตประจำวันของลูกค้าทุกคน เพื่อให้มาสด้าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ลูกค้าภาคภูมิใจ” นายธีร์ กล่าวเพิ่มเติม

รายละเอียดเพิ่มเติมการส่งรถโมเดลของเล่นเข้าร่วมกิจกรรม “The Memorable Love of Cars” ส่งต่อความทรงจำของคุณ สร้างความทรงจำใหม่ให้กับน้องๆ

•รถโมเดลของเล่นขนาด 1:64 ไม่จำกัดรุ่นและยี่ห้อ นำมาส่งด้วยตนเองที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ หรือส่งทางไปรษณีย์มาที่ บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เลขที่ 10 ซ.ลาซาล 56 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 (ส่งแบบเรียกเก็บเงินปลายทาง) ระหว่างวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 จนถึง วันที่ 16 มีนาคม 2567 พร้อมกรอกข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านทาง QR Code ซึ่งรถโมเดลของเล่นของท่านจะถูกนำไปจัดแสดงที่บูธรถยนต์มาสด้าในงาน มอเตอร์ โชว์ 2024 และจะนำไปส่งมอบให้กับน้องๆ เยาวชนในโรงเรียนและมูลนิธิที่มาสด้าเดินทางไปส่งมอบการแบ่งปัน ภายใต้โครงการ มาสด้า ปันสุข ต่อไป

สแกน QR Code ลงทะเบียนร่วมกิจกรรม

โปรดติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของมาสด้าผ่านทางโซเชียลมีเดีย

เว็บไซต์ www.mazda.co.th และ MazdaThailandOfficial: Facebook/YouTube/Instagram/LINE

YAMAHA FINO FINAL EDITION ฉลองครบรอบ 60 ปี

YAMAHA FINO FINAL EDITION ฉลองครบรอบ 60 ปี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ Limited 999 คัน เท่านั้น!

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ฉลองครบรอบ 60 ปี ที่ยืนหยัดในการผลิตสินค้าคุณภาพ และอยู่คู่กับคนไทย ด้วยการส่งรถจักรยานยนต์ออโตเมติกโมเดลระดับตำนานอย่าง “ฟีโน่” ออกวางจำหน่ายในโอกาสสุดพิเศษนี้ นั่นคือ “YAMAHA FINO FINAL EDITION” ต้นกำเนิดแห่งรถออโตเมติกแฟชั่นจากยามาฮ่า ความคลาสสิกร่วมสมัยที่ครองใจคนไทยมากว่า 18 ปี ที่ผลิตออกมาจำหน่ายในจำนวนจำกัดเพียง 999 คัน ทรงคุณค่าด้วยโลโก้ Emblem สีทอง และเพลทระบุหมายเลขจำกัดเฉพาะแต่ละคันที่ผลิต เพิ่มความพิเศษอีกระดับด้วยหมวกกันน็อกลายพิเศษ และมั่นใจในการรับประกันมากกว่า ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร

สำหรับ “YAMAHA FINO FINAL EDITION” มาพร้อมกับเครื่องยนต์ BLUE CORE 125 ซีซี เทคโนโลยีแห่งความประหยัด เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดี ประหยัดน้ำมัน และช่วยลดมลพิษ ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบทุกจังหวะการขับขี่

“YAMAHA FINO FINAL EDITION” ยังคงเสน่ห์ความโดดเด่นด้วย ไฟหน้า LED สไตล์โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่ Diamond Cut Lens ที่นอกจากจะให้ความสว่างชัดเจนแล้ว ยังเต็มไปด้วยความคลาสสิกร่วมสมัย รวมถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครอย่าง DUO METER เรือนไมล์แยกส่วน พร้อมไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด เห็นชัดทุกองศาการมองในขณะขับขี่

นอกจากนี้ “YAMAHA FINO FINAL EDITION” ยังมาพร้อมกุญแจแบบ ANSWER BACK SYSTEM ที่สามารถเปิดช่องกุญแจได้แบบอัตโนมัติ พร้อมไฟเรืองแสง และส่งสัญญาณบอกตำแหน่งรถช่วยให้มองหาตำแหน่งจอดรถได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อม LUGGAGE BOX 7.2L ที่เก็บของขนาด 7.2 ลิตร ที่สามารถเก็บหมวกกันน็อกครึ่งใบรวมถึงสัมภาระจำเป็นได้อย่างสบาย และปลอดภัยหายห่วง

โดย “YAMAHA FINO FINAL EDITION” จะผลิตออกมาจำหน่าย จำนวน 999 คัน พร้อมกับหมวกกันน็อกดีไซน์พิเศษ มาพร้อมกับโลโก้ Emblem สีทอง ที่ระบุหมายเลขการผลิตตัวรถ และเพื่อการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ โดยจะนำรถจักรยานยนต์ที่ระบุหมายเลขสวย และหมายเลขมงคลออกมา ร่วมประมูลกับผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า โดยจะนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายไปร่วมผลิต และพัฒนาหมวกกันน็อกขนาดเล็กที่ออกแบบและผ่านมาตรฐาน มอก. ทั้งนี้ทางไทยยามาฮ่ามอเตอร์จะทำการบริจาคหมวกกันน็อกผ่านหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงบริจาคผ่านกิจกรรมของผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ

สำหรับ “YAMAHA FINO FINAL EDITION” ผลิตออกมาในจำนวนจำกัดเพียง 999 คัน และผลิตจำหน่ายเพียงสีเดียวเท่านั้น คือ สีดำ (Original Black) ที่ทรงคุณค่าเพิ่มขึ้นด้วยโลโก้ Emblem สีทอง พร้อมวางจำหน่ายในราคา 50,900 บาท พร้อมการให้ความมั่นใจในการรับประกันมากกว่า ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร โดยสามารถเป็นเจ้าของ “YAMAHA FINO FINAL EDITION” ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ พิเศษลูกค้ายามาฮ่าสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Yamaha Smart Reward เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมายจากยามาฮ่า สมาชิกใหม่รับฟรี 5,000 คะแนน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263-9999 พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Website: www.yamaha-motor.co.th

Facebook    : Yamaha Society Thailand

Instagram    : @Yamaha Society Thailand

YouTube     : Yamaha Society Thailand

Line OA       : @Yamahasociety

วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้าจับมือสยามโตโยต้าอุตสาหกรรม พัฒนานักศึกษาสู่อุตสาหกรรมยานยนต์

วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้า ร่วมกับ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด ลงนามความร่วมมือ “โครงการความร่วมมือทางวิชาการ” เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพนักศึกษาสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ ปีการศึกษา /ถึ วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้ายังเปิดระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาช่างยนต์อีกด้วย โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึง 9 มิถุนายน 2567 หรือจนกว่าจะเต็มจำนวน

วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้าจัดพิธีลงนามความร่วมมือโครงการความร่วมมือทางวิชาการและมอบทุนการศึกษาโดยได้รับเกียรติจากคุณวิรยศ พฤธากรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนาม ระหว่างวิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้ากับ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม โดยมี คุณรุ่งโรจน์ ขันชะลี ประธานบริหารวิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้า และคุณณรงค์ชัย บัณฑิตวรภูมิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัดเป็นผู้ลงนามความร่วมมือ เมื่อวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องประชุม Camry บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษา ได้เข้าร่วมการฝึกงานที่ บริษัทสยามโตโยต้าอุตสาหกรรม เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์จากการปฏิบัติงาน และสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่มีผลการเรียนดี เข้าศึกษาต่อในระดับ ปวส. ที่วิทยาลัยฯ รวมถึงมีโอกาสเข้าทำงานที่ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรมหลังจบการศึกษา ซึ่งในพิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม ได้มอบเครื่องยนต์ดีเซล 1GD จำนวน 5 เครื่อง เพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอนอีกด้วย

วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้า เปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส.)

จำนวน 3 สาขางาน ได้แก่

1. สาขางานเทคนิคยานยนต์อัจฉริยะ

2. สาขางานธุรกิจการบริการยานยนต์

3. สาขางานเทคนิคซ่อมตัวถังและสีรถยนต์

พิเศษในปีนี้ วิทยาลัยยังเปิดระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)  สาขาช่างยนต์อีกด้วย โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึง 9 มิถุนายน 2567 หรือจนกว่าจะเต็มจำนวน

“เรียนที่นี่ ปลอดภัย คุ้มค่า ได้มาตรฐาน มีงานทำ”

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เอาใจสายลุย

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เอาใจสายลุย เผย 5 เหตุผลที่เหล่านักผจญภัยต้องหลงรัก All New GWM TANK 500 HEV เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียม

กรุงเทพฯ 15 กุมภาพันธ์ 2567 – เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางอันสุดแสนผจญภัยให้กับผู้ขับขี่ชาวไทย เปิดประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจไปกับ All New GWM TANK 500 HEV รถยนต์เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมภายใต้แบรนด์ TANK ที่ได้เปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนกันยายน ปี 2566 ที่ผ่านมา และได้รับเสียงตอบรับจากเหล่าแฟนๆ GWM เป็นอย่างดีตั้งแต่ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยด้วยยอดจองสิทธิ์ซื้อกว่า 1,000 คันและได้รับรางวัล The Most Exciting SUV Award จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2566 ในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว All New GWM TANK 500 HEV ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Nothing is Unreachable: ไม่มีความสำเร็จไหนที่ไปไม่ถึง” ที่พร้อมพาผู้ขับขี่ชาวไทยออกผจญภัยฟันฝ่าทุกอุปสรรค และพร้อมเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ขับขี่ไลฟ์สไตล์สายลุย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะพาทุกคนมาเจาะลึก 5 เหตุผลว่า ทำไมรถยนต์เอสยูวีออฟโรดคันนี้ถึงเหมาะจะเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกทริปการเดินทางของคุณ

สร้างสรรค์โดยแบรนด์ดัง เบื้องหลังความสำเร็จของ HAVAL และ ORA

หากใครยังไม่รู้ All New GWM TANK 500 HEV เป็นรถยนต์เรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ TANK ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่อันดับที่ 3 ที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ รถยนต์ค่ายใหญ่จากแดนมังกรนำเข้ามาให้คนไทยได้สัมผัส โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยจวบจนถึงปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ HAVAL และ ORA ที่ได้รับความนิยมและครองใจแฟนๆ ชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น HAVAL H6 HEV รถยนต์คอมแพคเอสยูวียอดนิยมที่ครองตำแหน่งผู้นำในเซ็กเมนต์ได้อย่างแข็งแกร่ง HAVAL JOLION เจ้าสิงโตอารมณ์ดีที่มายกระดับมาตรฐานความล้ำสมัยของเทคโนโลยีในกลุ่มรถยนต์เอสยูวีบีไปอีกขั้น รวมถึง HAVAL JOLION Sport ที่เกิดจากการรับฟังเสียงของสื่อมวลชนและผู้บริโภคชาวไทยจนเกิดเป็น HAVAL JOLION ที่มุ่งเน้นความสปอร์ต และ HAVAL H6 PHEV ที่คว้ารางวัล “BEST HYBRID SUV UNDER 1,600 CC.” จากงานประกาศรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “CAR & BIKE OF THE YEAR 2023” และน้องเหมียวไฟฟ้าขวัญใจชาวไทยอย่าง ORA Good Cat และ ORA Good Cat GT รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่จุดกระแสตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และบริษัทฯ ยังได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า สปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูง ORA 07 ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 (Motor Expo 2023) ที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ขับขี่ชาวไทยมากยิ่งขึ้น ยังเปิดตัวรถยนต์ New GWM ORA Good Cat มาพร้อมกับราคาสุดเย้ายวนใจ เริ่มต้น 799,000 บาท จากสายการผลิตภายในประเทศที่โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ที่จังหวัดระยองอีกด้วย ด้วยความสำเร็จอันนับไม่ถ้วนของรถยนต์จากค่าย เกรท วอลล์ มอเตอร์ นี้ ผู้ขับขี่ชาวไทยจึงมั่นใจได้เลยว่า All New GWM TANK 500 HEV คันนี้ไม่ได้มีดีแค่ชื่อ เพราะรถยนต์คันนี้ เป็นรถยนต์พรีเมียมเอสยูวีที่ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะ TANK ที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ความจุ 1.76 กิโลวัตต์ ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 244 แรงม้า พร้อมแรงบิดเครื่องยนต์สูงสุด 380 นิวตัน-เมตร  และกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 สปีด (9HAT) ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด ที่พร้อมลุยไปกับคุณในทุกๆ สถานการณ์

ความหรูหราที่แข็งแกร่ง

แม้ว่า All New GWM TANK 500 HEV จะเป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์เอสยูวี แต่ยังมาพร้อมกับความคล่องตัวและความสะดวกสบายอย่างเต็มเปี่ยมในทุกๆ การขับขี่ควบคู่กับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียบง่ายและหรูหรา รวมถึงสไตล์การออกแบบที่คงความบึกบึนและแข็งแกร่งของรถยนต์ออฟโรดเอาไว้ด้วยกัน สร้างความตื่นเต้น ความแตกต่าง และประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับตลาดรถยนต์เอสยูวีและผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง โดยมีการออกแบบอันล้ำสมัยต่าง ๆ มากมาย พร้อมจัดเต็มด้านความสะดวกสบายและระบบความบันเทิงที่ครบครัน อาทิเช่น

•ดีไซน์ด้านหน้า ออกแบบภายใต้ปรัชญาของ “ความหรูหราที่แข็งแกร่ง” ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ผสานช่องระบายอากาศแนวนอนและโลโก้ TANK ที่ลงตัวรับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรง 

•ประตูท้ายแบบ Horizontal พร้อมระบบดูดไฟฟ้า ที่ช่วยผ่อนแรงและอำนวยความสะดวกสบายในการปิดประตูท้าย

•ไฟหน้า Intelligent LED ดีไซน์โดดเด่น ให้ความสว่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยในทุกเส้นทาง ด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกด้านหน้าและหลังแบบ LED

•บันไดข้างระบบไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชัน เปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเปิด-ปิดประตู

•หลังคาซันรูฟระบบไฟฟ้าแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่พร้อมราวหลังคา เพื่อเพิ่มการใช้งานเสาอากาศแบบ Shark Fin

•จอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอมัลติมีเดีย 14.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง และแสดงข้อมูลการขับขี่

•ระบบความบันเทิง พร้อมลำโพง Infinity จำนวน 12 ตัว ระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระ และระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ

•เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ เบาะนั่งคนขับไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะหนัง NAPPA เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ พร้อมระบบ memory seat และระบบ welcome seat เพื่อความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงรถ

•ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5

ฟีเจอร์ออฟโรดสุดล้ำเพื่อการขับขี่ที่ไร้รอยต่อ

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เห็นความสำคัญในการเพิ่มคุณค่าของประสบการณ์ระหว่างการเดินทางของผู้ขับขี่ มากกว่าเพียงแค่การไปถึงสู่จุดหมายปลายทาง จึงออกแบบ All New GWM TANK 500 HEV ขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการขับขี่ให้กับเหล่านักผจญภัยได้มีประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงจุดหมายปลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลบนถนนสายยาว สุดลูกหูลูกตา ถนนลูกรัง หรือจะเข้าไปลุยเขา ฝ่าดงป่า หรือตะลุยเส้นทางออฟโรด ก็ไม่หวั่น ด้วยระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด (Offroad Cruise Control) ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent System) พร้อมโหมดการขับขี่ 11 รูปแบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดสภาพถนนลื่น และ offroad ได้แก่ โหมดโคลน โหมดทราย โหมดหิน โหมด4L โหมด4H โหมดอัตโนมัติ และโหมดเชี่ยวชาญ ที่จะทำให้การเดินทางของคุณสนุกสนานและน่าจดจำ

เฉดสีพรีเมียมสุดคลาสสิก

All New GWM TANK 500 HEV มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น ULTRA และรุ่น PRO มาพร้อมกับสีสันสุดคลาสสิก ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สามารถแสดงตัวตนออกมาได้อย่างโดดเด่น ชัดเจน ด้วยความเรียบหรูผสานกับความแข็งแกร่ง All New GWM TANK 500 HEV มาพร้อมกับสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ ขาว ดำ เทา และสีใหม่เทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA) จับคู่กับสีภายในสีดำและทูโทนสีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น ULTRA และสีเทาคริสตัล) ตอบโจทย์ความชื่นชอบของผู้รักการผจญภัยได้อย่างลงตัว

ข้อเสนอสุดคุ้ม! พร้อมดูแลทุกขณะของการเป็นเจ้าของ GWM TANK 500

นอกจากนี้สำหรับผู้ที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของ All New GWM TANK 500 HEV จะได้รับการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง นอกจากนี้ยังมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบํารุงรักษาตามระยะทาง GWM Pro Service Inclusive – GPSI สูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ( Roadside Assistance ) ตลอด 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี ฟรี บริการระบบตรวจสอบและสั่งการรถผ่านอินเทอร์เน็ต (Telematic Service) พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ (Internet in Vehicle) ระยะเวลา 3 ปี รวมถึงสิทธิพิเศษกับการเป็นส่วนหนึ่งของ GWM TANK CLUB และกิจกรรมสุดพิเศษมากมาย

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตอกย้ำจุดยืนการเป็นหนึ่งในผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในประเทศและในระดับสากล ผ่านการนำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและเต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ ชูเอกลักษณ์และสไตล์อันหลากหลายของผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ HAVAL, ORA และ TANK  เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) ยังมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างและผลักดันระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ให้ยกระดับไปสู่ระดับภูมิภาค จนถึงระดับสากล ได้อย่างเต็มภาคภูมิ

มาเซราติ เผยโฉม กรันทูริสโม โฉมใหม่ในไทย

มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัว กรันทูริสโม โฉมใหม่อย่างเป็นทางการ เตรียมเผยโฉมต่อสาธารณะ ที่บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45

มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัว มาเซราติ กรันทูริสโม (GranTurismo) โฉมใหม่ อย่างเป็นทางการ นับเป็นการเปิดตำนานบทใหม่ ที่เริ่มขึ้นจาก มาเซราติ A6 1500 เมื่อ 77 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นยนตรกรรมสไตล์จีที (GT) ที่เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของสมรรถนะแบบรถสปอร์ต เข้ากับความสะดวกสบายเพื่อรองรับการขับทางไกล พร้อมเปิดรับจองทั้ง 3 รุ่นย่อย คือ โมเดนา (Modena), โทรเฟโอ (Trofeo) และสุดยอดนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น โฟลกอเร (Folgore) ที่แปลว่าสายฟ้าในภาษาอิตาเลียน ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The Others Just Travel’ ที่มอบประสบการณ์พิเศษ มากกว่าคำว่าการเดินทาง

นายปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย กล่าวว่า “มาเซราติ ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา ผ่านยนตรกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานความตั้งใจในการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้ประสบการณ์จากสนามแข่ง ฟอร์มูล่า อี และวันนี้นับเป็นโอกาสดี ที่ลูกค้าในไทยจะได้สัมผัสกับ มาเซราติ กรันทูริสโม โฉมใหม่ ที่มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์ และขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน กับประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 77 ปี พร้อมเชื่อมั่นว่ายนตรกรรมรุ่นนี้ จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า มาเซราติ ได้อย่างแน่นอนครับ”

งานดีไซน์ของ กรันทูริสโม นำเสนอความสง่างามและสมรรถนะเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร และสามารถจดจำได้ในทันที เส้นสายดูเรียบง่ายแต่ชัดเจน ผสานประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่ดีสุดในเซกเมนต์ สะท้อนตัวตนและความพิถีพิถันในการออกแบบ ขณะเดียวกันก็สามารถรักษาสัดส่วนอันเป็นเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างครบถ้วน ด้วยฝากระโปรงหน้าทรงยาว และตำแหน่งผู้ขับที่อยู่กึ่งกลางระหว่างล้อทั้ง 4 พร้อมหลังคาลาดต่ำสู่ด้านหลัง เน้นให้เห็นความโค้งมนของเสาซี ที่มีโลโก้ตรีศูลติดตั้งอยู่

ห้องโดยสารติดตั้งนวัตกรรมล้ำสมัย ด้วยระบบมัลติมีเดีย Maserati Intelligent Assistant (MIA), อินโฟเทนเมนท์ใหม่ล่าสุด, หน้าจอ comfort display ที่รวมฟังก์ชั่นหลักของทัชสกรีนอเนกประสงค์, นาฬิกาดิจิทัลอัจฉริยะ (Digital Smart Clock) และเฮด-อัพ ดิสเพลย์ (เป็นออปชั่น) นอกจากนี้ ยังมอบประสบการณ์พิเศษแบบ ‘all-round sound experience’ การันตีด้วยสุ้มเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ มาเซราติ รวมทั้งเวอร์ชั่นรถไฟฟ้า อันเกิดจากฝีมือการพัฒนาของวิศวกรจาก Maserati Innovation Lab มอบประสบการณ์สมบูรณ์แบบผ่านระบบเครื่องเสียง Maserati Sound Audio System และมีออปชั่นพิเศษกับสุดยอดเครื่องเสียงสัญชาติอิตาลี ‘Sonus Faber’ ลำโพง 12 ตำแหน่ง และ 19 ตำแหน่งให้เลือก

ขุมพลังเบนซิน วี6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ เน็ททูโน (V6 Nettuno) บล็อกเดียวกับที่ใช้ในซูเปอร์คาร์รุ่น เอ็มซี20 (MC20) ติดตั้งในสองรุ่นย่อย คือ โมเดนา (Modena) ทำได้ 490 แรงม้า (HP) แรงบิด 600 นิวตันเมตร  และ โทรเฟโอ (Trofeo) ที่ผ่านการอัพเกรดเพิ่มกำลังเป็น 550 แรงม้า (HP) แรงบิด 650 นิวตันเมตร ส่วน กรันทูริสโม โฟลกอเร (GranTurismo Folgore) ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ส่งกำลังผ่านมอเตอร์ 402 แรงม้า (HP) จำนวน 3 ตัว (หน้า 1 หลัง 2) ผสานเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ ความจุ 92.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เทคโนโลยีของรถแข่งฟอร์มูลา อี (Formula E) ติดตั้งแบตเตอรี่ไว้บริเวณโครงสร้างกลางรถ (T-Bone) แทนที่การติดตั้งไว้ใต้เบาะผู้ขับ ส่งผลดีต่อสมดุลและจุดศูนย์ถ่วงของรถ ทำได้ 761 แรงม้า (HP) แรงบิด 1,350 นิวตันเมตร กับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วสูงสุดตามลำดับ คือ รุ่น โมเดนา 3.9 วินาที 302 กิโลเมตรต่อชั่วโมง, รุ่น โทรเฟโอ 3.5 วินาที 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรุ่น โฟลกอเร 2.7 วินาที 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาเซราติ กรันทูริสโม รุ่น โมเดนา มาพร้อม 3 โหมดการขับ คือ GT, Comfort และ Sport ขณะที่รุ่น โทรเฟโอ เพิ่มโหมด Corsa ส่วนรุ่น โฟลกอเร มี 4 โหมด คือ GT, Max Range, Sport และ Corsa

สถาปัตยกรรมเชิงเทคนิคของรถรุ่นใหม่นี้ คือ ผลลัพธ์ของนวัตกรรมในการนำวัสดุที่เบาที่สุดมาใช้ เช่น การใช้อะลูมิเนียมหรือแมกนีเซียม ร่วมกับโลหะเกรดสูง เพื่อให้ได้มาซึ่งวัสดุที่เบาและมีประสิทธิภาพชั้นเลิศ นอกจากนั้นก็ยังมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ Atlantis High อันล้ำสมัย ภายใต้มาตรฐาน canFD ที่มีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้เร็วสุดถึง 0.002 วินาที มาพร้อมระบบ cyber-security ระดับ 5 และฟีเจอร์ flash-over-the-air และศูนย์กลางในการควบคุมระบบ Vehicle Domain Control Module (VDCM) ประกอบไปด้วยซอฟต์แวร์ที่พร้อมมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับ ในการควบคุมระบบที่สำคัญทั้งหมดของรถยนต์แบบ 360 องศา เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีทีสุดในทุกสถานการณ์

ความฉับไวแบบรถสปอร์ต ความหรูหรา และความสะดวกสบาย เกิดจากความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า จากจุดเริ่มต้นของการพัฒนา มาเซราติ กรันทูริสโม โฉมใหม่ ที่ผ่านการพัฒนาจาก Maserati Innovation Lab และผลิตที่โรงงาน มิราฟิออรี เมืองตูริน ประเทศอิตาลี สะท้อน ‘ความหรูหราและสมรรถนะแบบอิตาเลียน’ เป็นแนวคิดที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ มาเซราติ ทุกรุ่น พร้อมแสดงให้เห็นว่า มาเซราติ สามารถลบล้างสมการที่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้  โดยผสมผสานสมรรถนะแบบรถสปอร์ต กับความสะดวกสบายที่เหมาะสำหรับการขับทางไกล รวมถึงเครื่องยนต์สันดาปภายในอันทรงพลัง กับสุดยอดนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% เปรียบเสมือนมาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์ในเซกเมนต์

ยามาฮ่า มอบรางวัล YAMAHA FAZZIO จากแคมเปญ Tiktok Challenge

ยามาฮ่า มอบรางวัล YAMAHA FAZZIO จากแคมเปญ “Happy 5 ปี นะคะ Tiktok Challenge” คลิปสุดแฮปปี้ เต้นดีเต้นถูกใจ รับรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท

นายจิรภัทร สายเพชร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดกลุ่มรถออโตเมติก และสนับสนุนการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด มอบรางวัลรถจักรยานยนต์ YAMAHA FAZZIO มูลค่า 53,800 บาท ให้แก่ นายญฐ์ชญา ฟ้ากลาง ผู้โชคดีผ่านแคมเปญ Tiktok Challenge คลิปสุดแฮปปี้ เต้นดีเต้นถูกใจรับ YAMAHA FAZZIO จำนวน 1 รางวัล นอกจากนี้ยังมีรางวัลบัตรน้ำมันมูลค่า 500 บาท จำนวน 100 รางวัล มูลค่ารางวัลรวมทั้งสิ้น 103,800 บาท โดยกิจกรรมนี้ได้จัดเพื่อเป็นการตอกย้ำ ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ และตอกย้ำการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ในรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 400 ซีซี. ทุกรุ่น โดยแคมเปญนี้ได้มีขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 30 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ผ่านช่องทาง Tiktok ซึ่งมีผู้ร่วมสนุกและส่งผลงานชาเล้นจ์ เข้ามาเป็นจำนวนมาก สำหรับผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรม และลุ้นรางวัลจากยามาฮ่า สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ FACEBOOK : YAMAHA SOCIETY THAILAND และ  TIKTOK : YAMAHA SOCIETY THAILAND

โดยการมอบรางวัลในครั้งนี้มีขึ้น ณ สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) เมื่อเร็วๆ นี้

“ลมหายใจไร้มลทิน” มอบรางวัลการประกวดปี 2566

นางสาวชไมพร ปภัสร์พงษ์ รองผู้อำนวยการ มูลนิธิ “ลมหายใจไร้มลทิน” มอบรางวัลชนะการประกวด วีดีโอคลิปสะท้อนค่านิยมแห่งความซื่อสัตย์สุจริต หัวข้อ “ซื่อสัตย์สุจริต ชีวิต New Normal” ระดับอาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวส.) และอุดมศึกษา ให้ผลงานเรื่อง “วิถีใหม่ใจสุจริต” จากทีม Blue Plok Kan มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เมื่อเร็วๆ นี้

มูลนิธิ “ลมหายใจไร้มลทิน” ร่วมกับ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดการประกวดกิจกรรมประจำปี 2566 ซึ่งประกาศผล และมอบรางวัลแก่ผู้ชนะ 4 ประเภท ดังนี้

ประกวดเรียงความหัวข้อ “ถ้าประเทศไทยปราศจากคอร์รัปชัน”

ระดับประถมศึกษา ได้แก่ เด็กหญิงพิชญาภา เสริฐศรี โรงเรียนชุมชนหนองสองห้องคุรุราษฎร์รังสรรค์ จังหวัดขอนแก่น

ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวช.) ได้แก่ นายเฉลิมราชย์ อาจธัญกรณ์ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดเพชรบุรี

ระดับอาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวส.) และอุดมศึกษา ได้แก่ นางสาวชโลทร กิจกาญจน์ วิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี

ประกวดร้องเพลงประกอบดนตรีตามเพลงเพลง “คิดดี ทำดี”

ระดับประถมศึกษา ประเภทเดี่ยว ได้แก่ เด็กหญิงธนัชญา ศรีนุช โรงเรียนวัดลาดปลาเค้า กรุงเทพมหานคร

ระดับประถมศึกษา ประเภทหมู่ ได้แก่ ทีมคิดดีจะรัก คิดรักจะดี โรงเรียนเผดิมศึกษา กรุงเทพมหานคร

เพลง “ด้วยลมหายใจที่ไร้มลทิน”

ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวช.) ประเภทเดี่ยว ได้แก่ นางสาวทัตพิชา กิตติพนังกุลโรงเรียนสตรีวิทยา 2 กรุงเทพมหานคร

ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวช.) ประเภทหมู่ ได้แก่ ทีม 3 มุม

ระดับอาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวส.) และอุดมศึกษา ประเภทเดี่ยว ได้แก่ นางสาวพิมพ์วลัญช์ ดุษฎีปรีชา วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร

ประกวดวาดภาพศิลปะสะท้อนค่านิยมแห่งความซื่อสัตย์สุจริต หัวข้อ “สังคมเข้มแข็ง ลมหายใจยั่งยืน”

ระดับปฐมวัย ได้แก่ เด็กหญิงววรส        อิทธิพลานุคุปต์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร จังหวัดนครปฐม

ระดับประถมศึกษา ได้แก่ เด็กหญิงปรรณ ขติยะสุนทร โรงเรียนวชิราลัย จังหวัดเชียงใหม่

ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวช.) ได้แก่ นายรชฏ ศิริรจน์ โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ

ประกวดวีดีโอคลิปสะท้อนค่านิยมแห่งความซื่อสัตย์สุจริต

หัวข้อ “ซื่อสัตย์สุจริต ชีวิต New Normal”

ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวช.) ได้แก่ ทีม มนว.โปรดักชั่น โรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร

ระดับอาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า (ปวส.) และอุดมศึกษา ได้แก่ ทีม Blue Plok Kan มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กรุงเทพมหานคร

ติดตามผลการประกวด และกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิ “ลมหายใจไร้มลทิน” ได้ที่ lomhaijai.org dcy.go.th และ facebook.com/LomhaijaiFoundation/

ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม จัดไลน์อัพลุยมอเตอร์สปอร์ต 2024

ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม จัดทัพนิวไลน์อัพ ลงบิดศึก 2 ล้อระดับนานาชาติ ลุยต่อเนื่อง “ตี – ไอเดีย” บู๊เวิลด์ซูเปอร์สปอร์ต ส่ง “โฟลท – แสตมป์” ลุยศึกเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร มร.ฮิเดฮิโกะ ทาคากิ รองประธานกรรมการบริหาร นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า และวางแผนการตลาด พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง และนักแข่งในสังกัด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ถ่ายภาพร่วมกับ คุณนิตยา เกิดจันทึก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย นายไกรทศ วงษ์สวรรค์ อุปนายกสมาคมสมาคมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ ผู้อำนวยการสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต นายวรวุฒิ พงษ์ธีระพล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะผู้สนับสนุนยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ในงานแถลงข่าวเปิดตัวทีมแข่งประจำฤดูกาล 2024

โดยในปีนี้ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ยังคงเดินหน้าส่งเด็กไทยลุยศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับนานาชาติ ในรายการ เวิลด์ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2024 รุ่น เวิลด์ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี. โดยมี ตี – อนุภาพ ซามูล และ ไอเดีย – กฤตภัทร เขื่อนคำ ลงทำการแข่งขันด้วยรถแข่ง YAMAHA YZF-R6 ส่วนในรายการ เอฟไอเอ็ม เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2024 ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ตั้งเป้าทวงคืนบังลังก์ความยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยการส่ง โฟลท – รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ดีกรีแชมป์เอเชียรุ่น 600 ลงทำการแข่งขัน พร้อมด้วย แสตมป์ อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ดีกรีแชมป์รุ่น 250 ลงทำการแข่งขันในสังกัดยามาฮ่า เทคเน่ ทีมอาเซียน พร้อมกันนี้ยามาฮ่ายังได้ส่งดาวรุ่ง เติ้ล – วรพรต ทองดอนเหมือน ลุยศึก ยามาฮ่า อาร์ 3 บลูครู เอฟไอเอ็ม เวิลด์คัพ 2024 เพื่อเปิดประสบการณ์ และพัฒนานักบิดดาวรุ่งไทยในการแข่งขันในเกมระดับประเทศ เพื่อเป็นบันไดขั้นแรกในการก้าวสู่เวทีระดับสากลต่อไปในอนาคต

โดยการแถลงข่าวเปิดตัวทีมแข่ง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม 2024 จัดขึ้น ณ ห้องออดิทอเรียม สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) เมื่อเร็วๆ นี้

เอช เซม มอเตอร์ เปิดเกมรุกปี มังกร รับผู้ร่วมลงทุน

เอช เซม เดินหน้าลุย ปูพรมธุรกิจปีมังกรทอง 2567 เปิดรับพันธมิตรเป็นตัวแทนตั้งสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ ภายใต้รูปแบบธุรกิจ MOVE EV X (ออกเสียง มูฟ-อี-วี-เอกซ์)  ด้วยแนวคิดเปลี่ยนแบตฯ ภายใน 3 นาที คุ้มกว่าชาร์จแบตฯ เอง 6 ชั่วโมง ตั้งเป้าเพิ่ม 80 ตู้ มูลค่าการลงทุนรวม 120 ล้านบาท ภายในปีนี้

นายวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายและผู้ให้เช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เอช เซม เปิดเผยว่า ด้วยผลตอบรับอย่างล้นหลามของการใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เอช เซม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จึงส่งผลให้มีแนวโน้มความต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในปี 2567 นี้ บริษัทฯ จึงได้วางแผนขยายจำนวนสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่เพิ่มอีก 80 ตู้ มูลค่าการลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท

ปัจจุบัน เอช เซม มีสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่กระจายในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ทั้ง สำนักงาน สาขาของ เอช เซม ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน ซูเปอร์มาร์เก็ต คอมมูนิตี้ มอลล์ ถึงแม้จำนวนสถานีจะเพิ่มมากขึ้นแต่จากข้อมูลตัวเลขการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเอช เซม ในช่วงปี 2564 – เดือนมกราคม 2567 มียอดสะสมการเปลี่ยนแบตฯ สูงกว่า 4,000,000 ครั้ง สามารถแจกแจงเพื่อให้เห็นการเติบโตอย่างชัดเจนโดยปีแรก 2564 จำนวนการเปลี่ยนแบตฯ 17,505 ครั้ง ปีต่อมา 2565 ยอดการใช้งานสูงถึง 777,627 ครั้ง เท่ากับมียอดเติบโตสูงขึ้น 4,342% และปี 2566 ที่ผ่านมา มียอดการใช้งาน 2,781,001 ครั้ง เท่ากับการใช้งานสูงขึ้น 258% และในเดือนมกราคม 2567 จำนวนการเปลี่ยนแบตฯ 428,551 ครั้ง ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่มีความสำคัญและมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน

ทั้งนี้ เพื่อง่ายต่อการทำงาน เอช เซม จึงแบ่งโซนความหนาแน่นของการใช้สถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ออกเป็น 3 โซน ได้แก่ Hot Zone มีจำนวนการเปลี่ยนแบตฯ มากกว่า 1.6 แสนครั้งต่อเดือน Warm Zone มีจำนวนการเปลี่ยนแบตฯ มากกว่า 7 หมื่นครั้งต่อเดือน และ Cold Zone มีจำนวนการเปลี่ยนแบตฯ มากกว่า 1 หมื่นครั้งต่อเดือน

จากสถิติการใช้งานดังกล่าว จึงเป็นที่มาของรูปแบบธุรกิจ “MOVE EV X” เพิ่มโอกาส เพิ่มรายได้ให้ผู้สนใจเป็นตัวแทนสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยมีรูปแบบธุรกิจให้เลือก 2 แบบแบบแรกผู้ประกอบการมีความพร้อมทั้ง เงินลงทุนและพื้นที่ (เฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล) โดยธุรกิจสามารถเริ่มต้นด้วยพื้นที่เพียง 8 ตารางเมตร เท่านั้น

ส่วนแบบที่ 2 จะเป็นการจับคู่ธุรกิจ หากผู้ประกอบการไม่มีพื้นที่แต่มีความสนใจทำธุรกิจ MOVE EV X ได้คัดเลือกและรวบรวมพื้นที่สำหรับติดตั้งตู้ให้ผู้สนใจเช่าพื้นที่เพื่อเริ่มธุรกิจได้เช่นกัน โดย MOVE EV X จะเป็นจุดนัดพบให้กับเจ้าของพื้นที่และผู้สนใจทำธุรกิจได้พบและเจรจาธุรกิจกัน

นอกจากจะเป็นจุดนัดพบของการเริ่มต้นธุรกิจแล้ว MOVE EV X ยังเป็นผู้ประเมินพื้นที่ ดำเนินการขอมิเตอร์ไฟฟ้าและติดตั้งตู้ให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย โดยงบประมาณในการลงทุนเริ่มต้นที่ 700,000 บาทและสูงสุดที่ 2.4 ล้านบาท ทำสัญญา 5 ปี และจะคืนทุนภายในเวลา 2 ปี

ผู้สนใจเป็นพันธมิตรมาร่วมสร้างระบบ Ecosystem อย่างยั่งยืน กับ “MOVE EV X by H Sem” เป็นเจ้าของสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สามารถสอบถามรายละเอียดหรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.moveevx.com และ Line: @moveevx

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save