สำหรับ “YAMAHA FINO FINAL EDITION” มาพร้อมกับเครื่องยนต์ BLUE CORE 125 ซีซี เทคโนโลยีแห่งความประหยัด เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดี ประหยัดน้ำมัน และช่วยลดมลพิษ ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบทุกจังหวะการขับขี่
“YAMAHA FINO FINAL EDITION” ยังคงเสน่ห์ความโดดเด่นด้วย ไฟหน้า LED สไตล์โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่ Diamond Cut Lens ที่นอกจากจะให้ความสว่างชัดเจนแล้ว ยังเต็มไปด้วยความคลาสสิกร่วมสมัย รวมถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครอย่าง DUO METER เรือนไมล์แยกส่วน พร้อมไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด เห็นชัดทุกองศาการมองในขณะขับขี่
นอกจากนี้ “YAMAHA FINO FINAL EDITION” ยังมาพร้อมกุญแจแบบ ANSWER BACK SYSTEM ที่สามารถเปิดช่องกุญแจได้แบบอัตโนมัติ พร้อมไฟเรืองแสง และส่งสัญญาณบอกตำแหน่งรถช่วยให้มองหาตำแหน่งจอดรถได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อม LUGGAGE BOX 7.2L ที่เก็บของขนาด 7.2 ลิตร ที่สามารถเก็บหมวกกันน็อกครึ่งใบรวมถึงสัมภาระจำเป็นได้อย่างสบาย และปลอดภัยหายห่วง
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เอาใจสายลุย เผย 5 เหตุผลที่เหล่านักผจญภัยต้องหลงรัก All New GWM TANK 500 HEV เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียม
กรุงเทพฯ 15 กุมภาพันธ์ 2567 – เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางอันสุดแสนผจญภัยให้กับผู้ขับขี่ชาวไทย เปิดประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจไปกับ All New GWM TANK 500 HEV รถยนต์เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมภายใต้แบรนด์ TANK ที่ได้เปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนกันยายน ปี 2566 ที่ผ่านมา และได้รับเสียงตอบรับจากเหล่าแฟนๆ GWM เป็นอย่างดีตั้งแต่ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยด้วยยอดจองสิทธิ์ซื้อกว่า 1,000 คันและได้รับรางวัล The Most Exciting SUV Award จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2566 ในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว All New GWM TANK 500 HEV ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Nothing is Unreachable: ไม่มีความสำเร็จไหนที่ไปไม่ถึง” ที่พร้อมพาผู้ขับขี่ชาวไทยออกผจญภัยฟันฝ่าทุกอุปสรรค และพร้อมเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ขับขี่ไลฟ์สไตล์สายลุย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะพาทุกคนมาเจาะลึก 5 เหตุผลว่า ทำไมรถยนต์เอสยูวีออฟโรดคันนี้ถึงเหมาะจะเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกทริปการเดินทางของคุณ
สร้างสรรค์โดยแบรนด์ดัง เบื้องหลังความสำเร็จของ HAVAL และ ORA
หากใครยังไม่รู้ All New GWM TANK 500 HEV เป็นรถยนต์เรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ TANK ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่อันดับที่ 3 ที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ รถยนต์ค่ายใหญ่จากแดนมังกรนำเข้ามาให้คนไทยได้สัมผัส โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยจวบจนถึงปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ HAVAL และ ORA ที่ได้รับความนิยมและครองใจแฟนๆ ชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น HAVAL H6 HEV รถยนต์คอมแพคเอสยูวียอดนิยมที่ครองตำแหน่งผู้นำในเซ็กเมนต์ได้อย่างแข็งแกร่ง HAVAL JOLION เจ้าสิงโตอารมณ์ดีที่มายกระดับมาตรฐานความล้ำสมัยของเทคโนโลยีในกลุ่มรถยนต์เอสยูวีบีไปอีกขั้น รวมถึง HAVAL JOLION Sport ที่เกิดจากการรับฟังเสียงของสื่อมวลชนและผู้บริโภคชาวไทยจนเกิดเป็น HAVAL JOLION ที่มุ่งเน้นความสปอร์ต และ HAVAL H6 PHEV ที่คว้ารางวัล “BEST HYBRID SUV UNDER 1,600 CC.” จากงานประกาศรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “CAR & BIKE OF THE YEAR 2023” และน้องเหมียวไฟฟ้าขวัญใจชาวไทยอย่าง ORA Good Cat และ ORA Good Cat GT รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่จุดกระแสตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และบริษัทฯ ยังได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า สปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูง ORA 07 ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 (Motor Expo 2023) ที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ขับขี่ชาวไทยมากยิ่งขึ้น ยังเปิดตัวรถยนต์ New GWM ORA Good Cat มาพร้อมกับราคาสุดเย้ายวนใจ เริ่มต้น 799,000 บาท จากสายการผลิตภายในประเทศที่โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ที่จังหวัดระยองอีกด้วย ด้วยความสำเร็จอันนับไม่ถ้วนของรถยนต์จากค่าย เกรท วอลล์ มอเตอร์ นี้ ผู้ขับขี่ชาวไทยจึงมั่นใจได้เลยว่า All New GWM TANK 500 HEV คันนี้ไม่ได้มีดีแค่ชื่อ เพราะรถยนต์คันนี้ เป็นรถยนต์พรีเมียมเอสยูวีที่ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะ TANK ที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ความจุ 1.76 กิโลวัตต์ ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 244 แรงม้า พร้อมแรงบิดเครื่องยนต์สูงสุด 380 นิวตัน-เมตร และกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 สปีด (9HAT) ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด ที่พร้อมลุยไปกับคุณในทุกๆ สถานการณ์
ความหรูหราที่แข็งแกร่ง
แม้ว่า All New GWM TANK 500 HEV จะเป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์เอสยูวี แต่ยังมาพร้อมกับความคล่องตัวและความสะดวกสบายอย่างเต็มเปี่ยมในทุกๆ การขับขี่ควบคู่กับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียบง่ายและหรูหรา รวมถึงสไตล์การออกแบบที่คงความบึกบึนและแข็งแกร่งของรถยนต์ออฟโรดเอาไว้ด้วยกัน สร้างความตื่นเต้น ความแตกต่าง และประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับตลาดรถยนต์เอสยูวีและผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง โดยมีการออกแบบอันล้ำสมัยต่าง ๆ มากมาย พร้อมจัดเต็มด้านความสะดวกสบายและระบบความบันเทิงที่ครบครัน อาทิเช่น
•ดีไซน์ด้านหน้า ออกแบบภายใต้ปรัชญาของ “ความหรูหราที่แข็งแกร่ง” ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ผสานช่องระบายอากาศแนวนอนและโลโก้ TANK ที่ลงตัวรับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรง
All New GWM TANK 500 HEV มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น ULTRA และรุ่น PRO มาพร้อมกับสีสันสุดคลาสสิก ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สามารถแสดงตัวตนออกมาได้อย่างโดดเด่น ชัดเจน ด้วยความเรียบหรูผสานกับความแข็งแกร่ง All New GWM TANK 500 HEV มาพร้อมกับสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ ขาว ดำ เทา และสีใหม่เทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA) จับคู่กับสีภายในสีดำและทูโทนสีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น ULTRA และสีเทาคริสตัล) ตอบโจทย์ความชื่นชอบของผู้รักการผจญภัยได้อย่างลงตัว
ข้อเสนอสุดคุ้ม! พร้อมดูแลทุกขณะของการเป็นเจ้าของ GWM TANK 500
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของ All New GWM TANK 500 HEV จะได้รับการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง นอกจากนี้ยังมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบํารุงรักษาตามระยะทาง GWM Pro Service Inclusive – GPSI สูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ( Roadside Assistance ) ตลอด 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี ฟรี บริการระบบตรวจสอบและสั่งการรถผ่านอินเทอร์เน็ต (Telematic Service) พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ (Internet in Vehicle) ระยะเวลา 3 ปี รวมถึงสิทธิพิเศษกับการเป็นส่วนหนึ่งของ GWM TANK CLUB และกิจกรรมสุดพิเศษมากมาย
ส่วนแบบที่ 2 จะเป็นการจับคู่ธุรกิจ หากผู้ประกอบการไม่มีพื้นที่แต่มีความสนใจทำธุรกิจ MOVE EV X ได้คัดเลือกและรวบรวมพื้นที่สำหรับติดตั้งตู้ให้ผู้สนใจเช่าพื้นที่เพื่อเริ่มธุรกิจได้เช่นกัน โดย MOVE EV X จะเป็นจุดนัดพบให้กับเจ้าของพื้นที่และผู้สนใจทำธุรกิจได้พบและเจรจาธุรกิจกัน
นอกจากจะเป็นจุดนัดพบของการเริ่มต้นธุรกิจแล้ว MOVE EV X ยังเป็นผู้ประเมินพื้นที่ ดำเนินการขอมิเตอร์ไฟฟ้าและติดตั้งตู้ให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย โดยงบประมาณในการลงทุนเริ่มต้นที่ 700,000 บาทและสูงสุดที่ 2.4 ล้านบาท ทำสัญญา 5 ปี และจะคืนทุนภายในเวลา 2 ปี
ผู้สนใจเป็นพันธมิตรมาร่วมสร้างระบบ Ecosystem อย่างยั่งยืน กับ “MOVE EV X by H Sem” เป็นเจ้าของสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สามารถสอบถามรายละเอียดหรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.moveevx.com และ Line: @moveevx