- Advertisement -
29.3 C
Bangkok
Home Blog Page 42

ZEEKR เปิดตัวรถไฟฟ้า ZEEKR X เคาะราคา 1.19 ลบ.

ZEEKR แบรนด์รถไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี เปิดตัว ZEEKR X โกลบอล พรีเมียม คอมแพค เอสยูวี สำหรับคนเมืองยุคใหม่พลังขับเคลื่อนอัจฉริยะ วิ่งไกล 540 กิโลเมตร พร้อมส่งมอบรถภายในเดือนสิงหาคมศกนี้

บริษัท ซีเคอาร์ อินเทลลิเจนท์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (ZEEKR Intelligent Technology) เปิดตัวแบรนด์ “ZEEKR (ซีเคอร์)” อย่างเป็นทางการในประเทศไทยสร้างเซกเมนต์ “รถไฟฟ้าพรีเมียม-ลักชูรี” เติมเต็ม Unmet Need ของผู้บริโภค อัปเลเวลประสบการณ์ไลฟ์สไตล์การเดินทางขั้นสูงสุด พร้อมส่งนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ เปิดตัวและประกาศราคา ZEEKR X โกลบอล พรีเมียม คอมแพค เอสยูวี ที่สร้างมาเพื่อไลฟ์สไตล์คนเมือง เริ่มต้น 1.19 ล้านบาท โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีแห่งยุคอนาคตและดีไซน์อันเป็นเอกลัษณ์มาพร้อมนวัตกรรมการขับขี่สุดไฮเทคและแพลตฟอร์ม SEA อัจฉริยะ

ซีเคอาร์ อินเทลลิเจนท์ เทคโนโลยี (ZEEKR Intelligent Technology) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2564 ด้วยความมุ่งเน้นที่จะร่วมสร้างสรรค์สุดยอดประสบการณ์ไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทาง โดยวางรากฐานการเป็น A Luxury Technology Brand for a New Era ที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมและการสำรวจสิ่งใหม่ๆ โดยสร้างความสำเร็จระดับโลกในระยะเวลาเพียง 29 เดือน ZEEKR สามารถส่งออกรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 240,000 คันทั่วโลก นับเป็นแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับที่เหนือความคาดหมายในระดับสากล ล่าสุดประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นของบริษัทให้กับสาธารณะชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในปี พ.ศ. 2567

มร.เฉิน หยู (มาร์ส) Vice President of ZEEKR Intelligent Technology เปิดเผยว่า “ZEEKR ใช้เวลาเพียง 2 ปีในการส่งมอบรถยนต์ครบ 100,000 คัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ZEEKR กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เรากำลังสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ด้วยนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ก้าวล้ำยุค และการบูรณาการพลังการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเข้ากับแนวทางที่มีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี เปลี่ยนนิยามของการขับขี่ด้วยประวัติอันยาวนานด้านนวัตกรรมและความมุ่งมั่นในความพึงพอใจของลูกค้า ZEEKR จึงนับเป็นแบรนด์พร้อมที่จะส่งมอบสุดยอดประสบการณ์ของการเดินทาง สู่ยุคสมัยที่เทคโนโลยี ดีไซน์ และไลฟ์สไตล์ระดับลักชูรี สามารถสอดประสานเข้ากันได้อย่างกลมกลืน”

จากความสำเร็จระดับสากล สู่การบุกตลาดไทยที่เติบโตสูงที่สุดในภูมิภาค

แนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี ของไทยในระยะต่อไปจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย ttb analytics ประเมินยอดขายรถยนต์อีวี ในปี 2567 จะอยู่ที่ 103,182 คัน หรือขยายตัว 36.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์อีวีเพิ่มสูงขึ้นเป็น 13.4% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 9.8% อย่างไรก็ตาม ยังคงมีช่องว่างของรถอีวีระดับพรีเมียม-ลักชูรี ที่ยังไม่มีแบรนด์ใดทำตลาด เป่า จ้วงเฟย (อเล็กซ์) ZEEKR Intelligent Technology Head of Southeast Asia Region เผยว่า “สำหรับตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น ZEEKR จะช่วยเข้ามาเติมเต็มเซกเมนต์ พรีเมียม-ลักชูรี ซึ่งจากการพิสูจน์

ในตลาดทั่วโลกทำให้มั่นใจได้ว่า ประสบการณ์ของผู้ใช้ที่มีต่อผลิตภัณฑ์ได้สร้างความประทับใจขั้นสูงสุดเมื่อรวมกับอีโคซิสเต็มด้านการบริการอันหลากหลายที่ผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ทุกด้านของผู้ใช้ได้อย่างราบรื่นที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในตลาดระดับโลก วันนี้ เราจะนำเสนอทั้งหมดนี้ให้แก่คนไทยเช่นกัน เรามองเห็นโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการขาย และการบริการหลังการขายผ่านดีเลอร์รายใหญ่กว่า 6 ราย มี ZEEKR House 14 แห่งและจะขยายเพิ่มอีกกว่า 20 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเราตั้งเป้ายอดขายมากกว่าสองพันคันภายในสิ้นปี 2567 นี้ เพื่อตอบสนองความต้องการที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของลูกค้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี”

ZEEKR X เอสยูวีสำหรับคนเมืองยุคใหม่ เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต

ZEEKR X เป็นรถเอสยูวีหรูหราขนาดกะทัดรัดที่สร้างขึ้นมาเพื่อไลฟ์สไตล์คนเมืองในปัจจุบัน เป็นรถคู่ใจที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักผจญภัยและครอบครัวที่กำลังมองหาการเดินทางเพื่อสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง ZEEKR ได้ผสมผสานการควบคุมการขับขี่ขั้นสุดยอด กับนวัตกรรมขับเคลื่อนแห่งโลกอนาคต จากพละกำลังจากระบบมอเตอร์คู่ 315kW (428 hp) แรงบิดสูงสุด 543 Nm อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.8 วินาที แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 67 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 540 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC โดดเด่นด้วยระบบสลับโหมดการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Lightning Switch AWD System) ระหว่างสองล้อและสี่ล้อได้ภายในเสี้ยววินาที ปลอดภัยขั้นสุดด้วยผลการทดสอบความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ตามมาตรฐาน EURO NCAP

ดีไซน์พรีเมียม-ลักชูรีเพื่อการใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างง่ายดาย

ด้วยปรัชญาการออกแบบที่ยึดถือ ความงดงามของนวัตกรรม ความหรูหรา และความยั่งยืน ZEEKR X เปรียบเสมือน สายฟ้าที่เปลี่ยนนิยามใหม่ของการขับขี่โดยไม่กลัวที่จะทลายกรอบเดิม ด้วยแรงบันดาลใจจากความเรียบง่ายแบบสแกนดิเนเวียผสมผสานเส้นสายที่สะอาดและความหรูหราที่โปร่งโล่ง โดยเน้นที่การใช้งาน สร้างพื้นที่ที่เทคโนโลยีผสมผสานอย่างลงตัวกับสุนทรียภาพ ZEEKR X ออกแบบตัวรถให้มีขนาด ความกว้าง x ความยาว x ความสูง 4,432 mm x 1,836 mm x 1,566 mm ระยะฐานล้อ 2,750 mm ซึ่งเป็นขนาดสมมาตรทุกมิติสำหรับรถคอมแพคเอสยูวี โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ไร้ขีดจำกัด สรรสร้างให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นในทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็น ความโค้งมนดุจแสงแห่งรุ่งอรุณ กระจกมองข้างแบบไร้กรอบ ดีไซน์ที่จับประตูแบบ Hidden Capacitive Sensing Door Handles ช่องชาร์จไฟที่เรียบสนิทไปกับตัวรถ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEEKR ไฟท้ายแบบ LED พร้อมสัญลักษณ์ ZEEKR แบบสามมิติ การออกแบบภายในที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ของหลังคากระจกพาโนรามาขนาด 1.21 ตารางเมตร พร้อมสัมผัสแสงธรรมชาติที่สาดส่องเข้ามาในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยสี Rose Gold ทั่วทั้งคัน ไม่ว่าจะเป็นสวิชต์หน้าต่าง ปุ่มเปิดประตู หรือแม้แต่ Hook สำหรับแขวนแจ็คเก็ต หน้าจอกลางขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว มาพร้อมกับชิป 8155 จาก Qualcomm Snapdragon เพื่อรองรับการประมวลผลอย่างรวดเร็ว และเพราะความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญของทุกการตัดสินใจออกแบบ ZEEKR จึงใช้วัสดุคุณภาพสูงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งคัน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นต่ออนาคตที่สะอาดกว่า

ปลดล็อคประสบการณ์ไลฟ์สไตล์การเดินทางรูปแบบใหม่ที่มาพร้อมความปลอดภัยขั้นสูง

ZEEKR มองเห็นอนาคตของการขับเคลื่อนที่มีความชาญฉลาด เป็นมิตร มั่นใจ และปรับเปลี่ยนได้ ด้วยระบบอัตโนมัติขั้นสูงแห่งอนาคตที่จะนำพาผู้ใช้งานไปสู่ที่หมายตามต้องการได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย กับนวัตกรรมการขับเคลื่อนด้วยสถาปัตยกรรมทางประสบการณ์ที่ยั่งยืน (Sustainable Experience Architecture – SEA) รวมถึง ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ZEEKR Advanced Driving Assistance System – ZEEKR AD) ด้วยกล้องความละเอียดสูง 5 ตัว เรดาร์ความยาวคลื่น 5 มิลลิเมตร และ เรดาร์อัลตราโซนิค 12 ตัว รวมถึงระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ (Automatic Lane Change – ALC) ระบบรักษาตำแหน่งในเลน (Lane Centering Control – LCC) ระบบแจ้งเตือนวัตถุในจุดบอด (Blind Spot Detection – BSD) ระบบแสดงภาพรอบตัวรถ (Around View Monitor – AVM) หนึ่งในจุดเด่นก็คือ โครงสร้างแบบ SEA Platform ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEEKR ที่จะช่วยทั้งในด้านการขับขี่ สมรรถนะ การทรงตัว รวมถึงการลดเสียงรบกวนที่อาจเกิดขึ้นตามจุดต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีเยี่ยม เพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้นกับ Lightning Switch Intelligent AWD System หรือระบบปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่แบบ AWD อัตโนมัติเพียงแค่เสี้ยววินาที เทคโนโลยีและนวัตกรรมเหล่านี้ ช่วยให้การขับขี่เกิดความคล่องตัวแต่ยังสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดนั่นเอง

“ZEEKR X ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานยนต์ไฟฟ้าธรรมดา แต่มันคือปรากฏการณ์ระดับโลก นี่คือ Global Premium Compact SUV เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของความกล้าที่จะแตกต่าง มันไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่คือสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม เป็นตัวแทนของโลกที่เชื่อมโยงกันด้วยความตื่นเต้นเร้าใจของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า” เป่า จ้วงเฟย (อเล็กซ์) กล่าว

ZEEKR X มาพร้อม 5 โทนสีที่ลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ ได้แก่

●สีขาว Crystal White

●สีครีม Palace Beige

●สีเขียว Pine Green

●สีเทาเข้ม Grid Grey

●สีเทาพิเศษ Mist Grey

โดย ZEEKR X มาทำตลาดในไทยทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Standard ที่มาพร้อมมอเตอร์เดี่ยว ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังการขับขี่ 272 แรงม้า และระยะทางในการขับขี่ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ไกลถึง 540 กิโลเมตร

ตามมาตรฐาน NEDC มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบครัน ทั้งไฟหน้าแบบ Full LED , Panoramic Glassroof ล้อขนาด 18 นิ้ว และที่โดดเด่นคือ ระบบความปลอดภัยทั้งหมดที่กล่าวมานั้นมีให้ครบตั้งแต่รุ่น Standard ราคา 1,199,000 บาท และรุ่น Flagship ซึ่งเป็นรุ่นที่โดดเด่นด้าน Performance จะเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงถึง 428 แรงม้า และระยะทางการขับขี่ที่ 470 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง โดยรุ่น Flagship จะมีอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ล้อแบบ Forged Wheel ขนาด 20 นิ้ว  AR HUD, ไฟ Ambient Light และระบบเสียงรอบทิศทางจาก YAMAHA ทั้งหมด 13 ตำแหน่ง ราคา 1,349,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษประกันภัยชั้น 1 พร้อมการรับประกัน ตัวรถ 5 ปี หรือ

150,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน การรับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และบริการ Mobile Service พิเศษสำหรับลูกค้าคนสำคัญ 500 ท่านแรก ที่จองและรับรถภายในสิงหาคม 2567 นี้ รับฟรี Wallbox จาก “VREMT” พร้อมแพคเกจติดตั้ง มูลค่า 50,000 บาท สามารถจองและชมรถได้จาก POP UP ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ Emsphere, Central Westgate, The Mall Bangkae และ Central Rama 2 และติดตามกิจกรรมต่างๆ ของทาง ZEEKR ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต พร้อมลุยศึกเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2024

ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต พร้อมจัดทัพลุยศึกเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2024 ด้วยออล-นิว ไทรทัน แรลลี่คาร์ รวม 4 คัน

กรุงเทพฯ – 5 กรกฎาคม 2567 : มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) เปิดตัวกองทัพนักแข่งทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ภายใต้การสนับสนุนด้านเทคนิคจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส พร้อมส่ง ออล-นิว ไทรทัน ทั้งหมด 4 คัน ลงสู้ศึกเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2024 หรือ เอเอ็กซ์ซีอาร์ 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 11–17 สิงหาคมนี้ บนเส้นทางเขตภาคใต้และภาคกลางของประเทศไทย

ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต

ครั้งนี้ นับเป็นปีที่ 3 ที่ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ส่งรถกระบะไทรทันเข้าร่วมชิงชัยในการแข่งขันเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ โดยในปีแรก ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต สามารถขึ้นแท่นคว้าแชมป์ประเภทบุคคลมาครองได้สำเร็จ ขณะที่การแข่งขันปีที่ 2 ทีมแข่งได้เปลี่ยนมาใช้รถกระบะรุ่นใหม่ และคว้าอันดับ 3 ประเภทบุคคลมาครอง การแข่งขันแรลลี่ทั้ง 2 ครั้ง ได้แสดงให้เห็นถึงขีดสุดของความแข็งแกร่งทนทาน ความปราดเปรียวคล่องตัว และสมรรถนะการควบคุมรถที่เหนือชั้น โดยเฉพาะบนสภาพถนนที่สมบุกสมบัน และในปีนี้ รถไทรทันได้รับการปรับปรุงสมรรถนะการขับขี่ให้ก้าวไปอีกขั้นเพื่อทวงบัลลังก์แชมป์

ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต พร้อมเดินหน้าสู้ศึกการแข่งขัน โดยมี ทันท์ สปอร์ต (ประเทศไทย) เป็นเจ้าของทีมแข่ง ภายใต้การนำทัพของ มร.ฮิโรชิ มาซูโอกะ อดีตแชมป์ดาการ์ แรลลี่ 2 สมัย ในฐานะผู้อำนวยการทีม ร่วมด้วยทีมวิศวกรของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งจะทำการพัฒนารถแข่งแรลลี่และร่วมเดินทางไปกับทีมแข่งเพื่อสนับสนุนด้านเทคนิคระหว่างการแข่งขัน

เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ชยพล โยธา นักแข่งชาวไทย และ พีรพงษ์ สมบัติวงศ์ ผู้นำทางชาวไทย เจ้าของแชมป์เอเอ็กซ์ซีอาร์ 2022 จะกลับมาร่วมทีมกันอีกครั้ง ร่วมด้วยคู่หูชาวญี่ปุ่น คัตสึฮิโกะ ทากูชิ และ ทาคาฮิโระ ยาสุอิ ที่เคยทำผลงานเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 8 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดในกลุ่มนักแข่งชาวญี่ปุ่นในเอเอ็กซ์ซีอาร์ 2023 เสริมทัพด้วย ศักดิ์ชัย ห่านตระกูล และ จุมพล ดวงทิพย์ นักแข่งชาวไทยผู้มากประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญในรถมิตซูบิชิอย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วย คาสุโตะ โคอิเดะ นักทดสอบรถของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จากประเทศญี่ปุ่น และ เออิจิ ชิบะ ผู้นำทางชาวญี่ปุ่น ที่เคยสร้างผลงานเข้าเส้นชัยและขึ้นโพเดียมจากการแข่งขันเอเอ็กซ์ซีอาร์ โดยนักแข่งทั้งหมดจะลงสนามด้วยออล-นิว ไทรทัน ในรุ่น T1 (รถแข่งแบบครอสคันทรี รุ่นโปรโตไทพ์) เพื่อชิงตำแหน่งแชมเปี้ยนอีกครั้ง

ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมจากการแข่งขันในปีที่ก่อน ในปีนี้ รถไทรทัน จึงได้รับการพัฒนาสมรรถนะให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่ต่อสู้ที่มีเครื่องยนต์ความจุสูงกว่าได้ โดยเฉพาะในสเตจการแข่งขันที่ใช้ความเร็วสูงมากๆ โดยมีการติดตั้งระบบส่งกำลังสำหรับรถแข่งซึ่งสามารถรองรับแรงบิดสูง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทนทาน พร้อมให้สมรรถนะการขับขี่ที่คล่องตัว ควบคุมได้ดังใจ นอกจากนี้ ความกว้างช่วงล้อยังได้รับการปรับขยายให้กว้างขึ้น ขณะที่ระบบกันสะเทือนหลัง ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ เปลี่ยนจากแหนบเป็นคอยล์สปริงแบบ 4 link ทำให้ตัวรถสามารถรองรับแรงสะเทือนบนสภาพถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมบนเส้นทางที่สมบุกสมบันได้อย่างยอดเยี่ยม

ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของรถแข่งไทรทัน แรลลี่คาร์ ในช่วงวันที่ 21-27 มิถุนายน ที่ผ่านมา ด้วยการจำลองสภาพเส้นทางการแข่งขันบนถนนและเส้นทางออฟโรดใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในประเทศไทย โดยผลการทดสอบพบว่า ตัวถังและแชสซีส์มีความแข็งแรงทนทาน ขณะที่เครื่องยนต์ได้รับการปรับปรุงสมรรถนะและอัตราเร่งให้ดีขึ้น ซึ่งรถแข่งไทรทัน แรลลี่คาร์ สามารถผ่านการทดสอบสุดทรหดเป็นระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร ในระยะเวลา  7 วัน ได้อย่างมั่นใจ ทั้งยังได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่การแข่งขันในสนามจริง

“เมื่อปีที่แล้ว เราวางเป้าหมายที่จะครองตำแหน่งแชมป์ 2 สมัยติดต่อกันด้วยรถออล-นิว ไทรทัน ซึ่งเพิ่งเปิดตัวออกมาใหม่ๆ ซึ่งน่าเสียดายที่เราไม่สามารถดึงเอาศักยภาพของรถออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้เราจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 3”

มร.ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อำนวยการทีมแข่งมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต กล่าว “ในปีนี้ เราจึงมุ่งพัฒนารถไทรทันที่จะใช้ขับแข่งให้มีสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ให้การควบคุมที่ดีบนเส้นทางที่ขรุขระสมบุกสมบัน และขยายทีมของเราโดยเพิ่มรถเข้าแข่งเป็น 4 คัน เรามุ่งมั่นที่จะกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ให้ได้ ซึ่งในปีนี้ ทีมแข่งของเรานั้นยังมี คาสุโตะ โคอิเดะ นักทดสอบรถของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งผมได้ร่วมงานด้วยมานานกว่าสองทศวรรษ เข้ามาร่วมทีม เพราะมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีการนำประสบการณ์จากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตสุดหฤโหดมาใช้เพื่อพัฒนารถยนต์มาโดยตลอด ผมจึงหวังว่า เราจะสามารถส่งต่อความชำนาญเหล่านี้ไปสู่บุคลากรของเรา จากรุ่นสู่รุ่น”

ติดตามการแข่งขัน เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ ได้ที่เว็บไซต์

https://www.mitsubishi-motors.com/en/brand/ralliart/axcr

ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต

ผู้อำนวยการทีม: ฮิโรชิ มาซูโอกะ (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส)

เจ้าของทีม: ชยุส ยังพิชิต (ทันท์ สปอร์ต)

ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค: ก่อพงษ์ อมาตยกุล (ทันท์ สปอร์ต)

ฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิค (ตัวถังและแชสซีส์): โนริโยชิ ไอบะ (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส)

ฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิค (เครื่องยนต์): เท็ตสึยะ มาคิตะ และ มาซาทากะ ซุยกิ (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส)

นักแข่งและผู้นำทาง

ชยพล โยธา

ตัวแทนจาก: ประเทศไทย

เกิด: 16 สิงหาคม 2530 (อายุ 36 ปี)

ประวัติการแข่งขัน: ชยพลคร่ำหวอดในการแข่งขันแรลลี่และมอเตอร์สปอร์ตหลายรายการในประเทศไทย และเป็นผู้นำทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต คว้าแชมป์จากการแข่งขันเอเอ็กซ์ซีอาร์ครั้งแรก เมื่อปี 2022 ตามมาด้วยการคว้าอันดับที่ 3

ในการแข่งขันเอเอ็กซ์ซีอาร์ 2023

ผู้นำทาง: พีรพงษ์ สมบัติวงศ์ (ประเทศไทย)

คัตสึฮิโกะ ทากูชิ

ตัวแทนจาก: ประเทศญี่ปุ่น

เกิด: 7 กุมภาพันธ์ 2515 (อายุ 52 ปี)

ประวัติการแข่งขัน: คัตสึฮิโกะ ทากูชิ คว้าแชมป์ประเภทกรุ๊ป N ในการแข่งขันแรลลี่ เจแปน ในปี 2550 ทั้งยังคว้าแชมป์

2 สมัย จากการแข่งขันระดับนานาชาติ ในรายการ FIA Asia Pacific Rally Championship (APRC)

ผู้นำทาง: ทาคาฮิโระ ยาสุอิ

ศักดิ์ชัย ห่านตระกูล

ตัวแทนจาก: ประเทศไทย

เกิด: 29 พฤศจิกายน 2505 (อายุ 61 ปี)

ประวัติการแข่งขัน: ศักดิ์ชัย ห่านตระกูล สั่งสมประสบการณ์การแข่งขันแรลลี่มานานกว่า 30 ปี ทั้งยังคุ้นเคยและเชี่ยวชาญการขับรถยนต์มิตซูบิชิ เป็นอย่างดี โดยได้เข้าร่วมการแข่งขันมากมาย รวมถึงรายการ ดาการ์ แรลลี่ 1996 ด้วยมิตซูบิชิ ปาเจโร

ผู้นำทาง: จุมพล ดวงทิพย์ (ประเทศไทย)

คาสุโตะ โคอิเดะ

ตัวแทนจาก: ประเทศญี่ปุ่น

เกิด: 19 มิถุนายน 2522 (อายุ 45 ปี)

ประวัติการแข่งขัน: คาสุโตะ โคอิเดะ เข้าทำงานกับมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในเดือนเมษายน 2541 ในฐานะนักทดสอบรถยนต์ จึงมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญการขับรถยนต์มากมาย อาทิ ปาเจโร และแลนเซอร์ อีโวลูชั่น ปัจจุบัน เขายังเป็น

ผู้ฝึกสอนทักษะการขับขี่ให้แก่พนักงานของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส รวมทั้งยังเป็นผู้สาธิตการขับขี่ในงานกิจกรรมต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น

ผู้นำทาง: เออิจิ ชิบะ (ประเทศญี่ปุ่น)

ข้อมูลทางเทคนิคของรถ ไทรทัน แรลลี่คาร์

มิติตัวถัง ยาว x กว้าง5,320 มม. x 1,955 มม.
ระยะฐานล้อ3,130 มม.
ความกว้างช่วงล้อ (หน้า/หลัง)1,730 มม.
เครื่องยนต์4N16 ดีเซล เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์
ระบบหัวฉีดหัวฉีดแรงดันสูง คอมมอนเรล ไดเรคอินเจคชั่น
ความจุกระบอกสูบ2,439 ซีซี
เทอร์โบชาร์จมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ เอนจิ้น แอนด์ เทอร์โบชาร์จเจอร์
กำลังสูงสุด150 กิโลวัตต์ หรือมากกว่า
แรงบิดสูงสุด470 นิวตันเมตร หรือมากกว่า
ระบบท่อไอเสียHKS AXCR 2024 สำหรับการแข่งขัน
ระบบส่งกำลังเกียร์ซีเควนเชียลแบบ 6 สปีด น้ำมันเกียร์ Moty’s
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบฟูลไทม์
เฟืองท้ายCUSCO LSD หน้าและหลัง
ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระ ดับเบิลวิชโบน พร้อมคอยล์สปริง
ระบบกันสะเทือนหลังคอยล์สปริงแบบ 4 link
โช้คอัพCUSCO โช๊คอัพปรับระดับได้ทั้งหน้าและหลัง
ชุดกันกระแทก ไฮโดรลิก
ระบบบังคับเลี้ยวแร็กแอนด์พีเนียน พร้อมระบบช่วยผ่อนแรง
ระบบเบรกดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนจาก ENDLESS
พร้อมผ้าเบรก และคาลิปเปอร์เบรกแบบชิ้นเดียว
น้ำมันเบรกสำหรับการแข่งขันจาก FORTEC
ล้อล้ออลูมินั่มอัลลอยจาก WORK (ขนาด 17 นิ้ว x 7J)
ยางYokohama GEOLANDAR M/T G003 (ขนาด 245/75R17)
ฟีเจอร์อื่น ๆซุ้มล้อหน้าคาร์บอนไฟเบอร์ แผงข้างประตูหน้าและหลังคาร์บอนไฟเบอร์
กระบะท้ายคาร์บอนไฟเบอร์

บริษัทที่ร่วมให้การสนับสนุน (เรียงตามลำดับตัวอักษร ข้อมูล ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2567)

ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต เข้าร่วมการแข่งขันเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2024 โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทพันธมิตร ดังนี้

บริษัทพันธมิตรการสนับสนุน
CARROSSER Co., Ltd.พัฒนาระบบกันสะเทือนหน้าและหลัง พร้อมเฟืองท้าย LSD รวมถึงระบบกันโคลงจาก CUSCO
CARRY ART LLCสนับสนุนการเข้าร่วมแข่งขัน
ENDLESS ADVANCE Co., Ltd.สนับสนุนคาลิปเปอร์เบรก ดิสก์เบรก และผ้าเบรก  
ENEOS Corporationสนับสนุนน้ำมันเครื่อง
Fortec Motorsport Ltdสนับสนุนน้ำยาหล่อเย็น น้ำมันเบรกสำหรับการแข่งขัน
HANKYU HANSHIN EXPRESS Co., Ltd.สนับสนุนการเข้าร่วมแข่งขัน
HKS Co., Ltd.สนับสนุนการพัฒนาเครื่องยนต์สำหรับการแข่งแรลลี่
Mitsubishi Heavy Industries Engine & Turbocharger, Ltd.สนับสนุนเทอร์โบชาร์จ
Mitsubishi Motors Dealers Associationสนับสนุนการเข้าร่วมแข่งขัน
TPR Co., Ltd.สนับสนุนแหวนลูกสูบ และการเข้าร่วมแข่งขัน
TriboJapan Co., Ltd.สนับสนุนน้ำมันเกียร์
Work Co., Ltd.สนับสนุนล้ออัลลอย (CRAG T-GRABIC II)
The Yokohama Rubber Co., Ltd.สนับสนุนยาง GEOLANDAR M/T G003

เกี่ยวกับการแข่งขันเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2024

เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ เป็นการแข่งขันแรลลี่ข้ามประเทศรายการใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 29 ในปีนี้ พิธีเปิดการแข่งขันจะจัดขึ้นในวันที่ 11 สิงหาคม ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ริมชายทะเลฝั่งอ่าวไทยทางภาคใต้ของประเทศไทย จากนั้น การแข่งขันจะเกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 12 สิงหาคม โดยหลังจากที่มีการประกาศปรับเปลี่ยนเส้นทางใหม่แล้ว นักแข่งจะประลองความเร็วบนเส้นทางที่ขับขึ้นเหนือตามแนวพรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศพม่า ผ่านอำเภอหัวหินในประเทศไทย ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ทั้งยังเป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบรมวงศานุวงศ์ไทย การแข่งขันจะสิ้นสุดในวันที่ 17 สิงหาคม ณ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางตะวันตกราว 130 กิโลเมตร นักแข่งและผู้นำทางจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคตลอดระยะทางรวมทั้งสิ้นกว่า 2,400 กิโลเมตร โดยมีเส้นทางกว่า 1,000 กิโลเมตรที่นับเป็นสเตจพิเศษ เส้นทางการแข่งขันในปีนี้คาดว่าจะหฤโหดกว่าทุกครั้งที่เคยมีมา ทั้งพาดผ่านเทือกเขา ตะลุยป่าทึบ ข้ามแม่น้ำลำธาร ขณะที่ต้องขับแข่งด้วยความเร็วสูง ซึ่งล้วนเป็นบททดสอบสมรรถนะ ความปราดเปรียว และความแข็งแกร่งทนทานของรถแข่งแรลลี่ที่เข้าร่วมรายการ

บีวายดี ผนึก เรเว่ ออโตโมทีฟ เสริมแกร่งลุตลาดรถไฟฟ้า

บีวายดี ผนึก เรเว่ ออโตโมทีฟ เสริมแกร่งความร่วมมือผ่านการร่วมลงทุนธุรกิจเพิ่มศักยภาพการแข่งขันพร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยเต็มสูบ

กรุงเทพฯ – 6 กรกฎาคม 2567 – บีวายดี บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และ บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจําหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าบีวายดีอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ เดินหน้าเสริมแกร่งความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ผ่านการร่วมลงทุนในธุรกิจ โดยบีวายดีจะเข้าถือหุ้น 20% ของ เรเว่ ออโตโมทีฟ พร้อมทั้งนำความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทมาเพิ่มศักยภาพด้านการขาย บริการหลังการขาย และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อยกระดับประสบการณ์และความมั่นใจของลูกค้าขึ้นไปอีกขั้น การันตีการดำเนินธุรกิจระยะยาวในตลาดประเทศไทย ตลอดจนเติมเต็มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้กับบีวายดีและเรเว่ ออโตโมทีฟ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างยั่งยืน

นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย บีวายดี ออโต้ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่บีวายดีเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยผ่าน เรเว่ ออโตโมทีฟ ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งรวมถึงความสำเร็จของการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยอย่างรวดเร็ว เราจึงรู้สึกยินดีที่ได้สานความสัมพันธ์ระหว่างบีวายดีกับเรเว่ ออโตโมทีฟ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อร่วมขับเคลื่อนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าและส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืนและผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีวายดีที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น เราเชื่อว่าความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะเพิ่มความคึกคักให้กับตลาด เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า และช่วยให้ทั้งอุตสาหกรรมเติบโตต่อไป”

นาย หลี่ เฉียน เลขานุการคณะกรรมการบีวายดี และผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการลงทุนบีวายดี กล่าวว่า “กระแสความตื่นตัวทั่วโลกด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนส่งผลให้ภาครัฐของไทยขับเคลื่อนนโยบายสนับสนุนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เราจึงมั่นใจในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย และจะเดินหน้านำเทคโนโลยีรวมถึงผลิตภัณฑ์อันล้ำสมัยจากบีวายดีมานำเสนอให้ผู้บริโภคชาวไทย โดยความร่วมมือก่อนหน้านี้ระหว่างบีวายดีกับเรเว่ ออโตโมทีฟ ได้สร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรม เราจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นในการขยายตลาดและสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาดอีวีในไทยอย่างยั่งยืน”

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “เป็นเวลาหลายปีก่อนที่เรเว่ ออโตโมทีฟ และ กลุ่มธุรกิจเรเว่ จะถูกก่อตั้งขึ้น เราเล็งเห็นกระแสการเปลี่ยนแปลงระดับโลกที่มุ่งสู่ยานยนต์ไฟฟ้าและให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เราคาดการณ์ว่าเทรนด์ดังกล่าวจะเข้าสู่ประเทศไทย จึงได้มองหาพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกัน โดยบีวายดีเป็นพันธมิตรที่เหมาะสมที่สุด ด้วยผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลาย เทคโนโลยีนวัตกรรมสุดล้ำอย่าง Blade Battery และกำลังการผลิตที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างครอบคลุม ความน่าเชื่อถือของบีวายดีถือเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อความสำเร็จของเรา สะท้อนจากการเป็นแบรนด์ที่ครองตำแหน่งผู้นำในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของไทย การร่วมทุนทางธุรกิจครั้งนี้ไม่เพียงตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น NEV Nation แต่เรายังเชื่อมั่นว่าจะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของชาติ รวมถึงการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 ในท้ายที่สุด”

นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้สานต่อและยกระดับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบีวายดี เมื่อผนึกความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและการดำเนินธุรกิจระดับโลกของบีวายดีเข้ากับสถานภาพและความแข็งแกร่งในประเทศไทยของ เรเว่ ออโตโมทีฟ จะเป็นรากฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยร่วมกัน จุดแข็งของทั้งสองบริษัทจะช่วยให้เราสามารถมอบประสบการณ์แบบไร้รอยต่อและเหนือระดับที่ครอบคลุมทุกมิติให้กับลูกค้า ตั้งแต่การจัดจำหน่ายไปจนถึงหลังการขาย เพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจระยะยาวของลูกค้า ควบคู่ไปกับการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในวงการยานยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย”

บีวายดี และ เรเว่ ออโตโมทีฟ เป็นพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาวที่มีวิสัยทัศน์ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนด้วยพลังงานใหม่ ความสำเร็จร่วมกันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทในการนำเสนอโซลูชันด้านการคมนาคมที่สะอาดและมีประสิทธิภาพ บีวายดี และ เรเว่ ออโตโมทีฟ ยังคงมุ่งมั่นตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์สังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากขึ้น

ฮอนด้า จัดแคมเปญที่ใช่กับไลฟ์สไตล์คุณ FAST Auto Show Thailand 2024

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ที่ใช่สำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณ จัดแสดงรถยนต์หลากหลายรุ่น

เริ่มจากทั้งไลน์อัปฟูลไฮบริด e:HEV และไลน์อัปขุมพลังเทอร์โบ ในงาน FAST Auto Show Thailand 2024 พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าได้ง่ายขึ้น นำโดย แคมเปญ “Honda Happy Trade-in” เมื่อนำรถฮอนด้าคันเก่ามาขายและออกรถ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ หรือ ซีอาร์-วี เทอร์โบ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ รับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 40,000 บาท หรือเมื่อนำรถคันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ หรือ ซีอาร์-วี เทอร์โบ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ รับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า20,000 บาท โดยลูกค้าสามารถจองรถภายในงานและโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 – 30 กันยายน 2567 หรือเป็นเจ้าของ ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ และ ซิตี้ แฮทช์แบ็ก เทอร์โบ ใหม่ กับแคมเปญ “Double Smile Plus” (ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส) ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,970 บาท* (คำนวณจาก ซิตี้ ใหม่ (เกรด S) และ ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ (เกรด S+) เงื่อนไขดาวน์ 20%) พร้อมด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น* อาทิ ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% พร้อมรับ Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์) ประกอบด้วย

ฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และฟรีฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี โดยแบตเตอรี่ไฮบริดและระบบไฮบริดทั้งระบบรับประกัน 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันเฉพาะแบตเตอรี่ไฮบริดเพิ่มอีก 5 ปี (ตั้งแต่ปีที่ 6 – 10) เฉพาะเครื่องยนต์ e:HEV เท่านั้น หรือเลือก ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ ตามสไตล์ที่คุณชอบ โดยข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 – 31 กรกฎาคม 2567 ทั้งภายในงาน FAST Auto Show Thailand 2024  ตั้งแต่วันที่ 3 – 7 กรกฎาคม 2567 ณ บูทฮอนด้า (A04) ฮอลล์ 103 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ฮอนด้าเชิญชวนลูกค้าร่วมสัมผัส ฮอนด้า อี:เอ็น 1 ยนตรกรรมเอสยูวีไฟฟ้า 100% โดยสามารถติดต่อได้ที่บริเวณโซน EV ภายในงาน และหากสนใจการเช่าใช้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.honda.co.th/en1 เพื่อติดต่อบริษัทรถเช่าชั้นนำที่ให้บริการ

สำหรับรถยนต์ไฮไลต์ที่จัดแสดงในงาน FAST Auto Show Thailand 2024 ได้แก่

ไลน์อัปฟูลไฮบริด e:HEV นับเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงในปัจจุบัน มอบความแรงเกินคาด ประหยัดเกินใคร ให้คุณใช้ชีวิตได้อิสระ พาคุณไปได้ไกลกว่าด้วยน้ำมัน 1 ถัง นำโดย

•ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม ทรงพลังทุกการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อน ฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัวในระบบเกียร์ E-CVT มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC ตอบสนองทุกอัตราเร่งได้ดั่งใจ ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงถึง 25 กม./ลิตร มาพร้อมความประหยัดที่เหนือความคาดหมาย โดยน้ำมัน 1 ถัง สามารถขับไปได้ไกลกว่า 900 กม.** มอบประสบการณ์ขับขี่ที่ลงตัว เพื่ออิสระของการเดินทางที่ไปได้ไกลและไร้กังวลในทุกเส้นทาง มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย อีกทั้งหลากหลายเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีการขับขี่อื่น ๆ ที่ครบครัน มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ด้วยราคาเริ่มต้น 1,529,000 บาท

มาพร้อมข้อเสนอ* ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% พร้อมรับฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์ ได้แก่

ฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ฟรีฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) หรือเลือกดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 17,481 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 16,513 บาท (คำนวณจาก แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ เกรด e:HEV E เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และพิเศษกับแคมเปญ “Honda Happy Trade-in” เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้าคันเก่ามาขายและออกรถ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่ม บัตรน้ำมันมูลค่า 40,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่ม บัตรน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท

      ไลน์อัปขุมพลังเทอร์โบ มอบประสบการณ์ขับสนุก อัตราเร่งเร้าใจ สไตล์สปอร์ต แต่ยังคงความประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี นำโดย

•        ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ และ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก เทอร์โบ ใหม่ ซิตี้คาร์ยอดนิยม โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว และภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย โดย ซิตี้ แฮทช์แบ็ก มาพร้อมเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR Seat) อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมขุมพลัง VTEC TURBO 1.0 ลิตร ที่มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ขับสนุกพร้อมตอบสนองทุกการเดินทาง มั่นใจทุกการขับขี่กับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ติดตั้งในทุกรุ่นย่อย ครบครันด้วยหลากหลายฟังก์ชันการใช้งาน  สำหรับ ซิตี้ เทอร์โบ ประหยัดน้ำมันสูง 23.8 กม./ลิตร และซิตี้

แฮทช์แบ็ก เทอร์โบ ประหยัดน้ำมันสูง 23.3 กม./ลิตร ด้วยราคาเริ่มต้น 599,000 บาท มาพร้อมข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี หรือเลือกดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 6,224 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 5,970 บาท (คำนวณจาก ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ (เกรด S) และ ซิตี้ แฮทช์แบ็ก เทอร์โบ ใหม่ (เกรด S+) เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%

•        ฮอนด้า ซีอาร์-วี เทอร์โบ โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ

ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก ทรงพลัง ให้อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85 มีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน

4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time (TM) AWD with E-DPS) พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์กับตัวเลือกเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง มั่นใจทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่หลากหลาย ด้วยราคาเริ่มต้น 1,419,000 บาท

มาพร้อมข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อมรับฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์ ได้แก่

ฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ฟรีฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) หรือเลือกดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 16,223 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 15,325 บาท (คำนวณจาก ซีอาร์-วี (เกรด E) เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% และพิเศษกับแคมเปญ “Honda Happy Trade-in” เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถ ซีอาร์-วี เทอร์โบ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 40,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้

มาขายและออกรถ ซีอาร์-วี เทอร์โบ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท

สัมผัสขุมพลังไฟฟ้า 100% ฮอนด้า อี:เอ็น 1 ภายในงาน

พิเศษ ฮอนด้าเชิญชวนลูกค้าร่วมสัมผัส ฮอนด้า อี:เอ็น 1 ยนตรกรรมเอสยูวีไฟฟ้า 100% โดยลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่บริเวณโซน EV ภายในงาน และหากสนใจการเช่าใช้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.honda.co.th/en1 เพื่อติดต่อบริษัทรถเช่าชั้นนำที่ให้บริการ

ลูกค้าที่สนใจสามารถร่วมสัมผัสและเลือกซื้อรถยนต์ฮอนด้าคันที่ใช่ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้ที่งาน

FAST Auto Show Thailand 2024 ตั้งแต่วันที่ 3 – 7 กรกฎาคม 2567 ณ บูทฮอนด้า (A04) ฮอลล์ 103

ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือรับข้อเสนอสุดพิเศษที่แตกต่างกันสำหรับรถยนต์แต่ละรุ่นได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมทั้งในงานฯ และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชตกับที่ปรึกษา

การขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง

โทร 0 2341 7777 อีกทั้งสามารถลงทะเบียนทดลองขับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ที่ www.honda.co.th/testdrive ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

หมายเหตุ

-อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

**ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ (ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล)

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษ

สำหรับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นที่ร่วมรายการและทำสัญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ

เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 – 31 กรกฎาคม 2567

•        ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.       ดอกเบี้ย 0% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

2.       ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 6,224 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 5,970 บาท (คำนวณจาก ซิตี้ ใหม่

(เกรด S) เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%

•        ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.       ดอกเบี้ย 0% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

2.       ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 7,991 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 7,664 บาท (คำนวณจาก ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ (เกรด e:HEV SV) เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%

•        ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.       ดอกเบี้ย 0% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

2.       ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 6,224 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 5,970 บาท (คำนวณจาก ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ (เกรด S+)  เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%

•        ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.       ดอกเบี้ย 0.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัด ระยะทาง

2.       ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 7,575 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 7,265 บาท (คำนวณจาก ซิตี้ แฮทช์แบ็ก    อี:เอชอีวี ใหม่ (เกรด e:HEV SV) เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%

•        ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.       ดอกเบี้ย 0% พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์)’

โดย Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

•        ฟรีประกันภัย 1 ปี

•        ฟรีรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

•        ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•        ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.       ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 11,193 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 10,573 บาท (คำนวณจาก เอชอาร์-วี

อี:เอชอีวี (เกรด E) เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% 

•        ฮอนด้า ซีวิค มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.       ดอกเบี้ย 0% พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์)’

โดย Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

•        ฟรีประกันภัย 1 ปี

•        ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•        ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.       ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 11,032 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 10,420 บาท (คำนวณจาก ซีวิค

(เกรด EL) เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% 

•        ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.       ดอกเบี้ย 0% พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์)’

โดย Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

•        ฟรีประกันภัย 1 ปี

•        ฟรีรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

•        ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•        ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.       ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 12,908 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 12,193 บาท (คำนวณจาก ซีวิค อี:เอชอีวี (เกรด EL+) เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%

•        ฮอนด้า ซีอาร์-วี เทอร์โบ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.       ดอกเบี้ย 0% พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์)’

โดย Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

•        ฟรีประกันภัย 1 ปี

•        ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•        ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.       ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 16,223 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 15,325 บาท (คำนวณจาก ซีอาร์-วี

(เกรด E)  เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%

ข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถ      ซีอาร์-วี เทอร์โบ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 40,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ซีอาร์-วี เทอร์โบ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท

•        ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.       ดอกเบี้ย 0.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

2.       ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 18,167 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 17,161 บาท (คำนวณจาก ซีอาร์-วี

อี:เอชอีวี (เกรด e:HEV ES) เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% 

•        ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

1.       ดอกเบี้ย 0.99% พร้อมรับ ‘Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์)’

โดย Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

•        ฟรีประกันภัย 1 ปี

•        ฟรีรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

•        ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•        ฟรี Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

2.       ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ 4 ปี หรือ ผ่อน 5 ปี ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

ผ่อน 4 ปี ค่างวดเริ่มต้น 17,481 บาท / ผ่อน 5 ปี ค่างวดเริ่มต้น 16,513 บาท (คำนวณจาก แอคคอร์ด

อี:เอชอีวี ใหม่ (เกรด e:HEV E) เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% 

ข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 40,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท

เอ็มจี ลุยงาน FAST AUTO SHOW 2024 พร้อมแคมเปญพิเศษครบทุกรุ่น

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ประเดิมครึ่งปีหลังขนยนตรกรรมหลากหลายขุมพลังขับเคลื่อนที่มาพร้อมข้อเสนอพิเศษมาจัดแสดงในงาน FAST AUTO SHOW 2024 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ตั้งแต่วันที่ 3 – 7 กรกฎาคม 2567

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดปี 2567 นี้ เอ็มจี ยังคงเดินหน้าเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี ของแบรนด์ และทยอยแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่หลากหลายรุ่นเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า และสำหรับการเข้าร่วมงาน FAST AUTO SHOW 2024 เอ็มจี ได้ตอกย้ำการเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ด้วยการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาจัดแสดงเกือบเต็มพื้นที่โดยมีโมเดลไฮไลท์อย่าง E-MPV ขนาด 7 ที่นั่ง ที่มาให้สัมผัสคันจริงทั้งรุ่น NEW MG MAXUS 9 พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ PLATINUM 5 PACKAGE ความคุ้มค่าที่เหนือระดับและอีกรุ่นกับ NEW MG MAXUS 7 ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มครอบครัวยุคใหม่เป็นอย่างมาก โดยทาง เอ็มจี เตรียมทยอยส่งมอบรถในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม นี้ นอกจากนี้ ยังมีรุ่น NEW MG4 ELECTRIC แฮทช์แบ็คอีวีที่ขับสนุกซึ่งเป็นโมเดลยอดนิยมขวัญใจวัยรุ่น ที่ผลิตโดยฝีมือคนไทยจากสายการผลิตในประเทศไทยในราคาเริ่มต้นเพียง 709,900 บาท และอีก 2 รุ่นกับ MG ZS EV และ MG EP PLUS

สำหรับกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือกก็มีมาให้ชมอย่าง NEW MG VS HEV รถสปอร์ตไฮบริดเอสยูวีที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยียานยนต์ยุคใหม่ และอีก 2 รุ่น ซึ่งเป็นรถยนต์สันดาปภายในอย่าง NEW MG5 PRO สปอร์ตคูเป้ซีดานที่ล่าสุดได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งคันให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และ MG ZS รถเอสยูวีที่คุ้มค่าแห่งปี โดยทุกรุ่นล้วนมาพร้อมข้อเสนอพิเศษเพื่อมอบความคุ้มค่าให้กับผู้ที่สนใจได้เป็นเจ้าของยนตรกรรมทุกรุ่นง่ายมากยิ่งขึ้น”

ข้อเสนอพิเศษในงาน FAST AUTO SHOW 2024 ดังนี้

กลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า

NEW MG4 ELECTRIC

-ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

-ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

-พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-ฟรี! ชุดพรมปูพื้น

NEW MG ZS EV

-รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% นาน 48 เดือน

-ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

-ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

-ฟรี! สาย V2L จำนวน 1 ชุด

-พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-ฟรี! ชุดพรมปูพื้น

MG EP และ NEW MG ES

-รับดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% นาน 48 เดือน

-ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

-ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

-พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-ฟรี! ชุดพรมปูพื้น

-ฟรี! สาย V2L จำนวน 1 ชุด เฉพาะรุ่น NEW MG ES

NEW MG MAXUS 7

-ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

-ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

-พิเศษ! ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-ฟรี! สาย V2L จำนวน 1 ชุด

-ฟรี! ชุดพรมปูพื้น

NEW MG MAXUS 9 รับ PLATINUM 5 PACKAGE ดังนี้

-ฟรี! 1 ปี > ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 12 เดือน

-ฟรี! 2 ปี > ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ.

-ฟรี! 3 ปี > ค่าชาร์จ ณ โชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศ

-ฟรี! 4 ปี > ค่าบำรุงรักษา หรือ 75,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-ฟรี! 5 ปี > รับประกันคุณภาพตัวรถ หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

นอกจากนี้ยังมี

•ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง

•ฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน บริการรถยกไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่จำกัดระยะทาง                   พร้อม Limousine service กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอด 5 ปี

•พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี! ชุดพรมปูพื้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์สันดาปภายใน

NEW MG HS

-ฟรี! ค่าบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-ฟรี! คูปองน้ำมัน มูลค่า 25,000 บาท

NEW MG EXTENDER

-ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

-ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

-ฟรี! ชุดพรมปูพื้น

NEW MG ZS

-ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

-ฟรี! ชุดพรมปูพื้น

NEW MG5 PRO

-ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

-ฟรี! ชุดพรมปูพื้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์พลังงานทางเลือก

MG HS PHEV

-ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

-พิเศษ! ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

-พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

-ฟรี! ชุดพรมปูพื้น

NEW MG VS HEV

-ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครองนาน 1 ปี

-ฟรี! ชุดพรมปูพื้น

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนดเท่านั้น

ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสัมผัสยนตรกรรมรุ่นต่างๆ ของ เอ็มจี ได้ในงาน FAST AUTO SHOW 2024 ระหว่างวันที่ 3 – 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา หรือ ที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ

ซูซูกิ จัดทัพรถยนต์รุ่นยอดนิยม อัดแคมเปญแรงดอกเบี้ย 0%

“ซูซูกิ” จัดทัพรถยนต์รุ่นยอดนิยมตกแต่งจัดเต็มร่วมงาน Fast Auto Show Thailand 2024 ชูความคุ้มค่า อัดแคมเปญแรงดอกเบี้ย 0% หรือผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน เอาใจลูกค้าที่จองรถภายในงานนี้เท่านั้น

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมงานจัดแสดงรถยนต์ ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024 ครั้งที่ 12 (Fast Auto Show Thailand 2024) ซูซูกิ ยังคงนำรถยนต์หลากหลายรุ่นเข้าร่วมจัดแสดง พร้อมด้วยเตรียมข้อเสนอสุดพิเศษภายใต้แคมเปญ  “SUZUKI EAZY DRIVE ผ่อนสบายในสไตล์คุณ” มามอบให้กับลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่น เฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น

ภายในงานผู้เข้าร่วมชมจะได้พบกับรถยนต์ของซูซูกิซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้ชื่อว่ามีความคุ้มค่า ครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความต้องการใช้งานรถยนต์ที่หลากหลายเป็นอย่างมาก ซึ่งซูซูกิเป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้จำหน่ายรถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายไว้รองรับต่อความต้องการ และสิ่งที่สำคัญคือมีรถยนต์หลายรุ่นที่เข้าไปอยู่ในใจของคนไทยและยังได้การตอบรับเป็นอย่างดีเสมอมา

โดยเฉพาะรถยนต์ 2 รุ่นของซูซูกิที่ยังคงสร้างความแตกต่าง ทั้งด้านเอกลักษณ์ของตัวรถไปจนถึงความคุ้มค่าด้านการใช้งาน นั่นคือ SUZUKI XL7 HYBRID รถอเนกประสงค์แบบสปอร์ตครอสโอเวอร์ คือ หนึ่งในทางเลือกของรถยนต์สำหรับครอบครัวอีกรุ่นหนึ่งของคนไทย และ SUZUKI SWIFT สปอร์ตแฮทช์แบ็กขวัญใจมหาชน ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน

สำหรับ SUZUKI XL7 HYBRID “Empower Your Journey” รถยนต์ Multi-Dynamic Crossover ที่ผสานกับเทคโนโลยีจากซูซูกิ ซึ่งเป็นการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับ ISG พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไออน ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน และช่วยในเรื่องของการออกตัวได้อย่างนุ่มนวล อีกทั้งยังบำรุงรักษาง่ายไม่ต่างจากเครื่องยนต์เบนซิน ตอกย้ำความมั่นใจด้วยการรับประกันแบตเตอรี่นาน 5 ปี ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง กับเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ถูกตกแต่งคอนโซลลายไม้ ผสมผสานกับดีไซน์คอนโซลแบบสปอร์ต มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลการขับขี่ Driving G-Force และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันด้วยหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันเอ็นเตอร์เทนเมนต์ รองรับทุกการเชื่อมต่อความบันเทิงภายในตัวรถ สะดวกไปกับแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย พวงมาลัยทรง D-Shape มาพร้อมกับปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มสั่งการโทรศัพท์ เพิ่มความคล่องตัวให้กับการขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ มาพร้อมแคมเปญ “SUZUKI EAZY DRIVE ผ่อนสบายในสไตล์คุณ” ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 799,000 บาท สามารถเลือกรับข้อเสนอ ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 7,888 บาท หรือเลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน เพียงเดือนละ 8,146 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรกและบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี

SUZUKI SWIFT สปอร์ตแฮทช์แบ็กยอดนิยม ด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่น ดีไซน์สปอร์ตและปราดเปรียวกับไฟหน้า LED Projector และไฟหลัง LED ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยขนาด 16 นิ้ว ด้านสมรรถนะได้เพิ่มเทคโนโลยีหัวฉีดคู่หรือ DUALJET ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ประหยัดน้ำมันกว่า 23 กิโลเมตรต่อลิตร ขับขี่เร้าใจด้วยเครื่องยนต์ K12M ขนาด 1.2 ลิตร มอบความปลอดภัยด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT ช่วยให้รถมีน้ำหนักน้อยลงแต่คงความแข็งแกร่งและช่วยประหยัดน้ำมัน รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบกันการสั่นสะเทือน ระบบ TCS ช่วยในการควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่นหรือในทางโค้ง และยังเหมาะกับการขับในเมืองด้วยระบบ IDLING STOP ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง ขับขี่อย่างมั่นใจด้วยระบบ Hill Hold Control ที่จะช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน และปลอดภัยมากขึ้นด้วยถุงลมนิรภัย SRS จำนวน 6 ตำแหน่ง มีราคาจำหน่ายเริ่มต้น 567,000 บาท ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ SUZUKI SWIFT ทุกรุ่น สามารถเลือกรับข้อเสนอ ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,999 บาท หรือ รับดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือ เลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือนๆ ละ 5,780 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี

นอกจากนั้นจะยังได้พบกับ  SUZUKI ERTIGA HYBRID -The Power of Smart เต็มที่ทุกฟังก์ชัน คุ้มค่า คุ้มราคา ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ด้วยเครื่องยนต์อัจฉริยะ SHVS จากซูซูกิ ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator หรือ ISG พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ION ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร เสริมประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนให้รถออกตัวได้อย่างนุ่มนวล โดยมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 134 กรัม/กิโลเมตร การบำรุงรักษาง่ายไม่แตกต่างจากรถเครื่องยนต์เบนซิน ใช้งานได้อย่างไร้กังวล เพราะรับประกันอายุแบตเตอรี่นานถึง 5 ปี SUZUKI ERTIGA HYBRID ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 699,000 บาท ลูกค้าที่สนใจพร้อมรับข้อเสนอ ผ่อนนานสูงสุด 99 เดือนละ 7,126 บาท ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี

SUZUKI CELERIO รถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คคุณภาพเกินตัว มอบความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร โดดเด่นด้วยการเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มอบความคุ้มค่าคุ้มราคาและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างสูงสุด ส่งผลให้ฐานลูกค้าในปัจจุบันไม่ใช่แค่เพียงแค่วัยรุ่นและวัยทำงาน แต่ยังเป็นหนึ่งในรถทางเลือกของครอบครัวขนาดเล็กอีกด้วย โดยมีทั้งในรุ่นเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ CVT ลูกค้าที่ต้องการใช้งานรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คคุณภาพเกินตัว SUZUKI CELERIO มาพร้อมราคาจำหน่ายสุดพิเศษ เริ่มต้นที่ 319,900 บาท พร้อมเลือกรับข้อเสนอ ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 2,999 บาทหรือเลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน เดือนละ 3,302 บาท ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี

ส่วน SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ ที่ถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ที่พร้อมจะนำไปดัดแปลงและพัฒนาต่อยอดให้เข้ากับทุกแนวทางของการดำเนินชีวิต ที่พร้อมจะสนับสนุนและร่วมขับเคลื่อนอยู่เคียงข้างผู้ใช้ด้วยความจริงใจ พร้อมเดินหน้าไปสู่จุดหมายและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ในราคาจำหน่ายเพียง 395,000 บาท มาพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษ ให้สามารถเลือกรับรับข้อเสนอส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 20,000 บาท หรือ เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษเริ่ม 1.99% นาน 60 เดือน หรือ รับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นวันละ 222 บาท พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก

นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์ของซูซูกิทุกรุ่น สามารถรับรถได้ทันทีแบบไม่ต้องรอ อย่างไรก็ตามสำหรับแคมเปญพิเศษดังกล่าว สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการเท่านั้น ทั้งนี้ รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธรถยนต์ซูซูกิภายในงาน Fast Auto Show Thailand 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-7 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอล์ล EH 102-104 หรือที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิใกล้บ้าน

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนสัมผัสประสบการณ์ Mitsubishi e:MOTION

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ Mitsubishi e:MOTION เทคโนโลยีขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเหนือระดับ จาก เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี พร้อมด้วยยานยนต์แห่งเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย ที่งานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024

ภาพข่าว : มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำโดย มร.เรียวอิจิ อินาบะ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย จัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมแห่งเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่งานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024

บรรยายภาพ (จากซ้ายไปขวา) : นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) มร.เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024 นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถใหม่ และ นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถแต่ง โมดิฟาย และกิจกรรมอีสปอร์ต ถ่ายภาพร่วมกันที่งานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024

กรุงเทพฯ – 3 กรกฎาคม 2567 : มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์และพัฒนายานยนต์ที่สะท้อนความเป็นที่สุดแห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) ด้วยการขนทัพสุดยอดยนตรกรรมแห่งเทคโนโลยีล้ำสมัย จัดแสดงที่งานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024 นำโดย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี รถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด สัมผัสพลังใหม่ ความรู้สึกใหม่ ภายใต้นิยาม Mitsubishi e:MOTION ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจ ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2024 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ คลีนดีเซล ไฮเปอร์ พาวเวอร์ ขีดสุดแห่งเทคโนโลยีระบบความปลอดภัย พร้อมให้ความสะดวกสบาย หรูหราด้วยห้องโดยสารสไตล์สปอร์ตพรีเมียม และ มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท รถกระบะสำหรับผู้ชื่นชอบการผจญภัยพร้อมไลฟ์สไตล์แบบพรีเมียม ด้วยขุมพลังที่มอบสมรรถนะการขับขี่อันเหนือชั้น พร้อมข้อเสนอพิเศษมากมาย พิเศษสำหรับครอบครัวมิตซูบิชิ ที่เป็นเจ้าของรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นใดก็ได้ รับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท* เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน M-Drive และลงทะเบียน รับฟรี e-Voucher สำหรับใช้เป็นส่วนลดในการซื้อรถยนต์มิตซูบิชิคันใหม่ภายในงาน

มร.เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า “ปรัชญาความเป็นที่สุดแห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) คือพลังขับเคลื่อนให้เรามุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้า พร้อมปลุกพลังแห่งการผจญภัย ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ที่เพียบพร้อมทั้งสมรรถนะ ความสะดวกสบาย ความล้ำสมัย ความปลอดภัย รวมถึงความไว้วางใจได้ ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และความอุ่นใจในการใช้งาน ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกหลอมรวมไว้ในรถยนต์มิตซูบิชิทุกคันที่ทุกท่านได้สัมผัสในวันนี้”

“นอกเหนือจากสุดยอดยนตกรรมที่นำมาจัดแสดงแล้ว ในงานนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี  มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่นปี 2024 รวมถึงข้อเสนอสุดพิเศษที่น่าดึงดูดใจที่สุดเท่าที่เคยมีมา สำหรับ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน อีกด้วย” มร.อินาบะ กล่าวเพิ่มเติม

ไฮไลท์การจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมแห่งดีเอ็นเอมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) ในงานนี้ นำโดย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี รถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดรุ่นแรกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ครองตำแหน่งผู้นำในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ เต็มเปี่ยมด้วยพลังและมั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วย Mitsubishi e:MOTION ที่ผสานการทำงาน 3 สุดยอดเทคโนโลยีไว้ด้วยกัน ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด (HEV System) เพื่อการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้การตอบสนองที่ดี เร่งแรงทันใจด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแรงบิดสูงจากระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ซึ่งได้รับการถ่ายทอดและพัฒนามาจากความสำเร็จของระบบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7 Drive Mode) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการ ให้ความปลอดภัย มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง ลุยได้ในทุกสภาพถนน นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำขณะเข้าโค้ง ให้คุณมั่นใจและปลอดภัยเหนือระดับ

ลูกค้าที่ซื้อ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี  ภายในงานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024 จะได้รับข้อเสนอจากแคมเปญพิเศษ อัตราดอกเบี้ย 0%* และแพ็กเกจ MITSUBISHI XTRA CARE บริการหลังการขายที่พร้อมมอบความอุ่นใจให้กับลูกค้าแบบจัดเต็ม

อีกหนึ่งไฮไลท์ภายในงานนี้ ได้แก่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่นปี 2024 มาพร้อมขุมกำลังใหม่ “ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power)” เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์แบบคอมมอนเรลเจนเนอเรชันใหม่ ทรงพลังและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 (Euro 5) มีทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยพละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 2,500 รอบต่อนาที ด้วยน้ำหนักตัวรถที่ลดลงจึงใช้เชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่า ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลง ประหยัดน้ำมันมากขึ้น

มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่นปี 2024 รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Elite Edition ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด มาพร้อมระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งสามารถปรับเข้าสู่โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ (4H Full-time) ได้ทันทีแม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว (Shift-on-the-Fly) ช่วยให้รถยึดเกาะถนนดีขึ้น ร่วมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันอัจฉริยะ ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) ของมิตซูบิชิ และโหมดการขับขี่แบบออฟโรด 4 รูปแบบ ได้แก่ โหมดขับขี่บนทางฝุ่น (Gravel) โหมดขับขี่บนผิวทางที่ปกคลุมด้วยโคลนหรือหิมะ (Mud/Snow) โหมดขับขี่บนพื้นผิวทราย (Sand) และโหมดขับขี่บนผิวทางที่ขรุขระหรือพื้นผิวหิน (Rock)

ภายในงาน ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่นปี 2024 ได้ในราคาเริ่มต้น 1,389,000 บาท และรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.09% พร้อมรับแพ็กเกจบำรุงรักษา ฟรี 5 ปี และข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย

ปิดท้ายด้วย ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท มาพร้อมกับเครื่องยนต์ ไฮเปอร์พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู (Hyper Power X2) พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,750 รอบต่อนาที ภายใต้การออกแบบอันดุดันสะกดทุกสายตา ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ชื่นชอบการผจญภัย พร้อมความสะดวกสบายของห้องโดยสารแบบทูโทน เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันอัจฉริยะ ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) ของมิตซูบิชิ พร้อมด้วยระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) เพิ่มความสะดวกสบาย และมั่นใจในการขับขี่

ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท โดดเด่นยิ่งกว่าด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ (Full-Time All Wheel Control) เจ้าแรกในตลาดรถกระบะเมืองไทย อันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่สามารถเปลี่ยนจากโหมดขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ได้ทันที แม้ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ (Shift-on-the-Fly) แตกต่างอย่างเหนือกว่าด้วยระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ช่วยให้ขับขี่คล่องตัว ควบคุมได้ดังใจ เสริมความปลอดภัยให้พร้อมตะลุยในทุกสภาพอากาศและทุกรูปแบบของพื้นผิว ด้วย 7 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ (Normal) โหมดประหยัดเชื้อเพลิงและรักษ์โลก (Eco) โหมดขับขี่บนทางลูกรังหรือทางฝุ่น (Gravel) โหมดขับขี่บนพื้นหิมะหรือขณะฝนตกผิวถนนเปียกลื่น (Snow) โหมดขับขี่ลุยโคลนหรือผิวทางที่เหนียวลื่น (Mud) โหมดขับขี่ตะลุยทรายหรือผิวทางที่ดินร่วน (Sand) โหมดไต่หินหรือขับขี่บนผิวทางที่เป็นหินขรุขระ (Rock) โดยลูกค้าที่ซื้อ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ภายในงาน จะได้รับข้อเสนอพิเศษด้วยอัตราดอกเบี้ย 0.89%*

พบกับรถยนต์ทุกรุ่นของมิตซูบิชิ ภายในบูธ B03 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่งานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3–7 กรกฎาคม 2567 ที่ฮอลล์ EH 102–104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม และติดต่อเพื่อขอทดลองขับได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดรับสายทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และติดตามข้อมูลข่าวสารของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่ www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH

สุดยอดยนตรกรรมมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่จัดแสดง ณ งานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024

รุ่นรถยนต์ฟีเจอร์เด่นข้อเสนอพิเศษหมายเหตุ
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวีMitsubishi e:MOTION ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด
(HEV System)โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ
(7 Drive Mode)ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)
อัตราดอกเบี้ย 0%*

แพ็กเกจ MITSUBISHI XTRA CARE
 
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2024เครื่องยนต์ ไฮเปอร์พาวเวอร์ (184 แรงม้า)ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู โหมดการขับขี่แบบออฟโรด
4 รูปแบบเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันอัจฉริยะ ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense)  
อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.09%*

แพ็กเกจบำรุง รักษา ฟรี 5 ปี
*ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู และ โหมดการขับขี่แบบออฟโรด 4 รูปแบบ เฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Elite Edition **เทคโนโลยี ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) เฉพาะรุ่น ขับเคลื่อน 4 ล้อ Elite Edition, รุ่น ขับเคลื่อน 2 ล้อ Elite Edition และ รุ่น Ultra 
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีทไฮเปอร์พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู
(204 แรงม้า) ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทูโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ
(7 Drive Mode)เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันอัจฉริยะ ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense)ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (EPS)
อัตราดอกเบี้ย 0.89%*  *ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู เฉพาะรุ่น ขับเคลื่อน 4 ล้อ  

*เงื่อนไขและหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

บรรยายภาพ (จากซ้ายไปขวา) : นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) มร.เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024 นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถใหม่ และ นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถแต่ง โมดิฟาย และกิจกรรมอีสปอร์ต ถ่ายภาพร่วมกันที่งานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024

สมาคม สรยท. เข้าพบแนะนำคณะกรรมการบริหารชุดใหม่กับผู้บริหารเอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย เข้าพบแนะนำคณะกรรมการบริการชุดใหม่กับผู้บริหารรระดับสูง บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ (Thailand Automotive Journalists Association : TAJA) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เข้าพบนายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ และนายสุภกิจ วิเศษไพฑูรย์​ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์​ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อแนะนำคณะกรรมการบริหารชุดใหม่วาระปี 2567-2569 พร้อมทั้งมีการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในแวดวงอุตสาหกรรมยานต์และรับฟังข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์ต่อการบริหารขับเคลื่อนตามนโยบายของสมาคมฯ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา

“ฟาสต์ ออโต โชว์ 2024” ออกสตาร์ทกระหึ่ม

“ฟาสต์ ออโต โชว์ 2024” สตาร์ทกระหึ่ม เริ่มแล้ว 3-7 กรกฎาคมนี้ 5 วันจัดเต็ม ไบเทค บางนา มาครบ “รถใหม่ป้ายแดง รถไฟฟ้ามีให้ลอง รถมือสองมีรับประกัน”

เริ่มแล้ว “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” (FAST Auto Show Thailand 2024) งานแสดงและซื้อ-ขายรถยนต์ครบวงจร มั่นใจนำกองทัพรถจาก 15 แบรนด์รถใหม่ป้ายแดง และ 8 ผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ร่วมสตาร์ทเครื่องกระตุ้นยอดขายช่วงกลางปี แนะผู้ที่ต้องการใช้รถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” ได้รถคุณภาพเยี่ยมในราคาโปรจุใจ ครบจบในงานเดียว ทั้ง “รถใหม่ป้ายแดง รถไฟฟ้ามีให้ลอง รถมือสองมีรับประกัน” เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย 10 โมงเช้า – 3 ทุ่ม วันที่ 3-7 กรกฎาคม 2567 นี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา จองรถใหม่หรือรถใช้แล้วในงานลุ้นรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า AJ EV และลุ้นรับโชคตลอด 5 วันเต็ม มูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท โดยมี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน

นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวจึงเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปด้วยแรงหนุนจากทุกภาคส่วน โดย “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” ถือเป็นงานซื้อ-ขายรถครบวงจรที่จัดขึ้นในช่วงกลางปีที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนไปข้างหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์เบอร์ 1 ของอาเซียน อีกทั้งรัฐบาลยังมุ่งยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ควบคู่กับการผลักดันนวัตกรรมยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ดังนั้น งานในปีนี้จึงพร้อมตอบรับความครบเครื่องด้วยคอนเซ็ปต์ “รถใหม่ป้ายแดง รถไฟฟ้ามีให้ลอง รถมือสองมีรับประกัน” เพื่อให้ผู้ที่ต้องการใช้รถได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” ทั้งจากรถใหม่ป้ายแดงที่มีแบรนด์รถไฟฟ้าน้องใหม่เข้ามาทำตลาด จนทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคา และรถยนต์ใช้แล้วคุณภาพเยี่ยมที่ราคาปรับลดลงมาแล้ว แถมมีการรับประกันซื้อคืนหากผิดเงื่อนไขตามที่ผู้จัดงานได้กำหนดไว้ ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบคุณภาพ และเลือกหาความคุ้มค่า คุ้มราคา จากข้อเสนอและโปรโมชั่นพิเศษได้จบครบในงานเดียว

“งาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” ที่มีเวลาเพียง 5 วัน นับเป็นงานที่ยากเพราะเมื่อเริ่มแล้วจะไม่มีโอกาสแก้ไข ทุกอย่างจึงต้องเตรียมการให้พร้อมสรรพ ผมขอขอบคุณค่ายรถและผู้ประกอบการในธุรกิจยานยนต์ทุกค่ายที่เชื่อมั่นในการทำงานของเรา ทำให้ปีนี้มีรถใหม่ป้ายแดงเข้าร่วมมากถึง 15 แบรนด์ ครอบคลุมทุกทางเลือกด้านพลังงาน ได้แก่ อีซูซุ (ISUZU) โตโยต้า (TOYOTA) ฮอนด้า (HONDA) มิตซูบิชิ (MITSUBISHI) เอ็มจี (MG) ซูซูกิ (SUZUKI) วอลโว่ (VOLVO) และฮุนได (HYUNDAI) รวมทั้งแบรนด์ที่เข้าร่วมงานนี้ครั้งแรก คือ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM : GREAT WALL MOTOR) ดีพอล (DEEPAL) เนต้า (NETA) เน็กซ์เท็ม (NEXTEM) วู่หลิง (WULING) เบนซ์ ธนบุรีพานิช (BENZ THONBURI PHANICH) และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เอเจ อีวี (AJ EV) โดยทุกแบรนด์พร้อมจัดแคมเปญโปรโมชั่นสุดเร้าใจ เพื่อช่วยกระตุ้นตลาดยานยนต์ พร้อมมีการทดลองขับ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับลูกค้าที่กำลังจะตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ และในส่วนผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วที่ผ่านการคัดกรองมา 8 ราย พร้อมนำรถสภาพนางฟ้า รุ่นใหม่ เลขไมล์น้อย ครบทุกเซ็กเมนท์มานำเสนอ ประกอบด้วย DDS คาร์ เซ็นเตอร์, โย รัชดา, ดา ศรีนครินทร์, รถเศรษฐี Sethi Premium Used Car, CarDeeSureOK, Benz Keng Hong Thong หรือหากสนใจรถไฟฟ้ามือสอง GWM Certified Pre-Owned และ Volvo Selekt Approved Used Cars มีมาให้เลือกเช่นกัน ซึ่งระบบการจำหน่ายรถยนต์ใช้แล้วในงาน นอกจากจะมีการรับประกันซื้อคืนหากผิดเงื่อนไขที่กำหนดแล้ว ยังเป็นแบบใครมาก่อนได้ก่อน ซื้อแล้วขับกลับไปได้เลย” นายพัฒนเดช กล่าว

สำหรับไฮไลต์ต่าง ๆ ภายในงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” ประกอบด้วย

-พิเศษ! เปิดโซนทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าภายในฮอลล์ ซึ่งรถที่นำมาให้ทดสอบจะเป็นรุ่นใหม่ ในตลาด อาทิ ครั้งแรกในไทยกับการเปิดให้ผู้เข้าชมงานได้ทดสอบ Honda e:N1 รถไฟฟ้าที่ไม่มีจำหน่ายแต่มีให้เช่าใช้เท่านั้น ตามด้วย Volvo EX30, ORA07, Deepal S07, Hyundai IONIQ5, NETA VII, MG4, Wuling Air EV, NEXTEM ORCA และ NEXTEM Golf Cart โดยมีระบบการจองคิวเพื่อเปิดประสบการณ์การทดลองก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น. ทุกวัน

-ชมและเลือกซื้อหารถคุณภาพจากหลากหลายแบรนด์ที่มาพร้อมกับดีลโปรโมชั่นสุดเร้าใจ อาทิ NEW! MU-X THE NEXT PEAK สุดยอดรถอเนกประสงค์ที่เพิ่งเปิดตัว พร้อมรับจองด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ การเปิดตัวครั้งแรกในงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” ของ NEXTEM ORCA รถไฟฟ้ามินิทรัค ทางเลือกของผู้บริโภคที่ต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการค้า NETA X รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เปิดรับจองสิทธิ์ก่อนเปิดราคาอย่างเป็นทางการ NEW MG Maxus 7 รถตู้เอนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ขุมพลังไฟฟ้า 100% ที่ประกาศราคาแล้วแต่ยังไม่มีโชว์ในโชว์รูม ได้นำมาให้ลูกค้าได้สัมผัสเป็นงานแรก

-ยกระดับการรับประกันรูปแบบใหม่สำหรับรถยนต์ใช้แล้วที่จำหน่ายในงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” ด้วยการออก “หนังสือรับประกันคุณภาพรถยนต์ใช้แล้ว” (Used Car Warranty) ซึ่งจะระบุคุณภาพเกรดของรถยนต์ใช้แล้วทุกคันภายในงาน รวมทั้งมีรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับตัวรถอย่างครบถ้วน เพื่อให้ผู้ที่มาซื้อรถยนต์ใช้แล้วมั่นใจและตัดสินใจซื้อได้ทันที ด้วยการรับประกันซื้อคืน 100% หากรถยนต์ใช้แล้วที่จำหน่ายในงานผิดเงื่อนไขที่กำหนดไว้ 5 ข้อ คือ ไม่ไฟไหม้ ไม่จมน้ำ ไม่ตัดต่อ ไม่ชนหนัก และไม่สามารถจดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฎหมาย

เพลิดเพลินกับกิจกรรมชิคแอนด์คูลกับโซนรถตกแต่งพิเศษตามเทรนด์ปี 2024 ที่ไม่ได้มีดีแค่สวย เท่ แต่ยังใช้ประโยชน์ได้ครบ คุ้มค่า เพื่อเป็นแนวทางในการแต่งรถยนต์ให้กับผู้ที่ชื่นชอบ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบแต่งรถที่สะท้อนความเป็นตัวเองและรองรับกิจกรรมตามไลฟ์สไตล์ รวมถึงการร่วมสนุกกับการแข่งขันประลองฝีมือในโซนอีสปอร์ต พร้อมลุ้นรับของที่ระลึกกลับบ้าน หรือเร้าหัวใจกับกิจกรรม Sexy Car Wash สุดร้อนแรง

-ลุ้นเป็นผู้โชคดีตลอดทั้ง 5 วัน โดยผู้จองรถหรือซื้อรถทุกกลุ่มภายในงานจะได้สิทธิ์ลุ้นรับรางวัลประจำวัน ได้แก่ คูปองบริดจสโตน มูลค่า 12,000 บาท วันละ 1 รางวัล รวม 5 รางวัล ชุดผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ Meguiar’s มูลค่า 3,845 บาท วันละ 5 รางวัล รวม 25 รางวัล และหลังจบงานยังได้สิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า AJ EV จํานวน 2 รางวัล ได้แก่ รุ่น Saber Tiger มูลค่า 95,900 บาท

จํานวน 1 คัน และรุ่น Mine Plus มูลค่า 73,900 บาท จํานวน 1 คัน พร้อมชุดผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ Meguiar’s และสำหรับผู้เข้าชมงานทุกท่าน ยังได้รับสิทธิ์ส่งคูปองลุ้นรับบัตรของขวัญโลตัส มูลค่า 1,000 บาท วันละ 5 รางวัล รวม 25 รางวัล อีกด้วย รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 400,000 บาท โดยจะมีการจับรางวัลในเวลา 20.00 น.ของทุกวัน

แวะมา “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” ได้ที่งาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์  2024” ระหว่าง วันที่ 3 – 7 กรกฎาคม 2567 นี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ 102-104 ตั้งแต่ 10.00 – 21.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/FASTAUTOSHOW หรือwww.fastautoshow.com

รวมพลคนรักมาสด้าแฟนพันธุ์แท้ MX-5 ร่วมชมงานบางกอกออโตซาลอน

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ต้อนรับคณะลูกค้าจาก Miata Club Thailand หรือกลุ่มแฟนพันธุ์แท้มาสด้าผู้ที่ชื่นชอบในรถ Mazda MX-5 ที่รวมตัวกันขับเป็นขบวนคาราวานกว่า 30 คัน เพื่อเดินทางเข้ามาสัมผัสรถสปอร์ตโรดสเตอร์แบรนด์ไอคอนยอดนิยม New Mazda MX-5 รุ่นใหม่ล่าสุด ต้นตำรับความสนุกทุกการขับขี่ ทั้งรุ่นเกียร์อัตโนมัติในตัวถังสีน้ำตาล เซอร์คอน แซนด์ และระบบเกียร์แมนนวล ในตัวถังสีเทา แอโร เกรย์ ซึ่งเป็นสองสีใหม่ล่าสุดที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมี่ยมหรูหราสง่างาม นำมาจัดแสดงเพื่อเอาใจคนรักความสปอร์ต ณ บูธมาสด้า ในงาน แบงค็อก ออโต ซาลอน 2024 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีแฟนคลับเข้าชมกันอย่างอบอุ่น

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 1 กรกฎาคม 2567 – งาน แบงค็อก ออโต ซาลอน ครั้งนี้ มาสด้านำ New Mazda MX-5 ทั้งรุ่นเกียร์อัตโนมัติและเกียร์แมนนวล มาจัดแสดงเป็นไฮไลท์ให้ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่สไตล์สปอร์ตได้สัมผัสพร้อมจับจองเป็นเจ้าของ โดยรถที่นำมาจัดแสดงนี้เป็นเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ได้รับการพัฒนาปรับปรุงใหม่ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ผสานกับเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัด และสมรรถนะในการขับขี่ เพื่อถ่ายทอดความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างผู้ขับขี่กับตรถ ตามหลักปรัชญา จินบะ-อิตไต ให้โดดเด่นสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในรุ่นเกียร์แมนนวลมีความพิเศษมากขึ้น มาพร้อมระบบ DSC-TRACK หรือระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถเป็นครั้งแรก ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้เหมือนกับการขับรถแข่งในสนามแข่ง ซึ่งเป็นระบบช่วยเหลือในกรณีที่ผู้ขับขี่ที่ไม่สามารถควบคุมรถได้ หรือก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์รถหมุน ทำให้สามารถควบคุมรถในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินได้ง่ายขึ้น มอบความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น และขับขี่ได้อย่างสนุกสนานเร้าใจ

นายวัชระ เจียรบุญ ผู้จัดการทั่วไปแผนกการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กล่าวต้อนรับลูกค้ามาสด้าว่า นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มาสด้าได้มีโอกาสต้อนรับกลุ่มแฟนๆ รถสปอร์ตโรดสเตอร์จาก Miata Club Thailand ที่รวมตัวกันเดินทางมาที่บูธ มาสด้าสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและมิตรภาพจากผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตรุ่นนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่ลูกค้ากับมาสด้าจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความสนุกที่ได้จากการขับขี่ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์แบรนด์ไอคอนยอดนิยมที่ส่งมอบความสนุกสนานในการขับขี่ตามปรัชญา จินบะ-อิตไต ที่ครองใจลูกค้าและแฟนๆ นักสะสมทั่วโลก จนกระทั่งได้รับการบันทึกใน Guinness World Records ว่าเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนที่ขายดีที่สุดในโลก กลายเป็นโมเดลที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับมาสด้าและผู้ครอบครองได้เป็นอย่างดี ปัจจุบัน Mazda MX-5 วางจำหน่ายแล้วทั้งหมด 4 เจเนอเรชั่น ในประเทศไทย

สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของรถสปอร์ตเปิดประทุนที่ขายดีที่สุดในโลก New Mazda MX-5 สามารถเข้าชมได้ที่โชว์รูมมาสด้า พร้อมรับข้อเสนอพิสุดเศษ ดอกเบี้ย 2.49%* ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี* ฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS)* หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.mazda.co.th

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

บรรยายภาพ : คณะผู้บริหารจาก บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายวัชระ เจียรบุญ ผู้จัดการทั่วไปแผนกการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์, นายอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ โดยได้รับเกียรติอย่างสูงจากผู้จัดงาน บางกอก ออโต ซาลอน นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานจัดงานฯ และ นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา รองประธานจัดงานฯ ให้การต้อนรับบรรดาแฟนคลับรถสปอร์ตเปิดประทุนมาสด้า MX-5 ที่เดินทางมาชมยนตรกรรมที่บูธมาสด้าในงานแบงค็อก ออโต ซาลอน 2024

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save