- Advertisement -
27.4 C
Bangkok
Home Blog Page 36

เปิดยิ่งใหญ่…บางจาก บลูมมิ่ง เทลส์ สถานีบริการน้ำมันครบวงจรที่ “สวยสดชื่น” ที่สุด

“บลูมมิ่งเทลส์” เปิดสถานีบริการน้ำมันครบวงจรแห่งใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ “บางจาก บลูมมิ่งเทลส์ @ พุทธมณฑลสาย 3” อย่างเป็นทางการ ที่สุดแห่งทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ท่ามกลางมนต์เสน่ห์แห่งความสุขสนุกเบิกบาน พร้อมเชื่อมโยงชุมชนท้องถิ่นโดยรอบสถานีบริการน้ำมัน

นางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการบริหาร บริษัท บลูมมิ่ง เทลส์ จำกัด ทำพิธีเปิดสถานีบริการน้ำมันครบวงจร บางจาก บลูมมิ่งเทลส์ @ พุทธมณฑลสาย 3 อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจากประธานในพิธี ได้แก่ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย นายทนง ลี้อิสสระนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด นายวัฒนา พรพัฒน์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่นและนางจันดา สายสมร กรรมการบริหาร บริษัท บลูมมิ่งเทลส์ จำกัด

บางจาก บลูมมิ่งเทลส์ @ พุทธมณฑลสาย 3 ได้รับเกียรติอย่างสูงจากผู้ใหญ่หลากหลายวงการมาร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดในครั้งนี้ ได้แก่ แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย นายทนง ลี้อิสสระนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด นายวัฒนา พรพัฒน์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นางจันดา สายสมร กรรมการบริหาร บริษัท บลูมมิ่งเทลส์ จำกัด และ นางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการบริหาร บริษัท บลูมมิ่งเทลส์ จำกัด

นางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการบริหาร บริษัท บลูมมิ่งเทลส์ จำกัด กล่าวว่า การเปิดสถานีบริการน้ำมันแห่งนี้ ถือเป็นการเข้าสู่ไลน์ธุรกิจใหม่ นอกเหนือจากการจำหน่ายน้ำมันแล้ว ทางบลูมมิ่งเทลส์ยังตั้งใจให้บริการชุมชนใกล้เคียงเป็นการเชื่อมโยงชุมชนท้องถิ่นโดยรอบ ด้วยการนำความแปลกใหม่และแตกต่างที่น่าสนใจมานำเสนอ นำแนวคิดจากแรงบันดาลใจแห่งความสดชื่น ถ่ายทอดสู่เสน่ห์แห่งการออกแบบให้ทุกตารางนิ้วอบอวลไปด้วยความสุขและความเบิกบานภูมิสถาปัตย์ทุกตารางนิ้วแฝงเร้นมนต์เสน่ห์แห่งพันธุ์ไม้ รวมถึงนำสัญลักษณ์ดอกแค ของเขตบางแค และต้นไม้ประจำท้องถิ่นนานาพันธุ์มาใช้ในการออกแบบตกแต่งสถานที่ให้เป็นพื้นที่สีเขียว มีทั้งกล้วยไม้ ชวนชม ลีลาวดี และอินทนิล โดยมีร้านอินทนิลคาเฟ่เป็นแลนด์มาร์ค เติมความสดชื่นให้ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือนได้เต็มเปี่ยมพลังกายและใจก่อนออกเดินทาง

สถานีบริการน้ำมัน บางจาก บลูมมิ่งเทลส์ บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่ ติดถนน 6 เลน บนถนนพุทธมณฑลสาย 3 เชื่อมต่อเพชรเกษม-บรมราชชนนี และถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ใจกลางแหล่งที่อยู่อาศัยไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ และสถาบันการศึกษาชั้นนำหลายแห่ง อาทิ โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี โรงเรียนกสินธร อะคาเดมี่ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี สนามแบตมินตันบ้านทองหยอด โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ตลาดสนามหลวง 2 ถนนอักษะที่สวยที่สุดในประเทศไทย

ภายในสถานีบริการน้ำมัน พร้อมพรั่งด้วยร้านค้า ร้านอาหารอร่อย และบริการอื่นๆ มากมายครบครัน ทั้งอินทนิลคาเฟ่/ มิสเตอร์โดนัท/ บลูมมิ่งดีไลท์/ ก๋วยจั๊บญวน by ป.อุบล และข้าวแกงครัวสยาม/ นับแคล/ ซินไฉฮั้ว/ ตำยำนัว บายเจ๊พีซ/  ครัวเพียงฝัน/ เต๋วชิ้นปลา/  Beauty Salon by Seanava/ วราภรณ์  และ Ai-Cha (ไอชา) เป็นต้น

พร้อมจุด EV Charging Station ล้ำสมัย พื้นที่รองรับการจอดรถมากกว่า 100 คัน นอกจากนี้ทางสถานียังให้ความสำคัญกับห้องน้ำสะอาด Blooming Toilet ที่ออกแบบตามหลักอารยสถาปัตย์ และได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนสำนักงานเขตบางแค ประเภทกลุ่มสถานีบริการเชื้อเพลิง เข้าร่วมกิจกรรมการประกวดห้องน้ำขวัญใจมหาชนแห่งปีของกรุงเทพมหานคร รวมถึงได้รับป้ายมาตรฐาน  HAPPY TOILET   ให้เป็นห้องน้ำถูกสุขลักษณะระดับดีเยี่ยมจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย

ชมงาน ชิงรถ ผ่าน MOTOR EXPO APPLICATION

ชมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ผ่าน MOTOR EXPO APPLICATION ลุ้นรับฟรี รถยนต์ SUZUKI รุ่น SWIFT GL มูลค่า 567,000 บาท

“MOTOR EXPO” APP อัดแน่นข้อมูลของงาน “MOTOR EXPO 2024” ทั้งรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทุกแบรนด์ภายในงานจาก Influencer ชื่อดัง และรายละเอียดอื่นๆ ของงาน อาทิ โปรโมชั่น บริการรถรับส่งชมงานฟรี รายงานสภาพจราจร พร้อมแผนผังที่จอดรถ กิจกรรรมมากมาย ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมี BUYER’S GUIDE ช่วยเลือกซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ด้วยข้อมูลเปรียบเทียบคันต่อคัน พร้อมคำนวณสินเชื่อ มีการจำหน่ายบัตรเข้าชมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ผ่านระบบออนไลน์ มีราคาบัตรแบ่งเป็น 100 บาท / คน / วัน และราคา 240 บาท รับบัตรชมงาน 3 ใบ โดยบัตร 1 ใบ สามารถใช้ได้ 1 ครั้ง จำกัดสิทธิ์ใช้ได้ 1 ใบต่อวัน เมื่อการสั่งซื้อสำเร็จจะได้รับ QR Code เพื่อนำไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ ณ ประตูทางเข้างาน (หากต้องการเข้าชมงานซ้ำภายในวันเดียวกัน กรุณาประทับตราที่ประตูทางออก เด็กความสูงต่ำกว่า 120 ซม. และผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข้าฟรี)

ยิ่งกว่านั้น ดาวน์โหลด MOTOR EXPO APP ทั้งระบบ iOS และ Android รับสิทธิ์ร่วมกิจกรรม “ชมงานผ่าน MOTOR EXPO APP ชิงรางวัล” รถยนต์ SUZUKI รุ่น SWIFT GL มูลค่า 567,000 บาท จำนวน 1 รางวัล ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน–31 ธันวาคม 2567

งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” จะจัดขึ้น ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2567 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล” และสามารถซื้อบัตรชมงานได้ทาง motorexpo.co.th

MG, Mercedes-Benz และ BMW Motorrad คว้ารางวัลรถยนต์และจักรยานยนต์ยอดเยี่ยม 2024

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. ประกาศรายชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์จำนวน 20 รุ่นที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเพื่อให้สมาชิกที่ทรงคุณวุฒิได้ลงคะแนนคัดเลือกอีกครั้ง เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะที่จะครองรางวัลในแต่ละสาขา นั่นคือ รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 รถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปี 2567 หรือ THAILAND EV OF THE YEAR 2024 และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 หรือ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR 2024

นอกจากนั้น ในงานนี้ยังมีการประกาศรายชื่อบริษัทรถยนต์ จักรยานยนต์ และผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์เข้ารับรางวัล THAILAND CAR & MOTORCYCLE  MARKETING AWARDS ซึ่งเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจในการทำงานตลอดช่วงปี 2023-2024 ที่ผ่านมา

ในปี 2567 สรยท. ดำเนินการคัดเลือกรถยนต์แบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และรถยนต์ไฟฟ้า (EV:Electric Vehicle) โฉมใหม่แบบโมเดลเชนจ์ เปิดตัวในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึง 30 กันยายน 2567 โดยมีกติกาการตัดสิน เป็นมาตรฐานเดียวกับการคัดเลือก Car of The Year ของยุโรป และรถยนต์ยอดเยี่ยมของประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาและตัดสินเพื่อคัดเลือกรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมในการรับรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2024

อีกทั้งยังถือเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้วที่สมาคมฯ มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่เริ่มเดินหน้าสู่ตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้า และในตลาดก็มีรถยนต์เหล่านี้วางจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงมีการมอบรางวัล THAILAND EV OF THE YEAR เพิ่มเติมขึ้นมา โดยใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเดียวกับ THAILAND CAR OF THE YEAR แต่เพิ่มเติมในเรื่องของการลงนามเซ็นสัญญา MOU กับทาง BOI ในการลงทุนก่อสร้างโรงงานในประเทศไทย และรถยนต์รุ่นนั้นๆ จะต้องมีระยะทางในการแล่นต่อการชาร์จ 1 ครั้งไม่ต่ำกว่า 300 กิโลเมตรตามข้อกำหนดของ NEDC

นอกจากนั้น ถือเป็นครั้งแรกนับจากปี 2020 ที่ทางสมาคมฯ ได้นำรางวัลรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR กลับมามอบให้อีกครั้งภายใต้กฎและกติกาเดียวกับ THAILAND CAR OF THE YEAR

สำหรับสถานที่ทดสอบภาคสนามในปีนี้ สรยท.ได้รับความอนุเคราะห์จากสถาบันยานยนต์ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ใช้พื้นที่ของศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ หรือ ATTRIC ตั้งอยู่ที่ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อใช้เป็นสถานที่ทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ที่เข้ารอบสุดท้ายในทั้ง 3 รางวัล เนื่องจากศูนย์ทดสอบแห่งนี้ในอนาคตจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยและภูมิภาคใช้ในการทดสอบยานยนต์รวมถึงอุปกรณ์ และกำหนดมาตรฐานสำหรับยานยนต์ ชิ้นส่วน และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องต่างๆ ของตัวรถยนต์ที่เขามาทำตลาดในประเทศไทยรวมถึงในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย

“หลังจากที่มีการดำเนินการและประกาศรายชื่อรถยนต์ รถยนต์พลังไฟฟ้า และจักรยานยนต์ที่เข้าเกณฑ์ในการพิจารณาของทางสมาคมฯ โดยคณะอนุกรรมการทำงาน ในที่สุดเราก็ได้รถยนต์ที่เข้าเกณฑ์ในกลุ่มต่างๆ เพื่อให้สมาชิกสามัญของสมาคมได้ลงคะแนนเลือกในรอบแรก ก่อนที่จะนำรถยนต์ที่เข้ารอบสุดท้ายในแต่ละกลุ่มมาทดสอบและลงคะแนนอีกครั้ง โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้ผ่านการคัดเลือกของทางอนุกรรมการทำงานเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่สนามทดสอบของศูนย์ยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ จังหวัดฉะเชิงเทราภายใต้การสนับสนุนของสถาบันยานยนต์” นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย กล่าว

ที่สุดรถยนต์ MG 3 Hybrid+ และ Mercedes-EQS 450 4Matic SUV เป็นรถยนต์ที่ได้คะแนนสูงสุดในรอบสุดท้าย จึงได้รับรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 และ THAILAND EV OF THE YEAR 2024 ตามลำดับ ขณะที่ BMW R1300GS ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะในรางวัล THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR 2024

โดยกรรมการผู้ลงคะแนนแต่ละท่าน ใช้หลักเกณฑ์ในการให้คะแนนตามหัวข้อต่างๆ ที่สมาคมฯ กำหนดไว้ ซึ่งเป็นไปตามกฎกติกาสากล เช่น การออกแบบภายนอกภายใน, ประโยชน์ใช้สอย, ระบบความปลอดภัย, สมรรถนะเครื่องยนต์, นวัตกรรม/เทคโนโลยี และระบบช่วงล่าง นอกจากนั้นต้องพิจารณาถึงพัฒนาการของรถยนต์รุ่นนั้น ความมั่นคงในเรื่องแบรนด์ และบริการหลังการขายประกอบการพิจารณา

นอกจากนี้ สรยท.ยังได้มอบรางวัล THAILAND CAR & MOTORCYCLE  MARKETING AWARDS 2024 ให้กับบริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมถึงธุรกิจและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง จากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในด้านยอดขาย การผลิต และกลยุทธ์การตลาด ในปี 2023-2024 จำนวน 23 บริษัท ดังนี้

รางวัลสำหรับผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์

1. รางวัล ยอดจำหน่ายรถยนต์รวมสูงสุด ประจำปี 2566

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

2. รางวัล แบรนด์ที่มีบริการหลังการขายยอดยี่ยม

มอบให้ : กิจกรรมการแข่งขันทักษะฝีมือช่างของฮอนด้า ออโตโมบิล

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

3. รางวัล รถกระบะ 1 ตันที่มียอดขายสูงสุดประจำปี 2566

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

4. รางวัล แบรนด์ผู้ส่งเสริมธุรกิจ SME และ Food Truck ของไทย

มอบให้ แคมเปญสนับสนุนการเข้าถึงรถ Suzuki Carry ให้กับกลุ่ม SME

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

5. รางวัล ผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์สูงสุดประจำปี 2566

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

6. รางวัล แบรนด์รถยนต์ผู้ส่งเสริม สนับสนุน และช่วยเหลือสังคมไทย

มอบให้ กิจกรรมสนับสนุนการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม และผู้ประสบภัยน้ำท่วมของ Nissan มาโดยตลอด

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

7. รางวัล รถกระบะที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถะนะ

มอบให้ FORD RANGER

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด

8. รางวัล แบรนด์รถยนต์พรีเมี่ยมที่มียอดขายสูงสุด ประจำปี 2566

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย

9. รางวัล โมเดลการจัดจำหน่ายยอดเยี่ยม

มอบให้แคมเปญ Retail of the Future ของ Mercedes-Benz

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท  เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จํากัด

10. รางวัล ผู้ผลิตรถยนต์นั่งหัวใจสีเขียว

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด

11. รางวัล แบรนด์ผู้สร้างมาตรฐานใหม่ด้านการรับประกันให้กับตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้า

มอบให้ แคมเปญการรับประกันแบตเตอรี่แบบ Lifetime Warranty ในรถยนต์ไฟฟ้าของ MG

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

12. รางวัล รถยนต์ไฟฟ้าที่เปี่ยมด้วยความคุ้มค่า

มอบให้ Neta X

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด

13. รางวัล รถยนต์อเนกประสงค์ MPV ไฟฟ้าระดับพรีเมียมสำหรับครอบครัว

มอบให้ Zeekr 009

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท ซีเคอาร์ อินเทลลิเจนท์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด

14. รางวัล แคมเปญส่งเสริมภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม

มอบให้ RIDDARA RD6 กับการช่วยเหลือน้ำท่วมที่เชียงราย

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท RIDDARA AUTOMOBILE THAILAND

15. รางวัล แบรนด์พรีเมียมที่ให้ความมั่นใจในการใช้รถไฟฟ้าแบบครบวงจร

มอบให้แก่ แนวคิดใหม่ “Audi Progressive Retail” พร้อมให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร มีช่องซ่อม รถไฟฟ้า 3 ช่อง บวกกับการใช้แนวคิด “EV Center” ศูนย์ซ่อมรถ BEV และแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูง

บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด

16. รางวัล ผู้ส่งมอบประสบการณ์ที่โดดเด่นในด้านนวัตกรรมพลังไฟฟ้า

มอบให้ กับการจัด IONIQ LAB ซึ่งเป็นพื้นที่ในการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำเกี่ยวกับรถยนต์พลังไฟฟ้าของ Hyundai

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด

17. รางวัล ผู้รักษามาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวได้อย่างต่อเนื่องระหว่างปี 2021-2024

มอบให้ รถยนต์ของ Great Wall Motor ได้รับมาตรฐานการทดสอบการชน NCAP ในระดับ 5 ดาวแทบทุกรุ่นจาก ANCAP

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย)

รางวัลสำหรับผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ยานยนต์ที่เกี่ยวเนื่อง

1. รางวัล บริษัทประกันภัยรถยนต์ ที่มียอดกรมธรรม์สูงสุด ประจำปี 2567

    ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)

2. รางวัล ผู้จำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด ประจำปี 2567

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด

รางวัลสำหรับผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์

1. รางวัล บริการหลังการขายยอดเยี่ยม

มอบให้แก่ แคมเปญบริการ Premium Service ของ Yamaha

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด

2. รางวัล แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น

มอบให้แก่ รถจักรยานยนต์  HARLEY-DAVIDSON

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ประเทศไทย

3. รางวัล มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสุดล้ำสมัย

มอบให้แก่ BMW CE04

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย 

4. รางวัล รางวัลบิ๊คไบค์ผู้สนับสนุนการสร้างงานในไทย

มอบให้แก่ รถจักรยานยนต์  Ducati

ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด    

ยามาฮ่า ร่วมงานประกาศรางงวัล Thailand Car, EV & Motorcycle of The Year 2024

ยามาฮ่า ร่วมประกาศผล Thailand Car, EV & Motorcycle of The Year 2024 โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.)

นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการให้ด้านวางแผนการค้า และวางแผนการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับนายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) และคณะกรรมการ สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ในงานประกาศผล Thailand Car, EV & Motorcycle of The Year 2024 โดยในปีนี้ YAMAHA PG-1 เป็นรถจักรยานยนต์เพียงหนึ่งเดียวในคลาส 114 ซีซี ที่สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายจากการส่งรถเข้าทดสอบ ตามเงื่อนไขของ Motorcycle of The Year และแบรนด์ยามาฮ่า เป็นแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นแบรนด์เดียวที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย โดยมีทั้งหมด 23 แบรนด์ รถยนต์ รถอีวี และรถจักรยานยนต์ ที่สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายในครั้งนี้ ซึ่ง YAMAHA PG-1 เป็น 1 ใน 6 รุ่นที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย และได้รับโล่รางวัลรถจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ขอรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี และรับรางวัล Best Customer Service ศูนย์บริการยอดเยี่ยมแห่งปี อีกด้วย

สำหรับการประกาศผลรางวัลในครั้งนี้จัดขึ้นโดย สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ณ The Hall Bangkok ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อเร็วๆ นี้

MG3 HYBRID+ คว้ารางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2024

ALL NEW MG3 HYBRID+ คว้ารางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 พร้อมควบตำแหน่งแบรนด์ผู้สร้างมาตรฐานใหม่ด้านการรับประกันให้กับตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้า

กรุงเทพฯ – 15 พฤศจิกายน 2567 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เป็นปลื้มหลัง ALL NEW MG3 HYBRID+ คว้ารางวัลอันทรงเกียรติ THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ด้วยผลคะแนนโหวตจากสื่อมวลชนผู้ทรงคุณวุฒิและมากประสบการณ์ในสายยานยนต์ และนับเป็นการรับรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการพัฒนายานยนต์ที่จะเข้ามายกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวไปสู่สังคมยานยนต์พลังงานทางเลือก ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคคนไทยได้เป็นอย่างดี

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR หรือ รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี นับว่าเป็นรางวัลที่มอบให้กับรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ โดยใช้กติกาการตัดสินมาตรฐานเดียวกับการคัดเลือก CAR OF THE YEAR ของยุโรป และรถยนต์ยอดเยี่ยมของประเทศญี่ปุ่น โดยปีนี้ เอ็มจี รู้สึกภาคภูมิใจที่ ALL NEW MG3 HYBRID+ ได้รับการตัดสินให้เป็นรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่ง ALL NEW MG3 HYBRID+ ถือเป็นรถยนต์ไฮบริดระดับโกลบอลที่เอ็มจีมุ่งมั่นพัฒนาโดยมีเป้าหมายให้เป็นรถแฮทช์แบ็กที่ดีที่สุดในคลาส โดยรวมข้อดีต่างๆ ของระบบไฮบริดมาไว้ในโมเดลนี้ ทั้งอัตราสิ้นเปลือง สมรรถนะการขับขี่ และการปรับจูนระบบช่วงล่างที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง จนทำให้สามารถคว้ารางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 ได้สำเร็จ นับเป็นเครื่องการันตีคุณภาพและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เรามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการยานยนต์ของไทยให้เทียบชั้นอุตสาหกรรมยานยนต์โลก

นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา NEW MG4 ELECTRIC ยังสามารถคว้ารางวัล THAILAND EV OF THE YEAR 2023 ซึ่งนับเป็นความสำเร็จ 2 ปีติดต่อกันของเอ็มจีกับรางวัล CAR OF THE YEAR ในครั้งนี้

นอกจากนี้ เอ็มจี ยังได้รับรางวัล THAILAND CAR & MOTORCYCLE MARKETING AWARD 2024 แบรนด์ผู้สร้างมาตรฐานใหม่ด้านการรับประกันให้กับตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้า โดย เอ็มจี เป็นแบรนด์แรกและ แบรนด์เดียวที่มอบการรับประกันคุณภาพ “ตลอดอายุการใช้งาน” (Lifetime Warranty) ของแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูงของรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมทั้งชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนการรับประกันครอบคลุมกลุ่มรถไฟฟ้า 4 รุ่น อย่าง NEW MG4 ELECTRIC รถ e-MPV พลังงานไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง ระดับพรีเมี่ยม ทั้ง NEW MG MAXUS 9 และ NEW MG MAXUS 7 และสปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้าแบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง NEW MG CYBERSTER แบบไม่จำกัดเงื่อนไขแค่เพียงเจ้าของคนแรกเท่านั้น  อีกทั้งยังครอบคลุมทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน และไม่จำกัดระยะทางในการขับขี่ ซึ่งเป็นแคมเปญที่สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการดูแลลูกค้าในระยะยาว และถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ เอ็มจี” สำหรับลูกค้าที่สนใจ ALL NEW MG3 HYBRID+ สามารถสัมผัสคันจริงและทดลองขับได้ที่โชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศไทย

MOTOR EXPO 2024 รวมนวัตกรรมยานยนต์ล้ำอนาคต รถยนต์ 42 แบรนด์ จักรยานยนต์ 22 แบรนด์

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” พร้อมจัดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี ล่าสุดค่ายรถยนต์ จักรยานยนต์ร่วมแสดงนวัตกรรม พร้อมอัดโปรโมชั่นเพียบ ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2567 นี้

นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” เผยว่า “ปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด “จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม…ยานยนต์ล้ำอนาคต-Innovative Spirit…Futuristic Vehicles” มีค่ายรถยนต์เข้าร่วมงานทั้งหมด 42 แบรนด์ จาก 9 ประเทศ รถจักรยานยนต์ 22 แบรนด์ จาก 7 ประเทศ พร้อมจัดแสดงรถต้นแบบ รวมถึงเปิดตัวรถรุ่นใหม่ภายในงานมากมาย”

รถยนต์ 42 แบรนด์ ได้แก่ AION, AUDI, AVATR, BMW, BYD, BYD COMMERCIAL, DEEPAL, DENZA, FORD, FOTON, GEELY, GREAT WALL MOTOR, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, JEEP, JUNEYAO, KIA, KING LONG, LEAPMOTOR, LEXUS, LOTUS, MASERATI, MAZDA, MERCEDES-BENZ, MG, MINI, MITSUBISHI, NETA, NISSAN, OMODA & JAECOO, PEUGEOT, POCCO, PORSCHE, RIDDARA, SUZUKI, TESLA, TOYOTA, VOLVO, WULING, XPENG และ ZEEKR อีกทั้งยังมี ชุดแต่งจากผู้นำเข้าอิสระ M’Z SPEED

รถจักรยานยนต์ 22 แบรนด์ ได้แก่ AJ EV, ALPHA VOLANTIS, BMW MOTORRAD, DECO, EM MOTOR, FELO, HANWAY, HARLEY-DAVIDSON, HONDA, KAWASAKI, LAMBRETTA, NIU, RAPID, ROYAL ALLOY, ROYAL ENFIELD, SOLAR, STROM, SUZUKI, TRIUMPH, YAMAHA, ZEEHO และ ZONTES

นอกจากนี้ ยังมีรถมือสอง 5 แบรนด์ ได้แก่ ASTON MARTIN TIMELESS, BMW PREMIUM SELECTION, MERCEDES-BENZ CERTIFIED PRE-OWNED VEHICLES, ROLLS-ROYCE PROVENANCE และ VOLVO SELEKT

สำหรับกิจกรรมคืนกำไรให้ผู้ชมทั้ง ซื้อรถ…ชิงรถ / ซื้อบัตร…ชิงรถ / ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์ / ชมงานผ่าน MOTOR EXPO APP ชิงรางวัล มีรายละเอียดดังนี้

1.“ซื้อรถ…ชิงรถ” เมื่อจองหรือซื้อรถยนต์ใหม่ภายในงาน มีสิทธิ์ชิงรถยนต์ THE KIA EV5 รุ่น LIGHT มูลค่า 1,299,000 บาท

2.“ซื้อบัตร…ชิงรถ” ผู้ซื้อบัตรชมงาน มีสิทธิ์ชิงรถยนต์ MAZDA รุ่น NEW CX-3 BASE PLUS มูลค่า 830,000 บาท

3.“ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์” เมื่อจองหรือซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ในงาน มีสิทธิ์ชิงรถจักรยานยนต์ TRIUMPH รุ่น SCRAMBLER 1200 X มูลค่า 599,000 บาท

4.“ชมงานผ่าน MOTOR EXPO APP ชิงรางวัล” ผู้ชิงโชคต้องลงทะเบียนใน MOTOR EXPO APPLICATION พร้อมตอบแบบสอบถามให้ครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 มีสิทธิ์ชิงรถยนต์ SUZUKI รุ่น SWIFT GL มูลค่า 567,000 บาท

พิเศษสำหรับผู้ชมงาน มีบริการ “MOTOR EXPO EXCLUSIVE VISITOR” แพคเกจชมงานแบบวีไอพี เพียง 1,000 บาท รับสิทธิประโยชน์ บัตรเข้าชมงาน ULTIMATE VIP 3 ใบ บริการช่องจอดรถ VIP ณ ลานจอดรถ P1 (1 คัน/1 สิทธิ์) ฟรีค่าจอด 3 ชม. พื้นที่รับรองพิเศษ EXCLUSIVE VISITOR LOUNGE บริการนำชมรถโดยพนักงานขายของแบรนด์ที่ลูกค้าสนใจ ซื้อสินค้าที่ระลึก MOTOR EXPO ลด 10% และสิทธิ์เข้าร่วมชิงโชครายการ “ซื้อบัตร ชิงรถ”

ยิ่งกว่านั้น MOTOR EXPO 2024 ยังมีกิจกรรมมากมาย ได้แก่ Skill Driving Experience Junior อบรมปลูกฝังวินัยจราจรเด็ก / Skill Driving Experience ให้ความรู้เกี่ยวกับการขับขี่รถที่ถูกต้องแก่บุคคลทั่วไป / Spirit of the 4×4 Driving School ให้ความรู้ และทดลองขับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ / นิทรรศการสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย อวดโฉมรถโบราณทรงคุณค่า พร้อมเปิดโหวตรถประทับใจ ชิง PEOPLE CHOICE AWARD / มูลนิธิ “ลมหายใจไร้มลทิน” จัดกิจกรรมสำหรับเด็ก และเยาวชน / Join Boat Platform จัดแสดงเรือ และกิจกรรมทางน้ำ ฯลฯ

งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” จะจัดขึ้น ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2567 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล” และสามารถซื้อบัตรชมงานได้ทาง motorexpo.co.th

เยาวชนหญิงไทยผงาดคว้าแชมป์กอล์ฟมาสด้า

เยาวชนหญิงไทยผงาดคว้าแชมป์กอล์ฟมาสด้า คว้าโควต้าไปอเมริกา MAZDA U.S. COLLEGE PREP JUNIOR GOLF CHAMPIONSHIP 2024

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ร่วมกับ พันธมิตร จัดการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนรอบชิงชนะเลิศ โครงการ MAZDA U.S. COLLEGE PREP JUNIOR GOLF CHAMPIONSHIP 2024 โดยผู้ชนะเลิศการแข่งขันระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ตกเป็นของเยาวชนจากประเทศไทยและประเทศจีน ในขณะที่ผู้ชนะเลิศการแข่งขันระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นของเยาวชนจากประเทศเวียดนามและเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับถ้วยรางวัลชนะเลิศพร้อมรางวัลสนับสนุนต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ไปครอง อาทิ ตั๋วเดินทางไปร่วมการแข่งขันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่พักสุดพิเศษ แพ็คเกจการฝึกซ้อม และความช่วยเหลือสำหรับการเดินทางกับครอบครัว ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2567 ณ สนามกอล์ฟ Black Mountain Golf Club โดยมีนักกีฬาเยาวชนจากนานาชาติเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันอย่างคับคั่ง และได้รับเกียรติจาก มร.คาซูทากะ โมริ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้มอบรางวัลความสำเร็จให้กับเยาวชน

การแข่งขันกอล์ฟเยาวชนรอบชิงชนะเลิศ โครงการ MAZDA U.S. COLLEGE PREP JUNIOR GOLF CHAMPIONSHIP 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา มาสด้าร่วมกับพันธมิตร เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้เดินทางตามความฝันในการเป็นนักกีฬากอล์ฟอาชีพ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางของมาสด้าในการยกระดับประสบการณ์ความสุขอย่างครอบคลุมทุกด้านให้กับลูกค้า Mazda Family และผู้คนในสังคม โดยครั้งนี้มีเยาวชนกอล์ฟ จำนวน 144 คน จาก 15 ประเทศ เดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขัน โดยเป็นเยาวชนไทยประมาณ 30% ซึ่งเยาวชนที่ทำคะแนนได้ดีที่สุด 50 อันดับแรก ได้สิทธิ์พิเศษในการเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ยิ่งไปกว่านั้น เยาวชนที่ทำคะแนนสูงสุด 12 อันดับแรกในครั้งนี้ ยังได้รับรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีพจากมาสด้า ซึ่งคือตั๋วเครื่องบินเดินทางไปกลับ กรุงเทพฯ-อเมริกา เพื่อไปร่วมการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ที่จะจัดขึ้น รวมถึงทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับโลก Junior World Cup Invitational ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 3-5 มกราคม 2025 ที่ฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเช่นกัน

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด วันนี้เยาวชนทุกท่านได้แสดงให้เห็นแล้วว่า การที่เราเชื่อมั่นในความฝันและมุมานะพยายามเพื่อก้าวเดินตามเส้นทางของตนเองเพื่อคว้าความสำเร็จคือสิ่งที่เป็นไปได้สำหรับทุกคน เพราะทุกคนมีศักยภาพที่เต็มเปี่ยมอยู่ในตนเอง วันนี้มาสด้าขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ชนะเลิศการแข่งขันครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจให้เยาวชนทุกท่านที่จะเข้าร่วมการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับสากล ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้สามารถคว้าชัยชนะและนำชื่อเสียงกลับมาสู่ประเทศไทยได้สำเร็จ สำหรับเยาวชนที่พลาดโอกาสในครั้งนี้ ขอให้ทุกท่านไม่ละความพยายาม มาสด้าเชื่อว่าด้วยความอุตสาหะและไม่ย่อท้อแล้ว จะเป็นพลังที่สำคัญที่ทำให้ก้าวไปสู่เป้าหมายได้อย่างแน่นอน

“โปรดติดตามกิจกรรมดีๆ เช่นนี้ ที่มาสด้าจัดขึ้นเพื่อลูกค้า Mazda Family ได้ทาง www.mazda.co.th ซึ่งมาสด้าขอขอบคุณที่ลูกค้าไว้วางใจและเลือกใช้รถยนต์มาสด้าเป็นรถยนต์คู่ใจของท่านและครอบครัว และมาสด้าหวังว่าท่านจะได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับครอบครัวมาสด้า และเรารอคอยที่จะส่งมอบกิจกรรมและสิทธิพิเศษดีๆ เช่นนี้ให้กับลูกค้า Mazda Family เช่นทุกท่านในโอกาสถัดไป” นายธีร์ กล่าว

ผลการแข่งขันรอบสุดท้าย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

ประเภทเยาวชนชาย

•รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง          เยาวชนจากประเทศจีน           Kaichen Xia

•รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง    เยาวชนจากประเทศเกาหลีใต้           Seungyong Shin

•รองชนะเลิศอันดับสอง    เยาวชนจากประเทศจีน                Zhuoxi Lu

•รองชนะเลิศอันดับสาม    เยาวชนจากประเทศเกาหลีใต้           Doyun Kim

•รองชนะเลิศอันดับสี่        เยาวชนจากประเทศเกาหลีใต้           Jae Min Park

ประเภทเยาวชนหญิง

•รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง          เยาวชนจากประเทศไทย              Kanyarak Pongpithanon

•รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง    เยาวชนจากประเทศเวียดนาม      Le Chuc An, Vietnam

•รองชนะเลิศอันดับสอง    เยาวชนจากประเทศไทย              Namo Luangnitikul

•รองชนะเลิศอันดับสาม    เยาวชนจากประเทศไทย              Waraporn Wimonwan

•รองชนะเลิศอันดับสี่        เยาวชนจากประเทศฟิลิปปินส์          Alethea Gaccion

•รองชนะเลิศอันดับสี่        เยาวชนจากประเทศจีน                Ningyao Xu

ผลการแข่งขันรอบสุดท้าย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

ประเภทเยาวชนชาย

•รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง          เยาวชนจากประเทศเกาหลีใต้           Taeoh Ryu, Korea

•รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง    เยาวชนจากประเทศมาเลเซีย          Afham Othman

•รองชนะเลิศอันดับสอง    เยาวชนจากประเทศฟิลิปปินส์          Ralph Rian Woo Batican

•รองชนะเลิศอันดับสาม    เยาวชนจากประเทศไทย              Paphat Tansirichaiya

•รองชนะเลิศอันดับสี่        เยาวชนจากประเทศเกาหลีใต้           Bae Jinhyuk

ประเภทเยาวชนหญิง

•รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง          เยาวชนจากประเทศเวียดนาม      Viet Gia Han Nguyen

•รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง    เยาวชนจากประเทศไทย              Natcharey Khunapasut

•รองชนะเลิศอันดับสอง    เยาวชนจากประเทศสิงคโปร์                  Amelie Blossom Ng

•รองชนะเลิศอันดับสาม    เยาวชนจากประเทศเกาหลีใต้           Hannah Kang

•รองชนะเลิศอันดับสี่        เยาวชนจากประเทศเกาหลีใต้            Kyoungwon Park

สมาคมรถโบราณฯ ดุสิตธานี หัวหิน ร่วมมือพันธมิตร จัดงาน “หัวหิน วินเทจ คาร์ พาเหรด ครั้งที่ 22”

สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี เทศบาลเมืองชะอำ เทศบาลเมืองหัวหิน และ ททท. ร่วมกันจัดงาน “หัวหิน วินเทจ คาร์ พาเหรด ครั้งที่ 22” ตามแนวคิด “มิตรภาพไร้กาลเวลา” วันที่ 20 – 22 ธันวาคม 2567

นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เผยว่า “งานหัวหิน วินเทจ คาร์ พาเหรด จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 22 โดยปีนี้สมาคมฯ ร่วมกับ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน เป็นปีที่ 3 และได้รับการสนับสนุนอย่างดีเช่นเคยจากพันธมิตรเดิม ทั้ง หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี เทศบาลเมืองชะอำ เทศบาลเมืองหัวหิน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยสมาคมฯ หวังสร้างมิตรภาพตลอดการเดินทาง กระตุ้นการท่องเที่ยว ด้วยขบวนรถโบราณ และรถคลาสสิค บนเส้นทาง กรุงเทพฯ-หัวหิน ตามแนวคิด “มิตรภาพไร้กาลเวลา – Timeless Friendship” เพื่อให้เจ้าของรถได้รำลึกถึงความทรงจำที่คุ้นเคย แม้จะพบกันเพียงครั้ง จะยังจดจำมิรู้ลืม”

นายพิพัฒน์ พัฒนานุสรณ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน กล่าวว่า “โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อำเภอชะอำ ขอขอบคุณสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ที่ให้เกียรติและไว้ใจให้โรงแรมฯ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมจัดงานเป็นปีที่ 3 โดยเรายินดีสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ขบวนพาเหรดรถโบราณถือเป็นอีกหนึ่งงานไฮไลท์ที่ชาวเมืองเพชรบุรี และหัวหิน รวมถึงนักท่องเที่ยวและแฟนคลับตั้งตารอคอยเพื่อชมความงามอันทรงคุณค่าที่นับวันจะหาดูได้ยาก โรงแรมของเรามีพื้นที่กว้างขวาง และมีศูนย์การประชุม ซึ่งสามารถรองรับคาราวานรถโบราณ และการจัดงานต่างๆ ได้ทุกรูปแบบ”

พิธีปล่อยขบวนรถโบราณ “หัวหิน วินเทจ คาร์ พาเหรด ครั้งที่ 22” จะเริ่มต้นที่ พิพิธภัณฑ์คนรักรถ AUTO RENDEZVOUS MUSEUM-BANGKOK ถนนประชาอุทิศ สู่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ในวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2567 โดยประชาชนทั่วไปสามารถชมรถคลาสสิค และรถโบราณอันทรงคุณค่าได้อย่างใกล้ชิดตลอดเส้นทาง นอกจากนั้น ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ งานกาลาดินเนอร์ ในคืนวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 ซึ่งจะมีเวทีลีลาศ กับวงดนตรี Sensation ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/VintageCarClub

MG3 HYBRID+ กวาดยอดทั่วโลกสองไตรมาส มากกว่า 30,000 คัน

ALL NEW MG3 HYBRID+ กวาดยอดทั่วโลกสองไตรมาส มากกว่า 30,000 คัน ด้วยความเหนือชั้นของระบบไฮบริด และสมรรถนะการขับขี่

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ย้ำภาพความสำเร็จของโกลบอลโมเดลรุ่นยอดนิยม ALL NEW MG3 HYBRID+ สร้างยอดขายทั่วโลกสองไตรมาสรวมกว่า 32,000 คัน พร้อมการันตีความเชื่อมั่นด้วยรางวัลชั้นนำ อาทิ Affordable Car of the year 2024 จาก Auto Express UK และ รางวัล Best Value Car จาก The Business Car Awards ในสหราชอาณาจักร หลังปรากฏตัวครั้งแรกในงาน GENEVA INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2024 และในประเทศไทย เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ALL NEW MG3 HYBRID+ หนึ่งในโกลบอลโมเดลที่เป็นยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนแบรนด์ เอ็มจี ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดดเด่นด้วยนวัตกรรม และแนวทางการพัฒนายนตรกรรมพื้นฐานที่เริ่มต้นจากรถยนต์ไฮบริด และเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นล่าสุดของ เอ็มจี ที่มีนวัตกรรมทางเทคโนโลยีก้าวหน้าภายใต้การพัฒนาของ SAIC MOTOR และนับเป็นโมเดลแรกที่ผสานระบบ HYBRID+ ที่สะท้อนความตั้งใจในการมอบความสมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือกว่า และยังเป็นเครื่องยืนยันให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นว่า ไฮบริดที่ดีกว่าต้อง HYBRID+ ของเอ็มจีเท่านั้น

ALL NEW MG3 HYBRID+ โดดเด่นด้านการผสานพลังงานระหว่างเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้าอย่างลงตัว ทำให้สมรรถนะใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังคงความรู้สึกขับสนุกด้วยโกลบอลจูนนิ่งจากวิศวกรระดับโลกมาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริดที่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ของการขับขี่ได้ถึง 8 รูปแบบ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้สูงสุดถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร* ทำระยะทางได้ไกลสูงสุดมากกว่า 800 กิโลเมตร มาพร้อมกับความแรง ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที และอัตราเร่ง 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 5 วินาที มาพร้อมดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ ในระดับราคาที่เข้าถึงได้ง่าย รุ่นเริ่มต้นหรือรุ่น D อยู่ที่ 579,900 บาท และรุ่น X ในราคา 619,900 บาท

จุดเด่นหลักๆ ของรถยนต์ ALL NEW MG3 HYBRID+

•ALL NEW MG3 HYBRID+ เป็นโมเดลที่ผู้บริโภคต่างให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปี และได้ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยถือเป็นรถแฮทช์แบคไฮบริดรุ่นล่าสุดของ เอ็มจี และเป็นโกลบอลโมเดลรุ่นที่สองที่ผลิตจากโรงงาน เอสเอไอซี มอเตอร์- ซีพี ณ จังหวัด ชลบุรี

•ALL NEW MG3 HYBRID+ ได้ทำการพัฒนาและปรับจูนทุกระบบโดยทีมวิศวกรระดับโลกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานจริงบนถนนทั่วโลก โดยผ่านการทดสอบในทุกสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ รวมถึงวิ่งทดสอบในสถานการณ์ที่หลากหลาย พร้อมการออกแบบห้องโดยสารภายในให้มีความเงียบกว่ารถทุกรุ่นในระดับเดียวกัน

•ALL NEW MG3 HYBRID+ ให้มากกว่าในกลุ่มรถขนาดเล็ก B-Segment ด้วยการยกระดับระบบการทำงานของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าให้มีการทำงานที่อิสระ ครอบคลุมโหมดการขับเคลื่อนที่หลากหลาย นำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่ครบครัน ทั้ง ประหยัดกว่า – ด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้สูงสุดถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร*กับน้ำมันหนึ่งถัง 36 ลิตร สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดมากกว่า 800 กิโลเมตร* แรงกว่า – แรงสุดในกลุ่มสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที และอัตราเร่ง 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 5 วินาที มอบความคล่องตัว ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถไฟฟ้าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ กว้างกว่า – กว้างที่สุดในคลาสเดียวกัน โดยเฉพาะห้องสัมภาระท้ายจุได้มากถึง 293 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,037 ลิตร ปลอดภัยกว่า – ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ซึ่งรวมระบบADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) หรือระบบอำนวยความสะดวกช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 8 ระบบ พร้อมระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Brake System) เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถยนต์ในกลุ่ม City Car ที่มาพร้อมฟังก์ชันระบบความปลอดภัยที่ครบครัน และเทคโนโลยีที่โดดเด่นด้วยความประหยัด

•ALL NEW MG3 HYBRID+ การันตีความเชื่อมั่นด้วยรางวัลชั้นนำ อาทิ รถยนต์ที่มอบความคุ้มค่าที่สุด “Affordable Car of the year 2024” จาก Auto Express UK และ “รางวัล Best Value Car” จาก The Business Car Awards ในสหราชอาณาจักร พร้อมยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนกันยายน รวมกว่า 32,000 คัน ทั้งยังเป็นรถยนต์ที่ผ่านคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ในการเข้ารับคัดเลือกรอบแรก และได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 รุ่น ให้เข้าสู่รอบสุดท้ายของการตัดสิน รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 (THAILAND CAR OF THE YEAR 2024) โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย – สรยท. (THAI AUTOMOTIVE JOURNALISTS ASSOCIATION – TAJA)

•ALL NEW MG3 HYBRID+ อีกหนึ่งรุ่นที่ตอกย้ำแนวทางการดำเนินธุรกิจของแบรนด์เอ็มจีครบหนึ่งศตวรรษ ในการยกระดับผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ และเป็นโมเดลที่สะท้อนภาพแนวทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในการนำเสนอยนตรกรรมไฮบริดประสิทธิภาพสูงที่จะเข้ามาแทนที่รถยนต์สันดาปภายใน โดยถือเป็นยนตรกรรมไฮบริดที่รวมทุกข้อดีของไฮบริดที่มี สู่ความลงตัวที่สุดในรุ่นนี้

*หมายเหตุ : ระยะทางต่อ 1 ถัง ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ของแต่ละบุคคล

สรยท. ประกาศชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้ารอบสุดท้าย THAILAND CAR OF THE YEAR 2024

สรยท. ประกาศชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้ารอบสุดท้าย THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะที่จะครองรางวัลในแต่ละสาขารถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. ประกาศรายชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์จำนวน 20 รุ่นที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเพื่อให้สมาชิกที่ทรงคุณวุฒิได้ลงคะแนนคัดเลือกอีกครั้ง เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะที่จะครองรางวัลในแต่ละสาขา นั่นคือ รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 รถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปี 2567 หรือ THAILAND EV OF THE YEAR 2024 และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 หรือ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR 2024

หลังจากที่มีการเปิดให้สมาชิกโหวตลงคะแนนไปเมื่อวันที่ 17-22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ในที่สุด สมาคมฯ ก็ได้รายชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เข้ารอบสุดท้ายจำนวน 20 รุ่นของการจัดงาน TCOTY 2024 หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 โดยแบ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในและไฮบริดจำนวน 5 รุ่น รถยนต์ไฟฟ้า-BEV จำนวน 9 รุ่น และรถจักรยานยนต์ จำนวน 6 รุ่น

ในปีนี้จะมีการมอบรางวัลโดยแบ่งออกเป็น 3 สาขา คือ รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 หรือ TCOTY 2024 หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 รถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปี 2567 หรือ THAILAND EV OF THE YEAR 2024 และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 หรือ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR 2024 โดยจะนำรถยนต์และจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 20 รุ่น มาแบ่งการทดสอบตามสาขาของรางวัลที่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์รุ่นนั้นๆ ผ่านเข้ารอบมา โดยสมาชิกผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการคัดเลือกจากสมาคมฯ จะเป็นผู้ทำการทดสอบภาคสนามและให้คะแนนในครั้งสุดท้าย

สำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายประกอบด้วย

– รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี หรือ TCOTY หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR ในปีนี้มีรถยนต์ที่เข้าเกณฑ์จำนวนทั้งสิ้น 8 รุ่น และสมาชิกมีการลงคะแนนคัดเลือกรอบแรก เพื่อคัดเลือกรถยนต์ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 5 รุ่นเท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย

1. BMW Series 5 (G60)

2. HONDA Accord e:HEV

3. MERCEDES-Benz E-Class (W214)

4. TOYOTA Yaris Cross

5. MG3 Hybrid+

– รถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปี หรือ THAILAND EV OF THE YEAR ในปีนี้มีรถยนต์ที่เข้าเกณฑ์จำนวนทั้งสิ้น 18 รุ่น และสมาชิกมีการลงคะแนนคัดเลือกรอบแรก เพื่อคัดเลือกรถยนต์ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 9 รุ่นเท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย

1. AVATR 11

2. BMW i5

3. CHANGAN Deepal S07

4. HONDA e:N1

5. HYUNDAI IONIQ5 (5N)

6. MERCEDES EQS 450 4Metic

7. MG Maxus7

8. NETA X

9. ORA07

– รถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี หรือ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR ในปีนี้มีรถจักรยานยนต์ที่เข้าเกณฑ์จำนวนทั้งสิ้น 11 รุ่น และสมาชิกมีการลงคะแนนคัดเลือกรอบแรก เพื่อคัดเลือกรถจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 6 รุ่นเท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย

1. BMW R1300 GS

2. CYCLONE RA401

3. HARLEY DAVIDSON Street Glide

4. TRIUMPH SCRAMBLER 400X

5. YAMAHA PG-1

6. Zontes 350e

สำหรับรถที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายทั้ง 20 รุ่นนี้ จะมีการจัดทดสอบภาคสนามเพื่อให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการคัดเลือกจากสมาคมฯ ได้ลงคะแนน ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ที่ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ หรือ ATTRIC อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อคัดเลือกยานยนต์เพียงรุ่นเดียวที่จะเป็นผู้ชนะในแต่ละสาขาของรางวัลในปีนี้ และจะมีการจัดพิธีมอบรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 THAILAND EV OF THE YEAR 2024 และ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR 2024 ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ที่ The HALLS Bangkok ถนนวิภาวดีรังสิต

ข้อมูลเพิ่มเติมรถยนต์ 5 รุ่นเข้ารอบตัดสิน THAILAND CAR OF THE YEAR 2024

1. BMW Series 5 (G60) – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 19 ตุลาคม 2567 

รูปแบบตัวถัง : ซีดาน 4 ประตู

เครื่องยนต์ : ดีเซล 2.0 ลิตร 197 แรงม้า และ เบนซิน 2.0 ลิตร ปลั๊กอินไฮบริด กำลังรวมสูงสุด 299 แรงม้า

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหลัง

ราคาจําหน่าย : 3,779,000 – 3,949,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.bmw.co.th/th/all-models/5-series/sedan/bmw-5-series-sedan-overview.html

2. Honda Accord e:HEV – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว  17 พฤศจิกายน 2566

รูปแบบตัวถัง : ซีดาน 4 ประตู

เครื่องยนต์ : 2.0 ลิตร ไฮบริด

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหน้า

ราคาจําหน่าย : 1,529,000 – 1,799,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.honda.co.th/accordehev

3. Mercedes-Benz E-Class (W214) – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 4 มีนาคม 2567

รูปแบบตัวถัง : ซีดาน 4 ประตู

เครื่องยนต์ : ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร 197 แรงม้า และ เบนซิน 2.0 ลิตร ปลั๊กอินไฮบริด กำลังรวม 313 แรงม้า

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหลัง

ราคาจําหน่าย : 3,990,000 – 4,250,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.mercedes-benz.co.th/th/passengercars/models/saloon/e-class/overview.html

4. MG3 Hybrid+ – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 20 สิงหาคม 2567

รูปแบบตัวถัง : แฮทช์แบ็ก 5 ประตู

เครื่องยนต์ : 1.5 ลิตร ไฮบริด 194 แรงม้า

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหน้า

ราคาจําหน่าย : 559,000 – 599,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://new-mg3.mgcars.com/th/cars/all-new-mg3-hybrid-plus


5. Toyota Yaris Cross – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 5 ตุลาคม 2566

รูปแบบตัวถัง : ครอสโอเวอร์ 5 ประตู

เครื่องยนต์ : 1.5 ลิตร ไฮบริด

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหน้า

ราคาจําหน่าย : 789,000 – 899,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.toyota.co.th/model/yariscross 

ข้อมูลเพิ่มเติมรถยนต์ 9 รุ่นเข้ารอบตัดสิน THAILAND EV OF THE YEAR 2024

1. Avatr 11 : เปิดตัว 17 กันยายน 2567 

รูปแบบตัวถัง : ครอสโอเวอร์ 5 ประตู

เครื่องยนต์ : มอเตอร์เดี่ยว กำลังสูงสุด 313 แรงม้า

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหลัง

ราคาจําหน่าย : 2,099,000 – 2,299,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://avatr-eternityatone.com/specification/

2. BMW i5 : เปิดตัว 19 ตุลาคม 2566

รูปแบบตัวถัง : ซีดาน 4 ประตู

เครื่องยนต์ : มอเตอร์เดี่ยว 304 แรงม้า และมอเตอร์คู่ 601 แรงม้า

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหลัง และ ขับเคลื่อนสี่ล้อ

ราคาจําหน่าย : 4,999,000 – 5,599,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.bmw.co.th/th/all-models/bmw-i/i5/bmw-i5-overview.html#build

3. Changan Deepal S07 : เปิดตัว 29 พฤศจิกายน 2566

รูปแบบตัวถัง : ครอสโอเวอร์ 5 ประตู

เครื่องยนต์ : มอเตอร์เดี่ยว กำลังสูงสุด 258 แรงม้า

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหลัง

ราคาจําหน่าย : 1,399,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.changan.co.th/th/deepal/s07-th/

4. Honda e:N1 : เปิดตัว 26 มีนาคม 2567

รูปแบบตัวถัง : ครอสโอเวอร์ 5 ประตู

เครื่องยนต์ : มอเตอร์เดี่ยว กำลัง 204 แรงม้า

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหน้า

ราคาจําหน่าย : สำหรับเช่า 29,000 บาท ต่อเดือน

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.honda.co.th/en1


5. Hyundai IONIQ 5 (หรือ 5N) : เปิดตัว 30 พฤศจิกายน 2566

รูปแบบตัวถัง : แฮทช์แบ็ค 5 ประตู

เครื่องยนต์ : มอเตอร์เดี่ยว กำลังสูงสุด 217 แรงม้า

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหลัง

ราคาจําหน่าย : 1,699,000 – 2,399,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.hyundai.com/th/th/find-a-car/ioniq5/highlights


6. Mercedes-EQS 450 4Matic SUV : เปิดตัว 23 สิงหาคม 2567

รูปแบบตัวถัง : SUV 7 ที่นั่ง

เครื่องยนต์ : มอเตอร์คู่ กำลังสูงสุด 360 แรงม้า

ระบบขับเคลื่อน : 4 ล้อ

ราคาจําหน่าย : 5,990,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.mercedes-benz.co.th/en/passengercars/buy/new-car/product.html/X296-CKD_DTH0001891_TH_1993501


7. MG Maxus 7 : เปิดตัว 13 มิถุนายน 2567

รูปแบบตัวถัง : MPV 7 ที่นั่ง

เครื่องยนต์ : มอเตอร์เดี่ยว กำลัง 245 แรงม้า

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหน้า

ราคาจําหน่าย : 1,769,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.mgcars.com/th/mg-models/new-mg-maxus-7/spec

8. Neta X : เปิดตัว 27 กรกฎาคม 2567

รูปแบบตัวถัง : ครอสโอเวอร์ 5 ประตู

เครื่องยนต์ : มอเตอร์เดี่ยว 163 แรงม้า

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหน้า

ราคาจําหน่าย : 739,000 – 799,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.neta.co.th/th/product/Neta-X


9. ORA07 : เปิดตัว 29 พฤศจิกายน 2566

รูปแบบตัวถัง : ซีดาน 4 ประตู

เครื่องยนต์ : มอเตอร์เดี่ยว 204 แรงม้า และ มอเตอร์คู่ 408 แรงม้า

ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหน้า และขับเคลื่อนสี่ล้อ

ราคาจําหน่าย : 1,119,000 – 1,319,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.gwm.co.th/ORA_07.html

ข้อมูลเพิ่มเติมรถจักรยานยนต์ 6 รุ่นเข้ารอบตัดสิน THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR 2024

1. BMW R 1300GS – เปิดตัว พฤษภาคม 2567

ราคาจำหน่าย: 1,125,000 – 1,205,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.bmw-motorrad.co.th/th/models/adventure/r1300gs.html

2. CYCLONE  RA401 – เปิดตัว กันยายน 2567

ราคาจำหน่าย: 189,900 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/CycloneThailand/

3. HARLEY DAVIDSON Street Glide – เปิดตัว มกราคม 2567

ราคาจำหน่าย: 1,640,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.harley-davidson.com/th/th/motorcycles/street-glide.html

4. TRIUMPH SCRAMBLER 400X – เปิดตัว ตุลาคม 2566

ราคาจำหน่าย: 184,900 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.triumphmotorcycles.co.th/bikes/classic/scrambler-400-x 

5. YAMAHA PG-1 – เปิดตัว พฤศจิกายน 2566

ราคาจำหน่าย: 64,900 – 73,500 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.yamaha-motor.co.th/commuter/pg-1/overview

6. Zontes 350e – เปิดตัว มิถุนายน 2567

ราคาจำหน่าย: 159,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.zontes.co.th/zontes-350e/

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save