- Advertisement -
30.2 C
Bangkok
Home Blog Page 35

มิตซูบิชิ ยกแคมเปญพร้อมข้อเสนอพิเศษจัดเต็ม ส่งท้ายปี ที่งาน Motor Expo 2024

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนสัมผัสประสบการณ์พิเศษ MITSUBISHI e:MOTION พร้อมมอบแคมเปญ “MEGA DEAL จัดเต็ม ส่งท้ายปี” ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41

นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเปิดบูธ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41

กรุงเทพฯ – 28 พฤศจิกายน 2024 : บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ชวนลูกค้าร่วมสัมผัสประสบการณ์ MITSUBISHI e:MOTION พร้อมขนทัพสุดยอดยนตรกรรมล้ำสมัย นำโดย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ร่วมด้วย มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2024 รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ อีลีท เอดิชัน มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน มิตซูบิชิ แอททราจ สมาร์ท  และ มิตซูบิชิ มิราจ สมาร์ท ด้วยข้อเสนอพิเศษกับแคมเปญ “MEGA DEAL” โปรโมชั่นสุดยิ่งใหญ่จัดเต็มส่งท้ายปี รับข้อเสนอมูลค่ารวมสูงสุด 160,000 บาท ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41

มร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำที่ก่อตั้งในประเทศไทยมากว่า 63 ปี เราได้มุ่งมั่นพัฒนารถยนต์คุณภาพสูง พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่เป็นจุดเด่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ในงานนี้ ลูกค้าทุกท่านสามารถเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ MITSUBISHI e:MOTION ได้ที่โซนพิเศษ ซึ่งจะนำเสนอระบบการทำงาน พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้ข้อมูล”

ไฮไลท์ของการจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมล้ำสมัย นำโดย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี รถยนต์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ขนาดเล็ก พร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด เต็มเปี่ยมด้วยพลังและมั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วย MITSUBISHI e:MOTION ที่ผสานระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด เพื่อการขับขี่ที่ตอบสนองยอดเยี่ยมและประหยัดน้ำมัน โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ให้ความปลอดภัย ลุยได้ในทุกสภาพถนน และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control : AYC) เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจและปลอดภัยมากขึ้นในขณะเข้าโค้ง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง พับเบาะได้หลากหลายรูปแบบ จัดสรรพื้นที่ได้ตามต้องการ รองรับได้ทุกกิจกรรม มอบความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง และมั่นใจได้ในคุณภาพรถยนต์ที่ผลิตและประกอบในประเทศไทย โดนใจครอบครัวยุคใหม่ ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าร้อยละ 60 สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก

“นอกจากนี้ เรายังได้จัดแสดงรถยนต์รุ่นยอดนิยมของมิตซูบิชิครบทุกรุ่น ที่พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษจากแคมเปญ MEGA DEAL โปรโมชั่นจัดเต็มส่งท้ายปี ทั้งบริการหลังการขายที่มั่นใจได้ และสิทธิประโยชน์มากมาย” มร. อินาบะ กล่าวเสริม

อีกหนึ่งรถยนต์รุ่นเด่นภายในงาน ได้แก่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2024 รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ อีลีท เอดิชัน มาพร้อมเครื่องยนต์ “ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power)” ให้พละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันมากขึ้น 13% ทรงพลัง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 (Euro 5) มาพร้อมระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งสามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ได้ทันทีแม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว (Shift-on-the-Fly) เพิ่มความปลอดภัยบนทุกเส้นทางด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ (Full-Time All Wheel Control) ทั้งยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน ‘Diamond Sense’ และโหมดการขับขี่แบบออฟโรด 4 รูปแบบ ได้แก่ โหมดขับขี่บนทางฝุ่น (Gravel) โหมดขับขี่บนผิวทางที่ปกคลุมด้วยโคลนหรือหิมะ (Mud/Snow) โหมดขับขี่บนพื้นผิวทราย (Sand) และโหมดขับขี่บนผิวทางที่ขรุขระหรือพื้นผิวหิน (Rock)

มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฮเปอร์ พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู (Hyper Power X2) กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ตอบสนองไลฟ์สไตล์สปอร์ตพรีเมียมด้วยรูปลักษณ์โดดเด่นมีสไตล์ สะกดทุกสายตา ห้องโดยสารสะดวกสบายทุกจุด ผสานดีไซน์ภายในสีทูโทน เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน ‘Diamond Sense’ พร้อมระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) และระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งสามารถเปลี่ยนโหมดเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ได้ทันทีแม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว (Shift-on-the-Fly) ทั้งยังสามารถขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ (Full-Time All Wheel Control) เสริมความปลอดภัยให้ขับขี่คล่องตัวพร้อมตะลุยทุกสภาพอากาศและพื้นผิวถนนทุกรูปแบบด้วย 7 โหมดการขับขี่ และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control : AYC)

มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกสีดำสุดเท่ ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว บันไดข้างและกันชนท้ายตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำ ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ไฮเปอร์ พาวเวอร์ คลีนดีเซลเทอร์โบ กำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน ‘Diamond Sense’

มิตซูบิชิ แอททราจ สมาร์ท และ มิตซูบิชิ มิราจ สมาร์ท รถซิตี้คาร์ยอดนิยม ซึ่งเป็นที่ยอมรับในด้านอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ให้การขับขี่ที่สะดวกสบายคล่องตัว ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ได้แก่ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) (Forward Collision Mitigation System-Low Speed Range: FCM-LS) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (เฉพาะด้านหน้า) (Radar Sensing Misacceleration Mitigation System-FORWARD : RMS-FORWARD) และระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย (Cruise Control)

ด้วยความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการเติมเต็มความสนุกเร้าใจให้การขับขี่ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง พร้อมปลุกจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ภายในบูธ ยังได้จัดแสดงรถยนต์ตกแต่งพิเศษรุ่นต่างๆ ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี  และ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ที่มาพร้อมการตกแต่งแบบออฟโรด ประกอบด้วย ล้อและยางสไตล์ออฟโรด และที่วางสัมภาระบนหลังคา เพื่อสร้างแรงบัลดาลใจให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบการเดินทางและกิจกรรมเอาท์ดอร์ ร่วมด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ โปร รุ่นตัวเตี้ย ที่ได้รับการตกแต่งภายใต้แนวคิดรถกระบะแห่งอนาคต (Futuristic Pick-Up Truck) ด้วยคิ้วซุ้มล้อ อุปกรณ์ตกแต่งกันชนหน้า การตกแต่งด้วยเคฟล่าร์สีขาว ฝาปิดกระบะท้ายแบบไฟฟ้า และล้อแบบแอโรไดนามิกส์

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มุ่งมั่นสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า โดยเฉพาะในด้านบริการหลังการขายภายใต้สโลแกน “เราดูแล…คุณแค่ขับ” ด้วยเครือข่ายผู้จำหน่ายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ร่วม 200 สาขา ทั่วประเทศ ที่พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานสูงสุด โดยช่างผู้ชำนาญงานที่ได้รับการฝึกอบรม และอะไหล่แท้จากมิตซูบิชิ ทั้งยังต่อยอดสู่รถบริการนอกสถานที่ “มิตซูบิชิ โมบายเซอร์วิส” รุ่นใหม่ ที่สามารถให้บริการบำรุงรักษาตามกำหนดและตรวจเช็กระยะได้ถึง 100,000 กิโลเมตร โดยได้รับการติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องมืออันทันสมัยเพิ่มเติมกว่า 60 รายการ จึงสามารถรองรับงานบริการได้หลากหลายรูปแบบยิ่งขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าองค์กรที่มีรถหลายคัน ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ และลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล

“เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจมิตซูบิชิตลอดมา เราจึงขอมอบสิทธิพิเศษให้กับครอบครัวมิตซูบิชิ โดยเจ้าของรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นที่เป็นสมาชิก M-Care ระดับ Gold+ และ Platinum+ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน M-Drive เมื่อซื้อรถยนต์มิตซูบิชิคันใหม่” มร. อินาบะ กล่าวปิดท้าย

ผู้สนใจสามารถชมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทุกรุ่นได้ที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย A15 ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 หรือ MOTOR EXPO 2024 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2567 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 – 3 เมืองทองธานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และนัดหมายเพื่อทดลองขับได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดรับสายทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

สุดยอดยนตรกรรมมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่จัดแสดง ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41

รุ่นรถยนต์ฟีเจอร์เด่นข้อเสนอพิเศษ *
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี                MITSUBISHI e:MOTION ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด
(HEV System) โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ
(7 Drive Mode) ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)    
เลือกรับอัตราดอกเบี้ย 0%* เลือกรับแพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กม. พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี*รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี*รับฟรี รับประกันคุณภาพ นาน 5 ปี
พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี*รับฟรี MITSUBISHI XTRA CARE ประกันแบตเตอรี่ขับเคลื่อนไฮบริด 10 ปี และ ประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี
ไม่จำกัดระยะทาง*ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30,000 บาท ผ่าน M-Drive*มูลค่ารวมกว่า 160,000 บาท*
รุ่นรถยนต์ฟีเจอร์เด่นข้อเสนอพิเศษ *    
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2024 รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ อีลีท เอดิชัน                  เครื่องยนต์ ไฮเปอร์พาวเวอร์ (184 แรงม้า) ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู
(Super Select 4WD II)   โหมดการขับขี่แบบออฟโรด 4 รูปแบบ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน ‘Diamond Sense’
อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.09%* เลือกรับ แพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี
หรือ 100,000 กม. พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี*รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี*รับฟรี รับประกันคุณภาพ นาน 5 ปี
พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี*ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30,000 บาท ผ่าน M-Drive*มูลค่ารวมกว่า 160,000 บาท*
มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท    เครื่องยนต์ ไฮเปอร์พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู (204 แรงม้า) ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (EPS) ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน ‘Diamond Sense’ ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)  เลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.89%*  เลือกรับ แพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี
หรือ 100,000 กม. พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี*รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี*รับฟรี รับประกันคุณภาพ นาน 5 ปี
พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี*ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30,000 บาท ผ่าน M-Drive*มูลค่ารวมกว่า 140,000 บาท*
มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน    เครื่องยนต์ ไฮเปอร์พาวเวอร์ (184 แรงม้า) เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน ‘Diamond Sense’  เลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.89%*  เลือกรับแพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี
หรือ 100,000 กม. พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี*รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี*รับฟรี รับประกันคุณภาพ นาน 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี* ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30,000 บาท ผ่าน M-Drive*มูลค่ารวมกว่า 130,000 บาท*
มิตซูบิชิ แอททราจ สมาร์ท
มิตซูบิชิ มิราจ สมาร์ท
   
ระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) หรือ Forward Collision Mitigation System-Low Speed Range: FCM-LSระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ
เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (เฉพาะด้านหน้า) หรือ Radar Sensing Misacceleration Mitigation System-FORWARD: RMS-FORWARDระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย
(Cruise Control)
เลือกรับข้อเสนอดอกเบี้ย 0%* รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี* รับฟรี รับประกันคุณภาพ นาน 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี* ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 30,000 บาท ผ่าน M-Drive*มูลค่ารวมกว่า 116,0000 บาท*

*เงื่อนไขและรายละเอียดเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด หลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

โตโยต้า ยกทัพยนตรกรรมพร้อมแคมเปญ TOYOTA CARNIWOW ร่วมงาน Motor Expo 2024

โตโยต้าใจป้ำ ขนข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย พร้อมมอบส่วนลดเพิ่มกับแคมเปญสุดว้าวส่งท้ายปี TOYOTA CARNIWOW พร้อมเปิดราคา NEW GR COROLLA และ NEW GR YARIS ครั้งแรกในประเทศไทย ในงาน Thailand International Motor Expo 2024

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และคณะผู้บริหารระดับสูง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเปิดบูธโตโยต้าในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 Thailand International Motor Expo 2024” ภายใต้แนวคิด “Mobility for Everyone ทุกการขับเคลื่อนเพื่อทุกคน” จัดแสดงรถยนต์โตโยต้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ นำโดยรถรุ่นใหม่และอีกหลากหลายรุ่นครบทุกไลน์อัพ ทั้งยนตรกรรมไฮบริด “ALL-NEW CAMRY” และ “NEW CORLLA ALTIS HEV GR SPORT” รวมถึง KING OF PPV รุ่นล่าสุด “ฟอร์จูนเนอร์ LEADER S” และซีดานยอดนิยมรุ่นพิเศษ “YARIS ATIV NIGHTSHADE” พร้อมพบกับการแนะนำ “NEW GR COROLLA” และ “NEW GR YARIS” ครั้งแรกในประเทศไทย ที่รับจองสิทธิ์จำนวนจำกัดผ่านช่องทางออนไลน์ โดยรถทุกรุ่นมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ และแคมเปญส่งท้ายปี “TOYOTA CARNIWOW เทศกาลออกรถสุดว้าว” ในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2567 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้ บูธโตโยต้าจัดแสดงรถรุ่นใหม่ๆหลายรุ่น โดยแบ่งโซนการจัดแสดง ได้แก่

1)โซนรถยนต์ไฮบริด

ยอดขายกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ในประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 อยู่ที่กว่า 168,000 คัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ทั้งหมดลดลง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว รถยนต์ HEV ยังคงได้รับความนิยม เติบโต 42% มียอดขายถึงกว่า 100,000 คัน ในขณะทีรถยนต์ BEV มียอดขายเพิ่มขึ้น 1% ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและการยอมรับจากลูกค้าชาวไทยที่เลือกรถยนต์ไฮบริด 

นับตั้งแต่การเปิดตัวคัมรี ไฮบริด ครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ถือว่าโตโยต้าคือผู้บุกเบิกกลุ่มตลาดรถยนต์ xEV ของประเทศไทย ทั้งเราได้แนะนำยนตรกรรมไฮบริดอีกหลายรุ่น  สามารถสร้างยอดจำหน่ายสะสมของรถยนต์ไฮบริดโตโยต้าอยู่ที่กว่า 230,000 คัน ปีนี้ ยอดขายรถยนต์ HEV ของโตโยต้าอยู่ที่ 48,000 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 47% โดยเฉพาะ ALL-NEW CAMRY ที่เปิดตัวเดือนที่แล้ว ประสบความสำเร็จมียอดจองถึงเกือบ 4,000 คัน (ข้อมูลยอดจองถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567) เราขอขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนจากลูกค้า ที่มีให้กับ Toyota Trusted HEV

โตโยต้ามีรถยนต์ HEV หลายรุ่น อาทิ รถยนต์ HEV รุ่นยอดนิยม ยาริส ครอส รวมทั้ง โคโรลล่า ครอส,  โคโรลล่า อัลติส และ อินโนวา ซีนิกซ์ ที่เรานำเสนอมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้งาน และไลฟ์สไตล์ของทุกท่าน ที่สำคัญ โตโยต้าขอนำเสนอความสบายใจ (Peace of mind) ในทุกด้าน ด้วยบริการแบบครบวงจร นับตั้งแต่ด้านผลิตภัณฑ์ การบริการ รวมถึงแพ็กเกจด้านการเงิน โดยรถยนต์ไฮบริดทุกรุ่นของโตโยต้า มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี

2)โซนไฮลักซ์ซีรีส์และฟอร์จูนเนอร์

เริ่มจาก ไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต 4×4 กระบะรุ่นเรือธงดีไซน์ฐานล้อกว้างผ่านการพิสูจน์สมรรถนะบนเส้นทางสุดทรหดในประเทศออสเตรเลีย และคว้าแชมป์เอเชีย ครอส คันทรี แรลลี่ 2024 รุ่นต่อมา คือ ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่น Z Edition  เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งรถ ซึ่งเรานำรถที่ได้รางวัลชนะเลิศจากการประกวด กิจกรรม “อาชีวะ ท้า แต่ง แซด กับ ไฮลักซ์ รีโว่-ดี Z Edition ปีที่ 2” มาจัดแสดง และเรามี ไฮลักซ์ รีโว่ Smart Cab Pre-runner และ 4×4  มากับดีไซน์กระจังหน้าแบบดุดัน หรูหรา พร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายครบครัน เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

สำหรับรุ่นสุดท้าย คือ ไฮลักซ์ แชมป์ ครอบคลุมทุกการใช้งานทั้งเชิงพาณิชย์ และการใช้งานส่วนบุคคล โตโยต้ามีการจัดแสดงการดัดแปลงรถรุ่นนี้ในหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และการใช้งานทางธุรกิจที่หลากหลาย เช่น รถขายป๊อปคอร์นเคลื่อนที่ของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ นอกจากนี้ ในปีนี้ เราขอแนะนำ ไฮลักซ์แชมป์ในรูปแบบของ Mobile Office ทำให้ทุกที่เป็นที่ทำงานได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ไหนก็ตาม

 และเรายังได้เพิ่มรุ่นย่อยให้กับ King of PPV กับ ฟอร์จูนเนอร์ Leader S ที่ยังคงคุณสมบัติเด่นอย่าง QDR และสเปกที่เหนือระดับ ทำให้เป็นรถรุ่นที่สมบูรณ์แบบ เหมาะกับผู้นำรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถ PPV ที่ไว้วางใจได้ ในระดับราคาที่เข้าถึงได้ง่าย

และเพื่อสร้างเอกลักษณ์และความเท่ห์ให้กับรถยนต์ เราได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ที่เป็นที่รู้จักระดับประเทศหลายแห่ง อาทิ ชุดตกแต่งรอบคันสไตล์ออฟโรดจากแบรนด์ GR สำหรับไฮลักซ์ รีโว่ จาก บริษัท ทีซีดี เอเชีย อุปกรณ์ตกแต่งแนวแคมป์ปิ้ง สำหรับไฮลักซ์แชมป์จากแบรนด์ TJM และล้ออัลลอยสำหรับ ไฮลักซ์แชมป์ ไฮลักซ์ รีโว่ และ ฟอร์จูนเนอร์ภายใต้แบรนด์  LENSO

3) โซน NEW GR และอื่นๆ

ในวันนี้ ผมขอแนะนำ Toyota GR Corolla ใหม่ และ GR Yaris ใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาและอัพเกรด ทั้งในเรื่องของดีไซน์และสมรรถนะ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายในงานนี้ ทั้ง 2 รุ่นนี้ จะสร้างความพึงพอใจให้ ไม่ใช่เพียงแต่ ลูกค้าที่รักความมันส์สไตล์ GR แต่รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบความสนุกในการขับขี่ และหลงไหลในเสน่ห์ของรถสปอร์ต โดยเราเริ่มรับจองสิทธิ์ผ่านช่องทางออนไลน์ในจำนวนจำกัด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งรถทั้งสองรุ่นจะถูกจำหน่ายพร้อมกับแพ็กเกจการขายสุดพิเศษ

พร้อมพบกับ ATIV NIGHTSHADE รุ่นพิเศษ Special Model กับสีภายนอกใหม่ สีเทา Cement Gray กับการออกแบบทูโทนแนวสปอร์ต และภายในสีดำ (premium black) ให้ความรู้สึกพรีเมียม และ New Corolla Altis HEV – GR Sport รุ่นใหม่ ดีไซน์ทรงพลัง บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็น GR”

ตอกย้ำการเป็นแบรนด์ผู้บุกเบิกยนตรกรรมไฮบริดกับ “TOYOTA TRUSTED HYBRID”

All-New CAMRY ราคาเริ่มต้น 1,455,000 บาท

รถยนต์ HYBRID MEDIUM SIDE SEDAN ขุมพลัง Hybrid เจเนอเรชันใหม่ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 227 แรงม้า ประหยัดน้ำมันที่ 25 กิโลเมตรต่อลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker) มาพร้อมอุปกรณ์และฟังก์ชันต่างๆ ครบครัน อาทิ Auto slide-away function เข้า-ออกจากรถได้ง่ายขึ้น, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระ 3 Zone, Wireless Charger, Wireless Apple CarPlay, หลังคา Panoramic แบบเปิดได้พร้อมม่านไฟฟ้า ที่นั่งโดยสารด้านหลัง มาพร้อมเบาะที่นั่งปรับไฟฟ้าและแผงควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ระบบสัมผัส, ม่านหน้าต่าง และม่านไฟฟ้าที่กระจกหลัง ปลอดภัยกับเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense เจเนอเรชันล่าสุด

เลือกรับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

New COROLLA ALTIS ราคาเริ่มต้น 894,000 บาท

นำโดยรุ่น “HEV GR SPORT” เร้าใจสไตล์ GAZOO Racing ทั้งดีไซน์ และสมรรถนะ ขุมพลังไฮบริดอัตราการใช้น้ำมัน 23.8 กิโลเมตร/ลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker) กระจังหน้าและสปอยเลอร์หลังสีดำเงาสไตล์ GR ล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว ไฟท้าย Full LED แบบ Clear Lens ทางเลือกสีภายนอกใหม่ Platinum White Pearl with Black Roof และ Red Mica Metallic with Black Roof  ตกแต่งด้ายสีแดงบริเวณเบาะนั่ง และตกแต่งสัญลักษณ์ GR ตามจุดต่างๆ ปรับจูนสมรรถนะการขับขี่ให้เร้าใจยิ่งขึ้น ทั้งพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า, Shock Absorber, Coil Spring และ Rear Stabilizer Bar สำหรับอีก 3 รุ่นย่อย คือ HEV Premium, 1.8 Sport และ 1.6G มีสีภายนอกใหม่ สี Cement Gray Metallic

รับข้อเสนอ อัตราดอกเบี้ยอัตราพิเศษ พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD 

ALL-NEW YARIS CROSS ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท

SUV ขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตร อัตราการใช้น้ำมัน 26.3 กม/ลิตร เหนือระดับด้วยหลังคา Panoramic แบบ Fixed Type พร้อมม่านปรับไฟฟ้า สะดวกสบาย ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าพร้อม Kick Activated, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย และหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย ทั้งอุ่นใจกับเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense ที่มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ All-Speed ให้ความมั่นใจในการขับขี่

เลือกรับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ หรือผ่อนสบาย 

NEW COROLLA CROSS ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท

SUV ระดับ Premium ด้วยดีไซน์กระจังหน้าแบบ Multi-Dimensional ไฟหน้า LED Crystalized Headlamp และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential เหนือระดับด้วยหลังคา Frameless Panoramic Roof พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า ห้องโดยสารกว้างขวาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ช่องต่อ USB type C พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือกว่า

รับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD 

INNOVA ZENIX ราคาเริ่มต้น 1,379,000 บาท

PREMIUM MPV ขุมพลังไฮบริด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 186 แรงม้า อัตราการใช้น้ำมัน 21.3 กม./ลิตร ภายในกว้างขวาง พร้อมฟังก์ชันระดับพรีเมียม เช่น เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารแถวสองปรับไฟฟ้าแบบ Captain Seat พร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า หลังคา PANORAMIC ROOF สิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยรอบคัน มาพร้อมระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense เลือกรับข้อเสนอ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD หรือดอกเบี้ยอัตราพิเศษ

โซนไฮลักซ์ ซีรีส์ และฟอร์จูนเนอร์

HILUX REVO GR SPORT 4×4 ราคาเริ่มต้น 1,479,000 บาท

กระบะสปอร์ตออฟโรดแรง ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันแรลลี่ ผ่านการทดสอบอันหฤโหดจากทั้งประเทศออสเตรเลียและประเทศอาร์เจนตินา จุดเด่นคือดีไซน์ฐานล้อกว้างแบบ Wide tread เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ เกาะถนนดีเยี่ยม ดีไซน์สปอร์ต และการตกแต่งเอกลักษณ์แบบ GR เครื่องยนต์ GD Super Power ขนาด 2.8 ลิตรปรับจูนใหม่ ให้กำลัง 224 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วงล่างหน้าหลังพร้อมโช้คอัพ Monotube ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบ Rear Differential Lock ล้ออัลลอยสีดำเงาขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง BFGoodrich แบบ All-Terrain มี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย และมั่นใจได้ด้วย Toyota Safety Sense

รับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

HILUX REVO-D Z EDITION ราคาเริ่มต้น 744,000 บาท

รูปลักษณ์หล่อเท่ ด้วยดีไซน์ Black Out ภายนอกโดดเด่น กระจังหน้าใหม่ สีดำเมทัลลิก พร้อมไฟหน้ารมดำ แบบ Bi-Beam LED เครื่องยนต์ GD Super Power 2.4 ลิตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมเพราะมีระบบ I-ART คุมการจ่ายน้ำมันอัจฉริยะ รองรับมาตรฐานยูโร 5 และเพิ่มระบบ VSC ในทุกรุ่นย่อย รับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ หรือผ่อนสบายพร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

HILUX REVO-D PRE-RUNNER ราคาเริ่มต้น 881,000 บาท

และ HILUX REVO SMART CAB PRERUNNER ราคาเริ่มต้น 775,000 บาท

ตอบโจทย์ทั้งในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการใข้งานเดินทางไกล ช่วงล่าง Superflex Suspension นุ่มสบาย ห้องโดยสารกว้างนั่งสบาย ระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน เช่น หน้าจอใหม่ขนาด 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายและ ระบบ Wireless charger มาพร้อมเครื่องยนต์ GD Super Power ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูง 150 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร รองรับมาตรฐานยูโร 5 รับข้อเสนอ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ หรือผ่อนสบายพร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

HILUX CHAMP ราคาเริ่มต้น 459,000 บาท

ครอบคลุมทุกการใช้งานทั้งในเชิงธุรกิจ และการใช้งานส่วนบุคคล ด้วยทางเลือกรุ่นย่อยที่หลากหลายทั้งแบบช่วงล้อสั้นและยาว เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล มีทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้ คล่องตัวด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบเท่ารถยนต์นั่งขนาดเล็ก แข็งแรงทนทานด้วยช่วงล่างที่แกร่งตระกูลเดียวกับไฮลักซ์ และมีออกแบบด้วยแนวคิด “Monozukuri” หรือ “Easy for Conversion” ช่วยให้สามารถดัดแปลงต่อเติมได้ง่าย รับข้อเสนอพิเศษ สำหรับผู้ประกอบการขนส่งและประกอบธุรกิจ รับดอกเบี้ยอัตราพิเศษ เมื่อซื้อ

ไฮลักซ์ แชมป์ พร้อมดัดแปลงหรือต่อเติมเพื่อการทำธุรกิจทุกรูปแบบ

FORTUNER LEADER S ราคาเริ่มต้น 1,239,000 บาท

ตัวเลือกสำหรับผู้ที่มองหา PPV ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED พร้อม Daytime Running Lights และไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันทั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto มาตรวัดเรืองแสง พร้อมจอแสดงข้อมูลขนาด 4.2 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมแผ่นกรองปรับอากาศ PM2.5 สมรรถนะทรงพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ที่ประหยัดน้ำมันได้ถึง 14.3 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Sticker) พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่ง และกล้องมองหลัง เลือกรับข้อเสนอ ผ่อนสบายพร้อมประกันภัยชั้น1 Toyota Care PHYD หรือดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 

สัมผัสยนตรกรรมใหม่ ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ

YARIS ATIV ราคาเริ่มต้น 549,000 บาท

รถ Compact Sedan ดีไซน์ Fastback ปราดเปรียว ทรงพลัง และสง่างาม ไฟเลี้ยว Sequential และไฟหน้าแบบ LED ภายในห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ทั้ง Apple CarPlay, เครื่องเสียงขนาดหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว, กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor และระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

YARIS ATIV NIGHTSHADE Special Edition ราคา 699,000 บาท

โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยหลังคาดำ กระจกมองข้างสีดำเงาพร้อมไฟเลี้ยว สปอย์เลอร์หลังสีดำเงา ลงตัวกับล้ออัลลอยปัดเงาสีโครมดำ ตกแต่งภายใน ด้วยเบาะนั่งหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ เดินด้ายเทา กับทางเลือกสีภายนอกสีใหม่ สี Cement Gray with Black Roof และสี Platinum White Pearl with Black Roof อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง กล้องมองรอบคัน และเทคโนโลยี Toyota Safety Sense

เลือกรับข้อเสนอ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD  หรือ ผ่อนสบายพร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD   

YARIS ราคาเริ่มต้น 559,000 บาท

Hatchback ยอดนิยม โฉบเฉี่ยว ดีไซน์สปอร์ต ด้านหน้าแบบ HAMMERHEAD ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ใช้งานได้สะดวกรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ให้สนุกไปกับความบันเทิงเต็มพิกัด เพิ่มความมั่นใจ ด้วยระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense

เลือกรับข้อเสนอ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD หรือผ่อนสบายพร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

VELOZ ราคาเริ่มต้น 795,000 บาท

รถยนต์ 7 ที่นั่ง Way Smart ดีไซน์ล้ำสมัย ห้องโดยสารกว้างขวางเทียบเท่ารถระดับ C-segment เบาะที่นั่งโดยสารปรับได้ 7 แบบ แผงหน้าปัด ปรับได้ 4 รูปแบบ มาพร้อมเครื่องยนต์ Dual VVT-i  1.5 ลิตร ประสานกับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Sequential Shift อัตราการใช้น้ำมัน 17.9 กม/ลิตร มั่นใจปลอดภัยทั้งครอบครัว ด้วยระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense และกล้องมองรอบคัน

รับข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0%* พร้อมประกันภัยชั้น1 Toyota Care PHYD *** พร้อมโปรแกรมช่วยผ่อน 4,000 บาท/เดือน เดือนที่ 1 – 6

(เงื่อนไขรถทุกรุ่นเป็นไปตามที่บริษัทกำหนดและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ สามารถศึกษารายละเอียดโปรโมชันของรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่นได้ที่ https://www.toyota.co.th/promotion )

เปิดราคา NEW GR COROLLA และ NEW GR YARIS ครั้งแรกในไทย จำนวนจำกัด

ด้านรถยนต์ Sport hatchback สายเลือดแชมป์ WRC ปรับปรุงใหม่ทั้งด้านดีไซน์และสมรรถนะ เร้าใจยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ “Unified Design” ระบบเกียร์ใหม่ ขุมพลังเครื่องยนต์ G16E-GTS แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ขนาด 1.6 ลิตร ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด (GAZOO Racing Direct Auto Transmission) ซึ่งมาพร้อมกับ sequential shift และ paddle shiftระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ GR FOUR ช่วยกระจายกำลังขับเคลื่อนสู่ล้อ หน้า/หลัง ภายในห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ Driver-Centric Cockpit

NEW GR COROLLA กำลังสูงสุด 300 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร

ราคา 4,199,000 บาท

NEW GR YARIS กำลังสูงสุด 280 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 390 นิวตันเมตร

ราคา 3,499,000 บาท

เป็นเจ้าของรถ GR COROLLA และ GR YARIS วันนี้ สัมผัสประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตแบบ GAZOO Racing และสิทธิพิเศษสุด Exclusive

-GR Service package บริการเช็กระยะมาตรฐาน ภายในระยะเวลา 3 ปี 60,000 กม.(แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

-Roadside Service package ฟรี ระยะเวลา 5 ปี (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)

-GR Track Experience package สัมผัสประสบการณ์ลงขับในสนามแข่ง

-GR Collection souvenir ของที่ระลึก GR Collection

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ทางเว็บไซต์ https://stores.toyota.co.th/register

พบกับทางเลือกชุดแต่งดีไซน์เฉียบ คุณภาพดี ที่หลากหลาย Associated Accessories Product – AAP

ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถ ภายใต้ความร่วมมือและขยายพันธมิตรทางธุรกิจ ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งที่เป็นที่นิยม และมีคุณภาพเชื่อถือได้ มาจำหน่าย โดยลูกค้าโตโยต้าที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่บูธโตโยต้าภายในงานฯ และโชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ

1)ชุดตกแต่งรอบคันแนวออฟโรดภายใต้แบรนด์ GR สำหรับ Hilux Revo จาก บริษัท ทีซีดี เอเชีย จำกัด

“จากสนามแข่งสู่ชุดแต่งทีคุณเป็นเจ้าของได้’’ ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง Asia Cross Country ประกอบด้วย

-ชุดกันกระแทกใต้ท้องรถ ด้านหน้า –กลาง –หลัง / แร็คกระบะหลัง / บันไดข้าง / แร็คหลังคา / ล้ออัลลอย 17 นิ้ว / ชุดน็อตล้อ / ชุดบังโคลนล้อ ที่มีให้เลือกทั้งสีแดงและสีดำและชุดท่อไอเสีย

-ผลิตภัณฑ์จีอาร์ พาร์ท (GR PARTS) ผลิตและรับประกันโดยบริษัท ทีซีดี เอเชีย จำกัด รับประกัน 1 ปี หรือ 20,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

-โปรดศึกษารายละเอียดการรับประกันเพิ่มเติมได้ที่ www.toyota.co.th/accessories/warranty/grparts

2)อุปกรณ์ตกแต่งแนวแคมป์ปิ้ง ภายใต้แบรนด์ TJM สำหรับ Hilux Champ จาก บริษัท ทีเจเอ็ม เอเชีย แปซิฟิก จำกัด

“มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งที่ตอบโจทย์สายแคมป์ปิ้งอย่างแท้จริง” ประกอบด้วย

-กันชนหน้า / กันกระแทกชายบันไดข้าง/ ถาดหลังคา / บังโคลนล้อ

-ผลิตภัณฑ์ TJM ผลิตและรับประกันโดยบริษัท ทีเจเอ็ม เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เป็นระยะเวลา 1 ปี หรือ 20,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

-โปรดศึกษารายละเอียดการรับประกันเพิ่มเติมได้ที่ www.toyota.co.th/accessories/warranty/tjm

3)ล้ออัลลอยและยาง ภายใต้แบรนด์ Lenso จาก บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด

3.1 HILUX Revo Z Edition (D-cab,C-cab ทุกรุ่น) ประกอบด้วย

1)ล้ออัลลอยแนวสปอร์ต รุ่น VT7 / รุ่น 95G / รุ่น 95T ขอบ 18 นิ้ว x กว้าง 8.5 นิ้ว Offset 10

2)ยาง Lenso รุ่น D-One ขนาด 255/50 R18 

3.2 HILUX CHAMP (ทุกรุ่น) ประกอบด้วย

1)ล้ออัลลอยแนวออฟโรด รุ่น M1K ขอบ 16 นิ้ว x กว้าง 7 นิ้ว Offset 30 แนะนำติดตั้งร่วมกับยาง TOYO Tire Open country AT3 ขนาด 215/70 R16

2)ล้ออัลลอยแนวออฟโรด รุ่น RT7 ขอบ 16 นิ้ว x กว้าง 7 นิ้ว Offset 30 แนะนำติดตั้งร่วมกับยาง Lenso RT07 All terrain ขนาด 215/70 R16

3)ชุดน็อตล้อ Lenso 20 ชิ้น

3.3 Fortuner ประกอบด้วย

1)ล้ออัลลอย แนวพรีเมียมสปอร์ต รุ่น Vamos6 และ รุ่น Jager Ventus ขอบ 20 นิ้ว x กว้าง 9 นิ้ว Offset 15 (สามารถใช้กับยางมาตรฐานที่ติดมากับรถได้ ขนาด 265/50 R20 สำหรับขอบ 20 นิ้ว)

2)ล้ออัลลอย แนวสปอร์ต รุ่น VT7 ขอบ 18นิ้ว x กว้าง 9 นิ้ว Offset 0 (สามารถใช้กับยางมาตรฐานที่ติดมากับรถได้ 265/60 R18 สำหรับขอบ 18 นิ้ว)

3)ล้ออัลลอย แนวสปอร์ต รุ่น Vamos6 ขอบ 18 นิ้ว x กว้าง 9 นิ้ว Offset 15 (สามารถใช้กับยางมาตรฐานที่ติดมากับรถได้ 265/60 R18 สำหรับขอบ 18 นิ้ว)

4)ล้ออัลลอย แนวออฟโรด รุ่น Cezar ขอบ 17 นิ้ว x กว้าง 9 นิ้ว Offset 12 (สามารถใช้กับยางมาตรฐานที่ติดมากับรถได้ 265/65 R17 สำหรับขอบ 17 นิ้ว)

5)ชุดน็อตล้อ Lenso 24 ชิ้น

-ผลิตภัณฑ์ล้ออัลลอยและยาง LENSO ที่จัดจำหน่ายผ่านช่องทางผู้แทนจำหน่ายโตโยต้านี้ ไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพรถยนต์โตโยต้าและอะไหล่แท้โตโยต้า โดยผลิตภัณฑ์ LENSO นี้ ผลิตและรับประกันโดยบริษัทเลนโซ่ วีล จำกัด รับประกัน 2 ปี หรือ 50,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

-โปรดศึกษารายละเอียดการรับประกันเพิ่มเติมได้ที่ www.toyota.co.th/accessories/warranty/lenso

บริการครบวงจร มั่นใจและอุ่นใจได้ตลอดการใช้รถ

-T-connect

แอปพลิเคชันที่จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ง่ายในการเป็นเจ้าของ ปลอดภัย คุ้มค่า สะดวกสบาย และมีสิทธิประโยชน์มากมาย ด้วยเทคโนโลยี Connected ที่จะเชื่อมต่อประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของรถโตโยต้า เติมเต็มชีวิตยิ่งขึ้น ได้แก่ บริการใหม่ Connect Car แจ้งเตือนทุกเรื่องรถเพื่อความปลอดภัย อุ่นใจ, Connect You แจ้งสิทธิพิเศษเฉพาะคุณ, บริการสินเชื่อ Connected Auto Loan (CAL), ประกันภัยขับดี ลดให้ หรือ Pay How You Drive, บริการช่วยเหลือด้านความปลอดภัย, บริการอำนวยความสะดวกในการเข้าศูนย์บริการ, สิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โปรแกรม Toyota ALIVE-X สะสมคะแนน The1 แลกเป็นส่วนลดที่ศูนย์บริการโตโยต้า และร้านค้าในเครือเซ็นทรัลกว่า 30,000 ร้านทั่วประเทศ และอีกมากกว่า 20 บริการจาก T-Connect

TCFR Plus+ “เข้าศูนย์ตามนัด พลัสระดับความคุ้ม” รับสิทธิ์ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์สูงสุด 8 ปี พร้อมสิทธิประโยชน์ตามการเช็กระยะต่อเนื่อง

Service Loyalty Program “TCFR Plus+” บริการหลังการขายใหม่ ที่จะสร้างความมั่นใจตลอดระยะเวลาการเป็นเจ้าของรถโตโยต้า เริ่มต้นที่ระดับบรอนซ์ (Bronze), ปรับเป็นระดับซิลเวอร์ (Silver) เมื่อเช็กต่อเนื่อง 5 ครั้ง, ระดับโกลด์ (Gold) เมื่อเช็กต่อเนื่อง 7 ครั้ง, และระดับไดมอนด์ (Diamond) เมื่อเช็กต่อเนื่อง 9 ครั้ง รับระดับและสิทธิประโยชน์ตามการเช็กระยะต่อเนื่อง ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์สูงสุด 8 ปี, ส่วนลดในศูนย์บริการ, คะแนน Alive-X พิเศษ 2.5 เท่า, จนถึงสิทธิพิเศษซื้อรถยนต์ใหม่คันถัดไป รับสิทธิ์ได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน T-CONNECT (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด) ศึกษารายละเอียดได้ที่ https://aftersales.toyota.co.th/tcfrplus/

พิเศษ รับของที่ระลึกเมื่อเยี่ยมชมบูธ T-CONNECT และ TCFR Plus+ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 และเมื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ รับของที่ระลึกจาก TCFR Plus+

-Toyota Sure

บริการแบบ One Stop Service ในด้านการซื้อ-ขาย Trade-in รถมือสอง ที่มีมาตรฐานการประเมินสภาพรถ TVI โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ (inspector) และควบคุมมาตรฐานการดำเนินการภายใต้บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นเรื่องราคาขายต่อ และมูลค่ารถยนต์มือสอง ผ่านบริการประเมินราคารถด้วยมาตรฐานราคากลางฟรี ซึ่งท่านสามารถปรึกษาพนักงานขายได้ ภายในบูธของโตโยต้า

พิเศษ นำรถมาประเมินราคากับโตโยต้า ชัวร์ภายในงาน รับบัตรกำนัลจากเซ็นทรัล มูลค่า 300 บาท และสำหรับลูกค้าที่แลกเปลี่ยนรถกับโตโยต้า ชัวร์ภายในงาน รับฟรีชุดอุปกรณ์เติมลมยางมูลค่า 1,700 บาท

-Auction Express

แพลตฟอร์มประมูลรถยนต์ออนไลน์ ที่ปรับปรุงและพัฒนาขึ้นใหม่ พร้อมให้บริการแล้วด้วยระบบที่ทันสมัย รวดเร็ว สะดวกสบายยิ่งขึ้น รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปัจจุบันหันมาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น และยังตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งความสะดวกและความเชื่อมั่น ด้วยมาตรฐานการตรวจสภาพและประเมินเกรดรถประมูลแบบ “TVI-A Standard” ที่พัฒนาจากประเทศญี่ปุ่น ถูกต้องแม่นยำ ครอบคลุมทุกจุด ยกระดับมาตรฐานการประมูลรถยนต์ในประเทศ และช่วยให้ลูกค้าผู้ประกอบการสามารถใช้เวลาในการทำธุรกิจได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น Auction Express พร้อมแล้วกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนวงการประมูลรถยนต์มือสองของไทย ด้วยความโปร่งใสและน่าเชื่อถือ บนนวัตกรรมระบบประมูลออนไลน์ “มาตรฐาน สะดวกรวดเร็ว วางใจได้”

-FixFit

ศูนย์บริการทางเลือกที่ได้มาตรฐาน ภายใต้การควบคุณภาพของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย สะดวกไม่ต้องนัดหมาย ใกล้บ้าน และให้บริการรถทุกยี่ห้อ เหมาะสำหรับลูกค้านอกระยะรับประกัน ที่ต้องการความสะดวก คุ้มค่าด้านราคา และคุณภาพที่เชื่อถือได้

-T-OPT

อะไหล่ทางเลือก T-OPT อะไหล่คุณภาพระดับ OEM ที่ได้มาตรฐาน พร้อมรับประกันที่คุ้มค่า มีจำหน่ายที่ศูนย์บริการโตโยต้า และศูนย์บริการฟิกซ์ฟิตทั่วประเทศ

-KINTO

อีกหนึ่งทางเลือกของการใช้รถยนต์ ให้ลูกค้ามีรถใช้ ไม่ต้องซื้อ ให้บริการทั้งในรูปแบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เพียงจ่ายค่าบริการรายเดือนราคาเดียว ครอบคลุมทุกการบริการแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยชั้น 1 ตลอดอายุสัญญา เช็กระยะ เปลี่ยนแบต เปลี่ยนยาง เปลี่ยนอะไหล่ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม มีรถทดแทนให้ใช้ระหว่างซ่อม โดยนิติบุคคลสามารถลดหย่อนภาษีได้ถึง 36,000 บาท/คัน/เดือน พร้อมมีรถให้เลือกหลากหลายรุ่น สามารถเลือกใช้รถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตั้งแต่ 1-5 ปี เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าและไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ที่เน้นเรื่องความสะดวกสบาย และความคล่องตัวของการใช้ชีวิต พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย สมัครง่าย เพียงยื่นเอกสารออนไลน์

พิเศษสุดๆ ส่งท้ายปีสำหรับงาน Motor Expo 2024 นี้ สมัครบริการ KINTO ภายในงาน รับบัตรสตาร์บัคส์ มูลค่า 500 บาท และบัตรกำนัลโรงแรม จาก TripSabuy มูลค่า 3,000 บาท หลังรับมอบรถ

เป็นเจ้าของรถโตโยต้าวันนี้ ว้าว 2 ต่อ กับ “CARNIWOW เทศกาลออกรถสุดว้าว” รวมมูลค่ากว่า 231 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567 เท่านั้น

-WOW ที่ 1 จองรถโตโยต้า พร้อมสแกน QR Code ก็รับไปเลย ส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท หรือส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 1.5%

-WOW ที่ 2 รับรถแล้ว ลุ้นรับของรางวัลรวม 555 รางวัล!!

-รางวัลที่ 1 ทองคำแท่ง 30 บาท

-รางวัลที่ 2 ทองคำแท่ง 5 บาท

-รางวัลที่ 3 iPhone 16 Pro (128 GB)

-รางวัลที่ 4 Central Shopping Voucher มูลค่า 2,000 บาท

* เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ ที่บูธโตโยต้า หรือโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าใกล้บ้านท่าน หรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าโตโยต้า 1486 บริการด้วย Voice Bot 24 ชม. ทุกวัน บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต www.toyota.co.th หรือ Line ID : @toyotathailand

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.toyota.co.th/promotion/yearend2024

เป็นเจ้าของรถโตโยต้าง่ายๆ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 Thailand International Motor Expo 2024

ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

พลาดไม่ได้กับข้อเสนอสุดพิเศษภายในงาน และที่ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่

https://www.toyota.co.th/                     Facebook: Toyota Motor Thailand

LINE Official: @ToyotaThailand          TikTok: @ToyotaMotorTH

X: @ToyotaMotorTH                            Instagram: @toyotamotorthailandofficial

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ผนึกกำลังพันธมิตรในงาน GWM Partner Meeting 2024

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ผนึกกำลังพันธมิตรในงาน GWM Partner Meeting 2024 เร่งเครื่องเดินหน้าสู่อนาคต ชู 3 กลยุทธ์สำคัญภายใต้แนวคิด Unity to Greatness สร้างการเติบโตก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 อย่างแข็งแกร่งงและมั่นคง

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) จัดงานใหญ่ GWM Partner Meeting 2024 ครั้งที่ 2 ภายใต้แนวคิด “Unity to Greatness” ประกาศกลยุทธ์มุ่งเน้นสร้างการเติบโตพร้อมกับพันธมิตรอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง พร้อมอัปเดตสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในไทย ตอกย้ำความพร้อม เพื่อตอบสนองตลาดภายใต้การแข่งขันที่รุนแรง ปรับกลยุทธ์ ชู 3 แนวทางสำคัญเพื่อเร่งสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ทั้งตลาดในประเทศไทยและต่างประเทศ ประกอบด้วย การทำงานใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์สโตร์มากยิ่งขึ้นในทุกด้านเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด, การพัฒนางานบริการหลังการขายเพื่อส่งมอบบริการที่ไร้ที่ติแก่ลูกค้าทั่วประเทศ และการลงทุนอย่างมีนัยยะสำคัญด้านการตลาดและการสื่อสาร เพื่อมุ่งมั่นเดินหน้าสู่ปีที่ 4 อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง

งาน GWM Partner Meeting 2024 ครั้งนี้จัดขึ้น ณ โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา นำโดย ปาร์คเกอร์ ฉี ประธาน และ เจมส์ หยาง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลาดต่างประเทศ ร่วมกับ วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธาน และ ไมเคิล ฉง กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) พร้อมด้วยทีมผู้บริหารและพนักงานจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) โดยมีเครือข่ายพาร์ทเนอร์ทั้งสิ้น 71 แห่ง จำนวน 113 ท่านทั่วประเทศเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยภายในงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้แต่งตั้งพาร์ทเนอร์ใหม่อย่างเป็นทางการเพิ่มเติมอีก 10 แห่ง เพื่อขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้พูดคุยเกี่ยวกับแนวทางและกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 รวมไปถึงแผนการดำเนินงานในปี 2568 เพื่อสร้างการเติบโตและความสามารถในการแข่งขันให้กับพาร์ทเนอร์ อีกทั้งยังได้ร่วมหารือ พูดคุย และแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนาการดำเนินงานร่วมกัน เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้งานรถยนต์ เกรท วอลล มอเตอร์ ทั่วประเทศ

ภายใต้สถานการณ์ของตลาดรถยนต์ในประเทศที่ชะลอตัว ความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพาร์ทเนอร์ทุกรายทั่วประเทศ คือหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะร่วมกันเป็นฟันเฟืองสู่ความสำเร็จที่ตั้งเป้าไว้ และนี่คือที่มาของแนวคิด “Unity to Greatness” ในงานครั้งนี้ ภายในงาน ผู้บริหารระดับสูงจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ร่วมแถลงกลยุทธ์และแนวทางความร่วมมือแก่บรรดาพาร์ทเนอร์ ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

1.การทำงานอย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ให้มากยิ่งขึ้น

เน้นการทำงานและการสื่อสารที่ใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ในทุกด้านเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการทำความเข้าใจตลาดในเชิงลึก ผ่านการพบปะเยี่ยมเยียนบรรดาพาร์ทเนอร์สโตร์และลูกค้า เพื่อให้สามารถจัดหากลยุทธ์ต่างๆ และการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ได้อย่างตรงจุดในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกัน ในขณะเดียวกัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงรับฟังความคิดเห็นของพาร์ทเนอร์สโตร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถแก้ไขป้ญหาในการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการขาย การบริหารการขาย การพัฒนาทักษะบุคคลากร พฤติกรรมและความชื่นชอบของกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่ เพื่อนำไปพัฒนาและส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของพาร์ทเนอร์ แต่ละราย และที่สำคัญการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง เกรท วอลล์ มอเตอร์ และพาร์ทเนอร์สโตร์นั้น จะช่วยทำให้งานบริการของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทั้งจากทีม iAM, ทีมผู้บริหาร และทีมปฏิบัติการ สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบบริการที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ

2.การพัฒนางานบริการหลังการขาย

การบริการหลังการขาย คือกลยุทธ์สำคัญที่สร้างความแตกต่างของแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า รวมถึงเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาซื้อของลูกค้า เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเพิ่มความเข้มข้นด้านคุณภาพงานบริการหลังการขายให้มากยิ่งขึ้น เพื่อส่งมอบบริการที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าทั่วประเทศทั้งจากส่วนกลางและการให้บริการที่พาร์ทเนอร์สโตร์ โดยเน้นการบริหารจัดการอะไหล่ที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการสร้างศูนย์กระจายอะไหล่ขนาดใหญ่สำหรับตลาดต่างประเทศและการเพิ่มจำนวนการเก็บชิ้นส่วนอะไหล่ในประเทศไทยขึ้น 1000 SKU ทั้งนี้ ยังได้มีการแนะนำระบบ GWM SMART Service ให้พาร์ทเนอร์สโตร์ ได้นำมาปรับใช้ เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน โดยจะเป็นระบบบริการที่ช่วยสร้างความสะดวกสบายและสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้าในการใช้งาน เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน จะมีการจัดอบรมเพื่อพัฒนาความรู้และความสามารถของช่างเทคนิคอย่างเข้มข้น โดยจะมีทีมงานจากฝ่ายวิจัยและพัฒนา รวมถึงฝ่ายควบคุมคุณภาพ และทีมงานจากสำนักงานใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น เพื่อร่วมวิเคราะห์ปัญหาและให้แนวทางการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที

3.การลงทุนอย่างมีนัยยะสำคัญด้านการตลาดและการสื่อสาร

เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเดินหน้าสร้างการรับรู้ของแบรนด์สู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพิ่มการลงทุนเพื่อช่วยสนับสนุนการขายให้กับพาร์ทเนอร์โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด ภายใต้กลยุทธ์ ONE GWM เน้นพัฒนาแบรนด์ภายใต้ชื่อ GWM ให้แข็งแกร่ง ผ่านกิจกรรมด้านการตลาดและการสื่อสารแบรนด์และผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ตรงจุด และครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ รวมถึงการโปรโมทพาร์ทเนอร์สโตร์เพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายให้กว้างยิ่งขึ้น และการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ของพาร์ทเนอร์สโตร์อีกด้วย นอกจากนี้ และยังเน้นให้ความสำคัญเกี่ยวกับการสื่อสารในส่วนของงานบริการหลังการขาย เพื่อเพิ่มความไว้วางแก่ผู้ใช้งานทั่วประเทศ สำหรับด้านกิจกรรมเพื่อสังคม เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของพาร์ทเนอร์ในกิจกรรมเพื่อสังคมมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน

เจมส์ หยาง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลาดต่างประเทศ กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบพาร์ทเนอร์ทุกรายในวันนี้ เพื่อร่วมกระชับและสานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในวันนี้ และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับแบรนด์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน และพร้อมจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 อย่างแข็งแกร่งและมั่นคงต่อไป แม้ ณ ปัจจุบันเรากำลังเผชิญกับความท้าทายของตลาดและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ภายใต้ความท้าทายนี้ ยังมีโอกาสให้พวกเราทุกคนได้คว้าไว้”

“เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาส เพราะเราเชื่อว่า การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายของพลังงาน เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกตามความเหมาะสมและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับเรา โดยใน 3 ปีข้างหน้านี้ คาดการณ์ว่า ยอดขายของรถยนต์กลุ่ม HEV และกลุ่ม PHEV จะเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ ซึ่ง เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีรถยนต์ที่มีความหลากหลายของพลังงานที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้ง HEV, PHEV, BEV และเครื่องยนตต์สันดาปภายใน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเหนือแบรนด์จากประเทศจีนอื่น ๆ สร้างโอกาสในการขายให้กับ

พาร์ทเนอร์ได้ครอบคลุม โดยในปีหน้านี้ (2568) เราจะเปิดตัว GWM HAVAL H6 HEV และ PHEV ไมเนอร์เชนจ์ รวมถึง GWM TANK และ POER ในเครื่องยนต์ดีเซล เพื่อมุ่งเน้นทำตลาดรถกระบะในไทยอีกด้วย นอกเหนือไปจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงแล้ว เรายังให้ความสำคัญในด้านการพัฒนาแบรนด์ภายใต้กลยุทธ์ ONE GWM เพื่อใช้ในการทำการสื่อสารการตลาด มุ่งเน้นสร้างการรับรู้ในวงกว้างเกี่ยวกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อนำเสนอความแตกต่างและเอกลักษณ์ สู่สายตาคนไทยทั่วประเทศ” เจมส์ หยาง กล่าวสรุป

เพื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 อย่างภาคภูมิใจ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยังคงรักษาความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อปลายทางแห่งความสำเร็จและผลประโยชน์ร่วมกันระหว่าง เกรท วอลล์ มอเตอร์ และพันธมิตรทุกราย รวมถึงเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย ในการร่วมสร้างปาฏิหาริย์และอนาคตที่รุ่งโรจน์ มั่นคง และยั่งยืน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ชู 4 กลยุทธ์หลัก ยกไทยฐานผลิตรถพวงมาลัยขวา

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ชู 4 กลยุทธ์หลัก ผลักดันประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ของรถยนต์พวงมาลัยขวาระดับโลก เร่งเครื่องสร้างการเติบโตของธุรกิจในไทยสู่ปีที่ 4 อย่างมั่นคง

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ย้ำประเทศไทย เป็นพื้นที่ยุทธศาตรที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาสู่ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ล่าสุด ได้เร่งเดินหน้ามุ่งสู่เป้าหมายนี้ผ่านแนวคิด Local Excellence to Global Success ด้วยการเสริมศักยภาพให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นแบบรอบด้าน ผ่านการปรับกลยุทธ์เพื่อเร่งเครื่องมุ่งสู่เป้าหมาย 4 ด้าน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมขั้นสูงที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย, บริการหลังการขายที่ครอบคลุม รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ, การขยายเครือข่ายและการบริหารผู้จัดจำหน่ายเพื่อการขายที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงการขยายธุรกิจฟลีทและรถยนต์ใช้แล้วภายใต้ GWM Certified Pre-Owned (CPO) และการสร้างแบรนด์ให้แตกต่างสู่การเป็นแบรนด์ในใจของคนไทยและคนทั่วโลก เพื่อมุ่งสู่ปลายทางแห่งความสำเร็จทั้งระดับภูมิภาคและบนเวทีโลก เพื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 อย่างแข็งแกร่งและเต็มภาคภูมิ ภายใต้การนำทัพโดย ปาร์คเกอร์ ฉี ประธาน  และ เจมส์ หยาง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลาดต่างประเทศ ร่วมกับ วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธาน และ ไมเคิล ฉง กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย)

ภายใต้สถานการณ์ในตลาดรถยนต์ที่แข่งขันสูงอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย รวมถึงความท้าทายจากปัจจัยภายนอกต่างๆ ทั่วโลกนั้น Great Wall Motors International หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อกำกับ ดูแล และบริหารธุรกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในตลาดต่างประเทศทั่วโลก ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการดำเนินธุรกิจ สู่การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตอกย้ำการเป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำระดับโลก พร้อมเดินหน้าเติบโตคู่กับคนไทยและประเทศไทยในระยะยาว

มร.ปาร์คเกอร์ ฉี ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลาดต่างประเทศ กล่าว “ประเทศไทยเป็นประเทศยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการขยายธุรกิจสู่ระดับโลกภายใต้กลยุทธ์ “Ecological Globalization” เนื่องจากเป็นพื้นที่เปี่ยมด้วยศักยภาพสูงในหลายๆ ด้าน ทั้งภูมิประเทศ ทรัพยากรธรรมชาติ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน ความพร้อมของห่วงโซ่อุปทาน และทรัพยากรบุคคลที่มีทักษะความรู้ความสามารถ ที่เอื้อต่อการเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและการดำเนินธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ นอกจากนี้ เรามีการนำพันธมิตรของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมาลงทุนในประเทศไทย สร้างระบบนิเวศยานยนต์พลังงานใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ผมมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าภายใต้การดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Local Excellence to Global Success จะทำให้การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและการก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าด้วยความมั่นคงและยั่งยืน ที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ลงทุนในประเทศไทยไปแล้วกว่า 12,000 ล้านบาท และภายในอีก 3 ปีข้างหน้านี้เราจะลงทุนเพิ่ม รวมแล้วเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นกว่า 23,000 ล้านบาท เพื่อรองรับตลาด นอกเหนือไปจากการส่งมอบนวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าชาวไทยแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงสนับสนุนการจ้างงานในท้องถิ่น รวมถึงการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ และทีมผู้บริหารและพนักงานในประเทศไทย เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและมั่นคงร่วมกัน”

“บทบาทต่อจากนี้ของเรา คือ การผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาสู่ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญเชิงกลยุทธ์ผ่านการลงทุนระยะยาว รวมถึงปรับเปลี่ยนการดำเนินงานหลากหลายด้านผ่านกลยุทธ์ด้านต่างๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการแข่งขันสูง ผมขอยืนยันว่าเราจะยังคงดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในระยะยาว นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ยอดเยี่ยมให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับในตลาดโลก หลังจากประสบผลสำเร็จในการจำหน่ายแล้วกว่า 14 ล้านคันทั่วโลก Great Wall Motors International ตั้งเป้ายอดจำหน่ายในต่างประเทศที่ 1 ล้านคัน ภายในปี พ.ศ. 2573 นี้ โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายน 2567 เราทำยอดขายในตลาดต่างประเทศได้ถึง 316,000 คัน เติบโตจากปีที่แล้วถึง 22.17%” ปาร์คเกอร์ ฉี กล่าวปิดท้าย

ด้าน เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เตรียมปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่เข้มข้นในปัจจุบัน ผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ ภายใต้แนวคิด Local Excellence to Global Success เพื่อปรับปรุงการดำเนินงาน สร้างการเติบโต ขยายฐานลูกค้า รวมถึงขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาสู่ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ประกอบด้วย

กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ (Product Strategy) ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมขั้นสูงที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภค เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งเน้นการปรับตำแหน่งการตลาดของผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการปรับแผนผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยอย่างแท้จริง ในราคาที่เหมาะสมที่แข่งขันได้

นอกจากนี้ ยังเตรียมนำผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของประเภทเครื่องยนต์ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ผ่านการรับฟังเสียงของผู้บริโภค (User-Centric) เพื่อนำไปพัฒนาและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี พ.ศ. 2568 เกรท วอลล์ มอเตอร์ เตรียมเปิดตัว HAVAL H6 HEV และ PHEV ไมเนอร์เชนจ์ รวมถึง GWM TANK ในเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งภายใต้กลยุทธ์เดียวกันนี้

ภายในงาน Motor Expo 2024 ปลายปีนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะนำนวัตกรรมใหม่ มาจัดแสดง พร้อมสร้างเสียงฮือฮาถึง 2 รุ่น ตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่ม SUV ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้โรงงานอัจฉริยะที่จังหวัดระยอง เป็นศูนย์กลางของการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาระดับโลก

กลยุทธ์ด้านการบริการหลังการขาย (After-Sales Service Strategy) เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตั้งเป้าหมายในการส่งมอบบริการหลังการขายที่รวดเร็ว ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการบริหารจัดการอะไหล่ที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการสร้างศูนย์กระจายอะไหล่ขนาดใหญ่สำหรับตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศจีนซึ่งจะมีพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร รวมถึงการเพิ่มจำนวนการเก็บชิ้นส่วนอะไหล่กว่า 1,000 SKUs ในประเทศไทย โดยมี Part fill rate ที่ 97% รวมถึงการพัฒนาโครงการศูนย์สีและซ่อมตัวถังที่ได้มาตรฐานครบวงจร (Certified Body & Paint) ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และขยายสู่ต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการผ่าน GWM Smart Service เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและอุ่นใจให้กับลูกค้าในการใช้งาน ให้รองรับการใช้งานที่หลากหลายและครบถ้วนมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเร่งพัฒนาความรู้และความสามารถของช่างเทคนิคอย่างเข้มข้น ผ่านหลักสูตรที่เข้มข้นของศูนย์ฝึกอบรม (GWM Training Center) ที่ได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถมอบบริการที่ดีและมีคุณภาพให้แก่ลูกค้า รวมถึงการรับฟังเสียงของลูกค้าเพื่อนำไปปรับปรุงบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีและความพึงพอใจสูงสุดในทุกครั้งที่ใช้บริการ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในการเป็นเจ้าของรถยนต์ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์

กลยุทธ์ด้านการขาย (Sales Strategy) ผ่านการสร้างการเติบโตและการบริหารเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายเพื่อการขายที่มีประสิทธิภาพ โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งเน้นการทำงานพูดคุยกับพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาการดำเนินงานให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตและการแข่งขันที่สูงขึ้นในของตลาด นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมุ่งมั่นในการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น พร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพันธมิตรผู้จำหน่าย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด

ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีพาร์ทเนอร์ สโตร์ ครอบคลุมทั่วประเทศทั้งหมด 70 แห่ง นอกเหนือไปจากนี้ ยังร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในฐานะ Authorized Fleet Partner ทั่วประเทศ เพื่อเดินหน้าขยายธุรกิจฟลีทให้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งบริษัทรถเช่า ลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) และการเข้าร่วมประมูลของหน่วยงานภาครัฐ

ยิ่งไปกว่านั้น เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะขยายธุรกิจรถยนต์ใช้แล้วภายใต้ GWM Certified Pre-Owned (CPO) เป็นบริการซื้อขายรถยนต์ใช้แล้วที่ผ่านการรับรองคุณภาพจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่กำลังมองหารถยนต์ใช้แล้วคุณภาพดีที่ได้มาตรฐานอีกด้วย

กลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์ (Brand Building) ให้แตกต่างสู่การเป็นแบรนด์ในใจของคนไทยและทั่วโลก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เน้นการสร้างแบรนด์ในระยะยาวโดยมีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (User-Centric) ผ่านกิจกรรมระดับโลกต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะขยายการรับรู้ของแบรนด์เพื่อเข้าถึงและสร้างการจดจำในกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ได้มากยิ่งขึ้น ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดให้มีความทันสมัยและสร้างความแตกต่างมากยิ่งขึ้น ผ่านการสื่อสารเทคโนโลยีอันล้ำสมัยต่างๆ ที่มอบทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทั้งที่เป็น First-in-class และ Best-in-class

ด้านกิจกรรมเพื่อสังคม เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมให้มากยิ่งขึ้น สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเข้าไปมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยังคงมุ่งมั่นในการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าเดิม ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณค่าและจงรักภักดีกับแบรนด์ โดยส่งเสริมการแบ่งปันประสบการณ์ที่ดีที่มีต่อแบรนด์สู่เพื่อน ครอบครัว และบุคคลรอบข้าง สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น นำไปสู่การเติบโตของชุมชนผู้ใช้งานของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ อย่างยั่งยืนในอนาคต

นอกจากกลยุทธ์ทั้ง 4 ด้าน เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้มีความฉับไวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านโครงสร้างองค์กรที่เอื้อต่อการตัดสินใจ เพื่อสอดรับกับการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน ประกอบกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของทีมผู้บริหารและทีมงานที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมแล้วที่จะขับเคลื่อนให้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) มุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่วางไว้ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างแข็งแกร่ง พร้อมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ สู่ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำของโลก และเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และไม่หยุดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และส่งมอบนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

ปั๊มบางจาก บลูมมิ่ง เทลส์ รับมอบป้าย HAPPY TOILET ส้วมสาธารณะระดับดีเยี่ยม

ปั๊มบางจาก บลูมมิ่ง เทลส์ @พุทธมณฑลสาย 3 รับมอบป้าย HAPPY TOILET รับรองมาตรฐานส้วมสาธารณะ “ระดับดีเยี่ยม”

นางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการบริหาร บริษัท บลูมมิ่ง เทลส์ จำกัด รับมอบป้าย HAPPY TOILET จาก พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เนื่องในวัน World Toilet Day ณ สถานีบริการน้ำมันบางจาก บลูมมิ่ง เทลส์ @พุทธมณฑลสาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มอบป้าย HAPPY TOILET ส้วมสะอาด ถูกสุขลักษณะระดับดีเยี่ยม ตามมาตรฐานสากล H.A.S แก่สถานีบริการน้ำมัน “บางจาก บลูมมิ่งเทลส์ @พุทธมณฑลสาย 3” เนื่องในวัน World Toilet Day ของสหประชาชาติ 19  พฤศจิกายน 2567 เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการสุขาภิบาลอย่างปลอดภัย

นางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการบริหาร บริษัท บลูมมิ่งเทลส์ จำกัด รับมอบป้าย HAPPY TOILET จาก แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และนางณีรนุช อาภาจรัส ผู้อำนวยการสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมอนามัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้บริการ Blooming Toilet ให้มีสุขอนามัยที่ดีและปราศจากโรค

ส้วมสาธารณะที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานระดับสากล  H.A.S (H : Health, A : Accessibility, S : Safety) ประกอบด้วย 1. สะอาด มีการออกแบบระบบระบายอากาศที่ปลอดโปร่ง รวมถึงการจัดการความสะอาดและระบบควบคุมตรวจตราเป็นประจำ   2. เพียงพอ มีปริมาณห้องส้วมมากเพียงพอ มีส้วมนั่งราบสำหรับผู้พิการ ผู้สูงวัย หญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะ และพร้อมใช้งานตลอดเวลาที่เปิดให้บริการ 3. ปลอดภัย แยกส่วนห้องส้วมชายหญิงชัดเจน และมีบริการแสงสว่างที่ดีทั้งกลางวันและกลางคืน

สำหรับสถานีบริการน้ำมันบางจาก บลูมมิ่งเทลส์ @พุทธมณฑลสาย 3 นอกจากให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ยังพรั่งพร้อมด้วยร้านค้า ร้านอาหารอร่อย และบริการอื่นๆ มากมายครบครัน อำนวยความสะดวกให้ผู้รับบริการ รวมถึง Blooming Toilet ห้องส้วมที่มีความสะอาดเพียงพอและปลอดภัย ตามเกณฑ์มาตรฐานส้วมสาธารณะ และได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนสำนักงานเขตบางแค ประเภทกลุ่มสถานีบริการเชื้อเพลิง เข้าร่วมกิจกรรมการประกวดห้องน้ำขวัญใจมหาชนแห่งปีของกรุงเทพมหานคร กรมอนามัยจึงมีความชื่นชม และยินดีในการมอบป้าย HAPPY TOILET ให้เป็นส้วมสาธารณะถูกสุขลักษณะระดับดีเยี่ยมก่ทางสถานี

พลิกตำนานปิกอัพมาสด้าในประเทศไทยกว่า 74 ปี

ย้อนตำนานต้นกำเนิดปิกอัพมาสด้าในประเทศไทยกว่า 74 ปี ยังคงสรรสร้างยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร กับอนาคตแห่งความภูมิใจที่จะสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าภายใต้แบรนด์มาสด้าอย่างยั่งยืน

การไหลผ่านของเวลาที่ล่วงเลยมาอย่างยาวนานของมาสด้า คือบทพิสูจน์บนเส้นทางแห่งความสำเร็จในการมุ่งมั่นพัฒนายานยนต์ไปพร้อมกับการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และความภาคภูมิใจแห่งยนตรกรรม ตลอดระยะเวลาอันยาวนานยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง ด้วยก้าวย่างที่มั่นคง แข็งแรง สร้างพื้นฐานไว้อย่างแน่นหนา จวบจนปัจจุบัน เป็นบทสรุปแห่งความสำเร็จกว่า 74 ปี ในประเทศไทย “มาสด้า” ก่อตั้งโดย “คุณจูจิโร่ มัทซึดะ” เริ่มต้นจากอุตสาหกรรมจุกไม้คอร์กในปี พ.ศ. 2463 ต่อมาเริ่มผลิตเครื่องมือกลไกในปี พ.ศ. 2472 เนื่องจากเป็นผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยีของรถมอเตอร์ไซค์ ทำให้ มร. มัทสึดะ ก้าวเข้าสู่โลกของการผลิตมอเตอร์ไซค์ กระทั่งในปี พ.ศ. 2474 จึงได้เริ่มผลิตรถบรรทุกสามล้อ เรียกว่า “มาสด้า โก” เป็นรถคันแรกที่ผลิตออกสู่ตลาดในนาม “มาสด้า” ก่อนที่จะได้เริ่มผลิตเครื่องยนต์ 2 จังหวะ เป็นรายแรกของโลก ปัจจุบัน “มาสด้าเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่ผลิตเครื่องยนต์โรตารี่”

ตำนานที่คงอยู่ตลอดกาล หลังจากเริ่มนำรถมาสด้าเข้ามาให้คนได้รู้จัก ในปี พ.ศ. 2507 โดย บริษัท กมลสุโกศล ได้นำเข้าปักอัพมาสด้าตัวแรก รุ่น 800 ซีซี 4 สูบ เข้ามาจำหน่ายในชื่อรุ่น “Familia 800” ความจุ 782 ซีซี 48 แรงม้า แบบ 4 ประตู ซึ่งได้รับความนิยมและถูกกล่าวขานมาจนถึงปัจจุบัน

ลงทุนสร้างโรงงานในไทยปักหลักตลาดสำคัญฐานผลิตและส่งออกทั่วโลก

ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2538 มาสด้าได้ตกลงร่วมทุนกับพันธมิตรก่อตั้ง บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์แห่งใหม่ที่จังหวัดระยอง และเริ่มทำการผลิตเต็มอัตราในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2540 บนเนื้อที่ 529 ไร่ ด้วยเงินลงทุนถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีกำลังการผลิต 135,000 คันต่อปี และผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน รุ่น B2500 สำหรับส่งออก และจำหน่ายภายในประเทศ รวมถึงรถยนต์นั่งรุ่น 323 โปรทีเจ

มาถึงปี พ.ศ. 2542 ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จึงได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น จัดตั้งคณะผู้บริหารใหม่ เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ เป็น “บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด” มุ่งเน้นแนวทางการบริหารไปที่ด้านการตลาด การขาย การบริการลูกค้า และการสนับสนุนผู้จำหน่าย เพื่อนำเสนอรถยนต์มาสด้ารุ่นต่างๆ มากยิ่งขึ้น ทำให้มาสด้าเริ่มต้นการผลิตรถปิกอัพที่ ชื่อว่า มาสด้า ไฟเตอร์ โฉมใหม่ ถือเป็นผู้บุกเบิกรถปิกอัพที่มีประตูแค็บเปิดได้เป็นครั้งแรกของโลก และทำให้มาสด้าประสบความความสำเร็จอย่างสูง โดยมียอดขายสะสมสูงกว่า 55,000 คัน

จุดเริ่มต้นตำนาน MAZDA BT-50

เมื่อเดือนมีนาคม 2549 มาสด้าเปิดตัวแนะนำรถสปอร์ตปิกอัพ MAZDA BT-50 เครื่องยนต์คอมมอลเรล ให้พลังแรงเต็มพิกัด ด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายใน พิถีพิถันใส่ใจทุกรายละเอียด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ซูม-ซูม” โชว์เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมยานยนต์สุดล้ำแห่งอนาคต พร้อมระบบความปลอดภัยเต็มคัน สร้างชื่อเสียงของแบรนด์มาสด้าให้กระหึ่มทั่วโลกอีกครั้ง

รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ได้รับการออกแบบภายใต้ DNA ของมาสด้า ประกอบด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว พิถีพิถันทุกรายละเอียด และขีดสุดแห่งพลังที่สอดคล้องเป็นหนึ่งเดียว เป็นรถปิกอัพโฉมเฉี่ยวสไตล์ ซูม-ซูม รวมถึงเครื่องยนต์อันทรงพลัง คอมมอนเรล ชื่อ มาสด้า BT-50 เป็นชื่อที่ใช้สำหรับตลาดทั่วโลก คำว่า มาสด้า BT-50 มาจาก B-Series Truck ซึ่งเป็นรหัสที่ใช้เรียกรถปิกอัพมาสด้ามาอย่างยาวนานและถือเป็นตำนานรถปิกอัพมาสด้า ส่วนตัวเลข 50  หมายถึงความสมดุลที่อยู่กึ่งกลางของน้ำหนักการบรรทุกของปิกอัพครึ่งตัน และมีน้ำหนักบรรทุกมากกว่า 1 ตัน ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อรถรุ่นนี้ได้เปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกของโลก โดยผลิตจากโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ มีมาตรฐานเดียวกับโรงงานมาสด้า ประเทศญี่ปุ่น ควบคุมดูแลโดยทีมวิศวกรมาสด้า ผลิตและจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปยังกว่า 130 ประเทศ ทั่วโลก

มาสด้า BT-50 เครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด ดีเซล ไดเรคท์อินเจ็คชัน เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด คอมมอนเรล มีให้เลือกทั้งแบบ MZR-CD 3,000 ซีซี 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร และ MZR-CD 2,500 ซีซี 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร ถือได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ที่แรงที่สุดในรถกระบะเมืองไทย เพราะให้แรงบิดสูงสุดมหาศาลอย่างต่อเนื่อง

สร้างมาตรฐานปิกอัพใหม่แนะนำฟรีสไตล์แค็ปเจ้าแรกจนเป็นที่นิยมในตลาด

ต่อมาในเดือนมกราคม 2555 มาสด้าเริ่มสตาร์ทอีกครั้ง ด้วยการแนะนำ มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ มาพร้อมคอนเซ็ปต์แบบฮีโร่ “ขับเคลื่อนทุกสิ่ง…ให้เป็นจริงได้” ซึ่งเป็นรถปิกอัพรุ่นใหม่ล่าสุดจากสายการผลิตในประเทศไทยที่พร้อมอวดโฉมอันสง่างามดุจรถยนต์นั่งระดับหรู ที่ลบภาพความเป็นปิกอัพแบบเดิมๆ จนหมดสิ้น เหนือชั้นด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยวสไตล์ ซูม-ซูม มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลังแรงสุดในตลาด ดีไอ-ธันเดอร์ โปร (Di-THUNDER PRO) อัดแน่นด้วยออพชั่นที่ใส่มาแบบเต็มๆ รูปลักษณ์การออกแบบที่งดงามทั้งภายนอกและภายในดุจรถอเนกประสงค์สุดหรูและมีมิติขนาดที่ใหญ่สุดในตลาด ซึ่งมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ มีให้ลูกค้าได้เลือกหลายรุ่นทั้ง ฟรีสไตล์แค็ป หรือบานแค็ปเปิดได้ และดับเบิ้ลแค็ป 4 ประตู มาใน 2 เครื่องยนต์ คือ ดีไอ-ธันเดอร์ โปร 3.2 ลิตร 200 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร  และ ดีไอ-ธันเดอร์ โปร 2.2 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน มีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ โดยเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อแบบยกสูง หรือ Hi-Racer จะเป็นจุดขายที่สำคัญของมาสด้าซึ่งจะทำให้มาสด้าบรรลุเป้าหมายการขายรถปิกอัพที่ตั้งไว้ในปีนี้  22,000 คันอย่างแน่นอน

ปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ได้ฉีกทุกกฎของการออกแบบปิกอัพแบบเดิมๆ ด้วยการผสมผสานแนวคิดการออกแบบที่เน้นความสวยงามมีสไตล์ ควบคู่กับการใช้งานของปิกอัพที่มากกว่ารถเก๋ง ออกแบบภายใต้แนวคิด “นากาเร่” เป็นความงดงามที่อยู่ในธรรมชาติ ด้วยเส้นสายที่พลิ้วไหวและดุดันมาประยุกต์ให้เข้ากับแนวคิดการออกแบบ “โคโดะ” หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว ด้วยแรงบันดาลใจจากภาพของเสือชีต้าห์อันสง่างาม น่าเกรงขาม แต่คงไว้ซึ่งความปราดเปรียวและพลังที่ดุดัน พร้อมกระโจนไปข้างหน้าอย่างว่องไว ทำให้มาสด้า บีที -50 โปร ใหม่ เป็นปิกอัพคันแรกของโลกที่มีเส้นสายที่สวยงามพลิ้วไหวอยู่รอบคันตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย ให้อารมณ์ความสปอร์ตและมีบุคลิกที่โดดเด่น ฉีกออกจากรถปิกอัพแบบเดิมๆ นอกจากนี้สิ่งอำนวยความสะดวกที่มาพร้อมรูปลักษณ์อันสง่างามทันสมัยนี้ คือความลงตัวใหม่สำหรับทุกรูปแบบการใช้งาน และยังมีขนาดของมิติตัวถังที่ใหญ่สุดในตลาดรถปิกอัพของประเทศไทย สร้างความสำเร็จอย่างมากด้วยยอดขายสะสมสูงถึง 110,000 คัน

มาสด้า นักสู้ผู้ไม่เคยย่อท้อ

ล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2564 ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับวิกฤตโคโรน่าไวรัส แต่มาสด้าไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ มาสด้าเปิดตัวปิกอัพที่ลูกค้าทั่วโลกใฝ่ฝันและเฝ้ารอมานาน กับ All-New Mazda BT-50 เจเนอเรชั่นใหม่ ด้วยการผนวกคุณสมบัติของรถปิกอัพที่ดีที่สุดในโลกรวมเป็นหนึ่งเดียว คือ รถปิกอัพที่ถูกออกแบบอย่างสง่างามที่สุดโลก คัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ประหยัดน้ำมันมากที่สุด มีความทนทานสูงสุด รวมทั้งค่าดูแลรักษาต่ำสุด  กลับมายึดฐานลูกค้าเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดรถปิกอัพอีกครั้ง

All-New Mazda BT-50 เจนเนอเรชั่นใหม่ “พร้อม…กับทุกด้านของชีวิต” เติมเต็มทุกมิติของชีวิตดุจ Life-Partner สัมผัสแห่งดีไซน์อันสง่างามจาก “โคโดะ ดีไซน์” เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม เฉกเช่นเดียวกับรถยนต์นั่งและรถเอสยูวีตระกูล CX Series เจเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้า ที่ผสานกับรูปลักษณ์อันทรงพลังสไตล์ปิกอัพ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย มอบความสะดวกสบายเสมือนรถเอสยูวี และคุ้มค่าด้วยอัตราประหยัดน้ำมันมากที่สุดในคลาส การผนวกรวมจุดเด่นทั้งหมดเหล่านี้ และความต้องการของลูกค้าที่อยากจะเห็นจากรถปิกอัพในปัจจุบัน ทำให้ All-New Mazda BT-50 เป็นปิกอัพที่มีความอเนกประสงค์และตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบที่ตรงต่อความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน เป็นการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ให้กับตลาดปิกอัพ ตั้งแต่การใช้งานได้ในทุกโอกาส ขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้กว้างขึ้นและเพิ่มโอกาสทางการขายให้มากขึ้น

ปัจจุบันผู้ซื้อรถปิกอัพ ไม่ได้มองเพียงแค่ความแข็งแกร่ง ความทนทานในการใช้งาน หรืออัตราการประหยัดน้ำมันเท่านั้น วันนี้ลูกค้าใส่ใจในทุกรายละเอียด ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และดีไซน์มากขึ้น การผสมผสานความแข็งแกร่ง อึด ทน ในรถสไตล์รถปิกอัพเข้ากับ โคโดะ ดีไซน์ ที่เน้นความเรียบง่าย แต่งดงาม จึงเกิดเป็นความโดดเด่น แตกต่างไม่เหมือนใคร บ่งบอกได้ว่า นี่คือ ปิกอัพสายพันธุ์ใหม่ของมาสด้า เกิดเป็นความแข็งแกร่งควบคู่กับความสง่างามของรถปิกอัพยุคใหม่ ตอบโจทย์รูปแบบการเชื่อมต่อการสื่อสารในยุคปัจจุบันได้มากยิ่งขึ้น ด้วยระบบ Infotainment รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android Auto™* ซึ่งสามารถใช้งาน Miracast แบบไร้สายผ่าน Wifi และรองรับการเชื่อมต่อแบบ MirrorLink อีกทั้งยังมีระบบนำทางที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

ก้าวที่มั่นคงสู่อนาคตที่ยั่งยืนของมาสด้าในประเทศไทย

ปัจจุบันมาสด้าลงทุนรวมกว่า 56,300 ล้านบาท มีกำลังการผลิตสูงถึง 240,000 คัน ส่งออกไปทั่วโลกกว่า 130 ประเทศ ในอาเซียน เอเชียแปซิฟิก ยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกากลาง แอฟริกา รวมถึงส่งกลับไปจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันผลิตรถยนต์มาสด้า2, มาสด้า3, CX-3 และ CX-30 และลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ขึ้นเมื่อปี 2556 ภายใต้ชื่อ บริษัท มาสด้า พาวเวอร์เทรน เมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MPMT จังหวัดชลบุรี บนเนื้อที่กว่า 800 ไร่ ผลิตเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซลและสกายแอคทีฟเบนซิน จำนวน 100,000 ลูก/ปี เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟไดร์ฟ 400,000 ลูก/ปี ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัตินอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ด้วยเงินลงทุนกว่า 26,000 ล้านเยน หรือประมาณ 11,000 ล้านบาท และเพิ่มเงินลงทุนอีกประมาณ 22,100 ล้านเยน หรือประมาณ 7,500 ล้านบาท

น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับเรื่องราวความเป็นมาของรถปิกอัพมาสด้า นับจากอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน ก้าวผ่านเรื่องราวผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านอุปสรรคต่างๆ มาแล้วมากมาย แต่ด้วยสปิริต ความเป็นมาสด้า เพราะเรากล้าที่จะแตกต่าง ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคเฉกเช่นเดียวกับชาวฮิโรชิมา กว่า 104 ปี ของมาสด้าญี่ปุ่น กว่า 74 ปี ในประเทศไทย มาสด้ายังคงเดินหน้าตามแผนการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนในระยะยาว พร้อมสร้างความรัก ความผูกพัน ให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ที่ดี และเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้าได้ทุกรุ่น ทุกช่วงเวลาของชีวิต กลายเป็น “มาสด้า แฟมิลี่” นั่นคือแก่นแท้ของการดำเนินธุรกิจในรูปแบบของมาสด้าในประเทศไทย

โตโยต้า เดินหน้าเสริมทัพ PPV รุ่นย่อยใหม่ FORTUNER LEADER S

โตโยต้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด PPV เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ FORTUNER LEADER S TRUST OF THE LEADER…ความไว้วางใจแห่งผู้นำ” ทางเลือกใหม่รถอเนกประสงค์ราคาที่เข้าถึงง่าย ดีไซน์สุดพรีเมียม พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกครบครัน

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำตัวจริงในตลาด PPV แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ในรุ่นย่อยใหม่ FORTUNER LEADER S เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย พร้อมดีไซน์พรีเมียม สวยสะดุดตา คุ้มค่าด้วยระบบความปลอดภัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย ตอบโจทย์ในทุกสภาพการใช้งาน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ประเภท PPV เข้าสู่ตลาดเมืองไทยครั้งแรกในปี พ.ศ.2547 ในนาม โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ภายใต้โครงการ IMV: International Innovative Multi-purpose Vehicle ซึ่งประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สร้างปรากฏการณ์เป็นผู้นำตลาดรถอเนกประสงค์ประเภท Pick-Up Passenger Vehicle (PPV) ในประเทศไทย โดยมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้นมากกว่า 453,000 คัน* (*ข้อมูลยอดขายสะสมของฟอร์จูนเนอร์ภายใต้โครงการ IMV ตั้งแต่ปี 2547 – กันยายน 2567) อีกทั้งยังส่งออกจำหน่ายไปยังตลาดต่างประเทศ สร้างชื่อเสียงอันเป็นที่ยอมรับในคุณภาพการผลิตมาตรฐานระดับโลก ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ทันสมัย และที่สำคัญสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยม ตลอดจนอรรถประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า สร้างความภูมิใจในการเป็นเจ้าของด้วยความเหนือระดับอย่างแท้จริง จนสามารถครองใจลูกค้า ยืนยันความสำเร็จด้วยยอดขาย อันดับ 1 ในตลาด PPV 12 ปีติดต่อกัน

เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่นในคุณภาพ และความไว้วางใจด้วยดีตลอดมา พร้อมกันนี้ยังเป็นการเสริมความเป็นผู้นำตลาดให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเพิ่มตัวเลือกสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย โตโยต้าภูมิใจแนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ในรุ่นย่อยใหม่ FORTUNER LEADER S ที่โดดเด่นด้วย ดีไซน์ที่มากับไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED พร้อม Daytime Running Lights และไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED เสริมด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding โดดเด่นในทุกมุมมอง ภายในมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็น หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto มาตรวัดเรืองแสง พร้อมจอแสดงข้อมูลขนาด 4.2 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมแผ่นกรองปรับอากาศ PM2.5 สมรรถนะทรงพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ที่ประหยัดน้ำมันได้ถึง 14.3 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Sticker) พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่ง และกล้องมองหลัง

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี T-Connect ที่จะคอยดูแลผู้ขับขี่ทุกที่ทุกเวลา ผ่านระบบต่างๆ เช่น Find My Car บริการเช็กตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ TheftTrack บริการตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม SOS บริการประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง Geo-Fencing บริการกำหนดขอบเขตความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีบริการที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Telematics อาทิ Maintenance Reminder บริการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเข้าศูนย์บริการ Vehicle Information บริการข้อมูลรถและการขับขี่แบบรอบด้าน PHYD ประกันภัย ขับดี ลดให้ และบริการด้านไลฟ์สไตล์ทั้ง Concierge Services บริการผู้ช่วยส่วนตัว และ TOYOTA ALIVE-X โปรแกรมสะสมคะแนน The 1 แลกเป็นส่วนลดสำหรับใช้บริการศูนย์โตโยต้า และร้านค้าในเครือเซ็นทรัล

FORTUNER LEADER S ความเหนือระดับของผู้นำรุ่นใหม่

THE STATE OF A LEADER

ดีไซน์ภายนอก…รองรับทุกบทบาทของผู้นำ

กระจังหน้า-กันชนหน้า บ่งบอกความภูมิฐาน

ไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED พร้อม Daytime Running Lights

ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED

ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding

ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

LEADING WITH TRUSTED FEATURES

ไว้วางใจกับความสะดวกสบายรอบด้าน

หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

มาตรวัดเรืองแสง พร้อมจอแสดงข้อมูลขนาด 4.2 นิ้ว

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมแผ่นกรองปรับอากาศ PM2.5

เบาะนั่งวัสดุผ้าคุณภาพสูง

กุญแจรีโมทแบบ Jack Knife Key

ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า แบบกระแสสลับ AC 220 โวลต์

LEADING WITH TRUSTED PERFORMANCE

ไว้วางใจด้วยสมรรถนะทรงพลัง

เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ประหยัดน้ำมัน 14.3 กม. / ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Sticker)

ระบบควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็ว

ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง

ช่วงล่างด้านหลังแบบโฟร์ลิงค์คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง

LEADING WITH TRUSTED SAFETY

ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยครบครัน

Active Safety

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System)

ระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Stability Control)

ระบบป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Brake System)

ระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist)

ระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake-force Distribution)

ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย (Trailer Sway Control)

ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill-start Assist Control)

ดิสก์เบรก 4 ล้อ (Front & Rear Disc Brake)

กล้องมองหลัง (Back Monitor)

Passive Safety

ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่ง (7 Airbags)

โครงสร้างนิรภัย GOA (GOA Structure)

พวงมาลัยแบบยุบตัวได้ (Collapsible Steering Column)

ELR Seatbelt 3 จุด 7 ที่นั่ง

เลือกเป็นเจ้าของ FORTUNER LEADER

FORTUNER LEADER มี 4 รุ่นย่อย มาพร้อม 6 สีให้เลือก

-สีเงิน SILVER METALLIC                    – สีเทาดำ DARK GREY METALLIC

-สีดำ ATTITUDE BLACK MICA           – สีน้ำเงิน DARK BLUE MICA

-สีแดง EMOTIONAL RED                     – สีขาวมุก PLATINUM WHITE PEARL

ราคาสุดคุ้ม ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา

-2.4 Leader V เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ  1,600,000 บาท

-2.4 Leader V เกียร์อัตโนมัติ                           1,530,000 บาท

-2.4 Leader G เกียร์อัตโนมัติ                           1,400,000 บาท

-ใหม่… 2.4 Leader S เกียร์อัตโนมัติ                1,239,000 บาท

(*LEADER S สามารถเลือกได้ 3 สี 1. Platinum White Pearl เพิ่ม 12,000 บาท, 2. Attitude Black Mica, 3.Silver Metallic)

เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นด้วยเงื่อนไขพิเศษ

ทางเลือกที่ 1 : ผ่อนเริ่มต้น 9,884 บาทต่อเดือน*

(คำนวณจาก Fortuner รุ่น Leader S ราคา 1,239,000 บาท ที่ดาวน์ 30% ผ่อนนาน 96 เดือน ดอกเบี้ย 3.25%)

หมายเหตุ *ผ่อนเริ่มต้น 9,884 บาทต่อเดือน สำหรับปีแรก (โดยคำนวณจากการรวมโปรแกรมช่วยผ่อน 1,500 บาทต่อเดือน นาน 12 เดือน) และผ่อน 11,384 บาทต่อเดือน สำหรับปีที่สองถึงปีที่แปด

ทางเลือกที่ 2 : ดอกเบี้ยพิเศษ 0.89% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง TOYOTA Care PHYD

*เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าใกล้บ้านท่าน หรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าโตโยต้า 1486 บริการด้วย Voice Bot 24 ชม. ทุกวัน บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต www.toyota.co.th หรือ Line ID : @toyotathailand

พร้อมขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเช็กระยะตามกำหนด จากโปรแกรม TCFR Plus+

สะดวกสบายเหนือระดับด้วยระบบเชื่อมต่อ T-Connect และประกันภัย PHYD (Pay How You Drive) ประกันภัยชั้น 1 Toyota Care ที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมการขับขี่ คำนวณเป็นคะแนนการขับขี่ “ขับดี ลดให้” ส่งเสริมให้ลูกค้าขับรถอย่างปลอดภัย โดยคะแนนการขับขี่จะปรากฎบนแอพพลิเคชั่น T-Connect ของลูกค้าหลังการขับขี่ทุกครั้ง ซึ่งมาจากพฤติกรรมการขับขี่โดยคำนวณจาก การเร่งความเร็ว – การเบรก – การเข้าโค้งและระยะทางการขับขี่

พร้อมรับความคุ้มค่าของประกันภัย PHYD

1.ปีที่ 1         : ประกันรถป้ายแดงรับส่วนลด 5%-10% เมื่อเปรียบเทียบกับเบี้ยประกันกันโตโยต้าแคร์ปกติ

2. ปีที่ 2-8     : รับส่วนลดประกันภัย 2 ต่อ

ต่อที่ 1 : ส่วนลดประวัติดี 20%-50% ในการต่ออายุตั้งแต่ปีที่ 2-8

ต่อที่ 2 : ส่วนลดเพิ่มเติมสูงสุด 25% โดยคำนวณจากพฤติกรรมและระยะทางการขับขี่ของลูกค้า*

(*หมายเหตุ : พฤติกรรมการขับขี่ 3 ปัจจัย ได้แก่ 1.การเร่งความเร็ว  2.การเบรก  3.การเข้าโค้ง จะถูกนำมาคำนวณเป็นคะแนนการขับขี่ และคำนวณเป็นส่วนลดค่าเบี้ยในการต่ออายุประกัน)

     3.การใช้งานสะดวกสบาย ลูกค้าเพียงแค่ผูกข้อมูลรถกับแอปพลิเคชัน T-Connect เมื่อหน้าจอแอปของท่านแสดงข้อมูลรถยนต์ เช่น ระยะทาง และปริมาณน้ำมันคงเหลือก็แสดงว่ารถของท่านมีระบบเทคโนโลยี Connected ใหม่ พร้อมการเตือนต่ออายุประกันภัย

     4. สิทธิประโยชน์อื่นๆ ตามมาตรฐานประกันภัย Toyota CARE อาทิ

          –  รับประกันงานซ่อมที่ศูนย์บริการตัวถัง และสีของโตโยต้า

          –  สามารถใช้บริการ ณ ศูนย์บริการตัวถังและสีของโตโยต้า กรณีเป็นประกันภัย PHYD นานสูงสุด 8 ปี

          –  บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินตลอด 24 ชม.

          –  รับบริการมาตรฐานโตโยต้า ด้วยอะไหล่แท้ที่ศูนย์บริการตัวถัง และสี ครอบคลุมกว่า 260 แห่งทั่วประเทศ

ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง TOYOTA ACCESSORIES สำหรับ FORTUNER LEADER

โลโก้ FORTUNER (สีดำเงา / โครเมียม)

กล้องบันทึกภาพด้านหน้าและหลัง

ที่ชาร์จภายในรถยนต์ (USB)

ที่บังแดดด้านหน้า GR

แผงบังแดดข้าง GR

อุปกรณ์ช่วยผ่อนแรงเปิด-ปิด ฝากระโปรงหน้า

ชุดกันโคลนซุ้มล้อ

ถาดใส่ของท้ายรถ

แผ่นสเตนเลสกันรอยขอบกันชนท้าย

ตาข่ายเก็บของท้ายรถ

หมายเหตุ : อุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้ารับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.toyota.co.th/accessories/

เตรียมพบกับอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจจากแบรนด์ยอดนิยมในตลาดอุปกรณ์ตกแต่ง และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มาจัดจำหน่าย ผ่านช่องทางของโตโยต้า (Associated Accessory Product – AAP) ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 Thailand International Motor Expo 2024  

ทางเลือกการเป็นเจ้าของรูปแบบใหม่ KINTO

มีรถใช้ แบบไม่ต้องซื้อ บริการให้เช่ารถยนต์ระยะยาวจากโตโยต้าที่ออกแบบมาเพื่อให้ชีวิตการขับขี่สะดวกสบายและง่ายดายยิ่งขึ้น จ่ายราคาเดียวเท่ากันทุกเดือน เป็นเจ้าของ FORTUNER LEADER S ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 22,930 บาท ต่อเดือน พร้อมบริการครบวงจร ประกันภัยชั้น 1 การบำรุงรักษา ต่อ พรบ. ภาษี ให้ตลอดอายุสัญญา

สัมผัสความเหนือระดับของผู้นำรุ่นใหม่

และทดลองขับ FORTUNER LEADER S ได้แล้ววันนี้

ณ Toyota ALIVE บางนา และโชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ

พบกับกิจกรรมพิเศษต่างๆ

ช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2567

-Leader’s Experience Day

ระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2567 ณ โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ

-งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 Thailand International Motor Expo 2024                         ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี

จองทดลองขับ FORTUNER LEADER S และรถรุ่นอื่นๆ บนสนามทดสอบเต็มรูปแบบได้ที่ https://www.toyota.co.th/alive/testdrive-reservation 

ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่

https://www.toyota.co.th/                               Facebook: Toyota Motor ThailandLINE Official: @ToyotaThailand             TikTok: @ToyotaMotorTH

X: @ToyotaMotorTH                            Instagram: @toyotamotorthailandofficial

โตโยต้าแนะนำ NEW COROLLA ALTIS นำโดย “HEV GR SPORT” “TRUST IN THRILL” มั่นใจได้สุด ไม่หยุดเร้าใจ

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำ NEW COROLLA ALTIS ออกแบบใหม่ในรุ่น “HEV GR SPORT” สปอร์ตเร้าใจยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์ทั้งภายนอก และภายในที่ตกแต่งสไตล์ TOYOTA GAZOO Racing โดดเด่นด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม มั่นใจได้ในขุมพลังไฮบริด แบตเตอรี่ไฮบริดใหม่ แบบ Lithium-ion ตอกย้ำแนวคิด “TOYOTA TRUSTED HEV” ประหยัดน้ำมัน ศูนย์บริการและช่างผู้เชี่ยวชาญที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงแนะนำทางเลือกสีภายนอกใหม่ในทุกรุ่นย่อย พร้อมส่งมอบความคุ้มค่าคุ้มราคาให้กับลูกค้า ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 นี้ เป็นต้นไป

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ส่ง NEW COROLLA ALTIS รถยนต์นั่งยอดนิยมของคนไทย ที่มาพร้อมความคุ้มค่า และโดดเด่นด้าน “QDR” ได้แก่ “Quality” คุณภาพ “Durability” ความทนทาน และ “Reliability” ความน่าเชื่อถือ ด้านสมรรถนะการขับขี่  เหนือกว่าด้วย Toyota New Global Architecture หรือ TNGA ทนทานต่อแรงบิดได้เป็นอย่างดี แข็งแกร่ง และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ตอบสนองแม่นยำ ทำให้มีการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม สามารถควบคุมรถได้ดั่งใจ และมอบทัศนวิสัยดีเยี่ยม โดย NEW COROLLA ALTIS ยังคงโดดเด่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อล้ำสมัยอย่างแอปพลิเคชัน T-CONNECT และมั่นใจได้สูงสุดด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก

NEW COROLLA ALTIS นำโดยรุ่น “HEV GR SPORT” ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฮบริดที่สร้างชื่อเสียงและความไว้วางใจในประเทศไทยกับเทคโนโลยีไฮบริดของโตโยต้า ด้วยแนวคิด “TOYOTA TRUSTED HEV” ที่ผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์อย่างลงตัว ประหยัดยิ่งกว่าเคยด้วยอัตราการใช้น้ำมัน 23.8 กิโลเมตร/ลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker) ออกแบบสะท้อนจิตวิญญาณมอเตอร์สปอร์ต ภายนอกดีไซน์สไตล์ GR ทั้งกระจังหน้า สปอยเลอร์หลังสีดำเงา ล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว ไฟท้าย Full LED แบบ Clear Lens มาพร้อมทางเลือกสีภายนอกใหม่ Platinum White Pearl with Black Roof และ Red Mica Metallic with Black Roof  ภายในตกแต่งพิเศษ มอบอารมณ์สปอร์ต ด้วยการตกแต่งด้ายสีแดงบริเวณเบาะนั่ง และมีการตกแต่งสัญลักษณ์ GR ตามจุดต่างๆ รวมทั้งมีการปรับจูนเพื่อให้ตัวรถมีสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น ทั้งพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า, Shock Absorber, Coil Spring และ Rear Stabilizer Bar โดย NEW COROLLA ALTIS อีก 3 รุ่นย่อย ยังมาพร้อมกับสีภายนอกใหม่ คือสีเทา Cement Gray Metallic

 “TRUST IN THRILL มั่นใจได้สุด ไม่หยุดเร้าใจ”

THRILL YOUR RACING AMBITION: เร้าใจสไตล์ GAZOO Racing ทั้งดีไซน์ และสมรรถนะ

NEW COROLLA ALTIS รุ่น HEV GR SPORT เครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร

สะท้อนจิตวิญญาณมอเตอร์สปอร์ต ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ GR ผสานความสปอร์ตกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร แบตเตอรี่ไฮบริดแบบ Lithium-ion พร้อมการปรับแต่งสมรรถนะสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ทั้งพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าและพาร์ทช่วงล่าง พร้อมทางเลือกสีภายนอกใหม่ 2 สี

GR SPORT: PASSIONATE DESIGN การออกแบบใหม่ เฉพาะรุ่น GR SPORT

•กันชนหน้าและกระจังหน้าสีดำเงา ใหม่

•หลังคาสีดำเงา ใหม่

•สปอยเลอร์หลังสีดำเงา ใหม่

•ล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว ใหม่

•ไฟท้าย Full LED แบบ Clear Lens ใหม่

•เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต หนัง Suede แบบเจาะรูและหนังสังเคราะห์ เดินด้ายสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และ Lumbar Support แบบไฟฟ้า ใหม่

•เข็มขัดนิรภัยสีแดงสไตล์ GR SPORT ใหม่

•ภายในเดินด้ายสีแดง ตกแต่งสีแดงและสีเงิน Smoked Silver ใหม่

•พวงมาลัยตกแต่งสัญลักษณ์ GR ใหม่

•ปุ่ม Push Start และ Smart Key ตกแต่งสัญลักษณ์ GR

GR SPORT: INTUITIVE DRIVING สมรรถนะโดดเด่น มั่นใจ ปรับแต่งพิเศษ เฉพาะรุ่น GR SPORT 

•Electric Power Steering พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ปรับแต่งเฉพาะรุ่น GR SPORT ใหม่

•Shock Absorber ดูดซับแรงสั่นสะเทือนให้การขับขี่มั่นใจได้มากยิ่งขึ้น

•Coil Spring คอยล์สปริงปรับแต่งโดยเฉพาะเพื่อการขับขี่ที่มั่นคงและนุ่มนวล

•Rear Stabilizer Bar ลดอาการโคลงขณะเข้าโค้ง ยึดเกาะถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อีกทั้งยังมาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และปลอดภัยอีกมากมาย

•แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ใหม่

•สัญลักษณ์ TOYOTA HEV ใหม่

•ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding

•จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว

•หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

•หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ HUD (Head Up Display)

•อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย

•ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา

•nanoeX ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารช่วยขจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อโรค

•Smart Entry ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ สำหรับผู้ขับ ผู้โดยสารตอนหน้า และห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ

•เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense

•ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)

TWO WAYS TO THRILL: 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ไฮบริด และเบนซิน 1.8 ลิตร

NEW COROLLA ALTIS รุ่น HEV PREMIUM เครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร

มั่นใจสูงสุด ด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตรจากโตโยต้า ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ด้วยอัตราการใช้น้ำมัน 23.8 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker) ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ E-CVT ทำงานร่วมกับช่วงล่าง TNGA จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวและเข้าโค้งได้ดียิ่งขึ้น ช่วงล่างหลังอิสระแบบ Double Wishbone ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ เกาะถนนดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม และระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense พร้อมสีภายนอกใหม่ สีเทา Cement Gray Metallic ใหม่ แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion

•แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ใหม่

•สัญลักษณ์ TOYOTA HEV ใหม่

•ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding

•กระจังหน้าดีไซน์ Polygon และไฟตัดหมอกหน้า LED พร้อมคิ้วโครเมียม

•ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

•หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

•ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ ได้ถึง 0 กม./ชม. (All Speed Dynamic Radar Cruise Control)

•ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ และระบบเบรกมือไฟฟ้า

•ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ในกล่องเก็บของคอนโซลกลาง 1 ตำแหน่งและด้านหลัง 2 ตำแหน่ง

•เบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์

•เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support แบบไฟฟ้า

•เบาะนั่งด้านหลังแบบแยกพับได้ 60:40 พร้อมที่วางแขน และที่วางแก้วน้ำ

•Smart Entry ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ สำหรับผู้ขับ ผู้โดยสารตอนหน้า และห้องเก็บสัมภาระตอนท้าย 

•เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense

•ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)

NEW COROLLA ALTIS รุ่น 1.8 Sport เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร

อีกทางเลือกในการขับขี่ กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังส่งสูงถึง 140  แรงม้า ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ทำงานร่วมกับช่วงล่าง TNGA ที่มาพร้อมกับจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ช่วงล่างหลังอิสระแบบ Double Wishbone ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ ควบคุมง่าย ระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense และตัวเลือกสีภายนอกใหม่ สีเทา Cement Gray Metallic

•ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding

•กระจังหน้าดีไซน์ Polygon และไฟตัดหมอกหน้า LED พร้อมคิ้วโครเมียม

•ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

•หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

•ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ ได้ถึง 0 กม./ชม. (All Speed Dynamic Radar Cruise Control)

•ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ และระบบเบรกมือไฟฟ้า

•ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ในกล่องเก็บของคอนโซลกลาง 1 ตำแหน่งและด้านหลัง 2 ตำแหน่ง

•เบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์

•เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support แบบไฟฟ้า

•เบาะนั่งด้านหลังแบบแยกพับได้ 60:40 พร้อมที่วางแขน และที่วางแก้วน้ำ

•Smart Entry ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ สำหรับผู้ขับ ผู้โดยสารตอนหน้า และห้องเก็บสัมภาระตอนท้าย 

•เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense

•ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)

WORTH THE THRILL: คุ้มค่า สเปกครบครัน

NEW COROLLA ALTIS รุ่น 1.6G เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร

ประหยัดน้ำมันด้วย เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เบาะนั่ง สะดวกสบาย กว้างขวาง เพิ่มความยืดหยุ่นของพื้นที่เก็บสัมภาระด้วยเบาะนั่งด้านหลังพับได้แบบ 60:40 พร้อมที่วางแขน และที่วางแก้วน้ำ และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง ทั้งยังปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยสัญญาณเตือนกะระยะ และจอมองภาพขณะถอยหลัง มาพร้อมตัวเลือกสีภายนอกใหม่สีเทา Cement Gray Metallic และสเปกที่คุ้มค่า เป็นเจ้าของได้ในราคาที่เข้าถึงง่าย

•กระจังหน้าสีดำสไตล์สปอร์ต

•ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

•หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

•ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ในกล่องเก็บของคอนโซลกลาง 1 ตำแหน่งและด้านหลัง 2 ตำแหน่ง

•ช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งด้านหลัง

•เบาะนั่งด้านหลังแบบแยกพับได้ 60:40

•กล้องมองภาพขณะถอยหลัง และสัญญาณเตือนกะระยะท้ายรถ

•Smart Entry ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ สำหรับผู้ขับ ผู้โดยสารตอนหน้า และห้องเก็บสัมภาระตอนท้าย 

CHOOSE TO THRILL

เลือกเป็นเจ้าของ NEW COROLLA ALTIS

• รุ่น HEV GR SPORT      1,129,000 บาท

• รุ่น HEV PREMIUM        1,009,000 บาท

• รุ่น 1.8 SPORT                  979,000 บาท

• รุ่น 1.6G                            894,000 บาท

สีภายนอก พิเศษ เฉพาะรุ่น HEV GR SPORT

• สีขาว Platinum White Pearl with Black Roof ใหม่ (ราคาเพิ่ม 15,000 บาท)

• สีแดง Red Mica Metallic with Black Roof ใหม่ (ราคาเพิ่ม 10,000 บาท)

• สีดำ Attitude Black Mica

สีภายนอก รุ่น HEV PREMIUM, 1.8 SPORT และ 1.6G

• สีเทา Cement Gray Metallic ใหม่ (ราคาเพิ่ม 10,000 บาท)                              

• สีขาวมุก Platinum White Pearl (ราคาเพิ่ม 10,000 บาท)  

• สีเงิน Metal Stream Metallic

• สีเทา Celestite Gray Metallic                     

• สีดำ Attitude Black Mica

พิเศษสุด ตัดสินใจเป็นเจ้าของ NEW COROLLA ALTIS ทั้ง 4 รุ่น

ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 รับข้อเสนอสุดพิเศษ

ดอกเบี้ย 1.65% (คำนวณที่ดาวน์ 25% ขึ้นไป นาน 48 เดือน สำหรับผู้ซื้อ ที่ผ่านการอนุมัติโตโยต้าลีสซิ่ง)

และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง PHYD*

•สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริด ขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี พร้อม รับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (รุ่น HEV GR SPORT และรุ่น HEV PREMIUM)

•รับข้อเสนอพิเศษขยายระยะเวลาการคุ้มครอง (มูลค่า 30,000 บาท) ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด จาก TCFR Plus+

* เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าใกล้บ้านท่าน หรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าโตโยต้า 1486 บริการด้วย Voice Bot 24 ชม. ทุกวัน บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต www.toyota.co.th หรือ Line ID : @toyotathailand

พิเศษอีกสองต่อ กับ TOYOTA CARNIWOW “เทศกาลออกรถสุดว้าว”

ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567 เท่านั้น

WOW ที่ 1

เพียงสแกน QR Code ผ่านทางสื่อประชาสัมพันธ์ และนำ SMS ไปแสดง ณ โชว์รูมที่ต้องการจองรถหรือที่ปรึกษาการขาย รับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท หรือส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 1.5%

1.ส่วนลดเพิ่ม 3,000 บาท หรือ ส่วนลดดอกเบี้ย 0.15%

2.ส่วนลดเพิ่ม 5,000 บาท หรือ ขับฟรี 90 วัน

3.ส่วนลดเพิ่ม 7,000 บาท หรือ ส่วนลดดอกเบี้ย 0.3%

4.ส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท หรือ ส่วนลดดอกเบี้ย 1.0%

5.ส่วนลดเพิ่ม 50,000 บาท หรือส่วนลดดอกเบี้ย 1.5%

รวมจำนวน 40,000 รางวัล มูลค่ารวม 226,100,000 ล้านบาท

WOW ที่ 2

เพียงลงทะเบียน WOWที่ 1 และออกรถภายใน 31 ธันวาคม 2567 ลุ้นรับรางวัล WOW ที่ 2 ต่ออีกเพียบ

1.รางวัลที่ 1 ทองคำ มูลค่า 30 บาท จำนวน 1 รางวัล (ราคาทองขึ้นอยู่ ณ วันที่ทำการจัดซื้อ)

2.รางวัลที่ 2 ทองคำ มูลค่า 5 บาท จำนวน 9 รางวัล (ราคาทองขึ้นอยู่ ณ วันที่ทำการจัดซื้อ)

3.รางวัลที่ 3 โทรศัพท์มือถือ iPhone 16 Pro (128GB) จำนวน 18 รางวัล มูลค่า 39,900 บาท

รวมมูลค่า 718,000 บาท

4.รางวัลที่ 4 บัตร Shopping Voucher 2,000 บาท จำนวน 527 รางวัล

รวมจำนวน 555  รางวัล มูลค่า 1,052,000 บาท

* เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าใกล้บ้านท่าน หรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าโตโยต้า 1486 บริการด้วย Voice Bot 24 ชม. ทุกวัน บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต www.toyota.co.th หรือ Line ID : @toyotathailand

ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง TOYOTA ACCESSORIES

เพิ่มความสปอร์ต เสริมความโฉบเฉี่ยว ได้อย่างลงตัว

ราคาขายปลีกแนะนำ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

1.สเกิร์ตกันชนหน้า                      ราคา  7,000 บาท

2.ชุดสเกิร์ตข้าง                            ราคา 10,000 บาท

3.สเกิร์ตกันชนหลัง                       ราคา  8,000 บาท

4.สปอยเลอร์หลัง                         ราคา  5,000 บาท

5.แผงบังแดดข้าง                         ราคา  2,200 บาท

หมายเหตุ : รายการที่ 1-4 สามารถติดตั้งได้ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น GR SPORT

ระยะเวลารับประกันสูงสุด 3 ปีหรือ 100,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน อ้างอิงจากคู่มือรับประกันคุณภาพรถยนต์

(ต้องติดตั้งจากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าเท่านั้น)

และพบทางเลือกในการเป็นเจ้าของรูปแบบใหม่ KINTO

มีรถใช้ แบบไม่ต้องซื้อ บริการให้เช่ารถยนต์ระยะยาวจากโตโยต้าที่ออกแบบมาเพื่อให้ชีวิตการขับขี่สะดวกสบายและง่ายดายยิ่งขึ้น จ่ายราคาเดียวเท่ากันทุกเดือน เป็นจ้าของ New COROLLA ALTIS ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 17,360 บาท ต่อเดือน พร้อมบริการครบวงจร ประกันภัยชั้น 1 การบำรุงรักษา ต่อ พรบ. ภาษี ให้ตลอดอายุสัญญา

สัมผัสความตื่นเต้น เร้าใจใหม่ กับ NEW COROLLA ALTIS

ณ Toyota ALIVE บางนา และโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

และที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ

•วันที่ 14-17 พฤศจิกายน 2567  ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต 

•วันที่ 21-24 พฤศจิกายน 2567  ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่

•วันที่ 11-15 ธันวาคม 2567       ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่

•วันที่ 5-19 มีนาคม 2568           ณ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ โคราช

•วันที่ 27-30 มีนาคม 2568         ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เชียงราย

พลาดไม่ได้ กับการโชว์สมรรถนะของ NEW COROLLA ALTIS รุ่น “HEV GR SPORT” โดยนักแข่ง TOYOTA GAZOO Racing Team Thailand

ในช่วง Night Show ของการแข่งขัน TOYOTA GAZOO Racing Thailand สนามที่ 4 วันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่

และภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 “Thailand International Motor Expo 2024

วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 ณ  อาคารชาเลนเจอร์1-3 อิมแพค เมืองทองธานี

จองทดลองขับ NEW COROLLA ALTIS และรถรุ่นอื่นๆ บนสนามทดสอบเต็มรูปแบบได้ที่ https://www.toyota.co.th/alive/testdrive-reservation 

ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่

https://www.toyota.co.th/                               Facebook: Toyota Motor ThailandLINE Official: @ToyotaThailand             TikTok: @ToyotaMotorTH

X: @ToyotaMotorTH                            Instagram: @toyotamotorthailandofficial

โตโยต้า ตอกย้ำตลาดไฮบริดเอสยูวี อัดแคมเปญการสื่อสาร โตโยต้า No.1 HEV SUV ใครๆ ก็ครอส

โตโยต้า สร้างยอดขายสูงสุด กลุ่มไฮบริดเอสยูวี กับแคมเปญการสื่อสารใหม่ “โตโยต้า No.1 HEV SUV ใครๆ ก็ครอส” ตอกย้ำความเป็นผู้นำยนตรกรรมไฮบริด มั่นใจได้ด้วยความพรีเมียมและสบายใจตลอดการใช้งาน

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ประกาศความสำเร็จด้านยอดขายอันดับหนึ่ง รถเอสยูวี เครื่องยนต์ไฮบริดในตลาดรถยนต์ประเทศไทย ด้วยยอดขายรวมมากกว่า 38,700 คัน* โดยเป็นยอดสะสมรวมของ Toyota HEV SUV ยอดนิยม 2 รุ่น คือ โคโรลล่า ครอส และยาริส ครอส ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาด xEV มากกว่า 24% พร้อมแนะนำแคมเปญการสื่อสารใหม่ “โตโยต้า No.1 HEV SUV ใครๆ ก็ครอส”

(*ยอดขายรวมระหว่างเดือนมกราคม –  กันยายน พ.ศ. 2567)

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมไฮบริดภายใต้คอนเซปต์ “TOYOTA TRUSTED HYBRID” กับเทคโนโลยีไฮบริดของโตโยต้าที่สร้างชื่อเสียงและความไว้วางใจในประเทศไทย ผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์อย่างลงตัว มอบสมรรถนะการขับขี่ยอดเยี่ยม เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ ยังมอบความสบายใจตลอดการใช้งาน ด้วยบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน และทีมช่างผู้ชำนาญการด้านระบบไฮบริดของโตโยต้ากว่า 8,000 คน ที่ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมโตโยต้า พร้อมอุปกรณ์การซ่อมรถยนต์ไฮบริดที่ได้มาตรฐาน และความพร้อมด้านอะไหล่ ควบคู่ไปกับระบบการจัดเตรียมชิ้นส่วน ที่มีรองรับนานกว่า 15 ปี และสามารถจัดส่งได้ภายใน 48 ชั่วโมง จากเครือข่ายศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานและครบวงจรกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งนำมาสู่แคมเปญการสื่อสารใหม่ “โตโยต้า No.1 HEV SUV ใครๆ ก็ครอส”

โตโยต้าป็นผู้บุกเบิกตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) เป็นแบรนด์แรกของประเทศไทย ด้วยการเริ่มผลิตและแนะนำโตโยต้า คัมรี รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด เป็นครั้งแรก ในปีพ.ศ. 2552 จากนั้นเป็นต้นมา ได้พัฒนายนตรกรรมไฮบริดให้ดียิ่งขึ้นอีกหลายรุ่น ครอบคลุมหลายเซกเมนต์และระดับราคา ไม่ว่าจะเป็นเซกเมนต์รถซีดาน ในรุ่นคัมรี และ โคโรลล่า อัลติส รถอเนกประสงค์เอสยูวี กับโคโรลล่า ครอส และยาริส ครอส รวมทั้งรถครอบครัว 7 ที่นั่งประเภท  MPV ในรุ่นอินโนว่า ซีนิกซ์ และรถตู้มินิแวนระดับหรู รุ่นอัลฟาร์ด เวลไฟร์ เพื่อมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายในรถประเภทนี้ โดยรถยนต์ไฮบริดทุกรุ่นของโตโยต้า มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า“ยอดขายกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ระหว่างเดือนมกราคม – กันยายน 2567 มียอดขายทั้งหมด 156,191 คัน คิดเป็นสัดส่วน 36% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่รถยนต์ HEV ยังคงได้รับความนิยม โดยมียอดขายสะสมอยู่ที่ 92,589 คัน เติบโตขึ้น 52% คิดเป็นสัดส่วน 59% ของตลาด xEV และรถยนต์ BEV มียอดขาย 56,496 คัน เพิ่มขึ้น 8% คิดเป็นสัดส่วน 36% ของตลาด xEV จากตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความนิยมและการให้การยอมรับจากลูกค้าชาวไทยที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับ HE และปีนี้ โตโยต้าครองความเป็นผู้นำด้านยอดขายในตลาด xEV ด้วยยอดขาย HEV สูงที่สุดในประเทศไทย กับส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 27% ที่สำคัญยังสร้างยอดขายอันดับหนึ่งของโตโยต้าในกลุ่มไฮบริดเอสยูวี ด้วยยอดขายสะสมรวมเดือนมกราคม – กันยายน พ.ศ. 2567 มากกว่า 38,700 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด xEV มากกว่า 24% ประกอบด้วยรถ 2 รุ่นที่ขับเคลื่อนความสำเร็จในเซกเมนต์ xEV นั่นคือ ยอดขาย ของโคโรลล่า ครอส 11,137 คัน และยอดขายของยาริส ครอส 27,623 คัน โตโยต้าจึงขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุน และมั่นใจในรถโตโยต้าที่ตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัว (Team Corolla Cross) หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Team Yaris Cross)

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของโตโยต้าโคโรลล่า ครอส และยาริส ครอส สามารถรับข้อเสนอพิเศษได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ นอกจากนี้ เรายังมีแคมเปญพิเศษส่งท้ายปี กับ “TOYOTA CARNIWOW เทศกาลออกรถสุดว้าว” เพียงลูกค้าจองและออกรถยนต์โตโยต้า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 67 – 31 ธ.ค. 67 รับ WOW ทันที 2 ต่อ!! ทั้ง WOW ที่ 1 ส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท หรือส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 1.5% เมื่อจองรถโตโยต้า และ WOW ที่ 2 รับรถแล้ว ลุ้นรับของรางวัลรวม 555 รางวัล ซึ่งของรางวัลมีทั้ง ทองคำแท่ง 30 บาท, iPhone 16 Pro  ทองคำแท่ง 30 บาท และ Central Shopping Voucher มูลค่า 2,000 บาท มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า  231 ล้านบาท”

โตโยต้า No.1 HEV SUV ใครๆ ก็ครอส

ยนตรกรรมไฮบริดภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม โตโยต้า HEV SUV ยอดนิยม โคโรลล่า ครอส และยาริส ครอส มอบสมรรถนะการขับขี่ยอดเยี่ยม กับเทคโนโลยีไฮบริดของโตโยต้า ที่ผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์อย่างลงตัว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense ไว้วางใจได้สูงสุดด้วยเทคโนโลยีระบบไฮบริดของโตโยต้า (Toyota Hybrid System) กับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 15 ปี ด้วยการเป็นผู้บุกเบิกยานยนต์ไฮบริดเจ้าแรกในตลาดประเทศไทย มั่นใจได้กับ “TOYOTA TRUSTED HYBRID”

โดยรถยนต์ไฮบริดทุกรุ่นของโตโยต้า มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ทั้งยังมอบความสบายใจตลอดการใช้งาน ด้วยบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน และทีมช่างผู้ชำนาญการด้านระบบไฮบริดของโตโยต้าผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมโตโยต้า ที่มีมากกว่า 8,000 คน รวมถึงอุปกรณ์การซ่อมที่ได้มาตรฐาน นอกจากนั้น ยังมีความพร้อมด้านอะไหล่ กับระบบการจัดเตรียมชิ้นส่วนไว้รองรับนานกว่า 15 ปี และสามารถจัดส่งได้ภายใน 48 ชั่วโมง จากเครือข่ายศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานและครบวงจรกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ

ทีมโคโรลล่า ครอส (Team Corolla Cross) ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์กลุ่มครอบครัว

HEV SUV เครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร ที่พร้อมพาคุณไปได้ทุกที่ จะขับไกล หรือขับใกล้ ก็มั่นใจ ภายใน กับทางเลือกสีใหม่ สี Dark Rose (เฉพาะรุ่น HEV Premium Luxury / HEV Premium ที่สีภายนอกสี Platinum White Pearl, สี Celestite Gray Metallic, สี Attitude Black Mica) ให้ความรู้สึกหรูหรา เหนือระดับด้วยหลังคา Panoramic Roof แบบ Frameless พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวาอิสระ และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง, หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) 360° View, สัญญาณเตือนกะระยะทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าพร้อม Kick Activated

เลือกเป็นเจ้าของ โคโรลล่า ครอส รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด เกียร์อัตโนมัติ 3 รุ่นย่อย

HEV PREMIUM                                ราคา  1,094,000 บาท**

HEV PREMIUM LUXURY                ราคา  1,204,000 บาท**

HEV GR-SPORT                              ราคา  1,254,000 บาท**

สำหรับสีพิเศษ

รุ่น GR-Sport สี Platinum White Pearl พร้อมหลังคาสีดำ เพิ่ม 15,000 บาท, สี Red Mica Metallic พร้อมหลังคาสีดำ เพิ่ม 10,000 บาท

รุ่น HEV Premium Luxury, HEV Premium, 1.8 Sport Plus สี Platinum White Pearl และ Cement Gray Metallic เพิ่ม 10,000 บาท

**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ข้อเสนอสุดพิเศษ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 ข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo

•เจ้าของรถยนต์โตโยต้า รับดอกเบี้ย 0.89%*, ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD*

•พร้อมรับข้อเสนอพิเศษขยายระยะเวลาการคุ้มครอง เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด จากโปรแกรม Toyota Connected Frequent Service Reward Plus (TCFR Plus+)

รับสิทธิ์ ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์สูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม.

รับสิทธิ์ ขยายระยะรับประกันคุณภาพสำหรับเครื่องยนต์และ ระบบส่งกำลังสูงสุด 8 ปี หรือ 225,000 กม.

•สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริด ขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี พร้อม รับประกันระบบไฮบริด 5 ปี

* เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าใกล้บ้านท่าน หรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าโตโยต้า 1486 บริการด้วย Voice Bot 24 ชม. ทุกวัน บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต www.toyota.co.th หรือ Line ID : @toyotathailand

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.toyota.co.th/promotion/corollacross

ทีมยาริส ครอส (Team Yaris Cross) ตรงใจทุกไลฟ์สไตล์กลุ่มคนรุ่นใหม่

มอบสมรรถนะการขับขี่ที่คล่องตัว และมีอัตราการใช้น้ำมันสูงสุดถึง 26.3 กม. / ลิตร ด้วยระบบโตโยต้าไฮบริด เหนือระดับด้วยหลังคา Panoramic แบบ Fixed Type พร้อมม่านปรับไฟฟ้า สะดวกสบาย ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าพร้อม Kick Activated, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย และหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย ทั้งอุ่นใจกับเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense ที่มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ All-Speed ให้ความมั่นใจในการขับขี่

เลือกเป็นเจ้าของ ยาริส ครอส รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด เกียร์อัตโนมัติ 3 รุ่นย่อย

HEV SMART                          ราคา  789,000 บาท***

HEV PREMIUM                     ราคา  849,000 บาท***

HEV PREMIUM LUXURY      ราคา  899,000 บาท***

สำหรับสีพิเศษ    

สี Dark Turquoise (Black Roof), สี Platinum White Pearl (Black Roof), สี Spicy Scarlet (Black Roof) เพิ่ม 12,000 บาท

สี Metal Stream Metallic (Black Roof) เพิ่ม 8,000 บาท

สี Dark Turquoise, สี Platinum White Pearl, สี Spicy Scarlet  เพิ่ม 7,000 บาท                          

**** เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

และข้อเสนอสุดพิเศษ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 ข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo

•ทางเลือกที่ 1 : ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.69% (ดาวน์ 25%,48 เดือน)

หรือ เลือกรับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ สูงสุด 0.50%

•ทางเลือกที่ 2 : ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,984 บาท

•พร้อมรับข้อเสนอพิเศษขยายระยะเวลาการคุ้มครอง เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด จากโปรแกรม Toyota Connected Frequent Service Reward Plus (TCFR Plus+)

รับสิทธิ์ ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์สูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. รับสิทธิ์ ขยายระยะรับประกันคุณภาพสำหรับเครื่องยนต์และ ระบบส่งกำลังสูงสุด 8 ปี หรือ 225,000 กม.

•สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริด ขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี พร้อม รับประกันระบบไฮบริด 5 ปี 

* เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าใกล้บ้านท่าน หรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าโตโยต้า 1486 บริการด้วย Voice Bot 24 ชม. ทุกวัน บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต www.toyota.co.th หรือ Line ID : @toyotathailand

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.toyota.co.th/promotion/yariscross

และ WOW สุดๆ กับข้อเสนอสุด WOW ท้ายปี

ซื้อรถโตโยต้าช่วงไหนก็ไม่ WOW เท่าช่วงนี้

กับ “TOYOTA CARNIWOW เทศกาลออกรถสุดว้าว”

จองและออกรถยนต์โตโยต้า รับ WOW ทันที 2 ต่อ!!

 WOW ที่ 1 จองรถโตโยต้า พร้อมสแกน QR Code ก็รับไปเลย

ส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท หรือส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 1.5%

 WOW ที่ 2 รับรถแล้ว ลุ้นรับของรางวัลรวม 555 รางวัล!!

รางวัลที่ 1 ทองคำแท่ง 30 บาท

รางวัลที่ 2 ทองคำแท่ง 5 บาท

รางวัลที่ 3 iPhone 16 Pro (128 GB)

รางวัลที่ 4 Central Shopping Voucher มูลค่า 2,000 บาท

TOYOTA CARNIWOW ว้าว 2 ต่อ ส่งท้ายปี แจกรวมกว่า 231 ล้านบาท

ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 67 – 31 ธ.ค. 67

* เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าใกล้บ้านท่าน หรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าโตโยต้า 1486 บริการด้วย Voice Bot 24 ชม. ทุกวัน บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต www.toyota.co.th หรือ Line ID : @toyotathailand

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.toyota.co.th/promotion/yearend2024

จองทดลองขับ Corolla Cross และ Yaris Cross รวมถึงรถรุ่นอื่นๆ บนสนามทดสอบเต็มรูปแบบได้ที่

ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่

https://www.toyota.co.th/                               Facebook: Toyota Motor ThailandLINE Official: @ToyotaThailand             TikTok: @ToyotaMotorT 

X: @ToyotaMotorTH                            Instagram: @toyotamotorthailandofficial   

โตโยต้าแนะนำ Yaris ATIV Special Edition สีใหม่สไตล์สปอร์ตพรีเมียม

โตโยต้าแนะนำ Yaris ATIV Special Edition NIGHTSHADE Be SHADESETTER…สไตล์ที่เรากำหนด กับเฉดใหม่สไตล์ Premium สุดสปอร์ต จนใครๆ ก็ต้องตาม

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำซีดานยอดนิยมรุ่นพิเศษ Special Edition กับ Yaris ATIV NIGHTSHADE สะกดทุกสายตาด้วยการตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน ที่สปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยสีภายนอก 2-tone พร้อมสีใหม่ Cement Gray ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ สปอร์ตพรีเมียม มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เทคโนโลยีเชื่อมต่อล้ำสมัย และฟังก์ชันความปลอดภัยครบครัน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ต่อยอดความสำเร็จของรถยนต์รุ่นพิเศษของ Yaris ATIV รถยนต์ซีดานที่เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน ซี่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทยมาโดยตลอด การันตีด้วยยอดขายสะสมตั้งแต่เปิดตัวที่กว่า 242,000 คัน (ข้อมูลตั้งแต่ พ.ศ. 2560 –  เดือนกันยายน พ.ศ. 2567) และยอดขายสูงสุดอันดับหนึ่งรถยนต์กลุ่มอีโคคาร์ ปีพ.ศ. 2566 กว่า 58,000 คัน (ข้อมูลยอดขายเดือนมกราคม – เดือนธันวาคม พ.ศ. 2566) ด้วยการแนะนำ Yaris ATIV NIGHTSHADE รุ่นพิเศษ Special Edition เพื่อเพิ่มตัวเลือกสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบในความพรีเมียมและสปอร์ต กับการออกแบบใหม่สไตล์ Premium & Sporty ภายนอกโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยหลังคาดำ กระจกมองข้างสีดำเงาพร้อมไฟเลี้ยว สปอย์เลอร์หลังสีดำเงา ออกแบบให้ดูลงตัวกับล้ออัลลอยปัดเงาสีโครมดำ ตกแต่งห้องโดยสารภายในให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยเบาะนั่งหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายเทา กับทางเลือกสีภายนอกสีใหม่ สีเทาพร้อมหลังคาดำ Cement Gray with Black Roof และสีขาวพร้อมหลังคาดำ Platinum White Pearl with Black Roof มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง กล้องมองรอบคัน และมั่นใจได้สูงสุดด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานและเทคโนโลยี Toyota Safety Sense

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี T-Connect ที่จะคอยดูแลผู้ขับขี่ทุกที่ทุกเวลา ผ่านระบบต่างๆ เช่น Find My Car บริการเช็กตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ TheftTrack บริการตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม SOS บริการประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง Geo-Fencing บริการกำหนดขอบเขตความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีบริการที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Telematics อาทิ Maintenance Reminder บริการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเข้าศูนย์บริการ Vehicle Information บริการข้อมูลรถและการขับขี่แบบรอบด้าน PHYD ประกันภัย ขับดี ลดให้ และบริการด้านไลฟ์สไตล์ทั้ง Concierge Services บริการผู้ช่วยส่วนตัว และ TOYOTA ALIVE-X โปรแกรมสะสมคะแนน The 1 แลกเป็นส่วนลดสำหรับใช้บริการศูนย์โตโยต้า และร้านค้าในเครือเซ็นทรัล

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “Yaris ATIV เป็นรถยนต์ซีดานยอดนิยม มีความคุ้มค่า และสมรรถนะการขับขี่คล่องตัว ในครั้งนี้ เรายินดีที่จะแนะนำ Yaris ATIV NIGHTSHADE ภายใต้แนวคิดในการสื่อสาร “BE SHADESETTER สไตล์ที่เรากำหนด” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่มองหารถยนต์ซีดานที่ส่งเสริมภาพลักษณ์สปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น โดย Yaris ATIV NIGHTSHADE Special Edition รุ่นใหม่นี้ มาพร้อมความพิเศษทั้งการออกแบบที่โดดเด่นสะดุดตาทั้งภายนอกและภายใน ทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายและระบบความปลอดภัยที่ครบครัน

ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความแตกต่างอย่างมีระดับ และต้องการเปลี่ยนคาแร็คเตอร์ของรถให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น เรายังมีทางเลือกชุดอุปกรณ์ตกแต่ง LUSSO (ลูส-โซ่) ที่มาพร้อมชุดอุปกรณ์ตกแต่งสเกิร์ตรอบคัน ทั้งสเกิร์ตกันชนหน้า-หลัง และชุดสเกิร์ตข้าง กับอัตราผ่อนเริ่มต้นเพียง 243 บาท/เดือน”

Yaris ATIV NIGHTSHADE: Be SHADESETTER

การออกแบบภายนอก

หลังคาดำ ใหม่

กระจกมองข้างสีดำเงาพร้อมไฟเลี้ยว ใหม่

สปอย์เลอร์หลัง สีดำเงา ใหม่

ล้ออัลลอยปัดเงาสีโครมดำ ขนาด 16 นิ้ว ใหม่

การออกแบบภายในและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

เบาะนั่งหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายเทา ใหม่

มาตรวัดแบบ Digital พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว

หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

กล้องมองรอบคัน

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย พร้อมแผ่นกั้น และช่องเก็บของอเนกประสงค์

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS (Pre-Collision System)

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) แบบ All-Speed

ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (Front Departure Alert)

ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี (Pedal Misoperation Control)

ระบบเตือนเมื่ออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ LDA (Lane Departure Alert)

เลือกเป็นเจ้าของ Yaris ATIV NIGHTSHADE

สีภายนอกใหม่

• สีเทาพร้อมหลังคาดำ Cement Grey with Black Roof     

• สีขาวมุกพร้อมหลังคาดำ Platinum White Pearl with Black Roof

สีภายใน

• สีดำ Black

ราคา 699,000 บาท

พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถ Yaris ATIV NIGHTSHADE

ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 เลือกรับข้อเสนอ

ทางเลือกที่ 1 : ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0%* พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

หรือ

ทางเลือกที่ 2 : ผ่อนเริ่มต้นเพียง 6,794 บาท* (คำนวณที่ดาวน์ 25% 174,750 บาท)  ดอกเบี้ย 3.05% ผ่อน 96 เดือน อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย โตโยต้าลีสซิ่ง) พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง Toyota Care PHYD

* เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าใกล้บ้านท่าน หรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าโตโยต้า 1486 บริการด้วย Voice Bot 24 ชม. ทุกวัน บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต www.toyota.co.th หรือ Line ID : @toyotathailand

พร้อมขยายระยะเวลาการคุ้มครอง (มูลค่า 12,000 บาท)

ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเช็กระยะตามกำหนดจากโปรแกรม TCFR Plus+    

ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง LUSSO (ลูส-โซ่) สำหรับ Yaris ATIV NIGHTSHADE

เพิ่มความโดดเด่น เสริมภาพลักษณ์ให้ดูดี มีระดับ และเปลี่ยนคาแร็คเตอร์ของรถให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่ง  ประกอบด้วย

1.สเกิร์ตกันชนหน้า            2. ชุดสเกิร์ตข้าง                 3. สเกิร์ตกันชนหลัง

ราคาจำหน่ายแนะนำ  :  16,220 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)*

ผ่อนเริ่มต้น 243 บาท/เดือน**

*ราคาดังกล่าวไม่รวมค่าติดตั้ง

**ราคาเงินผ่อนที่เพิ่ม คำนวณจากโปรแกรมเช่าซื้อปกติ ดาวน์ 25% ระยะเวลา 84 เดือน อ้างอิงดอกเบี้ยเดือนตุลาคม 2567 บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด

หมายเหตุ : ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง LUSSO (ลูส-โซ่) รับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

(เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)

ทางเลือกการเป็นเจ้าของรูปแบบใหม่ KINTO

มีรถใช้ แบบไม่ต้องซื้อ บริการให้เช่ารถยนต์ระยะยาวจากโตโยต้าที่ออกแบบมาเพื่อให้ชีวิตการขับขี่สะดวกสบายและง่ายดายยิ่งขึ้น จ่ายราคาเดียวเท่ากันทุกเดือน เป็นเจ้าของ Yaris ATIV NIGHTSHADE ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 13,000 บาท ต่อเดือน พร้อมบริการครบวงจร ประกันภัยชั้น 1 การบำรุงรักษา ต่อ พรบ. ภาษี ให้ตลอดอายุสัญญา

สัมผัสความสปอร์ตพรีเมียมใน Yaris ATIV NIGHTSHADE Special Edition

ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม เป็นต้นไป ณ Toyota ALIVE บางนา

และโชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ

พบกับ Yaris ATIV NIGHTSHADE และกิจกรรมพิเศษต่างๆ

ตลอดช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567

TOYOTA GOOD DAY GOOD DEAL

วันที่ 24-28 ตุลาคม 2567            ณ Central Westville

วันที่ 14-17 พฤศจิกายน 2567     ณ Central ภูเก็ต

วันที่ 21-24 พฤศจิกายน 2567     ณ Central หาดใหญ่

วันที่ 11-15 ธันวาคม 2567          ณ Central Festival เชียงใหม่

•และภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 Thailand International Motor Expo 2024ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 ณ  อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี

จองทดลองขับ Yaris ATIV และรถรุ่นอื่นๆ บนสนามทดสอบเต็มรูปแบบได้ที่

https://www.toyota.co.th/alive/testdrive-reservation

ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่

https://www.toyota.co.th/                               Facebook: Toyota Motor Thailand

LINE Official: @ToyotaThailand                    TikTok: @ToyotaMotorTH X: @ToyotaMotorTH                            Instagram: @toyotamotorthailandofficial

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save