- Advertisement -
32.3 C
Bangkok
Home Blog Page 32

MOTOR EXPO 2024 ปิดฉากด้วยจองรวมกว่า 6 หมื่นคัน

MOTOR EXPO 2024 ปิดฉากสวย พลิกฟื้นตลาดรถยนต์และจักรยานยนต์ ดันยอดจองกว่า 6 หมื่นคัน

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ร้อนแรงเกินคาด รถสันดาป ไฮบริด ยังฮอตฮิต รถไฟฟ้าตามติด จักรยานยนต์คึกคัก ผู้ชมกว่า 1.4 ล้าน เงินสะพัด 5.5 หมื่นล้าน

นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” เปิดเผยว่า “งาน MOTOR EXPO 2024 ประสบความสำเร็จอย่างสูง และมีส่วนช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้ที่ซบเซาให้กลับมาคึกคัก พร้อมสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจไทย จึงขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งผู้อุปถัมภ์ ผู้สนับสนุน ค่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงผู้เข้าชมงานที่เมืองทองธานี และชมงานผ่านระบบออนไลน์”

สำหรับยอดจองรถในงาน แบ่งเป็นรถยนต์ 54,513 คัน จักรยานยนต์ 7,982 คัน รวมยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้งสิ้น 62,495 คัน จากข้อมูลผู้ร่วมกิจกรรม “ซื้อรถ…ชิงรถ” พบว่า มีผู้ร่วมกิจกรรมมากกว่าปีที่แล้ว โดยเป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ (สันดาป, ไฮบริด และพลักอิน-ไฮบริด) 58.7 % และรถยนต์ไฟฟ้า 41.3 % รถยนต์ที่ผู้ซื้อเข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ TOYOTA, BYD, HONDA ส่วนรถเครื่องยนต์ที่มียอดจองสูงสุด ได้แก่ HONDA, TOYOTA, FORD ด้านรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่มียอดจองสูงสุด ได้แก่ BYD, AION, GEELY

นอกจากนั้น ประเภทรถที่ได้รับความสนใจ แบ่งเป็นประเภทต่างๆ  ได้แก่ รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) 60.9% รถเก๋ง 14.2% รถท้ายลาด 12.0% รถอเนกประสงค์ 6.9% รถกระบะ 5.5% และอื่นๆ 0.5%

รถจักรยานยนต์ ที่ผู้ซื้อเข้าร่วมกิจกรรม “ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์” สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ZONTES, EM, ROYAL ALLOY, YAMAHA และ TRIUMPH ราคาเฉลี่ยของรถยนต์ที่ขายได้ในงาน 1,259,928 บาท รถจักรยานยนต์เฉลี่ย 191,063 บาท เงินหมุนเวียนในงานราว 5.5 หมื่นล้านบาท ผู้เข้าชมงาน 1,426,044 คน ยอดดาวน์โหลด MOTOR EXPO Application 30,808 คน และมีผู้ชมงานออนไลน์ 2,476,001 วิว

ด้านอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง และ JOIN BOAT PLATFORM สร้างยอดเงินสะพัด รวมกว่า 30 ล้านบาท ส่วนแพคเกจ MOTOR EXPO EXCLUSIVE VISITOR ที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ชมงานระดับวีไอพีได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็นอย่างมาก

พบกันใหม่ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” อย่าพลาดติดตามรายละเอียดที่ motorexpo.co.th และทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล”

RIDDARA ยกแคมเปญทุกรุ่นร่วมงาน Motor Expo 2024

RIDDARA เริ่มส่งมอบ RIDDARA RD6 รถกระบะไฟฟ้า100% ให้ลูกค้าคนไทย พร้อมจัดทำข้อเสนอสุดพิเศษเมื่อจอง RIDDARA RD6 ทุกรุ่น ในงาน Motor Expo 2024

RIDDARA (ริดดารา) แบรนด์รถกระบะพลังงานไฟฟ้าในเครือ GEELY AUTO GROUP ประกาศเริ่มส่งมอบ RIDDARA RD6 อย่างเป็นทางการให้ลูกค้าคนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่ให้ความสะดวกสบายระดับ SUV ตอบโจทย์ทุกการใช้งานแบบกระบะ : Drive like an SUV, Function like Pickup พร้อมเชิญทุกท่านมาสัมผัสนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของ RIDDARA ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” หรือ “Motor Expo 2024” พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% พร้อมบัตรของขวัญโลตัสมูลค่า 5,000 บาท* และข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อจอง RIDDARA RD6 ทุกรุ่นในงาน หรือที่ผู้จำหน่าย RIDDARA ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2567 นี้

มร.หลิง ซื่อ เฉวียน ประธานกรรมการบริหาร GEELY AUTO RIDDARA เปิดเผยว่า  RIDDARA ประเทศไทย ได้เริ่มส่งมอบกระบะไฟฟ้า 100% สู่คนไทยพร้อมกับประกาศก่อตั้งกลุ่ม RIDDARA Owners Club อย่างเป็นทางการเพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางหลักในการสื่อสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และจัดกิจกรรมร่วมกันระหว่างเจ้าของ RIDDARA ที่จะนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการจากแบรนด์ RIDDARA ในอนาคต

“RIDDARA ต้องขอขอบคุณลูกค้าคนไทย หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงพันธมิตรทางธุรกิจทุกท่านที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ RIDDARA ในประเทศไทยเป็นอย่างดีและทำให้การเปิดตัว RIDDARA RD6 รถกระบะพลังงานไฟฟ้า 100% อย่างเป็นทางการสู่ตลาดเมืองไทยเมื่อเดือนที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีและได้รับความสนใจรวมทั้งการชื่นชอบอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภคชาวไทย โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราพยายามอย่างเต็มที่ในการเร่งการผลิตและส่งมอบรถ รวมไปถึงการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อให้ลูกค้าของเราสามารถสัมผัสประสิทธิภาพและการบริการอันยอดเยี่ยมของ RIDDARA RD6 ได้โดยเร็วที่สุด

“ผมภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่วันนี้เราได้เริ่มส่งมอบ RIDDARA RD6 อย่างเป็นทางการให้กับลูกค้าทั่วประเทศแล้ว เราพร้อมส่งมอบรถกระบะพลังงานไฟฟ้าออกสู่ผู้บริโภคเพื่อส่งต่อประสบการณ์ยานยนต์พลังงานใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครอบครัวรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนอยู่เคียงข้างทุกความสำเร็จ และลุยไปกับทุกกิจกรรมของครอบครัว ” มร.หลิง ซื่อ เฉวียน กล่าวปิดท้าย

พิธีส่งมอบ RIDDARA RD6 ให้กับลูกค้าชาวไทยกลุ่มแรก

RIDDARA RD6 รถกระบะพลังงานไฟฟ้า 100% จาก RIDDARA ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41

Drive like an SUV, Function like Pickup สะดวกสบายระดับ SUV ตอบโจทย์ทุกการใข้งานแบบกระบะ” 

RIDDARA RD6 รถกระบะไฟฟ้า 100% ที่พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ในการใช้งาน “Drive like an SUV, Function like Pickup สะดวกสบายระดับ SUV ตอบโจทย์ทุกการใข้งานแบบกระบะ” ด้วยนวัตกรรม M.A.P (Multiplex Attached Platform) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแพลตฟอร์มรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นด้วยการเอาจุดเด่นของรถกระบะและรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาผสมผสานกัน ทำให้ RIDDARA RD6 โดดเด่นทั้งในด้านของการออกแบบ สมรรถนะ ประสบการณ์ในการขับขี่ และความอัจฉริยะในแบบฉบับของ SUV ด้วยโครงสร้างตัวถังขนาดใหญ่และมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังมอบพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย และติดตั้งระบบความปลอดภัยและระบบช่วยในการขับขี่ที่ครบครัน พร้อมความสามารถในการขับขี่บนสภาพถนนที่แตกต่างกันได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงความสามารถในการลากจูงและการบรรทุกอันทรงพลังตามแบบฉบับของรถกระบะได้อย่างแท้จริง จึงรองรับทั้งการเดินทาง และการทำกิจกรรมแบบเอาท์ดอร์ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่น้อยกว่ารถกระบะสันดาปทั่วไป

EASY DRIVE TO WORK เปลี่ยนนิยามของกระบะให้เป็นได้มากกว่า

RIDDARA RD6 มีตัวถังที่รับน้ำหนักได้ดี ประกอบกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีระบบกันสะเทือนอิสระ และช่วงล่าง multi-link ให้สมรรถนะที่โดดเด่นด้วยอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที แรงบิดสูงสุด 595 นิวตันเมตร กำลังสูงสุด 315 kW และความเร็วสูงสุดที่ 190 กม./ชม. มาพร้อมช่องจ่ายกระแสไฟตามมาตรฐานยุโรปขนาด 6KW ที่กระบะท้ายพร้อมระบบป้องกันการจ่ายไฟฟ้าอัจฉริยะสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้ทั้งในขณะจอดรถ ล็อกรถ ชาร์จไฟ หรือแม้กระทั่งขณะขับรถ นอกจากนี้ยังมาพร้อมการเชื่อมต่อและควบคุมรถผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือทำให้สามารถควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ภายในรถจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน

LUXURIOUS COMFORT & INTELLIGENT COCKPIT FOR FAMILY มอบความสะดวกสบายและห้องโดยสารที่มาพร้อมนวัตกรรมทันสมัย

RIDDARA RD6 มอบความความสะดวกสบายระดับ SUV ด้วยห้องโดยสารระดับพรีเมียมที่ออกแบบมาสำหรับทุกคนในครอบครัว ให้ห้องโดยสารที่เงียบสงบด้วยเทคโนโลยี Pure Electric NVH Silent  พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Carbit link พร้อมที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายขนาด 50W มีระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ที่มาพร้อมระบบกรองอากาศ CN95 filter PM 2.5 เบาะหนังคุณภาพสูง ดีไซน์เอกลักษณ์ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศที่เบาะโดยสาร เบาะหน้าเอนได้แบบ 180 องศา ปรับแต่งเพิ่มพื้นที่การใช้งานที่หลากหลายเพื่อทุกคนในครอบครัว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกครบครันพร้อมมอบความสะดวกสบายในทุกเส้นทาง

ENJOY OUTDOOOR LIFESTYLE พร้อมตอบทุกโจทย์กิจกรรมของครอบครัว

RIDDARA RD6 ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 แบบอัตโนมัติ โดยมีโหมดการขับขี่ 7 โหมด สำหรับสภาพถนนที่แตกต่างกัน (Sand / Mud / Off-road / Wading / Economy / Comfort / Sport) อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยความสามารถในการลุยน้ำลึกได้สูงสุด 815 มิลลิเมตร และความสามารถในการไต่ทางชันสูงสุด 95% มีพื้นที่บรรทุกกระบะท้ายขนาด 1,200 ลิตร ช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้าขนาด 70 ลิตร และพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติมใต้เบาะผู้โดยสารด้านหลังอีก 48 ลิตร มีความสามารถในการบรรทุก 1,030 กิโกรัม อีกทั้งยังมีความสามารถในการลากจูงได้สูงสุดถึง 3,000 กิโลกรัม พร้อมบันไดท้ายซ่อนภายในประตูท้ายกระบะ ให้การขึ้นลงท้ายกระบะเป็นไปด้วยความสะดวกสบาย

SAFETY IS THE FOUNDATION OF EVERY ADVENTURE มั่นใจในทุกเส้นทาง ปกป้องทุกคนในครอบครัว

RIDDARA RD6 มาพร้อมระบบความปลอดภัยรอบคัน ในแง่ของแบตเตอรี มีระบบป้องกันน้ำมาตรฐาน IP68 พร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยหลัก 6 ระบบ 5 ฟังก์ชั่น และระบบมอนิเตอร์ 24 ชั่วโมง ซึ่งรวมถึงระบบช่วยในการขับขี่ ADAS (Advanced Driving Assistance Systems) สูงสุด 14 ระบบ และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 540 องศา รวมไปถึงถุงลมนิรภัย 6 จุดช่วยปกป้องทั่วทั้งห้องโดยสาร ยิ่งไปกว่านั้นตัวรถสร้างขึ้นจากเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูง โครงรถทั้งคันมีความแข็งแรงที่ 30,300 N·m/deg ซึ่งคิดเป็นกว่า 70% ของโครงสร้างรถ

RIDDARA RD6 มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมี 4 รุ่นย่อย ด้วยราคาจำหน่ายดังนี้

oRIDDARA RD6 2WD 63kWh   ราคา 899,000 บาท

oRIDDARA RD6 2WD 73.9 kWh ราคา 999,000 บาท

oRIDDARA RD6 4WD 73.9 kWh ราคา 1,149,000 บาท

oRIDDARA RD6 4WD 86kWh   ราคา 1,299,000 บาท

จอง RIDDARA RD6 วันนี้รับข้อเสนอสุดพิเศษ

RIDDARA ได้จัดทำข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จอง RIDDARA RD6 ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ถึง วันที่ 10 ธันวาคม 2567 ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” หรือที่ผู้จำหน่าย RIDDARA อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

oอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกำหนด)

oบัตรของขวัญโลตัสมูลค่า 5,000 บาท*

oรับโฮมชาร์จเจอร์พร้อมค่าบริการติดตั้งฟรี

oฟรีประกันภัยชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี

oการรับประกันคุณภาพรถใหม่ครอบคลุมระยะเวลา 6 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร 

oการรับประกันมอเตอร์ขับเคลื่อนและแบตเตอรี่ขับเคลื่อน เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 200,000 กิโลเมตร

oฟรีค่าอะไหล่และค่าแรงบํารุงรักษาตามระยะทางสูงสุด 6 ครั้ง ภายใน 6 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

oฟรี แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถขนาด 2GB ระยะเวลา 1 ปี

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี 6 ปี

oฟรี ค่าจดทะเบียน 

oฟรี สายชาร์จเคลื่อนที่

*เงื่อนไขการให้บริการเป็นไปตามที่บริษัทฯ สัมผัสนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ของ RIDDARA RD6 ได้ที่งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” หรือ “Thailand International Motor Expo 2024” ที่ บูธ A13 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2567 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00 – 22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 11.00 – 22.00 น.

CHANGAN เปิดตัว DEEPAL E07 ที่ Motor Expo 2024

CHANGAN สร้างปรากฏการณ์ที่ The 41st Thailand International Motor Expo 2024 ด้วยการเปิดตัว DEEPAL E07 ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำยุคและสมรรถนะที่โดดเด่น พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ระดับโลก Vast Ocean Plan เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก

นายเซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด กล่าวว่า “ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ ปีที่ผ่านมาเป็นปีสำคัญของ CHANGAN ในประเทศไทย เราได้เปิดตัวแผนระดับโลก ‘Vast Ocean Plan’ ซึ่งช่วยขยายธุรกิจจากภูมิภาคอาเซียนไปยังยุโรป ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา โอเชียเนีย และประเทศไทย เราภูมิใจในการเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปีของ CHANGAN Thailand โดยในงาน Motor Expo 2023 ที่ผ่านมา เราได้เปิดตัว DEEPAL S07 และ L07 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากตลาดไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมยานยนต์”

CHANGAN ขับเคลื่อนความยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ Vast Ocean Plan ที่ผ่านมาบริษัทมีการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาทในประเทศไทย รวมถึงการสร้างโรงงานผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ที่ระยอง และการจัดตั้งหน่วยธุรกิจ 3 หน่วย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในภูมิภาค ความมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืนสะท้อนผ่านการลดการปล่อย CO2 โดยยอดขายยานยนต์พลังงานใหม่ของ CHANGAN ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 10,000 ตัน จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ CHANGAN ยังร่วมมือกับซัพพลายเออร์ในประเทศไทยกว่า 300 ราย ส่งเสริมการผลิตในประเทศมากกว่า 50% โดยพนักงานกว่า 80% เป็นคนไทย สร้างงานในห่วงโซ่อุปทานกว่า 20,000 ตำแหน่ง และจ่ายภาษีมากกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทย

ในเดือนกันยายน 2024 ที่ผ่านมา CHANGAN ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัว AVATR แบรนด์รถ SUV ระดับหรูที่มุ่งเน้นการผสมผสานความสง่างาม นวัตกรรม และความคุ้มค่า โดยรุ่น AVATR 11 ได้รับเสียงชื่นชมจากทั้งผู้บริโภคและสื่อมวลชน ด้วยดีไซน์ที่ล้ำยุค เทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยม

 สำหรับไฮไลต์ในงานครั้งนี้ DEEPAL ได้เปิดตัว DEEPAL E07 รถ SUV ไฟฟ้าที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม สะท้อนแนวคิด “BE YOURSELF, DRIVE YOUR WAY” มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

DEEPAL E07 มาพร้อมดีไซน์ล้ำยุค เส้นสายภายนอกที่โฉบเฉี่ยว ผสานความสวยงามและความแข็งแกร่ง แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 89.98 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สมรรถนะดีเยี่ยมด้วยขุมพลัง 2 ทางเลือก

1.รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD)

มาพร้อมมอเตอร์คู่ให้กำลังรวมสูงสุด 440 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมสูงสุด 645 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ไกล 590 กิโลเมตร ต่อหนึ่งการชาร์จเต็ม ตามมาตรฐาน NEDC

2.รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ  (RWD)

มาพร้อมมอเตอร์ให้กำลังสูงสุด 252 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 365 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ไกลถึง 640 กิโลเมตร ต่อหนึ่งการชาร์จเต็ม ตามมาตรฐาน NEDC

นอกจากนี้ DEEPAL E07 ยังเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย อาทิ ระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบช่วยจอดอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ระบบเลือกโหมดสถานการณ์เพื่อช่วยปรับพื้นที่ห้องโดยสารพร้อมสร้างบรรยากาศที่เหมาะสม โหมดเฝ้าระวังเพื่อช่วยตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติและบันทึกวิดีโอสภาพแวดล้อมรอบ ๆ เมื่อไม่ได้อยู่ที่รถ เป็นต้น อีกทั้งยังมีพื้นที่ภายในที่สะดวกสบาย เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าได้ 14 ทิศทางพร้อมฟังก์ชัน Zero Gravity และระบบระบายอากาศ

จุดเด่นของ DEEPAL E07

•ดีไซน์ล้ำยุค: เส้นสายภายนอกที่โฉบเฉี่ยว ผสานความสวยงามและความแข็งแกร่ง

•สมรรถนะไฟฟ้าทรงพลัง: กำลังรวมสูงสุด 440 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมสูงสุด 645 นิวตัน-เมตร (รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ) และกำลังสูงสุด 252 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 365 นิวตันเมตร (รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ)

•ระยะทางไกล: ชาร์จครั้งเดียววิ่งได้ไกล 590 กิโลเมตร (รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ) และ 640 กิโลเมตร (รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ)

•เทคโนโลยีอัจฉริยะ: ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบเลือกโหมดสถานการณ์ และโหมดเฝ้าระวัง

•พื้นที่ภายในที่สะดวกสบาย: เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 14 ทิศทางพร้อมฟังก์ชัน Zero Gravity และระบบระบายอากาศ

รุ่นและราคา DEEPAL E07

•DEEPAL E07 Plus: ราคา 1,699,000 บาท

•DEEPAL E07 Performance AWD: ราคา 2,099,000 บาท

•DEEPAL E07 Plus Limited Edition: ราคา 1,890,000 – 1,990,000 บาท (เปิดจองล่วงหน้า)

•DEEPAL E07 Performance AWD Limited Edition: ราคา 2,290,000 – 2,390,000 บาท (เปิดจองล่วงหน้า)

•DEEPAL E07 Legacy: ราคา 2,990,000 – 3,090,000 บาท (เปิดจองล่วงหน้า)

ข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่จอง DEEPAL E07 มีรายละเอียดดังนี้

สิทธิประโยชน์ สำหรับรถยนต์ DEEPAL E07 รุ่น Plus

1. แพ็คเกจ DEEPAL Premium Care

-ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. 1 ปี 

– รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี 

-ฟรี การบำรุงรักษา 6 ปี หรือ 6 ครั้ง ยกเว้น ชิ้นส่วนพิเศษ วัสดุสิ้นเปลือง และชิ้นส่วนที่สึกหรอ

2. แพ็คเกจ DEEPAL Premium Care Plus

-ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมบริการติดตั้ง 

-ฟรี สายชาร์จเคลื่อนที่

-ฟรี อินเทอร์เน็ต 10 ปี  (ข้อมูลอินเทอร์เน็ตสำหรับระบบ 1 GB  ต่อเดือน  และข้อมูลสำหรับสื่อบันเทิง 1 GB ต่อเดือน )

3. พิเศษสำหรับผู้ที่จอง 500 ท่านแรก รับราคาเปิดตัวพิเศษ DEEPAL E07 Plus ราคา 1,599,000 บาท พร้อมรับ Special Gift: เลือกรับไลฟ์สไตล์แพ็คเกจ Outdoor Explorer Pack หรือ Bike & Beyond Kit มูลค่า 60,000 บาท

สิทธิประโยชน์ สำหรับรถยนต์ DEEPAL E07 รุ่น Performance AWD

1. แพ็คเกจ DEEPAL Premium Care

-ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. 1 ปี 

-รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี 

-ฟรี การบำรุงรักษา 6 ปี หรือ 6 ครั้ง ยกเว้น ชิ้นส่วนพิเศษ วัสดุสิ้นเปลือง และชิ้นส่วนที่สึกหรอ

2. แพ็คเกจ DEEPAL Premium Care Plus

-ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมบริการติดตั้ง 

-ฟรี สายชาร์จเคลื่อนที่

-ฟรี อินเทอร์เน็ต 10 ปี  (ข้อมูลอินเทอร์เน็ตสำหรับระบบ 1 GB  ต่อเดือน  และข้อมูลสำหรับสื่อบันเทิง 1 GB ต่อเดือน )

-รับประกัน 10 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร เฉพาะช่วงล่างแบบถุงลมและระบบปรับความหนืดช่วงล่างอัจฉริยะ

3. พิเศษสำหรับผู้ที่จอง 500 ท่านแรก รับราคาเปิดตัวพิเศษ DEEPAL E07 Performance AWD ราคา 1,999,000 บาท พร้อมรับ Special Gift: เลือกรับไลฟ์สไตล์แพ็คเกจOutdoor Explorer Pack หรือ Bike & Beyond Kit มูลค่า 60,000 บาท

“ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน CHANGAN อย่างต่อเนื่อง ความไว้วางใจของทุกท่านคือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เราเติบโตอย่างมั่นคงในตลาดไทย ในปี 2025 เรามุ่งมั่นขยายการผลิตและบริการในประเทศไทย โดยจะเริ่มการผลิตในโรงงานระยองช่วงครึ่งปีแรก และขยายศูนย์บริการหลังการขายเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าต่อไป” นายเซิน ซิงหัว กล่าวปิดท้าย

AVATR 11 โชว์เทคโนโลยีอัจฉริยะครั้งแรกในงาน Motor Expo 2024

AVATR 11 พลิกโฉมโลกยานยนต์ไฟฟ้า : ที่สุดแห่งความหรูหราและเทคโนโลยีอัจฉริยะครั้งแรกในงาน Motor Expo 2024

AVATR ตอกย้ำความเป็นรถไฟฟ้าแบรนด์หรู พร้อมสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ในประเทศไทยครั้งแรกในงาน Motor Expo 2024 กับรถไฟฟ้า AVATR 11 SUV Coupe : นิยามใหม่ของ “New Era New Luxury” สัมผัสประสบการณ์ความหรูหรา และดีไซน์พรีเมี่ยม ที่ยกระดับทุกการเดินทาง ได้ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 ณ บูธ A11 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี พร้อมรับของขวัญสุดพิเศษ เครื่องประดับเพชร ออกแบบโดย Beauty Gems หรือ Protection Film มูลค่ารวมกว่า 60,000 บาท สำหรับผู้จอง AVATR11 ภายในงานและรับรถในช่วงระยะเวลาที่กำหนด

AVATR เปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งในงาน Motor Expo 2024 ด้วยรถยนต์รุ่น AVATR 11 SUV Coupe ที่ผสานความร่วมมือของ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ นำโดย CHANGAN Automobile, CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของโลก และ Huawei โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัย สุดยอดความลักซ์ชัวรี่ การันตีด้วยรางวัล Red Dot Design Award ผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยระหว่างรถซูเปอร์คาร์ และเอสยูวีได้อย่างลงตัว ทำให้ AVATR 11 คือ นวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ ที่ทั่วโลกต้องจับตามอง

โดย AVATR 11 มีให้เลือกทั้งหมดสองรุ่น คือ รุ่น Standard Range และ รุ่น Long Range โดยในงาน Motor Expo 2024 มาพร้อมการรับประกันและบริการสุดพิเศษดังนี้ รับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร, รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 8 ปี, ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี, ฟรี Home Charger พร้อมติดตั้ง และฟรี ค่าบำรุงรักษา 6 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 6 ปี เพราะ AVATR 11 ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตที่จะเป็นเพื่อนคู่หูของคุณไปในทุกเส้นทาง

AVATR 11 คือ นวัตกรรมที่ยกระดับการขับขี่ทุกมิติ ซึ่งรถคันนี้ไม่ใช่เพียงแค่ยานพาหนะ แต่เป็นเพื่อนคู่ใจที่พร้อมพาคุณไปในทุกเส้นทาง ด้วยเทคโนโลยีและดีไซน์ที่ล้ำหน้า ผสานความหรูหราและความสะดวกสบายอย่างสมบูรณ์แบบ

คุณสมบัติเด่นของ AVATR 11 ดีไซน์ภายในสุดล้ำ ห้องโดยสารได้รับแรงบันดาลใจจาก Keystone (หินหลักบนยอดโค้ง) พร้อมแสงไฟ Ambient Lighting ถึง 256 สี หลังคาพาโนรามากันยูวี 99.9% และกระจกมองหลังสตรีมมิ่งแบบ HD, เบาะหนัง NAPPA ระดับพรีเมียม: ปรับได้ถึง 14 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันระบายอากาศและนวดเพื่อความสบายสูงสุด และ ระบบเสียง Meridian ลำโพง 25 ตัว กำลังขับ 2016 วัตต์ มอบประสบการณ์เสียง 3 มิติที่สมจริง

AVATR 11 มาพร้อมแบตเตอรี่ 116 kWh จาก CATL วิ่งได้ไกลถึง 680 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รองรับการชาร์จเร็วจาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 25 นาที ด้วยแพลตฟอร์ม 800 โวลต์

ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS) เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง HD 5 ตัว, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (IACC) และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (ELK) นอกจากนี้ ระบบยังรองรับการอัปเดตฟีเจอร์ผ่าน OTA เพื่อให้รถยนต์พัฒนาและปรับปรุงได้อย่างต่อเนื่อง

AVATR 11 ในงาน Motor Expo 2024 ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการขับขี่อัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีและความสะดวกสบายมาผสมผสานกันอย่างลงตัว AVATR มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาและสร้างสรรค์ยานยนต์ไฟฟ้าที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบัน แต่ยังมุ่งสู่อนาคตของยานยนต์อัจฉริยะที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของผู้ใช้

เชิญสัมผัส อนาคตของยานยนต์ไฟฟ้า AVATR 11  ได้ที่งาน Motor Expo 2024 ที่บูธ A11 พร้อมรับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษและข้อเสนอที่ไม่ควรพลาด ร่วมสัมผัส “New Era New Luxury” และเปิดประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตได้ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคมนี้ ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี สำหรับผู้จอง AVATR11 ภายในงาน และรับรถในช่วงเวลาที่กำหนด รับของขวัญสุดพิเศษ เครื่องประดับเพชร ออกแบบโดย Beauty Gems หรือ Protection Film มูลค่ารวมกว่า 60,000 บาท

เกีย มอบแพ็กเกจสุดคุ้มฉลองครบรอบ 80 ปี

เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) ฉลองครบรอบ 80 ปีก่อตั้งแบรนด์เกีย มอบแพ็กเกจสุดคุ้มจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

•พร้อมแนะนำ “The Kia EV5 GT-Line AWD” ดีไซน์สปอร์ตสุดเอ็กซ์คลูซีฟราคาพิเศษช่วงเปิดตัวจำนวนจำกัดเพียง 80 คัน เท่านั้น!

•พิเศษสำหรับ The Kia Carnival EX ที่ราคา 1,999,000 บาท และ The Kia EV5 Air ที่มาพร้อมโปรโมชัน ผ่อนเริ่มต้นเพียง 15,526 บาทต่อเดือน*

เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) ฉลองครบรอบ 80 ปีก่อตั้งแบรนด์เกีย มอบข้อเสนอสุดคุ้มครอบคลุมรถยนต์ทั้ง 4 รุ่นหลัก ได้แก่ The Kia EV5, The Kia EV9, The Kia Carnival และ The Kia Sorento อาทิ ข้อเสนอราคาพิเศษสำหรับรถยนต์ The Kia Carnival EX ที่ 1,999,000 บาท มาพร้อมกับการรับประกันคุณภาพยาวนาน 5 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ระยะเวลา 5 ปี และสำหรับลูกค้า The Kia EV5 Air ผ่อนเริ่มต้นเพียง 15,526 บาทต่อเดือนเท่านั้น* พร้อมแนะนำ “The Kia EV5 GT-Line AWD” รุ่นย่อยใหม่ล่าสุดของ The Kia EV5 เอสยูวีขนาดกลาง ไฟฟ้า 100% ที่โฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์สปอร์ตและโดดเด่นด้วยเฉดสีทูโทน มาพร้อมราคาพิเศษช่วงเปิดตัวที่ 1,849,000** บาท จำนวนจำกัด 80 คัน โดย The Kia EV5 ทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพยาวนาน 7 ปี ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ระยะเวลา 7 ปี พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี เป็นต้น นอกจากนี้เกียได้ยกขบวนรถเอสยูวีและเอ็มพีวีอีกหลากหลายรุ่นครอบคลุมทุกไลน์อัปมาจัดแสดง ไม่ว่าจะเป็น The Kia Carnival ทุกรุ่นย่อยที่มีให้เลือกทั้งแบบ 11 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง The Kia EV9 GT-Line AWD รวมถึง The Kia Sorento รุ่น Premium HEV และรุ่น Premium Plus PHEV ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสัมผัสยนตกรรมต่าง ๆ ได้ ณ บูทเกียหมายเลข A22 ในงาน Motor Expo 2024 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี ในวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 และยังสามารถพบข้อเสนอสุดพิเศษเดียวกันนี้ที่ดีลเลอร์ทั่วประเทศ*** จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

นายฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “ปีนี้แบรนด์เกียครบรอบ 80 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งในปีพ.ศ. 2487 โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาในฐานะผู้ผลิตยานยนต์ เกียมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมแห่งการขับเคลื่อนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีพ.ศ. 2564 เกียได้ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ในระดับโกลบอลภายใต้จุดยืนใหม่ของแบรนด์ ‘Movement that inspires’ และปรัชญาในการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์แบรนด์อย่าง ‘Opposites United’ สำหรับในประเทศไทย นับตั้งแต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา เกียได้นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 4 รุ่น และเดินหน้าเร่งการทรานส์ฟอร์มแบรนด์ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่การเดินหน้ารุกตลาดยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังด้วยการเปิดตัว The Kia EV9 รถเอสยูวีขนาดใหญ่ 6 ที่นั่งที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกของเรา และ The Kia EV5 รถยนต์เอสยูวีขนาดกลาง ไฟฟ้า 100% ที่ให้ความอเนกประสงค์เต็มรูปแบบที่มาพร้อมกับระยะทางวิ่งสูงสูดที่ 665 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยจัดงานเปิดตัวในรูปแบบ Immersive Exhibition จนถึงกิจกรรมล่าสุด มินิคอนเสิร์ต Make A Bold Move With The Kia EV5 เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของ Kia EV5 นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการมอบการรับประกันคุณภาพรถยนต์นานสูงสุดถึง 7 ปี และการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายให้เติบโตได้ถึง 21 แห่งภายในปี 2567 ดังนั้น เราจึงใช้โอกาสในงาน Motor Expo 2024 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปีของแบรนด์เกียด้วยแพ็กเกจข้อเสนอสุดคุ้มสำหรับรถยนต์ทั้งสี่รุ่นของเรา โดยเฉพาะ The Kia Carnival และ The Kia EV5 ที่พร้อมให้ผู้ที่สนใจสามารถเลือกเป็นเจ้าของยนตรกรรมเกียได้ง่ายมากยิ่งขึ้น”

นอกจากนี้ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) ยังได้นำ “The Kia EV5 GT-Line AWD” ซึ่งเป็นรุ่นย่อยใหม่ล่าสุดที่เข้ามาเติมเต็มไลน์อัปของ The Kia EV5 เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับผู้ขับขี่รุ่นใหม่ที่ชื่นชอบดีไซน์สปอร์ต และมองหารถเอสยูวีขนาดกลาง ไฟฟ้า 100% ที่ให้ความอเนกประสงค์ในรูปแบบรถเอสยูวีอย่างแท้จริง (Real SUV body) มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตที่แตกต่างด้วยชุดแต่งภายนอกรอบคันดีไซน์เฉพาะรุ่น GT-Line โดดเด่นด้วยการตกแต่งด้วยเฉดสีแบบทูโทน (2-Tone) ทั้งภายนอกและภายใน ทั้งยังมั่นใจทุกการขับขี่และโดยสารด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของระบบขับเคลื่อนแบบ All-Wheel Drive โดยราคาพิเศษช่วงเปิดตัวของ The Kia EV5 GT-Line AWD จำหน่ายในราคาที่ 1,849,000** บาท  จำนวนจำกัด 80 คัน (สำหรับผู้ที่สั่งจองและออกรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2567) เพื่อฉลองการครบรอบ 80 ปีของแบรนด์เกีย สำหรับ The Kia EV5 GT-Line AWD มีสีตัวถังให้เลือก 2 ตัวเลือก ได้แก่ สีขาวมุก Snow White Pearl พร้อมหลังคาสีดำ และสีเงินเมทัลลิค Ivory Silver พร้อมหลังคาสีดำ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลได้ที่ผู้จำหน่ายเกียทั่วประเทศ

สำหรับข้อเสนอที่เป็นไฮไลท์ของ The Kia Carnival คือ การนำเสนอราคาพิเศษให้กับ The Kia Carnival EX ในราคา 1,999,000 บาท และ The Kia Carnival SXL Luxury ที่มอบสิทธิประโยชน์สูงสุด 400,000 บาท โดยทุกรุ่นมาพร้อมกับโปรโมชัน รับประกันคุณภาพยาวนาน 5 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ระยะเวลา 5 ปี และ The Kia EV5 Air ที่มอบสิทธิประโยชน์สูงสุด 200,000 บาท โดยสามารถเลือกผ่อนเริ่มต้นเพียง 15,526 บาทต่อเดือน* หรือเลือกรับเป็น Trade-in 100,000 บาท และลูกค้า The Kia EV5 ทุกรุ่นจะได้รับการรับประกันคุณภาพยาวนาน 7 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ระยะเวลา 7 ปี การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี และฟรี Kia Home Charger 1 ชุด พร้อมติดตั้ง

นอกจากนี้ภายในงาน Motor Expo 2024 เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) ยังได้จัดแสดงยานยนต์รุ่นอื่น ๆ อาทิ The Kia EV9 GT-Line AWD และ The Kia Sorento ทั้งรุ่น Premium HEV และ Premium Plus PHEV ให้ผู้สนใจได้สัมผัสประสบการณ์ความเหนือระดับของยนตรกรรมเกียอย่างครบครันอีกด้วย สามารถเยี่ยมชมและจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์เกียได้ที่ บูทเกียหมายเลข A22 ในงาน Motor Expo 2024 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2567 หรือที่ผู้จำหน่ายเกียใกล้ท่าน*** ด้วยโปรโมชันสุดพิเศษเดียวกันจนถึง 31 ธันวาคม 2567

* สำหรับ The Kia EV5 Air ผ่อนเริ่มต้น 15,526 บาท เมื่อดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 72 เดือน, ดอกเบี้ย 1.09% (ต้นงวด) เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการได้แก่ บริษัท กสิกรลีสซิ่ง จํากัด (โดยจะไม่สามารถใช้สิทธิดอกเบี้ยพิเศษ 0% ได้)

** จากราคาจำหน่ายปกติ 1,899,000 บาท (จำนวนจำกัด 80 คัน) สำหรับผู้ที่สั่งจองและออกรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2567 โดยสามารถสั่งจอง The Kia EV5 GT-Line AWD ได้ที่ผู้จำหน่ายเกียทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 เป็นต้นไป และที่บูทเกียภายในงาน Motor Expo ครั้งที่ 41 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี

โปรโมชันสำหรับผู้ที่สนใจรถยนต์เกียรุ่นต่าง ๆ ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2567

โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival EX (11 ที่นั่ง) ***

๏ ราคาพิเศษ 1,999,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 2,234,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 235,000 บาท โดยจะไม่สามารถใช้สิทธิดอกเบี้ยพิเศษ 0% ได้)

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี[2]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[4]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[5]

หรือ

๏ เลือกรับดอกเบี้ย 0% จากราคาจำหน่ายปกติ 2,234,000 บาท

oอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน[1]

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี[2]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[4]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[5]

oส่วนลดมูลค่า 105,000 บาท สำหรับ LX และ EX เท่านั้น[8]

โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival LX (11 ที่นั่ง) ***

๏ ราคาพิเศษ 1,657,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,892,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 235,000 บาท โดยจะไม่สามารถใช้สิทธิดอกเบี้ยพิเศษ 0% ได้)

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี[2]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[4]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[5]

หรือ_

๏ เลือกรับดอกเบี้ย 0% จากราคาจำหน่ายปกติ 1,892,000 บาท

oอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน[1]

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี[2]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[4]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[5]

oส่วนลดมูลค่า 105,000 บาท สำหรับ LX และ EX เท่านั้น[8]

โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival SXL (11 ที่นั่ง) ***

oอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน[1]

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี[2]

oฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร สำหรับรุ่น SXL เท่านั้น[3]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[4]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[5]

โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival SXL Luxury (7 ที่นั่ง) ***

๏ สิทธิประโยชน์สูงสุด มูลค่า 400,000 บาท ประกอบไปด้วย:

oอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน[1]

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 3 ปี[2]

oฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร[3]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[4]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[5]

oสนับสนุนค่างวด งวดแรก[6]

oบัตรกำนัล มูลค่า 6,000 บาท[7]

หมายเหตุ:

[1] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน

เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ บริษัท กสิกรลีสซิ่ง จํากัด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือเลือกรับส่วนลดเงินสดมูลค่า 130,000 บาท.

[2] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับรุ่น 11 ที่นั่ง และ 3 ปี สำหรับ 7 ที่นั่ง โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[3] เงื่อนไข ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 5 ปีหรือ 50,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย) สำหรับรถยนต์รุ่น SXL, SXL Luxury โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[4] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[5] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)

[6] บริษัทฯ สนับสนุนค่า งวด งวดแรก มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 46,719 บาท

[7] บัตรกำนัล มูลค่า 6,000 บาท

[8] ส่วนลดมูลค่า 105,000 บาท สำหรับ LX และ EX เท่านั้น

[9] สิทธิประโยชน์ข้อ [2], [3], [และ [4] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 170,000 บาท สำหรับรุ่น SXL Luxury เท่านั้น สำหรับรุ่น LX, EX มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 44,700 บาท และสำหรับรุ่น SXL มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 86,900 บาท ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

*** เฉพาะผู้จำหน่าย ฯ ที่เข้าร่วมรายการเท่านั้น  

โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 (Air)

๏ เลือกรับสิทธิประโยชน์สูงสุด มูลค่า 200,000 บาท ประกอบไปด้วย:

oอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน[1]

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี[2]

oฟรี Kia Home Charger 1 ชุด และ ค่าติดตั้ง Kia Home Charger ให้กับลูกค้า[3]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[4]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[5]

oการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร[6]

oชุดพรมปูพื้นรถยนต์[7]

หรือ__

๏ เลือกผ่อนเริ่มต้น 15,526 บาท

oเมื่อดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 72 เดือน , ดอกเบี้ย 1.09% เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการได้แก่ บริษัท กสิกรลีสซิ่ง จํากัด (โดยจะไม่สามารถใช้สิทธิดอกเบี้ยพิเศษ 0% ได้)

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี[2]

oฟรี Kia Home Charger 1 ชุด และ ค่าติดตั้ง Kia Home Charger ให้กับลูกค้า[3]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[4]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[5]

oการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร[6]

oชุดพรมปูพื้นรถยนต์[7]

โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 (Earth Exclusive AWD)

oอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 1.88% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน[1]

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี[2]

oฟรี Kia Home Charger 1 ชุด และ ค่าติดตั้ง Kia Home Charger ให้กับลูกค้า[3]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[4]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[5]

oการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร[6]

oชุดพรมปูพื้นรถยนต์[7]

โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 (Earth Long Range)

๏ สิทธิประโยชน์สูงสุด มูลค่า 220,000 บาท ประกอบไปด้วย:

oอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน[1]

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี[2]

oฟรี Kia Home Charger 1 ชุด และ ค่าติดตั้ง Kia Home Charger ให้กับลูกค้า[3]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[4]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[5]

oการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร[6]

oชุดพรมปูพื้นรถยนต์[7]

โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 (Light)

๏ สิทธิประโยชน์สูงสุด มูลค่า 200,000 บาท ประกอบไปด้วย:

oอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน[1]

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี[2]

oฟรี Kia Home Charger 1 ชุด และ ค่าติดตั้ง Kia Home Charger ให้กับลูกค้า[3]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[4]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[5]

oการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร[6]

oชุดพรมปูพื้นรถยนต์[7]

โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 (GT-Line AWD)

๏ ราคาพิเศษช่วงเปิดตัว 1,849,000* บาท (จำนวนจำกัด 80 คัน สำหรับผู้ที่สั่งจองและออกรถ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2567) [9]

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี[2]

oฟรี Kia Home Charger 1 ชุด และ ค่าติดตั้ง Kia Home Charger ให้กับลูกค้า[3]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[4]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[5]

oการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร[6]

หมายเหตุ:

[1] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% สำหรับรุ่น Light, Air, Earth เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ บริษัท กสิกรลีสซิ่ง จํากัด หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ 1.88% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร

[2] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[3] Kia Home Charger 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง มูลค่า 65,000 บาท สำหรับรุ่นย่อย Earth Exclusive AWD, Earth Long Range มูลค่า 45,000 สำหรับรุ่นย่อย Air, Light และไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[4] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)

[5] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย)

[6] เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)

[7] ชุดพรมปูพื้นรถยนต์

[8] สิทธิประโยชน์ข้อ [2], [3], [5] และ [7] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 104,000 บาท สำหรับรุ่น Light และ Air และสำหรับรุ่น Earth Long Range และ Earth Exclusive AWD มูลค่ารวมทั้งสิ้น 124,000 บาท ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[9] *จากราคาจำหน่ายปกติ 1,899,000 บาท (จำนวนจำกัด 80 คัน) สำหรับผู้ที่สั่งจองและออกรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2567 โดยสามารถสั่งจอง The Kia EV5 GT-Line AWD ได้ที่ผู้จำหน่ายเกียทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 เป็นต้นไป และที่บูทเกียภายในงาน Motor Expo ครั้งที่ 41 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี

ทั้งนี้ รถยนต์ The Kia EV5 GT-Line AWD พร้อมให้รับชม และส่งมอบ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 เป็นต้นไป โดยผู้จำหน่าย เกีย 7 สาขา ดังนี้ เกีย รามอินทรา เกีย บางนา เกีย พระราม 2 เกีย รังสิต เกีย รัชดาฯ-ลาดพร้าว เกีย ศรีนครินทร์ และ เกีย พัทยา

โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV9:

oอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 1.88% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน[1]

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 2 ปี[2]

oฟรี Kia Home Charger 1 ชุด และ ค่าติดตั้ง Kia Home Charger ให้กับลูกค้า[3]

oฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร [4]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[5]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[6]

oการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร[7]

หมายเหตุ:

[1] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 1.88% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร

[2] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[3] Kia Home Charger 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[4] เงื่อนไข ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)

[5] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)

[6] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย)

[7] เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)

[8] สิทธิประโยชน์ข้อ [2], [3], [4], [5], และ [6] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 176,000 บาท สำหรับรุ่น EV9 ทุกรุ่น ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia Sorento (Premium Plus PHEV):

๏ เลือกรับสิทธิประโยชน์สูงสุด มูลค่า 210,000 บาท ประกอบไปด้วย:

oอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน[1]

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี[2]

oฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปี หรือ 70,000 กิโลเมตร[3]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[4]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[5]

oการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร[6]

หรือ___

๏ เลือกผ่อนเริ่มต้น 29,652 บาท

oเมื่อดาวน์ 20% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 60 เดือน, ดอกเบี้ย 1.19% เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (โดยจะไม่สามารถใช้สิทธิดอกเบี้ยพิเศษ 0% ได้)

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี[2]

oฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปี หรือ 70,000 กิโลเมตร[3]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[4]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[5]

oการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร[6]

โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia Sorento (Premium HEV):

oอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 1.88% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน[1]

oฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี[2]

oฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปี หรือ 70,000 กิโลเมตร[3]

oการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร[4]

oบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง[5]

oการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร[6]

หมายเหตุ:

[1] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน สำหรับรุ่นย่อย PHEV เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ บริษัท กสิกรลีสซิ่ง จํากัด และ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ 1.88% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ จํากัด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร

[2] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) และไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[3] เงื่อนไข ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปีหรือ 70,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[4] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[5] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[6] เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[7] สิทธิประโยชน์ข้อ [2], [3], และ [5] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 96,000 บาท สำหรับรุ่น PHEV และมูลค่า 89,000 สำหรับรุ่น HEV ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

[8] Sorento PHEV ผ่อนเริ่มต้น 29,652 บาท เมื่อดาวน์ 20% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 60 เดือน , ดอกเบี้ย 1.19% เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร

ข้อกำหนดและเงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทฯ

สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2567

โปรโมชันสำหรับการซื้อผ่านผู้จำหน่าย Kia อย่างเป็นทางการทั่วประเทศไทย

เฉพาะผู้จำหน่าย ฯ ที่เข้าร่วมรายการเท่านั้น

•ไม่รวมรถแท็กซี่, รถเช่า, รถที่ขายภายใต้เงื่อนไขพิเศษ, และลูกค้ารถเช่า

•ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงจะทำการแจ้งผ่านช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ

หมายเหตุ : กรุณาตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้จำหน่ายที่เข้าร่วมรายการได้ที่

เว็บไซต์ www.kia.com ***

•สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อผู้จำหน่ายเกียใกล้ท่าน หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.kia.com

ZEEKR สร้างปรากฏการณ์ใหม่ยานยนต์ไฟฟ้า ที่งาน Motor Expo 2024

ZEEKR สร้างปรากฏการณ์ใหม่แห่งยานยนต์ไฟฟ้า ตอกย้ำแบรนด์พรีเมียมที่ล้ำหน้า พร้อมเผยโฉมครั้งแรกในไทยด้วยสุดยอดนวัตกรรม ZEEKR 001 FR และ ZEEKR 7X ที่งาน Motor Expo 2024 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ – 10 ธันวาคม 2567

ZEEKR (ซีเค่อร์) แบรนด์รถไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี นำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าล้ำสมัยครั้งแรกในงาน Thailand International Motor Expo 2024 พบกับไฮไลท์สุดพิเศษของปีได้แก่ ZEEKR X รถยนต์ไฟฟ้าเอสยูวีที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ZEEKR 009 รถเอ็มพีวีไฟฟ้าสุดหรูที่รองรับทุกการเดินทางอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมเผยโฉม ZEEKR 001 FR ที่มาพร้อมพลังขับเคลื่อนเกินจินตนาการ และ ZEEKR 7X รถเอสยูวีรุ่นใหม่ออกแบบมาเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะที่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะ พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษ และโปรโมชันสำหรับผู้เข้าร่วมงาน พร้อมตอกย้ำความสำเร็จในตลาดโลกด้วยยอดส่งมอบรวมกว่า 360,000 คัน และการเข้าสู่ตลาดกว่า 40 ประเทศทั่วโลก พบกับนวัตกรรมที่ผสานดีไซน์ เทคโนโลยี และความปลอดภัยขั้นสูงระดับพรีเมียมที่จะมาสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคไทย แล้วร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืนนี้ได้ที่บูธ ZEEKR หมายเลข A13 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ – 10 ธันวาคม 2567

ZEEKR ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี เผยโฉมสุดยอดนวัตกรรมล่าสุดในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 หรือ Thailand International Motor Expo 2024 โดยในปี 2567 นี้ เปิดตัวมาแล้ว 2 รุ่น ตั้งแต่ ZEEKR X โกลบอล พรีเมียม คอมแพค เอสยูวี สำหรับไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ และ ZEEKR 009 รถเอ็มพีวี 6 ที่นั่ง เซกเมนต์ลักชูรีที่ผสานความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส และนวัตกรรมสุดล้ำอย่างลงตัว ชาร์จไฟวิ่งได้ไกล 686 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ล่าสุดทาง ZEEKR ได้เผยโฉมอีกสองรุ่นใหม่ครั้งแรกในไทยอย่าง ZEEKR 001 FR รถยนต์ Shooting Brake พร้อมขุมพลังความเร็ว แรง เป็นอีกหนึ่งขั้นของสมรรถนะ ที่จะมาเปลี่ยนทุกเส้นทางให้เต็มไปด้วยความเร้าใจ เพื่อผู้ที่ต้องการทั้งความเร็วและเทคโนโลยีขั้นสูง ขับเคลื่อนด้วยพละกำลังสูงถึง 1,300 แรงม้า จาก Silicon Carbide E-Motor 4 ชุด และ ZEEKR 7X รถเอสยูวีไฟฟ้า 5 ที่นั่งสุดพรีเมียมสำหรับครอบครัวยุคใหม่ ที่เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชันระบบความปลอดภัยขั้นสุดพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สะดุดตา และพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง โดยทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้ถือเป็นการนำเสนอสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่สะท้อนถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยล่าสุดจาก ZEEKR

นาย แฟรงค์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ซีเคอาร์ อินเตอร์เนชันแนล กล่าว “ขณะเดียวกัน ZEEKR กำลังขยายตลาดสู่ระดับโลก โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่เรามีความมั่นใจว่าเทคโนโลยี และการออกแบบของเราจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ZEEKR ภูมิใจที่ได้ขยายไปกว่า 40 ตลาดทั่วโลก และมียอดส่งมอบมากกว่า 360,000 คัน รวมทั้งการเปิดโชว์รูมแห่งที่ 500 ที่ประเทศสิงคโปร์ในวันนี้ อีกทั้งรถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานที่ Chengdu Motor Show 2024 อย่าง ZEEKR 7X ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในประเทศจีน โดย ZEEKR 7X ส่งมอบไปแล้วกว่า 25,000 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 60 วันหลังการเปิดตัว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ ZEEKR”

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงานในครั้งนี้คือ Z-Talk ซึ่งนำโดย นาย อเล็กซ์ เป่า ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซีเคอาร์ อินเทลลิเจนท์ เทคโนโลยี พร้อมตัวแทนจากผู้ใช้งานจริงของรถ ZEEKR อย่าง แจ๊คกี้ – จักริน กังวานเกียรติชัย และ ดิว – วีรวัฒน์ วลัยเสถียร ที่จะมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่แท้จริงจากมุมมองของผู้ใช้งานรถยนต์ ZEEKR ในหัวข้อการพูดคุยที่ครอบคลุมถึงความรู้สึกเมื่อได้สัมผัสกับแบรนด์ ปัจจัยที่ทำให้มั่นใจในคุณภาพของ ZEEKR รวมไปถึงประสบการณ์ที่สร้างความประทับใจตลอดการใช้งาน

นายอเล็กซ์ เป่า ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซีเคอาร์ อินเทลลิเจนท์ เทคโนโลยี กล่าวว่า “ZEEKR ยังได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค โดยยืนหยัดที่จะคงไว้ซึ่งมาตรฐานระดับพรีเมียม ประสบการณ์ที่เหนือชั้น และความสบายใจในการใช้งาน ZEEKR ให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงลูกค้าเพื่อนำมาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตรงใจ ซึ่งถือว่าเป็นความพิเศษที่ ZEEKR เตรียมไว้ให้แก่ลูกค้า”

ภายในบูธของ ZEEKR ที่งาน Motor Expo 2024 ได้รับการออกแบบอย่างทันสมัย และสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยมีการจัดแสดงรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่พร้อมให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมอย่างใกล้ชิด ดังนี้ 

•ZEEKR X รถยนต์ไฟฟ้าคอมแพคเอสยูวีสุดหรู ที่เหมาะสำหรับคนเมือง ในรุ่น Standard ที่มาพร้อมมอเตอร์เดี่ยวระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังการขับขี่ 272 แรงม้า ระยะทางในการขับขี่ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ไกลถึง 540 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และรุ่น Flagship โดดเด่นด้าน Performance กับมอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อให้กำลังสูงถึง 428 แรงม้า โดยรุ่น Flagship จะมาพร้อมกับ Forged Wheel ขนาด 20 นิ้ว AR HUD, ไฟ Ambient Light และระบบเสียงรอบทิศทางจาก YAMAHA ทั้งหมด 13 ตำแหน่ง

•ZEEKR 009 รถเอ็มพีวีไฟฟ้าเซกเมนต์ลักชูรีที่ผสานความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส และนวัตกรรมสุดล้ำอย่างลงตัว สามารถวิ่งได้ไกลถึง 686 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ในการชาร์จเพียงครั้งเดียว ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง รองรับผู้โดยสารได้ 6 คน พิเศษด้วยเบาะที่นั่งผู้โดยสารแถวสองแบบ Sofaro First Class Airline Seats พร้อมโหมดการการปรับแบบ Eames Lounge Chair Mode ที่สามารถปรับเอนนอนได้เพียงปุ่มเดียว และโต๊ะแบบพับเก็บได้ เบาะนั่งบุด้วยหนัง Nappa แบบนุ่ม เบาะนั่งคนขับ ผู้โดยสารด้านหน้าและผู้โดยสารแถวสองมาพร้อมระบบนวดไฟฟ้า มีหน้าจอ OLED แบบทัชสกรีนขนาด 15.05 นิ้ว และหน้าจอเสมือนบนกระจก AR HUD ขนาด 35.95 นิ้ว พร้อมหน้าจอเพดาน สำหรับผู้โดยสารด้านหลังแบบ Touch Screen OLED ขนาด 17 นิ้ว ตกแต่งหรูหราพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทั้งไฟ Ambient Light พร้อมกับระบบเสียงรอบทิศทางจาก YAMAHA ทั้งหมด 30 ตำแหน่ง ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมประสิทธิภาพสูง พร้อมระบบ CCD Electromagnetic Damping รองรับการเดินทางสำหรับครอบครัวหรือผู้บริหารได้อย่างสมบูรณ์แบบ

•ZEEKR 001 FR, Hyper-Performing Electric Shooting Brake รถยนต์ซีดานทรงสปอร์ตที่จะมาทลายทุกข้อจำกัดของรถ Performance ด้วยพละกำลังสูงถึง 1,300 แรงม้า จาก Silicon Carbide E-Motor 4 ชุด ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 2.02 วินาที พร้อมระบบช่วงล่างแบบ High Performance และแบตเตอรี่ Qilin ขนาด 100 kWh เทคโนโลยี 800V รุ่นล่าสุดจาก CAT

•ZEEKR 7X รถเอสยูวีไฟฟ้า 5 ที่นั่งสุดพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะ สะดวกสบายด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ กว้าง นั่งสบาย พร้อมเบาะปรับไฟฟ้าทั้งผู้โดยสารหน้า และหลังพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยระบบขับเคลื่อน Silicon Carbide E-Motor 2 ชุด ช่วยให้ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.8 วินาที ระยะทางขับขี่สูงสุด 780 กิโลเมตร มาตรฐาน CLTC โดยรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งด้านสมรรถนะและความสะดวกสบาย มอบประสบการณ์เหนือระดับทั้งการเดินทางใกล้และไกลไปกับครอบครัวอย่างไร้กังวล

นอกจากการจัดแสดงผลิตภัณฑ์แล้ว บูธของ ZEEKR ยังแบ่งพื้นที่พิเศษออกเป็นโซนต่างๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้เข้าชม ไม่ว่าจะเป็น 009 Lounge ที่สะท้อนความหรูหราของรถเอ็มพีวีไฟฟ้า ZEEKR 009,ZEEKR Spirit Runway โซนจัดแสดงไดนามิกที่สะท้อนจิตวิญญาณ และเอกลักษณ์ของแบรนด์ ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อมุ่งเน้นแนวคิดแห่งจิตวิญญาณการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของการเดินทางด้วยยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี

เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า ZEEKR ยังได้มอบโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้ที่จองรถยนต์ภายในงานตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 31 ธันวาคม 2567 สำหรับท่านที่สนใจเป็นเจ้าของ ZEEKR 009 รับข้อเสนอเดียวกับ MOTOR EXPO หรือที่โชว์รูม ZEEKR House ทั่วประเทศ รวมมูลค่ากว่า 131,500 บาท*

•ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี พร้อม พ.ร.บ คุ้มครองนาน 1 ปี*

•การรับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

•การรับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปีหรือ 180,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

•บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี*

•ค่าอะไหล่ และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุดไม่เกิน 3 ครั้ง ภายในระยะเวลา 3 ปี หรือระยะทาง 60,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

•พิเศษสุด! สำหรับลูกค้าที่ได้รับส่งมอบรถ 1,000 ท่านแรก* รับฟรี Wallbox ขนาด 11 kW พร้อมแพ็กเกจติดตั้งมูลค่า 70,000 บาท*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

สำหรับทุกท่านที่สนใจเป็นเจ้าของ ZEEKR X ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2024 รับข้อเสนอพิเศษดังนี้

•ฟรี Wallbox ขนาด 7 kW พร้อมแพ็กเกจติดตั้ง*

•ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี พร้อม พ.ร.บ คุ้มครองนาน 1 ปี

•การรับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

• การรับประกันมอเตอร์ และแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ร่วมสัมผัสประสบการณ์ยานยนต์แห่งอนาคต และค้นพบแรงบันดาลใจในการเดินทางที่แตกต่าง พร้อมพบกับ

ZEEKR 001 FR และ ZEEKR 7X ได้ที่งาน Thailand International Motor Expo 2024 บูธ ZEEKR หมายเลข A13 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ – 10 ธันวาคม 2567

NETA ตั้งเป้าสู่ TOP 5 แบรนด์รถยนต์ในไทย

NETA ตั้งเป้าก้าวสู่ TOP 5 แบรนด์รถยนต์ในประเทศไทย ภายในปี 2573 ชูเทคโนโลยียานยนต์ใหม่แห่งอนาคต Super EREV

บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดตัวจัดแสดงนวัตกรรมทางเทคโนโลยียานยนต์ใหม่แห่งอนาคต Super EREV (Super Extended Range Electric Vehicle) ผ่านรุ่น NETA S Shooting Brake รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Wagon ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้คอนเซ็ปท์ “New Energy, Super Intelligent, More FUN” พร้อมรุกตลาดเต็มตัว เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีนี้ในรถรุ่นใหม่ปี 2568 ผู้สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์นวัตกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น ทั้ง NETA V-II และ NETA X พร้อมพบกับโปรโมชันพิเศษได้ที่บูธ NETA ภายในงานมหกรรมยานยนต์ (Thailand Internation Motor Expo) ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567

มร.ชู กังจื้อ (Mr.Shu GangZhi) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “NETA Auto ยังคงสานต่อวิสัยทัศน์ขององค์กร “สรรสร้างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า…เพื่อทุกคน (Tech for all)” พร้อมพัฒนาแผนการดำเนินงานในประเทศไทยภายใต้กลยุทธ์ “All in Thailand, All for Thailand” ในการยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ที่ทรงพลังและติดตั้งเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง NETA ได้คิดค้น และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ ของเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต และในวันนี้ NETA ขอแนะนำ เทคโนโลยี EREV นับเป็นนวัตกรรมสุดล้ำของรถยนต์ไฟฟ้า ที่ผสานประสิทธิภาพของพลังงานไฟฟ้า และความยืดหยุ่นของเครื่องยนต์สันดาปภายใน มีมอเตอร์ไฟฟ้าใช้เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เครื่องยนต์สันดาปภายในใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ โดยรถยนต์เทคโนโลยี EREV ทำให้สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าเต็มรูปแบบในระยะทางที่ยาวขึ้นได้ถึง 1,300 กิโลเมตรต่อน้ำมันหนึ่งถัง ชาร์จไฟได้เร็วขึ้น และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก”

“สำหรับ NETA เราภูมิใจที่จะแนะนำเทคโนโลยีที่เหนือกว่า EREV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ NETA “Super EREV” คือ เทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องยนต์สันดาปภายใน สามารถทำหน้าที่ขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าได้โดยตรง ทำให้รถ NETA สามารถขับเคลื่อนได้ แม้ในสภาวะที่แบตเตอรี่หมด หรือไม่ทำงานได้ พร้อมเผยโฉม “NETA S Shooting Brake” รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Wagon ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้คอนเซป “New Energy, Super Intelligent, More FUN” ที่มาพร้อมดีไซน์สุดล้ำในสไตล์ Wagon ที่ผสมผสานความโฉบเฉี่ยว และสปอร์ตเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทั้งนี้ NETA Auto ตั้งเป้าหมายแนะนำเทคโนโลยีนี้ในรถยนต์ NETA รุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวให้แก่ลูกค้าชาวไทย ปี 2568” มร.ชู กังจื้อ กล่าว

มร.ชู กังจื้อ เสริมว่า “อีกหนึ่งความภูมิใจ ที่ NETA X รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ SUV สามารถคว้ารางวัล“รถยนต์ไฟฟ้าที่เปี่ยมด้วยความคุ้มค่า” ประจำปี 2024” (Most Valuable Electric Car) มอบให้โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) นอกจากนี้ ในเดือน ตุลาคม 2024 ที่ผ่านมา NETA X คว้าอันดับ 1 ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า 100% ประเภทรถอเนกประสงค์ (SUV) ตามข้อมูลของกรมขนส่งทางบก ในขณะที่ NETA V-II มียอดจดทะเบียนรถไฟฟ้า 100% ประเภทรถอีโคคาร์ (Eco car) เป็นอันดับ 2  NETA Auto มั่นใจในศักยภาพการเติบโต และการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาลไทย โดย NETA ตั้งเป้าจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ 1 รุ่นทุกปี ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป และก้าวสู่การเป็น TOP 5 แบรนด์รถยนต์ในประเทศไทย ภายในปี 2573”

มร.ชู กังจื้อ เพิ่มเติมว่า “นอกจากข้อเสนอพิเศษ ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป แล้ว ทาง NETA ยังมีแคมเปญส่งท้ายปี เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข “ไมล์ทองคำ (Golden Miles)” NETA แจกหนัก ให้นักสะสมเลขไมล์ ยิ่งเลขไมล์รถเยอะ ยิ่งเพิ่มโอกาสรับรางวัลใหญ่ ถึง 10 รางวัล สำหรับเจ้าของรถที่เลขไมล์สะสมสูงสุด 10 อันดับแรก เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าที่ใช้งานรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน เปลี่ยนมาทดลองขับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% จาก NETA”

ข้อเสนอพิเศษในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป

สำหรับลูกค้าที่จองรถ NETA ภายในงาน Thailand International Motor Expo 2024 และที่ผู้จำหน่าย NETA ทั่วประเทศ และรับรถ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2567 ดังนิ้ :

NETA V-II

ดาวน์เริ่มต้นที่ 8,888 บาท ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 84 เดือน สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่กับ NLTH โดยต้องได้รับการอนุมัติและเกิดเป็นสัญญาภายในระยะเวลาที่สถาบันการเงินกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้เงื่อนไขการอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของ NLTH

•ฟรี! เครื่องชาร์จ NETA WALLBOX พร้อมค่าติดตั้ง จำนวน 1 ชุด มูลค่า 27,500 บาท

•ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี มูลค่า 20,000.44 บาท

•ฟรี! รับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่ High Voltage ตลอดอายุการใช้งาน (ตามเงื่อนไขการรับประกันพิเศษของบริษัทฯ) มูลค่า 32,000 บาท

•ฟรี! รับประกันรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี! ค่าแรงและค่าอะไหล่รถยนต์เมื่อเช็คระยะครั้งแรกที่ 5,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน(แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) มูลค่า 800 บาท

•ฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี มูลค่า 5,000 บาท

•ฟรี! ชุดสายชาร์จ มูลค่า 5,861 บาท

•ฟรี! ชุดพรมปูพื้น มูลค่า 1,500 บาท

NETA X

ดาวน์เริ่มต้นที่ 8,888 บาท ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 84 เดือน สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่กับ NLTH โดยต้องได้รับการอนุมัติและเกิดเป็นสัญญาภายในระยะเวลาที่สถาบันการเงินกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้เงื่อนไขการอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของ NLTH

•ฟรี! เครื่องชาร์จ NETA WALLBOX พร้อมค่าติดตั้ง จำนวน 1 ชุด มูลค่า 27,500 บาท

•ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี มูลค่า 26,500 บาท

•ฟรี! แพคเกจอินเตอร์เน็ตภายในรถยนต์ไม่จำกัดจำนวน (internet in vehicle) ระยะเวลา 3 ปี มูลค่า 5,000 บาท

•ฟรี! รับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่ High Voltage 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี! รับประกันรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

•ฟรี! ค่าแรงและค่าอะไหล่รถยนต์เมื่อเช็คระยะครั้งแรกที่ 5,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) มูลค่า 1,000 บาท

•ฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี มูลค่า 5,000 บาท

•ฟรี! ชุดสายชาร์จ มูลค่า 5,861 บาท

•ฟรี! ชุดพรมปูพื้น มูลค่า 1,500 บาท

* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

Super Extended Range Electric Vehicle (EREV)

Extended Range Electric Vehicle หรือ EREV เป็นรถยนต์พลังงานแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เหมือนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และมีเครื่องยนต์สันดาปภายใน พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟ เพื่อเพิ่มระยะการขับขี่ให้มากกว่าระยะทางจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว เทคโนโลยีนี้พัฒนาชึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ยังไม่พร้อมเปลี่ยนไปใช้รถพลังงานไฟฟ้า 100% เต็มตัว รถเทคโนโลยี EREV สามารถขับขี่แบบรถ EV และเติมน้ำมันเพื่อความอุ่นใจในทุกเส้นทาง สำหรับ Super EREV ของ NETA นั้น มีความพิเศษที่มีระบบสามารถให้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ผลิตกระแสไฟและจ่ายตรงไปยังมอเตอร์ขับเคลื่อนตัวรถ โดยไม่ต้องผ่านแบตเตอรี่ สามารถใช้ในกรณีที่แบตเตอรี่เกิดอุบัติเหตุ หรือได้รับความเสียหาย ไม่สามารถใช้งานต่อได้ แต่ด้วยระบบ Super EREV ของ NETA ผู้ขับขี่ยังสามารถนำพาตัวเองและตัวรถออกจากพื้นที่อันตราย เข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยได้ด้วยตัวเอง

แคมเปญ “ไมล์ทองคำ (Golden Miles)”

1. ลงทะเบียน และทดลองขับ NETA X หรือ NETA V-II ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 – 16 ธันวาคม 2567

– รับบัตรของขวัญโลตัส มูลค่า 100 บาท (จำนวน 6,000 รางวัล) จำนวนจำกัด หรือจนกว่าของจะหมด

2. จองรถ NETA X หรือ NETA V-II ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 – 16 ธันวาคม 2567 และออกรถ NETA V-II หรือ NETA X

รุ่น 401 Comfort ภายใน 31 ธันวาคม 2567 หรือ รับรถยนต์ NETA X รุ่น 480 Smart ภายใน วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568

– รับบัตรของขวัญโลตัส มูลค่า 500 บาท (จำนวน 1,200 รางวัล) จำนวนจำกัด หรือจนกว่าของจะหมด

3. ลงทะเบียนร่วมแคมเปญ เพิ่มโอกาสเป็น 1 ใน 10 เจ้าของรถที่เลขไมล์สูงที่สุด คว้ารางวัลใหญ่ 10 รางวัล*

– รับสร้อยคอทองคำ รางวัลละ 2 สลึง มูลค่ารางวัลละ 23,740 บาท (ราคา ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567) จำนวน 9 รางวัล

สำหรับเจ้าของรถที่มีเลขไมล์สูงที่สุด ลำดับที่ 1 – 9

– รับรถ NETA X รุ่น 401 Comfort มูลค่า 739,000 บาท จำนวน 1 รางวัล

สำหรับเจ้าของรถที่มีเลขไมล์สูงที่สุด ลำดับที่ 10

*ต้องเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยกเว้นระบบ BEV ขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รย.1) ในนามบุคคลธรรมดาที่มีเลขไมล์สะสมตั้งแต่ 50,000 กม.ขึ้นไป

ประกาศผลของรางวัลสำหรับผู้โชคดี ทาง Facebook Official ของ NETA Auto Thailand วันที่ 25 ธันวาคม 2567

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า NETA ในงาน Thailand International Motor Expo 2024

NETA X “Intelligent Premium C-SUV” 

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ SUV โดดเด่นด้วยภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบายตามสไตล์เอสยูวี มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและฟังก์ชันการใช้งานอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ระดับ 2.0  โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ NETA X รุ่น Comfort มาพร้อมแบตเตอรี่ ขนาด 51.8 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 401 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC) ราคา 739,000 บาท และ NETA X รุ่น Smart มาพร้อมแบตเตอรี่ ขนาด 62 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC) ราคา 799,000 บาท

NETA V-II “True Value City EV”

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car ที่ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว หน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย และกุญแจแบบสมาร์ทคีย์พร้อมระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ NETA V-II ให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุด 382 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มตามมาตรฐาน NEDC  โดย NETA V-II รุ่น SMART มาพร้อมระบบช่วยในการขับขี่ ADAS รวม  8 ระบบ และฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์ พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างครบครัน  โดยมีให้เลือก 2 รุ่น คือ NETA V-II รุ่น LITE ราคา 549,000 บาท และ NETA V-II รุ่น SMART ราคา 569,000 บาท

“ลามิน่าฟิล์ม” ยกทัพสุดยอดแคมเปญส่งท้ายปี ที่งาน Motor Expo 2024

“ลามิน่าฟิล์ม” ชี้ตลาดฟิล์มกรองแสงหดตัวรุนแรงตามอุตสาหกรรยานยนต์กว่า 25% กระทบยอดขายหดตัวในปีนี้ แต่น้อยกว่าตลาดในภาพรวม เหตุจากผู้บริโภคยังมั่นใจในคุณภาพและการให้บริการที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้ามากกว่า 10 ล้านคัน เดินหน้าจัดแคมเปญในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 41

นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร “ลามิน่า” ฟิล์มกลุ่มพิเศษคุณภาพสูง “ลูมาร์” ผลิตโดย อีสท์แมน เพอร์ฟอร์แมนซ์ฟิล์ม สหรัฐอเมริกา และอุปกรณ์บรรทุกสัมภาระ “ธูเล่” จากประเทศสวีเดน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ครบวงจร “แอลลักซ์” คุณภาพเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า การหดตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยในปี 2567 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดฟิล์มกรองแสง ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อเป้าหมายรายได้ของบริษัทในปีนี้ โดยได้ทำการปรับลดเป้าหมายการขายลงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมเช่นเดียวกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีการประเมินว่าอุตสาหกรรมยานยนต์น่าจะปิดตัวเลขการขายที่ไม่ถึง 6 แสนคันในปีนี้

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยมีการหดตัวอย่างรุนแรงจากปัญหาเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนที่พุ่งขึ้นสูง รวมถึงการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินก็มีข้อจำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดรถปิกอัพ ทำให้ในช่วง 10 เดือนแรกที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายรถยนต์เพียง 478,341 คันเท่านั้น หดตัวไปกว่า 26.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

“หากดูจากตลาดรถยนต์แล้ว ตลาดฟิล์มกรองแสงโดยรวมก็น่าจะมีทิศทางที่ไม่แตกต่างกันมาก คาดว่าตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์จะหดตัวไม่น้อยกว่า 25% ในขณะที่ตลาดฟิล์มอาคารคงที่ ซึ่งจะทำให้มูลค่าตลาดฟิล์มกรองแสงโดยรวมอยู่ที่ 1,000 – 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ถือว่ายากลำบากสำหรับผู้ประกอบการฟิล์มกรองแสงเช่นเดียวกัน”

ในส่วนของลามิน่าฟิล์มนั้น ในปีนี้ก็ยอมรับต้องมีการปรับเป้าหมายการขายลงเช่นเดียวกัน โดยคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมียอดจำหน่ายรวม 600 ล้านบาท หรือลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 19% ซึ่งเป็นการหดตัวที่น้อยกว่าตลาดและจะทำให้บริษัทสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดรวมไม่น้อยกว่า 33% เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่องในตลาดฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงเหมือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จากความผันผวนของอุตสาหกรรมยานยนต์ ก็จำเป็นที่จะต้องจับตาดูสถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่รัฐบาลมีแนวโน้มจะออกมาตรการช่วยเหลือ รวมถึงการปรับตัวของผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทย ว่าจะช่วยกันผลักดันยอดขายรถยนต์ไปในทิศทางใดในปี 2568

นางสาวจันทร์นภา กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ลามิน่าฟิล์มได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน นอกเหนือจากการที่บริษัทได้อยู่คู่กับลูกค้าในประเทศไทยมายาวนานย่างเข้าปีที่ 30 ในปัจจุบัน และเป็นฟิล์มกรองแสงเพียงรายเดียวที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้รถสูงสุดมากกว่า 10 ล้านคันในประเทศไทย ที่ให้การยอมรับทั้งเรื่องสินค้าที่มีคุณภาพสูง มีความหลากหลาย และการให้บริการที่โดดเด่น

ในปัจจุบัน ฟิล์มกรองแสงลามิน่าได้รับการแนะนำและบอกต่อจากทั้งในโลกออนไลน์ และผ่านเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ชั้นนำกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงศูนย์ติดตั้งฟิล์มกรองแสงลามิน่าอีกกว่า 770 แห่ง ซึ่งได้รับการโหวตให้เป็นฟิล์ม Voted By The People หรือฟิล์มกรองแสงที่ได้รับการโหวต แนะนำ และบอกต่อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในเมืองไทยด้วยการโหวตจาก 4 ส่วนหลัก ประกอบไปด้วย 1. โหวต…จากอินฟลูเอนเซอร์แถวหน้าทั่วเมืองไทย 

2. โหวต…จากลูกค้าผู้ใช้รถจริงมากกว่า 10 ล้านรายจากฐานข้อมูลของบริษัท

3. โหวต…จากกว่า 40 คาร์คลับและโชว์รูมรถยนต์ทั่วไทย

4. โหวต…จากองค์กรชั้นนำทั่วเมืองไทยและทั่วโลก ที่เห็นได้จากรางวัลที่ได้รับมามากกว่า 75 รางวัลจาก 22 สถาบันตลอด 30 ปีที่ผ่านมา

โดยรุ่นฟิล์มกรองแสงที่ได้รับการโหวตสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 Lamina Ceramatrix ฟิล์มเซรามิคแท้ตัวจริง อันดับ 2 Lamina CM Series ทั้งรุ่น CM Icon และ CM1 และ อันดับ 3 Lamina Ceramic Iris และ Ceramic Onyx ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งทั้งหมดเป็นฟิล์มดิจิทัลกันร้อนคุณภาพสูง เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม สวยงามและล้ำสมัย จนได้รับการตอบรับจากผู้ใช้รถอย่างล้นหลาม

“ลามิน่าคำนึงถึงความต้องการพื้นฐานของฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ทั้งเรื่องของคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนจากแสงแดด การป้องกันรังสียูวี ความทนทานในการใช้งาน การรองรับสัญญาณดิจิทัลยุคใหม่ หรือแม้แต่เรื่องของความสวยงามเมื่อนำมาติดตั้งให้กับรถ ก็ยังเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคคำนึงถึงมาโดยตลอด และลามิน่าฟิล์ม ก็ได้เดินหน้าแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร”

ลามิน่าฟิล์ม ยังได้ต่อยอดและพัฒนานวัตกรรมฟิล์มกรองแสงกันความร้อนสูง ฟิล์มนิรภัยและฟิล์มตกแต่ง เพื่อที่อยู่อาศัยอย่างบ้าน คอนโดมิเนียม และอาคารพาณิชย์ รวมถึงฟิล์มเพื่อสัตว์เลี้ยงแบรนด์แรกในประเทศไทยกับ Lamina Buddy Series และฟิล์มเซรามิคเพื่อบ้านยุคใหม่ Lamina Ceramic Solar ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาปนิก และเจ้าของที่พักอาศัยทั่วเมืองไทยกว่า 1 หมื่นโครงการ

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะตอกย้ำในการเป็นผู้นำในตลาดฟิล์มกรองแสงดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ยังมีการพัฒนาและอบรมช่างติดตั้งฟิล์มกรองแสงทั่วประเทศ รวมถึงการปรับในส่วนของผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการติดตั้งให้เหมาะสม ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้า พร้อมนำเสนอโปรโมชั่นมากมายในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 41

สำหรับแคมเปญพิเศษในงานนี้ เพียงจองติดตั้งฟิล์มภายในงานกับ 3 รุ่นฟิล์มที่ได้รับการโหวตสูงสุด ทั้ง Lamina Digital Ceramatrix ฟิล์มดิจิทัลเซรามิคแท้ 100% ตัวจริงคุณภาพอันดับ 1 Lamina Digital CM ICON  ฟิล์มดิจิทัลบูสต์ เพื่อยานยนต์อัจฉริยะยุค 5G และ Lamina Digital IRIS  ฟิล์มเซรามิคฟีลกู๊ด สบายทุกแดด สนุกทุกทริป มีสิทธิ์ร่วมสนุกหมุนวงล้อ ลุ้นรับรางวัลมากมาย มูลค่ารวมกว่า 30,000 บาท

ผู้ที่สนใจจะติดตั้งฟิล์มกรองแสงลามิน่า ห้ามพลาดการเข้าร่วมงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 41 ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม พ.ศ.2567 นี้ ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมแสดงสินค้าที่บูธหมายเลข H04 อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งภายในงานจะมีการแสดงสินค้า โปรโมชั่นที่น่าสนใจต่างๆ อย่างครบครัน ห้ามพลาดกันอย่างแน่นอน

จูนเหยา ออโต นำรถไฟฟ้าอัจฉริยะ JY AIR อวดโฉมในงาน Thailand Motor Expo 2024

บริษัท จูนเหยา ออโต (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ในเครือเดียวกับบริษัท จูนเหยา กรุ๊ป (JuneYao Group) เตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในงาน Thailand Motor Expo 2024 ที่ให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสกับรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะแห่งอนาคต JY AIR เป็นครั้งแรก นับเป็นนวัตกรรมการเดินทางที่ก้าวล้ำจากการบินสู่การขับเคลื่อนบนท้องถนน ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหายานยนต์ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะ เทคโนโลยีทันสมัย ความสะดวกสบาย ความคุ้มค่าในทุกมิติ และบริการพิเศษที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2567 ณ บูธ B17 ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ผสมผสานเทคโนโลยีแห่งการขับขี่อัจฉริยะและดีไซน์ล้ำสมัย JY AIR คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ ด้วยระบบ Crystal OS ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยในทุกการเดินทาง ระบบนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการตั้งค่าแสงไฟ ระบบปรับอากาศ และการปรับแต่งการขับขี่ให้เหมาะสมตามสภาพถนน ทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติระดับ 2+ ที่ช่วยเสริมประสบการณ์การขับขี่ให้ราบรื่นและมั่นคง

JY AIR ยังมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งจองรถในงาน Thailand Motor Expo 2024 และออกรถกับ JY AIR โดยผู้ออกรถจะได้รับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็น

•ตั๋วเครื่องบิน JuneYao Air แบบไม่ระบุปลายทาง 4 ที่นั่งต่อปี ติดต่อกัน 3 ปี ทั้งหมด 12 ที่นั่ง 

•บัตรสมาชิก Gold Membership ของ Juneyao Airlines นาน 3 ปี

•ประกันแบตเตอรี่ยาวนานถึง 8 ปี หรือสูงสุด 800,000 กิโลเมตร ที่จะช่วยยกระดับความคุ้มค่าของการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ JY AIR แตกต่างจากคู่แข่งคือบริการหลังการขายที่ครบวงจร ด้วยการจัดหาอะไหล่สำรองทุกประเภทภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 วัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ โชว์รูมและศูนย์บริการของ JY AIR ยังได้รับการออกแบบให้ทันสมัย เพียบพร้อมด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดไฟแนนซ์อย่างมืออาชีพ

ภายในงาน Thailand Motor Expo 2024 ผู้เข้าร่วมงานยังสามารถทดลองขับ JY AIR เพื่อสัมผัสกับสมรรถนะและความสะดวกสบายของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ด้วยตัวเอง พร้อมพบกับทีมงานที่พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคโนโลยีและบริการต่าง ๆ ที่ตอบสนองทุกความต้องการ นอกจากนี้ JY AIR ยังมาพร้อมตัวเลือกสีที่หลากหลาย มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว Moon White, สีฟ้า Meteorite Blue, สีเขียว Aurora Green, และสีดำ Galactic Black ซึ่งแต่ละสีถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้ใช้งาน

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมงาน Thailand Motor Expo 2024 ได้ที่บูธ B17 เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ล้ำสมัยและเหนือระดับ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ JY AIR ได้ที่เว็บไซต์ www.juneyaothailand.com

หรือเฟซบุ๊ก Juneyao Auto Thailand www.facebook.com/Juneyaothailand เพื่อไม่พลาดข่าวสารและโปรโมชันที่น่าสนใจ

JY AIR พร้อมแล้วที่จะพาผู้บริโภคก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเดินทางด้วยนวัตกรรมที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความสะดวกสบาย และความคุ้มค่าที่เหนือชั้น สัมผัสอนาคตแห่งการขับเคลื่อนด้วยตัวคุณเองที่งานนี้เท่านั้น

โอโมดา แอนด์ เจคู อวดโฉมคอนเซ็ปต์คาร์ ในงาน Motor Expo 2024

โอโมดา แอนด์ เจคู ประเทศไทย มอบข้อเสนอพิเศษ “ซื้อรถชิงรถ” ในงาน Motor Expo 2024 พร้อมยลโฉมรถยนต์คอนเซ็ปต์แห่งอนาคตจาก “Chery Automobile”

โอโมดา แอนด์ เจคู ประเทศไทย แบรนด์รถยนต์ภายใต้ Chery Automobile บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติจีน ผู้ส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรายใหญ่ที่สุดของจีน และเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ซึ่งในปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ OMODA & JAECOO เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 หรือ Thailand International Motor Expo 2024 ที่มาพร้อมกับแนวคิดบูธจัดแสดงภายใต้แนวคิด “NEW ENERGY, NEW ECO, NEW ERA” สะท้อนความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการร่วมสร้างระบบนิเวศพลังงานใหม่ที่เปลี่ยนแปลงโลกของเราอย่างยั่งยืน ด้วยโมเดลรถสุดล้ำที่ตอบโจทย์การใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกับการสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ภายในงานโอโมดา แอนด์ เจคู ได้ส่งมอบข้อเสนอพิเศษสุดเร้าใจต้อนรับลูกค้าเข้ามาเป็นสมาชิก OJ Club กับโปรโมชัน “แคมเปญ Motor Expo Deal” ร่วมเป็นเจ้าของรถ OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV ได้ง่าย ๆ ผ่อน OMODA C5 EV เริ่มต้นเพียง 5,000 กว่าบาทต่อเดือน(2) พร้อมรับส่วนลดสูงสุดมูลค่ากว่า 150,000 บาท** (เฉพาะรุ่น) และลุ้นรับสิทธิพิเศษอีกมากมายภายในงาน

นายฉี เจี๋ย ประธานบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “Chery Automobile ในฐานะบริษัทแม่ของโอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) มีประสบการณ์ด้านยานยนต์ระดับโลกมากว่า 27 ปี ที่ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไปยังกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ขึ้นแท่นเป็นผู้ส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (passenger car) รายใหญ่ที่สุดของจีน ด้วยยอดส่งออกกว่า 1 ล้านคัน เติบโต 24% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับโอโมดา แอนด์ เจคู ในปี 2567 ประสบความสำเร็จในการทำตลาดกว่า 32 พื้นที่ทั่วโลก ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 360,000 คัน และได้กลายเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก นอกจากนี้ ภายในปี 2568 จะเริ่มดำเนินการผลิตและประกอบรถยนต์ในประเทศไทย พร้อมทั้งดำเนินสายงานการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้าทั้งหมดของ  Chery Automobile และ OMODA & JAECOO อีกด้วย

นายพิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำยานยนต์ชั้นนำระดับโลก วันนี้ ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป เราได้นำรถยนต์รุ่นเรือธง JAECOO 7 PHEV เวอร์ชันพวงมาลัยขวามาอวดโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยรถยนต์ JAECOO 7 PHEV ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ด้วยประสิทธิภาพประหยัดพลังงานสูงสุด มาพร้อมกับความปลอดภัยที่เหนือชั้น ที่มีระยะทางขับขี่ไฮบริดกว่า 1,000 กิโลเมตร และอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญก็คือ การเผยโฉม OMODA C9 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย OMODA C9 เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดสมรรถนะสูง มีกำลังขับเคลื่อนรวมสูงสุด 618 แรงม้า ที่สร้างมาตรฐานใหม่ด้านดีไซน์ความสวยงามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นสายของกระแสน้ำ มีขุมพลังการขับขี่ที่เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยีระบบกันสะเทือนแบบ Continuous Damping Control รองรับขับขี่ให้เหมาะสมกับทุกสภาพถนน พร้อมระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ถึง 17 ฟังก์ชัน นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์แห่งอนาคตคอนเซ็ปต์ (Concept Car) สุดล้ำมาโชว์ในเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่ รถ iCar X25 รถครอสโอเวอร์ในรูปแบบ One Box off-road MPV ออฟโรดสุดแข็งแกร่ง และรถยนต์คอนเซ็ปต์ Chery Fengyun E05 กับดีไซน์คูเป้สุดโฉบเฉี่ยวที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์การขับขี่สุดหรูหราผสมผสานกับความสะดวกสบายตลอดเส้นทาง”

สำหรับผู้ที่จอง JAECOO 6 EV รับข้อเสนอ “แคมเปญ Motor Expo Deal: JAECOO 6 EV พร้อมทุกสภาพถนนก่อนใคร” สำหรับผู้ที่จอง JAECOOO 6 EV รับข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo มูลค่ากว่า 100,000 บาท** กับข้อเสนอพิเศษ ประกอบด้วย

1.ดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้น 1.68 %(2)

2.ฟรี! ค่าบำรุงรักษารถ ตลอดระยะเวลา 5 ปี(5) มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท*

3.ฟรี! โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมติดตั้ง(4) มูลค่า 25,000 บาท*

4.ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 (ซ่อมห้าง) เป็นระยะเวลา 1 ปี(3) มูลค่า 21,000 บาท*

5.ฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง มูลค่า 10,000 บาท*

6.ฟรี! Garmin รุ่นเอ็กซ์คลูซีฟ JAECOO x Garmin FORERUNNER 165 มูลค่า 9,990 บาท*

7.ฟรี! Application T-Box service 5 ปี มูลค่า 5,000 บาท*

8.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ OMODA | Earthology Studio มูลค่า 1,400 บาท*

9.ฟรี! พรม JAECOO มูลค่า 1,500 บาท ยี่ห้อและชนิดของพรมเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด*

ข้อเสนออื่นๆ เพิ่มเติมสำหรับผู้ที่จองและรับรถ JAECOO 6 EV ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 1,000 คันแรก(1)

1.การรับประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

oการรับประกันคุณภาพรถใหม่ (Warranty)

oการรับประกันระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน (Driving motor system)

oการรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery)

2.ฟรี! สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า (V-to-L)*

3.ฟรี! สายชาร์จเคลื่อนที่ AC Portable Charger*

สำหรับผู้ที่จองรถ OMODA C5 EV โอโมดา แอนด์ เจคู มีแคมเปญ Motor Expo Deal รับข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo มูลค่ากว่า 150,000 บาท** กับข้อเสนอพิเศษ ประกอบด้วย

1.เลือกรับ ดอกเบี้ย 0% หรือ ขับฟรี 3 เดือน และช่วยผ่อน 5,000 บาท เป็นเวลา 8 เดือน หรือ ดอกเบี้ย 0% และช่วยผ่อน 5,000 บาท เป็นเวลา 9 เดือน หรือ ดาวน์ต่ำ 10% และช่วยผ่อน 5,000 บาท เป็นเวลา 9 เดือน*

2.ฟรี! โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมติดตั้ง(4) มูลค่า 25,000 บาท*

3.ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 (ซ่อมห้าง) เป็นระยะเวลา 1 ปี(3) มูลค่า 19,000 บาท*

4.ฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี ตลอด 24 ชั่วโมง มูลค่า 10,000 บาท*

5.ฟรี!  Application T-Box service 5 ปี มูลค่า 5,000 บาท*

6.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ OMODA | Earthology Studio มูลค่า 1,400 บาท*

7.ฟรี! พรม OMODA มูลค่า 1,500 บาท ยี่ห้อและชนิดของพรมเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด*

ข้อเสนออื่นๆ เพิ่มเติมสำหรับผู้ที่จองและรับรถ OMODA C5 EV ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 1,000 คันแรก(1)

1.ฟรี! การรับประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

oการรับประกันคุณภาพรถใหม่ (Warranty)

oการรับประกันระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน (Driving motor system)

oการรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery)

2.ฟรี! สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า (V-to-L) เฉพาะรุ่น OMODA C5 EV Long Range Ultimate*

3.ฟรี! สายชาร์จเคลื่อนที่ AC Portable Charger*

ฉลองโอกาสพิเศษส่งท้ายปี! ลูกค้า OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV ที่จดทะเบียนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,539,000 บาท โดยจะจับรางวัลในวันที่ 23 มกราคม 2568 และประกาศผู้โชคดี 28 มกราคม 2568 ผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัท ประกอบด้วยของรางวัลดังนี้

•รถยนต์ OMODA C5 EV Long Rang Plus จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 899,000 บาท

•สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 30 รางวัล มูลค่า 390,000 บาท

•บัตรชาร์ตรถไฟฟ้า มูลค่า 2,500 บาท จำนวน 100 รางวัล มูลค่า 250,000 บาท

พิเศษสำหรับลูกค้า JAECOO 6 EV มีสิทธิ์ ซื้อชุดแต่งในราคาพิเศษ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 ของมีจำนวนจำกัด

สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถเข้ามาชมและสัมผัสรถคันจริงได้ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป บูธโอโมดา แอนด์ เจคู (A01) ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี หรือทดลองขับขี่และจองรถ OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV ที่ผู้จำหน่ายทั่วประเทศของ OMODA & JAECOO ทั้ง 22 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั่วประเทศไทย

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

(1) ข้อเสนอพิเศษนี้เฉพาะลูกค้าที่รับมอบรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567

(2) สถาบันการเงินที่ร่วมรายการ ได้แก่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน), ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด และ โดยการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนด

(3) เฉพาะบริษัทประกันภัยที่ร่วมโครงการกับทางบริษัทฯ เท่านั้น ได้แก่ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน)

(4) ติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 15 เมตร (1 ครั้ง) จากตู้ควบคุมไฟฟ้าในบ้าน (ตู้เมน) (ไม่รวมแท่นชาร์จ หากต้องการติดตั้งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)

(5) ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุด 5 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) โดยลูกค้าต้องนำรถเข้ารับการบำรุงรักษาทุก 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ตลอดระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น เพื่อรักษาสิทธิการบำรุงรักษาตามระยะทาง และเป็นไปตามเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพรถใหม่

*ข้อกำหนดและเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขข้างต้นโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

**ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

หมายเหตุ :

โปรแกรมส่งเสริมการขายนี้สำหรับรถไฟฟ้า OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV เท่านั้น ทั้งนี้ไม่รวมรถฟลีทบางประเภท (กรุณาสอบถามรายละเอียดรุ่นรถฟลีทที่ร่วมรายการกับบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save