- Advertisement -
30.5 C
Bangkok
Home Blog Page 31

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย มอบถุงยังชีพผู้ประสบอุทกภัย 4 จังหวัด ภาคใต้

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ผนึกกำลังผู้แทนจำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ร่วมส่งมอบถุงยังชีพ 2,400 ถุง ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัดรวมมูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ผนึกกำลังตัวแทนผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยส่งมอบถุงยังชีพไปแล้วกว่า 2,400 ถุง รวมมูลค่าความช่วยเหลือทั้งสิ้น 1.2 ล้านบาท และจะทยอยเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องในจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพื้นที่ประสบอุทกภัยและได้รับความเดือดร้อนต่อไป

โดยภายในถุงยังชีพประกอบด้วยสิ่งของจำเป็นที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในชีวิตประจำวัน เช่น อาหารแห้ง น้ำดื่มสะอาด ยารักษาโรค และของใช้ในครัวเรือน รวมถึงของใช้จำเป็นต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยให้สามารถดำรงชีวิตได้ในช่วงเวลาที่เผชิญกับความยากลำบาก

การส่งมอบความช่วยเหลือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย ที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือสังคมในยามวิกฤติ และสนับสนุนการฟื้นฟูชุมชนให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยภายในปี 2024 นี้ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยได้มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนไปแล้วทั้งสิ้น 8,400 ถุง พร้อมมอบเงินซ่อมแซมให้แก่โรงเรียน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จากสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อต้นปี ที่ผ่านมา จำนวน 12 โรงเรียน โรงเรียนละ 120,000 บาท อีกทั้งมอบคอมพิวเตอร์สภาพดีจำนวน 300 เครื่อง บริจาคให้แก่โรงเรียน 200 โรงเรียน โดยรวมเป็นมูลค่าเงินที่ช่วยเหลือรวมทั้งสิ้น 6 ล้านบาท

ทั้งนี้ มูลนิธิฮอนด้ายังได้เตรียมความพร้อมในการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบในอนาคต โดยร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทางฮอนด้าขอส่งกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยทุกท่าน เราพร้อมอยู่เคียงข้างและส่งมอบความช่วยเหลือ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติอุทกภัยในครั้งนี้ และกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ววัน ดังเจตนารมณ์ของฮอนด้าในการสร้างสรรค์คุณค่าเพื่อเป็นองค์กรที่สังคมไทยต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไป

ผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จังหวัดสงขลา

บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด, บริษัท พี.วี.เคไซเคิล จำกัด, บริษัท สงวนพาณิชย์ พลัส จำกัด และ บริษัท อริยะมอเตอร์ จำกัด ผู้รับมอบ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายวิทยา จันทน์เสนะ

ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า จังหวัดนราธิวาส

บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด , ห้างหุ้นส่วนจำกัด นราธิวาสสหมิตรมอเตอร์, บริษัท ประยูรพาณิชย์ นราธิวาส จำกัด และผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า บริษัท นราธิวาส ฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด ผู้รับมอบ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม และ ศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ดร.ชารีฟท์ สือนิ

ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า จังหวัดยะลา

บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด น่ำฮั่วจั่นยะลา, บริษัท อริยะมอเตอร์ จำกัด สาขายะลา, ห้างหุ้นส่วนจำกัด แสงเจริญนาประดู่ และผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า บริษัท ยะลาฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด ผู้รับมอบ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายอำพล พงศ์สุวรรณ

ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า จังหวัดปัตตานี

บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัดบริษัท อริยะมอเตอร์ (ปัตตานี) จำกัด และผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า บริษัท ปัตตานีฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด ผู้รับมอบ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นางพาตีเมาะ สะดียามู

#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda #HowWeMoveYou #ไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย #กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปล่อย Teaser เผยโฉมรถแวนขุมพลังไฟฟ้า 100%

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมพลิกโฉมรถแวนขุมพลังไฟฟ้า 100% ด้วยแพลตฟอร์ม “VAN.EA” ปักหมุดโชว์รถต้นแบบในปี 2568 ก่อนลงตลาดจริงในปี 2569

Der Beginna einer neuen Ära bei Mercedes-Benz Vans / Dawn of a new era of Mercedes-Benz Vans

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกาศความพร้อมสำหรับการเปิดตัวแพลตฟอร์ม VAN.EA (Van Electric Architecture) ในปี พ.ศ 2569 ชูความโดดเด่นของแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรถแวนพลังงานไฟฟ้า 100% โดยเฉพาะ โดยถูกพัฒนาให้มีโครงสร้างแบบแยกส่วน (Modular) และรองรับการปรับขนาดได้หลากหลายรูปแบบ (Scalable) พร้อมเผยโฉมรถแวนต้นแบบที่สร้างขึ้นจากแพลตฟอร์ม VAN.EA พร้อมกันทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2568 ตอกย้ำการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ยุคใหม่ของรถแวนพลังงานไฟฟ้า 100% อย่างเต็มรูปแบบ VAN.EA เป็นแพลตฟอร์มสำหรับรถแวนส่วนบุคคลในกลุ่มลักชัวรี่ ที่มีความแตกต่างกับรถเชิงพาณิชย์ในกลุ่มพรีเมี่ยมอย่างสิ้นเชิง และในอนาคต โมเดลรถแวนส่วนบุคคลของเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ตั้งแต่กลุ่มลูกค้าที่ใช้งานแบบครอบครัว ไปจนถึงกลุ่มที่ใช้รถแวนในรูปแบบ VIP Shuttle ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางเทียบเท่ารถลีมูซีน โดยตั้งใจที่จะขยายไลน์อัพโมเดลรถแวนในระดับ Top-End Luxury พร้อมนำเสนอเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใคร

รถแวนต้นแบบพลังงานไฟฟ้า 100% ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่กำลังจะเผยโฉมให้เห็นพร้อมกันทั่วโลก ในช่วงต้นปีหน้า จะสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการออกแบบยนตรกรรมที่มาพร้อมความหรูหราและความสง่างามในทุกมิติ โดยที่ยังคงความโดดเด่นของรถแวนในเรื่องพื้นที่ห้องโดยสารและความอเนกประสงค์ที่สามารถครอบคลุมการใช้งานของลูกค้าในทุกรูปแบบ

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นต่างๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือ ลงทะเบียนเพื่อทดลองขับได้ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือ ติดตามข่าวสารอัปเดตผ่านทาง Facebook : Mercedes-Benz Thailand, IG : @MercedesBenzThailand และ LINE : @mercedesbenzth

มิตซูบิชิ มอบประกาศนียบัตรให้แก่ศึกษาผู้ชนะโครงการฝึกงานยอดเยี่ยม

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าส่งเสริมการศึกษา มอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ชนะโครงการฝึกงานยอดเยี่ยมและสำเร็จหลักสูตรจากโครงการ ‘MMTh Talent Internship Program’ ครั้งที่ 6 ประจำปี 2567

บรรยายภาพ : นายจรูญ บัญญัติ (ที่ 6 จากขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม สายงานกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลและสิ่งแวดล้อม บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ มร.ฮิโระอะคิ ทาโบะ (ที่ 7 จากขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม สายงานกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลและสิ่งแวดล้อม บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มอบรางวัลผู้ชนะโครงการฝึกงานยอดเยี่ยม (Top 5  Internship Project Award) พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้แก่นักศึกษาที่สำเร็จหลักสูตรฝึกงานจากโครงการ ‘MMTh Talent Internship Program’ ครั้งที่ 6 ประจำปี 2567

กรุงเทพฯ – 16 ธันวาคม 2567 : บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดโครงการฝึกงานยอดเยี่ยม (Top 5 Internship Project Award) พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้แก่นักศึกษา ที่สำเร็จหลักสูตรฝึกงานจากโครงการ ‘MMTh Talent Internship Program’ ครั้งที่ 6 ประจำปี 2567 โดยโครงการนี้เปิดโอกาสให้นักศึกษาริเริ่มและสร้างสรรค์โครงการที่สนับสนุนการพัฒนาการดำเนินงานของบริษัทสู่ความเป็นเลิศ เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสนำความรู้เชิงทฤษฎีมาปรับใช้กับการทำงานจริง ทั้งยังส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเต็มรูปแบบนอกห้องเรียน อีกทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพในอนาคต

นายจรูญ บัญญัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม สายงานกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลและสิ่งแวดล้อม บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในฐานะบริษัทยานยนต์ชั้นนำตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรในทุกภาคส่วนของธุรกิจและการดำเนินงาน ตั้งแต่ในสำนักงานไปจนถึงในโรงงานผลิต อุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยความรู้ทางวิศวกรรมเท่านั้น โครงการฝึกงานของเราจึงส่งเสริมทักษะการทำงานเป็นทีมในสถานการณ์การทำงานจริงอีกด้วย และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นสถานที่ฝึกฝนเพื่อให้นักศึกษาได้สั่งสมความรู้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ผ่านการถ่ายทอดความเชี่ยวชาญและทักษะการทำงานให้กับนักศึกษาฝึกงานด้วยประสบการณ์อันยาวนานในธุรกิจยานยนต์ เราตระหนักดีว่าทุกคนสามารถมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมและเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศในอนาคต”

มร.ฮิโระอะคิ ทาโบะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม สายงานกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลและสิ่งแวดล้อม บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โครงการ ‘MMTh Talent Internship Program’ นี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้เราได้สานต่อความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะส่งเสริมให้นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อน้องๆ ทุกคนสำเร็จการศึกษา ผมมีความยินดีและหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับน้องๆ ทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทของเราเพื่อร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยต่อไป”

นางสาวศรัยรัตน์ จินดา นักศึกษาฝึกงานคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้ชนะโครงการอันดับ 1 ด้วยโครงการ Safety Improvement Lifter โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ 100% กล่าวว่า “ตนเองและเพื่อนๆ นักศึกษาฝึกงานทุกคนรู้สึกขอบคุณทางบริษัทฯ ที่เปิดโอกาสให้ได้เข้าร่วมการฝึกงานในครั้งนี้ ทำให้ได้เรียนรู้การทำงานจริง ซึ่งถือเป็นประสบการณ์อันมีค่าที่ได้รับนอกเหนือจากการศึกษาในมหาวิทยาลัย โครงการนี้มีบทบาทสำคัญในการต่อยอดความรู้ที่เรียนมาและรู้สึกภูมิใจมากที่ได้มาฝึกงานที่นี่ อีกทั้งจะนำความรู้ที่ได้ตลอดการฝึกงานไปปรับใช้ต่อไปในอนาคต”

นายก้องภพ โสภณพิเชฐ นักศึกษาฝึกงานคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า “ประสบการณ์ที่ได้รับจากบริษัทฯ นั้นมีประโยชน์และมีคุณค่า โดยบริษัทฯ ได้เปิดโอกาสให้ทดลองฝึกแก้ปัญหาจากสถานการณ์จริง ได้เพิ่มองค์ความรู้ในสายงานวิศวกรรมตามที่สนใจ พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในสายงาน ทำให้ประสบการณ์การฝึกงานในครั้งนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ได้ความรู้ และรู้สึกภาคภูมิใจมากที่ได้ฝึกงานที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย”

โครงการ ‘MMTh Talent Internship Program’ เป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มโครงการด้านการศึกษา สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ความรับผิดชอบต่อสังคม ‘สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย’ ภายใต้เสาหลัก 3 ด้าน คือ การศึกษา สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม โดยมอบโอกาสให้นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยนำความรู้ทางทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์การทำงานจริงที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นอกจากนี้ นักศึกษายังได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อสร้างความพร้อมในการประกอบอาชีพสู่ความสำเร็จในอนาคต

โครงการฝึกงาน ‘MMTh Talent Internship Program’ ครั้งที่ 7 ประจำปี 2568

เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 15 มกราคม 2568

เกณฑ์การรับสมัคร : – เกรดเฉลี่ยสะสมสาขาวิศวกรรมศาสตร์  ไม่ต่ำกว่า 2.50

                                 – เกรดเฉลี่ยสะสมสาขาอื่น ไม่ต่ำกว่า 2.75

สมัครได้ที่ : https://bit.ly/3TvjjCS หรือสแกนคิวอาร์โค้ดตามแนบ

หมายเหตุ : การพิจารณาคัดเลือกนิสิต-นักศึกษา เข้าร่วมโครงการฯ ของบริษัทฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด

มิตซูบิชิ ส่งต่อธารน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าส่งต่อธารน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จังหวัดยะลา

บรรยายภาพ : นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ (ที่ 2 จากขวา) นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมด้วย นายวิศาล จิรภาพงพันธ์ (ขวาสุด) รองนายกเทศมนตรีนครยะลา เป็นตัวแทนรับมอบเงินสนับสนุนมูลค่า 100,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในจังหวัดยะลา จาก บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย พร้อมด้วยผู้บริหารจาก บริษัท เอ.เอ.เอส มอเตอร์ จำกัด ซึ่งได้สมทบถุงยังชีพเพื่อบริจาคให้กับผู้ประสบอุทกภัย นำโดย นายภาณุค์ปกรณ์ อภินันธนพัฒน์ (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ นางสาวรตาพิรญาร์ อภินันธนพัฒน์ (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ และ นางนภอมรพรรณ อภินันธนพัฒน์ (ซ้ายสุด) กรรมการผู้จัดการ

ยะลา – 13 ธันวาคม 2567 : บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมส่งมอบความห่วงใยและกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดยะลา โดยมอบเงินสนับสนุนจำนวน 100,000 บาท ให้แก่ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เทศบาลนครยะลา เพื่อสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ สอดคล้องกับปณิธานในด้านการช่วยเหลือสังคมของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ “สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย”

นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนสังคมไทยในยามที่ต้องเผชิญความยากลำบาก การสนับสนุนครั้งนี้แก่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของเทศบาลนครยะลา สะท้อนถึงความตั้งใจของเราในการบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชนที่ได้รับผลกระทบ และช่วยเหลือพวกเขาให้ฟื้นฟูกลับมาได้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน และพร้อมส่งมอบความช่วยเหลือไปถึงอย่างทันท่วงที”

นอกจากนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังให้บริการตรวจเช็กสภาพรถฟรี! สำหรับรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นซึ่งได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย พร้อมตรวจเช็กด้วยเครื่อง MUT-III รวม 23 รายการ และมอบส่วนลดร้อยละ 30 สำหรับค่าอะไหล่ ค่าแรง และค่าเคมีภัณฑ์* ที่ศูนย์บริการมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั่วประเทศ โดยติดต่อมิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดรับสายทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด สำหรับลูกค้าผู้มีประกันภัยรถยนต์ จะสามารถรับส่วนลดตามรายการส่งเสริมการขายนี้ได้เฉพาะค่าใช้จ่ายที่ไม่อยู่ในความคุ้มครองของบริษัทประกันภัยเท่านั้น

มิตซูบิชิ มอบทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนไทยปีที่ 5

“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน” เดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 5 มอบ 100 ทุน ให้แก่เยาวชนไทย ส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษา

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เดินหน้าสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมต้น (ม.1-3) จำนวน 100 คน ในโครงการ “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน” ประจำปี 2567 โดยเป็นนักเรียนจากจังหวัดชลบุรี 70 คน และจังหวัดปทุมธานี 30 คน โครงการนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 5 หลังจากเริ่มดำเนินการมอบทุนการศึกษาครั้งแรกในปี 2563

มร.เออิจิ โอกาวะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ กรรมการมูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 64 ปี โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทั้งยังมีการจ้างงานจำนวนมาก เราเริ่มต้นโครงการ “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน” ในปี 2563 ด้วยความร่วมมือจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา โดยได้มอบทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนที่เรียนดีและประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ มาแล้วเป็นจำนวนทั้งหมด 574 ทุน ซึ่งรวมถึง 100 ทุน ที่มอบในปี 2567 นี้ และหวังว่าจะได้เห็นนักเรียนทุนของเราได้ศึกษาเล่าเรียนได้อย่างไม่ขาดตอน พัฒนาศักยภาพเชิงวิชาการของตนเองได้อย่างเต็มที่ และนำความรู้และประสบการณ์มาร่วมกันพัฒนาประเทศไทยต่อไป” มร.โอกาวะ กล่าวเพิ่มเติม

นางผลิพร ธัญญอนันต์ผล ผู้อำนวยการสำนักสื่อสาธารณะและระดมความร่วมมือ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า “ขอขอบคุณโครงการ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และมูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้รับโอกาสเล่าเรียนอย่างต่อเนื่อง และช่วยแบ่งเบาภาระด้านการเงินของหลายครอบครัว สอดคล้องกับหลักคิดของ กสศ. ที่ว่า ‘ให้การศึกษาคือกิจของทุกคน’ หรือ All for Education”

พิธีมอบทุนการศึกษาในจังหวัดชลบุรีจัดขึ้น ณ โรงงานแหลมฉบัง 3 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำโดย มร.เออิจิ โอกาวะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และกรรมการมูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เด็กนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาจำนวนทั้งหมด 70 คน ยังได้มีโอกาสเยี่ยมชมโรงงานแห่งที่ 2 และโรงงานแห่งที่ 3 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เพื่อสัมผัสเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์ที่ล้ำสมัย

สำหรับพิธีมอบทุนการศึกษาในจังหวัดปทุมธานีจัดขึ้น ณ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรมของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำโดย นายจรูญ บัญญัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม สายงานกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลและสิ่งแวดล้อม

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นพิธีมอบทุนการศึกษา เด็กนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาจำนวนทั้งหมด 30 คน ยังได้เยี่ยมชมสถาบันการศึกษาและฝึกอบรมที่เป็นแหล่งพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญให้กับพนักงานของผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ทั้งในด้านบริการการขาย บริการหลังการขาย และบริการซ่อมบำรุงโดยช่างเทคนิค

มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม 2563 ในฐานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมไทยด้วยการดำเนินงานผ่านหลักสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การศึกษา สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ภายใต้วิสัยทัศน์ความรับผิดชอบต่อสังคม “สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย” ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

มิตซูบิชิ รับรางวัล ผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์สูงสุด จากสรยท.

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รับรางวัล “ผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์สูงสุด” จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.)

นางสาวริสึโคะ คาเนะโคะ (ซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมการบริการ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด รับมอบรางวัลเกียรติยศ “ผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์สูงสุด” จาก นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ในพิธีประกาศรางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ณ เดอะฮอลล์ แบงค็อก (The HALLS Bangkok) เมื่อเร็วๆ นี้

ในโอกาสนี้ นางสาวริสึโคะ กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้รับยกย่องให้เป็น ‘ผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์สูงสุด’ จวบจนถึงปัจจุบัน เรามียอดการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิสะสมรวมมากกว่า 7 ล้านคัน โดยร้อยละ 80 ถูกส่งออกไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จึงเป็นกำลังสำคัญในการดำเนินงานในต่างประเทศของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะมอบผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับลูกค้าของเรา ด้วยเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิร่วม 200 แห่ง ทั่วประเทศไทย”

โรงงานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีกำลังการผลิตกว่า 400,000 คันต่อปี ปัจจุบันผลิตรถยนต์ 5 รุ่น ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี  มิตซูบิชิ ไทรทัน  มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ แอททราจ  และ มิตซูบิชิ มิราจ ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพการผลิตและการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทได้รับรางวัลมากมายทั้งในระดับประเทศและในระดับนานาชาติ

ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นบริษัทรถยนต์รายแรกของไทยที่ส่งออกรถยนต์ที่ผลิตโดยคนไทยสู่ต่างประเทศ โดยรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นแรกที่ส่งออกจากไทยคือ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ แชมป์ ซึ่งส่งไปยังประเทศแคนาดา เมื่อปี พ.ศ. 2531 จากนั้นได้ขยายการผลิตและการส่งออกอย่างต่อเนื่อง จวบจนมียอดส่งออกรถยนต์สะสมรวมในปีสำคัญๆ ดังนี้

ปี พ.ศ.ยอดส่งออกรถยนต์สะสม ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย
2550ยอดส่งออกรถยนต์สะสมรวม 1 ล้านคัน
2556ยอดส่งออกรถยนต์สะสมรวม 2 ล้านคัน
2559ยอดส่งออกรถยนต์สะสมรวม 3 ล้านคัน
2562ยอดส่งออกรถยนต์สะสมรวม 4 ล้านคัน
2567ยอดส่งออกรถยนต์สะสมรวมกว่า 5.5 ล้านคัน

จุดแข็งในด้านการผลิตและการส่งออกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เอื้อต่อการพัฒนาและต่อยอดบริการหลังการขาย โดยสามารถอำนวยความสะดวกสูงสุดให้กับลูกค้าในการจัดหาอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งได้อย่างพร้อมสรรพ ควบคู่กับบริการอันยอดเยี่ยมของช่างเทคนิคผู้ชำนาญการ ผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิร่วม 200 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าส่งมอบบริการด้านการขายและบริการหลังการขายด้วยมาตรฐานสูงสุด ภายใต้แนวคิด “เราดูแล…คุณแค่ขับ” เพื่อสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับลูกค้าทุกๆ ท่าน

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ชวนกันวิ่ง ชวนกันให้ ครั้งที่ 5

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดงานวิ่งการกุศล “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ชวนกันวิ่ง ชวนกันให้ ครั้งที่ 5” มอบเงินบริจาค 850,000 บาท ให้แก่ โรงพยาบาลเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี เพื่อสมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย”

บรรยายภาพ : นายแพทย์ ปิยะวิทย์ หมดมลทิน (ที่ 3 จากขวา) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกาะจันทร์ พร้อมด้วย นางสาวนงลักษณ์ สุวรรณโท (ที่ 2 จากขวา) พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ เป็นตัวแทนโรงพยาบาลและเหล่าบุคลากรรับมอบเงินบริจาคสมทบทุนมูลค่า 850,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี สำหรับจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์จาก งานวิ่งการกุศล “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ชวนกันวิ่ง ชวนกันให้ ครั้งที่ 5” โดย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำโดย มร. เรียวอิจิ อินาบะ (กลาง) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย มร.โนโบรุ สึจิ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานคณะกรรมการบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มร.เออิจิ โอกาวะ (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มร.ชิน คุโบะ (ซ้ายสุด) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์องค์กร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ (ขวาสุด) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบเงินบริจาคจำนวน 850,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี ตามเจตนารมณ์ของงานวิ่งการกุศล “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ชวนกันวิ่ง ชวนกันให้ ครั้งที่ 5” (Mitsubishi Motors Charity Run 2024 #5 “Together We Run, Together We Share’) เพื่อสมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย”

มร.เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เราขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในงานวิ่งการกุศล “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ชวนกันวิ่ง ชวนกันให้ ครั้งที่ 5” ซึ่งไม่เพียงช่วยส่งเสริมสุขภาพในกลุ่มผู้เข้าร่วมงาน แต่ยังเป็นการสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนผ่านการบริจาคสมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลเกาะจันทร์ งานวิ่งการกุศลครั้งนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการพัฒนาด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานเพื่อสังคมภายใต้หลักสำคัญด้าน ‘สุขภาพ’ อีกด้วย”

นายแพทย์ ปิยะวิทย์ หมดมลทิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกาะจันทร์ กล่าวว่า “เราขอขอบคุณ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รวมไปถึงนักวิ่งและผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดงานทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการสนับสนุนเงินบริจาคในครั้งนี้ นับเป็นประโยชน์อย่างมากในการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ซึ่งจะช่วยให้เราปรับปรุงการให้บริการทางการแพทย์และทำให้ชุมชนท้องถิ่นสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น”

สำหรับงานวิ่งการกุศล “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ชวนกันวิ่ง ชวนกันให้ ครั้งที่ 5” ในปีนี้ มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 6,600 คน พร้อมการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม อาทิ เสื้อนักวิ่งที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล และส่งเสริมการคัดแยกขยะแต่ละประเภท รวมถึงขยะรีไซเคิล อีกทั้งยังมีบูธนำเสนอโครงการเพื่อสังคมตามแกนหลักทั้ง 3 ด้านของบริษัทฯ และกิจกรรมแจกกล้าไม้ให้แก่ผู้ร่วมงานรวมทั้งสิ้น 3,000 ต้น เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม สานต่อโครงการ “รากกล้าแห่งความยั่งยืน” ของบริษัท

นายพีระ สำอางค์อินทร์ หนึ่งในนักวิ่ง Fun Run ระยะทาง 5 กิโลเมตร กล่าวว่า “ผมเข้าร่วมงานวิ่งการกุศลของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เป็นการร่วมทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพกับครอบครัวที่ทำให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน พวกเรารู้สึกดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลเกาะจันทร์และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าการบริจาคในครั้งนี้จะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดให้แก่ชุมชน”

นางสาวสรัญญา ดีสมเลิศ หนึ่งในนักวิ่ง Mini Marathon ระยะทาง 10 กิโลเมตร กล่าวเสริมว่า “ดิฉันมาร่วมกิจกรรมนี้เป็นปีแรก ซึ่งประทับใจบรรยากาศงานในปีนี้มาก ทั้งเรื่องการจัดงานดี รวมถึงวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของสถานที่จัดงาน ทำให้การวิ่งมีความสนุกมากขึ้น ท้ายที่สุดดิฉันภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมสุขภาพและมีส่วนขับเคลื่อนในการดูแลสุขภาพของผู้คนในชุมชนท้องถิ่นผ่านการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์”

เกรท วอลล์ มอเตอร์ กวาดยอดจองในงาน Motor Expo 2024 ทะลุ 2,060 คัน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ กวาดยอดจองทะลุ 2,060 คัน ในงาน Motor Expo 2024 เผยท็อป 3 รถยนต์พลังงานใหม่ที่มียอดจองสูงสุด GWM ORA Good Cat, GWM HAVAL JOLION HEV และ GWM HAVAL H6 HEV

กรุงเทพฯ 13 ธันวาคม 2567 – เกรท วอลล์ มอเตอร์ ฉลองความสำเร็จส่งท้ายปีมะโรง ปิดยอดจองจากมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ด้วยยอดจองรวมทั้งสิ้น 2,060 คัน ติดอันดับ 1 ใน 10 แบรนด์รถยนต์ที่มียอดจองสูงสุดภายในงาน โดยรถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรก นำโดย GWM ORA Good Cat มียอดจองสูงถึง 1,272 คัน GWM HAVAL JOLION HEV มียอดจองอยู่ที่ 246 คัน และ GWM HAVAL H6 HEV ด้วยยอดจองที่ 228 คัน และรุ่นอื่น ๆ อีกทั้งสิ้น  314 คัน ในขณะที่อีกสองรุ่นไฮไลต์ที่ส่งตรงมาจากประเทศจีนเพื่อให้คนไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดอย่าง GWM WEY 80 PHEV Executive Extended Edition และ GWM TANK 700 Hi4-T ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่สะดุดตาและนวัตกรรมล้ำหน้าที่สร้างความต่างในตลาดทั้งเซกเมนต์รถยนต์เอ็มพีวีและรถยนต์เอสยูวี ทั้งหมดนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ส่งท้ายปี 2567 ได้อย่างงดงาม ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดที่ยังคงความดุเดือด

มร.ไมเคิล ฉง กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านในไทยที่ให้การสนับสนุน เกรท วอลล์ มอเตอร์ เป็นอย่างดีและอบอุ่นเสมอมา จากยอดจองของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในงาน

Motor Expo 2024 นี้ พบว่าลูกค้าของเรายังคงให้ความสนใจในรถยนต์พลังงานใหม่ โดย 66.65% เป็นกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หรือ EV ตามมาด้วยรถยนต์เอสยูวีเครื่องยนต์ไฮบริด 31.94% และ 1.41% เป็นลูกค้ารถยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริด สำหรับรถกระบะไฮบริดคันแรกในไทยอย่าง GWM POER SAHAR HEV ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่มองหาทางเลือกใหม่ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยและความสะดวกสบาย รวมถึงประสบการณ์การขับขี่แบบเฟิร์สคลาส นอกจากนี้ การนำอีก 2 รุ่นไฮไลต์ ทั้ง  GWM WEY 80 PHEV Executive Extended Edition และ GWM TANK 700 Hi4-T มาจัดแสดงในไทยเป็นครั้งแรกได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นภายในงานอีกด้วย ด้วยเหตุเหล่านี้จึงเป็นเครื่องพิสูจน์และเน้นย้ำถึงการที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ที่มีนวัตกรรมที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์เพื่อตอบสนองความต้องการในทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง และยังเป็นการร่วมผลักดันประเทศไทยสู่ระบบนิเวศยานยนต์พลังงานใหม่”

ภายในงาน Motor Expo 2024 ครั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้สำรวจความคิดเห็นของผู้เข้าเยี่ยมชมบูธกว่า 1,329 คน เกี่ยวกับรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่นำมาจัดแสดง โดยพบข้อมูลที่น่าสนใจต่างๆ ดังต่อไปนี้

GWM POER SAHAR HEV จากผลการสำรวจพบว่า ลูกค้ากว่า 50% มองหารถกระบะที่มีราคาอยู่ในช่วง 0.85 – 1.149 ล้านบาท โดย GWM POER SAHAR HEV เป็นรถกระบะที่มีความโดดเด่นในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากรถกระบะคันอื่นที่มีอยู่ในตลาด (28%) ขนาดที่ใหญ่และกว้างขวาง (23%) และความล้ำสมัยและมีสไตล์ (21%) ทั้งนี้ 3 อันดับที่ลูกค้าชื่นชอบในรถกระบะคันนี้ คือ การออกแบบภายใน (19%) ระบบฝาท้ายอัจฉริยะที่เปิด-ปิดได้ 2 รูปแบบ (19%) และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยทั้งด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบาย (17%)

ด้าน GWM WEY 80 PHEV ก็ได้รับการตอบรับที่ล้นหลามจากลูกค้ากลุ่มเอ็มพีวี โดยจากผลสำรวจพบว่า เทคโนโลยีอันล้ำสมัย ดีไซน์ทั้งภายในและภายนอก รวมถึงขนาดของตัวรถที่ใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์ คือเหตุผล 3 อันดับแรกในการพิจารณาซื้อ GWM WEY 80 PHEV โดยสีภายในที่ลูกค้าชื่นชอบมากที่สุดคือ สีดำ (67%) สีขาว-น้ำเงิน (24%) และสีน้ำตาล (9%) นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาถึงการใช้งานรถยนต์เอ็มพีวี ลูกค้าส่วนใหญ่จะใช้รถยนต์ประเภทนี้ในการท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ (29%) ใช้ในการเดินทางในชีวิตประจำวัน (27%) และใช้ในการส่งบุตรหลานไปโรงเรียน (21%) โดยส่วนใหญ่ตั้งงบประมาณสำหรับการซื้อรถยนต์ประเภทนี้ไว้ในช่วงประมาณ 2.0 – 2.49 ล้านบาท

สำหรับ GWM TANK 700 Hi4-T ถือเป็นรถยนต์เอสยูวีที่ได้รับความสนใจสูงจากผู้เข้าเยี่ยมชมบูธ โดยลูกค้าให้ความชื่นชอบดีไซน์ภายนอก การออกแบบภายใน จอแสดงผลและจอมัลติมีเดียด้านหน้า และคันเกียร์มากที่สุดตามลำดับ โดยจะใช้รถยนต์คันนี้ในการท่องเที่ยวสไตล์ออฟโรด 40% ท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ทั่วไป 28% และออกทริปท่องเที่ยวระยะยาว 17%

ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่คาดหวังให้ GWM TANK 700 Hi4-T ใช้เครื่องยนต์เบนซินมากที่สุด ตามมาด้วยระบบปลั๊กอิน-ไฮบริด และเครื่องยนต์ดีเซลตามลำดับ โดยลูกค้าให้คำจำกัดความของรถยนต์เอสยูวีระดับไฮเอนด์คันนี้ว่า มีความทันสมัย ดุดัน และมีความเป็นเอกลักษณ์

นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีการเปิดให้ทดลองขับรถยนต์พลังงานใหม่รุ่นต่างๆ พบว่ารถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมในการทดลองขับมากที่สุดคือ GWM ORA Good Cat GT, GWM TANK 300 HEV และ GWM POER SAHAR HEV ตามลำดับ โดยลูกค้าได้แสดงความประทับใจภายหลังจากการทดลองขับในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความโดดเด่นของดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในที่ดูประณีต ฟีลลิ่งการขับขี่ ประสบการณ์การขับขี่โดยรวม การควบคุมการขับขี่ที่ดีเยี่ยม เทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาซื้อรถยนต์ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

สำหรับผู้ที่พลาดชมนวัตกรรมใหม่ๆ จาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในงาน Motor Expo 2024 สามารถเข้าไปสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับเทคโนโลยีเพื่อการเดินทางแห่งอนาคตได้ที่ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ โปรโมชัน Thailand International Motor Expo ครั้งที่ 41 ยังเปิดให้ผู้ที่สนใจเลือกรับดีลพิเศษและสิทธิประโยชน์อีกมากมายเพื่อฉลองปลายปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 นี้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GWM แอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ www.gwm.co.th หรือสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GWM Contact Center 02-668-888

โตโยต้า เปิดโครงการประกวดวาดภาพระบายสี TOYOTA Dream Car Art Contest 2025

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดโครงการประกวดวาดภาพระบายสี “โตโยต้า รถยนต์ในฝัน” TOYOTA Dream Car Art Contest 2025”  ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย ดร.วีระ แข็งกสิการ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ นางศิริลักษณ์ มีมาก รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนางสาวสิริรักษ์ ชูสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมเปิดโครงการประกวดวาดภาพระบายสี “โตโยต้า รถยนต์ในฝัน” “TOYOTA Dream Car Art Contest 2025” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ณ TOYOTA ALIVE บางนา

นายศุภกร รัตนวราหะ กล่าวว่า “โครงการนี้เป็นโครงการที่โตโยต้าให้ความสำคัญ และดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 ด้วยความมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชน ได้พัฒนาความรู้ ความสามารถ ทักษะทางด้านศิลปะ การประกวดในปีนี้จัดขึ้น ภายใต้เเนวคิด “รถยนต์ในฝัน” ที่นอกจากจะให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออกทางด้านจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์อย่างเป็นอิสระ ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจในเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตอีกด้วย

ในปีนี้ บริษัทฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อันหาที่สุดมิได้ที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดในระดับประเทศ สำหรับเยาวชนที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม อันดับ 1 ของทั้ง 3 รุ่น และบริษัทฯ จะมอบทุนการศึกษา พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ให้กับเยาวชนที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม พร้อมกับการนำผลงานของผู้ชนะเลิศทั้ง 9 ผลงาน ไปจัดแสดง ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในรูปแบบ Digital Animation หรือ ภาพเคลื่อนไหว เพื่อให้เห็นความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบที่น่าสนใจมากขึ้น

นอกจากนี้ ผลงานของผู้ชนะเลิศจะถูกส่งเข้าร่วมประกวด “TOYOTA Dream Car Art Contest” ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยคว้ารางวัลระดับโลกมาแล้วกว่า 46 รางวัล”

นายศุภกร รัตนวราหะ กล่าวแสดงความขอบคุณว่า “ขอขอบคุณ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ให้การสนับสนุนการร่วมประชาสัมพันธ์โครงการ และส่งผลงานของโรงเรียนในสังกัดเข้าร่วมกิจกรรม ทั้งโรงเรียนรัฐบาล เอกชน เด็กด้อยโอกาส และเด็กกำพร้า เพื่อให้น้องๆ ได้เติมเต็มความฝันเเละจินตนาการร่วมกับโครงการของเรา

ตลอดจนผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ที่สนับสนุนและให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรม รวมถึงการเสริมความรู้ด้านศิลปะแก่นักเรียนก่อนการประกวด ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพ”

โครงการในปีนี้ จัดขึ้นต่อเนื่องภายใต้เเนวคิด “รถยนต์ในฝัน” โดยมีรายละเอียดของโครงการ และการรับสมัครเข้าประกวด ดังนี้

การประกวดแบ่งออกเป็น 3 รุ่นระดับอายุ

• ระดับอายุต่ำกว่า 8 ปี

• ระดับอายุ 8 – 11 ปี

• ระดับอายุ 12 – 15 ปี

รางวัลการประกวดระดับประเทศในแต่ละระดับอายุ

รางวัลที่ 1 : ทุนการศึกษา 30,000 บาท โล่รางวัล และประกาศนียบัตร พร้อมถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

รางวัลที่ 2 : ทุนการศึกษา 20,000 บาท โล่รางวัล และประกาศนียบัตร

รางวัลที่ 3 : ทุนการศึกษา 10,000 บาท โล่รางวัล และประกาศนียบัตร

รางวัลชมเชย : 7 รางวัล ทุนการศึกษา 2,000 บาท และประกาศนียบัตร

สำหรับการประกวดระดับประเทศคณะกรรมการจะทำการคัดเลือกผลงานที่มีความคิดสร้างสรรค์จินตนาการที่ยอดเยี่ยมที่สุด ในแต่ละรุ่นจำนวน 3 ผลงาน รวมทั้งสิ้น 9 ผลงาน และประกาศผลผู้ชนะการประกวดภาพวาดระบายสีใน เดือนมิถุนายน 2568

ผู้ชนะการประกวดระดับประเทศ รางวัลที่ 1-3 ของทุกรุ่นอายุ รวม 9 ผลงานได้รับสิทธิ์ส่งเข้าร่วมประกวดในเวทีระดับโลก

รางวัลการประกวดระดับโลก

ทุนการศึกษาจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น

Grand Prize Winner : ผู้ชนะเลิศได้รับ ทุนการศึกษามูลค่า 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

โรงเรียนได้รับ ทุนการศึกษามูลค่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

Best Finalist : ผู้ชนะเลิศได้รับ ทุนการศึกษามูลค่า 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

Special Award : ผู้ชนะเลิศได้รับทุนการศึกษามูลค่า 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

โรงเรียนได้รับทุนการศึกษามูลค่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

เชิญสมัครร่วมกิจกรรมประกวดภาพวาดระบายสี ในหัวข้อ

“โตโยต้า รถยนต์ในฝัน” หรือ “TOYOTA Dream Car Art Contest 2025” ที่ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ช่องทางการสมัคร : ดาวน์โหลดเอกสาร เเละสมัครออนไลน์ได้ที่ www.toyota.co.th/toyotadreamcarthailand

วิธีการส่งผลงาน : ส่งผลงานจริงทางไปรษณีย์ :

บริษัท ดีรติ จำกัด (ผู้ประสานงานโครงการ)

14 ซอยสุคนธสวัสดิ์ 19 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว

กรุงเทพมหานคร 10230

โทร 095 741 6959

ระยะเวลารับสมัคร : ตั้งแต่วันนี้ จนถึง กุมภาพันธ์ 2568

จุดประกายความฝัน จุดประกายทุกจินตนาการ ส่งเสริมเด็กไทย

กับการประกวดวาดภาพระบายสี “TOYOTA Dream Car Art Contest 2025”

ติดตามรายละเอียดการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่

Facebook : www.facebook.com/DreamCarArtContest

Website : www.toyota.co.th/toyotadreamcarthailand

อีซูซุ จัดประกวดวาดภาพดิจิทัล “อีซูซุเยาวชนสัมพันธ์” ประจำปี 2567 ชิงรางวัล 500,000 บาท

อีซูซุร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เดินหน้าจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ทางด้านศิลป์กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ผ่านการจัดประกวดวาดภาพรูปแบบดิจิทัลในโครงการ “อีซูซุเยาวชนสัมพันธ์” ประจำปี 2567 โดยเชิญชวนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาสายสามัญทั่วประเทศ ร่วมส่งผลงานรูปแบบดิจิทัลสุดสร้างสรรค์ในรอบคัดเลือก ภายใต้หัวข้อ “พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อย่าเผลอทำผิด คิดก่อนแชร์” ผ่านเว็บไซต์ www.isuzuyouthrelations.com ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2568 ชิงรางวัลทุนการศึกษาพร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท

กลุ่มตรีเพชร โดย มร.ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้อินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องใกล้ตัว และเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตของผู้คนสมัยนี้ การใช้คอมพิวเตอร์ รวมถึงสมาร์ทโฟนอย่างไม่ระวัง จึงอาจทำให้ผู้ใช้พลาด ทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และทำร้ายผู้อื่นในทางอ้อมโดยไม่รู้ตัว เราเห็นถึงความสำคัญของการตระหนักรู้พระราชบัญญัติดังกล่าวของเยาวชนรุ่นใหม่ จึงต้องการมีส่วนช่วยป้องกัน และควบคุมการกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้น ผ่านโครงการ “อีซูซุเยาวชนสัมพันธ์” ประจำปี 2567 โดยการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะในรูปแบบดิจิทัล (Digital Painting) ผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเลต หรือเครื่องมือดิจิทัลอื่น ๆ ในโปรแกรมที่กำหนด ภายใต้หัวข้อ “พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อย่าเผลอทำผิด คิดก่อนแชร์” ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย ในรอบคัดเลือก และรอบชิงชนะเลิศ โดยผู้ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ จะได้เข้าแข่งขันในหัวข้อที่กำหนดขึ้นใหม่ ณ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ต่อไป”

สำหรับผลงานที่โดดเด่น สามารถสื่อสารตามหัวข้อที่กำหนดได้อย่างยอดเยี่ยม จะได้รับรางวัลต่าง ๆ ดังนี้

•รางวัลชนะเลิศจำนวน 2 รางวัล จากระดับการศึกษาละ 1 คน จะได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 50,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ

•รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งจำนวน 2 รางวัล จากระดับการศึกษาละ 1 คน จะได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ

•รางวัลรองชนะเลิศอันดับสองจำนวน 2 รางวัล จากระดับการศึกษาละ 1 คน จะได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 20,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ

•รางวัลชมเชยจำนวน 14 รางวัล จากระดับการศึกษาละ 7 คน จะได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 10,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ

•รางวัล Popular Vote จำนวน 10 รางวัล จากระดับการศึกษาละ 5 คน จะได้รับทุนการศึกษาคนละ 2,500 บาท

•พิเศษ! รางวัล Content Creator 10 รางวัล สำหรับผู้เข้าแข่งที่จัดทำคลิปที่เกี่ยวข้องกับผลงานหรือกิจกรรมนี้อย่างสร้างสรรค์ ลงในช่องทาง TikTok ด้วยบัญชีผู้ใช้งานของผู้ส่งผลงาน เปิดเป็นสาธารณะ พร้อมติดแฮชแท็ก #ISUZU #IYRP2024 #ISUZUYOUTHRELATIONS #อีซูซุเยาวชนสัมพันธ์2567 โดย 10 คลิปที่ถูกใจคณะกรรมการมากที่สุด และทำถูกต้องตามกติกา จะได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 2,500 บาท

ซึ่งในปีนี้ โครงการ ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยชั้นนำมาตัดสินดังนี้

•ผศ.ดร. วิชญ มุกดามณี

คณบดีคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

•รศ.ดร. ศุภชัย อารีรุ่งเรือง

รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

•ผศ. อนุพงษ์ จันทร

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาศิลปกรรม คณะสถาปัตยกรรมศิลปะและการออกแบบสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ผู้ที่สนใจสามารถหาข้อมูล และสมัครเข้าร่วมการประกวดวาดภาพดิจิทัล ในโครงการ “อีซูซุเยาวชนสัมพันธ์ 2567” ได้ที่ www.isuzuyouthrelations.com  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่แผนกสื่อสารการตลาด-เอ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด โทร. 0-2966-2127-9 

ติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai   

กติกาและเงื่อนไขของโครงการอีซูซุเยาวชนสัมพันธ์ 2567

บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

1. คุณสมบัติผู้สมัคร

1.1 กำลังศึกษาอยู่ในสายสามัญของสถาบันการศึกษาของรัฐและเอกชนทั่วประเทศ แบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

          1.2 การสมัครเข้าประกวด จำเป็นที่จะต้องมีาจารย์ที่ปรึกษาเป็นผู้ส่งรายชื่อเข้าประกวด

2. วิธีการสมัคร

2.1 อาจารย์ที่ปรึกษาทำการสมัครเข้าร่วมโครงการอีซูซุเยาวชนสัมพันธ์ 2567 (“โครงการ”) ผ่านเว็บไซต์ www.isuzuyouthrelations.com โดยกรอกอีเมลและกำหนดรหัสผ่านของตนเอง

2.2 อาจารย์ที่ปรึกษากรอกข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลสถาบันการศึกษาโดยตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง และกดยืนยันสมัครเข้าร่วมโครงการบนเว็บไซต์

2.3 เมื่ออาจารย์ที่ปรึกษาทำการสมัครบนเว็บไซต์เสร็จสิ้นระบบจะส่งลิงก์ยืนยันการสมัครไปยังอีเมลของอาจารย์ที่ปรึกษา โดยอาจารย์ที่ปรึกษาจะต้องทำการกดที่ลิงก์เพื่อยืนยันการสมัครเข้าร่วมโครงการ

2.4 เมื่อทำการยืนยันการสมัครเข้าร่วมโครงการเรียบร้อยแล้ว อาจารย์ที่ปรึกษาจะต้องเข้าสู่ระบบบนเว็บไซต์ www.isuzuyouthrelations.com เพื่อส่งรายชื่อนักเรียนผู้สมัครเข้าประกวดโครงการอีซูซุเยาวชนสัมพันธ์ (“ผู้สมัคร”) โดยอาจารย์ที่ปรึกษา 1 ท่าน จะสามารถส่งผู้สมัคร ได้ระดับชั้นละไม่เกิน 20 คน รวมทั้งหมดไม่เกิน 40 คน

2.5 อาจารย์ที่ปรึกษาเลือกระดับชั้นที่ต้องการส่งผู้สมัคร และกรอกข้อมูลผู้สมัครในใบสมัคร และหนังสือยินยอม (ข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ครบถ้วน

2.6 อาจารย์ที่ปรึกษากดพิมพ์ใบสมัคร และหนังสือยินยอม (ข้อมูลส่วนบุคคล) เพื่อให้ผู้สมัคร และผู้มีอำนาจปกครอง นำไปกรอกข้อมูล ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลงนาม และประทับตราของสถาบันการศึกษาให้ครบถ้วน มิฉะนั้นจะถือว่าใบสมัครไม่สมบูรณ์ ดังนี้

o        ใบสมัครเข้าร่วมประกวดในโครงการจะต้องลงนามโดยผู้สมัคร ผู้มีอำนาจปกครอง อาจารย์ประจำโรงเรียน และประทับตราของสถาบันการศึกษา

o        หนังสือยินยอม (ข้อมูลส่วนบุคคล) ให้เก็บ รวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัคร จะต้องลงนามโดยผู้มีอำนาจปกครอง และผู้สมัคร

2.7 อาจารย์ที่ปรึกษาสแกนหรือถ่ายภาพที่ชัดเจนของใบสมัครและหนังสือยินยอม (ข้อมูลส่วนบุคคล) ที่กรอกข้อมูลลงนาม และตราประทับของสถาบันการศึกษาครบถ้วน อัปโหลดใบสมัคร และหนังสือยินยอม (ข้อมูลส่วนบุคคล) ของผู้สมัครแต่ละคน ขึ้นบนเว็บไซต์ และรอตรวจสอบสถานะการสมัครบนเว็บไซต์

2.8 เมื่อสถานะการสมัครแสดงข้อความว่า “เสร็จสมบูรณ์” จะถือว่าการสมัครเสร็จสมบูรณ์

3. วิธีการส่งผลงาน

3.1 เมื่ออาจารย์ที่ปรึกษาทำการสมัครให้ผู้สมัครเสร็จสมบูรณ์ ระบบจะทำการส่งลิงก์สำหรับตั้งรหัสผ่านไปที่อีเมลของผู้สมัครที่อาจารย์ที่ปรึกษาได้กรอกไว้

3.2 ผู้สมัครตั้งรหัสผ่าน ยืนยันรหัสผ่าน และกรอกข้อมูลบนเว็บไซต์ www.isuzuyouthrelations.com

3.3 เมื่อผู้สมัครตั้งรหัสผ่าน และยืนยันรหัสผ่านเสร็จสมบูรณ์ ผู้สมัครจะสามารถอัปโหลดผลงานขึ้นบนเว็บไซต์ได้

4. การประกวด

4.1     รอบคัดเลือก

o        ผู้สมัครทำการเข้าสู่ระบบบนเว็บไซต์ www.isuzuyouthrelations.com

o        ผู้สมัครทำการส่งผลงานบนเว็บไซต์ โดยสร้างสรรค์ผลงานการวาดภาพดิจิทัลผ่านโปรแกรม Procreate® หรือ ibis Paint X เท่านั้น และอัปโหลดผลงานในประเภท JPG หรือ PNG ขนาด A2  โดยมีขนาดความละเอียด 300 dpi ซึ่งผลงานสามารถเป็นแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้ พร้อมใส่ชื่อและแนวคิดของผลงาน

o        ผู้สมัครจะต้องสมัครและส่งผลงานบนเว็บไซต์ www.isuzuyouthrelations.com

ภายในวันที่ 31 มกราคม 2568 เวลา 23.59 น.

4.2     รอบชิงชนะเลิศ

o        บริษัทฯ จะประกาศรายชื่อผู้สมัครผู้ผ่านเข้ารอบ 20 คน โดยจะแบ่งเป็นมัธยมศึกษาตอนต้น 10 คน และมัธยมศึกษาตอนปลาย 10 คน ผ่านเว็บไซต์ www.isuzuyouthrelations.com

o        ผู้สมัครที่ผ่านเข้ารอบจะต้องทำการประกวดวาดภาพดิจิทัลในหัวข้อที่คณะกรรมการกำหนดขึ้นในวันแข่งขัน โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ณ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด 1088 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 ในวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2568 ภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง (โดยกำหนดการจะแจ้งให้ทราบทางจดหมายต่อไป)

o        ผู้สมัครต้องสร้างสรรค์ผลงานการวาดภาพดิจิทัลผ่านโปรแกรม Procreate® หรือ ibis Paint X ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยใช้อุปกรณ์ (iPad Pro) และโปรแกรมการวาดภาพดิจิทัลที่ทางบริษัทฯ จัดเตรียมให้กับผู้สมัครเท่านั้น

5. กติกา และเงื่อนไขในการส่งผลงาน

5.1 ผลงานจะต้องเป็นภาพวาดดิจิทัลที่สร้างสรรค์ผ่านโปรแกรม Procreate® หรือ ibis Paint X ขนาด A2 เท่านั้น โดยมีความละเอียด 300 dpi

5.2 ผลงานที่ส่งเข้าประกวดจะต้องสร้างสรรค์ขึ้นด้วยตัวผู้สมัครเอง ไม่เคยโฆษณา หรือ ไม่เคยเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ใด ๆ มาก่อน และไม่อนุญาตให้ลอกเลียนแบบผลงานของผู้ใด หรือละเมิดกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา หากมีข้อร้องเรียนเกิดขึ้น ผู้สมัครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในทุกกรณี

5.3 ผู้สมัครตกลงยินยอมให้ผลงานที่ส่งเข้าประกวดรวมถึงไฟล์ต้นฉบับตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด แต่ผู้เดียว รวมทั้งยินยอมให้ลิขสิทธิ์ สิทธิ์ในทางทรัพย์สินทางปัญญาอื่น และสิทธิใด ๆ ในผลงานดังกล่าวตกเป็นของบริษัทฯ แต่ผู้เดียวไม่ว่าจะเป็นผลงานที่ได้รับรางวัลหรือไม่ก็ตาม โดยบริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องส่งคืนผลงานรวมถึงไฟล์ต้นฉบับให้แก่ผู้สมัคร

5.4 บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกผลงานที่ส่งเข้าประกวด รวมทั้งการนำผลงานดังกล่าวมา ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน ไม่ว่าจะในเอกสาร สื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท หรือสื่อรูปแบบอื่น ๆ ตามความเหมาะสม เพื่อการประชาสัมพันธ์ หรือเพื่อการใด ๆ ที่บริษัทฯ พิจารณาเห็นสมควร

5.5 การตัดสินของคณะกรรมการเจ้าของโครงการ หรือบริษัทฯ ถือเป็นที่สุด

6. เกณฑ์การตัดสิน

6.1 บริษัทฯ จะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ จากมหาวิทยาลัย ร่วมเป็นคณะกรรมการการตัดสิน ดังนี้

o        ผศ.ดร. วิชญ มุกดามณี คณบดีคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

o        รศ.ดร. ศุภชัย อารีรุ่งเรือง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

o        ผศ. อนุพงษ์ จันทร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาศิลปกรรม คณะสถาปัตยกรรมศิลปะและการออกแบบสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

7. รางวัล

7.1 รางวัลการประกวดให้แก่ผู้สมัคร

o        รางวัลชนะเลิศจำนวน 2 รางวัล จากระดับการศึกษาละ 1 คน จะได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 50,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ

o        รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งจำนวน 2 รางวัล จากระดับการศึกษาละ 1 คน จะได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ

o        รางวัลรองชนะเลิศอันดับสองจำนวน 2 รางวัล จากระดับการศึกษาละ 1 คน จะได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 20,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ

o        รางวัลชมเชย จำนวน 14 รางวัล จากระดับการศึกษาละ 7 คน จะได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 10,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ

o        รางวัล Popular Vote* จำนวน 10 รางวัล จากระดับการศึกษาละ 5 คน จะได้รับทุนการศึกษาคนละ 2,500 บาท

*รางวัล Popular Vote จะนับคะแนนจากยอดไลก์บนเว็บไซต์ 1 คะแนนต่อ 1 ไลก์ และยอดแชร์จากเว็บไซต์ไปเฟซบุ๊ก 2 คะแนน ต่อ 1 แชร์ โดยนับยอดไลก์และยอดแชร์ จากที่โชว์บนหน้าเว็บไซต์ www.isuzuyouthrelations.com  จนถึงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2568

o        รางวัล Content Creator จำนวน 10 รางวัล จะได้รับรางวัล รางวัลละ 2,500 บาท รวม 25,000 บาท

นักเรียนสามารถจัดทําคลิปผลงานที่เกี่ยวข้องกับผลงานและกิจกรรมโดยไม่จำกัดความคิดสร้างสรรค์ โดยอัปโหลดบน Application TikTok ด้วยบัญชีผู้ใช้งานของผู้ส่งผลงานเอง และเปิดบัญชีผู้ใช้งานเป็นสาธารณะ พร้อมติดเครื่องหมายแฮชแท็ก (Hashtag) ประกอบด้วย #isuzu #iyrp2024 #isuzuyouthrelations #อีซูซุเยาวชนสัมพันธ์2567

โดยสิ้นสุดการส่งผลงานวันที่ 5 มีนาคม 2568 สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมที่ทำถูกต้องตามกติกา และถูกใจคณะกรรมการมากที่สุด

7.2 รางวัลพิเศษให้แก่สถานศึกษา

o        รางวัลพิเศษเงินสนับสนุนด้านการศึกษาสำหรับสถานศึกษาของนักเรียนที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทั้ง 20 คน ตามจำนวนนักเรียนที่ผ่านเข้ารอบ จำนวนคนละ  20,000 บาท

หมายเหตุ : การตัดสินของคณะกรรมการเจ้าของโครงการ หรือบริษัทฯ ถือเป็นที่สุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save