- Advertisement -
36.3 C
Bangkok
Home Blog Page 30

ไพรม์มัส กรุ๊ป ทุ่มงบ 50 ล้าน ผุดโชว์รูมดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี  

ไพรม์มัส กรุ๊ป ต่อยอดความสำเร็จ ทุ่มงบ 50 ล้าน ผุดโชว์รูม ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี พร้อมเดินหน้าสู่อนาคต ด้วยการชู 3 กลยุทธ์ เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าภาคตะวันออก

จ.ชลบุรี, 9 ตุลาคม 2567 : “ไพรม์มัส กรุ๊ป” ต่อยอดความสำเร็จ เสริมความแกร่งกลุ่มธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ทุ่มงบ 50 ล้านบาท ผุดโชว์รูม “ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี” โชว์รูม-ศูนย์บริการครบวงจรใหญ่สุดในไทย รับเศรษฐกิจขยายตัวในอนาคต ชู 3 กลยุทธ์ มัดใจลูกค้าภาคตะวันออก มุ่งเป็นที่ 1 ในใจลูกค้า และขึ้นแท่นผู้นำตลาดรถ EV ประเดิมจัดโปร ฟรี! ดอกเบี้ย ผ่อนนาน 48 เดือน หมดเขต 31 ตุลาคม 2567 นี้

นายณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธานกลุ่มบริษัท ไพรม์มัส กรุ๊ป และกลุ่มบริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง (TOAVH) เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากการพัฒนาเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปิดกว้างสำหรับรถยนต์แบรนด์ใหม่ ทำให้มีบริษัทรถยนต์เข้ามาเปิดตลาดในไทยเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดตื่นตัวและมีการแข่งขันมากขึ้น

ในฐานะที่ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” เป็นกลุ่มธุรกิจผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ระดับชั้นแนวหน้า จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคและตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน ผนวกกับแนวคิดของ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” ที่จะมุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่การรักษาสิ่งแวดล้อม จึงเลือกเป็นพันธมิตรกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่มีศักยภาพครอบคลุมทุกด้าน โดยได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นจาก  CHANGAN แบรนด์รถยนต์ชั้นนำ 1 ใน 4 ของจีน และ อีเทอร์นิตี้แอทวัน : Eternity At One บริษัทมืออาชีพด้านการดูแลธุรกิจกลุ่มผุ้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า Deepal แต่งตั้งให้เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ Deepal อย่างเป็นทางการ  ในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่จังหวัดชลบุรี

ขณะที่จังหวังชลบุรี เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงระดับประเทศ และเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC ทำให้มีการลงทุนเมกกะโปรเจ็คจากภาครัฐ-เอกชนจำนวนมาก ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมมีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตลาดรถยนต์โดยรวมของชลบุรีที่มีการขยายตัวมากขึ้น โดยเป็นตลาดใหญ่มียอดจดทะเบียนเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพมหานคร

ประกอบกับ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” มีความชำนาญและประสบการณ์การทำตลาดรถยนต์ในเขตพื้นที่ชลบุรี ทั้งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของเรา ทำให้เชื่อมั่นว่า การลงทุนก่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการ “ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี” ด้วยเม็ดเงินกว่า 50 ล้าน บนพื้นที่เกือบ 4 ไร่ ที่มีบริการครบวงจร จะช่วยต่อยอดความสำเร็จในการเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ให้ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” และแบรนด์รถยนต์ Deepal ได้อย่างแน่นอน

“การพิธีเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญของ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” ในการทำตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และเป็นอีกหนึ่งความท้าทายในการดูแลและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดในทุกมิติ เพราะสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจของเรา ไม่ใช่เพียงการซื้อรถยนต์ แต่รวมถึงการดูแลอย่างจริงใจและดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของ “ไพรม์มัส กรุ๊ป”

นายจิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์มัส โมบิลิตี้ จำกัด และบริษัทในเครือ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” เปิดเผยว่า “ไพรม์มัส กรุ๊ป” เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ระดับชั้นแนวหน้า ที่มุ่งเน้นกลุยทธ์หลักในการบริหารงาน คือ 1.การบริการครบวงจรจบในที่เดียว 2.ทีมงานมืออาชีพ มากประสบการณ์ และ 3.การสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ที่ผ่านบทพิสูจน์ความสำเร็จจากการเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz ทั้งสาขาเลียบด่วน และสาขาพัทยา ด้วยการเติบโตของยอดจำหน่ายและจำนวนรถยนต์ที่เข้าใช้บริการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี และที่ภาคภูมิใจมากสุด คือ การได้คะแนน CSI สูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยเหตุนี้ เราจึงนำกลยุทธ์แห่งความสำเร็จนี้ มาใช้ในการบริหารงานที่  “ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี” และสาขาต่างๆ ของ ไพรม์มัส กรุ๊ป 

สำหรับ “ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี” ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท-อ่างศิลา มีพื้นที่รวมทั้งหมด 6,290 ตร.ม.นับเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการดีพอลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดไทย โดยด้านหน้าเป็นโชว์รูมจัดแสดงรถยนต์ Deepal ทุกรุ่น ทุกแบบ ได้มากกถึง 10 คัน และโซนรับรองลูกค้าที่กว้างขวาง สะดวกสบาย สำหรับรองรับการเข้ารับบริการทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย โดยบริการอาหารว่างและเครื่องดื่มที่คัดสรรสำหรับลูกค้าคนสำคัญ พร้อมห้องรับรองลูกค้าแบบ Exclusive ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวโดยเฉพาะ และโซนส่งมอบรถยนต์ในแบบ Private ที่จะร่วมส่งมอบความประทับใจในการเป็นครอบครัวเดียวกันกับ “ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี”

ส่วนอาคารด้านหลัง เป็นศูนย์บริการมาตรฐานครบวงจร มีพื้นที่ร่วม 1,000 ตร.ม. พร้อมช่องซ่อม 8 ช่องซ่อม รองรับรถยนต์เข้ารับบริการได้มากถึง 500 คัน/เดือน โดยมีบริการซ่อมแซม การบำรุงรักษา และการดูแลรถยนต์ Deepal ทุกรุ่น ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพ มากประสบการณ์ด้านการขายและบริการหลังการขาย ทั้งผ่านการอบรมทุกหลักสูตรตามมาตรฐานของ Changan นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมืออุปกรณ๋ที่ทันสมัยตามมาตรฐานของบริษัทแม่ เพื่อการรองรับงานบริการที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว พร้อมมีบริการรับซ่อมจากบริษัทประกันชั้นนำมากมาย และบริการยกรถเข้าซ่อมฟรี กรณีเกิดอุบัติเหตุ

นายจิระพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ทาง “ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี ” มีนโยบายที่จะสร้างศูนย์ซ่อมสีและตัวถังมาตรฐานระดับสูง สำหรับให้บริการรถยนต์ Deepal บริเวณพื้นที่ด้านหลังศูนย์บริการ เพื่อรองรับความต้องการให้แก่ลูกค้าแบบครบวงจร คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการ ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2567 ศกนี้

ดั้งนั้นเพื่อให้ลูกค้าได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และดีไซน์ที่โดดเด่น สวยงาม ทั้งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ของ Deepal ทาง “ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี” ได้จัดแสดงรถยนต์ Deepal ให้เลือกชมและสัมผัสอย่างใกล้ชิดครบทุกรุ่น ได้แก่

1.Deepal S07 รถยนต์เอสยูวีไฟฟ้า 100% โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Deepal S07 Standard Range ราคา 1,399,000 บาท และรุ่น Deepal S07 Long Range ราคาจำหน่าย 1,499,000 บาท

2.Deepal L07 รถสปอร์ต ฟาสต์แบ็ก ที่สวยงาม โฉบเฉี่ยว ทันสมัย การันตีด้วยรางวัลด้านดีไซน์ระดับโลก Red Dot Long Range ราคาจำหน่าย 1,329,000 บาท

3.Lumin EV City Car ยานยนต์ไฟฟ้าสุดคิวท์สำหรับคนในเมือง มีให้เลือกทั้งระบบชาร์จแบบ AC และ DC ในราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 479,000 บาท

พร้อมแคมเปญสุดพิเศษ “Deepal Big Deal” เมื่อจองรถยนต์ Deepal รุ่น S07 และรุ่น L07 รับฟรี! ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมประกันภัยชั้น 1 + พ.ร.บ. นานสุด 2 ปี และทุกรุ่น รับ Deepal Premium Care มูลค่า 250,000 บาท พิเศษ! เฉพาะรุ่น L07 รับ Cashback มูลค่า 40,000 บาท

หรือเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ Lumin รับข้อเสนอโปรแกรมช่วยผ่อนนาน 1 ปี มูลค่า 36,000 บาท รับฟรี! ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรี! ประกันภัยชั้น1 + พ.ร.บ. นานสุด 2 ปี พิเศษ! รับ Cashback มูลค่า 12,500 บาท พร้อมสิทธิ์แลกซื้อเครื่องชาร์จและค่าติดตั้ง ในราคาพิเศษเพียง 14,999 บาท จากราคาเต็ม 24,999 บาท หมดเขต 31 ตุลาคม 2567 ศกนี้

และยังมีเซอร์วิสแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้า Deepal ทุกรุ่น รับบริการตรวจเช็ครถฟรี 41 รายการ เฉพาะที่ศูนย์บริการ ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี และ รามคำแหงเท่านั้น ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567ศกนี้ โดยสามารถนัดหมายการเข้ารับบริการต่างๆ ได้ที่หมายเลข 038 288 555 หรือ Line : @primuschonburi

Leapmotor International ส่งมอบรถ SUV C10 ล็อตแรก จากประเทศจีนไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

SUV C10 ของ Leapmotor พร้อมขนส่งจากประเทศจีนไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และจะมีการจัดส่งเพิ่มเติมอีกในเดือนต่อๆ ไป นับได้ว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่ได้ร่วมมือกันในครั้งนี้

Leapmotor International บริษัทที่มีการร่วมทุนโดยมีสัดส่วน 51/49 โดย Stellantis จะเริ่มจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในมาเลเซีย, ไทย, เนปาล, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในไตรมาสที่ 4 และวางแผนที่จะจัดตั้งตัวแทนจำหน่ายกว่า 40 แห่ง สำหรับแบรนด์รถไฟฟ้า Leapmotor ในภูมิภาค IAP ภายในสิ้นปี 2024

อนึ่ง Leapmotor International ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการร่วมทุนโดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 51/49 ระหว่าง Stellantis และ Leapmotor เราได้จัดส่งรถไฟฟ้า Leapmotor SUV C10 ล็อตแรกจากเมืองเซี่ยงไฮ้  ประเทศจีน ไปยังท่าเรือต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในความร่วมมือครั้งนี้ และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการนำเสนอการขับเคลื่อนที่ยั่งยืนและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี เพื่อเข้าสู่ตลาด EV ในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยรถไฟฟ้า SUV C10 ของ Leapmotor นั้น มาพร้อมกับเทคโนโลยี EV อันล้ำสมัย มีประสิทธิภาพและความประหยัดพลังงานในการขับขี่อย่างดีที่สุด ซึ่ง Leapmotor เป็นแบรนด์ EV สตาร์ทอัพ อันดับ 3 ของประเทศจีน และยังที่มียอดจัดจำหน่ายมากถึง 460,000 คัน ในเดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายน ปี 2024 การจัดส่งรถไฟฟ้า SUV C10 ของแบรนด์ Leapmotor ในเดือนตุลาคมนี้นั้น เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความร่วมมือแบบระยะยาวที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนตลาดรถไฟฟ้าในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเราวางแผนเอาไว้ว่าจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ และพร้อมและจำหน่ายอย่างน้อยหนึ่งรุ่นในทุกๆ ปี และในอีก 3 ปีต่อไป

อีซูซุ ส่งปิกอัพ D-Max MHEV ทางเลือกใหม่ประหยัดและรักษ์โลก

อีซูซุส่งปิกอัพทางเลือกใหม่ “Isuzu D-Max MHEV” เพื่อโลกที่ดีขึ้น มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

อีซูซุส่งรถปิกอัพ “Isuzu D-Max MHEV” ทางเลือกใหม่…เพื่อโลกที่ดีขึ้น กับเทคโนโลยี Mild Hybrid ตอบสนองการขับขี่ที่ดีขึ้น ทั้งด้านการออกตัว การประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่น “Isuzu D-Max Hi-lander 1.9 Ddi MHEV” เกรด M เกียร์อัตโนมัติ สีขาวมุก โดโลไมท์ ราคา 1,145,000 บาท เริ่มจำหน่ายวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 พร้อมสานต่อ “นโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับโลกและระดับประเทศ” ผ่าน “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality)

 กลุ่มตรีเพชร โดย มร.ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “จากนโยบายส่งเสริม “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” หรือ Multi-pathways to Carbon Neutrality ที่อีซูซุประกาศไว้เมื่อเดือนมีนาคม ในครั้งนี้อีซูซุได้เดินหน้าผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ทางเลือกรูปแบบใหม่ กับ “Isuzu D-Max MHEV” เทคโนโลยี Mild Hybrid ทางเลือกใหม่…เพื่อโลกที่ดีขึ้น ซึ่งผ่านการทดสอบภายใต้สภาพการใช้งานจริงทั่วประเทศมาแล้ว เหมาะสำหรับกลุ่มคนในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ ที่ใช้งานส่วนตัวหรือใช้งานในเมืองเป็นหลัก รวมถึงลูกค้าที่ชื่นชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ ตอบสนองการขับขี่ที่ดีขึ้น ทั้งด้านการออกตัว การประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่น “Isuzu D-Max Hi-lander 1.9 Ddi MHEV” เกรด M เกียร์อัตโนมัติ สีขาวมุก โดโลไมท์ ราคา 1,145,000 บาท เริ่มจำหน่ายวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567  อีซูซุเชื่อมั่นว่ารถเพื่อการพาณิชย์ทางเลือกรูปแบบใหม่นี้ และโปรเจกต์ความเป็นกลางทางคาร์บอนต่าง ๆ ของเรา อาทิ การพัฒนาพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ โดยการทดสอบการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ผสม HVO น้ำมันไบโอดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่สังเคราะห์จากน้ำมันพืชใช้แล้ว และการส่งเสริมการทดลองโซลูชั่นการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ในประเทศไทย จะช่วยให้อีซูซุสามารถสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้รถ ควบคู่ไปกับการส่งมอบความสุขที่ยั่งยืนในการเข้าสู่สังคมความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรับมือกับโลกยานยนต์อนาคต”

Isuzu D-Max MHEV เทคโนโลยี Mild Hybrid ตอบโจทย์การขับขี่ในยุคปัจจุบัน และตอบรับกับโลกแห่งอนาคต ในรุ่น “Isuzu D-Max Hi-lander 1.9 Ddi MHEV” เกรด M เกียร์อัตโนมัติ สีขาวมุก โดโลไมท์ ราคา 1,145,000 บาท มาพร้อมกับ

•ใหม่! เครื่องยนต์ 1.9 Ddi MHEV มาตรฐาน EURO 5 พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมการขับเคลื่อนรถยนต์ที่ช่วยในการออกตัวและขณะที่เร่งเครื่องและระบบแปลงพลังงานที่สูญเสียในขณะถอนคันเร่งหรือเบรกเป็นพลังงานไฟฟ้า (REGENERATIVE BRAKING SYSTEM)

•แบตเตอรี่ไฟฟ้า ขนาด 48 โวลต์ 8.4 แอมป์ ความจุ 370 วัตต์-ชั่วโมง เพื่อช่วยลดการปล่อยไอเสียและสามารถปั่นไฟเพื่อชาร์จพลังงานเมื่อถอนคันเร่ง (Engine Brake) ตามมาตรฐาน EURO 5

•หน้าจอ Integrated MID ขนาดใหญ่ 7 นิ้ว พร้อมสัญลักษณ์การชาร์จแบตเตอรี่ แสดงข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ ปรับเปลี่ยนดีไซน์หน้าจอได้ 2 สไตล์ และเชื่อมต่อข้อมูลกับ Infotainment Display สะดวกยิ่งขึ้น

•การรับประกัน

– เครื่องยนต์ 1.9 Ddi 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร

– แบตเตอรี่ Mild Hybrid10 ปี หรือ 350,000 กิโลเมตร

– ระบบ Mild Hybrid 5 ปี หรือ 175,000 กิโลเมตร

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ พิชิตเส้นทางท้าทาย “ไทย-ลาว-เวียดนาม”

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ พิชิตเส้นทางสุดท้าทาย ไทย-ลาว-เวียดนาม ในทริป ‘The Overland Journey’

ฟอร์ด ประเทศไทย จัดทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ – The Overland Journey’ พาผู้ชนะจากกิจกรรม ‘King of Tough Challenge’ ลูกค้า และสื่อมวลชน รวมกว่า 40 ชีวิต  ร่วมคาราวานขับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร รวม 15 คัน พิชิตเส้นทางออนโรดและออฟโรดสุดท้าทายจากจังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย สู่ประเทศลาวและเวียดนาม เป็นระยะเวลา 9 วัน 8 คืน ตั้งแต่วันที่ 20-28 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ตอกย้ำนิยาม ‘แกร่งจริงทุกคัน ดุดันทุกสถานการณ์’

คาราวานเริ่มต้นออกเดินทางจากจังหวัดอุบลราชธานี ด้วยการขับบนถนนทางเรียบ ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร ทั้งเบาะหนังและหนังสังเคราะห์เฉพาะแบบ Raptor หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว กล้องมองรอบคัน 360 องศา ที่ช่วยให้มองเห็นอุปสรรคได้รอบทิศทาง เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง รวมถึงการใช้ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop & Go และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ เพลิดเพลินไปกับเครื่องเสียง Bang & Olufsen® ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร ที่มอบความบันเทิงในระหว่างการเดินทางได้แบบเต็มอิ่ม ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A ที่รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ แบบไร้สาย ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

จากอุบลราชธานี คาราวานขับผ่านเส้นทางธรรมชาติที่ท้าทายทั้งหิน กรวด ลูกรัง โคลน รวมถึงการลุยน้ำข้ามลำธารมุ่งหน้าสู่เมืองอัตตะปือ ประเทศลาว โดยได้ทดสอบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและโหมดการขับขี่ของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ จุดหมายสำคัญคือการชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตกแซพระ และน้ำตกแซป่องไล ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดยักษ์และแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของลาวใต้ ด้วยความสูงถึง 100 เมตร และกว้าง 120 เมตร ผู้ร่วมทริปได้สัมผัสกับความงดงามของสายน้ำที่ไหลลงมาอย่างอลังการราวกับม่านสีขาว พร้อมกับละอองน้ำและเสียงกึกก้องอย่างน่าประทับใจ

คาราวานเดินทางต่อไปยังเมืองดาลัดหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศเวียดนาม พร้อมแวะเช็คอินที่มองโกแลนด์ แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ เดินท่องเที่ยวตลาดท้องถิ่น แวะชมความสวยงามของน้ำตกดาตันลา น้ำตกที่เกิดจากภูเขาหินอ่อนอายุกว่า 100 ปี จากนั้นผู้ร่วมกิจกรรมได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นด้วยการขับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ตะลุยเส้นทางออฟโรดไปยังทะเลสาบซ้วยหว่าง (Soui Vang Lake) ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ล้อมรอบด้วยป่าเขียวขจี บนเส้นทางนี้ ผู้ร่วมเดินทางได้พิสูจน์สมรรถนะของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ในการรับมือกับภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งเส้นทางร่องหิน ขึ้น-ลงเนินชันกว่า 18 องศา โดยใช้กล้องมองรอบคัน 360 องศา ช่วยในการมองอุปสรรคนอกตัวรถบนเส้นทางแคบในป่าสน ด้วยเครื่องยนต์ที่เปี่ยมสมรรถนะ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ โหมดการขับขี่แบบออฟโรด และระบบควบคุมความเร็วสำหรับการขับขี่ออฟโรด (Trail Control) ผู้ขับขี่สามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย การเดินทางจึงเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย มอบประสบการณ์ที่ตื่นเต้นและน่าจดจำสำหรับทุกคนในทริป

จากเมืองดาลัดคาราวานมุ่งสู่ทะเลทรายมุยเน่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ซาฮาร่าแห่งเวียดนาม’ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นของประเทศเวียดนาม ด้วยเนินทรายสีทองอร่ามทอดยาวสุดลูกหูลูกตา สลับกับทะเลสาบน้ำจืดสีฟ้าใส สร้างทัศนียภาพอันน่าทึ่งราวกับภาพวาด ผู้ร่วมเดินทางได้ทดลองใช้การขับขี่ในโหมดทราย และโหมดบาฮาอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ซึ่งรถจะปรับเข้าสู่การขับขี่โดยใช้เกียร์สูงขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) คันเร่งจะปรับให้มีการตอบสนองสูงสุดเพื่ออัตราเร่งที่ดีที่สุด ระบบท่อไอเสียและช่วงล่างจะถูกปรับให้เป็นโหมดบาฮาเช่นกัน เพื่อตอบสนองการขับขี่ออฟโรดแบบความเร็วสูง พร้อมรับมือกับการขับขี่บนทะเลทรายโดยเฉพาะ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังมีระบบความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับ เทคโนโลยีเหล่านี้ของรถ ไม่เพียงช่วยให้ผู้ขับขี่พิชิตความท้าทายของทะเลทรายมุยเน่ได้อย่างง่ายดายแล้ว ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกและปลอดภัยขั้นสุดอีกด้วย

จากนั้น คาราวานเดินทางต่อไปยังเมืองญาจาง โดยใช้เส้นทางเลียบชายฝั่งทะเล ดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสีคราม ตลอดการเดินทางอันแสนท้าทายนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะอันเหนือชั้นในการรับมือกับทุกสภาพการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นถนนในเมือง เส้นทางคดเคี้ยวบนภูเขา หรือเส้นทางออฟโรดที่ทุรกันดาร ด้วยสมรรถนะอันทรงพลังผสานกับเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัย ทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ตอบสนองได้ครบทุกความต้องการของผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน การท่องเที่ยว หรือการผจญภัยสุดขั้นสุดบนเส้นทางออฟโรด นับเป็นยานพาหนะที่พร้อมรับมือกับทุกความท้าทาย และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับให้กับผู้ใช้งานในทุกสถานการณ์

นายรัฐการ จูตะเสน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า “ฟอร์ดตื่นเต้นที่ได้จัดทริปในครั้งนี้ นับเป็นการปิดท้ายกิจกรรม King of Tough ได้สมกับที่เราตั้งใจจะส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ อันดุดันให้แก่ลูกค้าและผู้สนใจทั่วไปได้สัมผัส การเดินทางตลอด 9 วัน 8 คืน ไม่เพียงตอกย้ำสมรรถนะความแกร่งอันเหนือชั้นของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่พร้อมพิชิตทุกเส้นทางท้าทายแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าฟอร์ดได้อย่างมีความหมาย”

ผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.ford.co.th หรือที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศ

โตโยต้า เปิดตัว ALL-NEW CAMRY สนนราคาเริ่มต้น 1,455,000 บาท

โตโยต้า แนะนำซีดานหรู ALL-NEW CAMRY PROGRESS BEYOND PERFECTION ก้าวสู่อีกระดับของความสมบูรณ์แบบ มากับขุมพลังไฮบริดทุกรุ่น พร้อมเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทาง เริ่มต้นที่ 1,455,000 บาท – 1,789,000 บาท

นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมแถลงข่าวการเปิดตัว “ALL-NEW CAMRY” Hybrid Medium Size Sedan ยนตรกรรมที่ก้าวสู่อีกระดับของความสมบูรณ์แบบ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ณ Toyota ALIVE บางนา กรุงเทพมหานคร

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฮบริด ด้วยแนวคิด “TOYOTA TRUSTED HYBRID” ที่สร้างชื่อเสียงและความไว้วางใจในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน พร้อมยกระดับความมั่นใจ เป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดยในครั้งนี้ได้มีการแนะนำ ALL-NEW CAMRY รถยนต์ Hybrid Medium Size Sedan สมบูรณ์แบบด้วยความหรูหรา สมรรถนะที่ดีเยี่ยม ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายครบครัน และมั่นใจได้ในระบบความปลอดภัยเหนือระดับมาตรฐานโตโยต้า เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ ในด้านการออกแบบ ALL-NEW CAMRY ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “SEDAN TO THE CORE” ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญและพัฒนาต่อยอดในจุดแข็งต่างๆ ของ CAMRY สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายทั่วประเทศ และกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าโตโยต้าเดิม รวมถึงตอบสนองการเดินทางและไลฟ์สไตล์ ด้วยระบบ T-Connect ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้ง PHYD, TCFR Plus+ และ ALIVE-X นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรม KINTO ONE เป็นทางเลือกให้กับลูกค้า และยังสามารถไว้วางใจได้ยิ่งขึ้น กับบริการหลังการขายที่มีศูนย์บริการกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์ด้านระบบไฮบริด และมาตรฐานความพร้อมด้านอะไหล่ที่ครบครัน ที่สำคัญ ALL-NEW CAMRY มาพร้อมด้วยสมรรถนะและฟีเจอร์ที่เพิ่มมากขึ้น ในราคาพิเศษช่วงแนะนำที่น่าดึงดูดใจยิ่งกว่าเคย เริ่มต้นที่ 1,455,000 – 1,789,000 บาท

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้ สถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยยังคงเผชิญความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่หดตัวลง ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว โตโยต้านับว่าประสบความสำเร็จจากรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวไป และความพยายามของผู้แทนจำหน่ายฯ ทั่วประเทศ ทำให้เราสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 38% สูงสุดในรอบ 13 ปี ในโอกาสนี้ เราขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนโตโยต้า

โตโยต้าเปิดตัว Camry สู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2536 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากลูกค้าทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ นับตั้งแต่การเปิดตัว ยอดจำหน่ายสะสมในประเทศอยู่ที่กว่า 230,000 คัน (ข้อมูลยอดขายตั้งแต่พ.ศ. 2536 ถึงเดือนสิงหาคม 2567) และเราได้ส่งออก Camry มากกว่า 130,000 คัน ไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆ กว่า 10 ประเทศ (ข้อมูลยอดส่งออกตั้งแต่พ.ศ. 2550 ถึงเดือนสิงหาคม 2567) ซึ่งช่วยส่งเสริมการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมทั้งการพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนต์ มาเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี อีกทั้งยังเป็นรถโมเดลหลักที่มีความสำคัญในเซกเมนต์รถยนต์นั่งขนาดกลางในประเทศไทย ที่สำคัญ Camry HEV ยังเป็นยนตรกรรมที่บุกเบิกตลาดรถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (xEV) ของประเทศไทย โดยโตโยต้าเริ่มการผลิตและแนะนำ Camry HEV รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดในปีพ.ศ. 2552 จากนั้นเป็นต้นมา ยังได้พัฒนายนตรกรรมไฮบริดให้ดียิ่งขึ้นอีกหลายรุ่น เพื่อมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายในรถประเภทนี้

ปัจจุบัน ตลาดรถ xEV มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย สัดส่วนตลาด xEV ในปีนี้ (ข้อมูลถึงเดือนกันยายน 2567) ขยายตัวอยู่ที่ 36% ของตลาดรวม โดยยอดขายรถยนต์ไฮบริดเติบโตที่ 21% ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 13% ทำให้รถยนต์ไฮบริดกลายเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าชาวไทย ปีนี้ โตโยต้ายังสามารถครองความเป็นผู้นำด้านยอดขายในตลาด xEV ด้วยยอดขาย HEV สูงที่สุดในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากความสำเร็จด้วยยอดขายของยาริส ครอส ที่เปิดตัวปีที่ผ่านมา เราจึงขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุน Toyota Trusted Hybrid ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สามารถไว้วางใจได้ และเหมาะสมสอดคล้องกับการใช้งานจริงสูงสุด”

มร.ยามาชิตะ กล่าวต่อไปว่า “เพื่อต่อยอดความสำเร็จของรถรุ่นนี้ เราพร้อมแล้วที่จะแนะนำสุดยอดยนตรกรรมแห่งความสมบูรณ์แบบเหนือระดับกับ ALL-NEW CAMRY ที่มาในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดในทุกไลน์อัพ เพื่อตอบรับความต้องการที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วของรถเครื่องยนต์ไฮบริด HEV ที่มีระดับราคาที่หลากหลาย ผมเชื่อว่า ALL-NEW CAMRY จะสร้างความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของให้กับผู้ที่ครอบครองยนตกรรมรุ่นนี้ ควบคู่ไปกับความสบายใจตลอดการใช้งาน ผ่านเทคโนโลยีไฮบริดของโตโยต้าที่มาพร้อมความเหนือกว่า ทั้งนี้ เราตั้งเป้าหมายการขายที่ 10,000 คัน ต่อปี”

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ALL-NEW CAMRY จะมาพร้อมขุมพลังไฮบริดในทุกรุ่นย่อย ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ไฮบริด ที่ได้รับความไว้วางใจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 15 ปี และยังมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ด้วยการสื่อสารภายใต้แนวคิด “TOYOTA TRUSTED HYBRID” โดยทางโตโยต้าจะยังมุ่งเน้นสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถโตโยต้า Hybrid อย่างต่อเนื่องทั้ง 3 ด้าน

1.Toyota Service Technician ช่างผู้ชำนาญการที่ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมโตโยต้าที่มีมากกว่า 8,000 คน รวมถึงอุปกรณ์การซ่อมที่ได้มาตรฐานสำหรับรถ Hybrid ที่ศูนย์บริการทั่วประเทศ

2.ด้านอะไหล่ เรามีความพร้อมให้บริการ เรามีการจัดเตรียมอะไหล่ไว้รองรับนานกว่า 15 ปี และสามารถจัดส่งได้ภายใน 48 ชั่วโมง

3.พร้อมดูแลลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยศูนย์บริการกว่า 450 แห่ง

จากความไว้วางใจและเป็นที่นิยมของลูกค้ามาอย่างยาวนาน ส่งผลให้ราคาขายต่อรถไฮบริดของโตโยต้านั้น ยังคงมีมูลค่าที่สูง และเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่องและผมขอขอบคุณลูกค้าที่เฝ้ารอและให้การตอบรับ ALL-NEW CAMRY เป็นอย่างดี จากที่เราเปิดลงทะเบียน ช่วงวันที่ 1-9 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น มีผู้สนใจจองสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ALL-NEW CAMRY เข้ามา มากถึง 1,516 คัน

จุดเด่นของ ALL-NEW CAMRY

oเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนแบบ Hybrid เจเนอเรชันใหม่ ขนาด 2.5 ลิตร

ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมทรงพลังอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเครื่องยนต์และมอเตอร์ทำงานควบคู่กัน จะได้กำลังสูงสุด 227 แรงม้า และยังให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 25 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าดีขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบัน ทั้งพละกำลังและความประหยัด

oการออกแบบภายใต้แนวคิด Energetic Beauty

สะท้อนความเป็นผู้นำ ที่มีความชัดเจนและใส่ใจในรายละเอียด ถ่ายทอดผ่านความหรูหราอย่างเรียบง่าย แต่ทันสมัย ประณีตทั้งภายในและภายนอก

oอุปกรณ์และฟังก์ชันต่างๆ เน้นความสะดวกสบาย ทันสมัยและใช้งานง่าย

อาทิ Auto slide-away function ที่จะช่วยเลื่อนเบาะผู้ขับและปรับตำแหน่งพวงมาลัย ทำให้เข้า-ออกจากรถได้ง่ายขึ้น, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระ 3 Zone, Wireless Charger, Wireless Apple CarPlay, หลังคา Panoramic แบบเปิดได้พร้อมม่านไฟฟ้า สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เรามีเบาะที่นั่งปรับเอนด้วยไฟฟ้า พร้อมแผงควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ด้วยระบบสัมผัส, ม่านหน้าต่าง และม่านไฟฟ้าที่กระจกหลัง และอื่นๆ ที่จะช่วยทำให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขกับการใช้ Camry ใหม่

oเทคโนโลยีความปลอดภัยล่าสุด Toyota Safety Sense เจเนอเรชันใหม่

พัฒนาขีดความสามารถขึ้นมาจากรุ่นปัจจุบัน ติดตั้งให้มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ช่วยให้มั่นใจได้เสมอเมื่อเดินทางไปกับ ALL-NEW CAMRY

สำหรับสีภายนอก เรามีให้เลือกทั้งหมด 4 สี โดยเพิ่มสีที่เสริมบุคลิกใหม่อย่างสีเทา Cement Gray และสีที่ให้ความพรีเมียมยิ่งขึ้น อย่างสี Precious Metal  ภายใน มีสีดำเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย และสำหรับรุ่น Premium Luxury จะมีทางเลือกของสี Yellow Brown ช่วยเสริมความหรูหราและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น”

นายศุภกร กล่าวถึงแผนการตลาดว่า “ครั้งนี้ เรามุ่งขยายกลุ่มลูกค้า CAMRY ให้ครอบคลุมทั้งลูกค้าเดิม และคนรุ่นใหม่ที่มองหานวัตกรรม คุณภาพการขับขี่ ความคุ้มค่า และการใช้งานที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน ในการสื่อสาร ALL-NEW CAMRY เราต้องการสะท้อนทัศนคติของผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่มีแนวคิดก้าวหน้า ยึดหลักการชัดเจนและมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ภายใต้คอนเซปต์ “PROGRESS BEYOND PERFECTION

เพื่อให้ทุกท่านเป็นเจ้าของ ALL-NEW CAMRY ได้ง่ายขึ้น เราได้วางกลยุทธ์การขายที่เน้นความสะดวกและคุ้มค่าสูงสุด รวมทั้งข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าปัจจุบันของโตโยต้า พร้อมบริการประเมินราคารับซื้อรถคันเดิมจาก Toyota Sure หรือการใช้รถทางเลือกใหม่กับบริการ KINTO มีรถใช้ไม่ต้องซื้อ และยังมอบความสะดวกสบาย ประหยัดค่าใช้จ่าย กับเทคโนโลยี Connected ทั้งด้านประกันภัย การบำรุงรักษา และการสะสมคะแนนแลกสิทธิพิเศษมากมาย สำหรับลูกค้าธุรกิจ เรามีข้อเสนอพิเศษที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแน่นอน”

เลือกเป็นเจ้าของ ALL-NEW CAMRY ได้ 3 รุ่นย่อย ด้วยสีภายนอก 4 สี และสีภายใน 2 สี

สีภายนอก

• สีเงิน Precious Metal ใหม่                           • สีเทา Cement Gray Metallic ใหม่

• สีขาว Platinum White Pearl                        • สีดำ Attitude Black Mica

สีภายใน

• สีดำ Black Interior มีในทุกรุ่น

• สีน้ำตาล Yellow Brown Interior ใหม่ เป็นตัวเลือกในรุ่น HEV PREMIUM LUXURY สีเงิน Precious Metal และสีขาว Platinum White Pearl

ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

      HEV SMART                              ราคา  1,475,000 บาท

      HEV PREMIUM                          ราคา  1,659,000 บาท

      HEV PREMIUM LUXURY          ราคา  1,809,000 บาท

สำหรับสี Platinum White Pearl, Precious Metal และ Cement Gray เพิ่ม 10,000 บาท

ตัดสินใจเป็นเจ้าของ ALL-NEW CAMRY วันนี้

รับข้อเสนอสุดพิเศษ!

ราคาพิเศษช่วงแนะนำ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

      HEV SMART                              ราคา  1,455,000 บาท

      HEV PREMIUM                          ราคา  1,639,000 บาท

      HEV PREMIUM LUXURY          ราคา  1,789,000 บาท

สำหรับสี Platinum White Pearl, Precious Metal และ Cement Gray เพิ่ม 10,000 บาท

หมายเหตุ : สำหรับเงื่อนไขราคาพิเศษในช่วงแนะนำ โตโยต้ายังเปิดรับจองในราคาดังกล่าว หากมีการเปลี่ยนแปลงกลับไปที่ราคาเดิม ทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ลูกค้าทราบอีกครั้ง

•พร้อมขยายระยะเวลาการคุ้มครอง TCFR Plus+ มูลค่า 47,000 บาท ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด

•ขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง 

(เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)

พิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่จอง ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2567 เลือกรับข้อเสนอ

-ทางเลือกที่ 1: ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.59% (ดอกเบี้ยคำนวณที่ดาวน์ 25% ขึ้นไป นาน 48 เดือน) หรือ

-ทางเลือกที่ 2: ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD

(เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)

ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง TOYOTA ACCESSORIES

เสริมความพรีเมียม เพิ่มความโดดเด่นอย่างมีระดับ

ราคาขายปลีกแนะนำ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

oคิ้วโครเมียมกันชนหน้า               ราคา 3,500 บาท

oคิ้วโครเมียมตกแต่งด้านข้าง       ราคา 6,250 บาท

oคิ้วโครเมียมกันชนท้าย               ราคา 3,400 บาท

oสปอยเลอร์หลัง                          ราคา 5,900 บาท

พบทางเลือกในการเป็นเจ้าของรูปแบบใหม่ KINTO

มีรถใช้ แบบไม่ต้องซื้อ บริการให้เช่ารถยนต์ระยะยาวจากโตโยต้าที่ออกแบบมาเพื่อให้ชีวิตการขับขี่สะดวกสบายและง่ายดายยิ่งขึ้น จ่ายราคาเดียวเท่ากันทุกเดือน ในราคาเริ่มต้นเพียง 24,900 บาท ต่อเดือน พร้อมบริการครบวงจร ประกันภัยชั้น 1 การบำรุงรักษา ต่อ พ.ร.บ. ภาษี ให้ตลอดอายุสัญญา

สัมผัสอีกระดับแห่งความสมบูรณ์แบบ กับ ALL-NEW CAMRY

Toyota ALIVE บางนา ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม เป็นต้นไป และงาน TOYOTA GOOD DAY GOOD DEAL ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ตลอดเดือนตุลาคม ศกนี้

•วันที่ 10-15 ตุลาคม        ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 Central Ladprao

•วันที่ 17-21 ตุลาคม        ณ ลานเซ็นเตอร์คอร์ท ชั้น G Future Park Rangsit

•วันที่ 24-28 ตุลาคม        ณ ลานกิจกรรม ชั้น G Central Westville

พบกับกิจกรรมเปิดตัว ALL-NEW CAMRY: Experience The Progress Day

ในวันที่ 25-27 ตุลาคมนี้ ณ โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ

จองทดลองขับ ALL-NEW CAMRY และรถรุ่นอื่นๆ บนสนามทดสอบเต็มรูปแบบได้ที่

นอกจากนี้ยังสามารถติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : Toyota Motor Thailand                                                       

LINE Official : @ToyotaThailand                  

TikTok : @ToyotaMotorTH                                      

X : @ToyotaMotorTH                          

Instagram : @toyotamotorthailandofficial    

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ALL-NEW CAMRY*

  • ขนาดรถยนต์
ยาว x กว้าง x สูง (มม.)4,920 x 1,840 x 1,445
ความยาวฐานล้อ หน้า / หลัง  (มม.)2,825
ความกว้างช่วงล้อ หน้า (มม.)1,580
ความกว้างช่วงล้อ หลัง (มม.) 1,590
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.)135
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (เมตร)5.7
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)50
  • เครื่องยนต์
รุ่น/แบบA25A-FXS / 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี)2,487
กำลังสูงสุด (PS / รอบต่อนาที)186/6,000
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร / รอบต่อนาที)221/3,600-5,200
ชนิดน้ำมันเชื้อ เพลิงเบนซิน รองรับ E20
  • มอเตอร์ไฟฟ้า
ประเภทมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร
แรงดันไฟฟ้าสูงสุด (โวลต์)600
กำลังสูงสุด (กิโลวัตต์)100
แรงบิดสูงสุด  (นิวตัน-เมตร)208
  • แบตเตอรี่ไฮบริด
ประเภทของแบตเตอรี่Lithium-ion
แรงดันไฟฟ้า (โวลต์)251.6
จำนวนเซลล์68 เซลล์
ความจุไฟฟ้า (แอมแปร์-ชั่วโมง)4
  •  เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า
กำลังสูงสุด (PS)227
  • ระบบขับเคลื่อนและระบบกันสะเทือน
ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ E-CVT
ระบบกันสะเทือน (หน้า)อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือน (หลัง)อิสระแบบปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบเบรกดิสก์เบรก
ล้อล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
ยาง235/45 R18
ระบบบังคับเลี้ยวพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS

*อ้างอิงจากรุ่น HEV Premium Luxury

PROGRESS BEYOND PERFECTION…ก้าวสู่อีกระดับของความสมบูรณ์แบบ

1. PROGRESS OF AESTHETIC: การออกแบบภายนอก

ดีไซน์ภายนอกใช้ธีมการออกแบบ Energetic Beauty ด้านหน้าดีไซน์แบบ Hammerhead ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ไฟท้าย Full LED ดีไซน์ทันสมัย พร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว ให้ความรู้สึกสปอร์ต แต่ยังคงความหรูหรา

2. PROGRESS OF SENSATION: การออกแบบภายใน

ดีไซน์ภายในใช้ธีมการออกแบบ Energetic Beauty เช่นเดียวกัน ห้องโดยสารออกแบบพิเศษ ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง กว้างขวาง สบายตา Panoramic Roof แบบเปิดได้ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า บริเวณที่นั่งฝั่งผู้ขับ ถูกออกแบบให้มีลักษณะแบบ Cockpit ให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉงในขณะขับ วัสดุภายในคุณภาพสูง ผ่านการออกแบบอย่างประณีต เรียบง่ายแต่ทันสมัย เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ Smooth Leather และหนังสังเคราะห์ โทนสีภายในให้เลือก 2 โทนสี คือ Black Interior และ Yellow Brown Interior พิเศษเฉพาะรุ่น HEV PREMIUM LUXURY สีเงิน Precious Metal และสีขาว Platinum White Pearl

3. PROGRESS OF REFINEMENT: สมรรถนะ

ทุกรุ่นย่อย ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i ผสานพลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) ให้กำลังสูงสุด 227 แรงม้า พร้อมอัตราการใช้น้ำมัน 25 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO STICKER โดยทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ) มาพร้อมประโยชน์มากมายจาก TNGA เช่น จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ลดอาการโคลงตัว ช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ Double Wishbone Suspension โครงสร้างเหล็กที่แข็งแรง รองรับแรงบิด เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนน

4. PROGRESS OF PRACTICALITY: ความสะดวกสบาย

มาตรวัด และหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อม T-Connect, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger, ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB, ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH, พวงมาลัยปรับไฟฟ้าพร้อมระบบความจำและเลื่อนอัตโนมัติขณะเข้า-ออกจากตัวรถ, เบาะนั่งหุ้มวัสดุหนังแท้ Smooth Leather และหนังสังเคราะห์, เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support แบบไฟฟ้าและ Seat Ventilator,  เบาะนั่งผู้ขับพร้อมระบบความจำ 2 ตำแหน่ง, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งด้านข้างพนักพิง, เบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังปรับพนักพิงไฟฟ้า, แผงควบคุมระบบสัมผัสแบบดิจิทัล Capacitive Touch Controller, ม่านบังแดดกระจกหลังปรับไฟฟ้า, ม่านบังแดดประตูหลัง, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 3 โซน ปรับอิสระแยกซ้าย ขวา และหลัง, ลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง

5. PROGRESS OF RELIABILITY: ระบบความปลอดภัย

TOYOTA SAFETY SENSE ในทุกรุ่นย่อย, กล้องมองรอบคันที่มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น, ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู Safe Exit Assist, ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ PKSB และระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย

6. PROGRESS PROMINENCE: ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง

มากกว่าภาพลักษณ์แห่งความหรูหราของตัวรถ การตกแต่งด้วยชุดตกแต่งคิ้วโครเมียมรอบคัน พร้อมสปอยเลอร์หลัง ที่ออกแบบมาอย่างประณีตสำหรับ ALL-NEW CAMRY บ่งบอกถึงภาพลักษณ์แห่งความสำเร็จ แฝงไปด้วยความสุขุมและสะท้อน ความโดดเด่นเหนือระดับ ประกอบไปด้วย คิ้วตกแต่งกันชนหน้าโครเมียม สอดรับไปกับเส้นโครเมียมตกแต่งด้านข้าง และต่อเนื่องไปยังคิ้วตกแต่งกันชนหลัง พร้อมเสริมด้วย สปอยเลอร์หลัง “สะกดทุกสายตา สง่าทุกมุมมอง” เติมเต็มความหรูหรา ผสานกับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว

7. PROGRESS OF SELECTION: รายละเอียดสเปกในแต่ละรุ่นย่อย

รุ่น HEV SMART

อุปกรณ์มาตรฐาน

ไฟหน้า LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED

ไฟท้าย Full LED

ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ

กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยว LED ปรับไฟฟ้า และพับเก็บไฟฟ้าอัตโนมัติ

กระจกบังลมหน้าแบบลดเสียงรบกวน Acoustic Glass

เบาะนั่งหนังแท้ และหนังสังเคราะห์

เบาะนั่งด้านผู้ขับขี่ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า

เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง

ที่วางแขนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วและฝาปิด

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่ แบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว

ระบบ Smart Entry และ Push Start

ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า

ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ

โหมดการขับขี่ EV / ECO / NORMAL / SPORT

เครื่องเสียงพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว

ลำโพง 6 ตำแหน่ง

ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อม T-Connect

ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB Type-C 5 ตำแหน่ง

อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ปรับอิสระแยกซ้าย-ขวา

กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ

ม่านบังแดดประตูหลัง Rear Side Sunshade

ม่านบังแดดกระจกหลังปรับไฟฟ้า Electric Rear Sunshade

อุปกรณ์ความปลอดภัย

กล้องมองภาพขณะถอยหลัง

สัญญาณเตือนกะระยะ 8 ตำแหน่ง

ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ABS / EBD / BA / VSC / TRC / HAC

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA

ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู Safe Exit Assist

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ All-Speed Dynamic Radar Cruise Control และลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ PKSB  

ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS

รุ่น HEV PREMIUM

อุปกรณ์มาตรฐาน

ไฟหน้า LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED

ไฟท้าย Full LED

ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ

กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยว LED ปรับไฟฟ้า และพับเก็บไฟฟ้าอัตโนมัติ

กระจกบังลมหน้าแบบลดเสียงรบกวน Acoustic Glass

Panoramic Roof with Electric Sunshade หลังคาพาโนรามิคแบบเปิดได้ พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า

เบาะนั่งหนังแท้ Smooth Leather และหนังสังเคราะห์

เบาะนั่งด้านผู้ขับขี่ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า

เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง

ที่วางแขนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วและฝาปิด

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่ แบบจอสี TFT ขนาด 12.3 นิ้ว

ระบบ Smart Entry และ Push Start

ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า

ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ

โหมดการขับขี่ EV / ECO / NORMAL / SPORT

เครื่องเสียงพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว

ลำโพง 6 ตำแหน่ง

ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อม T-Connect

ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB Type-C 5 ตำแหน่ง

อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ปรับอิสระแยกซ้าย-ขวา

กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ

แป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift

ม่านบังแดดประตูหลัง Rear Side Sunshade

ม่านบังแดดกระจกหลังปรับไฟฟ้า Electric Rear Sunshade

กล้องบันทึกภาพติดรถยนต์ด้านหน้า

อุปกรณ์ความปลอดภัย

กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor

สัญญาณเตือนกะระยะ 8 ตำแหน่ง

ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ABS / EBD / BA / VSC / TRC / HAC

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA

ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู Safe Exit Assist

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ All-Speed Dynamic Radar Cruise Control และลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ PKSB  

ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS

รุ่น HEV PREMIUM LUXURY

อุปกรณ์มาตรฐาน

ไฟหน้า LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED

ไฟท้าย Full LED

ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ

กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ปรับไฟฟ้า และพับเก็บไฟฟ้าอัตโนมัติ พร้อมระบบความจำ และระบบ Reverse link

กระจกบังลมหน้าแบบลดเสียงรบกวน Acoustic Glass

Panoramic Roof with Electric Sunshade หลังคาพาโนรามิคแบบเปิดได้ พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า

พวงมาลัยปรับไฟฟ้า พร้อมระบบความจำและเลื่อนอัตโนมัติ ขณะเข้า-ออกจากตัวรถ

เบาะนั่งหนังแท้ Smooth Leather และหนังสังเคราะห์

เบาะนั่งด้านผู้ขับ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบความจำ 2 ตำแหน่ง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า Seat Ventilator และระบบเลื่อนถอยหลังอัตโนมัติ ขณะเข้า-ออกจากตัวรถ

เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Seat Ventilator และปุ่มปรับบริเวณข้างพนักพิง

เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังปรับพนักพิงไฟฟ้า

ที่วางแขนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วแบบพับเก็บได้ และแผงควบคุมระบบสัมผัสแบบดิจิตอล

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่ แบบจอสี TFT ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจอ HUD

ระบบ Smart Entry และ Push Start

ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า

ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ

โหมดการขับขี่ EV / ECO / NORMAL / SPORT

เครื่องเสียงพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว

ลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง

ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อม T-Connect

ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB Type-C 5 ตำแหน่ง

อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 3 Zone ปรับอิสระแยกซ้าย ขวา  และหลัง

กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ

แป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift

ม่านบังแดดประตูหลัง Rear Side Sunshade

ม่านบังแดดกระจกหลังปรับไฟฟ้า Electric Rear Sunshade

กล้องบันทึกภาพติดรถยนต์ด้านหน้า

อุปกรณ์ความปลอดภัย

กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor

สัญญาณเตือนกะระยะ 8 ตำแหน่ง

ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ABS / EBD / BA / VSC / TRC / HAC

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA

ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู Safe Exit Assist

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ All-Speed Dynamic Radar Cruise Control และลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ PKSB  

ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS

สัมผัสประสบการณ์ขับขี่ใหม่ กับบริการเสริมที่หลากหลายผ่านเทคโนโลยี T-CONNECT ด้วย 4 คุณสมบัติหลัก ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง

1. Always Located & Protected เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยไร้กังวล

– Find My Car บริการเช็กตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ หมดปัญหาจำที่จอดไม่ได้ หารถไม่เจอ

– TheftTrack บริการตรวจสอบตำหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม และประสานความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง

– SOS บริการประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

– Geo-Fencing บริการแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนออกจากจุดจอดหรือขอบเขตที่คุณกำหนดไว้

2. Telematics Care ดูแลรถได้ง่ายๆ สะดวก

– Maintenance Reminder บริการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเข้าศูนย์บริการ พร้อมประสานงานนัดหมาย

– Vehicle Information บริการข้อมูลรถและการขับขี่ สรุปทริปการเดินทาง แจ้งเตือนต่อทะเบียน พร้อมเช็กประวัติและสถานะงานซ่อมแบบเรียลไทม์

– PHYD Insurance ประกันภัย “ขับดี ลดให้” พิเศษด้วยดอกเบี้ยประกันภัยจ่ายตามพฤติกรรมการขับขี่ พร้อมแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อใกล้ถึงเวลาต่อประกันภัย

3. Happiness Mobility เติมเต็มความสุข และไลฟ์สไตล์

– Concierge Services บริการผู้ช่วยส่วนตัว ให้คุณสอบถามเส้นทาง จองร้านอาหาร และอื่นๆอีกมากมาย 

4. TOYOTA ALIVE-X ขับเคลื่อน x ทุกความสุข

– The 1 โปรแกรมสะสมคะแนน The 1 ใช้แลกเป็นส่วนลดในการเข้าศูนย์โตโยต้า และร้านค้าในเครือเซ็นทรัล

หมายเหตุ : การให้บริการของ T-Connect ต้องดาว์โหลดแอปพลิเคชัน และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของรถเพื่อเข้าใช้งาน สามารถศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ www.t-connect.in.th

ฮอนด้า ชวนร่วมสนุกโชว์สเต็ป วัดกัน…ใครทำถึง แดนซ์ให้ปัง ชิงรางวัล

ฮอนด้าชวนร่วมสนุกโชว์สเต็ปกับเพลง “Honda, We are family” ผ่านกิจกรรม Happy Dance Challenge วัดกัน…ใครทำถึง แดนซ์ให้ปัง ใน TikTok ชิงรางวัลสูงสุด 20,000 บาท รวมกว่า 50 รางวัล ตั้งแต่ 8 ต.ค. 2567 – 2 ธ.ค. 2567

#HondaWeAreFamily #HondaThailand

“Honda, We are family: Happy Dance Challenge”

@honda_th_official

“ฮอนด้าชวนสนุกโชว์สเต็ปกับเพลง “Honda, We are family”ผ่านHappy Dance Challenge วัดกัน…ใครทำถึง แดนซ์ให้ปัง ใน TikTokตั้งแต่ 8 ต.ค. 2567 – 2 ธ.ค. 2567” 👉 กติกา 1. ผู้สนใจต้องกดติดตามช่อง TikTok “Honda Thailand Official” รวมถึงบัญชีและโพสต์ที่เข้าร่วมต้องตั้งค่าเป็น “สาธารณะ” 2. อัปโหลดวิดีโอของคุณ โดยใช้แผ่นเสียง “Honda, We Are Family” ของโพสต์บน TikTok “ Honda Thailand Official ” พร้อมติดHashtags  #HondaWeAreFamily #HondaThailand 3. กำหนดให้มีท่าเต้นสัญลักษณ์ตัว H อยู่ในวิดีโอ (โพสต์บน TikTok Honda Thailand Official (@honda_th_official) ) โดยสามารถออกแบบท่าเต้นเพิ่มเติมเองได้ 👉 รายละเอียดของสมนาคุณสำหรับผู้ที่มียอดวิวสูงสุด 50 ลำดับแรก • ลำดับที่ 1: รับบัตรคูปองน้ำมัน 20,000 บาท* • ลำดับที่ 2: รับบัตรคูปองน้ำมัน 15,000 บาท* • ลำดับที่ 3: รับบัตรคูปองน้ำมัน 10,000 บาท* • ลำดับที่ 4: รับบัตรคูปองน้ำมัน 5,000 บาท* • ลำดับที่ 5: รับบัตรคูปองน้ำมัน 3,000 บาท* • ลำดับที่ 6-15 : รับบัตรคูปองน้ำมัน 2,000 บาท* • ลำดับที่ 16-25 : รับบัตรคูปองน้ำมัน 1,000 บาท* • ลำดับที่ 26-50 : รับบัตรคูปองน้ำมัน 500 บาท* * เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด 👉 การประกาศผล: 1. ประกาศรายชื่อผู้ที่มียอดวิวอันดับ 1-50 ผ่านทาง TikTok Honda Thailand Official และเว็บไซต์ www.honda.co.th ในวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป 2. ผู้ที่ได้รับของสมนาคุณจะต้องส่งข้อความผ่านทาง Chat มายัง TikTok Honda Thailand Official โดยแจ้งรายละเอียดชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร และอีเมล์ โดยต้องทำการยืนยันสิทธิ์ ภายในวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป – วันที่ 13 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. 3. กรณีที่มีผู้ยืนยันรับสมนาคุณไม่ครบ 50 อันดับ ทางบริษัทฯ จะทำการติดต่อรายชื่อสำรอง (ผู้ที่มียอดวิวลำดับที่ 51 เป็นต้นไป) ในวันที่ 17 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป 4. บริษัทฯ จะจัดส่งของสมนาคุณภายในเดือนธันวาคม 2567 👉 หมายเหตุ: 1. เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด และคำตัดสินของคณะกรรมการฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด 2. สงวนสิทธิ์ให้ 1 ท่าน สามารถรับสมนาคุณได้เพียง 1 สิทธิ์ ต่อ 1 บัญชีผู้ใช้งาน TikTok เท่านั้น 3. หากคลิปผลงานมีจำนวนยอดวิวเท่ากัน จะพิจารณาจากลำดับการโพสต์คลิปก่อน-หลัง ตามลำดับ 4. สงวนสิทธิ์ในการนำคลิปวิดีโอออก หากมีการแต่งกายหรือเนื้อหาขัดต่อศีลธรรม กฎหมาย หรือแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เป็นอันตราย รวมถึงมีเนื้อหาไม่เกี่ยวข้อง 5. ผู้เข้าร่วมยินยอมให้ทางบริษัทฯ นําผลงานดังกล่าวไปเผยแพร่ตามช่องทางต่างๆ เพื่อวัตถุประสงค์เชิงการตลาดและประชาสัมพันธ์ของงาน 6. ของสมนาคุณในการเข้าร่วม ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสดได้ 7. บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้นำของสมนาคุณที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ทางการค้า การทำโปรโมชันกับสินค้า อาทิ การลด แลก แจก แถม และจำหน่ายสิทธิ์ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากบริษัทฯ 8. บริษัทฯ มีสิทธิ์แก้ไข เปลี่ยนแปลงของสมนาคุณได้ตามที่บริษัทฯ เห็นว่าเหมาะสม โดยจะแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าผ่านช่องทางที่บริษัทฯ เห็นสมควร 9. สงวนสิทธิ์ในการให้ของสมนาคุณสำหรับพนักงานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล  (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า และพนักงานของผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ สำหรับประเภทการแข่งขันสำหรับบุคคลทั่วไป 10. สามารถตรวจสอบรายละเอียดนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ เพิ่มได้ที่ https://www.honda.co.th/privacy-policy 11. เงื่อนไขในการรับของสมนาคุณ ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% (พร้อมจัดเตรียมสำเนาบัตรประชาชน) หากกรณีอายุไม่ถึง 20 ปี ให้ผู้ปกครองเป็นผู้รับของสมนาคุณแทน 12. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0-2341-7777

♬ Honda, We are family – Honda Thailand Official

มิวสิกวิดีโอ “Honda, We are family”: https://youtu.be/Od_sOzpR0u0

(กรุงเทพฯ – 8 ตุลาคม 2567) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ขอเชิญชวนผู้สนใจและสายแดนซ์ร่วมสนุกและออกสเต็ปผ่านเพลงพิเศษ “Honda, We are family” ที่ถ่ายทอดความผูกพันของฮอนด้ากับลูกค้าชาวไทยมายาวนาน กับกิจกรรม Happy Dance Challenge วัดกัน…ใครทำถึง แดนซ์ให้ปัง ใน TikTok Honda Thailand Official (@honda_th_official) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ “Honda, We are family เพราะเราคือครอบครัวฮอนด้า” เพื่อแทนคำขอบคุณจากฮอนด้าที่มอบให้กับลูกค้าทุกท่านที่ได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวฮอนด้า โดยคลิปวิดีโอที่มียอดวิวสูงสุดจำนวน 50 ท่าน จะได้รับรางวัลบัตรน้ำมันมูลค่าสูงสุด 20,000 บาท สามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2567 – 2 ธันวาคม 2567 และประกาศผลผู้ชนะในวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ผ่านทาง TikTok Honda Thailand Official (@honda_th_official) และเว็บไซต์ www.honda.co.th

กติกาการร่วมสนุก

1.ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องกดติดตาม TikTok Honda Thailand Official (@honda_th_official) รวมถึงบัญชีและโพสต์ที่เข้าร่วมต้องตั้งค่าเป็นสาธารณะ

2.สามารถร่วมกิจกรรมได้ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม โดยอัปโหลดคลิปวิดีโอการเต้นของคุณ โดยใช้แผ่นเสียง “Honda, We are family” ของโพสต์บน TikTok Honda Thailand Official (@honda_th_official) พร้อมติด Hashtags #HondaWeAreFamily #HondaThailand

3.กำหนดให้มีท่าเต้นสัญลักษณ์ตัว H อยู่ในวิดีโอ (สามารถดูท่า H ในมิวสิกวิดีโอบนโพสต์ TikTok Honda Thailand Official (@honda_th_official) หรือทาง https://youtu.be/Od_sOzpR0u0) โดยสามารถออกแบบท่าเต้นเพิ่มเติมเองได้

เกณฑ์การตัดสิน

คลิปวิดีโอการเต้นที่ทำตามกติกาและโดนใจคณะกรรมการ โดยมียอดวิวสูงที่สุดจำนวน 50 ท่าน จะได้รับรางวัลบัตรน้ำมันมูลค่าสูงสุด 20,000 บาท โดยการตัดสินของกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

ลำดับ 1-50
วิดีโอที่ยอดวิวสูงสุด
รางวัลมูลค่าบัตรน้ำมัน (บาท)
120,000
215,000
310,000
45,000
53,000
6-152,000
26 – 251,000
26 – 50500

เงื่อนไขในการรับเงินรางวัล หักภาษี ณ ที่จ่าย 5%

ประกาศรางวัล

1.บริษัทฯ จะประกาศรายชื่อผู้ชนะทั้งหมด 50 ท่าน ในวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ทาง TikTok Honda Thailand Official (@honda_th_official) และเว็บไซต์ www.honda.co.th 

2.ผู้ที่ได้รับรางวัลจะต้องส่งข้อความผ่านทาง Chat มายัง TikTok Honda Thailand Official โดยแจ้งรายละเอียดชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล โดยต้องทำการยืนยันสิทธิ์ภายในวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. – วันที่ 13 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. 

3.กรณีที่มีผู้ยืนยันรับรางวัลไม่ครบ 50 รางวัล ทางบริษัทฯ จะทำการติดต่อรายชื่อสำรอง (ผู้ที่มียอดวิวลำดับที่ 51 เป็นต้นไป) ในวันที่ 17 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

4.บริษัทฯ จะจัดส่งของรางวัลให้แก่ผู้ได้รับรางวัลภายในเดือนธันวาคม 2567

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของแคมเปญพิเศษ “Honda, We are family เพราะเราคือครอบครัวฮอนด้า” ได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง (Honda Call Center) โทร. 0 2341 7777

# # # # #

*หมายเหตุ

1. เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด และคำตัดสินของคณะกรรมการฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด

2. สงวนสิทธิ์ให้ 1 ท่าน สามารถรับรางวัลได้เพียง 1 สิทธิ์ ต่อ 1 บัญชีผู้ใช้งาน TikTok เท่านั้น

3. หากคลิปผลงานของผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีจำนวนยอดวิวเท่ากัน จะพิจารณาจากลำดับการโพสต์คลิปก่อน-หลัง ตามลำดับ

4. สงวนสิทธิ์ในการนำคลิปวิดีโอออกจากแข่งขัน หากมีการแต่งกายหรือเนื้อหาขัดต่อศีลธรรม กฎหมาย หรือแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เป็นอันตราย รวมถึงมีเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน

5. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยินยอมให้ทางบริษัทฯ นําผลงานดังกล่าวไปเผยแพร่ตามช่องทางต่างๆ เพื่อวัตถุประสงค์เชิงการตลาดและประชาสัมพันธ์ของงาน

6. รางวัลในการเข้าร่วมกิจกรรม ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสดได้

7. บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้นำรางวัลที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ทางการค้า การทำโปรโมชันกับสินค้า อาทิ การลด แลก แจก แถม และจำหน่ายสิทธิ์ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากบริษัทฯ

8. บริษัทฯ มีสิทธิ์แก้ไข เปลี่ยนแปลงของรางวัลได้ตามที่บริษัทฯ เห็นว่าเหมาะสม โดยจะแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าผ่านช่องทางที่บริษัทฯ เห็นสมควร

9. สงวนสิทธิ์ในการให้รางวัลสำหรับพนักงานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า และพนักงานของผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ สำหรับประเภทการแข่งขันสำหรับบุคคลทั่วไป

10. สามารถตรวจสอบรายละเอียดนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ เพิ่มได้ที่ https://www.honda.co.th/privacy-policy

11. เงื่อนไขในการรับรางวัล ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% (พร้อมจัดเตรียมสำเนาบัตรประชาชน) หากกรณีอายุไม่ถึง 20 ปี ให้ผู้ปกครองเป็นผู้รับเงินรางวัลแทน

12. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0-2341-7777

อีซูซุ ประกาศ “อีซูซุยอดนักขับมือทอง” ประจำปี 2567

อีซูซุส่ง Isuzu King of Trucks Euro5 Max นำทัพค้นหา “อีซูซุยอดนักขับมือทอง” ประจำปี 2567 รอบชิงชนะเลิศ ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท

บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด โดยการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจาก กรมการขนส่งทางบก จัดการแข่งขัน “อีซูซุยอดนักขับมือทอง” ครั้งที่ 17 ประจำปี 2567 “ศึกชิงแชมป์ Isuzu Euro5 Max” รอบชิงชนะเลิศ เพื่อเฟ้นหา “สุดยอดนักขับรถบรรทุก” ที่สามารถผ่านบททดสอบสุดท้าทาย ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 1 ล้านบาท พร้อมโล่เกียรติยศ ณ สนามทดสอบไทยบริดจสโตน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

กลุ่มตรีเพชร โดย มร.ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “หนึ่งในพันธกิจที่อีซูซุมุ่งมั่นคือการสร้างสังคมผู้ใช้รถบรรทุกอีซูซุให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ด้วยแนวคิด Isuzu Life Cycle Solutions ในปัจจุบันธุรกิจด้านโลจิสติกส์มีการแข่งขันที่สูงขึ้น จึงจำเป็น ต้องมีการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ อีซูซุพร้อมเคียงคู่ผู้ประกอบการ ด้วย Isuzu Life Cycle Solutions ตั้งแต่ขั้นตอนซื้อรถ เพื่อให้ได้รถบรรทุกที่คุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งาน  เป็นส่วนหนึ่ง ของธุรกิจลูกค้าในการให้คำแนะนำ พร้อมหลักสูตรอบรมต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการ วิเคราะห์ วางแผนในการลดต้นทุนได้อย่างดีเยี่ยมหมดกังวล ทุกปัญหาการซ่อมบํารุง ด้วยความพร้อมของบริการหลังการขาย โดยทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการซ่อมบำรุง ทำให้ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย รวมถึง ความพร้อมของอะไหล่หลากหลายรายการ ครอบคลุมทุกความต้องการ คุณภาพมาตรฐาน ราคาประหยัด ทั้งหมดนี้เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้รถบรรทุกอีซูซุได้อย่างมั่นใจ และเติบโตอย่างยั่งยืน อีซูซุยอดนักขับมือทอง จึงถือเป็นหนึ่งกลไกสำคัญในการพัฒนาคุณภาพผู้ขับขี่รถบรรทุกให้มี ประสิทธิภาพและปลอดภัย ช่วยยกระดับมาตรฐานอาชีพให้เป็นที่ยอมรับ และขับเคลื่อน วงการขนส่งเมืองไทยให้ก้าวหน้าอย่างแท้จริง ในปีนี้อีซูซุได้นำ Isuzu King of Trucks Euro5Max  ที่ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ Euro5 โดยไม่ต้องเติมน้ำยาบำบัดไอเสีย เช่น AdBlue เพื่ออากาศที่สะอาดขึ้น แต่ยังคงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมและประหยัดน้ำมันสุดมาใช้ในการแข่งขันปีนี้ โดยผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศ จะต้องผ่านการแข่งขันอย่างเข้มข้น เพื่อชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท”

การแข่งขัน “อีซูซุยอดนักขับมือทอง” รอบคัดเลือก แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทรถหัวลากและประเภทรถสิบล้อลากพ่วง โดยเปิดรับสมัครนักขับฝีมือดี เข้าคัดเลือกเป็นตัวแทนระดับภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 5 ภูมิภาค เริ่มทำการแข่งขันตั้งแต่ 6 กรกฎาคม – 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะต้องผ่านบททดสอบทั้งภาคทฤษฎีอันเข้มข้น ได้แก่ ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายด้านการขนส่งและจราจร จิตวิทยา ทักษะการตัดสินใจ รวมถึงความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการใช้และบำรุงรักษารถประจำวัน และภาคปฏิบัติ ซึ่งจะเป็นการแข่งขันในสถานีทดสอบต่าง ๆ ที่มีความท้าทายเฉพาะทาง อาทิ การขับรูปตัว S และจอดให้ตรงจุด (S-Curve Driving & Precision Braking) การขับสลับช่องจอด (Docking Slot Swapping) การขับในพื้นที่จำกัด (Narrow Space Maneuvering) และการขับให้ประหยัดน้ำมัน และปลอดภัย (Fuel Economy and Safety Drive) โดยผลการแข่งขัน “อีซูซุยอดนักขับมือทอง” ประจำปี 2567 รอบชิงชนะเลิศ มีดังนี้

ประเภทรถบรรทุกสิบล้อลากพ่วง

-ชนะเลิศ คุณโยธิต แซ่ขวย จาก เมืองมาลีลานปาล์ม รับรางวัลเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก

-รองชนะเลิศอันดับ 1 คุณสุรศักดิ์ ศิริสาร จาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยาม เค สหขนส่ง รับรางวัลเงินสด 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบ

-รองชนะเลิศอันดับ 2 คุณจำนง ต่างกลาง จาก คุณรัณย์นล ธัญทรัพย์มงคล รับรางวัลเงินสด 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก

ประเภทรถบรรทุกหัวลาก

ชนะเลิศ คุณนันทวิทย์ อินเขียว จาก บริษัท วีเอ็นเอส ทรานสปอร์ต จำกัด รับรางวัลเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก

-รองชนะเลิศอันดับ 1 คุณศรัณย์ ถาวรสัง จาก บริษัท ปัญญาวัสดุก่อสร้าง จำกัด รับรางวัลเงินสด 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก

รองชนะเลิศอันดับ 2 คุณสุรพงษ์ เกตุทอง จาก บริษัท ยูเซ็น ฟู้ด ซัพพลาย เชน (ประเทศไทย) จำกัด รับรางวัลเงินสด 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก


นอกจากนี้ เจ้าของกิจการของผู้ชนะเลิศ และรองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2 ของทั้ง 2 ประเภท ยังได้รับรางวัลบัตรกำนัลอีซูซุมูลค่า 20,000 บาท อีกด้วย

ทั้งนี้ นายธนานันต์ เหลืองเรืองธนา จาก บริษัท กิตติ แสงชัยบริการ จำกัด หนึ่งใน เจ้าของกิจการผู้ให้การสนับสนุนพนักงานขับรถบรรทุกของบริษัทฯ เข้าร่วมการแข่งขันอีซูซุยอดนักขับมือทอง ยังได้เผยถึงความรู้สึกที่มีต่อการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ว่า “ในฐานะเจ้าของกิจการ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนพนักงานขับรถของบริษัทฯ ให้ได้เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันอีซูซุยอดนักขับมือทอง เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยพัฒนาทักษะคนขับให้ขับรถได้ถูกต้อง มีคุณภาพ ปลอดภัย และประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น ส่งผลช่วยในการลดต้นทุนการของกิจการเราได้อีกด้วย นอกจากนี้อีซูซุยังให้คำแนะนำต่างๆ แก่ผู้ประกอบการ ตั้งแต่การเลือกใช้รถให้เหมาะสม การดูแลหลังการขาย มีศูนย์บริการครอบคลุมอย่างมาก มีความพร้อมเรื่องการบริการอะไหล่  และระบบช่วยเหลือฉุกเฉินโมบาย เซอร์วิส (Mobile Service) ที่ดีมาก ตลอดจนเรื่องรถมือสองก็มีระบบรองรับที่ทำให้ราคาขายต่อของรถอีซูซุได้ราคาดี”

เช่นเดียวกับ นายปัญญา คงปาน บริษัท ปัญญาวัสดุก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า “กิจกรรม อีซูซุยอดนักขับมือทอง เป็นกิจกรรมที่ดีช่วยส่งเสริมให้พนักงานขับรถอยากพัฒนาคุณภาพตัวเอง เพื่อมีสิทธิ์ร่วมแข่งขัน บริษัทก็ลดต้นทุน เพราะพนักงานขับรถได้ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น และอีซูซุยังช่วยสนับสนุนกิจการหลายอย่าง ทั้ง บริการ ISUZU Care และยังมีพนักงานขายที่ดูแลดีสม่ำเสมอ อีกด้วย”

ร่วมติดตามข่าวสารต่างๆ ของอีซูซุได้ที่ www.isuzu-tis.com และ Facebook : Isuzu Trucks Thailand

เอเอเอส กรุ๊ป ลงทุน 120 ลบ. เปิดโชว์รูม EV แบรนด์ AVATR

เอเอเอส กรุ๊ป ลงทุน 120 ล้านบาท จำหน่ายรถ EV ระดับพรีเมี่ยม แบรนด์ AVATR พร้อมเปิดโชว์รูมใหม่ 2 สาขาที่สยามพารากอน และพระราม 3

นายอนุวัชร อินทรภูวศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินฟินิท ออโตโมบิล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเอเอเอส กรุ๊ป ได้เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท ฉางอาน เซาท์อีสเอเชีย ประเทศไทย จำกัด ให้เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยมแบรนด์ AVATR โดยบริษัทได้เตรียมงบลงทุนจำนวน 120 ล้านบาท พร้อมแผนการเปิดโชว์รูม 2 สาขาในปีแรก

โชว์รูมแห่งแรกตั้งอยู่ที่สยามพารากอน ชั้น 2 ขนาดพื้นที่ 150 ตารางเมตร ซึ่งจะพร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการในกลางเดือนตุลาคมนี้ ส่วนโชว์รูมที่สองจะตั้งอยู่ที่พระราม 3 ขนาดพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตร พร้อมศูนย์บริการครบวงจร ซึ่งจะเปิดให้บริการในปลายปี 2568 โดยจะเปิดเป็นโชว์รูมชั่วคราวก่อน ในกลางเดือนตุลาคมนี้เช่นกัน

นอกจากนี้ บริษัทมุ่งมั่นที่จะนำเสนอประสบการณ์การบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าภายใต้แบรนด์ AVATR โดยมีแผนที่จะขยายโชว์รูมและบริการไปทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการให้บริการที่ครอบคลุมและสอดคล้องกับรถรุ่นต่างๆ ที่จะนำเข้ามาและผลิตในประเทศในอนาคต ทั้งในรูปแบบของการลงทุนเอง และการแต่งตั้งตัวแทน โดยบริษัทตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2 สาขาต่อปี

สำหรับเป้ายอดขายของรถยนต์ AVATR 11 ที่เปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ คาดว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 500 คันในปีแรก โดยในเดือนแรกที่เปิดจำหน่าย บริษัทได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี มียอดจองมากกว่า 100 คันภายในเวลาเพียง 15 วัน และรถยนต์รุ่นนี้จะมาถึงและทยอยส่งมอบให้ลูกค้าตามลำดับการจองตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป

MOTOR EXPO รวมใจสานสายสัมพันธ์สื่อมวลชน

MOTOR EXPO รวมใจสานสายสัมพันธ์สื่อมวลชน

นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป และนางสาวชไมพร ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการตลาดสัมพันธ์ งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” จัดกิจกรรม “รวมใจสานสายสัมพันธ์สื่อมวลชน – MOTOR EXPO ครั้งที่ 14” ภายใต้แนวคิด “รวมกันสรรค์สร้างสังคมยานยนต์” เพื่อกระชับสัมพันธ์ และขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง ณ ร้านอาหาร Waterside เมื่อเร็วๆ นี้

ลูกค้ามาสด้าสุดปลื้มร่วมเล่นกอล์ฟสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

ลูกค้ามาสด้าสุดปลื้มร่วมเล่นกอล์ฟสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เยาวชนไทยสุดแฮปปี้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายโอกาสไปอเมริกาสูง

มาสด้า จัดกิจกรรมให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกออกรอบแข่งขันกอล์ฟแบบเอ็กซ์คลูซีฟ สร้างประสบการณ์ความสนุกสนาน ความบันเทิง และสิทธิพิเศษที่มาสด้าบรรจงคัดสรรมาเพื่อลูกค้ามาสด้าแฟมิลี่โดยเฉพาะ ในโครงการ “MAZDA EXCLUSIVE TOURNAMENT 2024” ตอกย้ำพันธสัญญาที่มาสด้าให้ความสำคัญกับลูกค้า และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทุกการเติบโตสู่ความยั่งยืน ส่งมอบประสบการณ์อันเหนือระดับให้ลูกค้าทุกคนได้สัมผัส เอกสิทธิ์เพียงหนึ่งเดียวที่แบรนด์มาสด้ามอบให้ลูกค้า นอกจากถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก ความสนุกสนานในการขับขี่ ความสุขในการใช้ชีวิตประจำวัน และอนาคตที่รถยนต์มีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและสังคม บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น เต็มเปี่ยมด้วยรอยยิ้มของลูกค้ามาสด้าแฟมิลี่ที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดกว่า 200 คน จัดขึ้น ณ สนาม Alpine Golf Club จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ มาสด้ายังจัดอีกหนึ่งกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟให้เยาวชนไทยที่มาจากมาสด้าแฟมิลี่ ด้วยการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนรอบคัดเลือก เพื่อเฟ้นหาสุดยอดฝีมือเยาวชนดาวเด่น จำนวน 32 คน เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรอบสุดท้ายร่วมกับนักกอล์ฟจากนานาชาติ ในโครงการ “MAZDA U.S. COLLEGE PREP JUNIOR GOLF CHAMPIONSHIP 2024” พร้อมลุ้นเดินทางไปแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับโลกที่สหรัฐอเมริกา  ตลอดจนการเปิดโอกาสที่จะได้รับการเสนอทุนการศึกษา ก้าวสู่เส้นทางการเป็นโปรกอล์ฟระดับอาชีพ โดยมอบรางวัลและประกาศนียบัตรให้เยาวชนที่ทำคะแนนสูงสุด 5 อันดับแรกจากการแข่งขัน ทั้งประเภทเยาวชนชายและเยาวชนหญิง แสดงออกถึงอีกหนึ่งก้าวแห่งความสำเร็จในการเดินหน้าสู่เส้นทางอาชีพตามฝัน สร้างขวัญกำลังใจให้กับเยาวชนในการเตรียมพร้อมไปแข่งขันในรอบสุดท้ายในระหว่าง 8-10 พฤศจิกายน 2567 ณ สนามกอล์ฟแบล็คเมาท์เท่น หัวหิน

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเอาใจใส่ดูแลลูกค้าเสมือนคนในครอบครัว คือ สิ่งที่มาสด้ามุ่งมั่นตั้งใจถ่ายทอดลงในทุกองค์ประกอบของการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่การขายจนถึงบริการหลังการขาย เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ โดยเฉพาะกลุ่มมาสด้าแฟมิลี่หรือลูกค้าที่ใช้รถยนต์มาสด้า เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์ความพิเศษที่มากกว่าความสนุกสนานที่ได้รับจากการขับขี่ อาทิ การดูแลเอาใจใส่และให้บริการหลังการขายที่ดีเลิศ การจัดกิจกรรมโดยมีลูกค้ามีส่วนร่วมทุกประสบการณ์ การมอบเอกสิทธิ์พิเศษให้ลูกค้าเก่าอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการมอบเอกสิทธิ์ในด้านต่าง ๆ เพื่อให้มาสด้าเป็นแบรนด์ที่ครองใจลูกค้าตลอดไปและนึกถึงเป็นอันดับแรกอยู่เสมอ และถ่ายทอดความสุขให้กับทุกคนไปตลอดช่วงเวลาที่เป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า ยากที่จะหาได้จากแบรนด์อื่น

เช่นเดียวกับโครงการ “MAZDA EXCLUSIVE TOURNAMENT 2024” ในครั้งนี้ มาสด้าตั้งใจที่จะมอบเอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะลูกค้ามาสด้าแฟมิลี่ สัมผัสประสบการณ์ความสนุกจากการเล่นกอล์ฟเป็น ก๊วนแบบเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมาย โครงการนี้ได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้น มีลูกค้าสมัครเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 100 คัน ผลการแข่งขันนักกอล์ฟที่ทำผลงานได้ดีที่สุด 3 อันดับแรกทั้ง ไฟท์ A, B, และ C จะได้รับโล่ห์รางวัลแห่งเกียรติยศพร้อมของรางวัลสุดพิเศษจากมาสด้าเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ ลูกค้าทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมยังได้ลุ้นรับของรางวัลอีกมากมายที่มาสด้าคัดสรรมาเป็นพิเศษ แทนคำขอบคุณลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมความสนุกกับมาสด้าในครั้งนี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่นจากลูกค้ามาสด้าแฟมิลี่ที่เข้าร่วมกิจกรรม

พร้อมกันนี้ ในวันงานฯ ยังได้จัดการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนรอบคัดเลือก โครงการ “MAZDA U.S. COLLEGE PREP JUNIOR GOLF CHAMPIONSHIP 2024” โดยมีเยาวชนเข้าร่วมทั้งหมด 64 คน แบ่งเป็นเยาวชนชาย 32 คน และ เยาวชนหญิง 32 คน มีเพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เข้าแข่งขันที่ทำผลงานดีที่สุดจะได้ไปแข่งขันต่อในรอบสุดท้าย หลังการแข่งขันได้มีการมอบรางวัลให้กับนักกอล์ฟ ทั้งประเภทชายและหญิง 5 อันดับแรกที่ทำผลงานได้ดีที่สุด พร้อมประกาศรายชื่อเยาวชนที่ผ่านเข้ารอบ จำนวน 32 คน เพื่อไปแข่งขันรอบสุดท้ายที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2567 ณ สนามกอล์ฟ Black Mountain Golf Club หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับนักกีฬาเยาวชนจากนานาชาติเดินทางมาร่วมการแข่งขัน โดยมีโค้ชจากมหาวิทยาลัยชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาเดินทางมาสังเกตุทักษะฝีมือการเล่นของแต่ละบุคคล เยาวชนที่มีความสามารถโดดเด่นทุกคนมีโอกาสได้รับการเสนอทุนการศึกษา เพื่อก้าวสู่เส้นทางการเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพต่อไป ส่วนเยาวชนที่ชนะเลิศการแข่งขันทั้งชายและหญิงจะได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกาทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย*

“มาสด้าขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ร่วมขับเคลื่อนประสบการณ์ความสุขในครั้งนี้ มาสด้าจะยังคงเดินหน้าในการส่งมอบ “ความสุขในการขับขี่” หรือ Joy of Driving ตลอดไป ภายใต้การบริหารคุณค่าหลักที่ให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้น “มนุษย์เป็นศูนย์กลาง” มุ่งมั่นที่จะส่งมอบ “ความสุขในการดำเนินชีวิต” ด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความสุขให้กับชีวิตประจำวันของลูกค้าทุกคน เพื่อแทนคำขอบคุณที่ลูกค้าเลือกมาสด้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทุกประสบการณ์การใช้ชีวิต เพื่อสร้างความสุขและส่งมอบรอยยิ้มให้กับลูกค้าตลอดไป” นายธีร์ กล่าวเพิ่มเติม

หมายเหตุ :

*ยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำวีซ่า และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเดินทางไปร่วมการแข่งขัน

บรรยากาศกิจกรรม “MAZDA EXCLUSIVE TOURNAMENT 2024” และการแข่งขันรอบคัดเลือก “MAZDA U.S. COLLEGE PREP JUNIOR GOLF CHAMPIONSHIP 2024”

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save