- Advertisement -
26 C
Bangkok
Home Blog Page 27

GWM คว้า 3 รางวัล THAILAND CAR & BIKE OF THE YEAR 2025

GWM คว้า 3 รางวัลคุณภาพจากงาน THAILAND CAR & BIKE OF THE YEAR 2025 จากรถยนต์ 3 รุ่น 3 ตระกูล : GWM TANK 300 HEV, GWM ORA 07 และ GWM POER SAHAR HEV

กรุงเทพฯ 10 มีนาคม 2568 – GWM (Thailand) ประกาศความสำเร็จรับต้นปี 2568 คว้า 3 รางวัลอันทรงเกียรติจากงานประกาศรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “THAILAND CAR & BIKE OF THE YEAR 2025” จากกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล สะท้อนความ สำเร็จในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์เหนือระดับให้กับผู้ขับขี่ชาวไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงาน โดยมีรถยนต์คุณภาพจาก GWM ถึง 3 รุ่น ใน 3 ตระกูลที่ครอบคลุมทั้ง 3 เซกเมนต์ ที่สามารถคว้ารางวัลในงานนี้ ได้แก่

•GWM TANK 300 HEV กับรางวัล BEST HYBRID 4×4 OFFROAD

•GWM ORA 07 ในรางวัล BEST EV SEDAN

•GWM POER SAHAR HEV กับรางวัล BEST HYBRID PICKUP

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ดร. ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานคณะกรรมการบริหาร, นายพีระพงศ์ เอี่ยมลําเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ และ นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน THAILAND CAR & BIKE OF THE YEAR 2025 โดยมี นางสาวแพนดอร่า หยู๋ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และนางสาวศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร GWM (Thailand) เป็นตัวแทนรับรางวัล โดยมีผู้บริหารจากค่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ไมเคิล ฉง กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “GWM รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติทั้ง 3 รางวัล ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จ ในการมุ่งมั่นส่งมอบเทคโนโลยีใหม่และนวัตกรรมล้ำหน้าแก่ผู้ใช้งานชาวไทยทั่วประเทศ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความแน่วแน่ในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีกว่า เหนือกว่า และครอบคลุมยิ่งกว่า ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ สอดคล้องกับแนวคิด GWM Go With More และกลยุทธ์การยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (User-Centric) ในการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ในโอกาสนี้ ขอขอบคุณ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล สำหรับรางวัลอันทรงคุณค่าดังกล่าว และลูกค้าทุกคนที่ไว้วางใจและสนับสนุนเราเสมอมา ซึ่งเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงนวัตกรรมของทั้ง 3 รุ่นที่ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้งานใน 3 เซกเมนต์ที่หลากหลาย โดยเราจะยังคงยึดมั่นคำสัญญาที่จะนำผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมาให้คนไทยได้สัมผัสอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน” 

สำหรับ GWM TANK 300 HEV คว้ารางวัล BEST HYBRID 4×4 OFFROAD โดยน้องเล็กสายออฟโรดจากตระกูล GWM TANK ได้รับการยอมรับในด้านประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม เทคโนโลยีไฮบริดที่ล้ำสมัย และสมรรถนะการขับขี่ออฟโรดที่แข็งแกร่ง การผสานพลังของเครื่องยนต์ไฮบริดขั้นสูง ด้วยระบบขับเคลื่อน 4WD ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย รางวัลนี้สะท้อนถึงคุณภาพที่อัดแน่นและระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบออฟโรดอันชาญฉลาดและล้ำสมัยที่เหนือกว่ารถยนต์ในเซ็กเมนต์และระดับราคาเดียวกัน ส่งผลให้ GWM TANK 300 HEV เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ขับขี่ที่มองหารถยนต์ SUV สไตล์ BOXY ระดับพรีเมียม สมรรถนะสูง แต่ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลุยได้ในทุกเส้นทางทั้งการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง ออนโรดและออฟโรด

ในขณะที่ GWM ORA 07 รุ่น Long Range ซึ่งได้รับรางวัล BEST EV SEDAN คือรถไฟฟ้า 100% ที่เกิดจากเสียงเรียกร้องของกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในตระกูล GWM ORA ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีความสปอร์ต เท่ ปราดเปรียว มีเอกลักษณ์ และให้ความปลอดภัยในทุกเส้นทางขั้นสูงสุด โดย GWM ORA 07 ได้รับการยอมรับในด้านการออกแบบ ที่ทันสมัยและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า การมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไร้ที่ติด้วยการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยระยะทางขับขี่สูงสุด 640 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC) ทำให้ GWM ORA 07 เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ที่มองหาความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพที่เหนือชั้น โดยไม่ทิ้งความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีความสามารถในการชาร์จที่รวดเร็ว และระยะทางการขับขี่ที่ไกลขึ้นพร้อมด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ครบครัน ด้วยโครงสร้างรถลักษณะ Cage-Type Body ที่ใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงและแข็งแกร่งสูงถึง 77.6% ของส่วนประกอบทั้งหมด รองรับแรงกระแทกจากภายนอกได้อย่างดี และช่วยลดความรุนแรงได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอีกด้วย รางวัลนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ GWM ในการพัฒนาและนำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ ทั้งความต้องการของผู้บริโภค เทคโนโลยีความปลอดภัย  และการรักษาสิ่งแวดล้อมในยุคใหม่

สำหรับ GWM POER SAHAR HEV ซึ่งได้รับรางวัล BEST HYBRID PICKUP เป็นรถกระบะไฮบริดรุ่นแรกในประเทศไทย รถกระบะคันนี้ได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับมาตรฐานการขับขี่ ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะที่ทรงพลังและความสะดวกสบายที่เหนือชั้น โดยรางวัลนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเลิศในด้านการผสานเทคโนโลยีไฮบริด เข้ากับสมรรถนะของรถกระบะที่ทรงพลัง อีกทั้งมอบประสบการณ์การขับขี่และโดยสารที่เปี่ยมด้วยความสะดวกสบาย ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางที่สุดจากขนาดฐานล้อที่ยาวที่สุดในกลุ่มรถยนต์ขนาด 3,350 มิลลิเมตร อีกทั้งยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือกว่า ยิ่งไปกว่านั้นยังโดดเด่นด้วยฝาท้ายกระบะที่เปิดปิดได้ 2 รูปแบบ เพื่ออำนวยความสะดวกในการบรรทุกได้หลากหลาย พร้อมกับระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย ฉีกกฏรถกระบะแบบเดิม ๆ อย่างสิ้นเชิง และล่าสุด GWM POER SAHAR ในประเทศออสเตรเลียยังได้รับการรับรองว่าเป็นรถกระบะพลังงานใหม่ที่มีความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาว จาก Australasian New Car Assessment Program (ANCAP) ตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำของ GWM ในด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือกว่า

3 รางวัลคุณภาพจากงานประกาศรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “THAILAND CAR & BIKE OF THE YEAR 2025” เหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดของ GWM มุ่งมั่นส่งมอบเทคโนโลยีใหม่และนวัตกรรมล้ำหน้า เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งกว่า เหนือกว่า และครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค และ GWM พร้อมที่จะนำเสนอนวัตกรรม เทคโนโลยี และดีไซน์ที่เหนือกว่า มาให้ชาวไทยทุกคนได้สัมผัสภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ณ บูธ A10 สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทาง GWM Application หรือเว็บไซต์ https://www.gwm.co.th

วิริยะประกันภัย คว้ารางวัล BEST INSURANCE COMPANY

วิริยะประกันภัย คว้ารางวัล “BEST INSURANCE COMPANY” ตอกย้ำผู้นำประกันภัยรถยนต์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 22 บนเวที “THAILAND CAR & BIKE OF THE YEAR 2025”

นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานมอบรางวัล “BEST INSURANCE COMPANY” ให้แก่ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมี นายเด่นพงศ์ กุนทีกาญจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและสถาบันการเงิน เป็นผู้แทนรับมอบ ภายในงาน “CAR & BIKE OF THE YEAR 2025” ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับรางวัลดังกล่าวต่อเนื่องเป็นปีที่ 22 นับตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ในโอกาสนี้ ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ (Motor Show 2025) และประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ยังได้ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบรางวัล ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

สำหรับ รางวัล “BEST INSURANCE COMPANY” ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรางวัลอันทรงเกียรติ ที่บริษัทฯ ได้รับอย่างต่อเนื่อง ภายในงาน “CAR & BIKE OF THE YEAR” ซึ่ง บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีแก่วงการธุรกิจยานยนต์ รวมถึงผลักดันให้ผู้ประกอบการได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของตนเอง อันนำไปสู่การยกระดับวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ให้มีความเจริญก้าวหน้าทุกภาคส่วน โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติ จากนิตยสารกรังด์ปรีซ์ และสถาบันยานยนต์ชั้นนำหลากหลายองค์กร เป็นผู้ตัดสินรางวัล รางวัลดังกล่าว จึงเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของวิริยะประกันภัย ในการเป็นผู้นำตลาดประกันภัยรถยนต์ของไทย ด้วยมาตรฐานการให้บริการที่เป็นเลิศ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลายและทันสมัย สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ

มาสด้า เติมฝันเยาวชน เปิดดวลวงสวิงปีที่ 2 คว้าตั๋วไปอเมริกา

มาสด้า ต่อเติมเสริมฝันเยาวชนเปิดรับสมัครร่วมแข่งขันกอล์ฟ ปีที่ 2 เพื่อคว้าทุนการศึกษาและร่วมแข่งขันกอล์ฟในประเทศสหรัฐอเมริกา

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากการจัดแข่งขันกอล์ฟเยาวชนเมื่อปีที่ผ่านมา มาสด้าเดินหน้าต่อเติมความฝันเยาวชนเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ประกาศความร่วมมือกับ The Agency Recruit ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหาทุนการศึกษาด้านกีฬาให้กับเยาวชน จัดกิจกรรม MAZDA U.S. COLLEGE PREP THAILAND JUNIOR CHAMPIONSHIP 2025 เปิดรับสมัครเยาวชนกอล์ฟชายและหญิง อายุระหว่าง 12-19 ปี ที่เป็นลูกค้าครอบครัวมาสด้า เพื่อสมัครเข้าร่วมการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับโลกในประเทศไทย โดยเตรียมจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 เม.ย. 68 ณ สนามกอล์ฟ Phoenix Gold Golf & Country Club จังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้ มาสด้าเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสรับสิทธิ์เพื่อคว้าทุนการศึกษาจากโรงเรียน และมหาวิทยาลัยชื่อดัง และก้าวสู่การแข่งขันกอล์ฟทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมคว้าตั๋วเครื่องบินไปกลับระหว่างเอเชียถึงสหรัฐอเมริกา มูลค่าสูงสุด 1,200 USD รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ อีกมากมาย อาทิ ได้เข้าร่วมการแข่งขันโดยไม่ต้องผ่านรอบคัดเลือก และส่วนลดค่าสมัคร 125 USD จากค่าสมัคร 350 USD และฟรี เสื้อกอล์ฟ Adidas มูลค่า 1,690 บาท โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. 68 เวลา 08:00 น. จนถึงวันที่ 1 เม.ย. 68 เวลา 17:30 น. และประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ ในวันศุกร์ที่ 4 เม.ย. 68 เวลา 15:00 น. ผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.mazda.co.th ในหัวข้อกิจกรรมและอีเวนต์

นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โครงการ MAZDA U.S. COLLEGE PREP THAILAND JUNIOR CHAMPIONSHIP 2025 เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่างมาสด้า กับ The Agency Recruit ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหาทุนการศึกษาด้านกีฬาสำหรับเยาวชน เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยทั้งชายและหญิงที่มีอายุระหว่าง 12-19 ปี และมีใจรักในกีฬากอล์ฟ ได้มีโอกาสเดินตามความฝันในการเป็นนักกอล์ฟอาชีพ ด้วยการมอบโอกาสเพื่อคว้าทุนการศึกษาจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชื่อดัง และสิทธิ์ในการเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟทัวร์นาเมนต์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งโครงการฯ เป็นส่วนหนึ่งของเอกสิทธิ์พิเศษที่ทางมาสด้ามอบให้กับลูกค้า Mazda Family โดยเฉพาะ เพื่อแทนคำขอบคุณที่เลือกใช้รถยนต์มาสด้าเป็นยานพาหนะคู่ใจให้กับครอบครัว และเพื่อส่งมอบประสบการณ์ความสุขในการชีวิตให้กับลูกค้า (Joy Drives Lives) นอกเหนือจากประสบการณ์ที่ดีจากการขับขี่รถยนต์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะมีความสุข และได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากแบรนด์มาสด้า

สำหรับโครงการฯ ในปี 2568 นี้ มาสด้าจัดขึ้นเป็นปีที่สองติดต่อกัน หลังจากโครงการในปีแรกประสบความสำเร็จอย่างสูงและได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยมีเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าที่ได้สัมผัสกับแบรนด์มาสด้า ก่อให้เกิดความรักความผูกพันอย่างแน่นแฟ้น สำหรับการแข่งขันในปีนี้ มาสด้าจะทำการคัดเลือกเยาวชนทั้งหมด 24 คน จากผู้สมัครทั้งหมด เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฯ โดยมีเกณฑ์การรับสมัครดังรายละเอียดต่อไปนี้

เกณฑ์การรับสมัครเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟ

•เยาวชนชายและหญิงที่มีอายุระหว่าง 12-19 ปี

•ผู้ปกครองของเยาวชนผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขันต้องเป็นลูกค้าและครอบครัวมาสด้า

•ผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันหรือผู้ปกครอง ต้องสามารถแสดงเอกสารความเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า

•สามารถร่วมกิจกรรมพร้อมลงทะเบียนในวันพฤหัสบดีที่ 24 เม.ย. 68

•สามารถเข้าร่วมการแข่งขันในวันศุกร์ที่ 25 เม.ย. 68 จนถึงวันอาทิตย์ที่ 27 เม.ย. 68

รางวัลและสิทธิพิเศษสำหรับเยาวชนที่ชนะการแข่งขัน

•เยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งหมด 24 คน จะได้รับของที่ระลึกพิเศษจากมาสด้า

•ผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่ติดอันดับท็อป 50% แรกของแต่ละประเภทการแข่งขัน จะได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย รวมถึงสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในระดับสูงต่อไป

•ผู้ที่ทำอันดับดีที่สุดจากการแข่งขันในแต่ละประเภท เยาวชนชาย 6 คน เยาวชนหญิง 6 คน รวม 12 คน จะได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ จากเอเชียไปสหรัฐอเมริกา และได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน Junior World Cup Invitational Kingsmill ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 15-17 ก.ค. 68 ที่รัฐเวอร์จิเนียร์

ทั้งนี้ เยาวชนที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ สามารถสมัครผ่านช่องทาง www.mazda.co.th ในหัวข้อกิจกรรมและอีเวนต์ และจะประกาศผลผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ ในวันศุกร์ที่ 4 เม.ย. 68 เวลา 15:00 น. ซึ่งการแข่งขันจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 เม.ย. 68 ณ สนามกอล์ฟ Phoenix Gold Golf & Country Club จังหวัดชลบุรี พร้อมประกาศผลและมอบรางวัลผู้ชนะเลิศในวันที่ 27 เม.ย. 68 ด้วยเช่นกัน

“มาสด้าเชื่อในสปิริตของความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค (Challenger Spirit) เพราะนี่คือสิ่งที่ผลักดันให้แบรนด์มาสด้าอันมีต้นกำเนิดมาจากเมืองฮิโรชิม่าประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างมั่นคงมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น นอกเหนือจากการส่งมอบเทคโนโลยียานยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแล้ว เราจึงได้ริเริ่มโครงการต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะด้านกีฬา เพื่อเยาวชน และสังคมไทย เพื่อผลักดันผู้คนให้ออกเดินทางตามความฝัน และสามารถนำเอาสิ่งเหล่านี้มาต่อยอดในการประกอบอาชีพได้

สำหรับครั้งนี้ มาสด้าขอเชิญชวนเยาวชนชายและหญิงที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด สมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพราะนอกจากจะเป็นก้าวแรกของเยาวชนในการได้ทำในสิ่งที่รักแล้ว ยังเป็นอีกก้าวที่สำคัญในการเดินหน้าสู่การเป็นนักกีฬากอล์ฟอาชีพในระดับสากลอีกด้วย” นายภพนิพิฐ กล่าวสรุป

หมายเหตุ : ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.mazda.co.th ในหัวข้อและกิจกรรมอีเวนต์ หรือกดลิงก์เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมกอล์ฟเยาวชน m.mazda.co.th/43wKSl0

กลุ่มชูเกียรติยนต์ทุ่มลงทุน 100 ล้าน ผุดโชว์รูมมาสด้า นครศรีธรรมราช

กลุ่มชูเกียรติยนต์ทุ่มลงทุน 100 ล้าน เปิดโชว์รูมมาสด้าและศูนย์บริการแห่งใหม่ในนครศรีธรรมราช มุ่งมั่นดูแลลูกค้าให้ดีที่สุดในทุกประสบการณ์

มาสด้าชูเกียรติยนต์ผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าเก่าแก่ในแถบภาคใต้ที่ดำเนินธุรกิจร่วมกันมากกว่า 40 ปี เชื่อมั่นในแผนการดำเนินธุรกิจและวิสัยทัศน์แบรนด์มาสด้า ทุ่มงบประมาณอีกกว่า 100 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่บนทำเลศักยภาพขนาดใหญ่ เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ สาขาจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมส่งมอบงานขายและงานบริการที่ครอบคลุมให้กับลูกค้าในพื้นที่ ชูจุดเด่นด้านการบริการที่ยอดเยี่ยมและเป็นไปตามมาตรฐานในทุกขั้นตอน การันตีด้วยรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม, รางวัลฝ่ายขายและฝ่ายบริการหลังการขายยอดเยี่ยมหลายปีติดต่อกัน ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของมาสด้าและผู้จำหน่ายทั่วประเทศต่อแผนการปรับโครงสร้างเครือข่ายผู้จำหน่ายในประเทศไทย ที่พร้อมให้ความสำคัญกับการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในทุกองค์ประกอบ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การบริการที่ดีเยี่ยมจากการใช้รถยนต์มาสด้าให้กับลูกค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมาสด้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ คือ พันธกิจสำคัญของมาสด้า เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้าทุกคน ภายใต้กลยุทธ์ที่สำคัญของมาสด้าตามแนวทาง Brand Value Management และ Retention Business Model เพื่อส่งมอบคุณค่าของแบรนด์ให้กับลูกค้ารู้สึกภาคภูมิใจ โดยเฉพาะการสร้างความรักและความผูกพันกับลูกค้า และการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าเสมือนคนในครอบครัว ครั้งนี้ มาสด้าได้ร่วมมือกับผู้จำหน่าย กลุ่มบริษัทชูเกียรติยนต์หาดใหญ่ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างและมีประวัติการทำงานร่วมกับแบรนด์มาสด้ามาอย่างยาวนาน เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่เพิ่มเติมในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดในแถบภาคใต้ และมีปริมาณลูกค้ามาสด้าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ได้ทุ่มเงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาท สร้างโชว์รูมและศูนย์บริการบนพื้นที่กว่า 4 ไร่ เพื่อรองรับงานบริการด้านการขายและการบริการหลังการขาย ซึ่งมาสด้ามั่นใจอย่างยิ่งว่าการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่นี้จะสามารถส่งมอบประสบการณ์บริการที่ดีที่สุด และรองรับการเข้ารับการบริการจากลูกค้ามาสด้าในแถบภาคใต้และพื้นที่ใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี

“ปัจจุบัน มาสด้าอยู่ในช่วงของการปรับโครงสร้างและพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย เพื่อให้สอดคล้องและสนับสนุนแผนธุรกิจในอนาคต ทั้งในเรื่องของการสร้างคุณค่าของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคตอันใกล้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบาย และมีความต่อเนื่องไม่ว่าจะไปที่โชว์รูมในพื้นที่ไหนก็ตาม โดยมาสด้าได้มอบนโยบายให้กับผู้จำหน่ายที่มีศักยภาพสูง สามารถขยายพื้นที่ความรับผิดชอบในการให้บริการที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยได้มีการกำหนดพื้นที่ PMA ใหม่ ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยให้ผู้จำหน่ายสามารถขยายพื้นที่การบริการออกไปยังพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างโมเดลธุรกิจของผู้จำหน่ายให้มีผลกำไรที่ยั่งยืนและครอบคลุมครบทุกฟังก์ชั่น ทั้งการขายและการบริการทั่วทุกภูมิภาค” นายธีร์ กล่าวเพิ่มเติม

นายสิทธิพร ปิติเจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชูเกียรติยนต์ หาดใหญ่ จำกัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัทชูเกียรติยนต์ได้เริ่มดำเนินธุรกิจกับมาสด้ามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 โดยเปิดสาขาแรกที่จังหวัดปัตตานี และได้ขยายการลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องไปยังจังหวัดอื่นๆ ได้แก่ สงขลา นราธิวาส และล่าสุด นครศรีธรรมราช ด้วยปณิธานในการทำธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ คือ มุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และพัฒนากลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการสร้างความพึงพอใจสูงสุดในทุกขั้นตอนของการบริการ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เพราะฉะนั้นเมื่อลูกค้าเข้ามารับบริการไม่ว่าจะเป็นสาขาไหนก็ตาม ลูกค้าทุกคนจะได้รับการต้อนรับและประสบการณ์บนมาตรฐานเดียวกัน จากแนวคิดที่มุ่งเน้นว่าลูกค้า คือ หัวใจสำคัญของงานบริการ จึงส่งผลให้ กลุ่มบริษัทชูเกียรติยนต์หาดใหญ่ เป็นผู้จำหน่ายมาสด้าที่สามารถคว้ารางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2558, 2559 และ 2563 รวมถึงรางวัลฝ่ายขายและฝ่ายบริการหลังการขายยอดเยี่ยมประจำปี 2558-2564 ถึง 7 ปี ติดต่อกัน

“แม้ว่าสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในปัจจุบันจะมีความท้าทายอย่างมาก แต่สิ่งที่มาสด้ายังคงให้ความมั่นใจกับผู้ลงทุนคือความมุ่งมั่นที่จะลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทย พัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่อง และมีแผนในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีกหลายรุ่นในอนาคตอันใกล้ พร้อมกันนี้ กลุ่มบริษัทชูเกียรติยนต์ ยังเชื่อมั่นในปรัชญาการดำเนินธุรกิจของมาสด้า ที่ให้ความสำคัญกับมนุษย์เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาและออกแบบรถยนต์ ทั้งในด้านความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความรู้สึกของผู้ขับขี่ รวมถึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์เทคโนโลยียานยนต์ที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของมาสด้าที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การผลิตรถยนต์ แต่ยังรวมถึงการสร้างความรักความผูกพันที่ดีกับลูกค้า การให้บริการที่เป็นเลิศ และการสร้างคุณค่าให้กับสังคมโดยรวม เพราะ “ความสุขที่มากกว่าการขับขี่” จะนำไปสู่ความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าในระยะยาว เราจึงได้ขยายพื้นที่การให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 4 จังหวัดในปัจจุบัน” นายสิทธิพร กล่าว

พร้อมกันนี้ นายสิทธิพร ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโชว์รูมและศูนย์บริการมาสด้าชูเกียรติยนต์ สาขา นครศรีธรรมราช ว่า “สาขาแห่งใหม่นี้ ถือเป็นสาขาที่ห้าของกลุ่มบริษัทในเครือชูเกียรติยนต์ โดยตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 4 ไร่ บริเวณสี่แยกเบญจม ใกล้แหล่งชุมชนและไฮเปอร์ซุปเปอร์มาเก็ต โดยประกอบไปด้วยโชว์รูมที่มีพื้นที่กว้างขวาง สามารถจัดแสดงรถมาสด้าได้อย่างครบถ้วนทุกรุ่น ทำให้ลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมรถคันจริงได้

นอกจากนั้น ยังพร้อมสำหรับให้การบริการหลังการขาย ด้วยจำนวนช่องซ่อมมากถึง 17 ช่องซ่อม สามารถรองรับรถยนต์ที่มาใช้บริการได้สูงสุด 50 คันต่อวัน หรือ มากกกว่า 1,200 คันต่อเดือน รวมถึงมีทีมงานและช่างซ่อมบำรุงที่มีทักษะความเชี่ยวชาญสูง ผ่านการฝึกอบรมและรับรองมาตรฐานจาก มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายความครบครันทุกองค์ประกอบ จึงมั่นใจว่า สาขานครศรีธรรมราช จะสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีในการบริการให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายสิทธิพร กล่าว

หลังจากนี้ มาสด้าจะเดินหน้าอย่างเต็มกำลังเพื่อพัฒนาประสบการณ์ในทุกมิติที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ อันรวมถึงงานขายและงานบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อแทนคำมั่นสัญญาและให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเป็นส่วนหนึ่งกับครอบครัวมาสด้าไปตลอดอายุการใช้งาน โดยสร้างประสบการณ์ความสุขในการขับขี่และการใช้ชีวิตให้กับลูกค้าทุกคน เพื่อให้แบรนด์มาสด้าเติบโตอย่างยั่งยืนคู่กับลูกค้าคนไทยและสังคมไทยตลอดไป

อนึ่ง กลุ่มบริษัทชูเกียรติยนต์ ปัจจุบันมีโชว์รูมและศูนย์บริการ ทั้งหมด 5 สาขา ได้แก่ สาขาอำเภอหาดใหญ่ (จ.สงขลา) สาขาสงขลา (บางดาน) สาขาปัตตานี สาขานราธิวาส และสาขาล่าสุด คือ สาขานครศรีธรรมราช (สี่แยกเบญจม) นอกจากนี้ยังมีศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน ที่สาขาหาดใหญ่ (จ.สงขลา) และสาขาปัตตานี

สำหรับลูกค้ามาสด้าในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่สนใจเพื่อนำรถเข้ารับการบริการ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ หมายเลข 075-347774 หรือ 093-5800505 หรือพิกัดแผนที่โชว์รูมนครศรีธรรมราช https://maps.app.goo.gl/x6XLXcgCVHUijMy59

DEEPAL E07 และ AVATAR 11 คว้ารางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2025

CHANGAN ตอกย้ำความสำเร็จ DEEPAL E07 และ AVATAR 11 คว้าสองรางวัลจากเวที THAILAND CAR OF THE YEAR 2025

นายเซบาสเตียน ลี ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้แทนรับมอบรางวัลในงาน CAR OF THE YEAR 2025

บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ภายใต้ CHANGAN Automobile ฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญในงาน THAILAND CAR OF THE YEAR 2025 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 27 โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย โดยรถยนต์ไฟฟ้า DEEPAL E07 คว้ารางวัล “BEST SUV & PICKUP EV” ตอกย้ำความเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์เอสยูวีที่ครบครันทั้งความแข็งแกร่ง มีพื้นที่กว้างขวาง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ AVATR 11 SUV Coupe ได้รับรางวัล “BEST Hi-TECH SUV EV” สะท้อนถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย ฟีเจอร์อัจฉริยะ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ

นายเซบาสเตียน ลี ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้แทนรับมอบรางวัลในงาน THAILAND CAR OF THE YEAR 2025

นายเซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ DEEPAL E07 และ AVATR 11 SUV Coupe คว้ารางวัลอันทรงเกียรติจากงาน THAILAND CAR OF THE YEAR 2025 ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นอันของฉางอานด้านนวัตกรรม ความยั่งยืน และความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำของเราในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของไทย เราจะยังคงเดินหน้านำเสนอยานยนต์คุณภาพ เทคโนโลยีล้ำสมัย และการบริการเหนือระดับแก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้ DEEPAL E07 เจ้าของรางวัล “BEST SUV & PICKUP EV” คือยนตรกรรมที่สะท้อนความมุ่งมั่นของแบรนด์ในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ผสานความงามร่วมสมัย ความแข็งแกร่ง สมรรถนะ และความปลอดภัยเข้ากันได้อย่างลงตัว โดยรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นนี้ชูแนวคิด “BE YOURSELF, DRIVE YOUR WAY” ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับโหมดรูปลักษณ์รถยนต์ด้านท้ายให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ มาพร้อมห้องโดยสารแบบอเนกประสงค์พื้นที่กว้างขวางจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “วิลล่าเคลื่อนที่” มอบความสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งด้านหน้าแบบ Zero Gravity หลังคากระจกพาโนรามา และพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ครบครันด้วยสมรรถนะทรงพลัง ศักยภาพการขับขี่ระยะไกล และเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ ระบบจอดรถอัจฉริยะและกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา DEEPAL E07 จึงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้รถยุคใหม่

สำหรับ AVATR 11 SUV Coupe ซึ่งคว้ารางวัล “BEST Hi-TECH SUV EV” เจ้าของรางวัล Red Dot Design Award และยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะคันแรกที่สามารถขึ้นถึงฐานแคมป์เอเวอเรสต์สำเร็จ โดยผสานเทคโนโลยีจากซูเปอร์คาร์และเอสยูวีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ มาพร้อมประตูไฟฟ้าอัจฉริยะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกหรูหราด้วยเบาะหนัง NAPPA แสงไฟภายในแบบ Ambient Lighting และหลังคากระจกพาโนรามา พร้อมเบาะนั่งแบบ Zero Gravity และระบบเสียงระดับไฮเอนด์จาก Meridian แบรนด์ชั้นนำประเทศอังกฤษ มอบความสะดวกสบายไม่รู้จบในขณะพักผ่อน ขับเคลื่อนด้วยระบบแบตเตอรี่ล้ำสมัย ตอบโจทย์การขับขี่ระยะไกล และรองรับการชาร์จเร็ว เสริมด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ตอกย้ำว่า AVATR 11 ได้สร้างสรรค์ประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตแบบไร้กังวล และสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ

การคว้าสองรางวัลจากเวที THAILAND CAR OF THE YEAR 2025 ตอกย้ำความมุ่งมั่นของฉางอาน ประเทศไทยที่จะสร้างอนาคตของการเดินทางด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ความยั่งยืน และการออกแบบอันเป็นเลิศ โดย DEEPAL E07 และ AVATR 11 ได้รับการยกย่องในฐานะยนตรกรรมที่สร้างบรรทัดฐานให้กับอุตสาหกรรม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของฉางอานในการนำเสนอโซลูชันอันก้าวล้ำที่สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอของผู้ใช้รถในปัจจุบัน ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ฉางอานเดินหน้าเป็นผู้นำที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในไทยและต่างประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง

ฮุนได เปิดโชว์รูม อุบลราชธานี

ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย เปิดโชว์รูม ฮุนได ดี ออโต้ อุบลราชธานี รุกขยายตลาดสู่ทุกภูมิภาคทั่วไทย

บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าขยายบริการสู่ระดับภูมิภาคตามกลยุทธ์ธุรกิจปี 2568 เปิดตัวโชว์รูม ฮุนได ดี ออโต้ อุบลราชธานี รองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมมอบประสบการณ์ลูกค้าระดับสากลบนมาตรฐาน Global Dealership Space Identity (GDSI 2.0) ด้วยดีไซน์โชว์รูมที่ครบครันด้วย 3 S Sale, Service, Spare parts โดยเตรียมพร้อมการบริการหลังการขายโดยทีมช่างผู้ผ่านการอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งกลุ่มรถยนต์สันดาปและรถไฟฟ้า

นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การขยายเครือข่ายโชว์รูมคือกลยุทธ์หลักของฮุนไดในการเสริมสร้างการเติบโตที่มั่นคงในประเทศไทย ซึ่งอุบลราชธานีถือเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีศักยภาพสูง เราจึงต้องการให้ลูกค้าในพื้นที่นี้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการของฮุนไดได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น การลงทุนครั้งนี้ไม่เพียงยกระดับศักยภาพด้านการขาย หากยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการมอบบริการระดับพรีเมียมและการดูแลหลังการขายที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าในเมืองไทย”

โชว์รูม ฮุนได ดี ออโต้ อุบลราชธานี มีพื้นที่กว้างขวางพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกลูกค้าในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงอย่างครบวงจร ด้วยพื้นที่โชว์รูมและพื้นที่รับรองลูกค้ามากกว่า 700 ตร.ม. จัดแสดงรถยนต์ฮุนไดครบทุกรุ่น ศูนย์บริการมาตรฐานขนาดพร้อมรองรับปริมาณงานซ่อมได้มากกว่า 3,000 คันต่อปี รองรับการเติบโตในอนาคต ดำเนินงานโดยทีมงานฝ่ายขายและช่างเทคนิคที่ได้รับการฝึกอบรมระดับมืออาชีพ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับบริการหลังการขายในภูมิภาค

นายปัณณพัฒน์ เลาหเธียรประธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี ออโต้ อุบลราชธานี กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายฮุนไดในประเทศไทย และพร้อมให้บริการลูกค้าในภาคอีสานด้วยมาตรฐานโชว์รูมและศูนย์บริการ เรามีทีมงานที่พร้อมนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจกว่า 30 ปี ให้แก่ลูกค้า ตั้งแต่การเลือกซื้อรถ ไปจนถึงบริการหลังการขายที่ครบวงจร ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังมาตรฐานเต็มรูปแบบ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด และมั่นใจในคุณภาพของรถยนต์ฮุนได

การเปิดตัวโชว์รูมแห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ระยะยาวของ ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย ในการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV และ SUV ในอนาคต นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “เรามุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าทุกคน และพร้อมขับเคลื่อนฮุนไดให้เป็นแบรนด์ยานยนต์ชั้นนำที่ลูกค้าในประเทศไทยให้ความเชื่อมั่นสูงสุด”

ไทยฮอนด้า เปิดตัว ‘New Honda X-ADV’ โฉมใหม่ แรงที่สุดในคลาส

ไทยฮอนด้า เปิดตัว ‘New Honda X-ADV’ โฉมใหม่ SUV พรีเมียมที่แรงที่สุดในคลาส พร้อมมอบประสบการณ์การผจญภัยที่คาดไม่ถึง

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย จัดงาน ‘THE UNEXPECTED LIFE EVENT’ เปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ‘New Honda X-ADV’ พร้อมด้วย 4 เฉดสีใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ ‘LIVE THE UNEXPECTED LIFE’ เท่ ตอบโจทย์สไตล์แอดเวนเจอร์ตัวจริงยิ่งกว่าเดิม แรงที่สุดในคลาสด้วยเครื่องยนต์ 750 ซีซี อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อประสบการณ์ขับขี่ที่คาดไม่ถึง ซึ่งงานครั้งนี้จัดขึ้น ณ ศูนย์ Honda BigWing รามอินทรา โดยมี The Unexpected Guest อินฟลูเอนเซอร์นักเดินทางสายลุยชื่อดัง ‘ภูริ หิรัญพฤกษ์’ และ ‘เบนซ์ ไกจิน’ มาร่วมแชร์ประสบการณ์การออกไปใช้ชีวิตที่คาดไม่ถึงในแบบของตัวเอง พร้อมเปิดรับจองได้แล้ววันนี้

สำหรับ New Honda X-ADV มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 750 ซีซี แรงที่สุดในคลาส ควบคู่กับ Honda DCT เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำลื่นไหลโดยไม่ต้องกำคลัตช์ ตอบโจทย์ทุกเส้นทางด้วย 5 Riding Modes ได้แก่ Standard, Sport, Rain, Gravel และโหมด User ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับการตั้งค่าเองได้ มาพร้อม Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายและมอบประสบการณ์ที่พาผู้ขับขี่ไปได้ไกลกว่าเดิม

นอกจากนี้ New Honda X-ADV ยังโดดเด่นด้วย NEW FAIRING DESIGN แฟริ่งหน้าดีไซน์ใหม่ เสริมความพรีเมียมในแบบฉบับ SUV Bike แต่ยังคงความดุดันแบบนักผจญภัย บังลมหน้าออกแบบใหม่ด้วยวัสดุรีไซเคิล Durabio ปรับได้สูงถึง 139 มม. อีกทั้งเบาะนั่งออกแบบรูปทรงใหม่สไตล์แอดเวนเจอร์ให้วางเท้ากับพื้นได้ราบขึ้น เพิ่มความมั่นใจในการทรงตัว พร้อมปรับวัสดุเพิ่มยูริเทนโฟมอีก 10% นั่งสบายขึ้น เหมาะกับการขับขี่บนเส้นทางไกล รวมถึงดีไซน์ชุดไฟหน้าใหม่ NEW LED HEADLIGHT & DRL WITH WINKER ที่รวมไฟเลี้ยวเข้ากับ Daytime Running Light (DRL) เพิ่มความโดดเด่นสะดุดตาในช่วงกลางวัน และไฟหน้า LED แบบโปรเจกต์เตอร์คู่ ส่องสว่างมองเห็นชัดเจนในช่วงกลางคืน พร้อมไปค้นพบเส้นทางใหม่อย่างไม่รู้จบ

New Honda X-ADV มาพร้อมกับ NEW 5-INCH TFT WITH Honda RoadSync หน้าจอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อกับระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Honda RoadSync ให้ผู้ขับขี่ควบคุมการโทรและเพลงได้ผ่านบลูทูธในหมวกกันน็อก และมาพร้อมพื้นที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ 22 ลิตร ช่วยเติมเต็มความสะดวกสบายทุกการเดินทาง สามารถเก็บหมวกกันน็อคเต็มใบได้

New Honda X-ADV พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้ววันนี้ ด้วย 4 สีใหม่ ตอบโจทย์ทุกการผจญภัยที่คาดไม่ถึง รุ่น Standard ราคาแนะนำ 433,000 บาท ได้แก่

•สีดำ GRAPHITE BLACK

•สีเทา-ดำ MATTE DEEP MUD GRAY

•สีขาว-ดำ PEARL GLARE WHITE

และ Special Edition สีเหลือง-ดำ MATTE GOLD FINCH YELLOW ที่มาพร้อมลายกราฟิกแสดงถึงตัวตนเอกลักษณ์ความเป็น Adventure ตัวจริง ราคาแนะนำที่ 438,000 บาท

พิเศษ! สำหรับผู้ที่จอง 100 ท่านแรกรับเสื้อ Honda X-ADV The Unexpected Jersey พร้อมฟรี! ค่าจดทะเบียน และ พ.ร.บ

สัมผัสประสบการณ์ขับขี่แบบ ‘LIVE THE UNEXPECTED LIFE’ ไปกับ New Honda X-ADV ได้แล้วที่ Honda BigWing ทุกสาขาทั่วประเทศ

RIDDARA RD6 คว้ารางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2025

RIDDARA RD6 คว้ารางวัลรถกระบะพลังงานไฟฟ้ายอดเยี่ยม “BEST PICKUP EV” ในงาน CAR OF THE YEAR 2025

GEELY RIDDARA รายงานความสำเร็จอีกขั้นของการดำเนินงานในประเทศไทย โดย RIDDARA RD6 รถกระบะพลังงานไฟฟ้า 100% ได้รับรางวัล “BEST PICKUP EV” ในงานประกาศรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “CAR OF THE YEAR 2025” จัดโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

สำหรับรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “CAR OF THE YEAR” ถือเป็นเวทีสำคัญในการคัดเลือกและมอบรางวัลให้กับรถที่จัดจำหน่ายในประเทศไทยที่มีความยอดเยี่ยมในแต่ละด้าน เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยรวมไปถึงเป็นแนวทางในการพิจารณาเลือกซื้อรถให้เหมาะกับเป้าหมายของการใช้งานของผู้บริโภคชาวไทย โดยในปีนี้ RIDDARA RD6  รถกระบะพลังงานไฟฟ้าจาก GEELY RIDDARA ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้รับการยอมรับและตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ในเมืองไทยให้เป็นรถที่มีความยอดเยี่ยมในประเภทรถกระบะพลังงานไฟฟ้า “BEST PICKUP EV”

“รางวัลนี้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีคุณภาพสามารถคอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี โดย GEELY RIDDARA จะมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่องต่อไป” มร.หลิว ไห่โจว (Mr.Liu Haizhou) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ริดดารา ออโต้โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าว

บรรยายภาพ : มร.หวู่ เทา ผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาด บริษัท ริดดารา ออโต้โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นรับรางวัล

RIDDARA RD6  

โดดเด่นด้วยนวัตกรรม M.A.P (Multiplex Attached Platform) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแพลตฟอร์มรถยนต์ที่พัฒนาเอาจุดเด่นของรถกระบะและรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาผสมผสานกัน ทำให้ RIDDARA RD6 มีความโดดเด่นทั้งในด้านของการออกแบบ สมรรถนะและความอัจฉริยะในแบบฉบับของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยโครงสร้างตัวถังขนาดใหญ่และมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังมอบพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย และติดตั้งระบบความปลอดภัยและระบบช่วยในการขับขี่ที่ครบครัน พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่รองรับทั้งการเดินทาง และการทำกิจกรรมแบบเอาท์ดอร์ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่น้อยกว่ารถกระบะสันดาปทั่วไป

RIDDARA RD6 ให้สมรรถนะที่โดดเด่นด้วยอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที และแรงบิดสูงสุด 595 นิวตันเมตร มาพร้อมช่องจ่ายกระแสไฟตามมาตรฐานยุโรปขนาด 6KW ที่กระบะท้าย รวมไปถึงการเชื่อมต่อและควบคุมรถผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือทำให้สามารถควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ภายในรถจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน

RIDDARA RD6 มอบความสะดวกสบายระดับ SUV ด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่เงียบสงบด้วยเทคโนโลยี Pure Electric NVH Silent พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายขนาด 50W ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ที่มาพร้อมระบบกรองอากาศ CN95 filter PM 2.5และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะหนังคุณภาพสูงดีไซน์เอกลักษณ์สามารถปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศที่เบาะโดยสาร เบาะหน้าเอนได้แบบ 180 องศา พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกครบครัน

RIDDARA RD6 ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 แบบอัตโนมัติ โดยมีโหมดการขับขี่ 7 โหมด สำหรับสภาพถนนที่แตกต่างกัน (Sand / Mud / Off-road / Wading / Economy / Comfort / Sport) อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยความสามารถในการลุยน้ำลึกได้สูงสุด 815 มิลลิเมตร มีพื้นที่บรรทุกกระบะท้ายขนาด 1,200 ลิตร ช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้าขนาด 70 ลิตร และพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติมใต้เบาะผู้โดยสารด้านหลังอีก 48 ลิตร อีกทั้งยังมีความสามารถในการลากจูงได้สูงสุดถึง 3,000 กิโลกรัม

RIDDARA RD6 มีระบบความปลอดภัยรอบคัน ซึ่งรวมถึงระบบช่วยในการขับขี่ ADAS (Advanced Driving Assistance Systems) สูงสุด 14 ระบบ และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 540 องศา รวมไปถึงถุงลมนิรภัย 6 จุดช่วยปกป้องทั่วทั้งห้องโดยสาร ยิ่งไปกว่านั้นตัวรถสร้างขึ้นจากเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงซึ่งคิดเป็นกว่า 70% ของโครงสร้างรถ

สำหรับ RIDDARA RD6 มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมี 4 รุ่นย่อย ด้วยราคาจำหน่ายดังนี้

•RIDDARA RD6 2WD 63kWh ราคา 899,000 บาท

•RIDDARA RD6 2WD 73kWh ราคา 999,000 บาท

•RIDDARA RD6 4WD 73kWh ราคา 1,149,000 บาท •RIDDARA RD6 4WD 86kWh ราคา 1,299,000 บาท

CUB House เปิดตัว “New C125 Custom Edition” คู่สีใหม่

CUB House เปิดตัว “New C125 Custom Edition” คู่สีใหม่แห่งความหรูหรา ภายใต้คอนเซปต์ “THE CRAFTPIECE”

CUB House by Honda เปิดตัว New Honda C125 Custom Edition นำเสนอความหรูหราด้วยคู่สีใหม่ “สีขาว : Original White” สีที่เป็นตัวแทนของความเรียบหรู และ ‘สีแดง (Artisan Red)’ สีที่เป็นตัวแทนของความหลงใหลผสมผสานกันอย่างลงตัว ภายใต้คอนเซปต์ “THE CRAFTPIECE” ตกแต่งด้วยความประณีต เปรียบงานศิลปะเมื่อปลายยุค 50 สะท้อนความคราฟต์เหนือระดับสำหรับคนมีคลาสพร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้

New Honda C125 Custom Edition สร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุระดับพรีเมียม อีกทั้งยังคงเสน่ห์ของความคลาสสิกไว้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วย 𝗦-𝗦𝗵𝗮𝗽𝗲 𝗗𝗲𝘀𝗶𝗴𝗻 รูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์เหนือกาลเวลาตามแบบ Honda Super Cub ปี 1958 สไตล์เรโทรคลาสสิก ตั้งแต่แฮนด์ไปจรดบังโคลนล้อหลังลงตัวคู่กับ Double Seat เบาะสองตอนสุดคลาสสิกสีแดงใหม่ (Artisan Red) ที่ตัดกับสีขาวเสริมความหรูหราอย่างมีระดับ

New Honda C125 Custom Edition มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์ 125 ซีซี หัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยอากาศ ส่งกำลังขับผ่านระบบเกียร์วน 5 สปีด อีกทั้งยังมีเทคโนโลโนยีครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ไฟส่องสว่างแบบ FULL LED LIGHT หน้าจอ LCD METER แบบดิจิทัล และระบบกุญแจ Honda Smart Key มอบความสะดวกสบายได้ทุกการเดินทาง

CUB House by Honda พร้อมวางจำหน่าย New Honda C125 Custom Edition สีขาว (Original White) ราคาแนะนำที่ 94,600 บาท ที่ CUB House Flagship ทุกสาขาทั่วประเทศ

ฮอนด้า คว้า 4 รางวัล Thailand Car of the Year 2025

ฮอนด้า คว้า 4 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี Thailand Car of the Year 2025 นำโดยไลน์อัป Full Hybrid e:HEV ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ น่าใช้ น่าขับ ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้

ฮอนด้า เริ่มต้นปี 2568 ด้วยรางวัลที่สะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้า โดย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด คว้า 4 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปีในงาน Thailand Car of the Year 2025 จากบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) นำโดยไลน์อัป e:HEV ยนตรกรรมฟูลไฮบริด 3 รุ่น ที่สามารถคว้ารางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปีต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน (ปี 2567 – 2568) ได้แก่ ฮอนด้า ซีวิค รุ่น e:HEV RS ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี รุ่น e:HEV RS และฮอนด้า ซีอาร์-วี รุ่น e:HEV RS โดยไลน์อัปฟูลไฮบริด e:HEV เป็นเทคโนโลยีที่ลงตัวกับการใช้ชีวิต มอบสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลัง อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม มั่นใจยิ่งขึ้นกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ติดตั้งในยนตรกรรมไลน์อัป e:HEV ทุกรุ่น พร้อมด้วยอีกหนึ่งรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี กับ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ ที่สุดแห่งความสปอร์ตระดับตำนาน

สำหรับรถยนต์ฮอนด้าทั้ง 4 รุ่นที่คว้ารางวัล Thailand Car of the Year 2025 ได้แก่

1.ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี รุ่น e:HEV RS ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน ได้รางวัลรถยอดเยี่ยมประเภทไฮบริดซีดาน เครื่องยนต์ไม่เกิน 2,000 ซีซี (Best Hybrid Sedan under 2,000 c.c.)

2.ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี รุ่น e:HEV RS ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน ได้รางวัลรถยอดเยี่ยมประเภทไฮบริดซีดานขนาดกลาง เครื่องยนต์ไม่เกิน 2,000 ซีซี (Best Mid-size Hybrid Sedan under 2,000 c.c.)

3.ฮอนด้า ซีอาร์-วี รุ่น e:HEV RS ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมเอสยูวี ได้รางวัลรถยอดเยี่ยมประเภทไฮบริดเอสยูวีขนาดกลาง (Best Mid-size Hybrid SUV)

4.ฮอนด้า ซิวิค ไทป์ อาร์ ที่สุดแห่งความสปอร์ตระดับตำนาน ได้รางวัลรถยอดเยี่ยมประเภทสปอร์ตซีดาน (Best Sport Sedan)

รางวัลดังกล่าวตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการพัฒนาและส่งมอบยนตรกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าอย่างไม่หยุดนิ่ง ด้วยยนตรกรรรมที่มีคุณภาพ มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่อันดีเยี่ยม ดีไซน์ที่สะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่ได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกสบาย และเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน อุ่นใจด้วยศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ

สามารถสัมผัสกับยนตรกรรมฮอนด้าที่ได้รับการการันตีคุณภาพด้วยรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี  (Thailand Car of the Year 2025) พร้อมด้วยยนตรกรรมรุ่นอื่นๆ ได้ที่บูทฮอนด้าในงาน มอเตอร์ โชว์ 2025 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 โดยมาพร้อมข้อเสนอพิเศษที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น ทั้งภายในงานที่โชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าประเทศ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือแชตกับที่ปรึกษาการขายออนไลน์ได้ที่ www.honda.co.th หรือศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save