- Advertisement -
32.6 C
Bangkok
Home Blog Page 19

อีซูซุส่งมอบ ISUZU รุ่น GXZ ให้กับ DHL

อีซูซุส่งมอบ ISUZU KING OF TRUCKS EURO 5 MAX รุ่น GXZ ให้กับ DHL จำนวน 30 คัน

มร.มิชิมาสะ โคโนะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ส่งมอบรถบรรทุกรุ่นใหม่! “ISUZU KING OF TRUCKS EURO 5 MAX…ขีดสุดทุกมิติขนส่ง” ที่ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 5 โดยไม่ต้องเติมน้ำยาบำบัดไอเสีย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รุ่น GXZ จำนวน 30 คัน ให้แก่ บริษัท ดีเอชแอล ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านโลจิสติกส์ที่เชี่ยวชาญในการขนส่งภายในประเทศ และระหว่างประเทศเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ โลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยรถบรรทุกที่ดีเยี่ยมทั้งด้านสมรรถนะและการประหยัดน้ำมันที่เหนือชั้น และสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นแก่ผู้ใช้รถ ตอกย้ำการเป็นแชมป์รถบรรทุกยอดนิยมของอีซูซุในเมืองไทย ตอบโจทย์ธุรกิจขนส่งยุคใหม่ได้อย่างครบวงจร ภายใต้แนวคิด “ISUZU Life Cycle Solutions” ที่พร้อมเคียงคู่ผู้ประกอบการ เพื่อให้ได้รถบรรทุกที่คุ้มค่า “ลดต้นทุน เพิ่มกำไร ตลอดการใช้งาน”

ลามิน่า คว้ารางวัลฟิล์มกรองแสงยอดจำหน่ายสูงสุด ประจำปี 2567

“ลามิน่าฟิล์ม” ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคารอันดับ 1 ได้รับรางวัลเกียติยศ Thailand Car & Motorcycle Marketing Awards 2024  ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ในงาน Thailand Car, EV & Motorcycle of The Year 2024 ณ ศูนย์ประชุมเดอะฮอลล์ กรุงเทพฯ

นายสุวิทย์ ศิริมหาโชคสกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด เป็นผู้แทนฟิล์มกรองแสง “ลามิน่า” รับรางวัลผู้จำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด ประจำปี พ.ศ.2567 ในหมวดรางวัลเกียรติยศ Thailand Car & Motorcycle Marketing Awards 2024 จากนายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.)ลามิน่า คว้ารางวัลฟิล์มกรองแสงยอดจำหน่ายสูงสุด ประจำปี 2567

นายสุวิทย์ ศิริมหาโชคสกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด เป็นผู้แทนจากฟิล์มกรองแสง “ลามิน่า” รับรางวัลฟิล์มกรองแสงรถยนต์ยอดจำหน่ายสูงสุดประจำปี พ.ศ.2567 จาก นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินตามหลักสากล ประเมินผลการดำเนินงานที่โดยเด่นด้านกลยุทธ์การตลาด การขาย นวัตกรรม และเทคโนโลยี โดยมี นายบรรจง สุกรีฑา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี

ฟิล์มกรองแสง “ลามิน่า” ประสบความสำเร็จในตลาดประเทศไทยด้วยการครองอันดับ 1 ในตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคารต่อเนื่องยาวนานกว่า 25 ปี ทั้งยังเป็นผู้นำทางด้านการคัดสรรนวัตกรรมด้านฟิล์มกรองแสงมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมาโดยตลอด อีกทั้งได้รับการแนะนำและบอกต่อจากทั้งในโลกออนไลน์ และผ่านเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงศูนย์ติดตั้งฟิล์มกรองแสงลามิน่ากว่า 770 แห่ง

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ฟิล์มกรองแสงลามิน่าได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน นอกเหนือจากการที่บริษัทอยู่คู่กับลูกค้าในประเทศไทยจนเติบโตและประสบความสำเร็จย่างเข้าสู่ปีที่ 30 ในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นฟิล์มกรองแสงเพียงรายเดียวที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้รถสูงสุดมากกว่า 10 ล้านคันในประเทศไทย ให้การยอมรับทั้งเรื่องสินค้าที่มีคุณภาพสูง มีความหลากหลาย และการให้บริการที่โดดเด่น

นอกจากนี้บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงมืออาชีพระดับเอเชียแปซิฟิค ยังนำเข้าผลิตภัณฑ์ด้านยานยนต์อีกมากมาย อาทิ อุปกรณ์บรรทุกสัมภาระธูเล่ (Thule) จากประเทศสวีเดน ผลิตภัณฑ์ฟิล์มนิรภัยปกป้องสีรถลูมาร์ (LLumar) จากสหรัฐอเมริกา และผลิตภัณฑ์ดูแลรักษายานยนต์ครบวงจรแอลลักซ์ (LLux) คุณภาพเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

ลามิน่า จัดประชุมผู้จำหน่ายทั่วประเทศ มอบรางวัล Lamina Excellence Awards ประจำปี 2567

“ลามิน่า” จัดประชุมผู้บริหารศูนย์ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ มอบรางวัล Lamina Excellence Awards ประจำปี 2567 ชี้ความสำเร็จตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เกิดจากความร่วมมือด้วยหัวใจอันเป็นหนึ่งเดียวกัน

นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร “ลามิน่า” จัดประชุมผู้บริหารศูนย์ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และมอบรางวัล Lamina Excellence Awards 2024

บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร  “ลามิน่า” ผลิตโดย อีสท์แมน เพอร์ฟอร์แมนซ์ฟิล์ม สหรัฐอเมริกา แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นำโดย นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จัดประชุมผู้บริหารศูนย์ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ในคอนเซ็ปท์ We’re Gen L : อีกกี่รุ่น…ก็หัวใจเดียวกัน

พร้อมทั้งมอบรางวัล Lamina Excellence Awards ประจำปี 2567 แก่ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายที่สร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายและให้บริการลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม ณ โรงแรมลาคาเซตตา บาย ทอสคาน่า วัลเลย์ เขาใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขาที่สวยงามเปี่ยมเสน่ห์

ตลอดปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการต่างเผชิญคลื่นความท้าทายทางธุรกิจ แต่ด้วยภูมิคุ้มกันอันแข็งแกร่ง ที่ผู้บริหารศูนย์ตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสงลามิน่าได้เชื่อมโยงความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ ต่อยอดทักษะจากรุ่นสู่รุ่น จากเจน B สู่เจน X ให้ทายาทเจน Y และเจน Z ทำให้วันนี้สามารถฟันฝ่า ต่อยอดการเติบโต ร่วมกันก้าวผ่านทุกอุปสรรคได้อย่างเข้มแข็งและมั่นคง

ซึ่งความสำเร็จในทุกภาคส่วน เกิดจากความร่วมมือด้วยหัวใจอันเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งจาก บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายลามิน่า และโรงงานผู้ผลิต   ที่ร่วมกันพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงคุณภาพการติดตั้งระดับมืออาชีพ โดย “ลามิน่า” เป็นฟิล์มกรองแสงเพียงหนึ่งเดียว ที่จัดสัมมนาศูนย์ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศอย่างยิ่งใหญ่ และต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2544

พลังแห่งความเป็นหนึ่งเดียวนี้ มาจากการหลอมรวมความผูกพันของทุกเจนเนอเรชั่นไว้ด้วยกันอย่างแน่นแฟ้น จนลามิน่าฟิล์มก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 อย่างเข้มแข็งในวันนี้ ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 770 แห่งของลามิน่าได้กลายเป็นครอบครัวใหญ่ ครอบครัวที่ไม่มีการแบ่งแยกใดๆ ครอบครัวที่มีหัวใจแห่งลามิน่า We’re Gen L : อีกกี่รุ่น…ก็หัวใจเดียวกัน

การจัดสัมมนาประจำปีในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาสินค้าและบริการด้านต่างๆ รวมถึงการคัดสรรสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจของศูนย์ตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภค อีกทั้งการมอบรางวัล Lamina Excellence Awards แก่ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายนั้นพิจารณาจากผลการเติบโตทางยอดจำหน่ายที่ดีเยี่ยม ปัจจัยการให้บริการที่โดดเด่น มีความรู้ด้านสินค้าฟิล์มกรองแสง รวมถึงความรู้ด้านการตลาดอย่างรอบด้าน

โดยแบ่งการมอบรางวัล Lamina Excellence Awards ออกเป็น 6 ประเภท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอันน่าชื่นชมในมิติที่แตกต่างกันของแต่ละศูนย์ตัวแทนจำหน่าย ประกอบไปด้วย 1. รางวัลยอดขายดีเด่น 2. รางวัลยอดขายเติบโต 3. รางวัลยอดขายเติบโตต่อเนื่อง 4. รางวัลลามิน่าฟิล์ม เอ็กซ์คลูซีฟช็อป มาตรฐานดีเยี่ยม 5. รางวัลลามิน่าฟิล์ม เอ็กซ์คลูซีฟช็อป มาตรฐานสูงสุด และ 6. รางวัลลามิน่าฟิล์ม ศูนย์ตัวแทนสร้างสรรค์การตลาดออนไลน์ยอดเยี่ยม

นอกเหนือจากการแต่งตั้งศูนย์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นระบบ และมีมาตรฐานระดับสากลแล้ว บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด เน้นการให้ความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพในการบริหารธุรกิจฟิล์มกรองแสงอย่างเข้มแข็ง มีการฝึกอบรมเทคนิคการติดตั้งให้กับศูนย์ตัวแทนจำหน่าย รวมถึงการอบรมเทคนิคขั้นสูง ล้วนเป็นปัจจัยความสำเร็จที่ให้ความสำคัญกับเครือข่ายผู้จำหน่ายมาอย่างยาวนาน

นอกจากนี้บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงมืออาชีพระดับเอเชียแปซิฟิก ยังนำเข้าผลิตภัณฑ์ด้านยานยนต์อีกมากมาย อาทิ อุปกรณ์บรรทุกสัมภาระธูเล่ (Thule) จากประเทศสวีเดน ผลิตภัณฑ์ฟิล์มนิรภัยปกป้องสีรถลูมาร์ (LLumar) จากสหรัฐอเมริกา และผลิตภัณฑ์ดูแลรักษายานยนต์ครบวงจรแอลลักซ์ (LLux) คุณภาพเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย อีกทั้งนางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ยังได้รับพระราชทานปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ประจำปีการศึกษา 2566 จากผลงานและความสำเร็จในการประกอบสัมมาชีพอันเป็นที่ประจักษ์

CHANGAN เปิดตัว DEEPAL E07

CHANGAN สร้างปรากฏการณ์ที่ The 41st Thailand International Motor Expo 2024 ด้วยการเปิดตัว DEEPAL E07 ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำยุคและสมรรถนะที่โดดเด่น พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ระดับโลก Vast Ocean Plan เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก

นายเซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด กล่าวว่า “ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ ปีที่ผ่านมาเป็นปีสำคัญของ CHANGAN ในประเทศไทย เราได้เปิดตัวแผนระดับโลก ‘Vast Ocean Plan’ ซึ่งช่วยขยายธุรกิจจากภูมิภาคอาเซียนไปยังยุโรป ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา โอเชียเนีย และประเทศไทย เราภูมิใจในการเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปีของ CHANGAN Thailand โดยในงาน Motor Expo 2023 ที่ผ่านมา เราได้เปิดตัว DEEPAL S07 และ L07 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากตลาดไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมยานยนต์”

CHANGAN ขับเคลื่อนความยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ Vast Ocean Plan ที่ผ่านมาบริษัทมีการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาทในประเทศไทย รวมถึงการสร้างโรงงานผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ที่ระยอง และการจัดตั้งหน่วยธุรกิจ 3 หน่วย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในภูมิภาค ความมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืนสะท้อนผ่านการลดการปล่อย CO2 โดยยอดขายยานยนต์พลังงานใหม่ของ CHANGAN ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 10,000 ตัน จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ CHANGAN ยังร่วมมือกับซัพพลายเออร์ในประเทศไทยกว่า 300 ราย ส่งเสริมการผลิตในประเทศมากกว่า 50% โดยพนักงานกว่า 80% เป็นคนไทย สร้างงานในห่วงโซ่อุปทานกว่า 20,000 ตำแหน่ง และจ่ายภาษีมากกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทย

ในเดือนกันยายน 2024 ที่ผ่านมา CHANGAN ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัว AVATR แบรนด์รถ SUV ระดับหรูที่มุ่งเน้นการผสมผสานความสง่างาม นวัตกรรม และความคุ้มค่า โดยรุ่น AVATR 11 ได้รับเสียงชื่นชมจากทั้งผู้บริโภคและสื่อมวลชน ด้วยดีไซน์ที่ล้ำยุค เทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยม

 สำหรับไฮไลต์ในงานครั้งนี้ DEEPAL ได้เปิดตัว DEEPAL E07 รถ SUV ไฟฟ้าที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม สะท้อนแนวคิด “BE YOURSELF, DRIVE YOUR WAY” มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

DEEPAL E07 มาพร้อมดีไซน์ล้ำยุค เส้นสายภายนอกที่โฉบเฉี่ยว ผสานความสวยงามและความแข็งแกร่ง แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 89.98 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สมรรถนะดีเยี่ยมด้วยขุมพลัง 2 ทางเลือก

1.รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD)

มาพร้อมมอเตอร์คู่ให้กำลังรวมสูงสุด 440 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมสูงสุด 645 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ไกล 590 กิโลเมตร ต่อหนึ่งการชาร์จเต็ม ตามมาตรฐาน NEDC

2.รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (RWD)

มาพร้อมมอเตอร์ให้กำลังสูงสุด 252 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 365 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ไกลถึง 640 กิโลเมตร ต่อหนึ่งการชาร์จเต็ม ตามมาตรฐาน NEDC

นอกจากนี้ DEEPAL E07 ยังเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย อาทิ ระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบช่วยจอดอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ระบบเลือกโหมดสถานการณ์เพื่อช่วยปรับพื้นที่ห้องโดยสารพร้อมสร้างบรรยากาศที่เหมาะสม โหมดเฝ้าระวังเพื่อช่วยตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติและบันทึกวิดีโอสภาพแวดล้อมรอบ ๆ เมื่อไม่ได้อยู่ที่รถ เป็นต้น อีกทั้งยังมีพื้นที่ภายในที่สะดวกสบาย เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าได้ 14 ทิศทางพร้อมฟังก์ชัน Zero Gravity และระบบระบายอากาศ

จุดเด่นของ DEEPAL E07

•ดีไซน์ล้ำยุค: เส้นสายภายนอกที่โฉบเฉี่ยว ผสานความสวยงามและความแข็งแกร่ง

•สมรรถนะไฟฟ้าทรงพลัง: กำลังรวมสูงสุด 440 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมสูงสุด 645 นิวตัน-เมตร (รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ) และกำลังสูงสุด 252 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 365 นิวตันเมตร (รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ)

•ระยะทางไกล: ชาร์จครั้งเดียววิ่งได้ไกล 590 กิโลเมตร (รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ) และ 640 กิโลเมตร (รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ)

•เทคโนโลยีอัจฉริยะ: ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบเลือกโหมดสถานการณ์ และโหมดเฝ้าระวัง

•พื้นที่ภายในที่สะดวกสบาย: เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 14 ทิศทางพร้อมฟังก์ชัน Zero Gravity และระบบระบายอากาศ

รุ่นและราคา DEEPAL E07

•DEEPAL E07 Plus: ราคา 1,699,000 บาท

•DEEPAL E07 Performance AWD: ราคา 2,099,000 บาท

•DEEPAL E07 Plus Limited Edition: ราคา 1,890,000 – 1,990,000 บาท (เปิดจองล่วงหน้า)

•DEEPAL E07 Performance AWD Limited Edition: ราคา 2,290,000 – 2,390,000 บาท (เปิดจองล่วงหน้า)

•DEEPAL E07 Legacy: ราคา 2,990,000 – 3,090,000 บาท (เปิดจองล่วงหน้า)

Screenshot

ข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่จอง DEEPAL E07 มีรายละเอียดดังนี้

สิทธิประโยชน์ สำหรับรถยนต์ DEEPAL E07 รุ่น Plus

1. แพ็คเกจ DEEPAL Premium Care

-ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. 1 ปี 

– รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี 

-ฟรี การบำรุงรักษา 6 ปี หรือ 6 ครั้ง ยกเว้น ชิ้นส่วนพิเศษ วัสดุสิ้นเปลือง และชิ้นส่วนที่สึกหรอ

2. แพ็คเกจ DEEPAL Premium Care Plus

-ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมบริการติดตั้ง 

-ฟรี สายชาร์จเคลื่อนที่

-ฟรี อินเทอร์เน็ต 10 ปี (ข้อมูลอินเทอร์เน็ตสำหรับระบบ 1 GB ต่อเดือนและข้อมูลสำหรับสื่อบันเทิง 1 GB ต่อเดือน)

3. พิเศษสำหรับผู้ที่จอง 500 ท่านแรก รับราคาเปิดตัวพิเศษ DEEPAL E07 Plus ราคา 1,599,000 บาท พร้อมรับ Special Gift: เลือกรับไลฟ์สไตล์แพ็คเกจ Outdoor Explorer Pack หรือ Bike & Beyond Kit มูลค่า 60,000 บาท

สิทธิประโยชน์ สำหรับรถยนต์ DEEPAL E07 รุ่น Performance AWD

1. แพ็คเกจ DEEPAL Premium Care

-ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. 1 ปี 

-รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

-ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี 

-ฟรี การบำรุงรักษา 6 ปี หรือ 6 ครั้ง ยกเว้น ชิ้นส่วนพิเศษ วัสดุสิ้นเปลือง และชิ้นส่วนที่สึกหรอ

2. แพ็คเกจ DEEPAL Premium Care Plus

-ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมบริการติดตั้ง 

-ฟรี สายชาร์จเคลื่อนที่

-ฟรี อินเทอร์เน็ต 10 ปี (ข้อมูลอินเทอร์เน็ตสำหรับระบบ 1 GB ต่อเดือนและข้อมูลสำหรับสื่อบันเทิง 1 GB ต่อเดือน)

-รับประกัน 10 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร เฉพาะช่วงล่างแบบถุงลมและระบบปรับความหนืดช่วงล่างอัจฉริยะ

3. พิเศษสำหรับผู้ที่จอง 500 ท่านแรก รับราคาเปิดตัวพิเศษ DEEPAL E07 Performance AWD ราคา 1,999,000 บาท พร้อมรับ Special Gift: เลือกรับไลฟ์สไตล์แพ็คเกจOutdoor Explorer Pack หรือ Bike & Beyond Kit มูลค่า 60,000 บาท

“ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน CHANGAN อย่างต่อเนื่อง ความไว้วางใจของทุกท่านคือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เราเติบโตอย่างมั่นคงในตลาดไทย ในปี 2025 เรามุ่งมั่นขยายการผลิตและบริการในประเทศไทย โดยจะเริ่มการผลิตในโรงงานระยองช่วงครึ่งปีแรก และขยายศูนย์บริการหลังการขายเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าต่อไป” นายเซิน ซิงหัว กล่าวปิดท้าย

“CHANGAN มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าในไทยและทั่วโลก เราสัญญาว่าจะเดินหน้าสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกที่ยั่งยืน”

มาสด้า ชวนลูกค้าร่วมกิจกรรมทำดีเพื่อสังคม Mazda Swatcat Caravan

มาสด้า ชวนลูกค้าร่วมกิจกรรมทำดีเพื่อสังคม Mazda Swatcat Caravan ผนึกกำลังสวาทแคทจัดแรลลี่สานฝันน้อง ดวลบอล ตามรอยอารยธรรม

กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, วันที่ 17 ธันวาคม 2567 – มาสด้าร่วมกับสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี จัดกิจกรรมพิเศษ “Mazda Swatcat Caravan แรลลี่สานฝันน้อง ดวลบอล ตามรอยอารยธรรม” ชวนแฟนคลับสวาทแคทและลูกค้าผู้ใช้รถยนต์มาสด้ากว่า 30 คัน ร่วมคาราวานทำกิจกรรมด้าน CSR ออกเดินทางไปชมมรดกทางวัฒนธรรมอุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทหินพิมาย พุทธสถานอันเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย พร้อมมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา ทุนการศึกษา และเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับเยาวชนในอำเภอพิมาย พร้อมสานฝันของเด็กๆ เยาวชนทีมฟุตบอลของโรงเรียนเข้าร่วมฝึกทักษะการเล่นฟุตบอล โดยมีนักกีฬาอาชีพและโค้ชจากทีมอะคาเดมี่ของสโมสรฯ ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และช่วยส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวประจำท้องถิ่น รวมทั้งส่งกำลังใจเชียร์นักเตะทีมสวาทแคทในการแข่งขันศึกดาร์บี้แมตช์แห่งภาคอีสาน ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สร้างขวัญกำลังใจและรอยยิ้มจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เป็นอย่างดี

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การสร้างความยั่งยืนให้กับของโลกเรา การยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และการสร้างสรรค์สังคมของเราให้น่าอยู่ตลอดไป คือสิ่งที่มาสด้ามุ่งมั่นมาตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยกว่า 74 ปี โดยมาสด้าทั่วโลกได้ประกาศนโยบายเพื่อสานต่อเจตนารมณ์อย่างชัดเจนตามแนวทาง Sustainable Development Goals- SDGs ซึ่งเป็นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ เพื่อสร้างโลกใบนี้ให้น่าอยู่ และส่งต่อไปสู่เจเนอเรชั่นถัดไป มาสด้าจึงเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสังคมอยู่เสมอ ควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนทั่วโลกตามแนวทาง Human-Centricity คือการยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างคุณค่าของแบรนด์ให้เป็นมากกว่ายานพาหนะ เพื่อส่งมอบความสุขให้กับผู้คนตลอดการเดินทาง

เพื่อสานต่อพันธกิจที่สำคัญนี้ มาสด้าจึงได้จัดกิจกรรม Mazda Day โดยความร่วมมือกับพันธมิตรในระดับท้องถิ่นทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่มาสด้าให้การสนับสนุนมาตลอดระยะเวลา 12 ปี พร้อมแฟนคลับและลูกค้าครอบครัวมาสด้าออกเดินทางแบบคาราวาน จำนวนกว่า 30 คัน รวมสมาชิกกว่า 80 คน ไปร่วมภารกิจทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม ด้วยการมอบอุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์การเรียนการสอน มอบทุนการศึกษา พร้อมฝึกสอนทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็กนักเรียนที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอลได้มีโอกาสพัฒนาทักษะของตนเอง ได้นำเอาความรู้ความสามารถและเทคนิคไปพัฒนาต่อยอดในการก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพต่อไป พร้อมให้การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและร่วมเชียร์ทีมสวาทแคท

ทางด้าน นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี กล่าวว่า กิจกรรม Mazda Day เป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่เราตั้งใจจัดขึ้นร่วมกับพันธมิตร โดยได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน ในการแบ่งปันความสุขกลับคืนให้กับผู้คนในสังคม ทั้งกลุ่มเยาวชนและชุมชนในจังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นการขอบคุณทุกคนในจังหวัดนครราชสีมา ที่ให้การสนับสนุนทีมสวาทแคทในการแข่งขันไทยลีกด้วยดีตลอดมา พร้อมทั้งพัฒนาวงการฟุตบอลระดับเยาวชนในจังหวัดฯ สร้างโอกาสและแรงบันดาลใจสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสอันดีที่แฟนคลับจะได้ร่วมกันส่งกำลังใจให้นักเตะทีมสวาทแคทในการแข่งขันฟุตบอล ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ระหว่าง สวาทแคท และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นการแข่งขันนัดสำคัญของทั้งสองทีม เป็นศึกดาร์บี้แมตช์แห่งภาคอีสานที่มีแฟนบอลเข้าชมและเชียร์มากกว่า 15,000 คน

พิธีปล่อยคาราวานรถยนต์มาสด้าจัดขึ้นที่บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ผู้บริหารจาก มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ภาครัฐและเอกชน พร้อมออกเดินทางไปสัมผัสพุทธสถานนิกายมหายานที่เก่าแก่ที่สุดในภาคอีสาน “ปราสาทหินพิมาย” เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ให้คงอยู่สืบไป ก่อนออกเดินทางไปมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา และเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ณ โรงเรียนหมื่นไวย เยี่ยมชมวัดหมื่นไวยซึ่งมีโบสถ์อายุเก่าแก่กว่า 300 ปี หนึ่งในพุทธสถานสำคัญสำหรับสายมู “เที่ยววัดห้ามพลาดเมืองโคราชสายบุญ” ก่อนมุ่งหน้าไปทำกิจกรรม ฟุตบอล คลินิก และร่วมเล่นฟุตบอลกับทีมอะคาเดมี่ ณ โรงเรียนชุมชนบ้านประโดก-โคกไผ่ เพื่อพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตบอลให้กับเด็กๆ อาทิ การเลี้ยง การส่ง การยิง การครองบอล และการโหม่งบอล เตรียมพร้อมสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต สร้างความสนุกสนานและแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ เยาวชนได้เป็นอย่างดี

เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมในช่วงบ่ายแล้ว ขบวนคาราวานมาสด้าได้ออกเดินทางไปยังสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เพื่อร่วมส่งกำลังใจเชียร์ทีมสวาทแคทในการแข่งขันไทยลีกนัดสำคัญศึกดาร์บี้แมตช์แห่งภาคอีสาน ระหว่าง (นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี) สวาทแคท – ปราสาทสายฟ้า (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) ซึ่งเป็นการแข่งขันก่อนปิดเลกแรก ฤดูกาล 2024 สร้างความฮึกเหิมให้กับนักเตะเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ให้การสนับสนุนและบรรดาแฟนคลับให้ความสนใจเข้าชมจนล้นสนาม และยังคงให้การสนับสนุนสโมสรฯ อย่างเหนียวแน่น ก่อนส่งท้ายกิจกรรม Mazda Day ในวันนี้ด้วยความสนุกสนาน เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม และความสุขที่เกิดจากการให้ของทุกภาคส่วน

บุคคลในภาพ

ผู้บริหารสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี นำโดย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานบริหารสโมสรฯ, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ประธานสโมสรฯ, นางสาวอัญรินทร์ วงศ์อัครพัฒนา รองประธานฝ่ายรายได้และสิทธิประโยชน์, ผู้บริหารมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย นายวัชระ เจียรบุญ ผู้จัดการทั่วไปแผนกการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์, นายอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปส่วนงานประชาสัมพันธ์, นายปวเรศ วงศ์เพชรขาว ผู้จัดการประสบการณ์ลูกค้าและสื่อสารองค์กร และ นางสาวทัศนียา พัฒนจิตวิไล กรรมการผู้จัดการ มาสด้า ราชาออโต้เซลส์ ณ บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ในพิธีปล่อยขบวนคาราวานรถยนต์มาสด้า

ภาพกิจกรรม

• คาราวานรถยนต์มาสด้าออกเดินทางจากลานหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี มุ่งหน้าไปยังปราสาทหินพิมาย และทำกิจกรรมเพื่อสังคม

• ผู้บริหารสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, ผู้บริหารมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย, แฟนคลับ และลูกค้าที่ร่วมกิจกรรม มอบอุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์การเรียนการสอน ทุนการศึกษา พร้อมเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ณ โรงเรียนหมื่นไวย

• กิจกรรมฟุตบอลคลินิก และลงสนามดวลฟุตบอลกับทีมอะคาเดมี่ ณ โรงเรียนชุมชนบ้านประโดก-โคกไผ่

• คาราวานรถยนต์มาสด้ารวมตัวกันบริเวณหน้าสนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ร่วมเชียร์ทีมสวาทแคทในการแข่งขันระหว่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี – บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย มอบถุงยังชีพผู้ประสบอุทกภัย 4 จังหวัด ภาคใต้

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ผนึกกำลังผู้แทนจำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ร่วมส่งมอบถุงยังชีพ 2,400 ถุง ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัดรวมมูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ผนึกกำลังตัวแทนผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยส่งมอบถุงยังชีพไปแล้วกว่า 2,400 ถุง รวมมูลค่าความช่วยเหลือทั้งสิ้น 1.2 ล้านบาท และจะทยอยเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องในจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพื้นที่ประสบอุทกภัยและได้รับความเดือดร้อนต่อไป

โดยภายในถุงยังชีพประกอบด้วยสิ่งของจำเป็นที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในชีวิตประจำวัน เช่น อาหารแห้ง น้ำดื่มสะอาด ยารักษาโรค และของใช้ในครัวเรือน รวมถึงของใช้จำเป็นต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยให้สามารถดำรงชีวิตได้ในช่วงเวลาที่เผชิญกับความยากลำบาก

การส่งมอบความช่วยเหลือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย ที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือสังคมในยามวิกฤติ และสนับสนุนการฟื้นฟูชุมชนให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยภายในปี 2024 นี้ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยได้มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนไปแล้วทั้งสิ้น 8,400 ถุง พร้อมมอบเงินซ่อมแซมให้แก่โรงเรียน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จากสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อต้นปี ที่ผ่านมา จำนวน 12 โรงเรียน โรงเรียนละ 120,000 บาท อีกทั้งมอบคอมพิวเตอร์สภาพดีจำนวน 300 เครื่อง บริจาคให้แก่โรงเรียน 200 โรงเรียน โดยรวมเป็นมูลค่าเงินที่ช่วยเหลือรวมทั้งสิ้น 6 ล้านบาท

ทั้งนี้ มูลนิธิฮอนด้ายังได้เตรียมความพร้อมในการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบในอนาคต โดยร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทางฮอนด้าขอส่งกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยทุกท่าน เราพร้อมอยู่เคียงข้างและส่งมอบความช่วยเหลือ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติอุทกภัยในครั้งนี้ และกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ววัน ดังเจตนารมณ์ของฮอนด้าในการสร้างสรรค์คุณค่าเพื่อเป็นองค์กรที่สังคมไทยต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไป

ผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จังหวัดสงขลา

บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด, บริษัท พี.วี.เคไซเคิล จำกัด, บริษัท สงวนพาณิชย์ พลัส จำกัด และ บริษัท อริยะมอเตอร์ จำกัด ผู้รับมอบ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายวิทยา จันทน์เสนะ

ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า จังหวัดนราธิวาส

บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด , ห้างหุ้นส่วนจำกัด นราธิวาสสหมิตรมอเตอร์, บริษัท ประยูรพาณิชย์ นราธิวาส จำกัด และผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า บริษัท นราธิวาส ฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด ผู้รับมอบ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม และ ศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ดร.ชารีฟท์ สือนิ

ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า จังหวัดยะลา

บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด น่ำฮั่วจั่นยะลา, บริษัท อริยะมอเตอร์ จำกัด สาขายะลา, ห้างหุ้นส่วนจำกัด แสงเจริญนาประดู่ และผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า บริษัท ยะลาฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด ผู้รับมอบ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายอำพล พงศ์สุวรรณ

ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า จังหวัดปัตตานี

บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัดบริษัท อริยะมอเตอร์ (ปัตตานี) จำกัด และผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า บริษัท ปัตตานีฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด ผู้รับมอบ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นางพาตีเมาะ สะดียามู

#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda #HowWeMoveYou #ไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย #กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปล่อย Teaser เผยโฉมรถแวนขุมพลังไฟฟ้า 100%

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมพลิกโฉมรถแวนขุมพลังไฟฟ้า 100% ด้วยแพลตฟอร์ม “VAN.EA” ปักหมุดโชว์รถต้นแบบในปี 2568 ก่อนลงตลาดจริงในปี 2569

Der Beginna einer neuen Ära bei Mercedes-Benz Vans / Dawn of a new era of Mercedes-Benz Vans

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกาศความพร้อมสำหรับการเปิดตัวแพลตฟอร์ม VAN.EA (Van Electric Architecture) ในปี พ.ศ 2569 ชูความโดดเด่นของแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรถแวนพลังงานไฟฟ้า 100% โดยเฉพาะ โดยถูกพัฒนาให้มีโครงสร้างแบบแยกส่วน (Modular) และรองรับการปรับขนาดได้หลากหลายรูปแบบ (Scalable) พร้อมเผยโฉมรถแวนต้นแบบที่สร้างขึ้นจากแพลตฟอร์ม VAN.EA พร้อมกันทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2568 ตอกย้ำการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ยุคใหม่ของรถแวนพลังงานไฟฟ้า 100% อย่างเต็มรูปแบบ VAN.EA เป็นแพลตฟอร์มสำหรับรถแวนส่วนบุคคลในกลุ่มลักชัวรี่ ที่มีความแตกต่างกับรถเชิงพาณิชย์ในกลุ่มพรีเมี่ยมอย่างสิ้นเชิง และในอนาคต โมเดลรถแวนส่วนบุคคลของเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ตั้งแต่กลุ่มลูกค้าที่ใช้งานแบบครอบครัว ไปจนถึงกลุ่มที่ใช้รถแวนในรูปแบบ VIP Shuttle ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางเทียบเท่ารถลีมูซีน โดยตั้งใจที่จะขยายไลน์อัพโมเดลรถแวนในระดับ Top-End Luxury พร้อมนำเสนอเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใคร

รถแวนต้นแบบพลังงานไฟฟ้า 100% ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่กำลังจะเผยโฉมให้เห็นพร้อมกันทั่วโลก ในช่วงต้นปีหน้า จะสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการออกแบบยนตรกรรมที่มาพร้อมความหรูหราและความสง่างามในทุกมิติ โดยที่ยังคงความโดดเด่นของรถแวนในเรื่องพื้นที่ห้องโดยสารและความอเนกประสงค์ที่สามารถครอบคลุมการใช้งานของลูกค้าในทุกรูปแบบ

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นต่างๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือ ลงทะเบียนเพื่อทดลองขับได้ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือ ติดตามข่าวสารอัปเดตผ่านทาง Facebook : Mercedes-Benz Thailand, IG : @MercedesBenzThailand และ LINE : @mercedesbenzth

มิตซูบิชิ มอบประกาศนียบัตรให้แก่ศึกษาผู้ชนะโครงการฝึกงานยอดเยี่ยม

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าส่งเสริมการศึกษา มอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ชนะโครงการฝึกงานยอดเยี่ยมและสำเร็จหลักสูตรจากโครงการ ‘MMTh Talent Internship Program’ ครั้งที่ 6 ประจำปี 2567

บรรยายภาพ : นายจรูญ บัญญัติ (ที่ 6 จากขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม สายงานกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลและสิ่งแวดล้อม บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ มร.ฮิโระอะคิ ทาโบะ (ที่ 7 จากขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม สายงานกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลและสิ่งแวดล้อม บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มอบรางวัลผู้ชนะโครงการฝึกงานยอดเยี่ยม (Top 5  Internship Project Award) พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้แก่นักศึกษาที่สำเร็จหลักสูตรฝึกงานจากโครงการ ‘MMTh Talent Internship Program’ ครั้งที่ 6 ประจำปี 2567

กรุงเทพฯ – 16 ธันวาคม 2567 : บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดโครงการฝึกงานยอดเยี่ยม (Top 5 Internship Project Award) พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้แก่นักศึกษา ที่สำเร็จหลักสูตรฝึกงานจากโครงการ ‘MMTh Talent Internship Program’ ครั้งที่ 6 ประจำปี 2567 โดยโครงการนี้เปิดโอกาสให้นักศึกษาริเริ่มและสร้างสรรค์โครงการที่สนับสนุนการพัฒนาการดำเนินงานของบริษัทสู่ความเป็นเลิศ เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสนำความรู้เชิงทฤษฎีมาปรับใช้กับการทำงานจริง ทั้งยังส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเต็มรูปแบบนอกห้องเรียน อีกทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพในอนาคต

นายจรูญ บัญญัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม สายงานกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลและสิ่งแวดล้อม บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในฐานะบริษัทยานยนต์ชั้นนำตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรในทุกภาคส่วนของธุรกิจและการดำเนินงาน ตั้งแต่ในสำนักงานไปจนถึงในโรงงานผลิต อุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยความรู้ทางวิศวกรรมเท่านั้น โครงการฝึกงานของเราจึงส่งเสริมทักษะการทำงานเป็นทีมในสถานการณ์การทำงานจริงอีกด้วย และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นสถานที่ฝึกฝนเพื่อให้นักศึกษาได้สั่งสมความรู้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ผ่านการถ่ายทอดความเชี่ยวชาญและทักษะการทำงานให้กับนักศึกษาฝึกงานด้วยประสบการณ์อันยาวนานในธุรกิจยานยนต์ เราตระหนักดีว่าทุกคนสามารถมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมและเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศในอนาคต”

มร.ฮิโระอะคิ ทาโบะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม สายงานกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลและสิ่งแวดล้อม บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โครงการ ‘MMTh Talent Internship Program’ นี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้เราได้สานต่อความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะส่งเสริมให้นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อน้องๆ ทุกคนสำเร็จการศึกษา ผมมีความยินดีและหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับน้องๆ ทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทของเราเพื่อร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยต่อไป”

นางสาวศรัยรัตน์ จินดา นักศึกษาฝึกงานคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้ชนะโครงการอันดับ 1 ด้วยโครงการ Safety Improvement Lifter โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ 100% กล่าวว่า “ตนเองและเพื่อนๆ นักศึกษาฝึกงานทุกคนรู้สึกขอบคุณทางบริษัทฯ ที่เปิดโอกาสให้ได้เข้าร่วมการฝึกงานในครั้งนี้ ทำให้ได้เรียนรู้การทำงานจริง ซึ่งถือเป็นประสบการณ์อันมีค่าที่ได้รับนอกเหนือจากการศึกษาในมหาวิทยาลัย โครงการนี้มีบทบาทสำคัญในการต่อยอดความรู้ที่เรียนมาและรู้สึกภูมิใจมากที่ได้มาฝึกงานที่นี่ อีกทั้งจะนำความรู้ที่ได้ตลอดการฝึกงานไปปรับใช้ต่อไปในอนาคต”

นายก้องภพ โสภณพิเชฐ นักศึกษาฝึกงานคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า “ประสบการณ์ที่ได้รับจากบริษัทฯ นั้นมีประโยชน์และมีคุณค่า โดยบริษัทฯ ได้เปิดโอกาสให้ทดลองฝึกแก้ปัญหาจากสถานการณ์จริง ได้เพิ่มองค์ความรู้ในสายงานวิศวกรรมตามที่สนใจ พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในสายงาน ทำให้ประสบการณ์การฝึกงานในครั้งนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ได้ความรู้ และรู้สึกภาคภูมิใจมากที่ได้ฝึกงานที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย”

โครงการ ‘MMTh Talent Internship Program’ เป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มโครงการด้านการศึกษา สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ความรับผิดชอบต่อสังคม ‘สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย’ ภายใต้เสาหลัก 3 ด้าน คือ การศึกษา สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม โดยมอบโอกาสให้นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยนำความรู้ทางทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์การทำงานจริงที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นอกจากนี้ นักศึกษายังได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อสร้างความพร้อมในการประกอบอาชีพสู่ความสำเร็จในอนาคต

โครงการฝึกงาน ‘MMTh Talent Internship Program’ ครั้งที่ 7 ประจำปี 2568

เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 15 มกราคม 2568

เกณฑ์การรับสมัคร : – เกรดเฉลี่ยสะสมสาขาวิศวกรรมศาสตร์  ไม่ต่ำกว่า 2.50

                                 – เกรดเฉลี่ยสะสมสาขาอื่น ไม่ต่ำกว่า 2.75

สมัครได้ที่ : https://bit.ly/3TvjjCS หรือสแกนคิวอาร์โค้ดตามแนบ

หมายเหตุ : การพิจารณาคัดเลือกนิสิต-นักศึกษา เข้าร่วมโครงการฯ ของบริษัทฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด

มิตซูบิชิ ส่งต่อธารน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าส่งต่อธารน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จังหวัดยะลา

บรรยายภาพ : นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ (ที่ 2 จากขวา) นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมด้วย นายวิศาล จิรภาพงพันธ์ (ขวาสุด) รองนายกเทศมนตรีนครยะลา เป็นตัวแทนรับมอบเงินสนับสนุนมูลค่า 100,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในจังหวัดยะลา จาก บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย พร้อมด้วยผู้บริหารจาก บริษัท เอ.เอ.เอส มอเตอร์ จำกัด ซึ่งได้สมทบถุงยังชีพเพื่อบริจาคให้กับผู้ประสบอุทกภัย นำโดย นายภาณุค์ปกรณ์ อภินันธนพัฒน์ (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ นางสาวรตาพิรญาร์ อภินันธนพัฒน์ (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ และ นางนภอมรพรรณ อภินันธนพัฒน์ (ซ้ายสุด) กรรมการผู้จัดการ

ยะลา – 13 ธันวาคม 2567 : บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมส่งมอบความห่วงใยและกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดยะลา โดยมอบเงินสนับสนุนจำนวน 100,000 บาท ให้แก่ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เทศบาลนครยะลา เพื่อสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ สอดคล้องกับปณิธานในด้านการช่วยเหลือสังคมของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ “สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย”

นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนสังคมไทยในยามที่ต้องเผชิญความยากลำบาก การสนับสนุนครั้งนี้แก่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของเทศบาลนครยะลา สะท้อนถึงความตั้งใจของเราในการบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชนที่ได้รับผลกระทบ และช่วยเหลือพวกเขาให้ฟื้นฟูกลับมาได้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน และพร้อมส่งมอบความช่วยเหลือไปถึงอย่างทันท่วงที”

นอกจากนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังให้บริการตรวจเช็กสภาพรถฟรี! สำหรับรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นซึ่งได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย พร้อมตรวจเช็กด้วยเครื่อง MUT-III รวม 23 รายการ และมอบส่วนลดร้อยละ 30 สำหรับค่าอะไหล่ ค่าแรง และค่าเคมีภัณฑ์* ที่ศูนย์บริการมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั่วประเทศ โดยติดต่อมิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดรับสายทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด สำหรับลูกค้าผู้มีประกันภัยรถยนต์ จะสามารถรับส่วนลดตามรายการส่งเสริมการขายนี้ได้เฉพาะค่าใช้จ่ายที่ไม่อยู่ในความคุ้มครองของบริษัทประกันภัยเท่านั้น

มิตซูบิชิ มอบทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนไทยปีที่ 5

“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน” เดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 5 มอบ 100 ทุน ให้แก่เยาวชนไทย ส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษา

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เดินหน้าสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมต้น (ม.1-3) จำนวน 100 คน ในโครงการ “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน” ประจำปี 2567 โดยเป็นนักเรียนจากจังหวัดชลบุรี 70 คน และจังหวัดปทุมธานี 30 คน โครงการนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 5 หลังจากเริ่มดำเนินการมอบทุนการศึกษาครั้งแรกในปี 2563

มร.เออิจิ โอกาวะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ กรรมการมูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 64 ปี โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทั้งยังมีการจ้างงานจำนวนมาก เราเริ่มต้นโครงการ “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน” ในปี 2563 ด้วยความร่วมมือจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา โดยได้มอบทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนที่เรียนดีและประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ มาแล้วเป็นจำนวนทั้งหมด 574 ทุน ซึ่งรวมถึง 100 ทุน ที่มอบในปี 2567 นี้ และหวังว่าจะได้เห็นนักเรียนทุนของเราได้ศึกษาเล่าเรียนได้อย่างไม่ขาดตอน พัฒนาศักยภาพเชิงวิชาการของตนเองได้อย่างเต็มที่ และนำความรู้และประสบการณ์มาร่วมกันพัฒนาประเทศไทยต่อไป” มร.โอกาวะ กล่าวเพิ่มเติม

นางผลิพร ธัญญอนันต์ผล ผู้อำนวยการสำนักสื่อสาธารณะและระดมความร่วมมือ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า “ขอขอบคุณโครงการ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และมูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้รับโอกาสเล่าเรียนอย่างต่อเนื่อง และช่วยแบ่งเบาภาระด้านการเงินของหลายครอบครัว สอดคล้องกับหลักคิดของ กสศ. ที่ว่า ‘ให้การศึกษาคือกิจของทุกคน’ หรือ All for Education”

พิธีมอบทุนการศึกษาในจังหวัดชลบุรีจัดขึ้น ณ โรงงานแหลมฉบัง 3 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำโดย มร.เออิจิ โอกาวะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และกรรมการมูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เด็กนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาจำนวนทั้งหมด 70 คน ยังได้มีโอกาสเยี่ยมชมโรงงานแห่งที่ 2 และโรงงานแห่งที่ 3 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เพื่อสัมผัสเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์ที่ล้ำสมัย

สำหรับพิธีมอบทุนการศึกษาในจังหวัดปทุมธานีจัดขึ้น ณ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรมของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำโดย นายจรูญ บัญญัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม สายงานกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลและสิ่งแวดล้อม

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นพิธีมอบทุนการศึกษา เด็กนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาจำนวนทั้งหมด 30 คน ยังได้เยี่ยมชมสถาบันการศึกษาและฝึกอบรมที่เป็นแหล่งพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญให้กับพนักงานของผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ทั้งในด้านบริการการขาย บริการหลังการขาย และบริการซ่อมบำรุงโดยช่างเทคนิค

มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม 2563 ในฐานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมไทยด้วยการดำเนินงานผ่านหลักสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การศึกษา สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ภายใต้วิสัยทัศน์ความรับผิดชอบต่อสังคม “สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย” ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save