- Advertisement -
28.9 C
Bangkok
Home Blog Page 99

ไทยฮอนด้า เปิดตัว New Honda Giorno+ ครั้งแรกในโลก

ไทยฮอนด้า เปิดตัว “New Honda Giorno+” รถโมเดิร์นคลาสสิกรุ่นใหม่ ครั้งแรกของโลก ชูคอนเซ็ปต์ The New High ทุกสไตล์ไปได้ไกลกว่าพร้อมเปิดตัว 3 พรีเซนเตอร์ระดับท็อป ณเดชน์-วิโอเลต-เจฟ ซาเตอร์

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด New Honda Giorno+ (นิว ฮอนด้า จีออโน่ พลัส) รถออโตเมติกแนวโมเดิร์นคลาสสิก ในสไตล์ High Fashion ที่มาพร้อมคอนเซปต์ “The New High ทุกสไตล์ไปได้ไกลกว่า” ผสานดีไซน์ที่โดดเด่นมีสไตล์เข้ากับเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่ล้ำสมัยได้อย่างลงตัว พร้อมกับถ่ายทอดภาพลักษณ์ของรถผ่าน 3 พรีเซนเตอร์ใหม่ นำโดย “ณเดชน์ คูกิมิยะ” นักแสดงและนายแบบชื่อดัง “วี-วิโอเลต วอเทียร์” ศิลปินมากความสามารถที่มีสไตล์ไม่เหมือนใครและ “เจฟ-วรกมล ซาเตอร์” ศิลปินที่มีความโดดเด่นและเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่น

มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในครั้งนี้ว่า “ความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมาย และการมุ่งพัฒนารถจักรยานยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยทำให้ฮอนด้าได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากคนรุ่นใหม่และครองความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในกลุ่มรถออโตเมติกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ความต้องการของตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เราจึงต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างผู้นำเพื่อเติมเต็มความต้องการเหล่านั้นให้ได้ ด้วยความมุ่งมั่นดังกล่าว เราได้พัฒนา New Honda Giorno+ รถรุ่นใหม่ที่ผสานความทันสมัยเข้ากับความคลาสสิกอย่างลงตัว ทุกรายละเอียดได้รับการออกแบบให้แสดงถึงความมีสไตล์ ด้วยรูปทรงและเส้นสายที่สวยงาม ไปจนถึงสีสันที่โดดเด่นเข้ากับดีไซน์ของรถ กลายเป็นความลงตัวที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีคลาส ไม่เพียงเท่านั้น รถรุ่นนี้ยังถูกสร้างเพื่อส่งมอบประสบการณ์ในการขับขี่ที่เหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย นี่คือรถที่จะถ่ายทอดอีกนิยามของความเป็นแฟชั่น เสมือนงานศิลปะบนรถจักรยานยนต์อย่างแท้จริง”

New Honda Giorno+ มาพร้อมคอนเซปต์ “The New High ทุกสไตล์ไปได้ไกลกว่า” รถออโตเมติกสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกที่โดดเด่นเกินใคร จากการออกแบบให้สะท้อนความเป็น High Fashion ผสานความงามไร้กาลเวลา และความล้ำสมัยของเทคโนโลยีเพื่อไลฟ์สไตล์การขับขี่ยุคใหม่ สะดุดตาด้วยชุดไฟ LED ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย ลงตัวเข้ากับเส้นสายที่ให้ความคลาสสิกรอบคัน

New Honda Giorno+ มาพร้อมกับสมรรถนะในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว ขนาด 125 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้การขับขี่ที่สนุก ให้อัตราเร่งดี บิดติดมือ ตอบสนองการใช้งานในเมืองได้เป็นอย่างดี ปลอดภัยด้วยดิสก์เบรกหน้า และระบบเบรก ABS (เฉพาะรุ่น ABS) และระบบกระจายแรงเบรกหน้า-หลัง Combi Brake System เพิ่มประสบการณ์ขับขี่ในรูปแบบใหม่ที่ High ขึ้นทุกระดับ

New Honda Giorno+ มาพร้อมความสะดวกสบายในการใช้งาน ด้วยกุญแจรีโมตอัจฉริยะ Honda Smart Key เช่นเดียวกับ U-Box ขนาดใหญ่ถึง 30 ลิตร พร้อมติดตั้ง USB Socket & Console Box สามารถชาร์จไฟได้ตลอดเวลา รวมถึงจุดเติมน้ำมันด้านหน้า สามารถเติมน้ำมันได้โดยไม่ต้องเปิดเบาะ

นอกจากนี้ ไทยฮอนด้ายังได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการสื่อสารการตลาดสำหรับ New Honda Giorno+ ด้วยการเปิดตัวพรีเซนเตอร์ระดับท็อปพร้อมกันทีเดียวถึง 3 คน เริ่มจาก “ณเดชน์ คูกิมิยะ” นักแสดงและนายแบบผู้หลงใหลในเสน่ห์ของรถจักรยานยนต์ “วี-วิโอเลต วอเทียร์” ศิลปินสาวที่มีสไตล์โดดเด่นในแบบของตัวเอง และ“เจฟ-วรกมล ซาเตอร์” ศิลปินระดับอินเตอร์ที่มีความเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นตัวจริง โดยทั้ง 3 คนถือเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่สะท้อนความเป็น The New High ของรถจักรยานยนต์ New Honda Giorno+ ในแบบฉบับของตัวเอง

ไทยฮอนด้าพร้อมวางจำหน่าย New Honda Giorno+ แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ โดยมีให้เลือกสองรุ่นย่อยประกอบด้วยรุ่น ABS มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว-ดำ, สีเทา-ดำ และสีแดง-ดำ ราคาแนะนำที่ 66,900 บาท รุ่น Standard มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว-ดำ, สีเหลือง-ดำ สีเขียว-ดำ และสีน้ำเงิน-ดำ ราคาแนะนำที่ 61,900 บาท

นอกจากรุ่น ABS และ Standard แล้ว ฮอนด้ายังได้นำเสนอ Special Edition จากสำนักแต่ง H2C by Honda ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์แต่ละไลฟ์สไตล์ โดยมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Bianco Pearl Edition ตกแต่งมาในสไตล์ Urban Rider ทันสมัยในแบบคนเมืองรุ่นใหม่ ราคาแนะนำที่ 72,900 บาท ตามด้วย Glamorous Nero Edition ตกแต่งสไตล์ Casual Weekender ราคาแนะนำที่ 75,900 บาท และสุดท้าย Ruby Russo Edition ตกแต่งในแบบ Street Strider ให้ลุคสปอร์ต ราคาแนะนำที่ 78,900 บาท

พร้อมกันนี้ ไทยฮอนด้ายังมาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษให้กับ 10,000 คันแรก ที่เป็นเจ้าของ New Honda Giorno+ ด้วยแพคเกจ HSP (Honda Service Premium Package) ตรวจเช็คระยะฟรีตลอดระยะเวลา 2 ปี หรือระยะทาง 18,000 กิโลเมตร กดรับสิทธิ์ผ่าน Application “My Honda Moto” ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น : https://myhonda.page.link/invite

มาสด้า ส่ง NEW MAZDA CX-3 ดีไซน์ใหม่ใส่ออฟชั่นเต็มคัน

มาสด้า เดินหน้ากระตุ้นตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลัง ประเดิมเปิดตัว New Mazda CX-3 รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวี ชูคอนเซ็ปต์ “Never Settle for Less ความท้าทายใหม่ไม่รู้จบ” ลุยเจาะฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ B-Car Upper และลูกค้ากลุ่ม B-SUV ที่ต้องการรถอเนกประสงค์เอสยูวีเป็นคันแรกในครอบครัว และกลุ่มลูกค้าที่ต้องการพื้นที่อรรถประโยชน์ที่มากกว่ารถยนต์นั่ง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และภาพลักษณ์ความสปอร์ต ตลอดจนฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ให้ความคุ้มค่า เหนือราคา โดยวางราคาเริ่มต้นเพียง 770,000 บาท และดอกเบี้ย 1.79% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ลูกค้าที่สนใจสามารถทดลองขับพร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมายได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ พร้อมรับรถใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัว New Mazda CX-3 ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และการออกแบบอันสง่างามจาก โคโดะ ดีไซน์ รวมถึงเป็นการกระตุ้นตลาดรถยนต์ไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่นรถอเนกประสงค์ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนารถรุ่นนี้ให้เป็นครอสโอเวอร์เอสยูวีคันแรกที่จะพาคุณออกไปเริ่มต้นประสบการณ์ใหม่ได้ไม่รู้จบ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นวัยเริ่มต้นทำงานที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวีเป็นคันแรก หรือลูกค้าที่ต้องการซื้อรถเพิ่มเติมเพื่อเติมเต็มชีวิตของครอบครัว ที่มีดีไซน์สปอร์ตพรีเมี่ยม มีความคุ้มค่าเหนือราคา อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

New Mazda CX-3 มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร (SKYACTIV-G 2.0) ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 156 แรงม้า ประหยัดน้ำมันถึง 16.4 กม./ลิตร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หรือ G-Vectoring Control (GVC) ที่ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล เพื่อให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

การออกแบบ New Mazda CX-3 ได้รับการยกระดับความสปอร์ตพรีเมี่ยม ที่มีเอกลักษณ์ในสไตล์เฉพาะตัว ทั้งดีไซน์ภายนอกที่มาพร้อมกระจังหน้าสีดำ กระจกมองข้างสีดำ ซุ้มล้อสีดำเงา และหลังคาสีดำเงา และมาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว ในขณะที่ภายในห้องโดยสารก็มีความประณีต พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งยังมีความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ด้วยคอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีฟ้าเทา ตกแต่งด้วยด้ายสีคอปเปอร์ พร้อมกรอบช่องแอร์สีคอปเปอร์ ผสานกันอย่างลงตัวกับเบาะหนังสีดำและผ้า Grand Luxe Suede® พร้อมสีภายนอกใหม่ สีเทา แอโร เกรย์ ที่เสริมสร้างภาพลักษณ์ความสปอร์ตหรูไปอีกระดับ ทำให้รถ New Mazda CX-3 มีให้เลือกมากถึง 7 สี

นอกจากดีไซน์ใหม่แล้ว New Mazda CX-3 ยังได้ถูกติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยมาเพิ่มเติม รวมถึงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ด้วยระบบ i-Activsense ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุและช่วยให้การขับขี่ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) ระบบช่วยหยุดรถขณะถอยหลัง (SCBS-R) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HBC) และติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go โดยระบบสามารถปรับความเร็วตามรถคันหน้าแบบอัตโนมัติได้จนถึงจุดหยุดนิ่ง จึงทำให้รุ่นนี้กลายเป็นครอสโอเวอร์เอสยูวี ที่ให้ความคุ้มค่าเหนือราคาเมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีที่ให้มาแบบเต็มคัน

New Mazda CX-3 มีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.0 Base ราคา 770,000 บาท รุ่น 2.0 Base Plus ราคา 830,000 บาท รุ่น 2.0 Comfort ราคา 900,000 บาท และรุ่นใหม่ล่าสุด 2.0 Sport Luxe ราคา 970,000 บาท ลูกค้าที่สนใจรถครอสโอเวอร์เอสยูวี New Mazda CX-3 สามารถยลโฉมรถคันจริงได้ที่งาน Big Motor Sale 2023 ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 3 กันยายน 2566 พร้อมรับแคมเปญสุดคุ้มช่วงเปิดตัว กับดอกเบี้ย 1.79% และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี หรือทดลองขับพร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมายได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

บรรยายภาพ : คณะผู้บริหารระดับสูงจากบริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย นำโดย มร.ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร ให้เกียรติต้อนรับ นายจรวย ขันมณี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป และ ประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน Big Motor Sale 2023 พร้อมด้วยสื่อมวลชนกิตติมศักดิ์ เนื่องในพิธีเปิดบูธมาสด้าและเปิดตัวรถครอสโอเวอร์เอสยูวี New Mazda CX-3 ในงาน Big Motor Sale 2023

ซีพี โฟตอน หนุนโปรเจ็คต์เครือข่ายยานยนต์เพื่อศึกษา

ซีพี โฟตอน เดินหน้าหนุนโปรเจ็คต์เครือข่ายยานยนต์เพื่อการพัฒนาการศึกษา ในงาน Big Motor Sale 2023

บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด มอบโอกาสพิเศษเพื่อการสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาศักยภาพเยาวชน ภายใต้ โครงการ “เครือข่ายยานยนต์เพื่อการสนับสนุนการศึกษา” นำร่องปีแรกร่วมกับ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ หรือ “PIM” ออกบูธประชาสัมพันธ์หลักสูตรวิศวกรรมการผลิตยานยนต์ หมวดวิชาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ภายในงาน “Big Motor Sale 2023…มหกรรมเปิดโลกยานยนต์” ขานรับตลาดแรงงานที่เร่งสร้างบุคลากรเสริมทัพรับกระแสลงทุนในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

นายกฤษณะ เศรษฐธรางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด เผยว่า “ในฐานะที่ ซีพี โฟตอน เป็นหนึ่งในธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ เราจึงตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่ายธุรกิจเพื่อดำเนินงานสาธารณะประโยชน์ด้านต่างๆ ต่อเนื่อง เรามี Knowledge, Know-How และทีมบุคลากรที่พร้อมจะถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อเป็นประโยชน์ด้านการศึกษา หรือสร้างโอกาสต่างๆ เช่นล่าสุด ได้ร่วมกับผู้จัดงานแสดงสินค้ายานยนต์ระดับประเทศ อย่าง Big Motor Sale หรือมหกรรมเปิดโลกยานยนต์ จัดทำโครงการความร่วมมือทางการศึกษา กับ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ในการส่งเสริมประสบการณ์นอกห้องเรียนพร้อมสร้างโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสเปิดตัวกับผู้ประกอบการณ์ยานยนต์โดยตรง พร้อมทั้งมีแผนส่งบุคลากรคุณภาพร่วมเป็นวิทยากรพิเศษ ให้ความรู้ในสาขายานยนต์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบัน ซึ่งในระยะยาว ซีพี โฟตอน พร้อมที่จะรับเยาวชนที่ผ่านการอบรมหรือฝึกงานกับแบรนด์ฯ ให้ได้มีอาชีพที่มั่นคงในภูมิลำเนาของตัวเอง เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับภูมิภาคอย่างมั่นคงอีกด้วย”

งาน “Big Motor Sale 2023 มหกรรมเปิดโลกยานยนต์” จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 ณ ฮอลล์ 101–104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

NETA ยกข้อเสนอสุดพิเศษรถไฟฟ้า 100% ร่วมงาน Big Motor Sale 2023

NETA มอบข้อเสนอสุดพิเศษ เมื่อจอง NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car ในงาน Big Motor Sale 2023 และที่โชว์รูม NETA ทั่วประเทศ

NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car จากแบรนด์ NETA ครองตำแหน่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนสูงเป็นอันดับสองของตลาดเมืองไทย พร้อมส่งข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ ดอกเบี้ย 0% บัตรกำนัลมูลค่า 10,000 บาท ฟรีชุดแต่งรอบคันฟรี NETA Wallbox พร้อมค่าติดตั้ง สำหรับผู้ที่จองรถในงาน Big Motor Sale ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 นี้ ที่ไบเทค บางนา และโชว์รูม NETA ทั่วประเทศ

NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนสูงเป็นอันดับสองของตลาดเมืองไทย

มร.เป่า จ้วงเฟย (Mr. Bao Zhuangfei) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่าปัจจุบัน NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car ของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ใช้รถยนต์สันดาปประเภทรถยนต์ประหยัดพลังงาน หรือ อีโคคาร์ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี) มากขึ้น ทำให้มียอดการจำหน่ายเฉลี่ยเดือนละ 1,000 และสามารถครองตำแหน่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนสูงเป็นอันดับสองของตลาดเมืองไทยด้วยยอดจดทะเบียนรวม 7,189 คัน (มกราคม – กรกฎาคม 2566) ในขณะที่ยอดขาย NETA V รวมถึงปัจจุบันมีสูงกว่า 9,000 คัน (ธันวาคม – ปัจจุบัน) แม้สถานการณ์ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของไทยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาจะมีอัตราชะลอตัวเนื่องจากสถาบันการเงินมีความเข้มงวดด้านการปล่อยสินเชื่อรถยนต์มากขึ้น แต่บริษัทฯ เชื่อว่ายอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ของไทยในปี 2566 จะอยู่ที่ราว 50,000 คัน หรือเติบโตขึ้นกว่า 400% จากปีที่ผ่านมา และมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 6% ของยอดขายรถยนต์รวมทั้งหมด โดย NETA ตั้งเป้ายอดขาย NETA V ในปีนี้ไว้ที่ 13,000 คัน หรือ 25% ของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของประเทศ

รับข้อเสนอสุดพิเศษเมื่อจอง NETA V ในงาน BIG MOTOR SALE 2023

มร.เป่า จ้วงเฟย กล่าวเสริมถึงการเข้าร่วมงาน Big Motor Sale ซึ่งถือเป็นปีแรกที่ NETA ได้เข้าร่วมงาน อย่างเป็นทางการว่า บริษัทฯ ได้เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษให้กับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ NETA V ภายใต้ชื่อ Campaign “Make your life more colorful with NETA V” เพื่อเป็นการขอบคุณคนไทยที่ให้ความไว้วางใจในแบรนด์ NETA โดยข้อเสนอดังกล่าวจะครอบคลุมทั้งลูกค้าที่จองในงาน Big Motor Sale ที่ไบเทค บางนา และที่โชว์รูม NETA ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 นี้

•ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี*

•ฟรี! เครื่องชาร์จ NETA WALLBOX พร้อมค่าติดตั้ง จำนวน 1 ชุด*

•ฟรี! รับประกันรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

•ฟรี! รับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

•ฟรี! ค่าแรงและค่าอะไหล่รถยนต์เมื่อเช็คระยะ 1 ปี หรือ 10,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

•อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ระยะเวลา 12 เดือน*

•Gift Voucher Hypermarket มูลค่า 10,000 บาท (เฉพาะสีฟ้า Sky Blue สีเขียว Cyan และสีชมพู Sakura Pink เท่านั้น)*

•AERO KIT จำนวน 1 ชุด มูลค่า 15,000 บาท (เฉพาะสีฟ้า Sky Blue สีเขียว Cyan และสีชมพู Sakura Pink เท่านั้น)*

•และข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย

* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ตลาดรถยนต์เดือนกรกฏาคม 2566 ยังติดลบ 8.8%

ตลาดรถยนต์เริ่มต้นครึ่งปีหลังติดลบ 8.8% ยอดขาย 58,419 คัน ยอดขายรถยนต์นั่งสดใส เติบโตต่อเนื่องที่ 17.3% ยอดขาย 22,511 คัน ขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ยังชะลอตัวต่อเนื่อง ส่วนตลาดรถกระบะ 1 ตัน ชะลอตัวยาวตลาดลดลงมากถึง 26.6%

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฏาคม 2566 ด้วยยอดขาย 58,419 คัน ลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบรับตลาดรถยนต์นั่งเดินหน้าต่อเนื่องด้วยยอดขาย 25,511 คัน เติบโต 17.3% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องด้วยยอดขาย 35,908 คัน ลดลง 19.9% ในส่วนของรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ ชะลอตัวเช่นกันด้วยยอดขาย 24,982  คัน ลดลงถึง 26.6%

สำหรับตลาดรถยนต์เดือนกรกฏาคม 2566 มีปริมาณการขายที่ 58,419 คัน ลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าตลาดรถยนต์นั่งสามารถทำยอดขาย 22,511 คัน เติบโตต่อเนื่องที่ 17.3% โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายในเซกเมนท์รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ 16,308 คัน เติบโต 18.1% แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้ยอดขายรวมในเดือนนี้กลับมาเป็นบวก เนื่องจากตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องที่ 19.9% ด้วยยอดขาย 35,908 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ชะลอตัวถึง 26.6% ด้วยยอดขาย 24,982 คัน จากการชะลอการสินใจซื้ออย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจ และภาคประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของธุรกิจขนส่ง โดยมีปัจจัยลบที่สำคัญอย่างยิ่งคือความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ที่มีความกังวลต่อหนี้เสียอันเป็นผลต่อเนื่องที่เกิดจากสภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่ตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคม มีความหวังที่จะฟื้นตัวขึ้น จากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตวิทยาการบริโภคในการใช้เงินเพื่อจับจ่ายใช้สอย ก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่ง ผลดีต่อตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน โดยมีปัจจัยเสริมที่สำคัญ ได้แก่ แคมเปญการตลาดในช่วงงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2023 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 นอกจากช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ภายในงาน ยังขยายข้อเสนอพิเศษไปยังโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศอีกด้วย และนับเป็นโอกาสดีที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยลบที่สำคัญ ได้แก่ ความผันผวนทางเศรษฐกิจซึ่งส่งผลต่อภาวะหนี้สินครัวเรือน ตลอดจนความเข้มงวดของสถาบันการเงินต่อการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกรกฎาคม 2566

  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย  58,419 คัน ลดลง 8.8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      20,421 คัน       เพิ่มขึ้น  0.7%   ส่วนแบ่งตลาด   35.0%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          11,735 คัน       ลดลง   27.9% ส่วนแบ่งตลาด   20.1%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       7,551 คัน        เพิ่มขึ้น  4.1%  ส่วนแบ่งตลาด   12.9%

  • ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,511 คัน เพิ่มขึ้น 17.3%                                  

อันดับที่ 1 โตโยต้า      8,048 คัน        เพิ่มขึ้น  57.9% ส่วนแบ่งตลาด   35.8%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า       4,922 คัน        เพิ่มขึ้น  6.2% ส่วนแบ่งตลาด   21.9%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      1,086 คัน        ลดลง   39.3% ส่วนแบ่งตลาด  4.8%

  • ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 35,908 คัน ลดลง 19.9%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า      12,373  คัน      ลดลง   18.5% ส่วนแบ่งตลาด 34.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           11,735 คัน       ลดลง   27.9% ส่วนแบ่งตลาด 32.7%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        2,754 คัน        ลดลง   23.7% ส่วนแบ่งตลาด  7.7%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 24,982 คัน ลดลง 26.6%                                

อันดับที่ 1 อีซูซุ          10,228  คัน      ลดลง 31.0%  ส่วนแบ่งตลาด 40.9%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      10,088 คัน      ลดลง   20.3% ส่วนแบ่งตลาด 40.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด         2,754 คัน      ลดลง   23.7% ส่วนแบ่งตลาด  11.0%

    *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,673 คัน

โตโยต้า 1,776 คัน – อีซูซุ 1,677 คัน – ฟอร์ด 934 คัน – มิตซูบิชิ 213 คัน – นิสสัน 73 คัน

  •  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 20,309 คัน ลดลง 31.9%                                

อันดับที่ 1 อีซูซุ          8,551 คัน        ลดลง 35.5%  ส่วนแบ่งตลาด 42.1%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      8,312 คัน       ลดลง   26.7% ส่วนแบ่งตลาด 40.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        1,820 คัน       ลดลง   37.4% ส่วนแบ่งตลาด  9.0%      

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – กรกฏาคม 2566

  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 464,550 คัน ลดลง 5.5%                              

อันดับที่ 1 โตโยต้า       157,280 คัน   ลดลง     3.1% ส่วนแบ่งตลาด 33.9%

อันดับที่ 2 อีซูซุ            98,016 คัน     ลดลง     22.3% ส่วนแบ่งตลาด 21.1%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า        53,685 คัน     เพิ่มขึ้น  13.2% ส่วนแบ่งตลาด 11.6%

  • ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย  170,598 คัน เพิ่มขึ้น 10.0%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า        59,089 คัน    เพิ่มขึ้น  34.3% ส่วนแบ่งตลาด 34.6%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า         35,347 คัน   เพิ่มขึ้น  3.3% ส่วนแบ่งตลาด 20.7%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ        10,664 คัน    ลดลง  17.8% ส่วนแบ่งตลาด 6.3%

  • ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 293,952  คัน ลดลง 12.6%                    

อันดับที่ 1 โตโยต้า       98,191 คัน      ลดลง   17.0% ส่วนแบ่งตลาด   33.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ            98,016 คัน     ลดลง   22.3% ส่วนแบ่งตลาด   33.3%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด         22,871 คัน     เพิ่มขึ้น  23.6% ส่วนแบ่งตลาด  7.8%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 207,934 คัน ลดลง 20.6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ            88,861 คัน     ลดลง   23.6% ส่วนแบ่งตลาด   42.7%

อันดับที่ 2 โตโยต้า       80,632 คัน     ลดลง   20.9% ส่วนแบ่งตลาด   38.8%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด          22,871 คัน    เพิ่มขึ้น  23.6% ส่วนแบ่งตลาด   11.0%

 *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 37,940 คัน

โตโยต้า 13,538 คัน – อีซูซุ 13,630 คัน – ฟอร์ด 7,204 คัน – มิตซูบิชิ 2,806 คัน – นิสสัน 762 คัน

  •  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย  169,994 คัน ลดลง 25.5%

อันดับที่ 1 อีซูซุ         75,231 คัน       ลดลง  28.8%  ส่วนแบ่งตลาด 44.3%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      67,094 คัน       ลดลง  23.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        15,667 คัน      เพิ่มขึ้น  0.7%                    ส่วนแบ่งตลาด  9.2%    

ยามาฮ่า ยกทัพมอเตอร์ไซค์ลุยงาน BIG MOTOR SALE 2023

“ไทยยามาฮ่า” จัดเต็มงาน “บิ๊ก มอเตอร์ เซล 2023” ส่งทัพมอเตอร์ไซค์ ครบทุกเซกเมนต์พร้อมเปิดบิ๊กไบค์ปี 2023 SR400, Tenere700 และ TRACER 9GT+ จัดเต็มฟังก์ชันใหม่ที่มาเปิดให้ยลโฉมกันที่นี่ที่แรก 

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์คุณภาพชั้นนำของประเทศไทย เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมเปิดโลกยานยนต์ Bangkok International Grand Motor Sale 2023 หรืองาน “BIG MOTOR SALE 2023” จัดเต็มครบทุกเซกเมนต์รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ และสแตนดาร์ดไบค์ รถกอล์ฟ และ ยานยนต์ทางน้ำ เวฟรันเนอร์ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค มาพร้อมโปรโมชันสุดพิเศษครบครัน พร้อมโชว์ยนตรกรรมสุดล้ำยานยนต์ไฟฟ้าสู่โลกอนาคต YAMAHA E01 ที่บูธ “YAMAHA REV UP YOUR  RIDE พร้อมแล้วกับความท้าทายใหม่ขั้นสุดให้ทุกการขับขี่ที่เร้าใจในแบบยามาฮ่า” ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

นายธนะชัย เลขวนิชกุล ผู้จัดการทั่วไปธุรกิจรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าบิ๊กไบค์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้ ไทยยามาฮ่า นำรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ครบทุกเซกเมนต์มาร่วมงาน BIG MOTOR SALE 2023 นำทีมโดย SR400 สีใหม่ / Tenere700 ใหม่ ปี 2023 และ TRACER 9GT+ ที่มาพร้อมฟังก์ชันใหม่มาเปิดให้ยลโฉมกันที่นี่ที่แรกในงานบิ๊กมอเตอร์เซล 2023

YAMAHA SR400 ยังคงความคลาสสิก และเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับเครื่องยนต์สูบเดี่ยว ในปีนี้มาพร้อมกับ 2 สีใหม่ ได้แก่สีเทา (Mat Gray Metallic) และสีขาว มุก (Silky White) พร้อมราคาสุดพิเศษที่ 295,000 บาท รับฟรี Gift Voucher 10,000 บาท

YAMAHA Tenere700 ใหม่ปี 2023 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบสี TFT ขนาด 5 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือผ่าน แอปพลิเคชัน My Ride และ ระบบเบรก ABS แบบปรับโหมดได้ด้วย ราคาสุดพิเศษที่ 479,000 บาท รับฟรี Gift Voucher 20,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1

YAMAHA TRACER 9GT+ จัดเต็มฟังก์ชันใหม่มาพร้อมกับระบบช่วยในการขับขี่ เทคโนโลยีล่าสุด พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน แอปพลิเคชัน My Ride และแอปแสดงแผนที่เต็มรูปแบบกับ Garmin Motorize พร้อมเสริมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control) ระบบเบรก Unified Brake ที่เชื่อมโยงกับเรดาร์ (Radar) ระบบกันสะเทือนแบบกึ่งแอกทีฟ (Semi-active suspension) พร้อมโหมดการขับขี่ที่สามารถตอบสนองในทุกการขับขี่ และนี่เป็นแค่เบื้องต้นสำหรับเทคโนโลยีที่มีใน TRACER 9GT+ สำหรับ Tracer 9GT+ นี้ พร้อมกับราคาสุดพิเศษที่ 619,000 บาท รับฟรีทันที Gift Voucher 20,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1”

พร้อมกันนี้ยามาฮ่ายังคงความเร้าใจที่มาพร้อมโปรโมชันสุดพิเศษเมื่อซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์และสแตนดาร์ดไบค์ภายในงานนี้

• YAMAHA WR155R พร้อมรับ Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท

• YAMAHA XSR155 พร้อมรับ Gift Voucher มูลค่า 8,000 บาท

• YAMAHA MT-15 รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 8,000 บาท พร้อมหมวกกันน็อกลิมิเต็ดอิดิชั่น ลายนักแข่ง Sar moon (ซามูล) จำนวนจำกัด

• YAMAHA YZF-R15 รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 8,000 บาท พร้อมหมวกกันน็อกลิมิเต็ดอิดิชั่น ลายนักแข่ง Sar moon (ซามูล) จำนวนจำกัด

• YAMAHA AEROX รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 2,000 บาท พร้อมกระเป๋า Cooling Bagมูลค่า 1,000 บาท

• YAMAHA Fino รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 2,000 บาท พร้อมกระเป๋า Cooling Bag มูลค่า 1,000 บาท

• YAMAHA XMAX Connected รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 2,000 บาท พร้อมกระเป๋า Cooling Bag มูลค่า 1,000 บาท

• YAMAHA NMAX Connected รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 1,000 บาท พร้อมกระเป๋า Cooling Bag มูลค่า 1,000 บาท

• YAMAHA Grand Filano Hybrid Connected รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 1,000 บาท พร้อมกระเป๋า Cooling Bag มูลค่า 1,000 บาท

• YAMAHA FAZZIO Hybrid รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 1,000 บาท พร้อมกระเป๋า Cooling Bag มูลค่า 1,000 บาท

• YAMAHA FINN รับฟรี ตะกร้าหน้ารถ และ หมวกกันน็อกฟินน์ พร้อมบัตร Big C มูลค่า 500 บาท (จำนวนจำกัด)

โปรโมชัน รถจักยานยนต์ยามาฮ่าบิ๊กไบค์

• YZF-R7:    รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 41,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1

• MT-09 SP: รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 35,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1

• MT-09:      รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 56,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1

• MT-07:      รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 40,500 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1

• Tracer9 GT+: รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 20,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1

• Tenere700: รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 20,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1

• XSR900:   รับฟรีGift Voucher มูลค่า 47,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1

• XSR700:   รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 45,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1

• SR400:      รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท

โปรโมชัน รถกอล์ฟยามาฮ่า และ ยานยนต์ทางน้ำ ยามาฮ่าเวฟรันเนอร์ 

• YAMAHA Golf Car YDR Cruise (ยามาฮ่า กอล์ฟ คาร์ วายดีอาร์ ครูซ) รับส่วนลดสูงสุดมูลค่า 5,000 บาท พร้อมฝาครอบล้อ (นำเข้าจากอเมริกา) มูลค่า 3,500 บาท จัดส่งฟรีกรุงเทพฯ และปริมณฑล

• YAMAHA Wave Runner FX Limited SVHO (เวฟรันเนอร์ เอฟเอ็กซ์ลิมิเต็ด เอส วี เอช โอ) แถมฟรี Gift Voucher 10,000 บาทฟรี เทรลเลอร์สำหรับลากจูงมูลค่า 45,900 บาท

โปรโมชันอะไหล่ยามาฮ่า

• ผลิตภัณฑ์ยามาลู้ป ลด 10%

• เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายยามาฮ่า *ลดสูงสุด 50%

ร่วมสัมผัสความเร้าใจของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าพร้อมโปรโมชันสุดพิเศษได้ที่บูธ YAMAHA REV UP YOUR  RIDE ในงาน BIG MOTOR SALE 2023 ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา พิเศษ สมาชิกแอปพลิเคชัน YAMAHA SMART REWARD เพียงซื้อผลิตภัณฑ์ยามาลู้ป อะไหล่ตกแต่ง เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ภายในงาน รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า* และอีกสองช่องทางสุดพิเศษ บนแอปพลิเคชั่นไลน์ “Line Shopping” เพียงค้นหาชื่อร้าน YAMAHA TYM และช่องทาง Yamaha Online Shop ที่เว็บไซต์ www.yamaha-motor.co.th คุณก็สามารถช้อปสินค้ายามาฮ่าโปรโมชันเดียวกันกับงาน BIG MOTOR SALE 2023

*โปรดแจ้งการสะสมคะแนนต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดชำระเงินก่อนการชำระเงิน

เอ็มจี เปิดฉากบุกเวที BIG MOTOR SALE 2023 ชูข้อเสนอพิเศษ

เอ็มจี เปิดฉาก BIG MOTOR SALE 2023 ชูข้อเสนอพิเศษครบทุกขุมพลังขับเคลื่อนพร้อมสร้างสีสันตลาดอีวีด้วย NEW MG4 ELECTRIC สี FRESH PINK

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ร่วมสร้างสีสันในงาน BIG MOTOR SALE 2023 นำยนตรกรรมหลากหลายขุมพลังขับเคลื่อนที่มาพร้อมข้อเสนอพิเศษให้เป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้นด้วยดอกเบี้ยต่ำสุด 0% นานสูงสุด 48 เดือน เอาใจคอเอสยูวีที่ชื่นชอบรถสีแดง Scarlet Red ด้วย NEW MG HS และ NEW MG VS HEV ราคาพิเศษ กับอีกหนึ่งไฮไลท์กับ NEW MG4 ELECTRIC ที่สะกดทุกสายตาโดยการแรพสี FRESH PINK ทั้งคัน และเปิดรับจองเฉพาะในงานฯ นี้ จำนวนจำกัด ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A02 ฮอลล์ EH101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับงาน BIG MOTOR SALE 2023 เอ็มจีจัดเตรียมแคมเปญพิเศษเพื่อมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าครบทุกรุ่น ทั้งกลุ่มรถ “อีวี” ที่มีให้เลือกมากถึง 5 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น NEW MG ZS EV, NEW MG EP PLUS, NEW MG4 ELECTRIC, NEW MG ES และ NEW MG MAXUS 9 ด้วยดอกเบี้ย 1.99% นาน 48 เดือน ฟรี MG Home Charger จำนวน 1 ชุด และค่าติดตั้ง ให้ลูกค้าขับขี่ได้อย่างสบายใจด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 – 200,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับรุ่นที่จอง ฟรีประกันภัยชั้น 1 และ พ.ร.บ. คุ้มครองนาน 1 ปี พิเศษสำหรับรุ่น NEW MG4 ELECTRIC และ NEW MG ZS EV คุ้มครองนานถึง 3 ปี สำหรับรถยนต์กลุ่มเครื่องสันดาปและรถยนต์พลังงานทางเลือกรับดอกเบี้ยต่ำสุด 0% นาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1 และ พ.ร.บ. คุ้มครองนาน 1 ปี พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

เอาใจคนที่ชื่นชอบรถสีแดงกับแคมเปญสี Scarlet Red ราคาพิเศษ ซึ่งมีให้เลือก 2 รุ่น 2 สไตล์ กับ NEW MG HS รุ่น D ราคา 899,000 บาท (จากราคาปกติ 1,089,000 บาท) และ NEW MG VS HEV สปอร์ตไฮบริด SUV รุ่น D ราคา 739,000 บาท (จากราคาปกติ 859,000 บาท) โดยทั้ง 2 รุ่น รับฟรี ประกันภัยชั้น 1 และ พ.ร.บ. คุ้มครอง             นาน 1 ปี รวมทั้งขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร สำหรับรุ่น NEW MG VS HEV รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า เอ็มจี นำรถเก่ามาแลกรุ่นใหม่ หรือ ชวนเพื่อนที่สนใจมาซื้อรถ เอ็มจี รับส่วนลดพิเศษ 20,000 บาท สำหรับ MG ZS รุ่น V และ MG5 ทุกรุ่น

อีกหนึ่งไฮไลท์จากการออกแบบรถไฟฟ้าโดย AI ในช่วงที่ “สีชมพู ฟีเวอร์” นำมาสร้างเป็นคอนเทนต์ NEW MG4 ELECTRIC สีชมพูบนโลกโซเชียล ซึ่งได้รับความสนใจจากแฟนเพจเป็นอย่างมาก จากเรื่องราวในออนไลน์ กลายเป็นไอเดียนำไปสู่รถคันจริงด้วยคอนเซ็ปต์ “FROM AI TO REALITY” โดยการนำเอา NEW MG4 ELECTRIC มาแรพด้วยสติ๊กเกอร์สี FRESH PINK ทั้งคัน พร้อมเปิดรับจองให้เป็นเจ้าของเพียง 8 คัน ในงาน  BIG MOTOR SALE 2023 เท่านั้น เพื่อเป็นของขวัญให้กับแฟนๆ เอ็มจี”

สำหรับ NEW MG4 ELECTRIC สี FRESH PINK สามารถเลือกเป็นเจ้าของได้ทั้งรุ่น D ราคาจำหน่ายที่ 869,000 บาท และ รุ่น X ราคาจำหน่ายที่ 969,000 บาท ซึ่งเป็นราคาปกติ ด้วยคุณสมบัติการเป็นรถไฟฟ้าที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมส่งมอบความสนุกและเร้าใจด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า สามารถวิ่งได้ระยะทางกว่า 425 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้งตามมาตรฐาน NEDC คงความเป็น “อีวีสายพันธุ์แท้” รุ่นแรกที่สร้างสรรค์ขึ้นบน NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM โครงสร้างที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ สะท้อนความเป็นไอคอนนิคด้วยอัตลักษณ์ที่เด่นชัดกับดีไซน์ภายนอกสปอร์ตรอบคัน ดีไซน์ภายในเรียบง่ายแต่มีสไตล์ และเพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยมากถึง 26 ระบบ

พบกับยนตรกรรมครบทุกขุมพลังการขับเคลื่อนของ เอ็มจี พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษในงาน BIG MOTOR SALE 2023 ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A02 ฮอลล์ EH101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 นี้ และที่โชว์รูมและศูนย์บริการคุณภาพของเอ็มจีกว่า 150 แห่ง ทั่วประเทศ

หมายเหตุ : ทุกข้อเสนอเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด

ฟอร์ด นำขบวนรถฟอร์ดรุ่นยอดนิยมบุก BIG Motor Sale 2023

ฟอร์ด ประเทศไทย ชวนลูกค้าผู้สนใจมาสัมผัสและทดลองขับรถยนต์ฟอร์ด ทั้งฟอร์ด เรนเจอร์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ และฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ พร้อมข้อเสนอสุดเร้าใจสำหรับรถยนต์ทุกรุ่นในงาน BIG Motor Sale 2023 มหกรรมเปิดโลกยานยนต์ ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม-3 กันยายน 2566 ณ ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ

“ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังคงได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้บริโภคชาวไทย ด้วยสมรรถนะอันเหนือชั้นและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยในปีนี้ฟอร์ดได้เพิ่มตัวเลือกรุ่นย่อยที่โดดเด่นด้วยอีกขั้นของนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นสตอร์มแทรค ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น XLS ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ตัวเลือกเครื่องยนต์ ดีเซล 2.0L และฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นไวลด์แทรค ยิ่งไปกว่านั้น ฟอร์ดยังคงมุ่งเน้นการยกระดับบริการแบบ ‘พร้อมเสมอ’ นำนวัตกรรมด้านบริการ อาทิ แอปพลิเคชันฟอร์ดพาส มาอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเชื่อมต่อกับรถ รวมถึงการเข้าถึงบริการต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายยิ่งขึ้น สำหรับข้อเสนอสุดพิเศษที่ฟอร์ดนำมามอบให้กับทุกท่านในงาน BIG Motor Sale ครั้งนี้ จะเป็นโอกาสอันดีให้ลูกค้าตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของรถฟอร์ดที่ท่านชื่นชอบ” นายอรรถกร จารุศิลาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว

ภายในงานลูกค้าจะได้พบกับรถยนต์ฟอร์ดที่ได้รับความนิยมสูง นำโดย ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นสตอร์มแทรค รุ่นย่อยใหม่ล่าสุดของเรนเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุดท้าทายไปอีกขั้น ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถกระบะ อย่างราวหลังคาและสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ (Flexible Rack System) เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับรูปแบบสปอร์ตบาร์ได้มากถึง 5 ตำแหน่งด้วยมือเดียว ทั้งยังรองรับการติดตั้งหรือขนย้ายอุปกรณ์เพื่อการผจญภัยและการทำงานได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น พร้อมรองรับน้ำหนักสูงสุดถึง 80 กก. ขณะขับและ 250 กก. ขณะจอด

ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นสปอร์ต อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมของฟอร์ด เรนเจอร์ ที่มาพร้อมสมรรถนะอันเหนือระดับและความอเนกประสงค์เพื่อการทำงาน อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น พร้อมแผงหน้าปัดดิจิทัลที่ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยการแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับรถอย่างเต็มรูปแบบตามความต้องการของผู้ใช้งาน ตอบโจทย์ทั้งการเป็นรถสำหรับครอบครัวและการท่องเที่ยวในวันพักผ่อน

ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น XLS รถกระบะยกสูงเกียร์อัตโนมัติราคาคุ้มค่าที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบอเนกประสงค์สำหรับกลุ่มลูกค้าเจ้าของธุรกิจขนาดย่อม มาพร้อมความแข็งแกร่งของตัวถังและช่วงล่าง ผสานเทคโนโลยีทันสมัย และระบบความปลอดภัยครบครัน โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดุดัน สมรรถนะที่ทรงพลังและเปี่ยมประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มคุณสมบัติด้วยอุปกรณ์ต่างๆ อัดแน่นเต็มคัน อาทิ บันไดเหยียบข้างกระบะท้ายที่ออกแบบมาให้ขึ้นสู่ตัวรถได้ง่ายโดยไม่ต้องปีนล้อรถเพื่อหยิบของในกระบะท้าย กล้องมองหลังขณะถอยจอด ช่วยให้ผู้ขับขี่ถอยจอดแบบเข้าซองได้อย่างปลอดภัย ด้วยการแสดงภาพด้านหลังรถผ่านหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.1 นิ้ว

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นเทรนด์ ที่เหมาะสำหรับลูกค้าที่มองหารถยนต์นั่งอเนกประสงค์ในราคาสุดคุ้ม ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูง และโหมดทางลื่น ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและออฟโรด โดดเด่นด้วยแผงหน้าปัดรถยนต์แบบดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว และจอสีระบบสัมผัส 10.1 นิ้วที่ลูกค้าสามารถใช้งานระบบ SYNC®4A ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay® และ Android Auto™ โดยในงาน BIG Motor Sale 2023 ฟอร์ดได้นำชุดแต่งแท้ฟอร์ด Special Exterior Package มาเสริมรูปลักษณ์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นเทรนด์ ให้ดูสปอร์ตดุดันยิ่งขึ้น ได้แก่ ชุดคิ้วโป่งล้อ ชุดกันสาดกระจกประตู กระจังหน้าสีดำ ตัวอักษร EVEREST สำหรับกระโปรงหน้า ชุดแต่งสติ๊กเกอร์ด้านข้างและด้านหลัง ครอบไฟหน้าและไฟท้ายสีดำ และครอบกระโปรงหน้าสีดำ

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นไทเทเนียมพลัส 4×4 รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ประสบการณ์การผจญภัยขั้นสุดด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter 10 สปีด เสริมด้วยระบบ Terrain Management System ที่มอบตัวเลือกการขับขี่ 6 โหมด คือ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูง โหมดทางลื่น โหมดโคลน และโหมดทราย พร้อมระบบดิฟล็อคหลังแบบไฟฟ้าเพิ่มความสามารถในการบุกตะลุยในทุกสภาพพื้นผิวได้ดียิ่งขึ้น ไฟหน้า Matrix LED พร้อมระบบปรับมุุมลำแสงไฟอัตโนมัติ และระบบป้องกันไฟรบกวนสายตา

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ สุดยอดกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงอันทรงพลัง อัดแน่นด้วยดีเอ็นเอฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ ให้ลูกค้าคอออฟโรดตัวจริงมีอิสระในการได้สัมผัสสุดยอดประสบการการขับขี่แบบ #ดุดันไม่เกรงใจใคร โดดเด่นด้วยสมรรถนะและฟีเจอร์อัดแน่น มาพร้อมสุดยอดของระบบกันสะเทือนของโช้คอัพ FOXTM ตอกย้ำความเป็นผู้นำในเซ็กเมนต์รถกระบะ

ข้อเสนอสุดเร้าใจภายในงาน BIG Motor Sale 2023 

•ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งและโปรแกรม Ford Care* สำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นสตอร์มแทรค, ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นสปอร์ต, ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นไทเทเนียมพลัส 4×4 และฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่

•ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น XLS รุ่น 4 ประตู ราคาเริ่มต้นเพียง 879,000 บาท ดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งและโปรแกรม Ford Care*

•ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นเทรนด์ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งและโปรแกรม Ford Care* พิเศษ! จองรถในงาน BIG Motor Sale 2023 และออกรถ รับฟรีชุดแต่งแท้ฟอร์ด Special Exterior Package ประกอบด้วย ชุดคิ้วโป่งล้อ ชุดกันสาดกระจกประตู กระจังหน้าสีดำ ตัวอักษร EVEREST สำหรับกระโปรงหน้า ชุดแต่งสติ๊กเกอร์ด้านข้างและด้านหลัง ครอบไฟหน้าและไฟท้ายสีดำ และครอบกระโปรงหน้าสีดำ มูลค่ารวม 20,780 บาท ไม่รวมค่าแรงติดตั้ง

นอกจากนี้ ฟอร์ดยังมีข้อเสนอสำหรับรถยนต์ฟอร์ดรุ่นอื่นๆ ทุกรุ่น ทั้งในงานและที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ พิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ฟอร์ดภายในงาน BIG Motor Sale 2023 และออกรถภายในวันที่ 30 กันยายน 2566 รับบัตรน้ำมันมูลค่า 1,000 บาท เมื่อขอสินเชื่อผ่านฟอร์ดลีสซิ่งโดยธนาคารทหารไทยธนชาตเท่านั้น ลูกค้าที่สนใจสามารถมาสัมผัสและทดลองขับรถยนต์ฟอร์ดได้ในงาน BIG Motor Sale 2023 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมของรถยนต์ฟอร์ดและเงื่นไขข้อเสนอพิเศษได้ที่เว็บไซต์ www.ford.co.th

หมายเหตุ : โปรแกรม Ford Care รับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่จากโรงงาน 5 ปี/150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ช.ม. นาน 5 ปี ดูข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ford.co.th

“ซูซูกิ” ยกทัพหลวงรถคุณภาพทุกรุ่นร่วมงาน Big MOTOR SALE 2023

“ซูซูกิ” เติมเต็มสีสัน Big MOTOR SALE 2023 ชูแนวคิด “Drive Your Life in Colors” ยกทัพรถยนต์คุณภาพร่วมงาน พร้อมแคมเปญพิเศษสุด BIG ผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,555 บาท หรือเลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน เฉพาะในงานนี้เท่านั้น

นายมิโนรุ อามาโนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า งาน “มหกรรมเปิดโลกยานยนต์ (Big MOTOR SALE 2023) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นับเป็นงานจัดแสดงรถยนต์สำคัญอีกหนึ่งงานที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นตลาดรถยนต์ในช่วงกลางปี ด้วยแนวทางการจัดงานเพื่อส่งเสริมการขายรถยนต์อย่างชัดเจน

การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ มาพร้อมแนวคิด “Drive Your Life in Colors” ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากจินตนาการที่เปรียบท้องถนนเสมือนผ้าใบที่ว่างเปล่าโดยถนนสายนี้จะถูกแต่งแต้มด้วยความหลากหลายของรถยนต์ Suzuki ที่มีความแตกต่างทั้งเรื่องของสีสัน ดีไซน์ และรูปแบบการใช้งานที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคของประเทศไทยมาเป็นเวลาอย่างยาวนาน ทำให้ถนนสายนี้กลับมามีชีวิตชีวา เพิ่มความสนุกและความน่าสนใจในการขับขี่รถยนต์คู่ใจมากขึ้นในทุกๆ วัน

“ผลิตภัณฑ์ของซูซูกิทุกรุ่นมีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความสดใหม่ สามารถนำไปตกแต่งตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังมอบความคุ้มค่า คุ้มราคา โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราความประหยัดเชื้อเพลิง ตอบรับกับความต้องการในการใช้งานของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมอีกด้วย”

ทั้งนี้ สถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2566 ที่ผ่านมา มีตัวเลขยอดขายตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม อยู่ที่ 464,550 คัน ซึ่งเมื่อนำไปเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้ามีตัวเลขลดลงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการชะลอการตัดสินใจของผู้บริโภค ไปจนถึงเรื่องของความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งคาดการณ์ว่าภาพรวมครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลให้ตัวเลขยอดขายรวมตลอดทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ประมาณ 850,000 คัน

สำหรับซูซูกิมีตัวเลขยอดขายรวมเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 อยู่ที่ 8,006 คัน เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์ต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจในภาพรวมและธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์กลับเข้าสู่ทิศทางที่ดีตามปกติ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น จะมีส่วนผลักดันให้ยอดขายรถยนต์ของซูซูกิเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้

อย่างไรก็ตาม ภายในงานครั้งนี้ยังคงเป็นการนำรถยนต์รุ่นยอดนิยมมาตกแต่งในสไตล์ที่แตกต่าง เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้บริโภคที่สนใจ พร้อมด้วยการเตรียมกิจกรรมส่งเสริมสุดพิเศษการขายไว้รองรับทุกท่านตลอดระยะเวลาการจัดงาน

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไฮไลท์สำคัญภายในงาน Big MOTOR SALE 2023 ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับกองทัพรถยนต์คุณภาพจากซูซูกิ นำโดย SUZUKI SWIFT สปอร์ตอีโคคาร์ยอดนิยมของคนไทย สร้างยอดขายเป็นอันดับหนึ่งของซูซูกิมาอย่างต่อเนื่อง

SUZUKI SWIFT นอกจากดีไซน์อันโดดเด่น ด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อช่วยเสริมให้รถมีน้ำหนักน้อยลง แต่คงความแข็งแกร่งและประหยัดน้ำมันมากขึ้น เครื่องยนต์รหัส K12M ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่ DUALJET ช่วยลดมลพิษและประหยัดน้ำมัน ในราคาเริ่มต้นเพียง 567,000 บาท เลือกรับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,444 บาท หรือ เลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน

SUZUKI CIAZ ฉีกกฎแห่งความคุ้มค่า สบายกว่าอย่างมีสไตล์ในแบบอีโคซีดานสู่ประสบการณ์ขับขี่ที่ครบทุกความสมบูรณ์แบบ ชูความสปอร์ตด้วยชุดแต่งโครเมียมรอบคัน ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายคุ้มค่าอย่างลงตัว ราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 528,000 บาท เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,444 บาท หรือเลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 0%

SUZUKI CELERIO รถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คคุณภาพเกินตัว และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีมาโดยตลอด มีสมรรถนะการขับที่ดีเกินความคาดหมาย ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นเจ้าของได้ง่ายด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 338,000 บาท พร้อมรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 2,555 บาท หรือเลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน

SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ โดยนับจากนี้ SUZUKI CARRY จะไม่ได้ถูกจดจำในฐานะ “Food Truck” ธุรกิจติดล้อเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะกลายเป็น Goods Truck ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถนำไปตกแต่งต่อยอด ปรับใช้เพื่อไลฟ์สไตล์หรือธุรกิจส่วนตัว กลายเป็นรถขนส่งความสุขเคียงข้างทุกเส้นทางฝัน เป็นเสมือนดั่งพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ที่พร้อมจะสนับสนุนและร่วมขับเคลื่อนอยู่เคียงข้างด้วยความจริงใจ พร้อมเดินหน้าไปสู่จุดหมายและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ราคาจำหน่ายเพียง 395,000 บาท เลือกรับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 1.89%

SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID -The Power of Smart เต็มที่ทุกฟังก์ชัน เต็มพลังสมาร์ทไฮบริด” รถอเนกประสงค์ MPV ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ SMART HYBRID ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ SHVS จากซูซูกิ ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator หรือ ISG พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ION  ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร เสริมประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนให้รถออกตัวได้อย่างนุ่มนวล โดยมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 134 กรัม/กิโลเมตร การบำรุงรักษาง่ายไม่แตกต่างจากรถเครื่องยนต์เบนซิน ใช้งานได้อย่างไร้กังวล รับประกันอายุแบตเตอรี่นาน 5 ปี ราคาพิเศษจำหน่ายเริ่มต้น 699,000 บาท พร้อมรับข้อเสนอขับฟรี 90 วัน ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,999 บาท หรือเลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน

SUZUKI XL7 รถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง รถยนต์สำหรับครอบครัว ที่มีมิติรถขนาดใหญ่ที่มีความยาว 4,450 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,775 มิลลิเมตร ความสูง 1,710 มิลลิเมตร และความสูงใต้ท้องรถ 200 มิลลิเมตร มอบวิสัยทัศน์และสมรรถนะในการขับขี่ ทุกฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน ในราคาที่คุ้มค่า 814,000 บาท เลือกรับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 5,888 บาท หรือเลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน

สำหรับโซนการจัดแสดงรถตกแต่งพิเศษ ยังคงคับคั่งไปด้วยไอเดียการตกแต่งที่หลากหลาย นำเสนอแนวทางสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถที่ไม่เหมือนใคร ในครั้งนี้ซูซูกิภูมิใจเสนอ การนำ SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์มาตกแต่ง ภายใต้แนวคิด Laundry Carry เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจซัก อบ รีด และยังมุ่งหวังที่จะจุดประกายให้เกิด การขยายเส้นทางธุรกิจให้เติบโต ไปจนถึงผู้ที่กำลังสนใจอยากสร้างอาชีพในยุคใหม่ เนื่องจากปัจจุบัน ธุรกิจรับซักรีด กำลังมีทิศทางการเติบโตที่ดีและมีการขยายตัวเป็นอย่างมาก เพราะสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ ต้องการลดภาระในครัวเรือนลง จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมา  SUZUKI CARRY มีบทบาทสำคัญในการต่อยอดให้กับเจ้าของธุรกิจ ด้วยการเลือกใช้งานรถยนต์ SUZUKI CARRY ในการให้บริการรับส่งเสื้อผ้าซักรีดถึงมือลูกค้า ช่วยยกระดับงานบริการของผู้ประกอบการให้เข้าถึงผู้บริโภคให้จนได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น

ด้วยความอเนกประสงค์ของ SUZUKI CARRY สามารถปรับแต่งตัวรถได้หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกธุรกิจ เมื่อนำผสมผสานเข้ากับแนวคิดทางธุรกิจด้วยการนำมาตกแต่งดัดแปลงให้กลายเป็น Laundry Carry ในครั้งนี้ เราจึงมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งเสริมธุรกิจของผู้ประกอบการ หรือ ช่วยเพิ่มแนวทางในการสร้างธุรกิจให้แก่คนไทยได้เป็นอย่างดี

SUZUKI CARRY พร้อมสนับสนุนทุกเส้นทางความฝันของผู้ประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในทุกเส้นทาง ซึ่งสอดรับกับแนวคิด “CARRY YOUR DREAM เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” ที่พร้อมร่วมเดินทางไปด้วยกันในฐานะพาร์ทเนอร์คนสำคัญที่อยู่เคียงข้างผู้ประกอบธุรกิจเสมอมา นายวัลลภ ยังกล่าวอีกว่า ซูซูกิเตรียมมอบแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงาน โดยรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธรถยนต์ซูซูกิ ภายในงาน Big MOTOR SALE 2023 ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – วันที่ 3 กันยายน 2566  ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา หรือที่โชว์รถยนต์ Suzuki ทั่วประเทศ

ฮอนด้า ชูไฮไลต์ “ซิตี้ ใหม่” และ “ซีอาร์-วี ใหม่”

ฮอนด้า ชูไฮไลต์ “ซิตี้ ใหม่” และ “ซีอาร์-วี ใหม่” ครบทั้งขุมพลังขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทอร์โบในงาน Big Motor Sale 2023 พร้อมข้อเสนอพิเศษ และชวนลูกค้าร่วมทดลองขับในงาน

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมจัดแสดงยนตรกรรมฮอนด้าหลากหลายรุ่น ทั้งขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV เครื่องยนต์เทอร์โบและเบนซิน ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ในงานมหกรรมเปิดโลกยานยนต์ Big Motor Sale 2023 นำโดย ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ซิตี้คาร์ยอดนิยมที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ทรงพลัง อัตราเร่งแรงเร้าใจ และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม เสริมทัพด้วย ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก มาพร้อมสีใหม่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) (Premium Sunlight White Pearl) ซิตี้คาร์สปอร์ตแฮทช์แบ็ก 5 ประตูยอดนิยม จำนวนจำกัด ซึ่งได้นำมาจัดแสดงสุดเอกซ์คลูซีฟในงานนี้ รวมถึง ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ที่สุดแห่งยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวี ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้า โดยภายในงาน เปิดให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ทดลองขับทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ และฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ นอกจากนี้ ฮอนด้ายังมาพร้อมข้อเสนอพิเศษแตกต่างกันในแต่ละรุ่น* อาทิ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0% หรือ ฟรีประกันภัย 1 ปี หรือ ฮอนด้าช่วยผ่อน ซึ่งลูกค้ายังสามารถรับข้อเสนอพิเศษเดียวกันได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ พบกันที่ Big Motor Sale 2023 บูทฮอนด้า (A12) ฮอลล์ 101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2566 – 3 กันยายน 2566

สำหรับยนตรกรรมไฮไลต์ที่จัดแสดงภายในงาน Big Motor Sale 2023 ได้แก่

•ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ที่สุดของยนตรกรรมซิตี้คาร์ ขับสนุก แรงเร้าใจ ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ยกระดับความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยดีไซน์ใหม่รอบคัน โฉบเฉี่ยวในทุกมุมมอง พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ด้วย 2 ขุมพลังทางเลือกที่ตอบโจทย์การขับขี่และลงตัวทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งขับสนุก แรงเร้าใจ และให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม กับขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงาน

อันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบแรงบิดมอเตอร์สูงสุดที่ 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที และอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม 27.8 กิโลเมตร/ลิตร โดยสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่อย่างชาญฉลาดโดยอัตโนมัติตามลักษณะการขับขี่อย่างเหมาะสม ประกอบด้วย 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) และขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ให้อัตราเร่งและประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E20 มั่นใจในทุกการขับขี่กับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ติดตั้งในทุกรุ่นย่อย โดยทุกรุ่นมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ* ดอกเบี้ย 2.09% ฟรีประกันภัย 1 ปี สำหรับรุ่น e:HEV รับเพิ่มประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 – 30 กันยายน 2566

•ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ซิตี้คาร์สปอร์ตแฮทช์แบ็ก 5 ประตูยอดนิยม

จัดแสดงสีใหม่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) (Premium Sunlight White Pearl) จำนวนจำกัด เฉพาะรุ่น RS และ SV นำเสนอสีสันใหม่ให้ลูกค้าได้มูฟอย่างมีสไตล์ ด้วยดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นสไตล์สปอร์ต และเสริมความสปอร์ตแบบเอกซ์คลูซีฟรอบคันในรุ่น RS ภายในกว้างขวาง ผสานเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์กับเบาะนั่ง อัลตราซีท (ULTR Seat) ที่สามารถปรับพับเพื่อเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลายรูปแบบการใช้งาน ขับสนุกอัตราเร่งเร้าใจไปกับขุมพลัง VTEC TURBO 1.0 ลิตร ที่มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ครบครันด้วยฟังก์ชันเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ* ดอกเบี้ย 1.85% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับเพิ่มฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษ ด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 และรับรถภายในวันที่ 30 กันยายน 2566

ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก สีใหม่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) (Premium Sunlight White Pearl) มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่

-รุ่น RS             ราคา 759,000 บาท

-รุ่น SV             ราคา 685,000 บาท

โดยราคาจำหน่ายรวมค่าสีภายนอก สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) 10,000 บาท

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ได้ที่ https://www.honda.co.th/cityhatchback

•ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวี แข็งแกร่งทุกมิติ ทรงพลังอย่างเหนือระดับดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ ห้องโดยสารกว้างขวางรองรับการใช้งานหลากหลายกับเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง มั่นใจทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อย พร้อมตอบโจทย์ทุกการขับขี่กับ 2 ขุมพลังการขับเคลื่อนที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมัน ที่มีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS) ได้แก่

-ขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 2,000 รอบต่อนาที โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน 3 โหมด มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร

(รุ่น e:HEV ES) ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) พร้อมด้วยสวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์ได้อย่างง่ายดาย ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และโหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)

-ขุมพลังเทอร์โบ ขับสนุก อัตราเร่งเร้าใจสไตล์สปอร์ต กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร (รุ่น E) มีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS)

มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ* ดอกเบี้ย 2.29% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร สำหรับรุ่น e:HEV รับเพิ่มประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 – 30 กันยายน 2566

นอกจากนี้ ภายในงาน Big Motor Sale 2023 ฮอนด้าได้เปิดให้ผู้ที่สนใจร่วมสัมผัสประสบการณ์การทดลองขับกับยนตรกรรมทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ และฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ หรือลูกค้าสามารถทดลองขับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ โดยลูกค้าที่ลงทะเบียนและร่วมกิจกรรมทดลองขับผ่าน www.honda.co.th/testdrive ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2566 จะได้รับฟรี ขวดน้ำพับได้ มูลค่า 250 บาท*

ลูกค้าที่สนใจสามารถเยี่ยมชมบูทฮอนด้า A12 ฮอลล์ 101 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

ในงานมหกรรมเปิดโลกยานยนต์ หรือ Big Motor Sale 2023 ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2566 – 3 กันยายน 2566 โดยมาพร้อมข้อเสนอพิเศษเดียวกันทั้งในงานและที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ* เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 – 30 กันยายน 2566 สามารถสอบถามข้อมูลจากที่ปรึกษาการขายได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชตกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษ

สำหรับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นที่ร่วมรายการและทำสัญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงินที่ร่วมรายการเมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 – 30 กันยายน 2566*

•ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ รับข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี พร้อมดอกเบี้ย 2.09%

•ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ รับข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี พร้อมดอกเบี้ย 2.09% รวมทั้งรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง

•ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% หรือเลือกรับข้อเสนอ ดอกเบี้ย 2.09% พร้อมฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 1,500 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 18,000 บาท หรือรับข้อเสนอดอกเบี้ย 1.85% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี โดยทุกข้อเสนอรับเพิ่มฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

•ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% หรือเลือกรับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.09% พร้อมฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 1,500 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 18,000 บาท โดยทุกข้อเสนอมาพร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และฟรีค่าแรงในการเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) รวมทั้งรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง

•ฮอนด้า ซีวิค รับข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ย 1.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

•ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี รับข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ย 1.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี รวมทั้งรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง

•ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ รับข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี ดอกเบี้ย 2.29% และฟรี Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท

•ฮอนด้า บีอาร์-วี รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี หรือเลือกรับข้อเสนอ ดอกเบี้ย 1.99% พร้อมฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 5,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 60,000 บาท

•ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี รับข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ย 1.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี รวมทั้งรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง

•ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ รับข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี ดอกเบี้ย 2.29% พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

•ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ รุ่น e:HEV รับข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี ดอกเบี้ย 2.29% พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมทั้งรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง

•ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่น EL รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี รวมทั้งฟรีค่าแรงในการเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร พิเศษเฉพาะสีภายนอกสีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) ภายในสีดำ รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท

•ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV TECH รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0% ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) รวมทั้งรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง พิเศษเฉพาะสีภายนอกสีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) ภายในสีดำ รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท

หมายเหตุ :-

* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save