- Advertisement -
32.4 C
Bangkok
Home Blog Page 81

ไทยยามาฮ่า ปลูกป่าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

“ไทยยามาฮ่า” และกลุ่มบริษัทในเครือยามาฮ่า ร่วมปลูกป่าลดสภาวะโลกร้อน สานแนวทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด นำโดย มร.ทัตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง และผู้บริหารกลุ่มบริษัทในเครือยามาฮ่ามอเตอร์จำกัด ร่วมกันปลูกต้นไม้จำนวน 160,000 ต้น ภายใต้กิจกรรม “ยามาฮ่า ปลูกป่ามุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” สร้างผืนป่าบนพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมกว่า  800 ไร่ ณ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวสร้างอากาศบริสุทธิและลดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์รายแรกของประเทศไทยที่เข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ โดยมีเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ.2593 (ค.ศ.2050)

โดย ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ มีความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญในการลดภาวะโลกร้อน รวมถึงลดภาระทางสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดตามนโยบาย SDGs 17 ขององค์การสหประชาชาติ ทั้งยังมีแผนที่จะขยายการสร้างพื้นที่ป่าให้ครบ 1,500 ไร่ ด้วยการส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชนในพื้นที่ และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนอย่างแท้จริง

สำหรับกิจกรรม “ยามาฮ่า ปลูกป่ามุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” มีขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยได้รับความร่วมมือจาก จังหวัดกำแพงเพชร ทั้งภาครัฐ และภาคประชาสังคม กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

MGC-ASIA MOBILITY CARNIVAL ครบทุกไลฟ์สไตล์

MGC-ASIA รับกระแสเศรษฐกิจสดใส ต้อนรับรัฐบาลใหม่ จัดงาน ‘MGC-ASIA MOBILITY CARNIVAL’ ยกทัพยนตรกรรมตอบไลฟ์สไตล์กทั้งทางบก-ทางน้ำ-ทางอากาศ พร้อมแคมเปญดีที่สุดแห่งปี จัดแสดงที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์

บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA ผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตแบบครบวงจร ตอบรับเศรษฐกิจไทยสดใส กระตุ้นกำลังซื้ออุตสาหกรรมยานยนต์ จัดงาน ‘MGC-ASIA MOBILITY CARNIVAL’ พร้อมรังสรรค์หลากหลายแคมเปญพิเศษ ให้กับลูกค้าและผู้ที่สนใจยนตรกรรมระดับโลกในเครือ MGC-ASIA อาทิ โรลส์-รอยซ์, บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, มอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด, รถยนต์ ฮอนด้า, เรือยอชท์ อะซิมุท, เรือ คริส-คราฟท์ และ วิสต้า เจ็ท รวมถึงแบรนด์พันธมิตร แอสตัน มาร์ติน, มาเซราติ, เปอโยต์ และ จี๊ป โดยกิจกรรมดังกล่าว จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-17 กันยายนนี้ ณ ควอเทียร์ อเวนิว ชั้น G ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ

นายสัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ครั้งนี้เรามีความยินดีในความร่วมมือกับ เดอะมอลล์ กรุ๊ป และ ดิ เอ็มดิสทริค ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับทาง MGC-ASIA มาอย่างยาวนาน และนับเป็นครั้งแรกกับการจัดกิจกรรม ‘MGC-ASIA MOBILITY CARNIVAL’ ซึ่งมาในธีม Mobility Carnival โดยเน้นการจัดแสดงไลฟ์สไตล์โมบิตี้ ที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง พร้อมสร้างความสนุกสนานผ่านกิจกรรมต่างๆ ลุ้นรับของรางวัลกับวงล้อแห่งความสุข (Wheel of Happiness) ผสานแคมเปญดีที่สุดแห่งปี สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หวังว่าทุกท่านจะได้รับความสนุกสนานจากหลากหลายกิจกรรมที่เรานำเสนอ”

ด้านนางศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ ดิ เอ็มดิสทริค กล่าวว่า “MGC-ASIA กับ เดอะมอลล์ กรุ๊ป และ ดิ เอ็มดิสทริค มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกันในการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคม และรู้สึกยินดีกับความสำเร็จของ MGC-ASIA ที่เกิดจากวิสัยทัศน์ ความอุตสาหะ เรียนรู้ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และไม่หยุดพัฒนาของผู้นำองค์กร ทำให้วันนี้ MGC-ASIA เป็นอาณาจักรธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ครบวงจร และขอบคุณที่มอบความไว้วางใจให้ ดิ เอ็มควอเทียร์ เป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรม ‘MGC-ASIA MOBILITY CARNIVAL’ ที่กำลังจะเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่างานนี้ จะได้เสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างแน่นอน”

ลุ้นสนุกกับ Wheel of Happiness มากกว่า 300 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

งานนี้จัดเต็มความสนุกให้ลูกค้าที่จองรถภายในงาน กับกิจกรรม ‘Wheel of Happiness’ เพื่อลุ้นรับรางวัลกว่า 300 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท อาทิ บัตรโดยสารสายการบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-มัลดีฟ มูลค่ากว่า 110,000 บาท, Voucher เช่ารถ เปอโยต์ ฟรี! จาก SIXT Thailand และอื่นๆ

ครั้งแรก กับการนำเรือ คริส-คราฟท์ รุ่น ‘LAUNCH 25 GT Standard Edition’ มาจัดแสดงบริเวณ ควอเทียร์ อเวนิว ชั้น G มาพร้อม ‘Boat Ownership Program’ แบบครบวงจร ทั้งก่อนและหลังการขาย กับหลากหลายบริการพิเศษ อาทิ สินเชื่อสำหรับเรือ ด้วยโปรแกรมเช่าซื้อสุดพิเศษ โดย ‘อัลฟา เอกซ์’ ประกันภัยเรือ โดย ‘ฮาวเด้น แมกซี่’ รวมถึงการบำรุงรักษา ภายใต้โปรแกรม ‘Boat Inclusive Program’ พิเศษเมื่อจองเรือ คริส-คราฟท์ ภายในงาน รับฟรี! ค่าสมาชิก ริเวอร์เดล มารีน่า ในปีแรก อีกทั้งมีเรือยอชท์ อะซิมุท ‘THE NEW S7’ เรือทรงสปอร์ตสุดหรูหรา หนึ่งในตระกูล S Collection ตอบโจทย์ลักชัวรี่ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ

โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก นำเสนอความสมบูรณ์แบบของสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา กับรุ่น Ghost ตัวถังสีน้ำเงิน Iguazu Blue ครั้งแรกกับฝากระโปรงหน้าสี Rhodium ที่มีความมันวาวพิเศษ เครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ วี12 สูบ 6.75 ลิตร 563 แรงม้า (HP) แรงบิด 850 นิวตันเมตร พิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ภายในงาน และรับรถภายในเดือนตุลาคม 2566 รับฟรี! บัตรโดยสารสายการบินไทยชั้นธุรกิจ ไป-กลับประเทศในทวีปยุโรป จำนวน 2 ที่นั่ง*

บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จำกัด ยกทัพยนตรกรรมล้ำสมัยจาก BMW, MINI และ BMW Motorrad อาทิ BMW 530e M Sport, BMW iX xDrive40 Sport, BMW iX3 M Sport (Inspiring), BMW i7 xDrive 60 M Sport, มินิ พลังงานไฟฟ้า MINI Cooper SE ตกแต่งลวดลายพิเศษ และ MINI Countryman พร้อมสัมผัสความเร้าใจของมอเตอร์ไซค์ BMW Motorrad S1000 RR และความคล่องตัวของรุ่น C400 GT ทั้งหมดมาพร้อมดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 5 ปี* และฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง นานสูงสุด 4 ปี*

สุดคุ้มกับ BMW iX3 M Sport (Inspiring) ราคา 2,999,000 บาท พร้อมรับส่วนลดเงินสด 150,000 บาท, ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง (จัดไฟแนนซ์กับ BMW) และฟรี! Voucher M District: EM QUATIER-EMPORIUM-EMSPHERE มูลค่า 50,000 บาท พิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ BMW ในงาน รับทันที Fine Dining Cash Voucher มูลค่า 5,000 บาท ที่ The Standard, Bangkok Mahanakhon* จอง MINI ในงาน รับทันที บัตรน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท* จอง BMW MOTORRAD ในงาน รับทันที บัตรน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท* และสิทธิในการร่วมทริป ‘BMW MOTORRAD WINTER START 2023’ 3 วัน 2 คืน จังหวัดเชียงใหม่*

ซัมมิท ฮอนด้า ออโตโมบิล ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ ฮอนด้า อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จัดแสดงยนตรกรรมไฮไลท์ ‘All-new Honda CR-V 1.5 Turbo’ พิเศษ! จองภายในงานและรับรถภายในเดือนตุลาคม รับกระเป๋าเดินทาง Samsonite ขนาด 29 นิ้ว มูลค่า 16,900 บาท* พร้อมสนุกไปกับเกมทดสอบความรู้เรืองรถยนต์ All-new Honda CR-V และแฟนพันธุ์แท้ ซัมมิท ฮอนด้า

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมี 4 แบรนด์พันธมิตร เข้าร่วมในงาน นำโดย แอสตัน มาร์ติน แบงคอก เชิญมาสัมผัส ‘แอสตัน มาร์ติน แวนเทจ โรดสเตอร์’ พร้อมแคมเปญพิเศษ เมื่อจองรุ่น แวนเทจ หรือ ดีบีเอ็กซ์ และรับรถภายในปีนี้ รับสิทธิ์บินลัดฟ้าไปชมการแข่ง ฟอร์มูลาวัน ฤดูกาล 2024 ที่สนามซิลเวอร์สโตน (Silverstone)*, ร่วมกิจกรรม ‘Aston Martin Track Experience’ ณ Millbrook Proving Ground* และเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ แอสตัน มาร์ติน ถึงประเทศอังกฤษ*

มาเซราติ ประเทศไทย จัดแสดง ‘เกรคาเล่ โทรเฟโอ’ (Grecale Trofeo) ยนตรกรรมสปอร์ตสัญชาติอิตาเลียน ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Italian Audacity’ ที่แสดงถึงการออกแบบสุดท้าทายตามสไตล์ มาเซราติ มาพร้อมขุมพลัง 530 แรงม้า ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซูเปอร์คาร์ ‘MC20’ ที่ผสมผสานเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ฟอร์มูลาวัน

เปอโยต์ ไลอ้อน ออโตโมบิล จัดแสดง เปอโยต์ 5008 7 ที่นั่ง ตอบโจทย์การใช้งานแบบครอบครัว และเอาใจสายฮิปสเตอร์กับ เปอโยต์ 2008 Art Car พร้อมโอกาสดีๆ ที่จะได้เป็นเจ้าของ ‘Peugeot La France Edition’ ที่มาพร้อมกับโลโก้ La France Edition สุดเอ็กซ์คลูซีฟ รุ่นพิเศษ ราคาพิเศษ จำนวนจำกัด พร้อมรับ LUCKY DEAL รับส่วนลดเพิ่มสูงสูดถึง 100,000 บาท และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

จี๊ป ไลอ้อน ออโตโมบิล นำรุ่นพิเศษ ‘Wrangler Rubicon Monster+’ Edition กับสีใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟแห่งปี 2023 ‘Earl Grey’ คันแรกในประเทศไทย และ ‘Gladiator Rubicon’ รถอเนกประสงค์ที่มีศักยภาพการลากจูงมากถึง 2,721 กิโลกรัม จี๊ป ทุกรุ่น มาพร้อม

การรับประกันคุณภาพจากโรงงานผู้ผลิต นาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร* โปรแกรมบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 55,000 กิโลเมตร* และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินแบบพรีเมียม นาน 3 ปี* พร้อมแคมเปญพิเศษ ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง และรับสิทธิ์จับ Lucky Deal รับส่วนลดสูงสุด 15% สำหรับอุปกรณ์ตกแต่งแท้ Mopar* เมื่อจองรถภายในงานฯ

บริษัท เอ็มจีซี เอวิเอชั่น แอนด์ ชาร์เตอร์ เซอร์วิสเซส (เอเชีย) จำกัด ผู้แทนบริการเช่าเหมาลำของสายการบิน VistaJet จัดโปรโมชั่นบัตรโดยสาร ทั้งในและต่างประเทศ นำเสนอโปรโมชั่นบัตรโดยสารราคาพิเศษทุกเส้นทางทั่วโลกของการบินไทย แพ็คเกจทัวร์เอื้องหลวง รวมถึง บัตรโดยสารสายการบินชั้นนำอื่นๆ เช่น ออลนิปปอน แอร์เวย์ ในราคาพิเศษ พร้อมรับสิทธิพิเศษอีกมาก เมื่อซื้อบัตรโดยสารในงาน อาทิ ผ่อน 0% เมื่อชำระด้วยบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพฯ ที่เข้าร่วมรายการ*, SIXT Thailand มอบส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 50% เมื่อเช่ารถขับเองภายในประเทศ และส่วนลดพิเศษสำหรับการเช่ารถในต่างประเทศ* และรับส่วนลด 100 บาท ในการชำระค่าบัตรโดยสาร เมื่อเพิ่มเพื่อนใน Line Official account MGC-Aviation https://lin.ee/iqyyeSY

MGC-ASIA Mobility Carnival รวบรวมยานยนต์และโมบิลิตี้ชั้นนำในเครือฯ พร้อมแบรนด์พันธมิตร มาให้ลูกค้าได้จับจอง พร้อมข้อเสนอพิเศษแห่งปี โอกาสดีๆ แบบนี้ต้องรีบบอกต่อ งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-17 กันยายน 2566 นี้ ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-931-8899

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

โตโยต้า เผยโฉม All-New LEXUS LM ยนตรกรรมแห่งความหรูหรา

โตโยต้า พบนิยามใหม่แห่งความหรูหรา กับประสบการณ์สุดพิเศษที่ไม่มีใครเทียบเคียง เปิดตัว “The All-New LEXUS LM…Own a World Apart” ยนตรกรรมระดับหรูสุดพรีเมียมเพื่อลูกค้าคนพิเศษ

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเปิดตัวยนตรกรรม Luxury Mini Van ระดับหรู “The All-New LEXUS LM” เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน พร้อมจัดงาน VIP Preview สุด Exclusive สำหรับแฟนพันธุ์แท้เลกซัส นักธุรกิจ Celebrity และ Influencer ชั้นนำ เข้าร่วมงานคับคั่ง

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเปิดตัวเลกซัสรุ่นใหม่ต่อสื่อมวลชนว่า “The All-New LEXUS LM เป็นยนตรกรรมไฟฟ้า “LEXUS Electrified” รุ่นล่าสุด ภายใต้ “LEXUS Chapter of Design Concept” หลังจากความสำเร็จของรุ่น All-New NX, RX และรถ BEV เต็มรูปแบบ รุ่น RZ โดยเลกซัสได้เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2536 และปีนี้เป็นวาระครบรอบ 30 ปีของเลกซัส ขอขอบคุณลูกค้าในประเทศไทยทุกท่าน สำหรับความไว้วางใจ และการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง”

มร.ยามาชิตะ กล่าวต่อไปว่า “วิสัยทัศน์ของเลกซัสคือ การทำให้ความหรูหราเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เรามุ่งสร้างประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์ โดยเปลี่ยนฟังก์ชันให้เป็นความชื่นชอบ เปลี่ยนสมรรถนะให้เป็นความหลงใหล และเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เหนือกว่าจินตนาการ โดยคุณค่าหลักอันสำคัญยิ่งอีกประการหนึ่งของเลกซัส นั่นคือ “Omotenashi” สื่อถึงจิตวิญญาณการบริการที่เหนือความคาดหมาย ซึ่งฝังรากลึกในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น การปรนนิบัติลูกค้าให้ผ่อนคลายดั่งการได้พักผ่อนอยู่ในบ้านของตน การเข้าใจความต้องการ และมอบบริการยอดเยี่ยมเหนือความคาดหมาย”

“All-New LEXUS LM จะมาสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของเลกซัสในประเทศไทย รถรุ่นนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และเป็นรถรุ่นหลักที่มียอดขายลำดับต้นๆ ในกลุ่มรถ Minivan ระดับหรู โดย LM ย่อมาจาก “Luxury Mover” สื่อถึงความตั้งใจในการพัฒนารถรุ่นนี้เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าที่ต้องการใช้รถ MPV แบบมีคนขับ วันนี้เรามีความยินดีที่จะแนะนำ “All-New LEXUS LM” ด้วยการออกแบบของเลกซัสเจเนอเรชันใหม่ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ นำเสนอทั้งความคล่องแคล่ว ความหรูหรา และความสง่างาม พร้อมที่จะพาทุกท่านไปสู่อีกขั้นของ “Omotenashi” สร้างสภาพแวดล้อมอันผ่อนคลาย ราวกับว่าอยู่ภายในห้องสวีทของโรงแรมสุดหรู หรือห้องทำงานเคลื่อนที่ ยิ่งไปกว่านั้น เอกลักษณ์การขับขี่เฉพาะแบบเลกซัส ยังได้ถูกผสานเข้ากับ The All-New LM นี้ ผ่านพลวัตขับเคลื่อนอันทรงพลังดั่งใจผู้ขับขี่ ความรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัย และความพิถีพิถัน ที่ถ่ายทอดไปยังผู้โดยสารตอนหลัง ขอเชิญท่านร่วมสัมผัส All-New LM ที่จะมอบสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการผ่อนคลายทั้งร่างกาย และจิตใจ และพื้นที่สำหรับแรงบันดาลใจเชิงบวก ทั้งด้านความคิด และการกระทำให้กับทุกท่าน และขอให้เพลิดเพลินไปกับ “Omotenashi” ที่เราตั้งใจมอบให้กับทุกท่านในวันนี้” มร.ยามาชิตะ กล่าวเปิดตัวเลกซัส LM ใหม่ อย่างเป็นทางการด้วยความภาคภูมิใจ

ด้านนายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นับจากการเปิดตัว Lexus LM ในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2563 ถือได้ว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ของยนตรกรรม Luxury Minivan ไปอีกขั้น ทำให้ Lexus LM กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราอย่างแท้จริง โดยได้รับเสียงตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย ด้วยรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาส สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ต้องการห้องโดยสารที่มีความสะดวกสบาย พร้อมความประณีต และพิถีพิถันในการผลิตสูงสุด ตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำในประเทศไทย”

“แนวทางการออกแบบ Lexus LM ใหม่ ได้ถูกหล่อหลอม และสะท้อนวิสัยทัศน์ของเลกซัส ภายใต้แนวคิด “Making Luxury Personal” หรือ “การทำให้ความหรูหราเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล” เราได้ยกระดับของความหรูหราขึ้นไปอีกขั้น เพื่อให้มั่นใจว่าทุกวินาทีที่อยู่ภายในห้องโดยสารของ LM จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบ ในวันนี้ผมขอแนะนำ The All-new Lexus LM ใหม่ ผ่านการนำเสนอถึงความสง่างามทั้ง 7 ด้าน ทำให้ Lexus LM ใหม่ แตกต่าง และโดดเด่นอย่างแท้จริง” นายศุภกร กล่าวถึงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์

The All-New Lexus LM : The 7 Magnificence

1.“Sophisticated Exterior” การออกแบบภายนอกใหม่ทั้งหมด

สง่างาม และทันสมัย ด้วยแนวทางการออกแบบภายนอก “Dignified Elegancy” เริ่มจากกระจังหน้ารูปแบบ “Lexus’s Resolute Look” ที่นำมาออกแบบให้เป็น “Unified Spindle” พร้อมไฟหน้าที่เฉียบคม ทันสมัย โปรไฟล์ด้านข้างตัวรถที่ยาวขึ้น สะท้อนการออกแบบที่เน้นความสบายของห้องโดยสารตอนหลังเป็นอันดับแรก และโดดเด่นด้วยไฟท้าย L-Signature Light Bar ขนาดใหญ่ เสริมรูปลักษณ์ที่ทรงพลัง

2. “Grand Interior” ห้องโดยสารภายในที่หรูหรา

หรูหรา และประณีต ด้วยการออกแบบที่ยกเอาห้องนั่งเล่น และห้องทำงานมาไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกสงบ และสะดวกสบายสูงสุด ทั้งในรุ่น 4 และ 7 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังออกแบบโดยให้ความสำคัญกับทุกๆ ตำแหน่งของเบาะนั่งรวมถึงตำแหน่งผู้ขับตามหลักแนวคิด TAZUNA ให้ตำแหน่งของผู้ขับขี่อยู่บริเวณกึ่งกลาง วางทุกอย่างให้โอบล้อม ผู้ขับ สามารถเอื้อมใช้งานได้สะดวกไม่ต้องละสายตาจากถนน

3. “First Class Cabin Lounge” ห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาส

ภายในห้องโดยสารตอนหลังออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษ ด้วยแรงบันดาลใจจากที่นั่งเครื่องบินโดยสารชั้น First class พร้อมผนังกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว กระจกปรับความเข้มแสงอัจฉริยะ หน้าจอขนาดใหญ่ 48 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงชั้นเลิศ “Mark Levinson Reference 3D Surround Sound System” ช่องเก็บของ ช่องแช่เครื่องดื่ม จุดชาร์จไฟ รองรับทุกความต้องการ เบาะนั่งที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล พร้อมระบบควบคุมความร้อน / เย็นของเบาะนั่ง ปรับเอนนอนได้ในองศาที่มากขึ้นกว่าเดิม โอบล้อมสรีระ ให้การซัพพอร์ตได้อย่างเหมาะสม ลดแรงสั่นสะเทือนที่มาจากภายนอกรถ พร้อม “Relaxation Function” ระบบนวดที่ทำให้ทุกการเดินทางผ่อนคลาย สะดวกสบายสูงสุด

4. “Personalized Customization” ฟังก์ชันปรับแต่งเฉพาะบุคคล

ความหรูหราที่ตอบสนองทุกรสนิยมส่วนบุคคล พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย อาทิ Personalized Screen สามารถแยกการนำเสนอเนื้อหาแต่ละบุคคล พร้อมระบบเครื่องเสียงแบบ “2-Zone Audio System” ซึ่งจะแยกระบบเสียงด้านหน้าคนขับ และด้านหลัง ทำให้สามารถรับฟังคอนเทนท์ที่แตกต่างกันได้โดยไม่มีเสียงรบกวนซึ่งกันและกัน การควบคุมฟังก์ชันเฉพาะบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Moon roof หน้าจอ ระบบปรับอากาศแบบแยกโซน สามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสจาก “Overhead Control” และ “Removable Touchscreen Rear Controller”

5. “Comfort and Confidence” สุนทรียภาพ และความมั่นใจในการเดินทาง

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรระบบไฮบริดใหม่ 250 แรงม้า ผสานกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนสีล้อแบบ E FOUR ทำให้ได้พละกำลังที่ดีขึ้น เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ พร้อมความประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม โครงสร้างตัวถังพัฒนาขึ้นภายใต้สถาปัตยกรรมโครงสร้าง GA-K ที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ให้การตอบสนองที่เฉียบคม และการควบคุมที่ดีเยี่ยม พร้อมโหมดการขับขี่ใหม่ “Rear Comfort Mode” ที่ให้ความสบายนุ่มนวลอย่างแตกต่าง ด้วยระบบช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ครั้งแรกของโลก “Frequency-sensitivity Piston Valve” ทำงานคู่กับระบบ “Adaptive Variable Suspension” (AVS) และระบบควบคุมการทรงตัวขณะเบรก “Braking Posture Control” ช่วยป้องกันทั้งการโยนตัวขณะเบรก และป้องกันการโคลงตัวในขณะเข้าโค้ง ลดอาการเวียนศรีษะ ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังเดินทางได้อย่างสะดวกสบายสูงสุด

6. “World-Class Safety” ความปลอดภัยขั้นสูง

สัมผัสความปลอดภัยระดับโลกกับระบบ “Lexus Safety System Plus” พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครันในทุกเกรด นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบตรวจจับระยะด้วยเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร และกล้องที่กว้างขึ้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเสริมความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร และผู้ร่วมทาง

7. “Ultimate Omotenashi” ประสบการณ์ “Omotenashi”

สัมผัสจิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่นตามปรัชญา “Omotenashi” ด้วยระบบ “Lexus Climate Concierge” ที่จะตรวจจับอุณหภูมิของผู้โดยสารแต่ละท่านเพื่อปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารโซนนั้นๆ ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีโหมดปรับบรรยากาศห้องโดยสารด้านหลัง โดยปรับระบบไฟในห้องโดยสารรวมถึงฟังก์ชันบังแสงจากภายนอกตามอารมณ์ของผู้โดยสารได้ถึง 5 โหมด คือ Dream, Relax, Focus, Energize และ My Original

ทั้งหมดนี้ ทำให้ The All-new Lexus LM ใหม่ เป็นรถ Flagship จากเลกซัส ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นที่มาของ Tagline เลกซัส LM ใหม่ “Own A World Apart” ที่รังสรรค์ประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษที่ไม่มีใครเทียบเคียง

เลือกเป็นเจ้าของยนตรกรรม Luxury Mini Van All-New LEXUS LM ใหม่ ได้ 2 รูปแบบทั้งรุ่น 4ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง พร้อมสีภายนอก และสีภายในที่เป็นเอกลักษณ์

สีภายนอก :  4 สี

• สีดำ Graphite Glass Flake                                • สีขาว Sonic Quartz

• สีแดง Sonic Agate                                          • สีเงิน Sonic Titanium

สีภายใน :  2 สี

• สีขาว Solis White with Copper                            • สีดำ Black with Dark Grey Accents

วัสดุตกแต่งลายไม้ :

• ลายไม้ตกแต่งบริเวณแผงประตูลาย “Yabane” และลายไม้ตกแต่งบริเวณพวงมาลัยลาย “Bengala”

ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

Lexus LM 350h Executive 4-Seater                 ราคา    7,590,000 บาท

Lexus LM 350h Executive 7-Seater                 ราคา    6,290,000 บาท

สัมผัส The All-New Lexus LM ในงาน “Lexus Electrified Fest” ที่สยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 2-4 กันยายน ศกนี้ และทดลองขับได้ที่ผู้แทนจำหน่าย เลกซัส อย่างเป็นทางการทั้ง 3 แห่ง ระหว่างวันที่ 7-10 กันยายน 2566 พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษมากมายภายในงาน

ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับผู้ครอบครอง เลกซัส LM ใหม่ทุกคันผ่านผู้แทนจำหน่ายเลกซัส อย่างเป็นทางการ รับประกันคุณภาพ 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง อุ่นใจ มั่นใจกับศูนย์บริการเลกซัส และ Lexus Service Corner พร้อมบริการ Home Visit Mobility Service ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ

Toyota Gazoo Racing Motorsport 2023 สนาม 3 บุรีรัมย์ สนุกเร้าใจ

Toyota Gazoo Racing Motorsport 2023 สนาม 3 บุรีรัมย์ สุดฮอต! “มีย่า พิชชา ทองเจือ” ขึ้นโพเดียมครั้งแรก “YARIS ATIV Lady One Make Race” “ปังปอนด์ อัครวุฒิ มังคลสุต” คว้าโพเดียมที่ 3 YARIS One Make Race : Division 1

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าใน จ.บุรีรัมย์ ร่วมเปิดการแข่งขันเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเปิดการแข่งขันว่า “ยินดีต้อนรับสู่ โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต 2023 เก็บคะแนนสะสมสนามที่ 3 ณ สนามแข่งมาตรฐาน FIA แห่งนี้ ภายใต้แนวคิด “From Circuit to the Road” จากสนามแข่งสู่ท้องถนน เพราะเราเชื่อว่า “ถนนสร้างคน และคนสร้างรถ” เราจึงใช้สนามแข่งมอเตอร์สปอร์ต เป็นเสมือนสนามทดสอบในการพัฒนาคน และพัฒนารถ เพื่อตอบสนองปรัชญา “Make Ever Better Cars” นั่นคือการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งขึ้น โดยการแข่งขันรายการ “โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต” เป็นการแข่งขันระดับ One Make Race  ที่ได้รับความสนใจจากนักแข่งมากที่สุด ด้วยรถแข่งเข้าร่วมการแข่งขันมากที่สุดถึง 65 คัน นี่คือบันไดสำคัญในการสร้างนักแข่งหน้าใหม่เข้าสู่วงการ มีนักแข่งชื่อดังแจ้งเกิดจากการแข่งขันรายการนี้มากมาย และยังเป็นการพิสูจน์ของรถแข่งระดับ Production Car จากฝีมือคนไทย พัฒนาเป็นรถแข่งโดยช่างไทย ดูแล Service โดยช่างไทยตลอดการแข่งขัน นี่คือการพัฒนาทั้งองค์รวม เพื่อส่งเสริมวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทยอย่างแท้จริง”

ผลการแข่งขัน โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต 2023 สนามที่ 3 บุรีรัมย์

รายการแรก พิสูจน์สมรรถนะ ความคล่องตัว และความทนทานของ YARIS Hatchback พร้อมนำเสนอพลังงานทางเลือกใหม่ในกีฬามอเตอร์สปอร์ต โดย “ซิดนีย์ ศริทธนา มิตรอารี” นักแข่งจาก Toyota Gazoo Racing Academy Thailand ลงแข่งด้วย Toyota Yaris One Make Race Carbon Neutral Fuel แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ “ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์” หมายเลข 68 จากทีม “TMC-Drive68 by wootbangbon3” ในขณะที่อันดับ 2 เป็นของ “ไอตั้น อัษฎาธร” หมายเลข 51 จากทีม “Lin Motorsport“ อันดับที่ 3 ดาราหนุ่มฟอร์มดีจาก Toyota Racing Star Team “ปังปอนด์ อัครวุฒิ มังคลสุต” หมายเลข 10  อันดับที่ 4 เป็นของ “ธนากร เลี่ยวไพรัตน์” หมายเลข 22 จากทีม “HC by Sittipol”  และ อันดับที่ 5 “บุญโชค ถิรธารากร”  หมายเลข 15 จากทีม “Nexzet HGR Racing Team by PMC52”

ผลการแข่งขัน YARIS One Make Race : Division 1 (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีมคะแนนสะสม
168ภูรีพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์TMC-Drive68 by wootbangbon330
251ไอตั้น อัษฎาธรLin Motorsport28
310อัครวุฒิ มังคลสุตToyota Racing Star Team12
422ธนากร เลี่ยวไพรัตน์HC by Sittipol20
515บุญโชค ถิรธารากรNexzet HGR Racing Team by PMC528

ในขณะที่ “YARIS One make Race : Division 2” แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ “พรรณภัทร พรรณทรัพย์” หมายเลข 34 อันดับ 2 เป็นของ “ฐิติณัฎฐ์ ภุมรินทร์” หมายเลข 27 และอันดับที่ 3 “ภูวภณ ทวีไกรกุล” หมายเลข 45 จากทีม “Nexzter HYB Motul by TTR” อันดับที่ 4 “ปวิธชาติ รัตตกาลกูล” หมายเลข 91 จากทีม “FORESTA NEXZTER BY PTS Racing” และ อันดับที่ 5 “Alex Grocott”  หมายเลข 57 จากทีม “Bendix SRT Racing Team”

ผลการแข่งขัน YARIS One Make Race : Division 2 (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีม
134พรรณภัทร พรรณทรัพย์
236ฐิติณัฎฐ์ ภุมรินทร์
345ภูวภณ ทวีไกรกุลNexzter HYB Motul by TTR
491ปวิธชาติ รัตตกาลกูลFORESTA NEXZTER BY PTS Racing
557Alex GrocottBendix SRT Racing Team

ต่อเนื่องกับรายการแข่งขันของนักแข่งสาวสวย “YARIS ATIV Lady One Make Race” พิสูจน์สมรรถนะ ความทนทาน ของรถ ECO Car ยอดนิยม Yaris ATIV แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ “ศิริภากรณ์ แยบยนต์”  หมายเลข 168 จากทีม “TMC-Drive68 by wootbangbon3” ตามมาด้วยอันดับที่ 2 “สาวิตรี กวางแก้ว” หมายเลข 138  จากทีม “Compact Brakes Superclub Racing Team” อันดับที่ 3 “ปิยะวดี พฤฒิสาร” หมายเลข 135 จากทีม “Smile Nexzter Ruk Service Racing Team” อันดับที่ 4 “ปัณฑ์นลิน ทวยเดช” หมายเลข 128 จากทีม “Kaizo-R Motorsports Team Nexzter by Ruk Service” และ อันดับที่ 5 เป็นของดาราสาวรุ่นใหม่ไฟแรง จาก Toyota Racing Star Team “มีย่า พิชชา ทองเจือ” หมายเลข 198

ผลการแข่งขัน “YARIS ATIV Lady One Make Race” (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีมคะแนนสะสม
1168ศิริภากรณ์ แยบยนต์TMC-Drive68 by wootbangbon334
2138สาวิตรี กวางแก้วCompact Brakes Superclub Racing Team34
3135ปิยะวดี พฤฒิสารSmile Nexzter Ruk Service Racing Team42
4128ปัณฑ์นลิน ทวยเดชKaizo-R Motorsports Team Nexzter by Ruk Service42
5198พิชชา มีย่า ทองเจือToyota Racing Star Team10

ตามมาด้วยรุ่นไฮไลท์ “COROLLA ALTIS GR Sport One Make Race” รายการแข่งขันสุดเร้าใจกับสุดยอดสมรรถนะของ Corolla ALTIS GR Sport ที่ผ่านการแข่งขันระดับโลกโดย ‘‘Toyota Gazoo Racing Team Thailand’’ คว้าแชมป์ 4 สมัย จากรายการแข่งขัน มาราธอน 24 ชั่วโมง ที่สนามแข่งนูร์เบิร์กริง เยอรมนี แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ “อะกิ จิตรานุวัฒน์” หมายเลข 9 จากทีม “YK Motorsport”  ตามมาด้วย “นรรัศมิ์ อภิวาท” หมายเลข 25 จากทีม “Compact Brakes Superclub Racing Team” ในอันดับที่ 2 และ อันดับที่ 3 ได้แก่ “ทยาพล คงสุวรรณ” หมายเลข 45 อันดับที่ 4 เป็นของ “สิตาวีร์ ลิ้มนันทรักษ์ หมายเลข 89 จากทีม “Nexzter Rest Club Singha Sittipol” และ อันดับที่ 5 เป็นของ “Kentaro Chiba” หมายเลข 3 จากทีม  “ORC Racing”

ผลการแข่งขัน “COROLLA ALTIS GR Sport One Make Race” (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีมคะแนนสะสม
19อะกิ จิตรานุวัฒน์YK Motorsport44
225นรรัศมิ์ อภิวาทCompact Brakes Superclub Racing Team45
345ทยาพล คงสุวรรณ34
489สิตาวีร์ ลิ้มนันทรักษ์Nexzter Rest Club Singha Sittipol18
53Kentaro ChibaORC Racing32

ปิดท้ายการแข่งขันสนามที่ 3 ด้วยรายการ “HILUX REVO One Make Race” แข่งขันกระบะโชว์สมรรถนะเหนือชั้น ของเครื่องยนต์ GD Super Power 2,400 ซีซี ที่ทนทาน ทั้งในสนามแข่งขัน และการใช้งานจริง ผลการแข่งขันปรากฏว่า แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ “เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์” หมายเลข 98 จากทีม “Kaizo-R Motorsports Team Nexzter by Ruk Service” อันดับ 2 ได้แก่ “Junichi Kimura” หมายเลข 11 อันดับ 3 ได้แก่ “นิรุทธ์ สุจริต” หมายเลข 19 อันดับ 4 ได้แก่ “พงศธร โอนอ่อน” หมายเลข 49 และอันดับ 5  ได้แก่ “Theophile Napat Broianigo” หมายเลข 29

ผลการแข่งขัน “HILUX REVO One Make Race” (แข่งขัน 8 รอบ)

อันดับหมายเลขนักแข่งทีมคะแนนสะสม
198เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์Kaizo-R Motorsports Team Nexzter by Ruk Service35
211Junichi Kimura23
319นิรุทธ์ สุจริต22
449พงศธร โอนอ่อน10
529Theophile Napat Broianigo16

แฟนมอเตอร์สปอร์ตภาคเหนือ เตรียมสัมผัสจิตวิญญาณมอเตอร์สปอร์ตกับ TOYOTA GAZOO RACING MOTORSPORT สนามที่ 4 ระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน 25667 นี้ ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี

ติดตามข้อมูลข่าวสาร รายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook / YouTube : Toyota Gazoo Racing Motorsport Thailand / Instagram : TGRthailand / TikTok : TGR.Thailand

มิตซูบิชิ เปิดตัวแคมเปญ “เช็ก มั่นใจ…เปลี่ยน ปลอดภัย!”

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ “เช็ก มั่นใจ…เปลี่ยน ปลอดภัย!” ห่วงใยลูกค้าตลอดอายุการใช้งาน ชวนเจ้าของรถยนต์มิตซูบิชิ 4 รุ่นปี ทั้งมือหนึ่ง มือสอง เปลี่ยนชิ้นส่วนในถุงลมนิรภัย ฟรี! พร้อมรับคูปองเงินสด ถึง 15 พฤศจิกายน 2566

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวแคมเปญ “เช็ก มั่นใจ…เปลี่ยน ปลอดภัย!” เชิญชวนเจ้าของรถยนต์มิตซูบิชิ 4 รุ่นปี ทั้งมือหนึ่งและมือสอง ให้นำรถเข้าศูนย์บริการของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อรับบริการตรวจสอบหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนในถุงลมนิรภัย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เสริมความปลอดภัยตลอดอายุการใช้รถ พร้อมรับฟรี! “คูปองเงินสดมูลค่า 200 บาท” ของขวัญสมนาคุณพิเศษจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เมื่อนำรถยนต์ 4 รุ่นปีดังกล่าวมาเข้ารับบริการในระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม – 15 พฤศจิกายน 2566 นี้

รถยนต์มิตซูบิชิ 4 รุ่นปี ที่ได้รับสิทธิในแคมเปญ “เช็ก มั่นใจ…เปลี่ยน ปลอดภัย!” สามารถรับบริการตรวจสอบหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนในถุงลมนิรภัย ฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตลอดอายุการใช้งาน ได้แก่

– มิตซูบิชิ ปาเจโร (รถยนต์นำเข้า) รุ่นปี 2551 – 2552 (Model Year 2008 – 2009)

– มิตซูบิชิ เดลิกา สเปซวากอน (รถยนต์นำเข้า) รุ่นปี 2558 (Model Year 2015)

– มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปี 2548 – 2557 (Model Year 2005 – 2014) 

– มิตซูบิชิ แลนเซอร์ (2.0L) รุ่นปี 2549 (Model Year 2006)

เจ้าของรถมิตซูบิชิทั้ง 4 รุ่นปีดังกล่าว ทั้งรถยนต์มือหนึ่งและมือสอง สามารถติดต่อนัดหมายล่วงหน้า เพื่อนำรถเข้ามาตรวจสอบหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนในถุงลมนิรภัย ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยติดต่อมิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดบริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และหากนำรถมิตซูบิชิทั้ง 4 รุ่นปี ตามที่ระบุในแคมเปญ “เช็ก มั่นใจ…เปลี่ยน ปลอดภัย!” มาเข้ารับบริการตรวจสอบหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนในถุงลมนิรภัย ในระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม – 15 พฤศจิกายน 2566 จะได้รับคูปองเงินสดมูลค่า 200 บาท สำหรับจับจ่ายที่ห้างโลตัส เป็นของขวัญพิเศษจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เพิ่มเติมอีกด้วย

ด้วยปณิธานที่มุ่งสร้างความพึงพอใจด้านการขายและบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้าและเสริมความปลอดภัยด้วยมาตรฐานสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จึงให้ความสำคัญต่อการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกับรถยนต์รุ่นเก่าที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ทางบริษัทฯ สนับสนุนให้ลูกค้าผู้เป็นเจ้าของรถ ตระหนักถึงความสำคัญในการนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนในถุงลมนิรภัยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อความปลอดภัยสูงสุดตราบอายุการใช้งาน

ลูกค้าผู้เป็นเจ้าของรถมิตซูบิชิ 4 รุ่นปี ตามที่ระบุในแคมเปญ “เช็ก มั่นใจ…เปลี่ยน ปลอดภัย!” สามารถตรวจสอบว่ารถยนต์ของท่านจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนในถุงลมนิรภัยหรือไม่ โดยกรอกหมายเลขตัวถัง (VIN) ผ่านคิวอาร์โค้ด หรือที่เว็บไซต์ https://vinsearch.mitsubishi-motors.co.th หากรถยนต์ของท่านได้รับคำแนะนำให้ตรวจสอบหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนในถุงลมนิรภัย ท่านสามารถนัดหมายล่วงหน้า ได้ที่ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ไทยฮอนด้า เปิดตัว New Honda Giorno+ ครั้งแรกในโลก

ไทยฮอนด้า เปิดตัว “New Honda Giorno+” รถโมเดิร์นคลาสสิกรุ่นใหม่ ครั้งแรกของโลก ชูคอนเซ็ปต์ The New High ทุกสไตล์ไปได้ไกลกว่าพร้อมเปิดตัว 3 พรีเซนเตอร์ระดับท็อป ณเดชน์-วิโอเลต-เจฟ ซาเตอร์

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด New Honda Giorno+ (นิว ฮอนด้า จีออโน่ พลัส) รถออโตเมติกแนวโมเดิร์นคลาสสิก ในสไตล์ High Fashion ที่มาพร้อมคอนเซปต์ “The New High ทุกสไตล์ไปได้ไกลกว่า” ผสานดีไซน์ที่โดดเด่นมีสไตล์เข้ากับเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่ล้ำสมัยได้อย่างลงตัว พร้อมกับถ่ายทอดภาพลักษณ์ของรถผ่าน 3 พรีเซนเตอร์ใหม่ นำโดย “ณเดชน์ คูกิมิยะ” นักแสดงและนายแบบชื่อดัง “วี-วิโอเลต วอเทียร์” ศิลปินมากความสามารถที่มีสไตล์ไม่เหมือนใครและ “เจฟ-วรกมล ซาเตอร์” ศิลปินที่มีความโดดเด่นและเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่น

มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในครั้งนี้ว่า “ความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมาย และการมุ่งพัฒนารถจักรยานยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยทำให้ฮอนด้าได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากคนรุ่นใหม่และครองความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในกลุ่มรถออโตเมติกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ความต้องการของตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เราจึงต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างผู้นำเพื่อเติมเต็มความต้องการเหล่านั้นให้ได้ ด้วยความมุ่งมั่นดังกล่าว เราได้พัฒนา New Honda Giorno+ รถรุ่นใหม่ที่ผสานความทันสมัยเข้ากับความคลาสสิกอย่างลงตัว ทุกรายละเอียดได้รับการออกแบบให้แสดงถึงความมีสไตล์ ด้วยรูปทรงและเส้นสายที่สวยงาม ไปจนถึงสีสันที่โดดเด่นเข้ากับดีไซน์ของรถ กลายเป็นความลงตัวที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีคลาส ไม่เพียงเท่านั้น รถรุ่นนี้ยังถูกสร้างเพื่อส่งมอบประสบการณ์ในการขับขี่ที่เหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย นี่คือรถที่จะถ่ายทอดอีกนิยามของความเป็นแฟชั่น เสมือนงานศิลปะบนรถจักรยานยนต์อย่างแท้จริง”

New Honda Giorno+ มาพร้อมคอนเซปต์ “The New High ทุกสไตล์ไปได้ไกลกว่า” รถออโตเมติกสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกที่โดดเด่นเกินใคร จากการออกแบบให้สะท้อนความเป็น High Fashion ผสานความงามไร้กาลเวลา และความล้ำสมัยของเทคโนโลยีเพื่อไลฟ์สไตล์การขับขี่ยุคใหม่ สะดุดตาด้วยชุดไฟ LED ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย ลงตัวเข้ากับเส้นสายที่ให้ความคลาสสิกรอบคัน

New Honda Giorno+ มาพร้อมกับสมรรถนะในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว ขนาด 125 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้การขับขี่ที่สนุก ให้อัตราเร่งดี บิดติดมือ ตอบสนองการใช้งานในเมืองได้เป็นอย่างดี ปลอดภัยด้วยดิสก์เบรกหน้า และระบบเบรก ABS (เฉพาะรุ่น ABS) และระบบกระจายแรงเบรกหน้า-หลัง Combi Brake System เพิ่มประสบการณ์ขับขี่ในรูปแบบใหม่ที่ High ขึ้นทุกระดับ

New Honda Giorno+ มาพร้อมความสะดวกสบายในการใช้งาน ด้วยกุญแจรีโมตอัจฉริยะ Honda Smart Key เช่นเดียวกับ U-Box ขนาดใหญ่ถึง 30 ลิตร พร้อมติดตั้ง USB Socket & Console Box สามารถชาร์จไฟได้ตลอดเวลา รวมถึงจุดเติมน้ำมันด้านหน้า สามารถเติมน้ำมันได้โดยไม่ต้องเปิดเบาะ

นอกจากนี้ ไทยฮอนด้ายังได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการสื่อสารการตลาดสำหรับ New Honda Giorno+ ด้วยการเปิดตัวพรีเซนเตอร์ระดับท็อปพร้อมกันทีเดียวถึง 3 คน เริ่มจาก “ณเดชน์ คูกิมิยะ” นักแสดงและนายแบบผู้หลงใหลในเสน่ห์ของรถจักรยานยนต์ “วี-วิโอเลต วอเทียร์” ศิลปินสาวที่มีสไตล์โดดเด่นในแบบของตัวเอง และ“เจฟ-วรกมล ซาเตอร์” ศิลปินระดับอินเตอร์ที่มีความเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นตัวจริง โดยทั้ง 3 คนถือเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่สะท้อนความเป็น The New High ของรถจักรยานยนต์ New Honda Giorno+ ในแบบฉบับของตัวเอง

ไทยฮอนด้าพร้อมวางจำหน่าย New Honda Giorno+ แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ โดยมีให้เลือกสองรุ่นย่อยประกอบด้วยรุ่น ABS มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว-ดำ, สีเทา-ดำ และสีแดง-ดำ ราคาแนะนำที่ 66,900 บาท รุ่น Standard มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว-ดำ, สีเหลือง-ดำ สีเขียว-ดำ และสีน้ำเงิน-ดำ ราคาแนะนำที่ 61,900 บาท

นอกจากรุ่น ABS และ Standard แล้ว ฮอนด้ายังได้นำเสนอ Special Edition จากสำนักแต่ง H2C by Honda ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์แต่ละไลฟ์สไตล์ โดยมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Bianco Pearl Edition ตกแต่งมาในสไตล์ Urban Rider ทันสมัยในแบบคนเมืองรุ่นใหม่ ราคาแนะนำที่ 72,900 บาท ตามด้วย Glamorous Nero Edition ตกแต่งสไตล์ Casual Weekender ราคาแนะนำที่ 75,900 บาท และสุดท้าย Ruby Russo Edition ตกแต่งในแบบ Street Strider ให้ลุคสปอร์ต ราคาแนะนำที่ 78,900 บาท

พร้อมกันนี้ ไทยฮอนด้ายังมาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษให้กับ 10,000 คันแรก ที่เป็นเจ้าของ New Honda Giorno+ ด้วยแพคเกจ HSP (Honda Service Premium Package) ตรวจเช็คระยะฟรีตลอดระยะเวลา 2 ปี หรือระยะทาง 18,000 กิโลเมตร กดรับสิทธิ์ผ่าน Application “My Honda Moto” ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น : https://myhonda.page.link/invite

มาสด้า ส่ง NEW MAZDA CX-3 ดีไซน์ใหม่ใส่ออฟชั่นเต็มคัน

มาสด้า เดินหน้ากระตุ้นตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลัง ประเดิมเปิดตัว New Mazda CX-3 รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวี ชูคอนเซ็ปต์ “Never Settle for Less ความท้าทายใหม่ไม่รู้จบ” ลุยเจาะฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ B-Car Upper และลูกค้ากลุ่ม B-SUV ที่ต้องการรถอเนกประสงค์เอสยูวีเป็นคันแรกในครอบครัว และกลุ่มลูกค้าที่ต้องการพื้นที่อรรถประโยชน์ที่มากกว่ารถยนต์นั่ง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และภาพลักษณ์ความสปอร์ต ตลอดจนฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ให้ความคุ้มค่า เหนือราคา โดยวางราคาเริ่มต้นเพียง 770,000 บาท และดอกเบี้ย 1.79% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ลูกค้าที่สนใจสามารถทดลองขับพร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมายได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ พร้อมรับรถใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัว New Mazda CX-3 ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และการออกแบบอันสง่างามจาก โคโดะ ดีไซน์ รวมถึงเป็นการกระตุ้นตลาดรถยนต์ไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่นรถอเนกประสงค์ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนารถรุ่นนี้ให้เป็นครอสโอเวอร์เอสยูวีคันแรกที่จะพาคุณออกไปเริ่มต้นประสบการณ์ใหม่ได้ไม่รู้จบ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นวัยเริ่มต้นทำงานที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวีเป็นคันแรก หรือลูกค้าที่ต้องการซื้อรถเพิ่มเติมเพื่อเติมเต็มชีวิตของครอบครัว ที่มีดีไซน์สปอร์ตพรีเมี่ยม มีความคุ้มค่าเหนือราคา อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

New Mazda CX-3 มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร (SKYACTIV-G 2.0) ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 156 แรงม้า ประหยัดน้ำมันถึง 16.4 กม./ลิตร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หรือ G-Vectoring Control (GVC) ที่ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล เพื่อให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

การออกแบบ New Mazda CX-3 ได้รับการยกระดับความสปอร์ตพรีเมี่ยม ที่มีเอกลักษณ์ในสไตล์เฉพาะตัว ทั้งดีไซน์ภายนอกที่มาพร้อมกระจังหน้าสีดำ กระจกมองข้างสีดำ ซุ้มล้อสีดำเงา และหลังคาสีดำเงา และมาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว ในขณะที่ภายในห้องโดยสารก็มีความประณีต พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งยังมีความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ด้วยคอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีฟ้าเทา ตกแต่งด้วยด้ายสีคอปเปอร์ พร้อมกรอบช่องแอร์สีคอปเปอร์ ผสานกันอย่างลงตัวกับเบาะหนังสีดำและผ้า Grand Luxe Suede® พร้อมสีภายนอกใหม่ สีเทา แอโร เกรย์ ที่เสริมสร้างภาพลักษณ์ความสปอร์ตหรูไปอีกระดับ ทำให้รถ New Mazda CX-3 มีให้เลือกมากถึง 7 สี

นอกจากดีไซน์ใหม่แล้ว New Mazda CX-3 ยังได้ถูกติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยมาเพิ่มเติม รวมถึงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ด้วยระบบ i-Activsense ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุและช่วยให้การขับขี่ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) ระบบช่วยหยุดรถขณะถอยหลัง (SCBS-R) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HBC) และติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go โดยระบบสามารถปรับความเร็วตามรถคันหน้าแบบอัตโนมัติได้จนถึงจุดหยุดนิ่ง จึงทำให้รุ่นนี้กลายเป็นครอสโอเวอร์เอสยูวี ที่ให้ความคุ้มค่าเหนือราคาเมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีที่ให้มาแบบเต็มคัน

New Mazda CX-3 มีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.0 Base ราคา 770,000 บาท รุ่น 2.0 Base Plus ราคา 830,000 บาท รุ่น 2.0 Comfort ราคา 900,000 บาท และรุ่นใหม่ล่าสุด 2.0 Sport Luxe ราคา 970,000 บาท ลูกค้าที่สนใจรถครอสโอเวอร์เอสยูวี New Mazda CX-3 สามารถยลโฉมรถคันจริงได้ที่งาน Big Motor Sale 2023 ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 3 กันยายน 2566 พร้อมรับแคมเปญสุดคุ้มช่วงเปิดตัว กับดอกเบี้ย 1.79% และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี หรือทดลองขับพร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมายได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

บรรยายภาพ : คณะผู้บริหารระดับสูงจากบริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย นำโดย มร.ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร ให้เกียรติต้อนรับ นายจรวย ขันมณี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป และ ประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน Big Motor Sale 2023 พร้อมด้วยสื่อมวลชนกิตติมศักดิ์ เนื่องในพิธีเปิดบูธมาสด้าและเปิดตัวรถครอสโอเวอร์เอสยูวี New Mazda CX-3 ในงาน Big Motor Sale 2023

ซีพี โฟตอน หนุนโปรเจ็คต์เครือข่ายยานยนต์เพื่อศึกษา

ซีพี โฟตอน เดินหน้าหนุนโปรเจ็คต์เครือข่ายยานยนต์เพื่อการพัฒนาการศึกษา ในงาน Big Motor Sale 2023

บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด มอบโอกาสพิเศษเพื่อการสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาศักยภาพเยาวชน ภายใต้ โครงการ “เครือข่ายยานยนต์เพื่อการสนับสนุนการศึกษา” นำร่องปีแรกร่วมกับ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ หรือ “PIM” ออกบูธประชาสัมพันธ์หลักสูตรวิศวกรรมการผลิตยานยนต์ หมวดวิชาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ภายในงาน “Big Motor Sale 2023…มหกรรมเปิดโลกยานยนต์” ขานรับตลาดแรงงานที่เร่งสร้างบุคลากรเสริมทัพรับกระแสลงทุนในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

นายกฤษณะ เศรษฐธรางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด เผยว่า “ในฐานะที่ ซีพี โฟตอน เป็นหนึ่งในธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ เราจึงตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่ายธุรกิจเพื่อดำเนินงานสาธารณะประโยชน์ด้านต่างๆ ต่อเนื่อง เรามี Knowledge, Know-How และทีมบุคลากรที่พร้อมจะถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อเป็นประโยชน์ด้านการศึกษา หรือสร้างโอกาสต่างๆ เช่นล่าสุด ได้ร่วมกับผู้จัดงานแสดงสินค้ายานยนต์ระดับประเทศ อย่าง Big Motor Sale หรือมหกรรมเปิดโลกยานยนต์ จัดทำโครงการความร่วมมือทางการศึกษา กับ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ในการส่งเสริมประสบการณ์นอกห้องเรียนพร้อมสร้างโอกาสให้เยาวชนได้มีโอกาสเปิดตัวกับผู้ประกอบการณ์ยานยนต์โดยตรง พร้อมทั้งมีแผนส่งบุคลากรคุณภาพร่วมเป็นวิทยากรพิเศษ ให้ความรู้ในสาขายานยนต์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบัน ซึ่งในระยะยาว ซีพี โฟตอน พร้อมที่จะรับเยาวชนที่ผ่านการอบรมหรือฝึกงานกับแบรนด์ฯ ให้ได้มีอาชีพที่มั่นคงในภูมิลำเนาของตัวเอง เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับภูมิภาคอย่างมั่นคงอีกด้วย”

งาน “Big Motor Sale 2023 มหกรรมเปิดโลกยานยนต์” จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 ณ ฮอลล์ 101–104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

NETA ยกข้อเสนอสุดพิเศษรถไฟฟ้า 100% ร่วมงาน Big Motor Sale 2023

NETA มอบข้อเสนอสุดพิเศษ เมื่อจอง NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car ในงาน Big Motor Sale 2023 และที่โชว์รูม NETA ทั่วประเทศ

NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car จากแบรนด์ NETA ครองตำแหน่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนสูงเป็นอันดับสองของตลาดเมืองไทย พร้อมส่งข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ ดอกเบี้ย 0% บัตรกำนัลมูลค่า 10,000 บาท ฟรีชุดแต่งรอบคันฟรี NETA Wallbox พร้อมค่าติดตั้ง สำหรับผู้ที่จองรถในงาน Big Motor Sale ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 นี้ ที่ไบเทค บางนา และโชว์รูม NETA ทั่วประเทศ

NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนสูงเป็นอันดับสองของตลาดเมืองไทย

มร.เป่า จ้วงเฟย (Mr. Bao Zhuangfei) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่าปัจจุบัน NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car ของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ใช้รถยนต์สันดาปประเภทรถยนต์ประหยัดพลังงาน หรือ อีโคคาร์ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี) มากขึ้น ทำให้มียอดการจำหน่ายเฉลี่ยเดือนละ 1,000 และสามารถครองตำแหน่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนสูงเป็นอันดับสองของตลาดเมืองไทยด้วยยอดจดทะเบียนรวม 7,189 คัน (มกราคม – กรกฎาคม 2566) ในขณะที่ยอดขาย NETA V รวมถึงปัจจุบันมีสูงกว่า 9,000 คัน (ธันวาคม – ปัจจุบัน) แม้สถานการณ์ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของไทยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาจะมีอัตราชะลอตัวเนื่องจากสถาบันการเงินมีความเข้มงวดด้านการปล่อยสินเชื่อรถยนต์มากขึ้น แต่บริษัทฯ เชื่อว่ายอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ของไทยในปี 2566 จะอยู่ที่ราว 50,000 คัน หรือเติบโตขึ้นกว่า 400% จากปีที่ผ่านมา และมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 6% ของยอดขายรถยนต์รวมทั้งหมด โดย NETA ตั้งเป้ายอดขาย NETA V ในปีนี้ไว้ที่ 13,000 คัน หรือ 25% ของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของประเทศ

รับข้อเสนอสุดพิเศษเมื่อจอง NETA V ในงาน BIG MOTOR SALE 2023

มร.เป่า จ้วงเฟย กล่าวเสริมถึงการเข้าร่วมงาน Big Motor Sale ซึ่งถือเป็นปีแรกที่ NETA ได้เข้าร่วมงาน อย่างเป็นทางการว่า บริษัทฯ ได้เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษให้กับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ NETA V ภายใต้ชื่อ Campaign “Make your life more colorful with NETA V” เพื่อเป็นการขอบคุณคนไทยที่ให้ความไว้วางใจในแบรนด์ NETA โดยข้อเสนอดังกล่าวจะครอบคลุมทั้งลูกค้าที่จองในงาน Big Motor Sale ที่ไบเทค บางนา และที่โชว์รูม NETA ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 นี้

•ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี*

•ฟรี! เครื่องชาร์จ NETA WALLBOX พร้อมค่าติดตั้ง จำนวน 1 ชุด*

•ฟรี! รับประกันรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

•ฟรี! รับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

•ฟรี! ค่าแรงและค่าอะไหล่รถยนต์เมื่อเช็คระยะ 1 ปี หรือ 10,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

•อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ระยะเวลา 12 เดือน*

•Gift Voucher Hypermarket มูลค่า 10,000 บาท (เฉพาะสีฟ้า Sky Blue สีเขียว Cyan และสีชมพู Sakura Pink เท่านั้น)*

•AERO KIT จำนวน 1 ชุด มูลค่า 15,000 บาท (เฉพาะสีฟ้า Sky Blue สีเขียว Cyan และสีชมพู Sakura Pink เท่านั้น)*

•และข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย

* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ตลาดรถยนต์เดือนกรกฏาคม 2566 ยังติดลบ 8.8%

ตลาดรถยนต์เริ่มต้นครึ่งปีหลังติดลบ 8.8% ยอดขาย 58,419 คัน ยอดขายรถยนต์นั่งสดใส เติบโตต่อเนื่องที่ 17.3% ยอดขาย 22,511 คัน ขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ยังชะลอตัวต่อเนื่อง ส่วนตลาดรถกระบะ 1 ตัน ชะลอตัวยาวตลาดลดลงมากถึง 26.6%

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฏาคม 2566 ด้วยยอดขาย 58,419 คัน ลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบรับตลาดรถยนต์นั่งเดินหน้าต่อเนื่องด้วยยอดขาย 25,511 คัน เติบโต 17.3% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องด้วยยอดขาย 35,908 คัน ลดลง 19.9% ในส่วนของรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ ชะลอตัวเช่นกันด้วยยอดขาย 24,982  คัน ลดลงถึง 26.6%

สำหรับตลาดรถยนต์เดือนกรกฏาคม 2566 มีปริมาณการขายที่ 58,419 คัน ลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าตลาดรถยนต์นั่งสามารถทำยอดขาย 22,511 คัน เติบโตต่อเนื่องที่ 17.3% โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายในเซกเมนท์รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ 16,308 คัน เติบโต 18.1% แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้ยอดขายรวมในเดือนนี้กลับมาเป็นบวก เนื่องจากตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องที่ 19.9% ด้วยยอดขาย 35,908 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ชะลอตัวถึง 26.6% ด้วยยอดขาย 24,982 คัน จากการชะลอการสินใจซื้ออย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจ และภาคประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของธุรกิจขนส่ง โดยมีปัจจัยลบที่สำคัญอย่างยิ่งคือความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ที่มีความกังวลต่อหนี้เสียอันเป็นผลต่อเนื่องที่เกิดจากสภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่ตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคม มีความหวังที่จะฟื้นตัวขึ้น จากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตวิทยาการบริโภคในการใช้เงินเพื่อจับจ่ายใช้สอย ก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่ง ผลดีต่อตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน โดยมีปัจจัยเสริมที่สำคัญ ได้แก่ แคมเปญการตลาดในช่วงงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2023 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 นอกจากช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ภายในงาน ยังขยายข้อเสนอพิเศษไปยังโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศอีกด้วย และนับเป็นโอกาสดีที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยลบที่สำคัญ ได้แก่ ความผันผวนทางเศรษฐกิจซึ่งส่งผลต่อภาวะหนี้สินครัวเรือน ตลอดจนความเข้มงวดของสถาบันการเงินต่อการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกรกฎาคม 2566

  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย  58,419 คัน ลดลง 8.8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      20,421 คัน       เพิ่มขึ้น  0.7%   ส่วนแบ่งตลาด   35.0%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          11,735 คัน       ลดลง   27.9% ส่วนแบ่งตลาด   20.1%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       7,551 คัน        เพิ่มขึ้น  4.1%  ส่วนแบ่งตลาด   12.9%

  • ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,511 คัน เพิ่มขึ้น 17.3%                                  

อันดับที่ 1 โตโยต้า      8,048 คัน        เพิ่มขึ้น  57.9% ส่วนแบ่งตลาด   35.8%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า       4,922 คัน        เพิ่มขึ้น  6.2% ส่วนแบ่งตลาด   21.9%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      1,086 คัน        ลดลง   39.3% ส่วนแบ่งตลาด  4.8%

  • ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 35,908 คัน ลดลง 19.9%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า      12,373  คัน      ลดลง   18.5% ส่วนแบ่งตลาด 34.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           11,735 คัน       ลดลง   27.9% ส่วนแบ่งตลาด 32.7%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        2,754 คัน        ลดลง   23.7% ส่วนแบ่งตลาด  7.7%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 24,982 คัน ลดลง 26.6%                                

อันดับที่ 1 อีซูซุ          10,228  คัน      ลดลง 31.0%  ส่วนแบ่งตลาด 40.9%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      10,088 คัน      ลดลง   20.3% ส่วนแบ่งตลาด 40.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด         2,754 คัน      ลดลง   23.7% ส่วนแบ่งตลาด  11.0%

    *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,673 คัน

โตโยต้า 1,776 คัน – อีซูซุ 1,677 คัน – ฟอร์ด 934 คัน – มิตซูบิชิ 213 คัน – นิสสัน 73 คัน

  •  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 20,309 คัน ลดลง 31.9%                                

อันดับที่ 1 อีซูซุ          8,551 คัน        ลดลง 35.5%  ส่วนแบ่งตลาด 42.1%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      8,312 คัน       ลดลง   26.7% ส่วนแบ่งตลาด 40.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        1,820 คัน       ลดลง   37.4% ส่วนแบ่งตลาด  9.0%      

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – กรกฏาคม 2566

  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 464,550 คัน ลดลง 5.5%                              

อันดับที่ 1 โตโยต้า       157,280 คัน   ลดลง     3.1% ส่วนแบ่งตลาด 33.9%

อันดับที่ 2 อีซูซุ            98,016 คัน     ลดลง     22.3% ส่วนแบ่งตลาด 21.1%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า        53,685 คัน     เพิ่มขึ้น  13.2% ส่วนแบ่งตลาด 11.6%

  • ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย  170,598 คัน เพิ่มขึ้น 10.0%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า        59,089 คัน    เพิ่มขึ้น  34.3% ส่วนแบ่งตลาด 34.6%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า         35,347 คัน   เพิ่มขึ้น  3.3% ส่วนแบ่งตลาด 20.7%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ        10,664 คัน    ลดลง  17.8% ส่วนแบ่งตลาด 6.3%

  • ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 293,952  คัน ลดลง 12.6%                    

อันดับที่ 1 โตโยต้า       98,191 คัน      ลดลง   17.0% ส่วนแบ่งตลาด   33.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ            98,016 คัน     ลดลง   22.3% ส่วนแบ่งตลาด   33.3%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด         22,871 คัน     เพิ่มขึ้น  23.6% ส่วนแบ่งตลาด  7.8%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 207,934 คัน ลดลง 20.6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ            88,861 คัน     ลดลง   23.6% ส่วนแบ่งตลาด   42.7%

อันดับที่ 2 โตโยต้า       80,632 คัน     ลดลง   20.9% ส่วนแบ่งตลาด   38.8%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด          22,871 คัน    เพิ่มขึ้น  23.6% ส่วนแบ่งตลาด   11.0%

 *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 37,940 คัน

โตโยต้า 13,538 คัน – อีซูซุ 13,630 คัน – ฟอร์ด 7,204 คัน – มิตซูบิชิ 2,806 คัน – นิสสัน 762 คัน

  •  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย  169,994 คัน ลดลง 25.5%

อันดับที่ 1 อีซูซุ         75,231 คัน       ลดลง  28.8%  ส่วนแบ่งตลาด 44.3%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      67,094 คัน       ลดลง  23.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        15,667 คัน      เพิ่มขึ้น  0.7%                    ส่วนแบ่งตลาด  9.2%    

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save