- Advertisement -
27.9 C
Bangkok
Home Blog Page 79

ไทยฮอนด้า เปิดตัว New Super Cub 2 สีใหม่

ไทยฮอนด้า เปิดตัว New Super Cub 2 สีใหม่ Pearl Organic Green และ Pearl Cadet Gray ล้วนเป็นสีฮิตติดเทรนด์

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทยเปิดตัว New Super Cub 2 สีใหม่ “สีเขียว Pearl Organic Green” และ “สีเทา-ขาว Pearl Cadet Gray” พร้อมคอนเซปต์ “ALLRIGINAL ทุกคุณคือออริจินัล” เพิ่มเสน่ห์ของความคลาสสิกที่เหนือกาลเวลาด้วยสีที่ฮิตติดเทรนด์ และโลโก้ดีไซน์ใหม่สะท้อนความเป็นคลาสสิกแฟชั่น มาพร้อมเครื่องยนต์ Honda Smart Engine ขนาด 110 ซีซี. ที่ประหยัด แรง ทนทาน พร้อมฟีเจอร์ความสะดวกครบครัน

New Super Cub โดนเด่นด้วยสไตล์วินเทจที่ยังคงความออริจินัล ด้วยดีไซน์ไฟหน้า LED ทรงกลมและกระจกมองข้างที่ดีไซน์เข้าคู่กันเสริมความเป็นออริจินัลในแบบฉบับของ Super Cub พร้อมกับสีที่เพิ่มความโดดเด่นอย่าง “สีเขียว Pearl Organic Green” โมโนโทน และ “สีเทา-ขาว Pearl Cadet Gray” ที่หยิบคู่สีทูโทนมาเติมเสน่ห์ให้น่าสนใจมากขึ้น รวมถึงตัวเรือนไมล์สไตล์เรโทรผสานเทคโนโลยีแสดงผล ผ่านจอ Digital LCD

New Super Cub มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Honda Smart Engine 110 ซีซี. เทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ฮอนด้าพัฒนาเพื่อตอบโจทย์เรื่องการประหยัดน้ำมัน พร้อมทำงานร่วมกับระบบหัวฉีดแบบ PGM-FI ทำให้ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 71.4 กิโลเมตร/ลิตร (มาตรฐานไอเสียระดับ 7 จากการทดสอบโดยสถาบันยานยนต์) อีกทั้งยังขับขี่ง่าย คล่องตัว ด้วยโครงตัวรถที่มีน้ำหนักเบา ทนทาน ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ฮอนด้าพร้อมวางจำหน่าย New Super Cub สีเขียว Pearl Organic Green และ สีเทา-ขาว Pearl Cadet Gray พร้อมกับอีก 2 เฉดสี ได้แก่ สีดำ และ สีแดง-ขาว ราคาแนะนำ 48,400 บาท ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ

ทีทีบีไดรฟ์ เปิดแพลตฟอร์ม Roddonjai รุกตลาดซื้อขายรถยนต์

ทีทีบีไดรฟ์ โดยทีเอ็มบีธนชาต ผู้นำตลาดสินเชื่อรถยนต์ ตอกย้ำการดูแลลูกค้าที่ใช้รถตลอดทุกช่วงเวลาของชีวิต จับมือพันธมิตรและดีลเลอร์รถยนต์ชั้นนำกว่า 3,000 แห่ง คัดรถคุณภาพที่ผ่านการตรวจสอบสภาพรถยนต์โดยคนกลางมาตรฐานสากลทุกคัน พร้อมรถยนต์คัดพิเศษจาก 5 กลุ่มหลักที่หายาก รวมไว้ที่เว็บไซต์ Roddonjai ที่เดียว พร้อมเปิดตัวแคมเปญและภาพยนตร์โฆษณา “คัดมาแต่รถโดนๆ ที่รถโดนใจ” และพรีเซ็นเตอร์ “มาริโอ้ เมาเร่อ” นักแสดงชื่อดัง เพื่อสร้างความมั่นใจ ให้ทั้งผู้ซื้อในการหารถมือสองที่มีคุณภาพ และช่วยผู้ขายในการสร้างมาตรฐานความเป็นกลาง เพื่อยกระดับวงการซื้อ-ขายรถยนต์ของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสินเชื่อรถยนต์ ทีเอ็มบีธนชาต เล็งเห็นความสำคัญที่ธนาคารต้องการดูแลลูกค้าที่ใช้รถตลอดทุกช่วงเวลาของชีวิต ภายใต้กลยุทธ์ Car Owner Ecosystem เสริมกับแนวคิดของทีทีบีไดรฟ์ “มากกว่าสินเชื่อรถ…เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น” โดยการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในเรื่องรถ ตั้งแต่การซื้อรถ โดยให้บริการครบวงจรทั้งวงเงินสินเชื่อสำหรับการซื้อรถยนต์ใหม่ รถยนต์ใช้แล้ว รถแลกเงิน และยังมีบริการผู้ช่วยจัดการเกี่ยวกับเรื่องรถครบวงจร ด้วยฟีเจอร์ My Car บนแอป ttb touch

และในวันนี้เมื่อผู้ใช้รถต้องการซื้อ-ขายรถยนต์ ทีทีบีไดรฟ์ ซึ่งมีดีลเลอร์พันธมิตรรถมือสองที่แข็งแกร่งเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว จึงได้พัฒนา Roddonjai ที่เป็นเว็บไซต์ซื้อขายรถคุณภาพดี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการหารถมือสองที่มีคุณภาพ และยกระดับมาตรฐานใหม่ในวงการตลาดรถยนต์มือสอง นอกจากนี้ ยังเพิ่มช่องทางการขายให้แก่เต็นท์รถ สนับสนุนผู้ขายไม่ให้ถูก Digital Disruption พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อขยายตลาดสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้วทีทีบีไดรฟ์ โดยตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถมือสอง ที่รถทุกคันผ่านการตรวจสอบด้วยมาตรฐานสากล มีรถคุณภาพที่ผ่านการตรวจสอบสภาพ ประกาศขายบนเว็บไซต์กว่า 50,000 คันภายในปี 2567 พร้อมช่วยให้พันธมิตรขายรถได้มากกว่า 30,000 คัน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2567

ด้านนายชัชฤทธิ์ ตั้งเถกิงเกียรติ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าผลิตภัณฑ์ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า การพัฒนาเว็บไซต์ Roddonjai นั้น ทีทีบีไดรฟ์ ได้ตระหนักถึงความกังวลใจในการซื้อ-ขายรถยนต์ของลูกค้าเป็นหลัก ทั้งในเรื่องคุณภาพรถและราคาที่เหมาะสม รวมทั้งการจัดสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว ดังนั้นเว็บไซต์ Roddonjai จึงเข้ามาตอบโจทย์ในเรื่องมาตรฐานความเป็นกลาง เพื่อขจัดความกังวลต่างๆ ของลูกค้าที่มีอยู่ให้หมดไป เพื่อให้เกิดความมั่นใจทั้งในด้านผู้ซื้อและผู้ขาย

จุดเด่นของรถยนต์ในเว็บไซต์ Roddonjai ประกอบด้วย

(1) มั่นใจผู้ขายมีตัวตนและน่าเชื่อถือ ด้วยผู้ขายที่เป็นดีลเลอร์พันธมิตรที่น่าเชื่อถือกว่า 3,000 รายทั่วประเทศ

(2) รถทุกคันผ่านการตรวจสอบตัวตน ก่อนนำขึ้นขายรถบนเว็บไซต์ Roddonjai ต้องผ่านการตรวจสภาพจากคนกลางมาตรฐานสากลสูงสุดถึง 274 จุด ทำให้มั่นใจได้ว่ารถที่ขึ้นขาย มีคุณภาพ ไม่ผ่านการชนหนัก และน้ำท่วมสูงอย่างแน่นอน

(3) มีราคากลางรถมือสองอ้างอิงจากเว็บไซต์ ttb bluebook ที่ได้รับมาตรฐาน ISO9001 : 2015  ภายใต้ Scope “Use Car Price Determination” ช่วยเปรียบเทียบราคารถป้ายแดง กับราคากลางรถมือสอง และราคาขาย ทำให้ลูกค้ามีแหล่งข้อมูลในการประเมินราคาและตัดสินใจซื้อ

(4) หมดกังวลกับการจัดสินเชื่อรถมือสอง เนื่องจากรถทุกคันที่นำขึ้นขายบนเว็บไซต์ Roddonjai สามารถจัดสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้วกับทีทีบีไดรฟ์ได้ ด้วยดีลโปรโมชันพิเศษ พร้อมด้วยเครื่องมือช่วยประเมินการผ่อนและคำนวณค่างวดจากทีทีบีไดรฟ์ รวมถึงบริการจัดสินเชื่อรถยนต์ให้ถึงที่ทั่วไทย

การนำสิ่งที่กังวลใจจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขายรถยนต์มาพัฒนาเว็บไซต์ Roddonjai นั้น ทางทีทีบีไดรฟ์มองว่า จะช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือในตลาดซื้อขายรถยนต์มือสองเพิ่มขึ้นได้ สร้างมาตรฐานกลาง ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อเกิดความมั่นใจและวางใจได้มากขึ้นในการซื้อ-ขายรถมือสอง ประกอบกับจุดเด่นของ ทีทีบีไดรฟ์ ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรและดีลเลอร์รถมาอย่างยาวนาน ทำให้เว็บไซต์ Roddonjai สามารถสร้างความแตกต่างและชูจุดเด่นด้วยการคัดรถคุณภาพ จากแหล่งที่มาพิเศษ 5 ประเภท มารวมไว้ที่นี่ที่เดียว ไม่ต้องไปหาที่อื่น ได้แก่

•รถผู้บริหารวิ่งน้อย : รถพรีเมียม สภาพดีเยี่ยม หายาก จากบริษัทรถเช่าชั้นนำ ผ่านการตรวจสอบบำรุงดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ

•รถ 5 ดาว ไม่ถึง 5 ปี : รถคัดมาให้พิเศษ อายุน้อยไม่ถึง 5 ปี การันตี 5 ดาว  คุณภาพดี ราคาโดน

•รถเทสจากโชว์รูม : รถเทส รถโชว์ รับตรงจากโชว์รูม อายุน้อยไม่เกิน 2 ปี สภาพใหม่เหมือนป้ายแดง

•รถนางฟ้า เช็กแต่ศูนย์ : รถประวัติดี ดูแลดี เช็กศูนย์ตลอด คุณภาพ Top Grade

•รถวารันตีเหลือ : รถประกันศูนย์มาตรฐานผู้ผลิต หมดห่วงปัญหาทางเทคนิคและค่าซ่อมบำรุง

พร้อมกันนี้ Roddonjai ยังได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “คัดมาแต่รถโดนๆ ที่รถโดนใจ” พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ ผู้ชื่นชอบในรถยนต์มือสอง “มาริโอ้ เมาเร่อ” มาบอกเล่าเรื่องราวที่จะทำให้ตื่นตาตื่นใจไปกับรถคุณภาพ ที่คัดมาเฉพาะที่เว็บไซต์ Roddonjai ซึ่งหลังจากที่ได้เปิดให้บริการเว็บไซต์ มีรถที่ประกาศขายบนเว็บไซต์ Roddonjai แล้วกว่า 16,500 คัน และมีลูกค้าไว้วางใจใช้บริการซื้อรถมือสองไปแล้วกว่า 5,000 คัน” นายชัชฤทธิ์ กล่าวในที่สุด

เอช เซม ลงนามร่วมผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา

เอช เซม ลงนามความร่วมมือร่วมผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา

นายวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษากับวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ตามแนวนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อร่วมผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาให้เพิ่มพูนทักษะและศักยภาพให้กับนักศึกษาอาชีวะได้นำหลักสูตรที่ศึกษามาทำงานจริง ณ หอประชุมอร่ามเรืองรอง วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา เมื่อเร็วๆ นี้

ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ยกทัพ CBR Series เตรียมฉลองแชมป์ประจำปี

“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ยกทัพ CBR Series เตรียมฉลองแชมป์ประจำปี พร้อมลุ้นคว้าชัยปิดท้าย 2 รุ่นท็อป “โออาร์ บีอาร์ไอซี” สุดพิเศษ “โค้ชฟิล์ม-รัฐภาคย์” คัมแบ็กลงสนาม SB1Pro

ทัพนักแข่งฮอนด้า สังกัดทีม “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” กับรถแข่ง CBR Series เตรียมพร้อมลุ้นคว้าแชมป์ประจำปี 2 รุ่นท็อป รายการ OR BRIC SUPERBIKE 2023 สนามที่ 4 สนามสุดท้ายของฤดูกาลในสุดสัปดาห์นี้ ในรุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี1โปร จาก “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ กับรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 41 และ รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1โปร จาก “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช รถแข่ง Honda CBR600R หมายเลข 44 ทีมเมท “นิว” ปัณณสรณ์ แก้วสนธิ หมายเลข 15 หลังทำผลงานนำบนตารางคะแนนสะสม

โดยรุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี1โปร “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ สร้างผลงานผู้นำสุดแกร่งมีคะแนนสะสม 75 คะแนนเต็ม และ รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1โปร “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช สร้างผลงานยอดเยี่ยม รั้งอันดับที่ 1 ในตารางคะแนนสะสม มี 75 คะแนน ด้านทีมเมท “นิว” ปัณณสรณ์ แก้วสนธิ รั้งอันดับ 2 ด้วยคะแนนสะสม 56 คะแนน

รายการ OR BRIC SUPERBIKE 2023 สนามที่ 4 ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาล จะดวลความมันส์กันถึง 2 เรซ นับเป็นอีกสุดสัปดาห์ในการสร้างผลงานสุดยิ่งใหญ่ของ “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” จากรถแข่ง CBR Series ลุ้นสร้างสถิติชนะ 100 เปอร์เซ็นต์และคว้าแชมป์ประจำปีใน 2 รุ่นท็อป พร้อมพิเศษการคัมแบ็กสู่สนามแข่งอีกครั้งของ “โค้ชฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักบิดโมโตทูคนแรกของไทย ซึ่งจะทำการลงแข่งขัน ในรุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี1โปร กับรถแข่ง Honda CBR1000RR-R

ทั้งนี้รายการ OR BRIC SUPERBIKE 2023 สนามที่ 4 จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 21 – 24 กันยายน นี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

สำหรับแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว รวมถึงส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

Honda CRF450R ฟอร์มดุ คว้าโพเดียมคู่ MXGP สนาม 18 ที่อิตาลี

ทิม ไกจ์เซอร์ ควง รูเบน เฟอร์นานเดซ บิด Honda CRF450R คว้าโพเดียมคู่ MXGP สนาม 18 ที่อิตาลี

สองนักบิดฮอนด้า ทิม ไกจ์เซอร์ หมายเลข 243 และ รูเบน เฟอร์นานเดซ หมายเลข 70 ร้อนแรงต่อเนื่องในการแข่งขัน MXGP หลังการคว้าชัยชนะในสนามที่ 17 ที่ประเทศตุรกี ล่าสุดการแข่งขันสนามที่ 18 ที่ประเทศอิตาลี (Maggiora, Italy) เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บิดยอดรถแข่งทางฝุ่น Honda CRF450R คว้าโพเดียมได้ทั้ง 2 คน

การแข่งขันดวลกัน 2 เรซ โดยเรซแรกสภาพสนามนั้นสร้างความยากลำบากอย่างมากจากฝนที่ตกลงมาก่อนหน้า รูเบน เฟอร์นานเดซ ต่อสู้ไปพร้อมกับการบริหารความเสี่ยงได้อย่างยอดเยี่ยมก่อนที่จะจบการแข่งขันในอันดับที่ 5 ทางด้านของ ทิม ไกจ์เซอร์ น่าเสียดายที่พลาดล้มในช่วงต้นก่อนที่จะยกรถแข่งกลับมาสู้อีกครั้ง ไล่แซงคู่แข่งจากอันดับที่ 20 จบการแข่งขันในอันดับที่ 9 ได้สำเร็จ

การแข่งขันเรซที่ 2 เป็นการกลับมาอย่างแข็งแกร่งของ 2 นักบิดฮอนด้าและยอดรถแข่ง Honda CRF450R ทิม ไกจ์เซอร์ บดกับคู่แข่งระดับท็อปได้อย่างดุเดือด คว้าอันดับที่ 2 บนโพเดียมแบบห่างจากชัยชนะแบบเฉียดฉิวเท่านั้น ขณะที่ รูเบน เฟอร์นานเดซ คัมแบ็กกลับมาสู่โพเดียมได้อีกครั้งในอันดับที่ 3 ของการแข่งขัน

การแข่งขันสนามนี้แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องในการคว้าผลการแข่งขันที่ดีของสองนักบิดฮอนด้า หลังจากที่ รูเบน เฟอร์นานเดซ กลับมาสู่โพเดียมได้อีกครั้ง และ ทิม ไกจ์เซอร์ เริ่มที่จะกลับมาสู่ฟอร์มอันแข็งแกร่งแล้วหลังจากที่ผ่านการบาดเจ็บอย่างหนักมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล ขณะที่โปรแกรมการแข่งขัน MXGP สนาม 19 จะไปแข่งขันกันที่สหราชอาณาจักร (Matterley Basin, United Kingdom) ในระหว่างวันที่ 23 – 24 กันยายน 2566 นี้

ไทยฮอนด้า จับมือ วิริยะประกันภัย จัดโครงการฮอนด้าขับขี่ปลอดภัย

ไทยฮอนด้า ร่วมกับสมหวังเงินสั่งได้ และวิริยะประกันภัย จัดโครงการ “ฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย คุ้มครองอุ่นใจ กับสมหวัง”

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย ร่วมกับ สมหวังเงินสั่งได้ และ วิริยะประกันภัย จัดตั้งโครงการ “ฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย คุ้มครองอุ่นใจ กับสมหวัง” ส่งเสริมให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์มาเรียนรู้ทักษะคาดการณ์อุบัติเหตุ ผ่านโปรแกรมจำลองสถานการณ์การขับขี่จริงจาก Honda APT (Accident Prediction Training) ในช่องทางของ Line Official ของ สมหวังเงินสั่งได้ (@somwang) เพื่อส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัย ช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

โดยกิจกรรมนี้ เป็นการร่วมมือกันของทั้ง 3 หน่วยงาน ที่จะช่วยสนับสนุนให้สังคมไทยเป็นเมืองแห่งการขับขี่ที่ปลอดภัย โดยมีรางวัลให้สำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับอบรม มอบประกันอุบัติเหตุคุ้มครองกว่า 100,000 บาท จากบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)

ผู้ที่สนใจเพียงเพิ่มเพื่อนใน Line Official : @somwang และเข้าไปเรียนรู้และฝึกทักษะคาดการณ์อุบัติเหตุในโปรแกรม Honda APT (Accident Prediction Training) เพื่อลุ้นรับของรางวัล

• ต่อที่ 1 เพียงฝึกทักษะคาดการณ์อุบัติเหตุครบ 3 เคส จะได้รับกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล คุ้มครองกรณีการเสียชีวิตมูลค่า 100,000 บาท นาน 1 ปี จำนวน 27,000 กรมธรรม์

• ต่อที่ 2 ฝึกคาดการณ์อย่างต่อเนื่องครบ 10 เคส จะได้รับเสื้อแจ็กเกตขับขี่ปลอดภัยไปกับสมหวังเงินสั่งได้ 1 ตัว ต่อ 1 ผู้เล่น โดยจำกัดเพียง 3,000 ท่านแรกเท่านั้น

มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จัดกิจกรรม BMW M Performance Car Club 2023

มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘BMW M Performance Car Club 2023’ เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เรียนรู้ทักษะการขับขั้นแอดวานซ์ บนสนามแข่งระดับสากล

บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จำกัด ภายใต้บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA ผู้จำหน่ายรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จัดกิจกรรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ‘BMW M Performance Car Club 2023’ สำหรับลูกค้าผู้มีใจรักในความแรงของ BMW M Performance โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้านำรถ บีเอ็มดับเบิลยู ที่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มสมรรถนะจาก BMW M Performance มาขับบนสนามแข่ง ‘ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต’ พร้อมเรียนรู้ทักษะการควบคุมรถอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เมื่อเร็วๆ นี้

นายประสงค์ ประเสริฐพร รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “มิลเลนเนียม ออโต้ ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า ผ่านบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ อีกทั้งมีการจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นงานนี้ ที่เป็นการรวมพลคนรักการแต่งรถ ได้ไปเรียนรู้ทักษะการขับรถขั้นแอดวานซ์ บนสนามแข่งมาตรฐานสากล”

สัมผัสประสบการณ์สุดมันส์ ผ่านการขับรถคู่ใจบนสนามแข่ง

ภายในงานเป็นการเรียนรู้ทักษะการขับรถยนต์ที่ถูกต้องและปลอดภัย พร้อมสร้างความคุ้นเคยกับเส้นทางบนสนามแข่ง จึงนำรถของตนเองลงไปขับ แบ่งเป็นหลายสถานี เพื่อค้นหาสมรรถนะที่แท้จริงของยนตรกรรมที่ผ่านการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่ง BMW M Performance ภายใต้คำแนะนำของทีมผู้ฝึกขับรถยนต์มืออาชีพ ปิดท้ายความประทับใจด้วยงานเลี้ยงช่วงค่ำ พร้อมคอนเสิร์ตจากศิลปินเสียงดี ‘โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน’ การมอบรางวัลให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมในช่วงกลางวัน สนุกสนานกันทั้งครอบครัวกับซุ้มเกมต่างๆ รวมถึงมีการมอบของที่ระลึกจาก มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ให้ลูกค้าได้นำกลับ พร้อมกับความสุขและสนุกสนานจากกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟในครั้งนี้

NETA ส่งมอบ NETA V ให้ลูกค้าคนไทยครบ 10,000 คัน

NETA เผยส่งมอบ NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car ให้กับลูกค้าในประเทศไทยแล้วกว่า 10,000 คัน ในระยะเวลา 10 เดือน และมียอดจดทะเบียนสูงเป็นอันดับสอง ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 20% ในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศ พร้อมเดินหน้าแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้า100% รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง สานต่อพันธกิจของการทำให้ผู้คนทั่วทุกมุมโลกมีโอกาสได้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น

มร.เป่า จ้วงเฟย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เน้นย้ำถึงพันธกิจของ NETA คือ การทำให้ผู้คนทั่วทุกมุมโลกมีโอกาสได้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยทุกคนจะต้องมี “สิทธิในการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียมกัน” จากการทำหน้าที่เป็น “ผู้สร้างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้” โดยมีประเทศไทยคือเป้าหมายแรกภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว ทั้งนี้การทำให้พันธกิจดังกล่าวเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนต้องประกอบด้วยหลายปัจจัยสนับสนุน โดยในประเทศไทย NETA ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วนนับตั้งแต่วันแรกของการเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย และทำให้มียอดการส่งมอบ NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car ให้กับลูกค้าคนไทยแล้วกว่า 10,000 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 10 เดือน ยิ่งไปกว่านั้นยังมียอดจดทะเบียนสูงเป็นอันดับสอง พร้อมครองส่วนแบ่งทางการตลาด 20% ในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศอย่างต่อเนื่องตลอด 1 ปีที่ผ่านมา

“ผมต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนการดำเนินของ NETA เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลา 1 ปีของการเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยของ NETA รวมทั้งขอขอบคุณลูกค้า NETA ทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของเรา ผมได้มีโอกาสรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าหลายๆ ท่านที่มีต่อแบรนด์ NETA และผลิตภัณฑ์ NETA V ของเรา ซึ่งทำให้ผมรู้สึกดีใจมากที่วันนี้แบรนด์ NETA ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกท่าน โดยเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทุกท่านได้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า NETA V ได้อย่างมีความสุขครับ”

“การได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 10,000 ท่านในวันนี้ เป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับ NETA เพราะไม่ได้เป็นเพียงแค่ความไว้วางใจในแบรนด์ NETA ที่เราได้รับเท่านั้น แต่จะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เรามุ่งมั่นพัฒนาต่อไปในทุกๆ ด้านอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อรักษาความไว้วางใจที่ทุกท่านมีให้กับ NETA ครับ” มร.เป่า จ้วงเฟย กล่าว

ทั้งนี้ NETA เปิดตัวแบรนด์ NETA พร้อมแนะนำ NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car สู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ 2565 ที่ผ่านมา และเดินหน้าแผนงานอย่างเต็มที่ในทุกด้านทั้งด้านผลิตภัณฑ์ และการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายให้ครอบคลุมและรองรับกับความต้องการของลูกค้า ตลอดจนสนับสนุนการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของไทยให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มส่งมอบ NETA V ให้กับลูกค้าในประเทศไทยในเดือนธันวาคม พ.ศ 2565 และมียอดการส่งมอบเฉลี่ยเดือนละ 1,000 คัน ซึ่งทำให้สามารถส่งมอบได้กว่า 10,000 คัน ในต้นเดือนกันยายน พ.ศ 2566 ที่ผ่านมา

ข้อเสนอสุดพิเศษฉลองยอดการส่งมอบครบ 10,000 คัน

มร. เป่า จ้วงเฟย กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ ได้เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษเพื่อฉลองยอดการส่งมอบ NETA V ครบ 10,000 คัน  ให้กับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ NETA V ระหว่างวันที่ 1 กันยายน – 30 กันยายน 2566 ดังนี้

•ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี*

•ฟรี! เครื่องชาร์จ NETA WALLBOX พร้อมค่าติดตั้ง จำนวน 1 ชุด*

•ฟรี! รับประกันรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

•ฟรี! รับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

•ฟรี! ค่าแรงและค่าอะไหล่รถยนต์เมื่อเช็คระยะ 1 ปี หรือ 10,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

•อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ระยะเวลา 12 เดือน*

•ฟรี!  AERO KIT จำนวน 1 ชุด มูลค่า 15,000 บาท

•ฟรี!  Gift Voucher Hypermarket มูลค่า 10,000 บาท (เฉพาะสีฟ้า Sky Blue สีเขียว Cyan และสีชมพู Sakura Pink เท่านั้น)*

* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

GWM รุกตลาดฟลีตส่งมอบ HAVAL JOLION Hybrid SUV จำนวน 20 คัน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ลุยขยายพันธมิตรธุรกิจฟลีทอย่างต่อเนื่อง จับมือ Yesaway ส่งมอบ HAVAL JOLION Hybrid SUV รุ่น ULTRA จำนวน 20 คัน เน้นย้ำการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าขยายพันธมิตรธุรกิจฟลีทในฐานะผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าของไทย (xEV Leader) ส่งมอบรถยนต์ HAVAL JOLION Hybrid SUV รุ่น ULTRA จำนวน 20 คันให้กับ Yesaway ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ชั้นนำแห่งแรกในประเทศไทยที่ให้บริการด้วยภาษาจีนตามมาตรฐานความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น ด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ล้ำสมัยและสมรรถนะอันทรงพลัง ในการเดินทางท่องเที่ยวทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย สานต่อเจตนารมณ์การขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อปลุกปั้นระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้ทัดเทียมระดับสากลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

โดยพิธีมอบรถยนต์ดังกล่าว ได้รับเกียรติจาก มร. หยิ่งซี เหลียง  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เยสอะเวย์ จำกัด เป็นผู้รับมอบ HAVAL JOLION Hybrid SUV รุ่น ULTRA จำนวน 20 คัน จาก มร.อู๋ โบ๋วเย่ว ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการการขาย เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) และ นายสฬาชัย พิสุทธิ์ วัชระกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุวรรณภูมิ ออโต้ จำกัด ณ ศูนย์บริการ GWM สุวรรณภูมิ ลาดกระบัง

มร.อู๋ โบ๋วเย่ว ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการการขาย เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ บริษัท เยสอะเวย์ จำกัด หรือ Yesaway ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ชั้นนำแห่งแรกในประเทศไทยที่ให้บริการลูกค้าเป็นภาษาจีนในสนามบินหลักของไทย อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ และพัทยา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของระบบยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย และนำ HAVAL JOLION Hybrid SUV เข้าไปยกระดับประสบการณ์การเดินทางด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้กับผู้ใช้บริการทุกคนด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำที่มอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่เหนือกว่า เพื่อให้การเดินทางสู่จุดหมายทุกเส้นทางเปี่ยมไปด้วยคุณค่าและความประทับใจ โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ เชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับ Yesaway ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจฟลีทสำหรับเช่ารถยนต์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่รถยนต์พลังงานใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย อีกทั้งผลักดันให้สังคมไทยใส่ใจต่อการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตอบรับนโยบายสนับสนุนของภาครัฐในการส่งเสริมพลังงานสะอาดให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางของการใช้และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง”

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการเช่า HAVAL JOLION Hybrid SUV รุ่น ULTRA ในราคา 1,400 บาทต่อวันโดยสามารถจองรถได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Yesaway ได้ที่เว็บไซต์ www.yesaway.com  Facebook: Yesaway Thailand และติดต่อสำนักงานใหญ่โทร 02 101 2658

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดสเปก TANK 500

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดสเปกเต็มรูปแบบของ All New GWM TANK 500 ก่อนการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการ 28 กันยายน 2566 นี้ หลังเปิดจองสิทธิ์ยอดทะลุ 1,000 คัน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เขย่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอีกครั้ง กับการเตรียมเปิดตัว All New GWM TANK 500 รถยนต์เอสยูวีพรีเมียมออฟโรดจากแบรนด์ TANK ที่อัดแน่นด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตั้งใจออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กิจกรรมการผจญภัยของคนยุคใหม่ รวมถึงเอาใจผู้ขับขี่สายออฟโรดชาวไทย การันตีคุณภาพด้วยยอดจองสิทธิ์ซื้อกว่า 1,000 คันและรางวัล The Most Exciting SUV Award จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2566

All New GWM TANK 500 รถยนต์เอสยูวีรุ่นล่าสุดจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เป็นรถยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะ TANK ที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโลยีที่ล้ำสมัย มาพร้อมกับดีไซน์ที่บึกบึนและแข็งแกร่ง ในขณะที่แฝงไปด้วยความเรียบง่ายและหรูหรา ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ความจุ 1.76 กิโลวัตต์ ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 244 แรงม้า พร้อมแรงบิดเครื่องยนต์สูงสุด 380 นิวตัน–เมตร  และกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 สปีด (9HAT) ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลาย ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 11 รูปแบบ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดอัตโนมัติ และโหมดออฟโรด ได้แก่ โหมดพื้นโคลน โหมดพื้นทราย โหมดพื้นหิน โหมด4L โหมด4H โหมดพื้นหิมะ และโหมดเชี่ยวชาญ สะท้อนสุนทรียภาพแห่งการผจญภัยด้วยแนวคิด “Nothing is Unreachable ไม่มีความสำเร็จไหนที่ไปไม่ถึง” ที่จะสร้างความตื่นเต้น ความแตกต่าง และประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับทุกเส้นทาง

All New GWM TANK 500 ถูกสร้างสรรค์มาด้วยปรัชญาการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในทุกมิติตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถ ตามลักษณะที่เป็น DNA ของ TANK ที่มีความแข็งแกร่ง ทะมัดทะแมง แต่เปี่ยมไปด้วยความเรียบหรูและสง่างาม ด้วยมิติตัวรถ 1934 x 5078 x 1905 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ใหญ่กว้างขวางที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน มาพร้อมระยะฐานล้อ 2850 มม. ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ดับเบิ้ล ครอส อาร์ม และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์ ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบสนองการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง

นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการลุยน้ำที่ระดับความลึก 800 มม. ทำให้ผู้ขับขี่พร้อมทะยานอย่างไม่มีขีดจำกัดในทุกสถานการณ์ กระจังหน้าขนาดใหญ่ผสานช่องระบายอากาศแนวนอนและโลโก้ TANK ที่รับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรง ไฟหน้า Intelligent LED โดดเด่นทั้งในเรื่องให้ความสว่างและความปลอดภัยด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกด้านหน้าและหลังแบบ LED ในขณะที่ดีไซน์ด้านหลังนั้นถูกออกแบบภายใต้แนวคิดออฟโรด ด้วยประตูท้ายแบบ Horizontal ที่มาควบคู่กับระบบดูดไฟฟ้าเพื่อผ่อนแรงและอำนวยความสะดวกสบายในการปิดประตูท้าย ไฟท้าย Vertical LED ที่มาพร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกแบบ LED อย่างเต็มระบบ ตอบโจทย์ทั้งแฟชันและฟังก์ชันได้อย่างลงตัว บันไดข้างที่เปิด–ปิดด้วยระบบไฟฟ้า หลังคาซันรูฟระบบไฟฟ้าแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ที่มาพร้อมราวหลังคา เพื่อเพิ่มการใช้งานเสาอากาศแบบ Shark Fin และสปอยเลอร์ท้าย ยกระดับภาพลักษณ์การขับขี่ที่หรูหรามั่นใจด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว และยางขนาด 265/50 R20

การออกแบบทั้งภายนอกและภายในของ All New GWM TANK 500 มาพร้อมกับแนวคิด Luxury ที่ให้ทั้งความหรูหรา กว้างขวาง และสะดวกสบาย ใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยวัสดุสีดำ สีดำเงา สีโครเมียม และสีเงิน แผงคอนโซลหน้าและชุดเกียร์แบบ Electronic Shifter สีทูโทน นาฬิกาแบบคลาสสิก เบาะหนัง NAPPA ลำโพง Infinity 12 ตัวที่พร้อมมอบความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบร่วมกับระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระและระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ ฟังก์ชันไฟตกแต่งห้องโดยสารแบบหลากสีและเป็นจังหวะ เพื่อสร้างบรรยากาศภายในให้เพลิดเพลิน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบกรองอากาศ PM2.5 และระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เพื่อช่วยให้การชาร์จโทรศัพท์มือถือเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

เพื่อความสะดวกสบายในทุกมิติของการเดินทาง All New GWM TANK 500 มาพร้อมกับเบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า ระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ และเบาะหนัง NAPPA เพื่อช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าให้ผู้ขับขี่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มีระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพิ่มความสะดวกในการขึ้น-ลงรถ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับแบบไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง มีปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 มีหน้าจอควบคุมระบบระบายอากาศ และเบาะระบายอากาศ เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 3 มีพนักพิงปรับแบบไฟฟ้าที่เพิ่มความสะดวกด้วยตำแหน่งปรับพนักพิงบริเวณข้างประตูผู้โดยสารแถวที่ 2 และประตูท้าย ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนของเบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 สามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 และเบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับเรียบ เพื่อเพิ่มพื้นที่และความสะดวกในการใช้สอยตามอเนกประสงค์ได้อย่างเต็มที่

All New GWM TANK 500 ได้นำเสนอความสามารถในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่โดยเฉพาะ ด้วยหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ซึ่งรองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง, และแสดงข้อมูลการขับขี่ โดยหน้าจอกลางอัจฉริยะนี้สามารถเชื่อมต่อกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า เพื่อเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย อีกทั้งรถยนต์รุ่นนี้ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวของการขับขี่ด้วยพวงมาลัยปรับแบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเปิด-ปิดล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้และออกห่างจากรถ ระบบกุญแจ Smart Key และระบบ Push Start

นอกจากนี้  All New GWM TANK 500 ยังเพรียบพร้อมไปด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบออฟโรดอันชาญฉลาดและล้ำสมัย ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและความมั่นใจในทุกการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น

•ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดของยานพาหนะเมื่อเผชิญกับทางลาดชัน โคลน ทะเลทราย และภูมิประเทศที่ซับซ้อนอื่นๆ ด้วยกลไกการถ่ายโอนกำลัง ทำงานร่วมกันกับกลไกล็อกของกล่องถ่ายโอนทั้งล้อหน้าและล้อหลัง สร้างระบบขับเคลื่อนออฟโรดแบบ 3 locks เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ออฟโรดที่ดีเยี่ยม

•ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) ทันทีที่เปิดฟังก์ชัน เมื่อระบบตรวจพบความตั้งใจในการบังคับเลี้ยวมากเกินไป ระบบจะส่งแรงเบรกไปที่ล้อหลังด้านในเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยว เพื่อช่วยให้รถสามารถเลี้ยวในวงแคบได้

•ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Off-road (Offroad Cruise Control) ทันทีที่เปิดฟังก์ชัน ระบบจะควบคุมเครื่องยนต์และระบบเบรกโดยอัตโนมัติให้รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำและความเร็วสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่เสียสมาธิและเพิ่มความปลอดภัยจากการควบคุมรถบนสภาพถนนที่ซับซ้อน

•ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) ทันทีที่เปิดฟังก์ชัน ระบบจะประเมินความลึกของระดับน้ำและแสดงผลของระดับน้ำประกอบภาพรถบนหน้าจอกลาง เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่เมื่อขับผ่านสภาพถนนที่มีน้ำท่วมขัง

•ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent) ทันทีที่เปิดฟังก์ชัน ระบบจะจดจำข้อมูลของพื้นที่รอบเส้นทางการขับขี่ของกล้องรอบตัวรถและสร้างภาพเสมือนแบบ 360 องศา จากมุมมองด้านบนของตัวรถ ในลักษณะแบบโปร่งใสเห็นพื้นผิวถนนด้านล่าง และแสดงภาพด้านหน้าของรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบถึงสภาพถนนใต้ท้องรถ เพิ่มความปลอดภัยและประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น All New GWM TANK 500 มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยมากมาย ให้ทุกการเดินทางปลอดภัยไร้กังวล ได้แก่

•ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)

•ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)

•ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP)

•ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)

•กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา

•ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (MEB)

•ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA/ RCTB)

•ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)

•ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)

•ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)

•ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)

•ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)

•ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)

•ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)

•ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) และระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)

•ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)

•ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS)

 All New GWM TANK 500 ยังจัดเต็มไปด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะ (Intelligent Functions) ที่มาช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้ขับขี่อย่างครบวงจรในทุกมิติ แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยียนตกรรมของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น การอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) และ การควบคุมและเชื่อมต่อฟังก์ชันของรถยนต์ผ่าน GWM Application แม้ในขณะผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อกและปลดล็อกประตู การค้นหารถยนต์ การปิดหน้าต่าง การปิดซันรูฟ การควบคุมระบบระบายความร้อนของเบาะ การแสดงตำแหน่งรถยนต์ การกำหนดรัศมีการใช้งานรถ และระบบตรวจสอบสถานะอื่นๆ

All New GWM TANK 500 มาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อยให้แฟนๆ ชาวไทยได้จับจอง ได้แก่ รุ่น ULTRA และรุ่น PRO โดยมีเฉดสีรถภายนอกทั้งหมด 4 เฉดสี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเทา และสีใหม่เทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA) และเฉดสีรถภายในทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และทูโทนสีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น ULTRA และตัวรถสีเทาคริสตัล)

สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ www.gwm.co.th และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการของ All New GWM TANK 500 ได้ในวันที่ 28 กันยายน 2566 นี้ เวลา 16.00 – 18.00 น. ทาง Facebook, YouTube และ TikTok ของ GWM Thailand และ GWM TANK Thailand

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save