บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ย้ำภาพความสำเร็จของโกลบอลโมเดลรุ่นยอดนิยม ALL NEW MG3 HYBRID+ สร้างยอดขายทั่วโลกสองไตรมาสรวมกว่า 32,000 คัน พร้อมการันตีความเชื่อมั่นด้วยรางวัลชั้นนำ อาทิ Affordable Car of the year 2024 จาก Auto Express UK และ รางวัล Best Value Car จาก The Business Car Awards ในสหราชอาณาจักร หลังปรากฏตัวครั้งแรกในงาน GENEVA INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2024 และในประเทศไทย เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ALL NEW MG3 HYBRID+ หนึ่งในโกลบอลโมเดลที่เป็นยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนแบรนด์ เอ็มจี ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดดเด่นด้วยนวัตกรรม และแนวทางการพัฒนายนตรกรรมพื้นฐานที่เริ่มต้นจากรถยนต์ไฮบริด และเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นล่าสุดของ เอ็มจี ที่มีนวัตกรรมทางเทคโนโลยีก้าวหน้าภายใต้การพัฒนาของ SAIC MOTOR และนับเป็นโมเดลแรกที่ผสานระบบ HYBRID+ ที่สะท้อนความตั้งใจในการมอบความสมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือกว่า และยังเป็นเครื่องยืนยันให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นว่า ไฮบริดที่ดีกว่าต้อง HYBRID+ ของเอ็มจีเท่านั้น
ALL NEW MG3 HYBRID+ โดดเด่นด้านการผสานพลังงานระหว่างเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้าอย่างลงตัว ทำให้สมรรถนะใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังคงความรู้สึกขับสนุกด้วยโกลบอลจูนนิ่งจากวิศวกรระดับโลกมาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริดที่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ของการขับขี่ได้ถึง 8 รูปแบบ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้สูงสุดถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร* ทำระยะทางได้ไกลสูงสุดมากกว่า 800 กิโลเมตร มาพร้อมกับความแรง ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที และอัตราเร่ง 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 5 วินาที มาพร้อมดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ ในระดับราคาที่เข้าถึงได้ง่าย รุ่นเริ่มต้นหรือรุ่น D อยู่ที่ 579,900 บาท และรุ่น X ในราคา 619,900 บาท
•ALL NEW MG3 HYBRID+ การันตีความเชื่อมั่นด้วยรางวัลชั้นนำ อาทิ รถยนต์ที่มอบความคุ้มค่าที่สุด “Affordable Car of the year 2024” จาก Auto Express UK และ “รางวัล Best Value Car” จาก The Business Car Awards ในสหราชอาณาจักร พร้อมยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนกันยายน รวมกว่า 32,000 คัน ทั้งยังเป็นรถยนต์ที่ผ่านคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ในการเข้ารับคัดเลือกรอบแรก และได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 รุ่น ให้เข้าสู่รอบสุดท้ายของการตัดสิน รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 (THAILAND CAR OF THE YEAR 2024) โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย – สรยท. (THAI AUTOMOTIVE JOURNALISTS ASSOCIATION – TAJA)
•ALL NEW MG3 HYBRID+ อีกหนึ่งรุ่นที่ตอกย้ำแนวทางการดำเนินธุรกิจของแบรนด์เอ็มจีครบหนึ่งศตวรรษ ในการยกระดับผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ และเป็นโมเดลที่สะท้อนภาพแนวทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในการนำเสนอยนตรกรรมไฮบริดประสิทธิภาพสูงที่จะเข้ามาแทนที่รถยนต์สันดาปภายใน โดยถือเป็นยนตรกรรมไฮบริดที่รวมทุกข้อดีของไฮบริดที่มี สู่ความลงตัวที่สุดในรุ่นนี้
สรยท. ประกาศชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้ารอบสุดท้าย THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะที่จะครองรางวัลในแต่ละสาขารถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567
สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. ประกาศรายชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์จำนวน 20 รุ่นที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเพื่อให้สมาชิกที่ทรงคุณวุฒิได้ลงคะแนนคัดเลือกอีกครั้ง เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะที่จะครองรางวัลในแต่ละสาขา นั่นคือ รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 รถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปี 2567 หรือ THAILAND EV OF THE YEAR 2024 และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 หรือ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR 2024
หลังจากที่มีการเปิดให้สมาชิกโหวตลงคะแนนไปเมื่อวันที่ 17-22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ในที่สุด สมาคมฯ ก็ได้รายชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เข้ารอบสุดท้ายจำนวน 20 รุ่นของการจัดงาน TCOTY 2024 หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 โดยแบ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในและไฮบริดจำนวน 5 รุ่น รถยนต์ไฟฟ้า-BEV จำนวน 9 รุ่น และรถจักรยานยนต์ จำนวน 6 รุ่น
ในปีนี้จะมีการมอบรางวัลโดยแบ่งออกเป็น 3 สาขา คือ รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 หรือ TCOTY 2024 หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 รถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปี 2567 หรือ THAILAND EV OF THE YEAR 2024 และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 หรือ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR 2024 โดยจะนำรถยนต์และจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 20 รุ่น มาแบ่งการทดสอบตามสาขาของรางวัลที่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์รุ่นนั้นๆ ผ่านเข้ารอบมา โดยสมาชิกผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการคัดเลือกจากสมาคมฯ จะเป็นผู้ทำการทดสอบภาคสนามและให้คะแนนในครั้งสุดท้าย
– รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี หรือ TCOTY หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR ในปีนี้มีรถยนต์ที่เข้าเกณฑ์จำนวนทั้งสิ้น 8 รุ่น และสมาชิกมีการลงคะแนนคัดเลือกรอบแรก เพื่อคัดเลือกรถยนต์ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 5 รุ่นเท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย
1. BMW Series 5 (G60)
2. HONDA Accord e:HEV
3. MERCEDES-Benz E-Class (W214)
4. TOYOTA Yaris Cross
5. MG3 Hybrid+
– รถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปี หรือ THAILAND EV OF THE YEAR ในปีนี้มีรถยนต์ที่เข้าเกณฑ์จำนวนทั้งสิ้น 18 รุ่น และสมาชิกมีการลงคะแนนคัดเลือกรอบแรก เพื่อคัดเลือกรถยนต์ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 9 รุ่นเท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย
1. AVATR 11
2. BMW i5
3. CHANGAN Deepal S07
4. HONDA e:N1
5. HYUNDAI IONIQ5 (5N)
6. MERCEDES EQS 450 4Metic
7. MG Maxus7
8. NETA X
9. ORA07
– รถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี หรือ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR ในปีนี้มีรถจักรยานยนต์ที่เข้าเกณฑ์จำนวนทั้งสิ้น 11 รุ่น และสมาชิกมีการลงคะแนนคัดเลือกรอบแรก เพื่อคัดเลือกรถจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 6 รุ่นเท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย
1. BMW R1300 GS
2. CYCLONE RA401
3. HARLEY DAVIDSON Street Glide
4. TRIUMPH SCRAMBLER 400X
5. YAMAHA PG-1
6. Zontes 350e
สำหรับรถที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายทั้ง 20 รุ่นนี้ จะมีการจัดทดสอบภาคสนามเพื่อให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการคัดเลือกจากสมาคมฯ ได้ลงคะแนน ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ที่ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ หรือ ATTRIC อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อคัดเลือกยานยนต์เพียงรุ่นเดียวที่จะเป็นผู้ชนะในแต่ละสาขาของรางวัลในปีนี้ และจะมีการจัดพิธีมอบรางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR 2024 THAILAND EV OF THE YEAR 2024 และ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR 2024 ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ที่ The HALLS Bangkok ถนนวิภาวดีรังสิต
ข้อมูลเพิ่มเติมรถยนต์ 5 รุ่นเข้ารอบตัดสิน THAILAND CAR OF THE YEAR 2024
1. BMW Series 5 (G60) – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 19 ตุลาคม 2567
การออกแบบที่เรียบง่ายแต่งดงาม ตามแนวทาง Kodo–Soul of motion
ไม่เพียงเทคโนโลยีสกายแอคทีฟเท่านั้นที่ครองใจลูกค้า แม้แต่ผู้ที่พบเห็นยังได้ยลโฉมรูปลักษณ์อันงดงามที่ตราตรึงใจ จากการออกแบบ “Kodo design” Soul of Motion หรือ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันสง่างาม โดยได้รับการถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น เรียบง่ายแต่งดงาม Less is More และถูกบรรจงสรรค์สร้างเข้าไปในรถยนต์มาสด้าทุกรุ่นจนถึงปัจจุบัน นี่คือจุดเริ่มต้นความสำเร็จครั้งสำคัญของมาสด้าที่หลอมรวมทุกองค์ประกอบสำคัญๆ มาพัฒนาจนเกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วโลก
RIDDARA เปิดตัว RIDDARA RD6 “THE FIRST EV PICK UP IN THAILAND” รถกระบะไฟฟ้า 100% ครั้งแรกในไทย นิยามใหม่ของไลฟ์สไตล์ที่ไร้ขีดจำกัดเปิดราคาเริ่มต้น 8.99 แสนบาท
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่เรามุ่งมั่นจะทำเพื่อเป็นการดูแลและตอบแทนลูกค้าทุกท่านในยามที่ต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ เราดำเนินการภายใต้แนวคิด “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” เราพร้อมจะเดินหน้าเพื่อเข้าไปช่วยแบ่งเบาและบรรเทาปัญหาของสังคมด้วยการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีแก่พนักงานและมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ ด้วยความมุ่งหวังให้องค์กรและชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถติดต่อเข้ารับบริการ และสอบถามเงื่อนไขต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิในพื้นที่ประสบภัย หรือติดต่อ SUZUKI Cause We Care หมายเลขโทรศัพท์ 1800-600-900