- Advertisement -
26.9 C
Bangkok
Home Blog Page 116

โตโยต้า เผยโฉมพรีเซ็นท์เตอร์คนใหม่ FORTUNER ตอกย้ำรถอเนกประสงค์อันดับ 1

โตโยต้า ตอกย้ำความเหนือระดับของรถยนต์อเนกประสงค์ยอดขายอันดับ 1 ​FORTUNER “Signature of Excellence” ความเหนือระดับของผู้นำ ขับสนุก 224 แรงม้า พร้อมพรีเซ็นท์เตอร์คนใหม่ “อเล็กซ์ เรนเดลล์”

​บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ประเภท PPV ในนาม FORTUNER เข้าสู่ตลาดครั้งแรกในปี พ.ศ.2555 ภายใต้โครงการ IMV:International Innovative Multi-purpose Vehicle ประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ด้วยดีไซน์อันโดดเด่น ล้ำสมัยเหนือกาลเวลา พร้อมสมรรถนะ การขับเคลื่อน ความทนทาน ดูแลรักษาง่าย ทรงคุณค่าด้วยราคาขายต่อดีเยี่ยม ยืนหนึ่งในฐานะผู้นำตลาดอันดับ 1 อย่างแท้จริง ด้วยยอดขายสะสมที่มากถึง 291,450 คัน ในปัจจุบัน (*ยอดขายสะสม ณ เดือนกรกฎาคม 2566) ตอกย้ำความความเหนือระดับแห่งผู้นำเหนือกาลเวลาด้วยรุ่นปรับปรุงใหม่ พร้อมกันทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ “GR-Sport” “LEGENDER” และ “LEADER”และเปิดตัวพรีเซ็นท์เตอร์คนใหม่ “อเล็กซ์ เรนเดลล์” CEO Environment Education center (EEC) ผู้นำการรณรงค์เรื่องรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ใช้จริงของ FORTUNER ที่พร้อมจะไปด้วยกันทุกที่ ไม่ว่าการใช้งานในเมือง หรือลุยออกทำกิจกรรมต่างๆ เสริมภาพลักษณ์ผู้นำที่โดดเด่นของผู้ครอบครอง FORTUNER อย่างแท้จริง

“GR-Sport” เสริมภาพลักษณ์อันโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ทรงพลัง สนุกสนานกับสมรรถนะการขับขี่เหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์แรงสุด 224 แรงม้า และช่วงล่างสปอร์ต เพื่ออรรถรสในการขับขี่ที่เหนือระดับในทุกเส้นทาง ศักดิ์ศรีผู้นำอย่างแท้จริง​

เติมความพิเศษเหนือระดับ

1. เพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยพลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ปรับจูนใหม่ ให้กำลัง 224 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 20 แรงม้า) แรงบิด 550 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร)

2. สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay & Android Autoแบบไร้สาย

3. มั่นใจทุกการเดินทางด้วยระบบช่วยเตือนลมยาง

4. ขับเคลื่อนเต็มกำลังด้วยช่วงล่าง Monotubeช่วยซับแรงสั่นสะเทือนเพิ่มสมรรถนะการขับขี่

5. ปลอดภัยทุกเส้นทางด้วย Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยก่อนการชน –ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ และระบบควบคุม พร้อมปรับรถความเร็วอัตโนมัติ

6. พิเศษยิ่งกว่าด้วยอุปกรณ์ตกแต่ง GR-Sport เช่น Smart Key – Push start GR – คันเร่งและเบรกอะลูมิเนียมแบบสปอร์ต – เบรกพร้อมคาลิปเปอร์สีแดง

“LEGENDER” รุ่นยอดนิยม ด้วยภาพลักษณ์อันหรูหราแบบผู้นำ พร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์และระบบความปลอดภัยไฮเทค ครบครัน

เติมความพิเศษเหนือระดับ

1. สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอ 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย

2. มั่นใจทุกการเดินทางด้วยระบบช่วยเดือนลมยาง

3. ขับเคลื่อนเต็มพลังด้วยเครื่องยนต์ 2.4 และ 2.8 GD Super Power. มีให้เลือกทั้งแบบ ขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ Sigma 4 system

4. ขับเคลื่อนเหนือระดับด้วยช่วงล่างปรับจูนพิเศษเฉพาะรุ่น LEGENDER เพิ่มความนุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือนดีเยี่ยม

5. ปลอดภัยเหนือระดับด้วย Toyota Safety sense ระบบความปลอดภัยก่อนการชน – ระบบเตือนเมื่ออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ และระบบควบคุม พร้อมปรับรถความเร็วอัตโนมัติ

“LEADER” สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ราคาเหมาะสม พร้อมดีไซน์พรีเมียม สวยสะดุดตา อมตะเหนือกาลเวลา และความคุ้มค่าด้วยระบบความปลอดภัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน

เพิ่มความคุ้มค่าเหนือกาลเวลา

1. สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย Wireless chargerเฉพาะเกรด V

2. มั่นใจทุกการเดินทางด้วยระบบช่วยเดือนลมยาง

3. ขับเคลื่อนนุ่มนวลด้วยพลังของเครื่องยนต์ 2.4 GD Super Power ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร มีให้เลือกทั้งแบบ ขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ Sigma 4 system

4. สะดวกสบายด้วยระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM) – ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA – ระบบกล้องมองรอบคัน 360 องศา (PVM)

สะดวกสบายเหนือระดับด้วยระบบเชื่อมต่อ T-Connect และประกันภัย PHYD (Pay How You Drive) ประกันภัยชั้น 1 Toyota Care ที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมการขับขี่ คำนวณเป็นคะแนนการขับขี่ “ขับดี   ลดให้” ส่งเสริมให้ลูกค้าขับรถอย่างปลอดภัย โดยคะแนนการขับขี่จะปรากฎบนแอพพลิเคชั่น T-Connect ของลูกค้าหลังการขับขี่ทุกครั้ง ซึ่งมาจากพฤติกรรมการขับขี่โดยคำนวณจาก การเร่งความเร็ว – การเบรก -การเข้าโค้ง และ ระยะทางการขับขี่

พร้อมรับความคุ้มค่าของประกันภัย PHYD

1. ลูกค้าใหม่รับส่วนลด 10% เมื่อเปรียบเทียบกับเบี้นประกันภัย โตโยต้า แคร์ ปกติ

2. ลูกค้า PHYD ที่ต่ออายุประกันภัยปีที่ 2 รับส่วนลดการต่อประกันภัยสูงสุดถึง 40% จากคะแนนการ ขับขี่ และ ส่วนลดลูกค้าประวัติดี

3. การใช้งานสะดวกสบาย ลูกค้าเพียงแค่ผูกข้อมูลรถกับแอปพลิเคชัน T-Connect เมื่อหน้าจอแอปของท่านแสดงข้อมูลรถยนต์ เช่น ระยะทาง และปริมาณน้ำมันคงเหลือก็แสดงว่ารถของท่านมีระบบเทคโนโลยี Connected ใหม่ พร้อมการเตือนต่ออายุประกันภัย

4. สิทธิประโยชน์อื่นๆ ตามมาตรฐานประกันภัย Toyota CARE อาทิ

         –  รับประกันงานซ่อมที่ศูนย์บริการตัวถัง และสีของโตโยต้า

         –  สามารถใช้บริการ ณ ศูนย์บริการตัวถังและสีของโตโยต้า กรณีเป็นประกันภัย PHYD นานสูงสุด 8 ปี

         –  บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินตลอด 24 ชม.

         –  รับบริการมาตรฐานโตโยต้า ด้วยอะไหล่แท้ที่ศูนย์บริการตัวถัง และสี ครอบคลุมกว่า 256 แห่งทั่วประเทศ

ราคาสุดคุ้ม ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา

FORTUNER Leader มี 3 รุ่นย่อย

2.4 Leader G เกียร์อัตโนมัติ                ​​​1,375,000 บาท

2.4 Leader V เกียร์อัตโนมัติ                ​​​1,505,000 บาท

 2.4 Leader V เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ        ​​1,575,000 บาท

(** สำหรับสี Platinum White Pearl และ Emotional Red เพิ่ม 12,000 บาท)

FORTUNER Legender มี 4 รุ่นย่อย

2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ     ​​​​1,618,000 บาท

​2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ     ​​1,688,000 บาท

​2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ     ​​​​1,810,000 บาท

​2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ     ​​1,874,000 บาท

(*สำหรับสี Emotional Red Black Top และ สี Platinum White Pearl Black Top เพิ่ม 20,000 บาท)

FORTUNER GR – Sport

2.8 GR Sport เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ    ​​​1,939,000 บาท

(*สำหรับสี Emotional Red Black Top และ สี Platinum White Pearl Black Top เพิ่ม 20,000 บาท)

เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นด้วยเงื่อนไขพิเศษ

ทางเลือกที่ 1 : ดอกเบี้ยพิเศษ 1.65% พร้อมประกันภัยชั้น 1 TOYOTA Care PHYD

(คำนวนจาก FORTUNER LEADER 2.4G ราคา 1,375,000 บาท ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน)

ทางเลือกที่ 2 : ผ่อนเริ่มต้น 14,544 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 TOYOTA Care PHYD

(คำนวนจาก FORTUNER LEADER 2.4G ราคา 1,375,000 บาท ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.65%)

พิเศษ! “Excellence day with Fortuner” กิจกรรมรักษ์โลก และอาหารเครื่องดื่ม พร้อมรับส่วนลด และของที่ระลึกจากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ

ร่วมเป็นเจ้าของ FORTUNERรุ่นปรับปรุงใหม่ทั้ง 3 รุ่น สะท้อนความมีระดับในการเป็นผู้นำได้แล้ววันนี้ ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.toyota.co.th/ Facebook: Toyota Motor Thailand LINE ID: @ToyotaThailand​

โตโยต้า ร่วมขับเคลื่อนอนาคต”

มาสเตอร์ฯ จัดกิจกรรมฉลองวันแม่ Happy Memories

มาสเตอร์ฯ จัดกิจกรรม ‘Happy Memories’ สร้างความทรงจำดีๆ ฉลองวันแม่ ออกรถ BMW X1 มือสอง รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ภูเก็ต พร้อมรถเช่า SIXT 5-14 ส.ค. นี้ ที่โชว์รูม BMW Millennium Auto Used Car ลาดพร้าว 112

บริษัท มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ จำกัด ศูนย์รวมรถยนต์มือสองครบวงจร ภายใต้บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม ‘Happy Memories’ ร่วมสร้างความทรงจำดีๆ ฉลองวันแม่ จัดทัพยนตรกรรม บีเอ็มดับเบิลยู X1 มือสอง รวมกว่า 50 คัน โดยมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ระหว่างวันที่ 5-14 สิงหาคมนี้ ที่โชว์รูม บีเอ็มดับเบิลยู มิลเลนเนียม ออโต้ ยูสคาร์ สาขา ลาดพร้าว 112

นายสมชาย ตระกูลภิรมย์, รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ จำกัด กล่าวว่า “เดือนสิงหาคมนี้ เราขอเชิญชวนลูกค้ามาร่วมสร้างความทรงจำดีๆ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ผ่านกิจกรรม ‘Happy Memories’ ที่เราได้คัดสรรยนตรกรรมอเนกประสงค์ยอดนิยม ‘บีเอ็มดับเบิลยู X1’ มือสอง สภาพดี ที่มีให้เลือกแบบจุใจภายในงาน ถึงก่อนมีสิทธิ์ก่อนครับ”

ตอบโจทย์ความอเนกประสงค์ กับ BMW X1 มือสอง สภาพดี การันตีคุณภาพ กว่า 50 คัน

มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ ชวนลูกค้ามาร่วมสร้างความทรงจำดีๆ ฉลองเทศกาลวันแม่แห่งชาติในเดือนสิงหาคม กับกิจกรรม ‘Happy Memories’ เอาใจแฟนๆ บีเอ็มดับเบิลยู X1 กับยนตรกรรมมือสอง สภาพดี กว่า 50 คัน มารวมไว้ให้เลือกสรรแบบจุใจในที่เดียว โดยเมื่อจองและออกรถ รับฟรี! บัตรโดยสารสายการบินไป-กลับภูเก็ต 2 ที่นั่ง พร้อมรถเช่า 2 วัน จาก ซิกท์ รถเช่า ประเทศไทย รวมมูลค่ากว่า 20,000 บาท และมีอีกหลากหลายความคุ้มค่า อาทิ

– บัตรโดยสารสายการบินราคาพิเศษ*

– ราคาเริ่มต้น 1,000,000 บาท*

– ผ่อนเริ่มต้น 13,000 บาทต่อเดือน*

– ฟรี! ประกันคุณภาพนาน 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร*

– ส่วนลดค่าอะไหล่ 10%*

– ฟรี! Mobility service*

ร่วมสร้างความทรงจำดีๆ ฉลองเทศกาลวันแม่แห่งชาติ กับกิจกรรม ‘Happy Memories’ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ ระหว่างวันที่ 5-14 สิงหาคมนี้ ได้ที่ โชว์รูม บีเอ็มดับเบิลยู มิลเลนเนียม ออโต้ ยูสคาร์ สาขา ลาดพร้าว 112

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

• โทร. 094-678-2888

• LINE: @masterusedcar https://lin.ee/cX9A5Vg

• Official Website: www.masterusedcar.com

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด        

ฮอนด้า ออกแคมเปญ-โปรโมชั่นรับหน้าฝน

ฮอนด้า ออกแคมเปญ “ฝนนี้…เช็กอินชุ่มฉ่ำ กระหน่ำโปรฯ” ตรวจสภาพรถฟรี 25 รายการ พร้อมโปรโมชันยาง 3 แถม 1 หลายยี่ห้อ ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. – 30 ก.ย. 66

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ออกแคมเปญ “ฝนนี้…เช็กอินชุ่มฉ่ำ กระหน่ำโปรฯ” ด้วยบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ รวมทั้งมอบข้อเสนอพิเศษเฉพาะลูกค้าฮอนด้า ซึ่งมาพร้อมเงื่อนไขตามที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งโปรโมชันยาง ซื้อ 3 เส้น แถม 1 เส้น อาทิ ยางโยโกฮาม่า (Yokohama) หรือยางกู๊ดเยียร์ (Goodyear) หรือยางดันลอป (Dunlop) ส่วนลดยางปัดน้ำฝน 15% ส่วนลดแบตเตอรี่ทางเลือกคุณภาพสูงยี่ห้อพูม่า (PUMA) และจีเอส (GS) รวมถึงส่วนลดแพ็กเกจเช็กระยะฮอนด้าเพย์เซฟ (Honda PaySave) โดยสามารถผ่อนชำระค่าใช้จ่ายงานบริการดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน สำหรับบัตรเครดิตธนาคารที่ร่วมรายการ และสูงสุด 8 เดือน เฉพาะบัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ และค่าใช้จ่ายยางรถยนต์นานสูงสุด 10 เดือน เพียงนัดหมายและนำรถยนต์เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 – 30 กันยายน 2566

สิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าฮอนด้าในแคมเปญ “ฝนนี้…เช็กอินชุ่มฉ่ำ กระหน่ำโปรฯ”*

รายการที่ 1  ฟรี บริการตรวจสภาพรถยนต์ 25 รายการ**

รายการที่ 2  ส่วนลด 15% สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มยางปัดน้ำฝน

รายการที่ 3  ส่วนลด 200 บาท สำหรับแพ็กเกจเช็กระยะฮอนด้าเพย์เซฟ ทั้งแบบ 2 และ 4 ระยะ สำหรับลูกค้าฮอนด้าที่มีรถยนต์อายุ 7 ขึ้นไป โดยนับจากรุ่นรถยนต์ระหว่างปี 2016 หรือก่อนหน้า และรถยนต์มีเลขไมล์ไม่เกิน 300,000 กิโลเมตรเท่านั้น

รายการที่ 4 ส่วนลด 150 บาท สำหรับแบตเตอรี่ทางเลือกใหม่ ยี่ห้อพูม่า (PUMA) แบตเตอรี่คุณภาพสูง แบบพร้อมใช้ไม่ต้องดูแลน้ำกลั่น และยี่ห้อจีเอส (GS) แบบพร้อมใช้กึ่งแห้ง

รายการที่ 5 โปรโมชันพิเศษสำหรับยางรถยนต์ ตามเงื่อนไขของบริษัทฯ

โปรโมชันซื้อ 3 เส้น แถม 1 เส้น

-ซื้อยางโยโกฮาม่า (Yokohama) 3 เส้น รับฟรี 1 เส้น สำหรับลูกค้ารถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ แจ๊ซ ซีวิค เอชอาร์-วี แอคคอร์ด และโอดิสซี

-ซื้อยางกู๊ดเยียร์ (Goodyear) 3 เส้น รับฟรี 1 เส้น สำหรับลูกค้ารถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ และแจ๊ซ

-ซื้อยางดันลอป (Dunlop) 3 เส้น รับฟรี 1 เส้น สำหรับลูกค้าที่ใช้รถยนต์

ฮอนด้า เอชอาร์-วี

โปรโมชันซื้อครบ 4 เส้น รับส่วนลดหรือของสมนาคุณ

-ซื้อยางดันลอป (Dunlop) ครบ 4 เส้น รับส่วนลดสูงสุด 1,000 บาท สำหรับลูกค้ารถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ แจ๊ซ โมบิลิโอ บีอาร์-วี และซีวิค

-ซื้อยางมิชลิน (Michelin) ครบ 4 เส้น รับส่วนลดสูงสุด 4,240 บาท สำหรับลูกค้าฮอนด้า ซิตี้ แจ๊ซ โมบิลิโอ เอชอาร์-วี ซีวิค แอคคอร์ด และซีอาร์-วี

-ซื้อยางบริดจสโตน (Bridgestone) ครบ 4 เส้น รับฟรี บัตรเติมน้ำมันปตท. 1,000 บาท สำหรับลูกค้าฮอนด้าซิตี้ แจ๊ซ โมบิลิโอ บีอาร์-วี  เอชอาร์-วี  ซีวิค แอคคอร์ด

และซีอาร์-วี

ซื้อยางกู๊ดเยียร์ (Goodyear) ครบ 4 เส้น

ขนาดล้อ 16 นิ้ว รับฟรี บัตรโลตัส 200 บาท

ขนาดล้อ 17 นิ้ว รับฟรี ร่มกอล์ฟกู๊ดเยียร์

ขนาดล้อ 18 นิ้ว รับฟรี กระเป๋าเดินทางกู๊ดเยียร์ 20 นิ้ว

สำหรับลูกค้าฮอนด้า ซิตี้  แจ๊ซ บีอาร์-วี เอชอาร์-วี  ซีวิค แอคคอร์ด และซีอาร์-วี

โปรโมชันยางอื่นๆ

-ซื้อยางฮันกุก (Hankook) รับส่วนลดสูงสุด 300 บาท/เส้น สำหรับลูกค้าฮอนด้า ซิตี้  แจ๊ซ และซีวิค

รายการที่ 6 ผ่อนชำระค่าใช้จ่ายงานบริการ ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน สำหรับบัตรเครดิตธนาคารที่ร่วมรายการ และสูงสุด 8 เดือน เฉพาะบัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ สำหรับการเข้ารับบริการ ในงานตรวจเช็กตามระยะทาง งานซ่อมทั่วไป งานซ่อมตัวถังและสี (ประเภทลูกค้าเป็นผู้ชำระเงิน) งานติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ของฮอนด้า รวมถึงลูกค้าที่ซื้อโปรแกรมอัลติเมทแคร์และแพ็กเกจเช็กระยะฮอนด้าเพย์เซฟ โดยมียอดค่าใช้จ่าย 3,000 บาทขึ้นไป

รายการที่ 7 ผ่อนชำระค่าใช้จ่ายยางรถยนต์ ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หรือ 10 เดือน (เงื่อนไขตามที่บริษัทฯ กำหนด)

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถนัดหมายนำรถยนต์เข้ารับบริการล่วงหน้า ผ่านบริการ “Online Service Booking” ที่ https://servicebooking.honda.co.th หรือทาง LINE Honda Thailand Official Account (@Honda Thailand) โดยสามารถเลือกใช้บริการพิเศษเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกับบริการ “Honda Drop & Go” เพียงนัดหมายเช็กระยะล่วงหน้า นำรถมาฝากกุญแจไว้ แล้วไปทำธุระต่อได้เลย หรือบริการ “Honda Quick Service” การนัดหมายเช็กระยะเร่งด่วน แบบรอรับรถได้ภายในเวลาที่กำหนด (ตรวจสอบโชว์รูมฮอนด้าที่ให้บริการพิเศษได้จากหน้าเว็บไซต์)

สำหรับแคมเปญ “ฝนนี้…เช็กอินชุ่มฉ่ำ กระหน่ำโปรฯ” เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 – 30 กันยายน 2566 ลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ หรือศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง (Honda Call Center) โทร. 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดที่ https://www.honda.co.th/promotions/detail/servicecampaign2023-rainy

หมายเหตุ :-

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ หรือศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง (Honda Call Center) โทร. 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.honda.co.th/promotions/detail/servicecampaign2023-rainy

** รายการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ ได้แก่

1)ตรวจวัดค่าแบตเตอรี่ด้วยเครื่องทดสอบโวลท์ / แอมแปร์ และตรวจเติมน้ำกลั่น

2)ตรวจเติมระดับน้ำในถังสำรองหม้อน้ำและถังเก็บน้ำล้างกระจก

3)ตรวจการรั่วซึมของท่อยางหม้อน้ำ บน / ล่าง

4)ตรวจทำความสะอาดไส้กรองอากาศ

5)ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง

6)ตรวจระดับน้ำมันเบรก / คลัทช์ (สำหรับรุ่นที่มี)

7)ตรวจระดับน้ำมัน พวงมาลัยพาวเวอร์ (สำหรับรุ่นที่มี)

8)ตรวจระดับน้ำมันเกียร์

9)ตรวจสภาพสายพานขับด้านนอก

10)ตรวจสภาพยางปัดน้ำฝน

11)ตรวจระดับหัวฉีดน้ำล้างกระจก

12)ตรวจสภาพยาง วัดแรงดัน / เติมลมยาง 5 เส้น

13)ตรวจการทำงานของไฟสัญญาณ / ไฟส่องสว่าง

14)ตรวจการทำงานของเข็มขัดนิรภัย

15)ตรวจการทำงานของระยะแป้นเบรก

16)ตรวจการทำงานของระยะยกคันโยกเบรกมือ

17)ตรวจการทำงานของแม่ปั๊มเบรก และหม้อลมเบรก

18)ตรวจการทำงานของระบบปรับอากาศ (ความเย็น / ช่องทางลม)

19)ตรวจสภาพของท่ออ่อนเบรก 4 ล้อ

20)ตรวจลูกหมากและยางกันฝุ่นแร็คพวงมาลัย

21)ตรวจยางกันฝุ่นเพลาขับด้านซ้าย

22)ตรวจยางกันฝุ่นเพลาขับด้านขวา

23)ตรวจถังน้ำมันเชื้อเพลิง / ท่อ และข้อต่อท่อน้ำมันเชื้อเพลิง

24)ตรวจการทำงานของเครื่องยนต์ รอบเดินเบา / การรั่วซึม

25)ตรวจช่วงล่าง ลูกยาง และลูกหมากต่างๆ

สมาคม สรยท. ร่วมแสดงความยินดีกับประธานไทยฮอนด้าคนใหม่

สมาคม สรยท. : นายกสมาคม สรยท. ร่วมแสดงความยินดีกับ ดร.อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด คนใหม

นายวชิระ เรืองมาลัย นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) พร้อมด้วยตัวแทนคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ และตัวแทนสมาชิกสมาคมฯ มาร่วมแสดงความยินดีกับ ดร.อารักษ์ พรประภา เนื่องในโอกาสได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ประธาน (Chairman) บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ฮอนด้าในประเทศไทย ณ โรงแรมรามาการ์เดนส์ ถ.วิภาวดี-รังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

GWM กวาดยอดขายครึ่งปีแรก 2566 รวม 6,222 คัน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ กวาดยอดขายครึ่งปีแรก 2566 รวม 6,222 คัน นำโดยเจ้าเหมียวไฟฟ้า ORA Good Cat และ HAVAL H6 พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในไทยอย่างต่อเนื่อง

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประกาศความสำเร็จครึ่งปีแรก 2566 ด้วยยอดขายและส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะทั้ง 5 รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่ New HAVAL H6 Hybrid SUV, HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV, HAVAL JOLION Hybrid SUV, ORA Good Cat และ ORA Good Cat GT รวมทั้งสิ้น 6,222 คัน นำโดยเจ้าเหมียวไฟฟ้า ORA Good Cat ที่มีกระแสการตอบรับและสนับสนุนจากลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่องด้วยยอดขาย 2,600 คัน ตามมาด้วย HAVAL H6 ที่ 2,051 คัน และเจ้าสิงโตอารมณ์ดี HAVAL JOLION 1,571 คัน สะท้อนกระแสความนิยมรถยนต์พลังงานใหม่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากผู้บริโภคที่มอบให้กับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งมุ่งมั่นก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ที่พร้อมขับเคลื่อนระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้ก้าวสู่สังคมพลังงานสีเขียวอย่างครบวงจร

นับเป็นอีกครั้งของความสำเร็จหลังจากที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้สร้างปรากฏการณ์ความตื่นเต้นให้วงการยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่อง และยังคงร้อนแรงไม่หยุดด้วยการประกาศนำเข้า ORA Good Cat เพิ่มในประเทศไทยกว่า 6,000 คันในปี 2566 นี้ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ นำเข้ามาปลุกกระแสตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยและยังคงได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นในปัจจุบัน โดยทำยอดขายในครึ่งปีแรกนี้อยู่ที่ 2,600 คัน โดยแบ่งเป็น ORA Good Cat จำนวน 2,106 คัน และ ORA Good Cat GT จำนวน 494 คัน โดยนับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้ส่งมอบ ORA Good Cat ให้กับลูกค้าได้ขับขี่บนท้องถนนประเทศไทยไปแล้วถึง 7,388 คัน

ในส่วนของ HAVAL H6 รถยนต์คอมแพคเอสยูวียอดนิยมที่สามารถครองยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีได้อย่างเหนียวแน่นติดต่อกันถึง 12 เดือนในปี 2565 และทำยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 รวม 2,051 คัน โดยแบ่งเป็น HAVAL H6 Hybrid SUV จำนวน 1,244 คัน และ HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV จำนวน 807 คัน โดยเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ส่งมอบ HAVAL H6 ให้แฟน ๆ ชาวไทยไปทั้งสิ้นกว่า 8,827 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายน 2564

สำหรับ HAVAL JOLION Hybrid SUV เจ้าสิงโตอารมณ์ดีที่มาพร้อมกับนวัตกรรมล้ำสมัย มอบสมรรถนะสูงสุดและความปลอดภัยเหนือระดับให้แก่ผู้ขับขี่ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและระบบความบันเทิงล้ำสมัยตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ได้รับการส่งมอบให้กับลูกค้าชาวไทยไปแล้วทั้งสิ้น 5,325 คัน โดยเป็นยอดส่งมอบในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 รวมเป็นจำนวน 1,571 คัน

ในช่วง 6 เดือนของปี 2566 ที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้สร้างความสำเร็จตามกลยุทธ์ของบริษัท 4 ประการตามที่ได้ประกาศไว้เมื่อตอนต้นปี ดังต่อไปนี้

1.ด้านการสร้างแบรนด์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงใช้กลยุทธ์ ONE GWM ที่ให้ความสำคัญกับการขาย การบริการ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในทุกมิติเพื่อสะท้อนความเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับโลกอย่างแท้จริง ผ่านการดำเนินงานการตลาด การสื่อสาร การสร้างไลฟ์สไตล์ของแบรนด์ผ่านการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในตลาดโลก รวมถึงการเน้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ผ่านการสร้างชุมชนผู้ใช้งานที่แข็งแกร่ง ภายใต้กลยุทธ์ ONE GWM นี้ บริษัทฯ ได้มีการจัด GWM Global China Tour นำสื่อมวลชนและพาร์ทเนอร์ไปร่วมชมงาน Shanghai Auto Show 2023 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมถึงการจัดกิจกรรมนำ User Committee ซึ่งเป็นตัวแทนของลูกค้าไปเยี่ยมชมโรงงานฐานการผลิตและนวัตกรรมอันล้ำสมัยของศูนย์วิจัยและพัฒนา ณ เมืองเป่าติ้ง ประเทศจีน

2.ด้านผลิตภัณฑ์ จากการประกาศ Mission 9 in 3 หรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้า 9 รุ่น ใน 3 ปี เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้มีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วทั้งสิ้น 5 รุ่นในปี 2564-2565 และในปี 2566 นี้ เราเตรียมจะเปิดตัวอีก 4 รุ่น ได้แก่ New HAVAL JOLION Sport Hybrid SUV เจ้าสิงโตอารมณ์ดีสไตล์สปอร์ต All New GWM TANK 500 Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีออฟโรดพรีเมียม GWM TANK 300 รถยนต์เอสยูวีออฟโรดสำหรับไลฟ์สไตล์อันโดดเด่น และ ORA Grand Cat รถไฟฟ้าสปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูง ที่แฟน ๆ ชาวไทยและสาวกเจ้าเหมียว ORA กำลังตั้งตารอคอยและรอลุ้นการเปิดตัวภายในปีนี้

3.ด้านการขาย เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้มีการเดินหน้าอย่างจริงจังกับการขยายธุรกิจฟลีท ผ่านการขยายกลุ่มฐานลูกค้าในบริษัทรถเช่า องค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงเจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก การเข้าร่วมประมูลหน่วยงานภาครัฐ และการสนับสนุนกลุ่มอาชีพพิเศษ โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าบริษัทรถเช่าใหญ่ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Chic Car Rent และ asap Car Rental รวมถึงการออกแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มอาชีพพิเศษอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีการเปิดดำเนินการและสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับธุรกิจรถยนต์ใช้แล้ว หรือ GWM Certified Pre-Owned เพื่อรองรับการซื้อและการขายรถยนต์ใช้แล้วของ GWM และตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่กำลังมองหารถยนต์พลังงานไฟฟ้าใช้แล้วคุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล และยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้ผู้ซื้ออุ่นใจและไร้กังวล

4.ด้านการบริการหลังการขาย  ในปีนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์การบริการหลังการขายในทุกมิติ เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของรถยนต์และลูกค้าที่ขยายตัวออกไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าด้วย GWM Smart Service ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการนัดหมายเข้ารับบริการผ่านทาง GWM Application โดยมีระบบอันล้ำสมัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบ License plate recognition system จดจำป้ายทะเบียนรถ ระบบ GWM Dealer management system ทำให้ศูนย์บริการทำความรู้จักกับลูกค้าได้ตั้งแต่ก่อนพบหน้า และลูกค้ายังสามารถติดตามสถานะการซ่อมผ่าน Vehicle status board ได้ตลอดเวลาผ่านกล้อง CCTV อีกด้วย และสุดท้ายลูกค้าสามารถดูสถานะการให้บริการ อนุมัติงานซ่อม ชำระเงิน ตรวจสอบประวัติการรับบริการ และข้อมูลการใช้จ่ายได้ทุกที่ทุกเวลาผ่าน GWM Application ซึ่งแสดงถึงความโปร่งใส จริงใจ ฉับไวในการให้บริการ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง ซึ่งเกรท วอลล์ มอเตอร์ได้เริ่มดำเนินการใช้ GWM Smart Service แล้วใน Partner Store ทั่วประเทศ

ด้านการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ปัจจุบันเกรท วอลล์ มอเตอร์ มี Direct Store และ Partner Store ที่เปิดให้บริการแล้วถึง 63 แห่งทั่วประเทศ และจะเปิดดำเนินการเร็ว ๆ นี้อีก 7 แห่งทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล (ประดิษฐ์มนูญธรรม เพชรบุรีตัดใหม่ วัชรพล สุขสวัสดิ์) และในเขตต่างจังหวัด (ชัยภูมิ มหาสารคาม สมุทรสาคร) รวมทั้งสิ้น 70 แห่ง โดยภายในปี 2566 เกรท วอลล์ มอเตอร์จะขยายเครือข่ายออกไปให้ได้ทั้งสิ้น 80 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการขยายระบบนิเวศด้านยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว (DC Fast Charge) เพิ่มขึ้นเป็น 18 แห่งทั่วประเทศในเดือน กรกฎาคมนี้ และจะเดินหน้าขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าดังกล่าวตาม Partner Store ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ให้ครอบคลุมมากที่สุด

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณทุกความไว้วางใจที่ลูกค้าของเราทุกท่านได้มอบให้กับเรามาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 2 ปี ความสำเร็จของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลอดครึ่งแรกของปี 2566 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของเรา และสะท้อนให้เห็นความสนใจและนิยมในรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นกำลังใจและแรงผลักดันสำคัญให้พวกเราทุกคนที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าอย่างมุ่งมั่นเพื่อเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย พัฒนานวัตกรรมยานยนต์และผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่หลากหลาย สร้างการบริการและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า รวมไปถึงการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ภายใต้แนวทางการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางหรือ User-centric เพื่อปรับปรุง พัฒนา และสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าอยู่เสมอ พวกเรามุ่งมั่นที่จะอำนวยความสะดวกสบาย และมอบความอุ่นใจในการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าให้กับผู้บริโภคชาวไทยทั่วประเทศ พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน”

ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Intelligent Technology) เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เดินหน้าสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องโดยการร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ควบคู่ไปกับการยึดถือผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดแก่ผู้บริโภคชาวไทย เคียงข้างเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคม เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจไทยให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ฮอนด้า ส่งมอบ “ซีวิค ไทป์ อาร์” ที่สุดแห่งยนตรกรรมความสปอร์ต

ฮอนด้า ส่งมอบ “ซีวิค ไทป์ อาร์” ที่สุดแห่งยนตรกรรมความสปอร์ต ส่งต่อจิตวิญญาณแห่งความท้าทาย แก่ลูกค้าหัวใจสปอร์ตในไทยอย่างเป็นทางการ

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ส่งมอบ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ ที่สุดแห่งยนตรกรรมความสปอร์ต แก่ลูกค้าชาวไทยหัวใจสปอร์ตกลุ่มแรก ที่จะได้เป็นเจ้าของยนตรกรรมที่ได้รับการออกแบบอย่างเหนือระดับทั้งภายนอกและภายใน มาพร้อมประสบการณ์การขับขี่ สนุกสุดเร้าใจกับขุมพลังเทอร์โบ สะท้อนความสปอร์ตโดดเด่นเฉพาะตัวในทุกเส้นทาง และสะท้อนตัวตนได้ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต โดยมีคุณสิทธิโชค อาวัฒนกุลเทพ (ที่ 7 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปส่วนการบริหารธุรกิจผู้จำหน่าย เป็นตัวแทนบริษัทฯ ส่งมอบรถยนต์ฯ อย่างเป็นทางการให้กับลูกค้า ณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด สาขาศรีอยุธยา

สำหรับ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ ได้จัดแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยสร้างความตื่นเต้นให้แก่ตลาดรถยนต์ประเทศไทย ในช่วงปลายปี 2565 หลังจากนั้น ทางบริษัทฯ ได้ประกาศเปิดรับจองสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ผ่านทางเว็บไซต์ฮอนด้า ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากสื่อมวลชนและลูกค้า  โดยฮอนด้าได้เปิดใจลูกค้าถึงความรู้สึกและความประทับใจในการได้เป็นเจ้าของที่สุดแห่งยนตรกรรมความสปอร์ต ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์

คุณกนิษฐ์ สีห์โสภณ กัปตันหนุ่ม ผู้หลงใหลในยนตรกรรมและกีฬามอเตอร์สปอร์ต กล่าวว่า “เมื่อทราบข่าวว่าฮอนด้าประกาศเปิดจอง ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ ทางออนไลน์ รู้สึกตั้งตารอ เพราะชอบรถยนต์คันนี้ ซึ่งเป็นรถที่ยิ่งดูยิ่งสวย เนื่องจากรถมีจำนวนจำกัด จึงลุ้นมากว่าจะได้หรือไม่ แต่พอทราบว่าตัวเองจองสิทธิ์ได้ ก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจ ส่วนตัวคงนำเอา ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ ออกมาขับบ้างในช่วงสุดสัปดาห์ และถือว่าเป็น Rare Item ที่น่าเป็นเจ้าของและเก็บสะสม และครั้งนี้เป็นการนำเข้าโดยแบรนด์ฮอนด้า ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าได้อย่างมาก ทั้งการรับประกันและการบริการ”

คุณสุกฤษฎิ์ นันทสอน นักธุรกิจหนุ่มแฟนพันธุ์แท้ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ “ผมโตมากับฮอนด้า เชื่อมั่นในแบรนด์ฮอนด้า แล้วเป็นเจ้าของ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ รุ่น FD2 อยู่แล้ว จึงได้สัมผัสกับสมรรถนะการขับขี่ เมื่อฮอนด้าประกาศเปิดจอง ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ รุ่น FL5 ผ่านออนไลน์ จึงตัดสินใจจองและรู้สึกดีใจมากที่ได้เป็นเจ้าของ เพราะได้ซื้อกับฮอนด้าโดยตรง มั่นใจว่ามีการรับประกัน และสามารถนำรถเข้าศูนย์บริการได้ ในส่วนการใช้งานและเมนูต่าง ๆ บนหน้าจอ ได้รับการตั้งค่ามาสำหรับลูกค้าชาวไทย ก็ช่วยให้สามารถใช้งานง่าย ซึ่งเป็นหนึ่งเหตุผลที่สำคัญที่ตัดสินใจซื้อ โดย ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ จะสามารถเข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ความสปอร์ตของผมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น”

คุณวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ผู้คร่ำหวอดในวงการมอเตอร์สปอร์ต กล่าวว่า “ตอนเริ่มขับกับทีมสิงห์มอเตอร์สปอร์ต ก็เริ่มขับด้วย ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ ซึ่งปัจจุบันที่ทีมยังคงใช้อยู่ จึงรู้สึกชอบและผูกพันกับแบรนด์ฮอนด้า แล้วปัจจุบัน ไม่ค่อยมีรถแข่งที่เป็นเกียร์กระปุก แต่ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ ถือเป็นรถที่ถ่ายทอด DNA ความสปอร์ตได้อย่างชัดเจน เรียกได้ว่าเป็นตำนานของสาย Racing และเป็น Rare Item ของรถแบรนด์ญี่ปุ่น ที่น่าเป็นเจ้าของและเก็บสะสม อีกทั้งการนำเข้าโดย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ทำให้ผมไม่ต้องกังวลเรื่องการรับประกันหรือการบริการ เพราะซื้อและดูแลโดยตรงจากแบรนด์ฮอนด้า”

คุณชนนท์ จุฑานพรัตน์ ผู้บริหารหนุ่มผู้ชื่นชอบความเร็ว กล่าวว่า “ผมชื่นชอบรถยนต์และชอบความเร็ว ส่วนตัวชอบ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ มาตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นเป็นรุ่น EK9 ครั้งนี้ที่ได้สิทธิ์เป็นเจ้าของ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ รู้สึกดีใจ ที่จะได้เป็นเจ้าของรถคันนี้ที่นำเข้ามาจำหน่ายโดยแบรนด์ฮอนด้า ช่วยให้หมดกังวลเรื่องการใช้งาน มีการรับประกัน และมีการดูแล ในเรื่องการบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งานจากช่างของฮอนด้าทั่วประเทศที่มีความเชี่ยวชาญและเชื่อถือได้”

ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ นับเป็นยนตรกรรมความสปอร์ตที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว โดยสามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความท้าทายให้กับผู้ที่ได้เป็นเจ้าของอย่างแท้จริง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/civictyper

“ชิพ-มุกข์” บิดคว้าชัย 2 รุ่นท็อป OR BRIC สนามที่ 3

ฮอนด้า ตอกย้ำความเหนือชั้น “ชิพ-มุกข์” โชว์สมรรถนะ CBR Series บิดคว้าชัย 2 รุ่นท็อป OR BRIC สนามที่ 3

ทัพนักบิดจาก “เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” สังกัดทีม “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” พร้อมด้วยรถแข่ง CBR Series ตอกย้ำศักยภาพที่เหนือกว่าอีกครั้งในการแข่งขันรายการ OR BRIC SUPERBIKE 2023 สนามที่ 3 บิดขึ้นนำและคว้าชัยชนะแบบม้วนเดียวจบของ 2 รุ่นท็อปจาก “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช กับรถแข่ง Honda CBR600RR หมายเลข 44 ในการแข่งขันรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1โปร และ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ กับรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 41  ของการแข่งขันรุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี1โปร ทำสถิติชนะ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มให้กับฮอนด้า

เริ่มต้นที่การแข่งขันรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1โปร เป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับ 2 นักบิดจากโครงการ “เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” สังกัด “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” อย่าง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช กับรถแข่ง Honda CBR600RR หมายเลข 44 และทีมเมท “นิว” ปัณณสรณ์ แก้วสนธิ กับรถแข่ง Honda CBR600RR หมายเลข 15 ทั้งสองได้เจออุปสรรคก่อนการแข่งขันจากสนามที่เปียกจากฝน แต่สมรรถนะของยอดรถแข่งจาก CBR Series นั้นยังเหนือชั้น เมื่อ “มุกข์ – มุกข์ลดา” ได้นำรถแข่งคู่ใจ Honda CBR600RR หมายเลข 44 ขึ้นนำได้ทันทีตั้งแต่ต้นเกมส์กับระดับการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ทำให้ มุกข์ลดา รักษาอันดับหนึ่งเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยคู่แข่งไม่สามารถขึ้นมาสร้างความกดดันได้ ก่อนที่จะเข้าเส้นชัยเป็นการคว้าชัยชนะแบบม้วนเดียวจบ

ขณะที่ทีมเมท “นิว” ปัณณสรณ์ แก้วสนธิ กับรถแข่ง Honda CBR600RR หมายเลข 15 บวกเวลาอย่างเต็มที่ตั้งแต่ต้นเกมส์เช่นกัน ด้วยสนามเปียกที่ลื่น “นิว-ปัณณสรณ์” จึงพลาดล้มออกไปโค้งสุดท้ายในช่วงต้นเรซ แต่สามารถกลับมาสู่เกมส์อีกครั้งและไล่ล่าอันดับคว้าอันดับที่ 3 บนโพเดียมมาครองได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นการฉลองชัยชนะได้อันดับบนโพเดียมทั้ง 2 ตำแหน่งจากสองนักบิดของ ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์

ขยับมาที่ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี1โปร “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักบิดจาก “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” สังกัดทีม “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” สนามนี้ลงแข่งขันเพียงคนเดียว เนื่องจาก “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ ทีมเมทได้รับบาดเจ็บ โดย “ชิพ – นครินทร์” ออกสตาร์ตการแข่งขันจากกริดสตาร์ตที่ 1 และสามารถขึ้นนำได้ทันที พร้อมกับโชว์ศักยภาพระดับความเหนือชั้นของการขับขี่และสมรรถนะของ CBR Series  ด้วยรถแข่ง Honda CBR1000RR-R สามารถยืดระยะนำออกไปอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะคว้าชัยชนะแบบม้วนเดียวจบ และเป็นการรักษาสถิติชนะแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มของฮอนด้าทั้งสองรุ่นท็อปอีกด้วย

ทั้งนี้ การแข่งขันศึก OR BRIC SUPERBIKE 2023 สนามที่ 4 จะกลับมาดวลกันอีกครั้งในวันที่ 21 – 24 กันยายนนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

สำหรับแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว รวมถึงส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

#WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #RaceToTheDream #MotorSport #HondaRacingThailand #ORBRIC

“ก้อง-สมเกียรติ” บินแข่งโมโตทู ลั่นพร้อมคว้าโพเดียม

“ก้อง-สมเกียรติ” บินแข่งโมโตทู ลั่นพร้อมสร้างผลงานเต็มที่ ตั้งเป้าคว้าโพเดียม เก็บคะแนนท็อปไฟว์

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทย หมายเลข 35 นักบิดผู้สร้างประวัติศาสตร์หนึ่งเดียวของไทยที่คว้าชัยชนะใน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ในรุ่น โมโตทู จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย บินมุ่งหน้าสู่อังกฤษ หลังพักเบรกการแข่งขัน กลับมาเติมพลังกับครอบครัว พร้อมฟิตซ้อมอย่างหนัก เจ้าตัวลั่นพร้อมเต็มที่สำหรับการสร้างผลงานในอีก 12 สนามต่อจากนี้ หลังได้ฝากผลงานยอดเยี่ยมด้วยการรั้งอันดับ 7 ของโลกในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รุ่น โมโตทู  โดยเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา “ก้อง สมเกียรติ” ได้บินมุ่งหน้าเพื่อเตรียมทำการแข่งขันในรายการ “บริติช กรังด์ปรีซ์” ซึ่งเป็นสนามที่ 9 ของการแข่งขัน พร้อมตั้งเป้าไล่ล่าโพเดียมจากสนามที่เหลือของฤดูกาล เพื่อติดท็อปไฟว์ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ โดยฝากแฟนๆ ช่วยส่งแรงเชียร์ในทุกสนาม โดยเฉพาะสนามโฮมเรซ รายการ “ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” ซึ่งแฟนๆ สามารถตามเชียร์ตน และซึมซับบรรยากาศอย่างใกล้ชิดที่สุดผ่าน “จันทรา สแตนด์” พร้อมรับของที่ระลึกลิขสิทธิ์แท้

“ก้อง-สมเกียรติ” เผยว่า “การกลับบ้านครั้งนี้ ผมได้ทำทั้ง 2 สิ่ง คือการพักผ่อนกับครอบครัวเพื่อเติมพลังในช่วงพักเบรกการแข่งขัน และการเตรียมพร้อมนอกสนามซึ่งสำคัญอย่างมาก สิ่งที่นักแข่งต้องทำอย่างต่อเนื่องคือ การฟิตซ้อม รักษาสภาพร่างกาย ผมได้ฝึกซ้อมอย่างหนักและทบทวนผลงานที่ผ่านมาเพื่อปรับปรุงข้อบกพร่อง เตรียมทำการบ้านสนามต่อๆ ไป ผมพร้อมสร้างผลงานเต็มที่กับสนามที่เหลือ จะทำให้เต็มที่ที่สุดทุกสนามเช่นเคย เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายในฤดูกาลนี้ด้วยการจบในท็อปไฟว์บนตารางคะแนนสะสมชิงแชมป์โลกให้สำเร็จ ผมหวังที่จะคว้าโพเดียมมาฝากแฟนๆ ที่ติดตามส่งแรงใจเชียร์ ขอขอบคุณกำลังใจจากแฟนๆ ทุกคนที่สนับสนุนผมมาโดยตลอด อย่างไรก็ฝากเชียร์ผมในทุกๆ สนามที่เหลือ โดยเฉพาะสนามที่ผมตั้งความหวังไว้มากที่สุดที่จะกลับมาแก้มือ คือ สนาม โฮมเรซ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคม นี้ ซึ่งจะมีบัตร “จันทรา สแตนด์” ที่จะได้รับของที่ระลึกลิขสิทธิ์แท้ มาใส่เชียร์ผมอย่างใกล้ชิดที่สุด ในบรรยากาศที่พิเศษที่ทุกคนมารวมตัวกันเชียร์ให้ก้อง ถือเป็นความภูมิใจของผมอย่างมาก ผมอยากชวนให้แฟนๆ รีบจับจองก่อนที่บัตรจะหมด แล้วมาพบกันนะครับ”

สำหรับ “ก้อง-สมเกียรติ” ซึ่งขณะนี้รั้งอยู่ในอันดับ 7 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 59 คะแนน มีคิวลงทำการแข่งขันในศึกโมโตทู สนามที่ 9 ระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคมนี้ ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจักร ในรายการ บริติช กรังด์ปรีซ์

ทั้งนี้ แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารของ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา พร้อมส่งกำลังใจเชียร์ยอดนักบิดไทยในศึก โมโตจีพี รุ่นโมโตทู ตลอดทั้งฤดูกาล 2023 และติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH

#WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #SC35 #Moto2 #HondaRaceToTheDream #HondaRacingThailand #IdemitsuHondaTeamAsia #RaceToTheOne

มุกข์ลดา-นครินทร์ ผงาดคว้าชัย 3 เรซติด

OR BRIC Superbike 2023 สนาม 3 ปิดฉากสุดเข้มข้น! “นครินทร์-มุกข์ลดา” ควงแขนคว้าชัย 3 เรซติด ด้าน “สิรภพ” ผงาด ซูเปอร์สต็อก

ศึกซูเปอร์ไบค์เบอร์หนึ่งของไทย “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ” ดวลความเร็วสนาม 3 สุดมัน ผ่านโค้งสุดท้ายการลุ้นแชมป์ประเทศไทยอย่างดุเดือด “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ นำโด่งคว้าชัยรุ่นใหญ่ 3 สนามติด ขณะ สิรภพ พูลศรี จาก ไบค์สตอรี่ บริดจสโตน บีบีเค ยูนิแบ็ต เรซซิ่ง ทีม เข้าวิน ซูเปอร์สต็อก ด้านนักบิดสาวแกร่ง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ฟอร์มเหนือซิวชัย ซูเปอร์สปอร์ต 3 เรซติดต่อกัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2023 สนาม 3 (OR BRIC Superbike Championship) ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2566 โดยในหลายรุ่นต้องเจอสภาพแทร็กกึ่งแห้งกึ่งเปียก  ทำให้นักแข่ง-ทีมแข่งต้องวางแผนการขับขี่อย่างหนัก สถานการณ์ลุ้นแชมป์ขับเคี่ยวกันอย่างมันหยด ท่ามกลางการติดตามของแฟนความเร็วทั่วโลก ซึ่งในปีนี้มีนักบิดต่างชาติร่วมดวลคันเร่งจากหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย, แคนาดา, สวีเดน, สหรัฐอเมริกา ฯลฯ

ไฮไลต์ของสุดสัปดาห์นี้อยู่ที่การดวลความเร็วในรุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี โดยเกมการแข่งขันในรุ่นนี้ไม่มีอะไรพลิกผันหลังจากแทร็กแห้ง เมื่อ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จ่าฝูงจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ยังคงสร้างผลงานสุดร้อนแรงบิดนำม้วนเดียวจบด้วยเวลา 19 นาที 55.034 วินาที คว้าชัยไปครองแบบหายห่วง ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม อันดับ 2 ถึง 15.869 วินาที อันดับ 3 เป็นของ “ซีเค” ชัยวิชิต นิสกุล จาก ทีเอ็นพี มอเตอร์สปอร์ต ตามหลังผู้ชนะ 24.539 วินาที ขณะที่อันดับ 4 เป็นของ วริทธิ์ ทองนพคุณ นักบิดดาวรุ่งจาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม ตามหลังผู้ชนะ 1 นาที 23.998 วินาที ตามด้วยทีมเมทอย่าง ธนิต แก้รัมย์ ในอันดับ 5 ตามหลัง 1 นาที 39.104 วินาที

เกมในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี ถือเป็นอีกเรซที่มีความพลิกผันอย่างมาก เมื่อ โคลิน บัตเลอร์ นักบิดแคนาดา จาก บัตเลอร์ เรซซิ่ง ทีม เจ้าของโพลนั้นต้องพลาดการลงแข่งขันอย่างน่าเสียดาย โดยชัยชนะตกเป็นของ สิรภพ พูลศรี จาก ไบค์สตอรี่ บริดจสโตน บีบีเค ยูนิแบ็ต เรซซิ่ง ทีม ที่บิดเข้าป้ายคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 28.586 วินาที ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง นทีธาร ทองโคตร จาก ทีเอ็นพี มอเตอร์สปอร์ต 5.172 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ พุทธินัฐ สินทรัพย์ ตามหลัง 5.571 วินาที

ขณะที่การแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี นับเป็นอีกหนึ่งเรซที่นักบิดต้องเจอกับความยากลำบาก เนื่องจากมีฝนตกลงมาระหว่างการแข่งขันแต่บางส่วนของสนามแทร็กกลับแห้ง ผลปรากฏว่า “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ บิดนำม้วนเดียวจบคว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 18 นาที 24.977 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง “ฟอง” คณาทัต ใจมั่น จาก ยามาฮ่า ไฮสปีด เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 1.492 วินาที ด้านอันดับ 3 ตกเป็นของ “นิว” ปัณณสรณ์ แก้วสนธิ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ตามหลัง 2.534 วินาที

ส่วนในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี ชัยชนะเป็นของ ภาสกร แสนหลวง จาก ยามาฮ่า ดั๊กแฮมส์ ดำ เรซซิ่ง ทีม เจ้าของโพลไล่บดกันอย่างสุดมันกับ วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม จนต้องมาตัดสินกันถึงโค้งสุดท้าย ผลปรากฏว่า ภาสกรณ์ คว้าชัยไปครองด้วยเวลา 12 นาที 44.421 วินาที เฉือนอันดับ 2 อย่าง วัชรินทร์ เพียง 0.848 วินาทีเท่านั้น ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ ภณณัฎฐ์ นิลภา จาก เน็กซ์เตอร์ โมริเท็ค เอวีอาร์พี เรซซิ่ง ตามหลังผู้ชนะ 18.653 วินาที

สำหรับผลการแข่งขันในคลาสจูเนียร์อย่าง สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี ผลปรากฏว่า อธิศ กังแฮ จาก ศักดิ์ศิริ เรซซิ่ง ทีม บุรีรัมย์ ออกสตาร์ตจากโพล บิดนำม้วนเดียวจบคว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 13 นาที 2.448 วินาที ทิ้งห่าง แอ็กเซล เพเดอร์สัน นักบิดออสเตรเลียน จาก วาโวลีน เอสเอ็มเอส เรซซิ่ง ทีม อันดับ 2 ถึง 9.400 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ วรพรต ทองดอนเหมือน จาก ยามาฮ่า ดั๊กแฮมส์ ดำ เรซซิ่ง ทีม

ทั้งนี้ ศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2023 สนามถัดไปจะมีความพิเศษอย่างมาก เพราะเป็นการดวลความเร็วถึง 2 เรซ ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาลระหว่างวันที่ 21-24 กันยายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

“ลามิน่า” แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคต่อเนื่อง 8 ปี

นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร “ลามิน่า” รับรางวัล No.1 Brand Thailand 2023 : รางวัลแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ณ โรงแรมสยามเคมปปินสกี้ กรุงเทพฯ

“ลามิน่าฟิล์ม” ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคารยอดนิยมอันดับ 1 ได้รับรางวัล No.1 Brand Thailand 2023 สะท้อนความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากผู้บริโภค ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 จัดโดยนิตยสารมาร์เก็ตเธียร์ จากผลสำรวจโดยบริษัท มาร์เก็ตติ้ง มูฟ จำกัด ด้วยคะแนนสูงสุดจากผู้บริโภคทั่วประเทศ

บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร “ลามิน่า” จากสหรัฐอเมริกา แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดย นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับรางวัลดังกล่าวด้วยคะแนนโหวตสูงสุดอันดับ 1 ในหมวดฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ ที่ได้รับความนิยมและความเชื่อมั่นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติกันร้อนกันยูวียอดเยี่ยม การบริการเหนือชั้น และการให้ข้อมูลที่แท้จริงมาโดยตลอด

การได้รับรางวัล No.1 Brand Thailand ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 สะท้อนให้เห็นว่า ฟิล์มกรองแสง “ลามิน่า” ครองใจผู้บริโภคในฐานะฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงเพียงหนึ่งเดียวที่ประสบความสำเร็จทุกด้าน ด้วยองค์กรและแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง นอกจากจะยังรักษาตำแหน่งฟิล์มกรองแสงรถยนต์คุณภาพระดับพรีเมียมที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ของเมืองไทยมาอย่างยาวนานแล้ว ยังเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคนึกถึงเป็นแบรนด์แรก

พิสูจน์ชัดถึงความสำเร็จที่ล้วนเกิดจากนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการที่ยอดเยี่ยม ไม่เคยหยุดพัฒนามาตลอด 28 ปี ลามิน่าสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาดฟิล์มกรองแสงเมืองไทยมากมาย ตั้งแต่การแนะนำฟิล์มเมทัลลิก สปัตเตอริ่ง มาถึงฟิล์มเซรามิกแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ตัวจริง และวันนี้ลามิน่าฟิล์ม ผู้นำอันดับ 1 ของตลาดฟิล์มกรองแสงเมืองไทย เปิดตลาดฟิล์มกรองแสงดิจิทัลเพื่อรถยนต์ยุคใหม่ “ฟิล์มลามิน่า ดิจิทัลบูสต์” ตอบรับเทรนด์ยานยนต์อีวี (EV)

รวมถึงสมาร์ทคาร์ยุคใหม่เป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลบูสต์ (DigitalBoost) รองรับระบบสมองกลอัจฉริยะในรถยนต์ให้ทำงานได้อย่าง เร็ว แรง ลื่น เสถียร เต็มประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์การขับขี่ และกันร้อนสูง อย่างที่ไม่เคยมีฟิล์มใดทำได้

นอกจากนี้บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงมืออาชีพระดับเอเชียแปซิฟิค ยังนำเข้าผลิตภัณฑ์ด้านยานยนต์อีกมากมาย อาทิ อุปกรณ์บรรทุกสัมภาระธูเล่ (Thule) จากประเทศสวีเดน ผลิตภัณฑ์ฟิล์มนิรภัยปกป้องสีรถลูมาร์ (LLumar) จากสหรัฐอเมริกา และผลิตภัณฑ์ดูแลรักษายานยนต์ครบวงจรแอลลักซ์ (LLux) คุณภาพเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกา แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save