- Advertisement -
35.7 C
Bangkok
Home Blog Page 95

มาสด้า ส่ง New Mazda2 นำทัพลุยงาน แบงค็อก ออโต ซาลอน

มาสด้า นำรถยนต์ทุกรุ่นภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟตะลุยงาน แบงค็อก ออโต ซาลอน นำทีมโดยน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์สุด NEW MAZDA2 ที่กำลังเป็นกระแสฟีเวอร์ทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้ ทั้งแบบ New Wave Design และ Sport Design รวมถึงรุ่นพิเศษที่บ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนที่แท้จริง มีสไตล์ที่แตกต่างไม่ซ้ำทางใครกับรุ่นพิเศษ Rookie Drive และ Clap Pop เพื่อดึงดูดบรรดาแฟนพันธุ์แท้ที่ชื่นชอบการเสริมเติมแต่ง พร้อมเอาใจคนอยากเป็นเจ้าของด้วยข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้น ดอกเบี้ยต่ำสุด 1.59%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance (MPI) 1 ปี2 และฟรีลำโพง SONY XB13 EXTRA BASS Portable Wireless Speaker มูลค่า 1,990 บาท3 เมื่อจองในงานฯ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. 66 – 2 ก.ค. 66 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี รีบมาชมโดยด่วนเพียงแค่ 5 วันเท่านั้

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพลักษณ์ความสปอร์ตเป็นสิ่งที่อยู่ในดีเอ็นเอของพวกเราชาวมาสด้า และถูกถ่ายทอดลงไปสู่รถยนต์มาสด้าจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนาน เราจึงใส่ความเป็นสปอร์ตลงไปในทุกสิ่งที่เราทำ ส่งผลให้รถยนต์มาสด้าทุกรุ่นยังคงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้ความสนุกเร้าใจในทุกการขับขี่ มีระบบช่วงล่างที่เกาะถนนหนึบแน่นทุกโค้ง มีเทคโนโลยีอันล้ำอนาคตที่ได้รับการยอมรับมาแล้วจากลูกค้าทั่วโลกรวมทั้งลูกค้าชาวไทย รวมถึง New Mazda2 รุ่นใหม่ล่าสุดที่สะท้อนภาพลักษณ์ความสปอร์ตเอาไว้ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบดีไซน์ภายนอกและภายในที่สวยสง่างามจาก โคโดะ ดีไซน์ การคัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม และอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน ระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก รวมถึงระบบการเชื่อมต่อโซเชียลมีเดียแบบไร้ขีดจำกัดกับ Mazda Connect ที่ตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในสังคมยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว

ดังนั้น มาสด้าจึงชูไฮไลท์ด้วยการนำ New Mazda2 มาจัดแสดงในงาน แบงค็อก ออโต ซาลอน เพื่อให้ลูกค้าและแฟนๆ ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ทั้งในรุ่น Sport Design ในรุ่นซีดาน 4 ประตู ที่มาพร้อม สีเทา แอโร เกรย์ สีใหม่ล่าสุดที่ยกระดับภาพลักษณ์ความสปอร์ตให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ตามด้วย New Wave Design ในรุ่นซีดาน 4 ประตู สีแดง โซล เรด คริสตัล เอกลักษณ์ของมาสด้า พร้อมรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น ที่เพิ่มความแตกต่างให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ กับ Rookie Drive Sports สีฟ้า แอร์ สตรีม บลู อีกหนึ่งสีใหม่ที่ถ่ายทอดอารมณ์สนุกสนานสดใส และ Clap Pop Sports ในสีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการพัฒนาให้โดดเด่นยิ่งขึ้นในด้านดีไซน์ แต่ยังคงวางอยู่บนพื้นฐานของแนวคิด “Less is More” ที่เน้นความเรียบง่าย แต่งดงาม มุ่งเน้นสไตล์ที่แตกต่าง จึงทำให้โดดเด่นมีเอกลักษณ์ด้วยการเป็นรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตระดับพรีเมี่ยม ที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของการเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มอบคุณค่าเกินความคาดหวังได้อย่างลงตัว

ภายในงานฯ นอกจากมาสด้าจะนำรถยนต์ New Mazda2 มาจัดแสดงให้ผู้สนใจชมกันอย่างใกล้ชิดแล้ว มาสด้ายังได้นำทัพรถ CX-Series ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟอันมีเอกลักษณ์ถึง 3 รุ่น ได้แก่ มาสด้า CX-3, มาสด้า CX-30 และ มาสด้า CX-8 มาจัดแสดงให้เลือกสรรพร้อมมอบดีลสุดพิเศษมายมาย โดยเฉพาะเมื่อออกรถ New Mazda2 กับดอกเบี้ยต่ำสุด 1.59%1 พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance (MPI) 1 ปี2 ไม่เพียงเท่านี้ ลูกค้า 50 ท่านแรกที่จองรถทุกรุ่นภายในงานฯ 3,000 บาท และออกรถภายในวันที่ 31 ก.ค. 66 มาสด้ายังขอมอบฟรีลำโพง SONY XB13 EXTRA BASS Portable Wireless Speaker มูลค่า 1,990 บาท3 ให้ฟรีอีกด้วย ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมและรับข้อเสนอนี้ได้ภายในงาน แบงค็อก ออโต ซาลอน 2023 ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. 66 – 2 ก.ค. 66 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mazda.co.th

บรรบายภาพ :-

(จากซ้ายไปขวา) บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส, มร.ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร ได้รับเกียรติเป็นอย่างสูงจาก นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานในพิธีเปิดงานฯ พร้อมด้วยคณะผู้จัดงาน แบงค็อก ออโต้ ซาลอน นำโดย มร.ฟุกุอิ จูนิชิ ผู้อำนวยการ San-ei Corporation เจ้าของลิขสิทธิ์ โตเกียว ออโต ซาลอน ประเทศญี่ปุ่น และ นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานจัดงานฯ

หมายเหตุ :

1 ดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน ยกเว้น รุ่น 1.3 C/C Sports ราคา 599,000 บาท, 1.3 Clap Pop Sports ราคา 647,000 บาท และ 1.3 Rookie Drive Sports ราคา 662,000 บาท

2 บริษัทประกันภัยที่ร่วมโครงการ ได้แก่ (1) บมจ. วิริยะประกันภัย (2) บมจ. ธนชาตประกันภัย (3) บมจ. ประกันภัยไทยวิวัฒน์ (4) บมจ. กรุงไทยพานิชประกันภัย

3 จองรถมาสด้าทุกรุ่น 3,000 บาท และออกรถภายในวันที่ 31 ก.ค. 66 รับ SONY XB13 EXTRA BASS Portable Wireless Speaker มูลค่า 1,990 บาท จำนวนจำกัด 50 ชิ้น

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สอบถามรายละเอียดข้อเสนอเพิ่มเติมได้กับที่ปรึกษาการขายภายในงานฯ

ฟอร์ดชูกลยุทธ์ “สะดวก มั่นใจ ประทับใจ” เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

ฟอร์ด ประเทศไทย เผยกลยุทธ์เสริมแกร่งบริการลูกค้ากับแนวคิด “สะดวก มั่นใจ ประทับใจ” สานต่อฐานความสำเร็จจากปีที่ผ่านมาซึ่งฟอร์ดได้ยกระดับมาตรฐานบริการด้วยนวัตกรรมบริการที่หลากหลายโดยเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถฟอร์ดที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอนการตัดสินใจซื้อจนถึงการบริการหลังการขาย พร้อมตอกย้ำนโยบายบริการแบบ “พร้อมเสมอ” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ตามพันธกิจการดูแลลูกค้าเสมือนคนในครอบครัว

นายสุรวัฒน์ จึงสมประสงค์ ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า ฟอร์ด ประเทศไทยในปีนี้ กล่าวถึงวิสัยทัศน์การดำเนินงานและความพร้อมในการเดินหน้าผลักดันความแข็งแกร่งทางด้านบริการของฟอร์ดว่า “ฟอร์ดขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่มีให้กับแบรนด์ฟอร์ด เราพร้อมส่งมอบบริการเหนือระดับเพื่อเป็นการดูแลลูกค้าที่รักและไว้วางใจในแบรนด์ฟอร์ด โดยมุ่งสานต่อบริการตามแนวคิด ‘สะดวก มั่นใจ ประทับใจ’ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาเสริมทัพความแกร่งให้ลูกค้าเข้าถึงบริการของฟอร์ดได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาบุคลากรของฟอร์ดและผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พร้อมเสมอในการบริการลูกค้า นำทีมงานออกไปพบปะและให้ความรู้กับลูกค้า รวมถึงนำความคิดเห็นของลูกค้ามาพัฒนาบริการเพื่อมอบความประทับใจในทุกมิติ”

อำนวยความ “สะดวก” ผ่านนวัตกรรมการให้บริการที่ล้ำสมัย

ฟอร์ดทราบดีว่าลูกค้ามองหาผลิตภัณฑ์และการบริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการต่างๆ ได้อย่างครอบคลุมและตรงจุด จึงนำเทคโนโลยีมาเสริมให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์แบบ “พร้อมเสมอ” หรือ ‘Always On’ ตั้งแต่การตัดสินใจซื้อจนถึงการบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็น

•ช่องทาง E-Commerce ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อรถผ่านอุปกรณ์มือถือ โดยมีผู้สนใจขอใบเสนอราคาผ่านช่องทางนี้แล้วกว่า 7,000 คน

•โชว์รูมออนไลน์ มอบโอกาสให้ลูกค้าเยี่ยมชมรถฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ ที่มอบประสบการณ์ชมรถเสมือนจริงผ่านเทคโนโลยีอิมเมอร์ซีฟ เอดจ์ แบบ 360 องศา เสมือนอยู่ที่โชว์รูมจริง และยังนัดหมายให้ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์มาแนะนำรายละเอียดรถในจุดต่างๆ ที่ลูกค้าสนใจ โดยมีผู้เยี่ยมชมกว่า 200,000 ราย ตั้งแต่เปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2565

ด้านบริการหลังการขาย ฟอร์ดได้พัฒนา Smart Service นำนวัตกรรมด้านบริการแบบ ‘พร้อมเสมอ’ มาอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในยุคดิจิทัล โดยได้พัฒนาจุดแข็งที่มีอยู่เดิมให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าผ่านแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส (FordPass) ตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มประสบการณ์การเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานกับรถฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ ทั้งการสตาร์ตรถจากระยะไกล ตรวจสอบสถานะรถ รับการแจ้งเตือนสถานะและตำแหน่งรถยนต์ หรือจองเพื่อเข้าใช้บริการต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีข้อมูลอัปเดต ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2566 ด้านการใช้บริการต่างๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้

•ปัจจุบัน ประเทศไทยมีลูกค้ารถยนต์ฟอร์ดเจเนเรชันใหม่ เปิดใช้โมเด็มและดาวน์โหลดแอปฯ สูงถึง 94% และมียอดการดาวน์โหลดแอปฯ สำหรับลูกค้ารถยนต์ฟอร์ดรุ่นเดิมมีมากกว่า 32,000 คน

•การนัดหมายรับบริการผ่าน Online Service Booking ผ่านแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส และเว็บไซต์ฟอร์ด ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มียอดการใช้บริการกว่า 43,000 ครั้ง โดยมียอดการใช้บริการกว่า 7,000 ครั้งต่อเดือน

•บริการรถให้บริการเคลื่อนที่ (Mobile Service Vehicle) ซึ่งมีจุดเด่นคือการยกระดับการให้บริการลูกค้านอกสถานที่ได้สะดวก หลากหลาย และครอบคลุมยิ่งขึ้น เข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ห่างไกลด้วยมาตรฐานเดียวกันกับศูนย์บริการ โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีลูกค้าเรียกใช้งานรวมกว่า 8,700 ครั้ง เฉลี่ยมากกว่า 1,000 ครั้งต่อเดือน

•บริการรับ-ส่งรถนอกสถานที่ (Pick Up & Delivery) ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงพฤษภาคม มียอดการใช้บริการกว่า 10,000 ครั้ง

•บริการรับประกันเช็คระยะใน 60 นาที (Express Service) ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มียอดการใช้บริการกว่า 31,000 ครั้ง

สร้างความ “มั่นใจ” ในการเป็นเจ้าของรถฟอร์ด

การพัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากร ถือเป็นรากฐานที่ฟอร์ดให้ความสำคัญมาโดยตลอด ฟอร์ดได้ทุ่มเงินลงทุนกว่า 224 ล้านบาท ในการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมบุคลากรฟอร์ด ซึ่งสามารถรองรับการให้การอบรมการพัฒนาทักษะสำหรับช่างเทคนิค ฝ่ายขายและบริการ ได้มากกว่า 500 หลักสูตร และยังเป็นที่ตั้งของฝ่ายบริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ฟอร์ด (Ford Call Center) และทีมงานผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ฟอร์ด นอกจากนี้ ฟอร์ดยังส่งเสริมให้ช่างเทคนิคพัฒนาทักษะความสามารถของตนเองด้วยการจัด Technician Skills Contest เพื่อเป็นเวทีให้ช่างเทคนิคได้เข้ามาแข่งขันและแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อพัฒนาความชำนาญ โดยมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากฟอร์ดควบคุมคุณภาพการแข่งขันอย่างเข้มข้นทุกขั้นตอน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าคุณภาพการบริการจะเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลกของฟอร์ด

ในปี 2565 ฟอร์ดได้จัดตั้งโครงการ Rapid Response Hub ที่เริ่มครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อกระจายการดูแลลูกค้าให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค โดยจัดทีมวิศวกรฟอร์ดที่มีความเชี่ยวชาญเข้าไปทำงานร่วมกับช่างเทคนิคผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศอย่างทันท่วงที เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้รถของลูกค้า ช่วยให้ลูกค้านำรถกลับไปใช้งานได้เร็วยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีบริการ Rapid Response Hub ทั้งหมด 14 แห่ง ทั่วประเทศ

สำหรับการให้ความรู้เกี่ยวกับรถฟอร์ดเพื่อช่วยให้เจ้าของรถมั่นใจและสามารถใช้งานรถให้เกิดประโยชน์สูงสุด ฟอร์ดได้ริเริ่มโครงการที่น่าสนใจต่างๆ ต่อไปนี้

•โปรเจ็กต์ Talk to the Experts ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 มุ่งเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการใช้งานรถผ่านการพูดคุยกับทีมวิศวกรภาคสนามของฟอร์ด ในปี 2566 ฟอร์ดเดินสายจัดกิจกรรม ณ ศูนย์บริการฟอร์ด 46 แห่งใน 34 จังหวัดทั่วประเทศ โดยในปี 2565 ฟอร์ดได้รับผลการตอบรับจากลูกค้าดีมากด้วยระดับคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรมสูงถึง 99%

•โปรแกรม “รอบรู้รถฟอร์ด” หรือ Discover Your Ford ช่วยให้เจ้าของรถสามารถเข้าถึงข้อมูลและดูแลรถได้ด้วยตนเองผ่านช่องทางและกิจกรรมต่างๆ ในปี 2566 มีผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้ถึง 12,991 คน และมีผู้เข้าชม Content ผ่านช่องทาง Facebook และ YouTube กว่า 529,000 ครั้ง และยังมีกิจกรรมยกระดับประสบการณ์ลูกค้าฟอร์ด เพื่อเรียนรู้วิธีการใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ของรถทั้งบนทางเรียบและถนนออฟโรด โดยในปีนี้ ฟอร์ดได้ดูแลครอบครัวลูกค้าผ่านกิจกรรมดังกล่าวไปแล้วกว่า 180 ครอบครัว

สำหรับลูกค้าฟอร์ดที่มีใจรักในการสร้างเอกลักษณ์ให้กับรถคู่ใจ ฟอร์ดมีอุปกรณ์ตกแต่ง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าที่หลากหลาย เสริมภาพลักษณ์และตัวตนของลูกค้าฟอร์ดไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์แต่งแท้จากฟอร์ด และ ARB ซึ่งมีจุดแข็ง คือ ผ่านการทดสอบโดยวิศวกรฟอร์ดตามมาตรฐานฟอร์ด มีการรับประกัน 5 ปี 150,000 กม. เท่ากับตัวรถ และติดตั้งโดยทีมงานฟอร์ดผู้เชี่ยวชาญ

การันตีความใส่ใจ มอบความ “ประทับใจ” ในทุกมิติ

ฟอร์ดพร้อมยกระดับบริการที่น่าประทับใจ เพื่อสร้างคุณค่าและภาพลักษณ์แบรนด์เชิงบวกที่ยั่งยืน โดยยึดความคิดเห็นของลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการมากยิ่งขึ้น โดยฟอร์ดจะติดตามความพึงพอใจและสำรวจความคิดเห็นจากลูกค้าทุกครั้งที่เข้ารับบริการ รวมถึงเปิดรับความคิดเห็นลูกค้าจากหลากหลายช่องทาง อาทิ ฝ่ายบริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ (Ford Call Center) โทร 1383 ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และยังมีทีมค้นหาและช่วยเหลือ ที่สืบค้นข้อมูลบนโลกออนไลน์เพื่อเข้าไปให้การดูแลลูกค้าได้ทันท่วงที “เพราะลูกค้าคือคนสำคัญที่ฟอร์ดให้ความใส่ใจ ฟอร์ดจึงพร้อมตอบแทนความไว้วางใจของลูกค้าด้วยการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดผ่านนโยบายแบบ “พร้อมเสมอ” เพื่อดูแลลูกค้าทุกคนเสมือนคนในครอบครัว” นายสุรวัฒน์ กล่าวปิดท้าย

กรังด์ปรีซ์ฯ สถานประกอบกิจการต้นแบบปลอดยาเสพติด

กรังด์ปรีซ์ฯ รับมอบประกาศเกียรติคุณ สถานประกอบกิจการต้นแบบปลอดยาเสพติดจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน วันต่อต้านยาเสพติดโลก ประจำปี 2566

บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) โดยนางสาวปิยนุช แจ่มศิริพรหม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้า/ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มอบหมายให้นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ สายการผลิต เป็นผู้แทนบริษัทฯ รับมอบประกาศเกียรติคุณ สถานประกอบกิจการต้นแบบปลอดยาเสพติด โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งมีนายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เป็นประธานฯ และมอบประกาศเกียรติคุณ แก่สถานประกอบกิจการที่เป็นแบบอย่างที่ดีในการบริหารจัดการปัญหายาเสพติด พร้อมร่วมกันแสดงสัญลักษณ์ และการกล่าวคำปฏิญาณตนแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านยาเสพติด ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 10 โดยมีนายจ้าง ลูกจ้าง เจ้าของสถานประกอบกิจการ ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) กรมส่งเสริมสุขภาพจิต สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร องค์กรภาคีเครือข่ายภาครัฐ/เอกชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานกว่า 300 คน ใน “วันต่อต้านยาเสพติดโลก” วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 ถนนมิตรไมตรี ดินแดง กรุงเทพฯ

โดยองค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก เพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลกตระหนักถึงภัยคุกคามของยาเสพติด ซึ่งประเทศไทยได้ยึดถือปฏิบัติและยืนยันเจตนารมณ์ในการต่อต้านยาเสพติดร่วมกับประชาคมโลกเรื่อยมา กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจกำกับดูแลและคุ้มครองแรงงาน ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการ มีวัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้แรงงานเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดในทุกรูปแบบ รวมถึงดูแลให้สถานประกอบกิจการให้เป็นพื้นที่ปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินโครงการส่งเสริมระบบการจัดการด้านยาเสพติด ได้แก่ โครงการโรงงานสีขาว และมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการ (มยส.) ซึ่งในปี 2565 ที่ผ่านมานั้น มีสถานประกอบกิจการทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการโรงงานสีขาว จำนวน 1,693 แห่ง ลูกจ้างหรือแรงงาน ที่เกี่ยวข้อง 64,654 คน และตลอดโครงการฯ ที่ผ่านมาได้รับการรับรองมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการ (มยส.) ไปแล้วกว่า 900 แห่ง

โดยผู้บริหาร และพนักงาน บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมยึดถือปฏิบัติ และยืนยันเจตนารมณ์ในการต่อต้านยาเสพติด ภายใต้กรอบแนวคิด “รวมพลังไทย หยุดภัยยาเสพติด” เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อน ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ตระหนักถึงภัยคุกคามของปัญหายาเสพติด ที่ยังคงเป็นวาระสำคัญของชาติ และยังส่งผลผลกระทบต่อมวลมนุษยชาติทั่วโลกอีกด้วย

นายก สรยท. ย้ำหน้าที่สื่อยานยนต์ยึดหลักจริยธรรม

สรยท.จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยมีนายวชิระ เรืองมาลัย นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thai Automotive Journalists Association : TAJA เป็นประธาน พร้อมกล่าวย้ำ “สื่อยานยนต์ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดจริยธรรม” ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกสมาคมที่เข้าร่วมประชุมคับคั่งกว่า 200 ชีวิต ที่ให้การสนับสนุนสมาคมมาโดยตลอดจนมีอายุครบ 2 รอบหรือ 24 ปี 

 “ในฐานะที่เป็นผู้ได้รู้เห็นและร่วมงานในฐานะสมาชิกมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทยเมื่อ 20 กว่าปีก่อน จากสมาชิกเพียงไม่กี่สิบคน จนปัจจุบันเรามีสมาชิกเพิ่มเป็นกว่า 200 คน รู้สึกยินดีที่ได้เห็นความเติบโตและความสามัคคีของสื่อมวลชนสายยานยนต์ตลอดเวลาที่ผ่านมา และอยากขอให้สื่อมวลชนสมาชิกสมาคมฯ ทำหน้าที่รายงานข่าว หรือสื่อสารข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงให้กับประชาชน โดยยึดหลักจริยธรรมสื่อ เพื่อให้อาชีพนี้เป็นที่ยอมรับ และเป็นที่น่าเชื่อถือของสังคมต่อๆ ไป” นายวชิระ กล่าวและว่า

สื่อในยุคปัจจุบันมีความหลากหลาย และเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสื่อประเภทออนไลน์ ซึ่งข่าวสารที่ถูกนำเสนอ มีทั้งเรื่องจริง และเท็จ ดังนั้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก ในฐานะนายกสมาคมสื่อฯ จึงอยากเห็นการพัฒนาของสื่อมวลชน เติบโตไปในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสม และเป็นที่ยอมรับของสังคมส่วนรวม

ด้านการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 นั้น นายกันต์ เย็นสบาย กรรมการ สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. กล่าวถึง การดำเนินกิจรรมของสมาคมในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาว่า ในทุกๆ กิจกรรม ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากสมาชิกสมาคมฯ และองค์กรภายนอกเป็นอย่างดี ทั้งการอบรม สัมมนาให้ความรู้กับสมาชิกฯ และประชาชนทั่วไป รวมถึงการมอบสวัสดิการต่างๆ ให้กับสมาชิก ทั้งการตรวจสุขภาพประจำปี การมอบทุนการศึกษาบุตร-ธิดา การจัดทำประกันอุบัติเหตุ และการมอบเงินช่วยเหลือให้กับสมาชิกในกรณีต่างๆ

อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ยังมีอีกกิจกรรมที่ได้รับความสนใจ และถือเป็นภารกิจสำคัญของสมาคมฯ คือการ พิจารณาตัดสินมอบรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี (THAILAND CAR OF THE YEAR) และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี (THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR) ในทุกๆ ปี

โดยการพิจารณานั้นสมาคมฯได้เน้นย้ำให้กับผู้สื่อข่าวที่มีความรู้ ความสามารถ และมากประสบการณ์ ให้คะแนนจากหัวข้อที่กำหนดตามมาตรฐานของระบบการคัดเลือก THAILAND CAR & MOTORCYCLE OF THE YEAR ซึ่งเป็นตามมาตรฐานสากล เพื่อให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ได้รับรางวัลในแต่ละปีเป็นรถยอดเยี่ยมประจำปีของประเทศไทยอย่างภาคภูมิใจ ของทั้งผู้ผลิตและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของรถยนต์และจักรยานยนต์รุ่นนั้นๆ

ปี 2565 ที่ผ่านมา รางวัล THAILAND CAR OF THE YEAR สมาคมได้รับเกียรติจาก นายสุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้มอบรางวัลดังกล่าวอีกด้วย นั่นแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานของรางวัลที่นับวันจะสูงขึ้นและเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากขึ้น เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้จัดงาน คือ สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย

ด้านนายประกาศิต ปริญญาชัยศักดิ์ กรรมการและนายทะเบียน สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. กล่าวถึงข้อบังคับเกี่ยวกับคุณสมบัติของสมาชิก ซึ่งปัจจุบันมีสื่อมวลชนสายยานยนต์ โดยเฉพาะสื่อประเภทออนไลน์ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีบางส่วนต้องการเข้ารวมเป็นสมาชิกสมาคมฯ แต่เนื่องจากข้อบังคับของสมาคมฯ ต้องมีขั้นตอนการกลั่นกรอง การตรวจสอบคุณสมบัติ ความถูกต้อง และเหมาะสม ดังนั้นการรับสมาชิกเป็นสิ่งที่สมาคมฯ ตระหนักว่า ควรจะเป็นผู้สื่อข่าว หรือสื่อสารมวลชนที่เป็นสื่อจริงๆ นั้นเอง

อย่างไรก็ดี ในอนาคตน่าจะมีการพิจารณาเรื่องคุณสมบัติของการรับสมาชิก เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของโลกยุคดิจิตอล ซึ่งในส่วนนั้นต้องเป็นการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่สมาคมฯ ในการแก้ไขข้อบังคับเหล่านี้ต่อไป

ด้านนายวชิระ เรืองมาลัย นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thai Automotive Journalists Association : TAJA ตอบข้อซักถามของสมาชิกในประเด็นการพิจารณาตัดสินรางวัล รถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2566 (THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR 2023) ที่จะถึงนี้ว่า การพิจารณารางวัลดังกล่าวยังคงดำเนินการต่อเนื่องในปีนี้ ขั้นตอนและการดำเนินงาน จะมีการตั้งคณะทำงานการตัดสิน และมอบรางวัล ในเร็วๆ นี้ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า คณะทำงานที่จะตั้งขึ้นอาจจะมีทั้งสมาชิกที่มาจากสายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ โดยจะพิจารณาจากความสามรถและประสบการณ์การทำงานเป็นสำคัญ

นอกจากนี้ในวันเดียวกัน สรยท.ยังได้จัดกิจกรรมการแข่งขันกอล์ฟการกุศล TAJA GOLF CHARITY 2023 โดยได้รับการสนับสนุน จากบรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจยานยนต์ และเกี่ยวเนื่อง เข้าร่วมงานอย่างคับคั่งอีกด้วย ซึ่งในปีนี้ ใช้กติกาการแข่งขันแบบ 36System & Stable ford โดยไฮไลต์ ของการแข่งขัน ในครั้งนี้ คือรางวัลโฮลอินวัน 4 หลุม หรือรางวัล TAJA GOLF CHARITY 2023 HOLD IN ONE โดยได้รับการสนับสนุนจาก ฟอร์ด ประเทศไทย, บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด โดยนายกสมาคมฯ ยังได้กล่าวแสดงความขอบคุณผู้สนับสนุนทุกฝ่ายทุกภาคส่วนที่ทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

ลามิน่าฟิล์ม ส่ง Lamina Digital EV Boost รุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

ลามิน่าฟิล์ม รุกหนักตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ส่ง Lamina Digital EV Boost ฟิล์มดิจิทัลบูสต์เพื่อรถไฮบริด/อีวี และสมาร์ทคาร์อัจฉริยะโดยเฉพาะ ผนึกคุณสมบัติกันความร้อนยอดเยี่ยม ช่วยลดภาระการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับระบบปรับอากาศภายในรถและเครื่องยนต์ พร้อมบูสต์สัญญาณดิจิทัลทำงาน 5G สมบูรณ์แบบ รับแนวโน้มตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตเหนือตลาดรถยนต์ปีนี้

นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร “ลามิน่า” ฟิล์มกลุ่มพิเศษ “ลูมาร์” คุณภาพสูง ผลิตโดยซีพีฟิล์มอิงค์ มาตรฐานไอเอสโอ 9001 ในเครือบริษัท อีสต์แมน เคมิคัล จากสหรัฐอเมริกา และอุปกรณ์บรรทุกสัมภาระธูเล่ จากประเทศสวีเดน

รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ครบวงจร “แอลลักซ์” คุณภาพเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกา แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และตลาดสมาร์ทคาร์อัจฉริยะ น่าจะมีการเติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวมปีนี้ เป็นผลมาจากทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกเติบโตไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังพบว่าภาครัฐบาลเองก็มีแนวโน้มการสนับสนุนอุตสาหกรรมดังกล่าวไปในทิศทางเดียวกัน ด้วยการออกมาตรการสนับสนุนที่คาดว่าจะมีความชัดเจนและพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงกลางปีนี้ ทำให้ผู้ผลิตสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคเช่นกัน

“สำหรับลามิน่าฟิล์ม เรามีความเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจยานยนต์รูปแบบใหม่ เนื่องจากโรงงานซีพีฟิล์มอิงค์ ในประเทศสหรัฐอเมริกามีประสบการณ์กับรถยนต์กลุ่มนี้มายาวนาน ทำให้มีการพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึง Lamina Digital EV Boost ฟิล์มกรองแสงดิจิทัลบูสต์ ที่เราเปิดตัวในประเทศไทยในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 เป็นครั้งแรก”

ลามิน่า ดิจิทัล อีวี บูสต์ จะเข้ามาเป็นฟิล์มกรองแสงซีรี่ย์ที่ 5 ที่พร้อมรองรับความต้องการของเจ้าของรถยนต์ในยุคดิจิทัล โดยฟิล์มรุ่นนี้ มีการพัฒนาขึ้นมาเพื่อรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้า และสมาร์ทคาร์อัจฉริยะโดยเฉพาะ ด้วยการผลิตจากนวัตกรรม AiCeramic 100% พร้อมด้วยเทคโนโลยี DigitalBoost ที่ทำให้ได้ฟิล์มกันร้อน กันยูวีที่ดีเยี่ยม รวมถึงช่วยประหยัดพลังงานเป็นเลิศ

ความพิเศษอีกอย่างของฟิล์มกรองแสงซีรี่ย์นี้ ก็คือด้วยประสิทธิภาพการป้องกันความร้อนที่สูงเป็นพิเศษจึงช่วยลดภาระการทำงานของระบบปรับอากาศภายในรถ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในแบตเตอรี่ให้ได้นานมากขึ้นกว่าเดิม และยังช่วยบูสต์สัญญาณดิจิทัลต่าง ๆ ภายในรถทั้ง 5G และ WiFi ให้ทำงานได้อย่างเร็ว แรง ลื่น และเสถียร อีกทั้งยังให้วิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมในทุกช่วงเวลาและสภาพอากาศ

Lamina Digital EV Boost จะเข้ามาเสริมทัพฟิล์มกรองแสงดิจิทัลที่ลามิน่าฟิล์มเป็นผู้นำตลาดอยู่ในปัจจุบัน จากการมีสินค้าทำตลาดแล้ว 4 ซีรี่ย์ ประกอบไปด้วย Lamina Digital Ceramatrix ฟิล์มเซรามิคแท้ตัวจริงคุณภาพอันดับหนึ่ง Lamina Digital CM Icon ฟิล์มเพื่อผู้ใช้รถยุค 5G Lamina Digital CM One ฟิล์มเพื่อรถสมาร์ทคาร์ใหม่ป้ายแดงและ Lamina Digital Mystery ฟิล์มถนอมดวงตาเพื่อสุขภาพ

“ด้วยเทคโนโลยี Lamina Digital Boost บูสต์ชีวิตให้เป็น 1 เดียวกับโลกดิจิทัล จะทำให้ฟิล์มกรองแสงลามิน่า รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณดิจิทัล 5G และ WiFi ภายในรถทุกระบบทั้งระบบอินโฟเทนเมนต์และระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงการอัพเดทซอฟท์แวร์และเฟิร์มแวร์อัตโนมัติโดยไม่ทิ้งคุณสมบัติพื้นฐานอย่างการกันความร้อนและการกันรังสียูวี ซึ่งลามิน่าฟิล์มทำได้อย่างที่ไม่เคยมีฟิล์มกรองแสงใดทำได้มาก่อน”

นางสาวจันทร์นภากล่าวว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานรูปแบบใหม่จะเป็นเทรนด์ที่สำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย โดยมีการประเมินว่าตลาดรถยนต์พลังงานใหม่จะมียอดจำหน่ายเพิ่ม 100% เป็นราว 1 แสนคันในปีนี้ ขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ก็อาจจะมียอดจดทะเบียนสูงถึงเกือบ 2 หมื่นคัน ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เติบโตเหนือกว่าการขยายตัวของอุตสาหกรรมในภาพรวม

ทั้งนี้ มีการประเมินว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2565 อาจจะขยายตัวได้ถึง 8-10% หรือคิดเป็นตัวเลข 8.4 – 8.5 แสนคัน ซึ่งหากขยายตัวตามตัวเลขนี้ ก็น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในประเทศไทยให้ขยายตัวตามเช่นกัน โดยลามิน่าประเมินว่าตลาดฟิล์มกรองแสงจะขยายตัวที่ระดับ 8% และบริษัทตั้งเป้าหมายรายรับในปี 2565 ที่ 740 ล้านบาท เติบโต 10% ซึ่งเป็นการเติบโตเหนือตลาด

สำหรับการเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ ลามิน่าฟิล์มมาพร้อมแนวคิด Boost Up Your Life พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อจองติดตั้งฟิล์มลามิน่าในซีรีย์ Digital Boost รุ่นใดก็ได้ เลือกรับโปร ผ่อน 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน พร้อมรับชุดผลิตภัณฑ์ดูแลปกป้องยานยนต์แอลลักซ์จากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือเลือกเป็นเครื่องฟอกอากาศภายในรถ มูลค่ารวมกว่า 3,000 บาท

โปรโมชั่นนี้เริ่มตั้งแต่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 ที่บู๊ธลามิน่า รหัสบี 2 อิมแพค อาคารชาเลนเจอร์ 1 เมืองทองธานี เท่านั้น พร้อมรับชมสินค้าที่ยกทัพกันมาอย่างเต็มที่ โปรโมชั่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจตลอดทั้งงาน หรือเลือกจองผ่าน Laminafilms.com ก็ได้เช่นกัน รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ โทร. 02-422-2345

“ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของสินค้าและโปรโมชั่นเท่านั้น ลามินาฟิล์มยังยึดมั่นในการให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด ด้วยประสบการณ์ในประเทศกว่า 27 ปี และเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายกว่า 770 แห่งทั่วประเทศ การรับประกันคุณภาพสินค้านาน 7 ปี พร้อมบริการให้คำปรึกษาออนไลน์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าจะได้รับบริการที่ดีที่สุดเหนือใคร” นางสาวจันทร์นภา กล่าวสรุป

สรยท. จัดอบรมทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ

สรยท. จับมือโรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ (SPIRIT ADVENTURE GROUND) และฟอร์ด ประทศไทย จัดกิจกรรม “TAJA Skill Driving 4×4 Experience” จัดอบรมหลักสูตรขับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ เบื้องต้น ด้วยรถยนต์ Ford Ranger Raptor ณ สนาม SPIRIT ADVENTURE GROUND จังหวัดนครนายก ให้กับกรรมการสรยท. พร้อมได้เชิญสมาชิกอาวุโสที่คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมยานยนต์เข้าร่วมกิจกรรมและสังเกตการณ์เพื่อต่อยอดโครงการนำร่องจัดให้กับสมาชิสรยท.เพิ่มทักษะวิชาชีพในโอกาสต่อไป

นายวชิระ เรืองมาลัย นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thailand Automotive Journalists Association : TAJA กล่าวว่า ในปีนี้สมาคมฯ ได้ริเริ่มโครงการและกิจกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มทักษะวิชาชีพให้กับสมาชิก ประเดิมด้วยกิจกรรมแรก “TAJA Skill Driving 4×4 Experience” เป็นจัดอบรมหลักสูตรขับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ เบื้องต้น ด้วยรถยนต์ Ford Ranger Raptor ณ สนาม SPIRIT ADVENTURE GROUND จังหวัดนครนายก โดยได้รับการสนับสนุนรถยนต์ Ford Ranger Raptor จากบริษัท ฟอร์ด เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และได้รับการสนับสนุนสถานที่และครูฝึกมืออาชีพจากโรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ สนาม SPIRIT ADVENTURE GROUND จังหวัดนครนายก

“กิจกรรม “TAJA Skill Driving 4×4 Experience” เป็นการจัดอบรมหลักสูตรขับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ เบื้องต้น เป็นโครงการนำร่องให้กับกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) และในโอกาสนี้สมาคมฯ ได้เชิญสมาชิอาวุโสจำนวนหนึ่งเข้าร่วมกิจกรรมและร่วมสังเกตการณ์อีกด้วย โดยวัตถุประสงค์หลักของกิจกรรรมในครั้งนี้เพื่อทักษะวิชาชีพให้กับสมาชิก และในอนาคตจะขยายโครงการนำร่องนี้ไปจัดให้กับสมาชิกสมาคมฯ ในโอกาสต่อไป”

นายวชิระ กล่าวต่อไปว่า สำหรับหลักสูตรฝึกอบรมขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เบื้องต้น ครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่อบรม ทั้งภาคทฤษฎี-ภาคปฏิบัติ เป็นการจำลองสถานการณ์ในสถานีต่างๆ อาทิ สถานีเนินสูง, สถานีเนินสลับ, สถานีเนินเอียง, สถานีเนินชัน, สถานีเนินลูกระนาด, สถานีขับรถผ่านอุปสรรคลุยน้ำลึก เป็นต้น

ทางด้านนางสาวสุกานดา ปภัสร์พงษ์ ผู้อำนวยการกองสื่อสารองค์กร บริษัท สื่อสากล จำกัด ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ กล่าวว่า โรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ มีความยินดีให้การสนับสนุนสมาคมฯ ในการจัดกิจกรรมในครั้ง ทางโรงเรียนมีครูมืออาชีพไว้คอยถ่ายทอดความรู้การขับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ อย่างถูกวิธี ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงในชีวิตและการเข้ามาเรียนรู้ฝึกฝนอย่างถูกวิธีนอกจากจะเป็นการเพิ่มทักษะแล้ว ยังจะเพิ่มความปลอดภัยได้อีกด้วย

ขณะที่นางสาวนิดา ชัชวรัตน์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์แบรนด์รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ บริษัท ฟอร์ด เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า รถยนต์ Ford Ranger Raptor เป็นรถยนต์สมรรถนะสูงระดับพรีเมียมที่ได้รับการตอบอย่างสูงจากลูกค้าชาวไทย การสนับสนุนรถยนต์ Ford Ranger Raptor กับสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ใช้ในการอบรมหลักสูตรฝึกอบรมขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ กิจกรรม “TAJA Skill Driving 4×4 Experience” ในครั้งนี้มั่นใจว่า สมาชิกฯ ที่เข้าฝึกอบรมในภาคปฏิบัติจะได้สัมผัสประสบการณ์ตรงถึงสมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ฟอร์ดภาคภูมิใจอีกครั้ง และสามารถนำประสบการณ์ในครั้งนี้ไปประชาสัมพันธ์บอกต่อได้ต่อไป

รายชื่อรถยนต์ 7 รุ่น ผ่านเข้ารอบสุดท้าย THAILAND CAR OF THE YEAR 2020

1. Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 25 พฤศจิกายน 2562

อีโคคาร์ ซีดาน เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร เทอร์โบ 122 แรงม้า

ราคาจำหน่าย: Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) – มี 4 รุ่นย่อย ราคา 579,500-739,000 บาท

2. Isuzu D-max (อีซูซุ ดีแมคซ์) – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 11 ตุลาคม 2562

ปิกอัพ 1 ตัน ตัวถังตอนเดียว ตอนครึ่ง และ 2 ตอน

ราคาจำหน่าย: Isuzu D-max (อีซูซุ ดีแมคซ์)  – มี 41 รุ่นย่อย ราคา 510,000-1,164,000 บาท

3. Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 6 มีนาคม 2563

รถอเนกประสงค์ 5 ประตู 5 ที่นั่ง เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 165 แรงม้า

ราคาจำหน่าย: Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30)  – มี 3 รุ่นย่อย ราคา 989,000-1,199,000 บาท

4. Mercedes-Benz GLE 300d 4MATIC AMG Dynamic (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี 300ดี) – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 22 พฤศจิกายน 2562

รถอเนกประสงค์ขนาดกลาง 5 ประตู เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 245 แรงม้า

ราคาจำหน่าย: Mercedes-Benz GLE 300d 4MATIC AMG Dynamic (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี 300ดี)  – ราคา 5,190,000 บาท

5. Nissan Kicks (นิสสัน คิกส์) – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 15 พฤษภาคม 2563

รถอเนกประสงค์ 5 ประตู 5 ที่นั่ง  ไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 129 แรงม้า

ราคาจำหน่าย: Nissan Kicks (นิสสัน คิกส์)  – มี 4 รุ่นย่อย ราคา 889,000-1,049,000 บาท

6. Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) – ประกอบอินโดนีเซีย : เปิดตัว 2 กรกฎาคม 2563

รถอเนกประสงค์ 5 ประตู 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 105 แรงม้า

ราคาจำหน่าย: Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7)  – ราคา 779,000 บาท

7. Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) – ประกอบในประเทศ : เปิดตัว 9 กรกฎาคม 2563

รถอเนกประสงค์ 5 ประตู  5 ที่นั่ง รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 140 แรงม้า ราคา 989,000 บาท และรุ่นไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวม 122 แรงม้า

ราคาจำหน่าย: Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส)  – มี 3 รุ่นย่อย ราคา 1,019,000-1,199,000 บาท

สมาคม สรยท. : สรยท. มอบรางวัล TAJA Best Content Awards 2019

สมาคม สรยท. : สรยท. มอบรางวัล TAJA Best Content Awards 2019

สรยท. มอบรางวัล TAJA Best Content Awards 2019

 

สมาคม สรยท. : นายภูวนาถ เผ่าจินดา นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ (Thailand Automotive Journalists Association : TAJA) เป็นประธานมอบรางวัลโครงการประกวดรางวัลบทความดีเด่นด้านรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ (TAJA Best Content Awards 2019) โดยมีสมาชิกสมาคมฯ ส่งบทความเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก ผลการตัดสินจากคณะกรรมการตัดสินที่สมาคมตั้งขึ้น ประกอบด้วย นายกสมาคมฯ (โดยตำแหน่ง), ที่ปรึกษาคณะกรรมการ นายวัชระ ธรรมศรี, นายยุทธพงษ์ ภาษี, กรรมการกิตติมศักดิ์ นายบูรพา อารัมภีร อดีตนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย และประธานคณะอนุกรรมการ TAJA Best Content Awards 2019 นายณัฐเวช ยอดแสง โดยแบ่งออกเป็น 2 รางวัล คือ

1.นายพรหมมิมทร์ งามจั่นศรี ได้รับรางวัล TAJA Best Content Award : เจ้าของบทความที่มีเนื้อหาน่าสนใจมากที่สุด พร้อมโล่เกียรติยศ พร้อมเงินสดจำนวน 20,000 บาท

2.นายปิยวัฒน์ จิตมา ได้รับรางวัล TAJA Popular Content Award : เจ้าของบทความที่มีสถิติผู้เข้าอ่านมากที่สุด  พร้อมโล่เกียรติยศ พร้อมเงินสดจำนวน 10,000 บาท

สำหรับโครงการ TAJA Best Content Award มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสร้างขวัญกำลังใจให้กับสมาชิกนักคิดนักเขียน ด้านรถยนต์และรถจักรยานยนต์เพื่อยกระดับความเข้มข้นของบทความให้มีคุณภาพน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นเพื่อผลิตเผยแพร่บทความ ต่อสาธารณะชนให้เป็นที่รู้จักและกว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยพิธีการมอบรางวัลได้จัดขึ้นที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อเร็วๆ นี้

สมาคม สรยท. : สรยท. ประกาศชื่อรถยนต์เข้ารอบ Thailand Car of The Year 2019 มีทั้งสิ้น 14  คัน จาก 9 ยี่ห้อ

สมาคม สรยท. : สรยท. ประกาศชื่อรถยนต์เข้ารอบ Thailand Car of The Year 2019 มีทั้งสิ้น 14  คัน จาก 9 ยี่ห้อ

สมาคม สรยท. : สรยท. จัดประชุมเข้มพิจารณารถยนต์คัดเลือกรถยนต์ที่เข้าหลักเกณฑ์เข้ารอบ Thailand Car of The Year 2019 ประจำปี 2562 ของสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) โดยเชิญสื่อข่าวอาวุโสและผู้ทรงคุณวุฒิที่คร่ำหวอดในสายข่าวยานยนต์ร่วมพิจารณาคุณสมบัติรถยนต์แต่ละรุ่นที่จะผ่านเข้ารอบตามเงือนไขที่กำหนดอย่างครบถ้วน โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้รถยนต์ผ่านเข้ารอบรวมทั้งสิ้น 14  คัน จาก 9 ยี่ห้อที่เปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทย

นายภูวนาถ เผ่าจินดา นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thailand Automotive Journalists : TAJA เปิดเผยว่า ในปีนี้สมาคมฯ ได้จัดงานรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2562 หรือ Thailand Car of The Year 2019 เป็นปีที่ 5 โดยได้เรียนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมเป็นคณะอนุกรรมการคัดเลือก และตัดสิน ซึ่งทางสมาคมฯมั่นใจว่าทุกกระบวนการคัดเลือกจะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมตามเงื่อนไขที่สมาคมฯกำหนด และสอดคล้องกับหลักสากลที่ถือปฏิบัติกันในการคัดเลือกรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี

“การคัดเลือกรถยนต์ที่จะเข้ารอบจะต้องเป็นรถยนต์ที่เปิดตัวระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 นอกจากนี้ยังจะต้องมีคุณสมบัติที่เข้ากับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้อีกด้วย อาทิ เป็นรถยนต์ที่ประกอบในประเทศ, เป็นรถยนต์ที่ประกอบในอาเซียน, เป็นรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทย และเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ที่พิจารณาจากรหัสเครื่องยนต์หรือแชสซีส์ เป็นต้น หลังจากนี้ทางสมาคมฯ จะจัดส่งรายละเอียดรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่ผ่านการคัดเลือกดังกล่าวให้สมาชิกสามัญของสมาคมฯ ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะอนุกรรมการ และกรรมการสมาคมฯ ลงคะแนนในรอบต่อไป” นายภูวนาถ กล่าว

นายภูวนาถ กล่าวต่อไปว่า จากการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ และกรรมการสมาคมฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้รถยนต์เข้าเกณฑ์การคัดเลือก 14  คัน จาก 9 ยี่ห้อ ได้แก่

1.Toyata Camry เปิดตัว 29 ตุลาคม 2561

2.BMW X3 xDrive20d ckd เปิดตัว 27 พฤศจิกายน 2561

3.Subaru Forester ckd  เปิดตัว 28 พฤศจิกายน 2561

4.Suzuki ertiga  เปิดตัว 6 กุมภาพันธ์ 2562

5.HONDA accord เปิดตัว 19 มีนาคม 2562

6.Toyota commuter เปิดตัว 11 มิถุนายน 2562

7.MG Extender เปิดตัว 7 สิงหาคม 2562

8.Suzuki carry เปิดตัว 16 สิงหาคม 2562

9.Peugeot3008 เปิดตัว 16 สิงหาคม 2562

10.Peugeot5008 เปิดตัว 16 สิงหาคม 2562

11.Toyota Altis เปิดตัว 3 กันยายน 2562

12.Chevrolet Captiva เปิดตัว 9 กันยายน 2562

13.Mazda3 เปิดตัว 18 กันยายน 2562

14.MG Hs เปิดตัว 25 กันยายน 2562

อนึ่ง คณะอนุกรรมการตัดสินและคัดเลือกรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2562 หรือ Thailand Car of The Year 2019 ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ประกอบด้วย

1.นายพินิต ทองสุข  ​ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ

2.นายวัชระ ธรรมศรี ประธานคณะกรรมการ

3.นายยุทธพงษ์ ภาษี กรรมการ

4.นายองอาจ จรุงศรี​​ กรรมการ

5.นายขจรศักดิ์ ลอย กรรมการ

6.นายวรพล สิงห์เขียวพงษ์ ​​​กรรมการ

7.นายกรกิต กสิคุณ ​​กรรมการ

8.นายสมศักดิ์ มีลือการ กรรมการ

9.นายเจษฎา วงศ์พานิช ​​กรรมการ

10.นายลิขิต น้าประเสริฐ ​กรรมการ

11.นายอัฐฒา นายเรือ กรรมการ

12.นายภูวนาถ เผ่าจินดา กรรมการและเลขานุการ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save