บ.เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ยกทัพรถยนต์ไฟฟ้า BYD จัดโชว์นวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อตอกย้ำ ความเป็นเอกลักษณ์ของ BYD ที่ทำตลาดครองใจผู้บริโภคชาวไทยมาแล้วถึง 3 รุ่น BYD ATTO 3, BYD DOLPHIN, BYD SEAL พร้อมมอบแคมเปญสุดพิเศษส่งท้ายแทนคำขอบคุณลูกค้าเก่าและใหม่ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 และภายในบูธ ยังนำนวัตกรรมพรีเมียมและล้ำสมัยมาโชว์ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสอีก 2 รุ่นภายใต้แบรนด์ Yangwang และ Denza
แบรนด์ Yangwang (หย่างว่าง)
Yangwang U8 (หย่างว่าง ยูเอท) เป็นแบรนด์ไฮเอ็นท์ที่สุดของ Luxury SUV ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสุด ด้วยระบบเทคโนโลยี ล้ำสมัย ที่จะพาคุณเดินทางไปได้ในทุกสภาพถนน ยังมากับระบบความปลอดภัยอย่างเต็มพิกัดและเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ BYD กับ ระบบ DiSus Intelligent Body Control System เป็นระบบควบคุมเสถียรภาพของระบบช่วงล่าง มีระบบไฮดรอลิก และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อให้สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของรถได้ทุกทิศทุกทาง และยังมีระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัวระบบทำความสะอาดจานเบรก ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ระบบป้องกันการล๊อกตายของล้อ อีกด้วย และภายในงานเราได้นำเทคโนโลยีใน Yangwang U8 มาโชว์คือ การหมุนกลับรถแบบ 360 องศา โดยควบคุมและคำนวณรอบการหมุนของมอเตอร์อิสระ 4 ล้อ เป็นครั้งแรกของไทย
รายละเอียดของ Yangwang U8
•สามารถขับขี่ใน Mode Off Road และขับลงน้ำลึกได้ 1 เมตร ได้นานสูงสุด 30 นาที
•เทคโนโลยี e4(อีโฟร) แพลตฟอร์มมอเตอร์ ไฟฟ้า แยกอิสระ 4 ล้อ
• ระบบ Plug-in Hybrid ให้กำลังสูงถึง 880 kWh (1,180 แรงม้า)
• แรงบิดสูงสุด 1,280 นิวตันเมตร
•อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.6 วินาที
•เทคโนโลยี Blade Battery/ ขนาด 49.05 kWh
•ชาร์จไฟเต็ม 100% สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 630 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
•ใช้เวลาชาร์จ DC จาก 30-80% ภายในเวลาเพียง 18 นาที
•ส่วนดีไซน์ภายนอกแบบ Ladder-frame
•ด้านหน้าออกแบบให้มีมิติที่เข้ากับเม็ดไฟ LED ไฟหน้า LED แบบ Interstellar Matrix (พร้อมการปรับความสูงแบบอัตโนมัติ) มาพร้อมแถบไฟตกแต่ง 6 แถบที่บริเวณ ตำแหน่งเสา D ของตัวรถ
•มิติรถยาว 5,319 มม. ระยะฐานล้อ 3,050 มม.
•ห้องโดยสารภายใน จอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าขนาด 23.6 นิ้ว
และ จอ Infotainment ขนาด 12.8 นิ้ว
•ตกแต่งด้วยวัสดุหนังแท้ Nappa และลายไม้ African Sapele Wood
•ระบบเสียงจาก Dynaudio ลำโพง 22 ตำแหน่ง และซับวูฟเฟอร์
•Wireless Charger 3 ตำแหน่ง
•เรดาห์อัลตราโซนิค 12 ตำแหน่ง
แบรนด์ DENZA (เดนซ่า)
อีก 1 แบรนด์ ที่จัดโขว์ในบูธ BYD ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 นี้ อยากให้ทุกท่านได้ชมและรู้จักรถยนต์ไฟฟ้า DENZA N7 (เดนซ่า เอ็น เซเว่น) ซึ่งเป็น Premium Sedan คูเป้ หรูหรา มีระดับและสะดวกสบายด้วยระบบอัจฉริยะต่างๆ
DENZA N7 (เดนซ่า เอ็น เซเว่น) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์คู่ แรงบิดสูงสุด 670 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร เพียง 3.9 วินาทีสามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้า ได้ถึง 630 กิโลเมตร ประหยัดเวลาในนาทีเร่งด่วน ด้วย Dual DC charger 150 กิโลวัตต์ และ 230 กิโลวัตต์ ให้คุณชาร์จได้ 2 หัวพร้อมกัน มาพร้อมฟังก์ชั่น Vehicle to Vehicle เพื่อเป็นแหล่ง ชาร์จไฟให้กับรถคันอื่นได้ด้วย
DENZA N7 (เดนซ่า เอ็น เซเว่น) มาพร้อม
•4 รูปแบบการขับขี่ ทั้งแบบ standard sport ประหยัด และการขับขี่ในหิมะหรือน้ำแข็ง
•ระบบอัจฉริยะรอบคัน เช่น กล้องมองภาพ 360 องศา แบบ 3 มิติ
•ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Denza Pilot
•ระบบช่วยเหลือการจอดแบบอัตโนมัติ
•ระบบปรับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ
•ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง
•ระบบกันขโมยอัจฉริยะแบบอิเล็กทรอนิกส์
•ระบบควบคุมการทรงตัวของรถขณะเข้าโค้ง และระบบการกระจายแรงเบรคแบบไฟฟ้า
ส่วนภายในห้องโดยสารหรูหรา ด้วยเบาะหนังแท้ Nappa เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง โดยเบาะคู่หน้า มาพร้อมกับ ระบบอุ่นเบาะ ระบบระบายอากาศ และจดจำตำแหน่งการปรับตำแหน่ง หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า เสริมด้วยแสงไฟเพื่อสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารกว่า 128 เฉดสี หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ ขนาด 17.3 นิ้ว มีความ ละเอียดถึง 2.5K และยังมีระบบแสดงผลบนกระจกหน้า Head up display เพลิดเพลินกับเครื่องเสียงที่มาในระดับ Hi – end Devialet (เดอ เว เล) ที่จะร่วมสร้างความบันเทิงและประสบการณ์ที่น่าจดจำทุกการเดินทาง
นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ เรเว่ กล่าวว่า “ระยะเวลา 1 ปี ผมขอขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนและมอบไว้วางใจ จนเราได้เป็นผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดไทย ซึ่งมียอดจดทะเบียน 22,391 คันในปี 2566 (ม.ค. – ต.ค. 2566) กลุ่มบริษัทเรเว่มีเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ ด้วยวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ “NEW FUTURE YOUR WAY” จะช่วยผลักดัน NEV Nation ในด้านนวัตกรรมพลังงานใหม่ โดยผลิตภัณฑ์ยานยนต์ทุกรุ่นภายใต้แบรนด์ BYD จะเปิดตัวครอบคลุมทุกเซกเมนต์ในตลาดไทย เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ EV และ NEV Ecosystem ด้วยนวัตกรรมด้านความปลอดภัยทั้งตัวยานยนต์ และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของแบตเตอรี่รถยนต์ อันเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า
ด้านนางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ เรเว่ กล่าวเสริมในเรื่องบริการหลังการขาย “ดิฉันขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านอีกครั้งที่ให้ความไว้วางใจมาร่วมสร้างครอบครัว BYD ร่วมกัน และตลอดระยะเวลา 1 ปีกว่าที่ผ่านมา ครอบครัว BYD ของเราใหญ่ขึ้น นั่นแสดงถึง ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น ดิฉันจึงขอเชิญชวนครอบครัว BYD มาเฉลิมฉลองกับโปรโมชั่นที่เรามอบให้กับสมาชิก BYD เก่า และเชิญชวนลูกค้าใหม่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ให้โลกของเรา ขับเคลื่อนสู่สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นและยั่งยืนไปด้วยกันเพื่ออนาคตลูกหลานของเรา ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ”
ภายในบูธบีวายดี งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 นี้ ทางเรเว่ จัดโปรโมชั่นขอบคุณสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าบีวายดีทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่ ด้วยภายใต้แคมเปญ “Big Thanks” ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า บีวายดีทุกรุ่น ทุกคันตั้งแต่คันแรกตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 – 31 ธันวาคม 2566 ลุ้นรับรถ 3 คัน มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท (โดยกรอกแบบสอบถามผ่านทาง RÊVER Application ได้ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 66 – 31 ธ.ค. 66) และยังมีโปรโมชั่นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นของบีวายดีอีกด้วย
BYD ATTO 3 มีวางจำหน่าย 2 รุ่น
- BYD ATTO 3 Standard Range ราคา1,099,900 บาท
- BYD ATTO 3 Extend Range ราคา 1,199,900 บาท
- แคมเปญส่งเสริมการขาย สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3
รุ่นรถยนต์ | สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 – 31 ธันวาคม 2566 |
BYD ATTO 3 | ฟรี ! Cash Back 100,000 บาท ฟรี ! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ* ฟรี ! สมาร์ทโฮมชาร์จเจอร์ ยี่ห้อ ABB สิทธิพิเศษ ! RÊVER Care |
รุ่นรถยนต์ | สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 – 28 พฤศจิกายน 2566 |
BYD ATTO 3 | ฟรี ! Cash Back 50,000 บาท ฟรี ! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 2 ปี จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ* ฟรี ! สามาร์ทโฮมชาร์จเจอร์ ยี่ห้อ ABB สิทธิพิเศษ ! RÊVER Care |
BYD DOLPHIN มีวางจำหน่าย 2 รุ่น
- BYD DOLPHIN Extended Range 490 KM ราคา 859,999 บาท
- แคมเปญส่งเสริมการขาย สำหรับรถยนต์ ไฟฟ้า BYD DOLPHIN
รุ่นรถยนต์ | สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 – 31 ธันวาคม 2566 |
BYD DOLPHIN | ฟรี ! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมพ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 2 ปี จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ ฟรี ! โฮมชาร์จเจอร์ |
รุ่นรถยนต์ | สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ตั้งแต่คันแรก วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 – 31 ตุลาคม 2566 |
BYD DOLPHIN | รับสิทธิพิเศษ ! บริการบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ 8 ปี หรือ 160,000 กม. (กรณีที่ลูกค้าเข้ารับบริการเช็คระยะ และได้ชำระค่าใช้จ่ายไปแล้วนั้น ลูกค้าสามารถนำใบเสร็จมารับเงินคืนได้ที่ศูนย์บริการที่ลูกค้าเข้ารับบริการ ภายในวันที่ 31 มกราคม 2567) |
BYD SEAL มีวางจำหน่าย 3 รุ่น
- BYD SEAL Dynamic Range 510 Km. ราคา 1,325,000 บาท
- BYD SEAL Premium Range 650 Km. ราคา 1,449,000 บาท
- BYD SEAL AWD Performance Range 580 Km. ราคา 1,599,000 บาท
- แคมเปญส่งเสริมการขาย สำหรับรถยนต์ ไฟฟ้า BYD SEAL Dynamic
รุ่นรถยนต์ | สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 – 31 ธันวาคม 2566 |
BYD SEAL รุ่น Dynamic | ฟรี ! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 2 ปี จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ* ฟรี ! โฮมชาร์จเจอร์ ยี่ห้อ ABB |
- สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD SEAL Dynamic ตั้งแต่คันแรก ระหว่างวันที่ 28 กันยายน 2566 – 28 พฤศจิกายน 2566 จากฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. 1 ปี ขยายความคุ้มครองประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 2 ปี
•สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD SEAL Dynamic ตั้งแต่คันแรก ระหว่างวันที่ 28 กันยายน 2566 – 28 พฤศจิกายน 2566 จากฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. 1 ปี ขยายความคุ้มครองประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 2 ปี
อนึ่ง บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดจําหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยในเดือนกรกฎาคม 2565 บริษัทฯ ได้นำรถยนต์ไฟฟ้า BYD รุ่นแรก “BYD ATTO 3” เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างล้นหลามด้วยยอดจำหน่ายและส่งมอบมากกว่า 30,000 คัน ในปีแรกที่เข้าสู่ตลาด ในเดือนกรกฎาคม 2566 ได้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า รุ่นที่ 2 “BYD DOLPHIN” และล่าสุดเสริมสร้างผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าซีดาน รุ่นที่ 3 “BYD SEAL” ในเดือนกันยายน ทำให้สามารถสร้างปรากฏการณ์เป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนมากที่สุดในปี 2566 บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะนำยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ (NEV: New Energy Vehicle) เช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เข้าสู่วงการขับขี่ในประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น และมอบทางเลือกที่ความประหยัดในภาวะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง