- Advertisement -
33.8 C
Bangkok
Homeข่าวประชาสัมพันธ์ตลาดรถยนต์ครึ่งปี 2568 ยอดขายรวม 302,694 คัน

ตลาดรถยนต์ครึ่งปี 2568 ยอดขายรวม 302,694 คัน

- Advertisement -

ตลาดรถยนต์ครึ่งปี 2568 ยอดขายรวม 302,694 คัน ลดลง 1.7% คาดการณ์ตลาดปี 2568 อยู่ที่ 600,000 คัน

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสรุปยอดขายรถยนต์ครึ่งปีพ.ศ. 2568 ยอดขายสะสมตลาดรวม 302,694 คัน ลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดขายสะสมตลาดรถยนต์นั่ง 117,482 คัน ลดลง 1.5% ยอดขายสะสมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 185,212 คัน ลดลง 1.8% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายสะสม 94,715 คัน ลดลง 12.7%

สำหรับยอดขายประจำเดือนมิถุนายน 2568 ยอดขายสะสมตลาดรวม 50,079 คัน เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดขายสะสมตลาดรถยนต์นั่ง 19,397 คัน เพิ่มขึ้น 9.4% ยอดขายสะสมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 30,682 คัน เพิ่มขึ้น 2.5% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายสะสม 15,307 คัน ลดลง 8.2% 

สำหรับตลาดรถยนต์ครึ่งปีพ.ศ. 2568 มียอดขาย 302,694 คัน ลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง มียอดขายสะสม 117,482 คัน ลดลง 1.5% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มียอดขายลดลง 1.8% ด้วยยอดขาย 185,212 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขาย 94,715 คัน ลดลงถึง 12.7% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 132,493 คัน คิดเป็นสัดส่วน 43.8% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 21.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ HEV อยู่ที่ 67,202 คัน ซึ่งยอดขายรวมอยู่ในระดับเดียวกันกับปีที่แล้ว ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 56,529 คัน เติบโตขึ้น 54.5%

ทางด้านตลาดรถยนต์เดือนมิถุนายน 2568 มียอดขาย 50,079 คัน เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้น 9.4% ด้วยยอดขาย 19,397 คัน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เพิ่มขึ้นเช่นกันที่ 2.5% ด้วยยอดขาย 30,682 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขาย 15,307 คัน ลดลง 8.2% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 21,915 คัน คิดเป็นสัดส่วน 43.7% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 30.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมียอดขายรถยนต์ HEV เติบโตขึ้น 11.6% ด้วยยอดขาย 11,034 คัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 9,743 คัน เพิ่มขึ้น 59.9%

ขณะที่ตลาดรถยนต์ในเดือนกรกฎาคม มีแนวโน้มทรงตัว หรือลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยเศรษฐกิจโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงฟื้นตัวช้า ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนอาจลดหรือชะลอการลงทุนและการใช้จ่ายออกไป เพื่อรอความชัดเจนด้านต่างๆ จากสถานการณ์ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศคู่ค้า รวมถึงความไม่แน่นอนระหว่างสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา

นายศุภกร รัตนวราหะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรก โตโยต้ามียอดขายรถยนต์รวมที่ 113,889 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดถึง 37.6% โดยเฉพาะ ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up + รถกระบะดัดแปลง PPV)  มียอดขายรวมอยู่ที่ 42,430 คัน มีส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์เซกเมนต์นี้ถึง 44.8% สำหรับยอดขายรถยนต์นั่งอยู่ที่ 39,644 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 33.7% อีกทั้งโตโยต้ายังมียอดขายรถยนต์ไฮบริดถึง 31,793  คัน หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 24% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ในกลุ่มตลาด xEV ทั้งหมด

ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในครึ่งปีแรก 2568 เริ่มส่งสัญญาณมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของที่ผ่านมา โดยมีตัวเลขยอดขายรวมครึ่งปีแรกของปี 2568 อยู่ที่ 302,694 คัน หรือลดลงเพียงเล็กน้อยที่ 1.7% เมื่อเทียบกับปี 2567 โตโยต้ายังคงคาดการณ์ระดับตลาดในปี 2568 ที่ระดับ 600,000 คัน สำหรับโตโยต้า ตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 231,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 5% สร้างส่วนแบ่งทางการตลาด เท่ากับ 38.5% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด โดยในครึ่งปีหลัง โตโยต้ามีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรุ่น ทั้งในกลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมถึงตลาด xEV ซึ่งเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทย เพื่อร่วมส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างยั่งยืน”

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมิถุนายน 2568

  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 50,079 คัน เพิ่มขึ้น 5.1%                        
  2. อันดับที่ 1 โตโยต้า      19,105 คัน       เพิ่มขึ้น    3%              ส่วนแบ่งตลาด     38.1%
  3. อันดับที่ 2 อีซูซุ         5,625 คัน       ลดลง     20.5%            ส่วนแบ่งตลาด   11.2%
  4. อันดับที่ 3 ฮอนด้า       5,149 คัน       ลดลง     15.9%          ส่วนแบ่งตลาด    10.3%
  5. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,397 คัน เพิ่มขึ้น 9.4%                                 
  6. อันดับที่ 1 โตโยต้า      6,575 คัน        เพิ่มขึ้น    22.4%          ส่วนแบ่งตลาด    33.9%
  7. อันดับที่ 2 ฮอนด้า       3,130 คัน        ลดลง     7.4%           ส่วนแบ่งตลาด      16.1%
  8. อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      876 คัน           ลดลง     48.3%          ส่วนแบ่งตลาด   4.5%
  9. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 30,682 คัน เพิ่มขึ้น 2.5%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า      12,530 คัน       ลดลง   4.9%            ส่วนแบ่งตลาด  40.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ         5,625 คัน        ลดลง   20.5%           ส่วนแบ่งตลาด 18.3%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       2,019 คัน        ลดลง   26.4%          ส่วนแบ่งตลาด  6.6%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 15,307 คัน ลดลง 8.2%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า      7,099 คัน        ลดลง    10.6%           ส่วนแบ่งตลาด 46.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          4,756 คัน        ลดลง    22.6%          ส่วนแบ่งตลาด 31.1%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        1,399 คัน        ลดลง    14.5%           ส่วนแบ่งตลาด  9.1%

         *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,032 คัน

โตโยต้า 1,258 คัน – อีซูซุ 988 คัน – ฟอร์ด 578 คัน – มิตซูบิชิ 129 คัน – นิสสัน 33 คัน

  •  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 11,269 คัน ลดลง 19.9%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า      5,841 คัน        ลดลง   16%             ส่วนแบ่งตลาด 51.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          3,768 คัน      ลดลง    29.3%         ส่วนแบ่งตลาด 33.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        821 คัน           ลดลง    23.1%        ส่วนแบ่งตลาด  7.3%     

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568

  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 302,694 คัน ลดลง 1.7%                              
  2. อันดับที่ 1 โตโยต้า    113,889 คัน       ลดลง     2.1%           ส่วนแบ่งตลาด 37.6%
  3. อันดับที่ 2 อีซูซุ       37,506 คัน         ลดลง     18.9%         ส่วนแบ่งตลาด 12.4%
  4. อันดับที่ 3 ฮอนด้า    35,355 คัน         ลดลง    18.7%          ส่วนแบ่งตลาด 11.7%
  5. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 117,482 คัน ลดลง 1.5%                                
  6. อันดับที่ 1 โตโยต้า   39,644 คัน          เพิ่มขึ้น  19.2%           ส่วนแบ่งตลาด 33.7%
  7. อันดับที่ 2 ฮอนด้า   19,672 คัน          ลดลง    20.1%           ส่วนแบ่งตลาด 16.7%
  8. อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ    5,915 คัน         ลดลง   40.2%             ส่วนแบ่งตลาด  5%
  9. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 185,212 คัน ลดลง 1.8%                    

อันดับที่ 1 โตโยต้า  74,245 คัน           ลดลง     10.6%        ส่วนแบ่งตลาด 40.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ   37,506 คัน           ลดลง    18.9%         ส่วนแบ่งตลาด 20.3%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า  15,683 คัน           เพิ่มขึ้น  16.9%        ส่วนแบ่งตลาด 8.5%

  • ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 94,715 คัน ลดลง 12.7%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 42,430 คัน      ลดลง   14.6%            ส่วนแบ่งตลาด 44.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ    32,804 คัน            ลดลง   19.2%        ส่วนแบ่งตลาด 34.6%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด   9,400 คัน             ลดลง   16.7%          ส่วนแบ่งตลาด  9.9%

           *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 20,714 คัน

โตโยต้า 7,294 คัน – อีซูซุ 6,183 คัน – ฟอร์ด 3,717 คัน – มิตซูบิชิ 888 คัน – นิสสัน 269 คัน

  •  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 73,995 คัน ลดลง 17.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 35,136 คัน     ลดลง  17.7%             ส่วนแบ่งตลาด 47.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ      26,621 คัน            ลดลง  23.2%     ส่วนแบ่งตลาด  36%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด    5,683 คัน            ลดลง   19%           ส่วนแบ่งตลาด  7.7%    

- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
ช่องทางติดตามสมาคม
16,985FansLike
2,458FollowersFollow
61,453SubscribersSubscribe
เรื่องหน้าสนใจ
- Advertisement -
- Advertisement -
เรื่องล่าสุด
- Advertisement -

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save